ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Song's Fic : EunHae ของ HaeEun

    ลำดับตอนที่ #4 : Right here waiting : HaeEun

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.8K
      12
      1 พ.ค. 53

                    
             พร่ำก่อนอ่าน....



    ฟิคเรื่องนี้เพื่อนก๊อปมาให้อ่านเมื่อสี่ห้าปีที่แล้ว

    เรื่องรักที่แปลมาจากความรักของคู่รักเกาหลี เลยไม่รู้จะเครดิตให้ใครดี T^T

    ไม่มีเจตนาจะอย่างอื่นใด นอกจากลอกมาทั้งดุ้นแล้วเปลี่ยนบางคำใหม่

    ย้ำนะคะว่าเรื่องนี้ไม่ได้คิดเอง แต่ลอกเขามา (หน้าด้านได้อีกฉัน)

    ถ้าหากบังเอิญว่าวันหนึ่ง คนแปลบทความนี้ได้ผ่านมาเห็น

    ได้โปรดแสดงตนและบอกเครดิตให้ด้วยนะคะ

    ขอบคุณค่ะ

     

     

    Right here waiting : HaeEun

     

     

    เมื่อ 8 ปีก่อน . . . 

    ผมตื่นเช้ามา อย่างเดียวดาย บนเตียงเล็กๆ เก่าๆ นั้น 
    ผมทำกิจวัตรประจำวันทุกอย่าง อย่างที่เคย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
     
    ผมออกจากบ้านไปยังออฟฟิศ ตอนเก้าโมงเช้า พร้อมกับกระเป๋าเอกสารใบเล็กๆ 
    เมื่อผมไปถึงที่ทำงาน ผมได้พบกับเขา เช่นทุกวัน 

    เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของผม โต๊ะทำงานของเราติดกัน
    ทุกเช้าที่ผมเข้ามาที่ทำงาน ผมจะเจอเขาเป็นคนที่สอง รองจากพีอาร์หน้าออฟฟิศ 
    พร้อมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และเสียงอันแจ่มใสที่ทักทายผมทุกครั้งที่ผมก้าวเข้ามา 

    ฮยอกแจไม่ใช่คนที่ดูดีเลย เขาดูแย่กว่าหลายๆคนในออฟฟิศด้วยซ้ำไป 

    แต่ทุกๆ คนในออฟฟิศชอบและเอ็นดูเขา ด้วยความที่ฮยอกแจเป็นคนอัธยาศัยดี 
    พูดจาไพเราะ มีมารยาท อีกทั้งยังเป็นคนมองโลกในแง่ดีเอามากๆ ด้วย
     
    จนบางครั้ง มันทำให้เขาตามโลกของคนอื่นไม่ค่อยจะทันเท่าไหร่นัก 
    น่าแปลก ที่ผมจะรู้สึกเขินๆ ทุกครั้งที่ผมจ้องหน้าหมอนั่นนานๆ 

    ผมรู้สึกว่าฮยอกแจมีอะไรบางอย่างที่น่ารักอย่างบอกไม่ถูก 

    เขาไม่ใช่คนช่างพูด แต่ไม่เคยเงียบเวลาอยู่กับผม 
    เขาไม่ใช่คนยิ้มเก่ง แต่เรามักจะยิ้มเวลาที่อยู่ด้วยกัน 
    เขาไม่ใช่คนมีเสน่ห์นัก แต่ผมกลับอยากอยู่ใกล้เขาอย่างไม่มีเหตุผล 
    เขาไม่ใช่คนคุยโทรศัพท์เก่ง แต่เขาไม่เคยเป็นฝ่ายบอกผมว่า "แค่นี้นะ" ก่อนเลย 

    และที่สำคัญ . . . ฮยอกแจไม่ใช่คนสวย แต่ผมรักเขา 

    วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เพื่อนที่ทำงานของผมก็เริ่มแต่งงานไปทีละคู่ๆ 
    ผมได้ไปงานแต่งงานบ่อยครั้งมาก โดยจะมีฮยอกแจไปกับผมในทุกๆ ครั้ง 

    จนทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เราเป็นแฟนกัน 
    ทั้งๆ ที่เรายังไม่เคยพูดเลยสักครั้ง ว่าเราเป็นแฟนกัน 

    เจ้าสาวของเพื่อนผม สวยๆ กันทั้งนั้น หน้าตาบางคนเทียบได้กับนางแบบหรือดาราทีเดียว 
    ฮยอกแจมักจะพูดทุกครั้งว่า อิจฉาเจ้าสาวเหล่านั้นเหลือเกิน 

    " ถ้าฉันใส่ชุดเจ้าสาว ฉันจะสวยเช่นเจ้าสาวเหล่านี้บ้างมั้ย "
    เขาพูดพร้อมกับทิ้งรอยยิ้มเพ้อฝันไว้ ให้ผมเก็บมานึกถึงทุกครั้ง หลังงานเลี้ยงจบลง 

    รอยยิ้มของฮยอกแจ ดูชุ่มชื่นกว่าทุกครั้งที่หมอนั่นยิ้มให้ผม ดูสดใส เพ้อฝัน อย่างบรรยายไม่ถูก 
    ผ่านไปนับร้อยกว่างานแต่งงาน จนผมคิดว่า มันถึงเวลาเสียที ที่ผมจะ เป็นเจ้าบ่าวบ้าง 

    ผมเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วตั้งแต่เมื่อคืน ผมตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ผมจึงลุกขึ้นมาเตรียมตัว 
    ผมวาดภาพจินตนาการว่าผมเจอเขา ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ . . . 

    เสื้อผ้าชุดเก่ง ดูเรียบร้อย และเหมาะกับรูปร่างอย่างผม . . . ให้เขาได้เอ่ยชมเสื้อของผม 

    น้ำหอมขวดใหม่ ที่ผมไม่ค่อยจะใช้นัก . . . ให้ฮยอกแจประหลาดใจ และถามว่า 
    "วันนี้มีอะไรพิเศษหรือเปล่า" 

    มือผมที่ทาโลชั่นอย่างดี . . . ให้มันนุ่มและคู่ควรพอที่จะกุมมือเล็กๆ ของฮยอกแจไว้ 
    คำพูดสั้นๆ รวบรัด ที่ผมพร้อมจะบอกกับเขา . . . ให้เขายิ้ม และน้ำตาเอ่อเล็กๆ 
    ดอกไม้สีขาวช่อเล็กๆ กลิ่นหอม . . . พร้อมกับ . . . 

    *แหวนแต่งงาน* สำหรับเรา 
    ผมไปหาฮยอกแจตามที่นัด ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ผมรออยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ 
    1 ชั่วโมงผ่านไป . . . เขาไม่มา ผมยังรอ 
    2 ชั่วโมงผ่านไป . . . เขาไม่มา ผมก็ยังรอ 
    4 ชั่วโมง 12 นาทีผ่านไป . . . เขาไม่มา ผมชักกังวลแล้วสิ เกิดอะไรกับเขาหรือเปล่า 
    4 ชั่วโมง 27 นาที เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น มันเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเขา

    เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่คุ้นหูกำลังคุยกับผมอยู่ ผมถามถึงฮยอกแจ
    เขาบอกว่า เขาเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ฮยอกแจถูกรถชน ! 

    ขณะที่ฮยอกแจกำลังถือดอกไม้สีขาวช่อหนึ่ง ข้ามถนนหน้าหมู่บ้าน 
    ที่โรงพยาบาล เขากำลังอยู่ในห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน พยาบาลที่หน้าห้องสั่งห้ามเข้าเด็ดขาด 

    หลังจากนั้นพ่อกับแม่ของเขา วิ่งมาถึงยังหน้าห้อง พร้อมกับถามไถ่ว่าลูกชายเป็นอย่างไรบ้าง 

    ผมตอบไม่ได้ ผมไม่มีคำตอบ และไม่มีแม้แต่เสียงที่จะตอบ 
    มีแต่น้ำตาแห่งการรอคอย น้ำตาที่เป็นเครื่องขอพรพระเจ้าของผม 
    ให้เขาปลอดภัย และออกมามอบรอยยิ้มให้ผมอย่างเคย 

    สองชั่วโมงผ่านไป พ่อกับแม่ของฮยอกนั่งรออย่างอ่อนล้า 
    พ่อต้องคอยปลอบแม่ โอบไหล่ และเช็ดน้ำตาแม่เป็นระยะๆ 

    ผมมองเห็นภาพนั้นแล้ว น้ำตาผมแทบจะอดไม่ไหวที่จะหลั่งรินลงมา 
    ไม่น่าเลย . . . ผมไม่น่าเรียกเขาออกมาวันนี้ 
    ไม่อย่างนั้น ฮยอกแจคงไม่ต้องมารับเคราะห์อย่างนี้ . . . ผมผิดเอง 

    ผมทรุดลงนั่งที่เก้าอี้บ้าง หลังจากที่เดินขวักไขว่มานาน 
    แล้วผมก็เผลอหลับไป อย่างไม่รู้ตัว 

    ผมตื่นขึ้นมาไม่เห็นใคร ผมจึงถามกับพยาบาลที่เดินผ่านมาว่า คนไข้ในห้องอยู่ที่ไหน 

    เธอบอกว่า ต้องไปถามกับหมอที่รับผิดชอบคนไข้คนนี้ เธอพาผมไป 
    หมอบอกผมว่า อาการฮยอกแจยังไม่ดีนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ 

    ฮยอกแจเสียเลือดมาก ซี่โครงเขาร้าว กระดูกชิ้นหนึ่งทิ่มปอด มีแผลฟกช้ำและถลอกตามตัวมากมาย 
    และผ่านมากว่าครึ่งวันแล้ว เขายังไม่ฟื้นเลย
     
    ผมขอเข้าไปเยี่ยม หมอจึงพาผมไป 
    พ่อกับแม่เขานั่งอยู่ในห้อง แม่ของเขาหลับ และกุมมือเธอไว้ข้างๆ เตียง 

    ส่วนพ่อของเธอนั่งอยู่บนโซฟา ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก 
    เมื่อพ่อของเขาเห็นผมเดินเข้ามา พ่อเข้ามาปลุกแม่ให้ผละออกจากเตียงมานั่งกับพ่อ 

    ผมจึงเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ เตียงของฮยอกแจ เข้าไปกุมมือเขาไว้ 
    และแล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็ไม่สามารถห้ามไว้ได้ มันหยดลงมาช้าๆ อย่างกล้ำกลืน 

    ผมไม่อยากมีวันนี้ . . . วันที่คนที่ผมรัก จะต้องมานอนหลับใหลอย่างไม่รู้ชะตากรรมข้างหน้า
     

    8 ปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยเงียบอย่างนี้เลย เขาคนนั้นของผม จะกลับมาคุยกับผมเมื่อไหร่ 
    จะกลับมามอบรอยยิ้มนั้นให้กับผมได้ไหม ได้โปรด . . . กลับมาฟังคำที่ผมเตรียมไว้ได้ไหม 

    ในขณะที่ผมกำลังสิ้นหวังอย่างสุดขีด มือเล็กๆ ของเขาในอุ้งมือผม กระตุกขึ้น 
    ฮยอกแจเริ่มรู้สึกตัวช้าๆ รอยยิ้มของผมเผยออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ผมยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา 

    ผมกดออดเรียกพยาบาลเข้ามา พยาบาลเข้ามาดูแล จัดการกับเครื่องต่างๆ 
    แล้วพยาบาลก็กล่าวยินดีกับผมและพ่อกับแม่ของเธอ จากนั้นพยาบาลก็ถอยไปยืนข้างหลัง 

    ผมเรียกชื่อเขา เขายิ้ม ผมเห็นรอยยิ้มที่คุ้นเคยนั้น ผ่านเครื่องช่วยหายใจที่ปิดอยู่ 
    พ่อกับแม่ของเชาด้านหลังลุกขึ้นมาอยู่อีกข้างหนึ่งของเตียง 

    เขาพยายามจะเอื้อมมือไปหาพ่อกับแม่ แม่กุมมือฮยอกแจและร้องไห้โฮอีกครั้ง 
    พ่อยืนอยู่ข้างหลัง ด้วยสีหน้าชุ่มชื่น และพยายามข่มน้ำตาอยู่ 

    เขาหันมาหาผมอีกครั้ง พยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับผม แต่เขาพูดไม่ได้ 

    ผมขอปากกากับกระดาษจากพยาบาล พยาบาลยื่นมาให้ ผมนำมันให้กับขา 
    ฮยอกแจใช้มือข้างซ้ายของตัวเองเขียน มือที่ไม่ถนัด เขาพยายามขีดเขียนบนกระดาษ 

    ผมอ่านได้ความว่า "ชุดสวยดีนะ" 

    . . . ผมยิ้มและมองหน้าเล็กนั่น 
    และบอกกับเขาว่าผมเตรียมมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ 

    ฮยอกแจเขียนบนกระดาษอีกครั้ง ครั้งนี้ ผมอ่านได้ความว่า 
    "ใส่น้ำหอม . . . มีอะไรพิเศษหรือเปล่า" 

    ผมประหลาดใจ เขายังจำได้ดีว่า ผมเป็นคนไม่ชอบใส่น้ำหอมเท่าไรนัก 
    ผมยิ้ม พยักหน้าตอบรับ และใช้มือผมทั้งสองลูบไล้มือของฮยอกแจเบาๆ 

    เขายังเขียนต่อ ผมอ่าน "มือฮยอกแจนุ่ม . . . แปลก" 
    มันแปลกเพราะผมเป็นคนมือหยาบกร้านมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว 

    เขาก็รู้ ผมน้ำตาไหลอีกแล้ว มันยั้งไม่อยู่ ทุกอย่างเกือบจะเป็นไปอย่างที่คิด 
    แต่มันไม่ใช่ที่นี่ ! ไม่ใช่ตรงนี้ ! ที่ที่เขาต้องบาดเจ็บและทุกข์ระทม 

    ฮยอกแจควรจะอยู่ในชุดสีขาว ควรจะยืนอยู่ และยิ้มกับผมใต้ต้นไม้ใหญ่ 
    . . . . . ไม่-ใช่-ที่-นี่ . . . . . 

    ผมก้มลงไปหา และบอกกับเขา คำพูดสั้นๆ ที่ผมเตรียมมาทั้งคืน 
    ผมบอกกับฮยอกแจทั้งน้ำตา "ผมรักคุณ แต่งงานกับผมเถอะ" 

    ผมหยิบแหวนแต่งงาน สวมลงที่นิ้วเรียวนั่น 

    เขายิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตาเช่นเดียวกับผม สบตาผม อย่างจริงใจ 
    ผมก้มลงไปจุมพิตที่หน้าผากและลูบแก้มของเขา 

    ฮยอกแจพยายามเขียนอีกครั้งหนึ่ง ผมหยิบขึ้นมาอ่าน เขาเขียนยาวกว่าครั้งก่อนๆ 
    "คนที่ไม่สวย ไม่ดีพร้อมอย่างฉัน จะเป็นเจ้าสาวของนายได้หรือ" 

    ผมไม่ตอบเขาด้วยคำพูด แต่ผมยิ้มให้และสบตาเขาอีกครั้ง 
    นี่แหละ . . . คนรักของผม คนที่ผมรักที่สุด เจ้าสาวของผม 

    ทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านไปด้วยดี คืนนั้นผมต้องกลับบ้านเพื่อไปเคลียร์งานของวันต่อไป 
    พรุ่งนี้ ผมจะได้อยู่กับเขาได้ทั้งวัน 

    พอวันรุ่งขึ้นมา ผมไปที่โรงพยาบาล หมอและพยาบาลที่ผมเจอเมื่อวาน วิ่งกันวุ่น ผมสงสัย
     

    ผมมุ่งตรงไปที่ห้อง มือเอื้อมไปที่ลูกบิดประตู ผมได้ยินเสียงร้องไห้ เสียงแม่ของฮยอกแจ
    ผมไม่อยากคิด ผมไม่กล้าคิด หรือว่า . . . 
    ผมเปิดเข้าไป ช้าๆ ผมเห็นภาพ ที่ผมไม่อยากเห็น 


    แม่ นอนร้องไห้อยู่บนร่างของเขา

    ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ 
    เข้าไปมองที่หน้าที่ซีดเผือด หน้าที่เมื่อวานยังยิ้มให้กับผมอยู่ แต่วันนี้ ไม่มีอีกแล้ว 
    เขาเงียบไปอีกแล้ว แต่มันไม่เหมือนเมื่อวาน 

    หมอพูดแสดงความเสียใจกับผม 
    ครั้งนี้ เขาจะไม่ฟื้นขึ้นมายิ้ม ไม่ฟื้นขึ้นมาพูด หรือแม้แต่จะเขียนข้อความถึงผม 
    ผมสังเกตเห็น ที่มือของเขา ไม่มีแหวนวงนั้น ที่ผมมอบให้ 

    เขาถอดมันทิ้งไว้วางบนโต๊ะข้างๆ เตียง วางอยู่พร้อมกับกระดาษแผ่นหนึ่ง 
    ผมหยิบขึ้นมาอ่าน ฮยอกแจเขียนข้อความไว้ยาวเหยียด ถึงผม 


    "ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกคำที่พูด ทุกสิ่งให้ ทุกรอยยิ้มที่ส่งมา 
    ฉันอยากจะบอกมาตั้งนานแล้วว่า ฉันก็รักนาย รักมากเสียจนไม่อยากเห็นนายเสียใจ 
    แต่ฉันไม่เคยกล้าที่จะบอก ฉันคิดมาตลอด ว่าเมื่อไหร่ ที่ฉันจะสวยมากเท่ากับคนอื่นๆ 
    เหมือนเจ้าสาวคนอื่นๆ ที่ได้แต่งงานกับคนที่เขารัก 
    เมื่อไหร่ที่ฉันจะสวยพอ คู่ควรพอ กับนาย . . . ที่ฉันรัก 
    ฉันอยากเป็นเจ้าสาวของนาย ฉันอยากใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวที่สวยงามดูสักครั้งในชีวิต 
    แต่ฉันไม่อาจรับแหวนวงนี้ไว้ได้ เพราะฉันรู้ดี ว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับฉัน 
    แหวนวงนั้นมันมีค่ามากเกินไป สำหรับฉัน 
    ฉันรับไว้ได้แค่เพียง ความรู้สึกดีๆ ที่นายมีให้ 
    ฉันรับได้เพียง คำพูดที่ฉันเฝ้ารอฟังจากนายมาแสนนาน 
    เท่านั้น . . . ที่ฉันต้องการ และฉันจะนำมันติดตัวไปทุกที่ 
    ไม่ว่าฉันจะอยู่บนโลกใบนี้ หรือไม่ก็ตาม 
    ฉันรักนาย . . .ทงแฮ ที่สุดแห่งความรักของฉัน ตลอดไป" 


    ผมอ่านจบ น้ำตาของผมมันหยดลงบนกระดาษแผ่นนั้น ซึ่งมีคราบน้ำตาหยดหนึ่งอยู่แล้ว 
    น้ำตาของเขา ไม่น่าเลย . . . นายคิดผิด นี่แหละ คือแหวนของนาย คือความรัก คือสิ่งที่นาย
    สมควรจะได้รับ 


    ผมตัดสินใจ และบอกกับพ่อกับแม่ของเขาให้เตรียมการอย่างหนึ่ง 
    งานศพของฮยอกแจ ก่อนที่เขาจะนำร่างบางเข้าไปในโลงสี่เหลี่ยมนั้น 

    ผมขอว่า ให้เปลี่ยนชุดให้กับเขา ผมสั่งซื้อชุดเจ้าสาวชุดหนึ่งให้กับคนตัวเล็ก 
    แม่และน้องสาวของเธอ เปลี่ยนชุดให้กับร่างที่นอนแน่นิ่ง พร้อมทั้งแต่งหน้าบางๆ ให้ 

    บัดนี้ ฮยอกแจนอนหลับใหลอยู่บนแผ่นไม้ ที่ห้อมล้อมด้วยดอกไม้ประดับ 
    สวมชุดเจ้าสาวสีขาวตามที่หวัง สวมแหวนวงนั้น และนิทราอยู่อย่างเงียบสงบ 

    ใครว่านายไม่สวย . . . ใครว่านายไม่สวยเท่ากับเจ้าสาวคนอื่นๆ 

    ไม่ ! วันนี้ . . . นายสวยที่สุด ไม่มีใครสวยเท่านายในสายตาฉัน 

    "ฉันรักนาย . . . ที่สุดแห่งความรักของฉัน ตลอดไป" 

    เมื่อก่อน . . . ผมบอกกับเขาว่า ผมรักเขา 

    เพราะผมคิดว่า เขาไม่ได้สวยไปกว่าใคร ผมพอใจเธอ 

    ปัจจุบัน . . . บัดนี้ หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป 

    ผมบอกกับเขาว่า ผมรักเขา เพราะผมคิดว่า ไม่มีใครสวยไปกว่าเขา . . . . . . . อีกแล้ว



    "ฉันรักนาย ฮยอกแจ  "  ………..  ทงแฮของนาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×