ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
♣ Curse of Rose ♣

ลำดับตอนที่ #4 : Garden of roses :: - -2- -

  • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 54




__2__

รถมาสีนิลกาฬที่ขับเคลื่อนผ่านความมืดและความหนาวเหน็บของรัตติกาล เข้าสู่บริเวณของคฤหาสน์ตระกูลขุนนางชั้นสูงแสงไหจากคบเพลิงส่องกระทบกับรถม้าสีนิล เมื่อรถม้านั้นหยุดนิ่งลงปลายเท้าเรียวสวยที่สวมรองเท้าชั้นดีก้าวลงจากรถม้าคันงามที่จอดไว้เบื้องหน้าคฤหาสน์ ปลายเท้าอีกข้างก้าวลงมาพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ปิดบังใบหน้าด้วยผ้าบางๆสีขาว เข้ากับชุดกระโปรงยาวลากพื้นผันด้วยผ้าไหมยาว ประดับด้วยดอกกุหลาบสีขาวตามผ้า

 

 

หญิงสาวนึกถึงภาพของคู่หนุ่มสาวที่กำลังเต้นรำกัน อย่างสนุกสนานตามจังหวะของวงบรรเลงเพลงที่ดังล่วงเลยออกมาจากภายนอกคฤหาสน์ครั้นเธอล่วงเลยเข้าสู่คฤหาสน์ข้างใน สายตานับร้อยคู่จับจ้องหญิงสาวเพียงคนเดียว เส้นผมสีทองแดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและดวงตาสีดำแสนลึกลับนั้นสร้างความตกตกตลึงแก่ผู้คนภายในงานไม่น้อย ทุกสายตาทุกคู่มองหญิงสาวอย่างยอบรับในความงดงามต่างก็นิ่งเงียบไปชั่วขณะและเริ่มส่งเสียงฮือฮาออกมา

 

 

ขออนุญาตเต้นรำ กับกระหม่อมสักเพลงนะพะย่ะคะเสียงของชายหนุ่มเรียกเธอขึ้น เฮเลน หันไปมองยังชายหนุ่มผู้เอ่ยนามของเธอ ยามหญิงสาวหันไปมองยังผู้ที่ชักชวนเธอ หน้ากากของคู่เต้นรำที่เผยให้เห็น เพียงเส้นผมสีนิลที่ยาวประบ่า ดวงตาที่ลึกลับและปริศนาที่หวังจะทำให้คู่เต้นรำสนุกสนานไปกับงานรื่นรมย์  หญิงสาวเจ้าของดวงตาสีนิลก่อนที่เธอจะคลียิ้มบางๆ เธอประทับหัตถ์บาง ลงบนฝ่ามือของชายเบื้องหน้า และจากนั้นจึงออกจังหวะตามไปตามเสียงเพลงที่บรรเลงเพลงใหม่ขึ้น

 

 

ยามที่จังหวะเปลี่ยนไปพร้อมกับร่างหญิงสาว และ ร่างของชายหนุ่มที่ยกมือขึ้นสูงเพื่อให้สาวเจ้าหมุนร่างจากนั้นจึงหมุนออกยามเสียงดนตรีใกล้จะหมดลง เฮเลน ทรงตัวล้มลงภายในอ้อมแขนของชายหนุ่มอย่าเบาตัว ผู้ที่รับร่างของหญิงสาวยิ้มกริ่มผายมือให้กับเธอออก เฮเลนค่อยๆคลายตัวออกจากร่างของชายหนุ่มผู้ที่เป็นคู่เต้นรำในคืนนี้ของเธอ

 

 

ข้าต้องขอชื่นชมในความสามารถของท่าน เฮเลนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเมื่อวางตัวอยู่ในหมู่ของชนชั้นสูงซึ่งแตกต่างกับเธอเมื่อยามอยู่วังหลวงราวคนละคน ที่นั้นเธอคือเจ้าหญิงเลเรียที่มีหน้าที่หลักคือการเป็นเด็กสาววัยที่เริ่มจะต้องดูแลตัวเอง และ พี่สาวทีดีต่อน้อง แต่สำหรับในงานต่างๆ เธอคือ

เจ้าหญิง เฮเลนไนล์ เฟลล็อค แห่งราชวงศ์ เรวาเลีย

 

 

หวังว่ากระหม่อมคงได้เต้นรำกับพระองค์อีก ชายหนุ่มเอ่ยตอบทันที ที่เจ้าหญิงหันหลังกลับ

เช่นกันเธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจเพียงเล็กน้อย และรู้สึกสงสัยในคำพูดของชายหนุ่มไม่มีใครกล้าพูดคำอย่างมีความหวังต่อเชื่อพระวงศ์สิ่งนั้นเป็นกฎต้องห้าม นั้นทำให้เฮเลน ฉุกคิดขึ้นเธอหันหลังหลับไปมองที่ๆชายหนุ่มอยู่อีกครั้ง ว่างเปล่าเขาหายไป เขาหายไปได้อย่างไรกันรวดเร็วราวกับสายลม

เจ้าเป็นใครกันนะเธอรำพึงกับตัวเองเขาคือใครกัน ดวงตาปริศนาคู่นั้นและคำพูดที่แฝงนัย และต้องการจะบอกอะไรกับเธอกันแน่

 

 

                หญิงสาวตัดสินใจเลิกคิดเรื่องราวที่มีแต่ปมปัญหา เธอเดินไปทั่วงานเพื่อหวังจะตามหาใครสักคนที่เธอกำลังรอคอยอยู่ เฮเลน เงยหน้าขึ้นจากชั้นล่าง เพ่งสายไปที่ชั้นสองของคฤหาสน์ ผู้ที่เธอหาอยู่กำลังพิงตัวเองกับขอบบันไดให้เธอเห็นเป็นลางๆ เฮเลนคลียิ้ม ในที่สุดเธอก็พบคนในงานที่พอจะคุยได้สักที ตอนแรกคิดจะตัดใจไปนั่งคุยกับบรรดาน้องสาวแต่เมื่อเห็นเป็นดังนี้ก็ไม่ต้องเดินลากขาไปหาน้องสาวทั้งหลายเสียแล้วเฮเลนตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปหาคนที่เป็นเป้าหมายทันที

 

              

                บุตรีของเจ้าของงานแสดงสีหน้าบึ้งตึงเมื่อพบว่าเธอยังไม่สามารถไปจากงานนี้ได้และ ยังต้องสวมชุดผ้าไหมเนื้อดีสีดำยาวจรดลากพื้นเปิดไหล่ เครื่องประดับที่เต็มไปด้วยเพชรสีใสส่องประกายแวววาวถูกแต่งแต้มบนร่างกายของหญิงสาวที่ปกติไม่แต่งเนื้อแต่งตัว เอน่ายืนพึงร่างกับขอบบันได และดื่มด่ำกับหวานละมุนละไมรสไวน์ในมือ ร่างของอรชรเจ้าหญิงแห่ง เรวาเลีย ย่างเข้ามาหาเธอ ดวงตาคู่สวยมองผ่านผ้าบางเบนสายตามาให้กับเธอ ยามที่ดวงตาคู่สวยนั้นมองไปที่หญิงสาวราวกับจะประกาศความงานอันเป็นที่สุดของในบรรดาอิสตรีชั้นสูงที่ความงดงามหาใครที่จะเทียบเทียมได้

 

 

แค่เพียงนาง สามารถเอื้อเอ่ยกับตนได้เพียงคำเดียวก็คือความโชคดีของตนเหนือใคร…’

เสียงหนึ่งของอิสตรีดังก้องขึ้นในโสตประสาทของเอน่า เป็นคำพูดมาจากปากของแม่นมของเธอที่มักจะเล่าเรื่องเล่าของชาวบ้าน ที่ว่ากันต่อๆมาว่าใครก็ตามที่สามารถเห็นพระพักตร์ขององค์หญิงแล้วพระองค์จ้องตอบนั้นคือคนที่โชคดีที่สุดแล้ว เธอคงจะสันนิษฐานได้ว่าราชินีสมัยก่อนคงจะมีนิสัยที่ค่อนข้างจะหยิ่งทระนง ถึงทำให้เหล่าชาวบ้านคิดเช่นนี้ได้แต่ถ้าหากเป็นไปตามคำพูดจริงละก็ เธอคงโชคดีมากๆ ที่ได้ฟังสุรเสียงขององค์หญิง และผู้เป็นเจ้าหญิงยังเสด็จมาหาด้วยตัวของพระองค์เองคงจะโชคดีเสียจริงๆ

 

                เอน่า เจ้างดงามมากเลยรู้ไหมเฮเลน เอ่ยเธอคลียิ้มอ่อนหวานบนใบหน้าเช่นเคย

                เป็น พระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งเพคะองค์หญิง พระองค์ก็ทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากเพคะ

                ว่าแต่เจ้ารู้จักชายหนุ่มที่เต้นรำกับข้าเมื่อครู่นี้มั้ย เค้าดูไม่เหมือนคนอาณาจักรเราเอาเสียเลย

เธอคงจะไม่ใช่คนที่โชคดีที่สุดในโลกซะแล้ว เพราะว่ามีคนชิงเต้นรำกับ องค์หญิงไปก่อนแถมยังไม่ใช่คนอาณาจักร เรวาเลียเสียอีก เขาช่างเป็นคนที่โชคดีที่สุดเสียจริงๆ

 

เฮเลนก้มหน้านิ่งเธอปรายตามองยังชายวัยกลางคนในชุดสีดำที่เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับช่อดอกไม้

ดอกกุหลาบสีขาวที่ ถูกจัดช่อไว้อย่างสวยหรูถูกมอบให้กับหญิงสาวกลิ่นหอมของมันทำให้ เอน่า ระบายยิ้ม

อย่างลืมตัวเธอ หากแต่ผู้ที่ได้รับดอกไม้นั้นกลับนิ่งงัน เมื่อเธอพิจารณากลีบดอกไม้ที่สลักด้วยอักขระประหลาดๆ

เธอพยายามจะแกะลายมือ ของผู้ที่เขียนให้ออก

 

งูพิษกำลังจะฉกพังพอน

มันจะกินหนูตะเภาเพื่อล่อเหยื่อ

และก็พ้นพิษใส่พังพอน

เจ้างูเหลือมจงปกป้องหนูตะเภา

แล้วสายหมอกจะนำพาเจ้าไป

แต่เจ้างูเหลือม จะต้อง

รัดเจ้างูพิษให้ตาย และ กินเจ้าพังพอนเสีย

แต่ห้ามทำร้ายหนูตะเภา

 

เฮเลนงงในศัพท์ทีเขียนไว้ เรื่องของสัตว์สี่ตัวคล้ายกับรหัสอะไรอย่างหากแต่เธอคงไม่ได้ทำอะไรกับมันอยู่แล้ว

เธอตัดสินใจมอบให้เอน่าต่ออีกทอดหนึ่ง

 

เอานี้ไปทีเอน่าวันนี้ข้าไม่อยากได้อะไรกลับไปวังหลวงเพิ่ม

ขอบพระทัยเพคะองค์หญิง

 

เอน่าโค้งตัวลงรับ ช่อดอกกุหลาบสีขาวที่คนตรงหน้ามอบให้ รับดอกกุหลาบนี้แล้วองค์หญิงเฮเลนก้มหน้างุดสร้างความรู้สึกแปลกใจให้กับเธอ เอน่าพยายามจะแสดงท่าทีเข้าช่วยหากแต่ ผู้เป็นเจ้าหญิงกลับชิงตัดบทพูดเสียก่อนที่เธอจะได้ทันทำอะไรลงไป

 

เต้นรำกับข้าสักเพลงได้หรือไม่

 

            เอ น่าสะดุ้งเฮือกเธอเผลอทำแก้วไวน์เปรอะเปื้อนกับเสื้อ เธอตัดสินใจวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะไม้ ดวงตาเบนสบพระเนตรของเจ้าหญิงนิ่ง ในใจนั้นไม่ได้คิดมากอะไรเรื่องการเต้นรำนักหรอก แต่เธอกำลังสับสนว่า เจ้าหญิงผู้แสนจะสูงศักดิ์คนนี้นั้นกำลังคิดแผนการที่แสนจะแยบยลและชวนอลหม่านอะไรกันแน่

 

นี้พูดจริงหรือเพคะ

                ใช่..ข้าก็อยากจะเต้นรำกับสตรีเช่นเดียวกันด้วยกันสักครั้งแล้วข้าก็เลือกเจ้า

                กระหม่อมคงไม่สามารถ ปฏิเสธได้หากสิ่งนั้นคือความต้องการขององค์หญิง

                นั้นคือสิ่งที่ข้าปรารถนา

 

เธอกล่าวพร้อมทั้งยิ้มกริ่มสิ่งที่ เจ้าหญิงเฮเลนไนล์ รักที่สุดในการเป็นเจ้าหญิงนี้ก็คือการที่ทุกคนจะต้องทำตามความต้องการของเธอ เอน่า ยิ้มรับกลับเธอได้แต่เพียงทำตัวไปตามน้ำเท่านั้นในใจก็นึกอยากจะขอโทษคนตรงหน้าเพราะว่ารู้ตัวว่าแผนการของตนเองนั้นได้กำลังจะสร้างความแปดเปื้อนเหตุนี้แล้วการที่เธอถูกเจ้าหญิงไว้วางใจจึงเป็นกาทรยศเจ้าหญิง และสร้างความอัปยศให้กับราชวงศ์ต่อให้เป็นเช่นนั้น...

 

            เพลง บรรเลงจังหวะช้าที่ขึ้นต้นด้วยเครื่องสีบรรเลงขึ้น เอน่า พยุงร่างของ เฮเลนไปบริเวณชั้นล่างของคฤหาสน์ที่ตอนนี้เพลงใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นเรียบร้อยแล้ว เฮเลน หลับตามพริ้มและคลียิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อได้ทำการเต้นรำกับเธอ ร่างของเอน่า และหมุนไปตามจังหวะเพลงที่กำลังบรรเลงช้าๆคลอไปกับเสียงเพลง

ที่มาจากเครื่องสีเป็นหลักสลับกับเสียงเพลงจะเครื่องดีดขับกล่อมในงานเต้นรำ

 

                ...ต่อให้เป็นเช่นนั้นถึงแม้ว่าราชวงศ์จะมีประวัติศาสตร์ที่สกปรก แต่ว่าเธอคนตรงหน้าคนนี้ เฮเลนไนล์บุตรีที่แท้จริงขององค์ราชันย์ เธอคนนี้ต่างหากเล่าที่จะมีความสุขที่สุด เพราะเธอคือว่าที่องค์ราชินี แห่งราชอาณาจักร เรวาเลีย และยิ่งไปกว่านั้นจะเป็นการกำจัดบุคคลที่ทำให้แม่ของเธอต้องตรอมใจตาย ถึงแม้ว่าจะต้องแลกกับชีวิตของใครสักสองคน ชีวิตของคนเพียงสองคนแลกเพื่อคนอีกกว่านับแสนชีวิตแค่สองชีวิตของสองผู้บริสุทธิ์เพื่อเป็นส่วนผสมของความสำเร็จมันถือว่าการกระทำเช่นนี้ ได้เปรียบเสียด้วยซ้ำ

 

*****

 

พระราชวังหลวง แห่ง ราชอาณาจักร เรวาเลีย

                หอคอยสูงตระหง่าน หลายหอตั้งโดดเด่นอยู่เหนือพระราชวังหลวงคล้ายกับว่าเป็นเมืองลอยฟ้าก็ไม่ปานฟ้าฝนที่ราวกับเป็นใจมืดครึ้ม และเสียงของฟ้าผ่าดังแว่วมาสักระยะบ่งบอกถึงสภาพภูมิอากาศของบริเวณวังหลังแห่งนี้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว แสงจันทร์นวลผ่องที่ถูกเมฆาปิดบังสร้างความมืดมนกับบรรญากาศชวนขนหัวลุกคล้ายกับราชวังร้าง

ท่ามกลางบรรยากาศไม่เป็นใจต่อสิ่งใดทั้งสิ้นนั้นเงาทมิฬของชายหนุ่มกระโดดไปตามหลังคาสูงของวังหลวงอย่างเชี่ยวชาญ ริมฝีปากเม้มแน่นพร้อมกับเหงื่อที่ผุดตามหน้าผากที่ เปียกแฉะ ความชื้นในความมืดครอบคลุ่มไปทุกทั่วอาณาเขตวังหลวง ปลายเท้าที่ยังคงวิ่งอย่างรวดเร็วหากเสียจังหวะก็จะต้องตายการมี่จะต้องทำสิ่งนี้เป็นเรื่องที่กดดันในตัวของชายหนุ่มไม่น้อย ดวงตาสีเปลือกส้มสอดส่ายไปในความมืดมิด ในใจนั้นครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปว่าควรจะทำเช่นไรดี

 

 

หากคืนนี้บรรดาเชื้อพระวงศ์ได้ร่วมงานเต้นรำหมดเว้นเสียแต่องค์ราชันย์ อิลเดลเซอร์  ที่ยังประทับอยู่ ณ ที่นี้กับองค์ราชินีองค์รอง ที่ทำการเลื่อนขั้นมาหลังจากการจากไปขององค์ราชินีองค์ก่อนละก็ การคุ้มกันคงไม้คุมเข้มมากนักเพราะว่าองค์ราชินีองค์ก่อนเป็นหลานสาวห่างๆของหัวหน้าผู้รักษาการพระองค์ซึ่งองค์ราชันย์ไม่เคยรู้มาก่อนเหตุนี้เองจึงทำให้การรักษาการหลวมขึ้นและง่ายดายขึ้นต่อการแอบลอบเข้าวัง

 

 

เอน่า...ข้าทำเพื่อเจ้า มาขนาดไหนกันนะเมื่อไหร่เจ้าจะรับปากข้าเสียที

ชาย หนุ่มรำพึงกับตัวเอง มือนั้นกระฉับผ้าผันคอให้แน่นขึ้น ผู้มาเยือนในยามราตรีก้าวกระโดดไปตามหน้าต่างตามราชวัง แต่ละห้องไร้ซึ่งวี่แววของผู้คนเว้นเสียแต่ว่ามีเพียงห้องเดียวเท่านั้นทาง ทิศตะวันตกของวังที่ควรจะเป็นตึกร้างหากแต่กลับมีแสงไฟสว่างวาบอยู่

 

 

เจอแล้วเขายิ้มอย่างพึงพอใจก่อน ที่จะพาร่างไต่ไปตามกำแพงอิฐราวกับใช้วิชาตัวเบา

ชายหนุ่มผลักกระจก ออกด้วยแรงลมที่ตีเข้ามาบางส่วนร่างของเขาเซล้มลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัวกับพื้นไม้แข็งๆของห้อง เขารีบพยายามยันร่างลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียจังหวะหากแต่เขากลับพลาดไป

ทันทีที่เขาอยู่ในสภาพหมอบลงพร้อมกับ ความรู้สึกที่มือของเขาถูกรวบติดไว้กับเสาเตียงนอนเสียแล้ว

ผู้ที่อยู่ในห้องเผยตัวออกจากความมืด

               

               

                ทันทีที่เขาเห็นหน้าของผู้ที่มัดแทบไม่เชื่อสายตาว่าเป็นสตรีที่มีใบหน้าที่นิ่งเรียบ
ข้าเกลียดผู้ชาย

 เจ้าเป็นใคร.

 เสียงต่ำคล้ายการขู่ตามมาพร้อมกับความรู้สึกของ ปลายดาบเพรียวที่กำลังจ้องจะแทงทะลุ

ขมับของเขา เท้าเปลือยเปล่าเหยียบเพื่อไม่ให้ผู้ที่บุกเข้ามาหนีไปไหน ชายหนุ่มแหงนหน้ามองขึ้น

กลับต้องพบกับนัยน์ตาสีมรกตคมเฉียบ จ้องเขาราวกับจะกำลังแทงร่างให้เป็นพรุน

ข้าจะไม่ถามชื่อเจ้า คนน่ารังเกียจคนไหนส่งเจ้ามาเล่าเหตุการณ์มาหรืออยากให้ข้าพาเจ้าไปเยือนโรงประหาร

เลเรียว่าก่อนที่มองร่างของชายหนุ่มราวจะฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ

 

ข้าบอกเจ้าไม่ได้

ทำไมเล่าทำไมถึงบอกไม่ได้

เจ้าไม่เคยมีชื่ออยู่บนโลกนี้เจ้าไม่เข้าใจมนุษย์หรอก

                งั้นหรือ

 

 

 เลเรียพูดพลางก้มมองมือของเธอ หญิงสาวชูมือขึ้นจากนั้นถอดถุงมืออก ดวงตาจ้องมองคนตรงหน้านิ่งพลัน แสงประกายสีม่วงนั้นประกายขึ้น สร้อยคอสีม่วงที่ส่องแสงเรืองรองยามอยู่ต่อหน้ามนุษย์ที่กำลังมีจิตใจที่กำลังอ่อนแอ ถึงข้าจะไม่เข้าใจในมนุษย์ที่พวกเจ้าว่าข้าก็มีมนุษย์ในแบบของข้า ข้ากลัวความตายทั้งๆที่อีกไม่นานข้าจะต้องตายแท้ๆเลเรียกล่าวเธอพูดพลางกำสร้อยคอแน่นก่อนจะกัดฝันกรอด และ ร่างกายที่สั่นเทาเธอไม่มีทางเลือกนี้อีกแล้ว เธอจะไม่ยอมตายง่ายๆ และก็จะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อความลุ่มหลงเป็นอันขาด



ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture