ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` FIC WONHAE x BUMHYUK ¦ - Romantica Virus {yaoi}

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER III :; Change

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 53




    ROMANTICA VIRUS*

     

    -Super Junior  Yaoi Fan Fiction-

     

    [Siwon – Donghae – Hyukjae – Kibum – Kyuhyun – Sungmin]

     

    Author xixiao'


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







    CHAPTER III   Change

     

     

     

     

     

    “อั่ก !

     

    ร่างโปร่งบางกำลังหลับสบายอยู่บนเตียงนอนนุ่มชั้นดี เปลือกตาลืมขึ้นอีกครั้งก่อนจะพบว่าตนเองเพิ่งกลิ้งตกลงจากเตียงลงมานอนกองกับพื้นพร้อมอาการเจ็บแปล่บบนเนื้อตัว โดยที่มีอีกคนยืนมองอยู่ด้วยสีหน้าหาเรื่องพร้อมเท้าซึ่งยกค้างอยู่ข้างหนึ่ง  มันถีบ  T_____T’

     

    ฉันให้แกมาเป็นนักโทษนะว้อย! ไม่ใช่ให้มานอนหลับอุตุเป็นอีคุณหนูสันหลังยาวแบบนี้

     

    อีทงเฮนึกอยากจะเอาหัวเขกกำแพงตายให้รู้แล้วรู้รอดนัก นึกว่าไปทำงานแล้วเสียอีก ยังอยู่อีกหรือไงนะไอ้ปีศาจมาเฟียป่าเถื่อนนี่!  ไอ้เลวร้ายยยยย  TT~

     

    ไม่ต้องมาทำหน้าเสียดาย วันนี้วันหยุดว้อย! ฉันมีเวลาปล้ำแกได้ทั้งวันซีวอนกระชากเรือนผมคนบนเตียงหน้าหน้าแหงน ก่อนจะโน้มใบหน้าลงกัดลำคอขาวจนเลือดซิบ

     

    ซาดิสม์..ทงเฮแยกเขี้ยวใส่หน้าโจทก์ที่พิพากษาความผิดของเขาอย่างไร้ทางโต้ จำเลยก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ไม่ใช่หรือไงเล่า! นักโทษ.. แต่ก็ไม่ใช่ทาสที่คุณจะทำอะไรก็ได้นะ!! เห็นผมเป็นที่ระบายความใคร่หรือไงเล่าไอ้ปีศาจเอ๊ย!

     

    มือแกร่งบีบเข้าที่กรามทั้งสองข้างจนร่างโปร่งจำต้องนิ่วหน้าเจ็บ เชวซีวอนเหยียดยิ้มคล้ายจะเย้ยหยันอยู่ในที เผอิญว่าฉันมันเป็นศาลฎีกาว้อย! พูดแล้วทำเลยไม่ต้องรอให้แกมีสิทธิ์อุทธรณ์อะไรทั้งนั้น

     

    ทงเฮนิ่งไปครู่หนึ่งคล้ายใช้ความคิด เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ เรียวปากได้รูปปั้นยิ้มขึ้นเสแสร้งส่งให้อีกฝ่าย พร้อมเอ่ยเสียงหวาน อย่างนั้นก็ให้ผมไปมหาลัยสิ เดี๋ยวผมโดนไล่ออกขึ้นมาก็เท่ากับว่าคุณทำลายอนาคตผมนะ

     

    อย่ามาหัวหมอ ฉันรู้ว่าแกหาทางหนีซีวอนบีบกรามคนตรงหน้าแรงขึ้นจนทงเฮร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บ

     

    เฮ้! ผมพูดจริงๆนะ เวลาเรียนผมแทบจะไม่พออยู่แล้ว

     

    มันก็เป็นความผิดของแกที่โดดไว้เยอะ

     

    คุณก็น่าจะเข้าใจกันบ้างเซ่! คุณก็เคยเป็นนักศึกษามาก่อนไม่ใช่หรือไง!ทงเฮโวยวายออกมาอย่างเหลืออด ก็จริงที่เขาโดเรียนมาเยอะจนเวลาเรียนแทบจะไม่พอ ถ้ายังมาถูกไอ้มาเฟียนี่ขังไว้เป็นเดือนอีกล่ะก็.. มีหวังอีทงเฮได้ติด F หรือไม่ก็ต้องเรียนเพิ่มใหม่อีกสักเทอมสองเทอมแน่ๆ

     

    ใครบอกว่าฉันเคยเป็นนักศึกษา..?”

     

    หา?”

     

    ตั้งแต่จบม.ปลายมาเมื่อสองปีก่อนฉันก็ไม่ได้เรียนต่อแล้วเว้ยเจ้าบ้าร่างสูงละมือออกจากกรามของร่างข้างใต้ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนคร่อมอีกฝ่ายไว้พลางทำลอยหน้าลอยตา

     

    จบม.ปลายมาเมื่อสองปีก่อน..?” ทงเฮดูจะเอะใจไม่น้อยกับประโยคเมื่อครู่ ตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีสี่ แต่ถ้าจะให้นับ.. เฮ้ย! ไม่น่า คุณต้องเป็นพวกนักเลงแบบว่า จบม.ปลายตอนอายุยี่สิบห้าอะไรประมาณนี้แหงๆ

     

    กล้ามากนะที่ด่าฉันแก่..คิ้วหนากระตุกน้อยๆเมื่ออีกฝ่ายเดาสุ่มสี่สุ่มห้าถึงเรื่องของเขาแบบนี้ มันน่าจับล่ามโซ่แล้วปล้ำเสียให้เข็ด

     

    ก็ยังไม่ได้บอกว่าแก่สักหน่อย แต่มันดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนี่ คุณอายุเท่าไหร่เล่า!?”

     

    ยี่สิบ

     

    โกหก!!?”

     

    นี่แกกำลังจะด่าว่าฉันตอแหลใช่ไหม..?” ทงเฮเลือกที่จะสงบปากสงบคำทันทีที่เห็นสายตาของคนตรงหน้า ยังไม่ได้ด่าอะไรสักหน่อย (ก็แค่คิด)

     

    คุณอายุน้อยกว่าผม..ร่างโปร่งหยั่งเชิงพูดออกไป หากแต่คำตอบที่ได้รับมีเพียงการยักคิ้วให้อย่างกวนประสาทเท่านั้น และนั่นคือสิ่งที่ทำให้อีทงเฮนึกอยากจะทึ้งหัวตัวเองอีกสักห้าครั้ง!

     

     

     

     

     

     













     

    สิ่งที่ผมได้รู้และมั่นใจเต็มๆที่มีอยู่สี่ข้อ..


     

    ข้อหนึ่ง.. ผมถูกไอ้มาเฟียโหดนี่จับมาเพราะผมดันไปปล้ำฮยอกแจซึ่งปัจจุบันเป็นแฟนของหมอนี่เข้า ทำให้ผมต้องรับกรรมถูกเชวซีวอนนี่ปล้ำเอาเช้าเย็น (ตลอดจนทั้งคืน) เป็นการแก้แค้น


     

    ข้อสอง.. ไอ้บ้านี่เด็กกว่าผมเสียอีก หนังสือหนังหาไม่เรียนแต่กลับมีเงินมีอำนาจมากมายก่ายกอง ซ้ำยังข่มเหงผมไม่เว้นแต่ละวันโดยไร้ความเกรงใจในความอาวุโส


     

    ข้อสาม.. ผมเกลียดขี้หน้ามันโคตรๆ!! ทั้งบ้าตัณหา วันๆคิดแต่เรื่องอย่างว่า นิสัยป่าเถื่อนอย่าบอกใคร รุนแรง ซาดิสม์ และกวนประสาทเป็นที่สุด



     

    และข้อสุดท้าย.. เชวซีวอนก็คือปีศาจดีๆนี่เอง!!

     

     

     











     

    -:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-

     

     

     












     

    ร่างบางนอนพลิกตัวไปมาหลายต่อหลายครั้ง คำพูดเมื่อคืนของคิบอมนั้นราวกับเป็นปัญหาชวนคิดที่ขบเท่าไรก็ไม่แตก นาฬิกาบนผนังบอกเวลาว่าสายพอควรแล้ว และคงจะดูผิดปกติเกินไปหากว่าฮยอกแจตื่นผิดเวลาขนาดนี้

     

    ไม่ทันไรประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมด้วยชามข้าวต้มหอมฉุยและคนที่ถือมันเข้ามา ร่างบางแย้มยิ้มทักทายออกไปตามมารยาท อรุณสวัสดิ์ครับคิบอม ข้าวต้มนั่น..?”

     

    ผมเห็นคุณตื่นสายกว่าปกติ เลยคิดว่าคุณอาจจะไม่สบายรอยยิ้มอวบอูมถูกส่งมาให้เขาอย่างอบอุ่นอย่างที่หาดูได้ยาก จริงอยู่ที่คนค่อนประเทศต่างหลงใหลในรอยยิ้มของคิมคิบอม หากแต่อีฮยอกแจกลับคิดมาตลอดว่ามันช่างเยียบเย็นราวกับว่าหัวใจของคนๆนี้ถูกแช่แข็งลงแล้วก็ไม่ปาน แม้ดวงตาจะหยีลงจนพวงแก้มป่องเป็นลูกที่ใครๆบอกว่าเป็นเสน่ห์ หากแต่นัยกร้าวลึกๆในดวงตาที่จ้องมองออกมากลับแฝงไปด้วยความเย็นชา...

     

    จนอีฮยอกแจอดจะคิดไม่ได้ว่าหากได้หลงใหลในตัวของคิบอม ก็คงจะถูกความเย็นชานั้นเชือดเฉือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตายลงสักวัน

     

    “เป็นอะไรไปครับ ?”

     

    ร่างบางสะดุ้งน้อยๆเมื่อเสียงของอีกฝ่ายปลุกเขาให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ความคิด ริมฝีปากบางหยักยิ้มส่งไปเล็กน้อยพอเป็นมารยาท ก่อนจะเสมองชามข้าวต้มที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง “น่ากินจัง คิบอมทำเองเหรอครับ ?”

     

    “ครับ”

     

    “ต้องอร่อยแน่ๆ” ฮยอกแจใช้ช้อนคนไปมาก่อนจะอมยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียวตักเอาข้าวต้มขึ้นมาเป่าสองสามทีก่อนจะป้อนเข้าปาก พอได้กลืนลงคอก็ต้องแย้มรอยยิ้มหวานออกมาให้เจ้าของผลงานได้รู้สึกดี

     

    “เป็นไงครับ เอาไปเททิ้งเลยดีไหม ?”

     

    “อย่าพูดแบบนั้นสิ อร่อยออก ก็คิบอมอุตส่าห์ทำให้ผมทั้งที” ฮยอกแจตักซดคำที่สอง สาม ไปเรื่อยๆจนเกือบหมดชาม โดยไม่ทันได้ลอบมองรอยยิ้มที่หลุดออกมาจากเรียวปากของอีกฝ่าย... ยิ้มที่เหมือนถูกเติมเต็มลงด้วยความรู้สึกบางอย่าง

     

    “ผมดีใจนะที่คุณทานมันจนหมด” คิบอมว่าเสียงเรียบ ก่อนจะยกชามข้าวต้มที่เหลือเพียงน้ำติดก้นชามอยู่นิดหน่อยออกไปเก็บที่ครัว โดยที่ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น

     

    เขาเข้าใจแล้วว่าอะไรที่หยุดเชวซีวอนคนนั้นลงได้... และถ้าปล่อยฮยอกแจไว้กับเขาแบบนี้นานๆ...



     

    “รีบมารับตัวของๆนายกลับไปไวๆก็แล้วกัน”




     

    เพราะคิมคิบอมเอง ก็ไม่มั่นใจในตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว.

     

     

     








    -:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-

     

     









     

     

    “อะ... อา...!

     

    เสียงครางกระเส่ายังคงดังอยู่ในห้องที่มีเพียงคนสองคน ปลายลิ้นลากลงต่ำจนใกล้จุดกระสันอย่างชำนาญโดยที่คนถูกกระทำได้แต่จิกเล็บลงบนที่นอนด้วยอารมณ์ที่กำลังก่อตัว

     

    -Rrrr-

     

    ร่างสูงผละออกจากอาหารเช้าตรงหน้าพร้อมด้วยเสียงสบถหยาบคายอย่างไม่สบอารมณ์นัก ชื่อและเบอร์ของลูกน้องคนสนิทปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง “ว่าไงจองซู”

     

    ทงเฮชันขาเข้าหาตัวเล็กน้อยด้วยอารมณ์ที่กำลังก่อตัวซึ่งถูกทิ้งไว้ให้ค้างเติ่งโดยที่ต้นเหตุยังนั่งคุยโทรศัพท์เสียงเครียด เขาเองก็ไม่ได้พิศวาสต้องการไอ้บ้านี่นักหรอก แต่เล่นปล่อยไว้แบบนี้มันรู้สึกแปลกๆนะว้อย !!

     

    “อะไรนะ !? นี่พวกมันกล้ายกพวกมาหยามถึงถิ่นฉันเลยหรอ ไอ้บัดซบเอ๊ย !” เชวซีวอนเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหรูลงบนเตียงด้วยอารมณ์ที่เรียกได้ว่าหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย กางเกงที่วางพาดไว้กับเก้าอี้นวมชั้นดีถูกหยิบมาสวมใส่ ตามด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแบรนด์เนม ก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์เดินออกไปอย่างหัวเสีย

     

    “เฮ้ ! จะไปไหนน่ะ ?” ทงเฮร้องตะโกนเรียกออกไปด้วยทีท่าที่เป็นปกติที่สุด ก็แค่อยากรู้หรอกน่า ส่วนไอ้เรื่องที่ค้างอยู่นี่เขาจัดการตัวเองได้สบายๆ ก็คนมันฝ่ายรุกนี่ !

     

    “ไม่เกี่ยวกับแก” ซีวอนตอบปัดๆแบบขอไปที ก่อนจะเบะปากสบถแบบที่ทงเฮนึกอยากจะเขวี้ยงหมอนใส่หัว ตกลงมันก็ออกไปแบบไม่ไยดีจริงๆสินะ....

     

    ไอ้เวรเอ๊ย !!   T____T’


















    -:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-

     

     












     

    แสงสลัวๆยามค่ำคืนที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบกับนัยน์ตาสีเข้มที่ยังเบิกโพลง ร่างบางนอนพลิกตัวไปมาอยู่นานสองนาน ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง แบบนี้อีกแล้ว... ทุกครั้งที่หลับตาลง ภาพเมื่อคืนนั้นมันก็ตามหลอกหลอนเขาไม่หยุด ภาพผู้ชายเลวๆสามคนนั่น

     

    นึกไปถึงใครอีกคนที่ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง อีทงเฮ... คนที่อีฮยอกแจหลงรักมาตลอด คนที่ฮยอกเผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้ความสัมพันธ์เลย และเป็นเพียงแค่ตัวแทนของใครอีกคน... คนที่ได้ครั้งแรกของอีฮยอกแจ

     

    จะข่มตาให้หลับสักแค่ไหน ความเจ็บปวดที่ยังรัก และฝันร้ายที่มีปีศาจหื่นกระหายสามตัวก็ยังฉายวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ทุกคืน น้ำใสๆเอ่อขึ้นมาจนไหลอาบแก้ม พออยู่คนเดียวก็เป็นซะอย่างนี้ ฝืนยิ้มให้ใครๆเพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครเป็นห่วง แต่เมื่อไหร่ล่ะที่เขาจะลืมมันได้จริงๆ เมื่อไหร่ที่ฮยอกแจจะได้หลับตาลงด้วยรอยยิ้มเหมือนก่อน ไม่ต้องแบกฝันร้ายที่หนักอึ้งขนาดนี้

     

    ร่างบางค่อยๆผุดลุกขึ้นจากเตียงพลางปาดน้ำตาที่เลอะบนใบหน้าอย่างลวกๆ อยากหาอะไรทำเพื่อจะได้ไม่ต้องคิดเรื่องนี้ โทรทัศน์คือสิ่งที่เขาเลือก นั่งดูไปเรื่อยเผื่อจะรู้สึกง่วงและหลับไปโดยไม่ต้องคิดอะไรบ้าง



     

    “คุณอยู่ที่ไหน... ผมคิดถึงคุณ...”



     

    เสียงทุ้มนุ่มคุ้นหูกำลังพูดอยู่คนเดียวราวพร่ำเพ้อ ฮยอกแจชะงักฝีเท้าลงก่อนจะหยุดยืนดูอยู่ไกลๆ คิบอมนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ฮยอกแจไม่แน่ใจว่าเขาควรจะเดินเข้าไปตอนนี้หรือเปล่า ใบหน้าที่เห็นเพียงเสี้ยวนั้นทำให้เขาเดาอารมณ์ของคิบอมไม่ถูก คิบอมอาจกำลังเศร้าหรือกำลังร้องไห้อยู่ก็ได้

     

    “เอ่อ... คิบอม”

     

    ฮยอกแจไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือผิด เขาแค่เป็นห่วงคิบอม ห่วงว่าคิบอมอาจจะกำลังรู้สึกแย่หรือต้องการใครอยู่เป็นเพื่อน นัยน์ตาว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งคำตอบนั้นนับวันก็ยิ่งทำให้เขาอยากรู้ อยากจะเข้าใจคนๆนี้ให้มากขึ้น

     

    “ครับ ?” คิบอมหันมามองเข้าด้วยน้ำเสียงที่ดูจะแปลกใจอยู่หน่อยๆ แต่เรียวปากได้รูปก็คลี่ยิ้มบางๆให้คนที่กำลังเดินมาหา “ยังไม่นอนอีกเหรอครับ นี่ก็ดึกมากแล้วนะ”

     

    “คือ... ผมนอนไม่หลับ แล้วก็บังเอิญมาได้ยินคุณ...” ดวงหน้าขาวดูฉายแววลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดที่จะพูดมันออกไป เขามากวนใจคิบอมเข้าจริงๆหรือเปล่า สีหน้าของคิบอมเหมือนรู้ทันว่าเขาจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ยังเงียบอยู่อย่างนั้น มีเพียงรอยยิ้มบางและนัยน์ตาว่างเปล่าที่กำลังมองมา “ผมได้ยินเหมือนคุณกำลังพูดถึงใครสักคนน่ะ...”

     

    เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคิบอมหลุดหัวเราะออกมา แม้มันจะไม่มาก แต่คนๆนี้ก็กำลังยิ้ม... ยิ้มที่ไม่ได้มาจากมารยาทหรือฝืน “คุณเลยเป็นห่วงผม ?”

     

    “หะ... เห ?” ฮยอกแจสะดุ้งน้อยๆเมื่อถูกยิงเข้ากลางปล้องอย่างที่ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง ร่างบางพยักหน้าเบาๆสองที ก่อนจะกลายเป็นรอยยิ้มเก้อเขินเมื่อคิบอมชูบทภาพยนตร์เล่มหนาในมือขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบาง

     

    “ผมซ้อมบทภาพยนตร์เรื่องใหม่ครับ”

     

    ฮยอกแจก้มหน้างุดๆด้วยความอับอายที่ปล่อยได่ตัวเบ้อเริ่มขนาดนี้ ร่างบางทำท่าจะลุกหนีเข้าห้องนอนเอาดื้อๆ “ขอโทษที่กวนนะคิบอม”

     

    มือแกร่งของคิบอมคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้เบาๆพร้อมรอยยิ้มบาง “ถ้ายังไม่ง่วง จะนั่งคุยเป็นเพื่อนกันก่อนก็ได้นะครับ”

     














     

    -:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-













     

     

    “เดินดีๆนะครับบอส”

     

    ร่างสูงแกร่งถูกประคองโดยลูกน้องคนสนิทมาจนถึงหน้าห้องนอนของใครบางคน บาดแผลที่ถากตรงแขนทำให้เขาต้องนิ่วหน้าเจ็บเล็กน้อย หากแต่ก็ไม่มากมายนัก “เจ็บแค่นี้ ไม่ต้องถึงขั้นประคองหรอกน่าจองซู”

     

    ปาร์คจองซูรีบพยักหน้ารับน้อยๆก่อนจะผละออกมาอย่างว่าง่าย บอสของเขาก็เป็นแบบนี้เสมอ หัวดื้อ หัวรั้น และเข้มแข็ง

     

    “ว่าแต่ยองอุนจัดการเคลียร์พื้นที่เสร็จเรียบร้อยหรือยัง ?”

     

    “เมื่อกี้ยองอุนโทรมาบอกว่าเรียบร้อยดีครับ” จองซูผงกหัวรับเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงต้องการเวลาพักผ่อนส่วนตัว เขายังจะต้องเดาอีกหรือไงว่าเรื่องอะไร ก็วิธีแก้แค้นแปลกๆที่บอสเขาทำอยู่กับเจ้าเด็กที่ชื่อทงเฮนั่นน่ะสิ... พอคิดอย่างนี้เรียวปากได้รูปก็หยักยิ้มสวยก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

     

    “ระวังจะแพ้ภัยตัวเองก็แล้วกันครับบอส”

     

     











     

    -:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-:-

    TBC








    ขอโทษที่มาอัพต่อช้านะครับ  TT'

    พอดีไรท์เตอร์สภาพจิตใจงานเข้านิดหน่อย

    ต่อไปนี้จะพยายามมาอัพไวๆ (ถ้าทำได้) ครับ  ^^



    no. beer

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×