คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Will Love, So I love[Part 2]=หัวหน้าแก๊งเดจาวู || รีไรท์ แก้คำผิด
2
หัวหน้าแก๊ง 'เดจาวู'
“ฟู่ว์ เกือบไม่ทันแน่ะ!” เสียงใสดังขึ้นหลังจากที่วิ่งลากเพื่อนใหม่ให้พ้นประตูรั้วโรงเรียนที่กำลังจะปิดได้อย่างทันเวลา เพื่อนต่างเครื่องแบบหายใจหอบอย่างหนักเพราะต้องวิ่งลงบันไดมา ทงเฮก้มลงมองเครื่องแบบตัวเองก่อนจะทำท่าเหมือนกับไม่อยากจะเดินเข้าไปในโรงเรียนเสียดื้อๆ
“ทงเฮ! ตามมาสิ”
“คะ...คือว่า.....เครื่องแบบมัน”
“ไม่มีอะไรมากหรอก! อย่างมากนายก็แค่ถูกมองเท่านั้นเอง”
นั่นแหละเรื่องใหญ่.......
คนตัวเล็กโอดครวญในใจแต่ยังไม่ได้พูดอะไรก็ถูกเพื่อนลากเข้าไปที่ตึกเรียนเพราะเสียงนกหวีดที่เป่าไล่พวกเขาทั้งสองคนจากยามหน้ารั้วได้ดังขึ้น เสียงออดที่บอกว่าคาบโฮมรูมได้เริ่มทำให้ร่างเล็กทั้งสองต้องเร่งฝีเท้า ที่มาสายอย่างนี้เป็นเพราะซองมินที่กว่าจะปลุกได้ก็แทบจะเอาน้ำสาดกันเลยทีเดียว แต่พอจั๊กจี๋เท่านั้นแหละ ซองมินก็ถีบเข้าที่ท้องของคนปลุกเข้าเต็มรัก ทงเฮเลยนั่งจุกอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นเดินได้
'ปี 2 ห้อง B'
ซองมินเปิดประตูเข้าไปในห้อง แต่ก็ต้องค่อยๆเดินเพราะสายตาของอาจารย์ที่ปรึกษามองมา ทงเฮถูกจับออกมายืนหน้าชั้นเพราะเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาหลังจากที่เปิดเรียนไปได้สองอาทิตย์
“วันนี้เรามีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามา ครูจะให้แนะนำตัว เชิญครับ”
“สวัสดีครับ...ผมอีทงเฮจากโรงเรียนมัธยมซองจิน ฝากตัวด้วยครับ”
เสียงในห้องเริ่มอื้ออึงเมื่อร่างเล็กพูดจบ สายตาดูถูกปนสงสัยถูกส่งมาที่คนที่ยืนอยู่หน้าห้องอย่างเต็มไปหมด อาจารย์เอาไม้เคาะที่โต๊ะเบาๆเพื่อเป็นสัญญาณให้เงียบลงก่อนจะกระแอมเบาๆแล้วพูดต่อเมื่อบรรยากาศในห้องสงบลง
“เมื่อกี้เธอเข้ามากับซองมินใช่มั้ย?”
“ครับ”
“แล้วรู้จักกันรึเปล่า”
“ผมเป็นรูมเมทเค้าครับ”
“ถ้าอย่างั้น เธอก็ไปนั่งข้างๆซองมินละกันนะ”
ทงเฮโค้งตัวให้อาจารย์ก่อนจะเดินไปหาซองมินที่นั่งยิ้มร่าอยู่ แต่ยังไม่ทันจะได้นั่งลงบนเก้าอี้ ก็มีเด็กนักเรียนชายเปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่หอบหนักเพราะรีบวิ่งมา
“ขอโทษด้วยครับอาจารย์ เมื่อครู่.....มีคำสั่งจากคิมคิบอมให้ย้ายอีทงเฮจากมัธยมซองจินและอีซองมิน ปี 2 ห้อง B ไปเข้าเรียนที่ห้อง Z ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ!!”
ร่างกลมพูดเสียงดังฟังชัดให้ได้ยินกันอย่างทั่วถึง เสียงพูดคุยในห้องเริ่มดังขึ้นอีกครั้งทำเอาคนที่ถูกประกาศตัวเมื่อครู่สะดุ้งโหยงแล้วหันมองหน้าอาจารย์ที่ปรึกษาที่กำลังทำหน้าเบื่อหน่ายกับการกระทำของคนมีอำนาจแต่ขัดไม่ได้ ก่อนจะเอาไม้ที่ถืออยู่ชี้ไปที่คนที่เพิ่งได้นั่งเมื่อซักครู่ให้ลุกขึ้นแล้วออกจากห้องตามคนที่มาตามตัวไป
“ฉันชื่อชินดงฮี เรียกว่าชินดงก็ได้”
“อ่า.....ชินดง นายพอจะรู้มั้ยว่าทำไมจู่ๆฉันถึงถูกย้ายไปที่ห้อง Z”
“ซองมินสินะ ฉันไม่รู้หรอกเรื่องนี้ ฉันแค่เดินผ่านไปแถวนั้นเฉยๆก็ถูกคยูฮยอนใช้ให้มาตามพวกนายมาเนี่ยแหละ”
“คงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอกนะ” ทงเฮพึมพำก่อนจะเกาะแขนเพื่อนสนิทแล้วมองบรรยากาศรอบตัวไปเรื่อยที่ดูแล้วก็ไม่คุ้น ทั้งๆที่คิดว่าวันเสาร์เดินรอบแล้วแท้ๆ ซักพักชินดงกับซองมินก็หยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่ที่บุด้วยหนังสีแดงสดอย่างหรู ชินดงผลักประตูเข้าไปพร้อมกับเร่งสองคนที่ยืนอึ้งอยู่หน้าห้องให้เดินเข้ามาเร็วขึ้น
ภายในห้องนี้ไม่เหมือนกับห้องอื่นๆในตึกเรียน พื้นห้องปูด้วยพรมสีเทาอ่อนดูหรูหรา ส่วนผนังห้องก็เป็นโทนสีน้ำตาลอ่อนออกหม่นๆ ภายในห้องเรียนมีโต๊ะเรียนอยู่ 8 ตัวซึ่งแต่ละตัวมีโน๊ตบุ๊คไว้เครื่องละโต๊ะทำให้ทงเฮถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง และเมื่อมองเลยไปอีกหน่อยก็จะเจอกับบานประตูอีกบานหนึ่งที่ตอนนี้ถูกเปิดออกโดยใครบางคนที่อยู่ในห้องที่สองร่างเล็กคุ้นหน้ากันดีโดยเฉพาะซองมิน
“นาย!”
“เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งพูดอะไร ทงเฮ! นายมานี่เดี๋ยวนี้เลย” มือหน้ากระชากแขนของร่างบางให้หลุดออกจากเพื่อนสนิทก่อนจะผลักเข้าไปในห้องที่ตนเองเพิ่งออกมาแล้วปิดประตูล็อคกลอนทันที
ทงเฮหันกลับไปเพื่อจะเปิดประตูออก แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านนอกแล้ว ร่างเล็กมองผู้ที่นั่งหันหลังให้อยู่บนโซฟาด้วยความหวาดกลัวนิดๆ และไม่ยอมขยับตัวไปไหนเมื่อเห็นว่าคนคนนั้นยังไม่ขยับตัวซักที ก่อนจะสะดุ้งเมื่อใครคนนั้นลุกขึ้นมาแล้วหันเผชิญหน้ากัน ทงเฮเห็นใบหน้าของร่างสูงแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ แก้มป่องๆแบบนี้ เป็นหัวหน้าแก๊งได้ด้วยหรอ?
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ห้อง Z”
“...........” ร่างเล็กยืนนิ่งก่อนจะเหลือบมองร่างสูงที่หันมาพูดต้อนรับเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เมื่อไม่ได้รับคำทักทายที่ควรจะได้กลับมาทำเอาคิบอมต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยตามอารมณ์ที่คุกกรุ่นเล็กๆ
“ทำไมถึงเงียบล่ะ”
“แล้วฉันทำไมต้องตอบ”
“หึ” คนที่ได้รับคำตอบกลับมาแสยะยิ้มน้อยๆก่อนจะสาวเท้าเข้าไปใกล้คนปากดี ทงเฮถอยหลังชิดริมประตูแต่ยังคงเชิดหน้าราวกับจะท้าทายอีกฝ่ายทั้งๆที่ในใจกลับกลัวจนลนลานไปหมด ร่างบางหยุดยืนตรงก่อนจะสบสายตาสู้กับอีกฝ่ายพลางเอ่ยปากบอกให้อีกคนหยุด
“หยุดอยู่ตรงนั้นนะ”
“นายเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาสั่งฉัน”
“แล้วนายเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาสั่งย้ายตัวฉันกับเพื่อนตามใจชอบ แค่ย้ายมาจากมัธยมซองจินก็เป็นขี้ปากของคนอื่นมากพอแล้ว! เหอะ~ เดจาวูงั้นหรอ ใหญ่แค่ไหนกันเชียวกับตำแหน่งหัวหน้าบ้าๆนี่”
“ใหญ่มั้ยน่ะหรอ? มีสิทธิ์อะไรน่ะหรอ? แค่นี้ก็ยังไม่รู้อีกหรอว่าฉันมีอำนาจมากพอที่จะสั่งย้ายใครต่อใครให้เข้าออกเรียนที่นี่ได้ตามใจชอบ”
ว่าจบก็ต้อนร่างบางชิดริมผนังห้องก่อนจะใช้แขนกางกั้นอาณาเขตเล็กๆที่สามารถสร้างความอึดอัดให้กับอีกฝ่ายได้ด้วยสายตาที่แข็งกร้าว สายตาดุดันที่จ้องมองลงมาทำเอาคนมองใจสั่นเล็กๆแต่ทว่ายังคงเชิดหน้าด้วยความถือดี แต่แล้วก็ต้องรู้สึกว่าคิดผิดเพราะการที่เชิดหน้าขึ้นนั่นแหละทำให้ใบหน้าของเขากับคิมคิบอมห่างกันแค่ไม่ถึงคืบ
“นายเป็นใคร ฉันเป็นใคร เท่านี้รู้รึยัง”
“ยะ...ยัง! ถอยออกไปนะ”
“ฉันถึงได้ถามย้ำนักหนาว่านายเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉันปาวๆโดยไม่ดูสถานะของตัวเอง”
“ฉะ....ฉัน....ฉัน....ช่างมันเหอะ! นายไม่รู้จักฉันหรอก”
“ถ้าฉันไม่รู้จัก นายจะได้ย้ายเข้ามาที่นี่อย่างนั้นหรอ”
“หมายความว่ายังไง”
“นายเป็นของฉัน นับจากนี้และตลอดไป”
สิ้นเสียงทุ้มริมฝีปากหนาก็แนบเข้ากับริมฝีปากของร่างเล็กทันที ทงเฮยืนตัวแข็งด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลิ้นหนาแยงผ่านปากของร่างบางเข้าไปควานหาความหวานในปาก สองขาของร่างเล็กที่เคยคิดว่าจะสามารถประคองตัวเองให้ยืนได้ตลอดรอดฝั่งจนกว่าจะหลุดจากคนคนนี้ไปได้กลับค่อยๆทรุดลง ใบหน้าเล็กแหงนขึ้นเพราะร่างหนายังไม่ยอมถอนริมฝีปากออก แถมยังก้มตัวตามร่างเล็กที่ทรุดลงไปกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ผ่านไปได้ซักพักมือเล็กกลับมีเรี่ยวแรงอีกครั้งพลางทุบหน้าอกของร่างสูงราวกับจะประท้วงว่าเริ่มขาดอากาศหายใจ คนถูกทุบจึงค่อยๆถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งพลางจ้องมองคนที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยรอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆ ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความอาย ริมฝีปากบางเผยอออกเพราะแรงจูบที่ดุเดือดนั้นทำให้ปากบวมเจ่อ
“แฮ่ก///! นาย.....บ้าเอ๊ย!!!”
“เข้าใจรึยังว่านายเป็นของฉัน”
“ไม่! ไม่ใช่!! ฉันเป็นของฮยอกต่างหากล่ะและฮยอกก็เป็นของฉัน!”
“หึ! เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า เจ้านั่นน่ะหรอ ฮันคยองจองตัวไว้แล้วนะ”
“ฮันคยอง? แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฮยอกจะเป็นของหมอนั่นนี่! บอกไว้ก่อนเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเฟิร์สคิสยันร่างกาย ฉันอนุญาตให้เป็นของฮยอกแจเพียงคนเดียว!!”
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นฉัน!! เป็นของฮยอกแจ อีฮยอกแจเท่านั้น!!!!”
“จำชื่อคิมคิบอมไว้ให้ขึ้นใจ แล้วจำไว้อีกอย่างนึงว่า นับจากนี้นายไม่ใช่ของฮยอกแจหากแต่เป็นของคิมคิบอมคนนี้นับจากนี้และตลอดไป!!!”
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน......
พลันความคิดนี้พุ่งขึ้นสมองคนร่างอวบเล็กน้อยก็หันหน้าไปทางโจวคยูฮยอนที่กำลังยืนยิ้มกริ่มอย่างถือดี ชินดงหายไปจากห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมเพื่อนของตัวเองก็หายเข้าไปในห้องนั้นตั้งนานสองนาน เป็นอะไรไปรึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!!
“มองอะไรของนายน่ะ!?”
“หึ! เรื่องเมื่อคราวที่แล้วไง กำลังคิดว่าจะจัดการแบบไหนดี^^”
“จะ....จัดการ!! จัดการบ้าอะไร แกคิดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!!”
“ก็อย่างที่นายกำลังคิดอยู่นั่นแหละ ดูหน้านายตอนตกใจสิ น่ารักซะจริงๆนายรอดเงื้อมมือฉันไปได้ยังไงกันนะ”
ร่างเล็กตัวแข็งทื่อเมื่อจู่ๆมือหนาก็วางลงบนหัวแล้วลูบเบาๆ จะไม่ให้รอดได้ยังไงล่ะ! ในเมื่อเขาเองน่ะทำทุกวิถีทางที่จะได้ไม่เด่นและไม่ดัง จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับโจวคยูฮยอนเจ้าของฉายาหมาป่าจอมขย้ำแห่งมัธยมฮันวอง ตอนเช้าก็พยายามมาแต่เช้าหรือไม่ก็สายจนกว่าประตูรั้วระหว่างหอกับโรงเรียนจะปิด ตอนกลางวันก็รีบลงมากินข้าว หรือถ้าวันไหนเลิกเลทก็นั่งกินขนมปังอยู่บนห้อง วันๆแทบจะไม่ต้องพบปะกับใคร แต่ก็รู้เรื่องทุกอย่างในโรงเรียนเป็นอย่างดี
แล้วอย่างนี้คยูฮยอนจะเจอเขาได้ยังไงกัน!!
“พอ! พอได้แล้วน่ะ ฉันไม่ได้เหมือนกับคนที่นายเคยเจอมาหรอกนะ”
มือเล็กปัดมือหนาให้หลุดจากศรีษะของตนอย่างลนๆแล้วเดินหนีไปหลบหลังโต๊ะพลางภาวนาให้ทงเฮออกมาจากห้องนั้นเร็วๆ แต่พอได้ยินเสียงทุบประตูยิ่งทำให้ซองมินหวั่นใจก่อนจะก้าวยาวๆเพื่อไปเปิดประตู แต่ก็ถูกร่างสูงขวางไว้ทำให้ต้องกระโดดเหยงๆถอยกลับไปที่เดิม คนขวางถึงกับหลุดขำกับการกระทำของร่างเล็กตรงหน้าที่ดูแล้วเก้ๆกังๆ เพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้เวลาเห็นผมน่ะสิ
“ขำอะไร!!?”
“ก็ขำนายนั่นแหละ ทำไมต้องกระโดดถอยหลังด้วยล่ะ เดินไม่เป็นรึยังไง”
“ก็จู่ๆนายก็โผล่มา ฉันเลยลืมวิธีเดินถอยหลัง”
“ฮ่าๆๆๆๆ ลืมวิธีเดินถอยหลังงั้นหรอ”
“ก็เออน่ะสิ-_-///”
“ฮ่าๆๆ นายนี่มันกระต่ายจริงๆเลย”
“นี่!! ฉันไม่ใช่ตัวตลกของนายนะ”
คนตัวเล็กทำหน้าง้ำพลางชี้หน้าคนที่ยืนหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายให้หยุดขำซักทีเพราะดูเหมือนว่าจะหัวเราะต่อไปไม่หยุด ซองมินเหลือบไปเห็นหมอนอิงที่เก้าอี้ของใครบางคนก็คว้ามาแล้วยกขึ้นหมายจะทุ่มไปที่คนตัวใหญ่ ก่อนจะชะงักเมื่อมีผู้มาใหม่เดินเข้ามา คนตัวเล็กรีบเอาหมอนลงจากหัวเมื่อพบว่าเป็นรุ่นพี่อีทึกและรุ่นพี่คังอินที่เดินเข้ามาด้วยกัน ใครๆก็รู้ว่าสองคนนี้น่ะน่ากลัวจะตาย
“เฮ้คยู!! เด็กใหม่นายหรอ”
“ห๊ะO_o”
“ก็ไม่เชิงฮะ^^” ร่างผอมบางของรุ่นพี่อีทึกทักขึ้นพร้อมกับแย้มยิ้มที่เป็นมิตรมาให้ คำตอบของคนที่ถูกถามทำเอาคนฟังอย่างซองมินแทบอยากจะกระโดดเข้าไปขี่คอพร้อมกับทึ้งหัวซักทีสองที แต่ก็ติดตรงที่ว่ามีรุ่นพี่สองคนนี้อยู่ในห้อง เจ้าของใบหน้าสวยพาร่างของตัวเองมาหยุดอยู่ตรงหน้ารุ่นน้องคนใหม่ที่เอาแต่นิ่งพลางส่งยิ้มหวานให้อีกหนึ่งรอบ
“ไม่ต้องกลัวฉันหรอกนะ ถึงฉันจะอยู่ข้างนอกแล้วน่ากลัว แต่นั่นก็เป็นแค่รูปลักษณ์ภายนอก”
“อ่า.....ฮะ”
“แต่คนที่น่ากลัวจริงๆน่ะ เป็นคังอินต่างหาก”
“อีทึก-_- นายโบ้ยมาให้ฉันอีกแล้วนะ”
คนถูกดุส่งเสียงหัวเราะเบาๆในลำคออย่างพออกพอใจก่อนจะหันมามองร่างเล็กตรงหน้าที่ดูเหมือนว่าจะค่อยๆผ่อนคลายขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็ยังเกร็งๆบ้างเล็กน้อยเมื่อเขาหันไปมองหน้า ผู้เป็นรุ่นพี่เลยเอามือวางลงบนบ่าของผู้ที่เป็นรุ่นน้องเบาๆ
“ตัวสั่นเชียว โอเค! ฉันอีทึกนะ แล้วนายล่ะ”
“ผม....ซองมินครับ....อีซองมิน”
“แล้วนายได้ย้ายมาเรียนที่ห้องนี้หรอ?”
“ประมาณนั้นน่ะฮะ”
“งั้นก็ยินดีต้อนรับนะน้องชาย^^ คิบอมล่ะคยูฮยอน”
“ก็อยู่ในห้อง.....กับทงเฮ”
“อ้าว! ทงเฮมาถึงนานแล้วหรอ” ร่างเล็กที่ยืนฟังอยู่เผยสีหน้าประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยิน หมายความว่ายังไง? ทำไมคนพวกนี้ถึงรู้จักทงเฮได้ล่ะ?? ทั้งๆที่ทงเฮเป็นเด็กใหม่เนี่ยนะ???
ปัง!!!
จู่ๆประตูบานหนาก็ถูกเปิดออกโดยฝีมือของรุ่นพี่อีทึกคนเก่งเป็นจังหวะเดียวกันกับร่างเล็กที่กำลังจะหนีออกจากห้องทำให้ปะทะเข้ากับอกของผู้เปิดประตูทันที
“เฮ้ยๆ คิบอม ทำไมเจ้าตัวเล็กหนีหัวซุกหัวซุนอย่างนี้ล่ะ”
“ขะ....ขอโทษครับ อ๊ะ!”
“พี่คังอิน ดูพี่อีกทึกด้วย นี่คนของผม” ร่างหนาที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องตามกันก็คว้าเข้าที่เอวของร่างเล็กที่ผละออกจากรุ่นพี่ก่อนจะหันไปคาดโทษอีกคนหนึ่งที่ยืนเงียบอยู่มุมห้อง คนถูกดุก็ได้แต่ปรายตามองแล้วพยักหน้าเบาๆกับความเอาแต่ใจของรุ่นน้อง คนตัวเล็กพยายามดิ้นน้อยๆในอ้อมแขนแกร่งหมายจะหลุดจากการเกาะกุมและส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังเพื่อนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“ปล่อยผมนะ!”
“อยู่ข้างนอกแล้วพูดจาดีขึ้นนี่”
“ผมบอกให้ปล่อยไงเล่า!! แล้วนี่ไม่เรียนหนังสือรึไง เลยเวลาเรียนมาหลายนาทีแล้วนะ”
“รู้ได้ยังไงว่าที่นี่เริ่มเรียนกี่โมง”
“นี่!! ผมเองก็ต้องดูตารางสอนมาก่อนสิ”
“หึ! อยากเรียนมากว่างั้นเถอะ”
“ก็ใช่น่ะสิ!!!”
“วันนี้พอแค่นี้ละกันนะ ดูเหมือนว่าคุณอีทงเฮกับคุณอีซองมินจะไปไม่ไหวแล้ว”
สิ้นเสียงพูดของอาจารย์ เด็กใหม่ทั้งสองคนของห้อง Z ถึงกับฟุบหน้าลงกับโต๊ะราวกับจะบอกว่านี่เป็นเวลาที่รอคอยมานาน ทงเฮเงยหน้ามองเพื่อนเล็กน้อยก่อนจะวกกลับไปมองเนื้อหาวิชาวิทยาศาสตร์ที่เพิ่งเรียนไปเมื่อซักครู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊ค นี่มันเนื้อหาที่ปี 3 เรียนกันไม่ใช่รึไง!!!
“รุ่นพี่ ทำไมเนื้อหามันยากอย่างจังฮะ”
“ก็ต้องยากสิทงเฮ นี่มันเนื้อหาของปี 3 นะ”
“อ๊า ผมยังไม่ค่อยเข้าใจในเนื้อหาของปี 2 เลยนะ ทำไมผมต้องข้ามขั้นมาเรียนของปี 3 ด้วยTT”
“55+ ซองมิน พี่ว่าคยูฮยอนคงอยากติวเนื้อหาทั้งหมดให้นายล่ะ”
รุ่นพี่หน้าสวยหลุดขำเมื่อเจอสายตาของคยูฮยอนที่จ้องมายังเด็กใหม่ร่างอวบที่นั่งโอดครวญอยู่บนเก้าอี้ คนถูกแซวรีบส่งสายตาอาฆาตไปยังคนจ้องก่อนจะหันกลับไปมองหน้าเพื่อนสนิท
ในห้องมีโต๊ะว่างอยู่ 2 ตัวมีป้ายชื่อที่โต๊ะว่า 'ซีวอน' กับ 'ฮันคยอง' เมื่อร่างบางหันไปเห็นชื่อฮันคยองก็นึกหงุดหงิดพลางคิดไปถึงฮยอกแจที่ป่านนี้คงกลับบ้านไปแล้ว
ฉันคิดถึงนายจัง......
“พี่อีทึกฮะ คนที่ชื่อซีวอนกับฮันคยอง ทำไมไม่มาเรียนล่ะฮะ?”
“เพราะว่าสองคนนั้นไปที่โรงเรียนเก่านายไง เห็นว่าไปเฝ้าคนน่ะ”
“โรงเรียนผม? เฝ้าคน? ซองจินน่ะหรอ??”
“คิบอม-_- นายนี่มันแย่จริงๆ ไม่รู้จักแนะนำเพื่อนฝูงให้ทงเฮได้รู้จักเลยนะ”
“ไม่มีความจำเป็นอะไรนี่”
“แล้วย้ายฉันมาห้องนี้ทำไม!!”
“เพราะนายเป็นของฉันยังไงล่ะ” ร่างบางชักสีหน้าพลางลุกขึ้นยืนเพราะได้ยินคำพูดของคนแก้มป่องเมื่อครู่ที่ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของคนฟังแม้แต่น้อย รุ่นพี่เห็นบรรยากาศในห้องเริ่มไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง แต่ทว่าคนตัวเล็กที่ลุกขึ้นยืนนั้นกลับไม่ได้สนใจรุ่นพี่เลยแม้แต่นิดเดียว
“ฉันไม่ใช่ของนาย! บอกแล้วไงคิบอม คนที่มีสิทธิ์พูดประโยคนี้มีเพียงคนเดียว มีเพียงแค่อีฮยอกแจเท่านั้น!!”
“งั้นโทรสิ”
“ห๊ะ?....ได้! ฉันจะโทรเดี๋ยวนี้แหละ” คนถูกท้าทำหน้าตาเอ๋อเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์อย่างคล่องมือแล้วรอให้ปลายสายรับโทรศัพท์ เสียงสัญญาณดังซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะรับ ทำให้คนที่ถือโทรศัพท์ชักใจสั่น
คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอกนะ......ฮยอกแจ
[ฮัลโหล???]
“ฮยอก!! ทำไมนายรับสายฉันช้าแบบนี้ฮะ!”
[อ้อ...ขอโทษทีนะ ฮยอกกำลังอาบน้ำอยู่น่ะ]
“นายเป็นใคร”
[ผมฮันคยอง จากมัธยมฮันวองครับ ทงเฮ]
“นาย!!!!”
ตู๊ดๆๆๆ
จู่ๆปลายสายก็กดวาง ทงเฮมองโทรศัพท์ในมือก่อนจะตวัดสายตาไปมองเพื่อนของคนในสายเมื่อซักครู่อย่างเคืองๆ ร่างหนายังคงตีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้เรียกอารมณ์โกรธจากร่างเล็กได้เป็นอย่างดี แต่แทนที่คนโกรธจะวิ่งเข้าไปทุบทีกลับวิ่งหนีออกจากห้องไปซะอย่างนั้น ทำให้ซองมินต้องวิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว รุ่นพี่อีทึกหน้าสวยที่อยู่ในเหตุการณ์ทำหน้าเครียดก่อนจะหันไปพูดกับรุ่นน้องที่อยู่ในห้อง
“คิบอม”
“มีอะไร พี่ทึก”
“ดูท่าว่า ทงเฮคนนี้จะอ่อนไหวมากกว่าที่นายคิดซะอีกนะ”
----------------------------------------------------------------------------------------------------
รีไรท์ๆๆๆ เยอะมาก 55+ แต่พล็อตยังคงเดิมนะคะไม่ต้องตกใจ
แค่กำลังคิดว่า อะไรๆในตอนแรกมันดูจะไม่สอดคล้องกับเนือ้หาในตอนหลังๆเท่าไหร่
ฉะนั้น.....รีไรท์ตอนแรกดีกว่ารีไรท์ตอนหลัง เพราะตอนหลังมันเริ่มยาวขึ้นๆจนเยอะแยะมากมาย
แก้คำผิดด้วย แต่ดูผ่านๆเท่านั้นนะ= =
ขอร้องเหอะ!!! อย่าทำตัวเป็นนักอ่านเงา
ความคิดเห็น