ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Help i am a Girl ! Special !! : ตอนพิเศษ

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนพิเศษ - เที่ยวเกาะกูด ตอนสอง

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 52


    และเราก็มาถึงจนได้

    ตอนนี้พวกผมลงมาจากรถทัวร์หลังจากที่เหน็บกินเอวผมจนทำให้ผมเหมื่อยมาตั้งชั่วโมงกว่า

    ก็แม่ 2 คนนี้เล่นไม่ยอมออกจากตัวผมเลยอะ เกาะผมอยู่ได้ กลัวก็กลัว เหมื่อยก็เหมื่อย  ส่วนไอ้ต้ามันก็ดันใส่หนังผีไว้ในมือซ้ายของมันอีก

    "สนุกดีเนอะ หนังเรื่องเมื่อกี้" แมวบอกอย่างร่าเริง "แหม่ ตอนที่เหลือคนรอดชีวิตแค่ 4 คนนี้ มันช่างลุ้นดีจริงๆ"

    สนุกกับผีเธอเดะ ตูเหมื่อยจะตายอยู่แล้ว ผมเอามือกอดอกเพราะยังรู้สึกขนลุกไม่หาย กลัวก็กลัว ฮึ้ย

    รถทัวร์มาจอดตรงริมชายหาดที่หนึ่งที่ผมรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่จังหวัดตราดแล้ว พื้นถนนตอนนี้เป็นดินลูกรังหมด และมีที่จอดรถให้เป็นแนวๆ ที่ผมดูตอนนี้มีแค่รถกระบะโทรมๆสีขาวและมีลูกมะพร้าวกองอยู่เต็มหลังรถ คงไม่ใช่รถของนักท่องเที่ยวแน่ และเมื่อผมหันไปทางขวา ก็จะเจอเรือนรับรองที่หลังคาและที่จับทำด้วยไม้ ส่วนพื้นและเสานั้นโบกด้วยปูน ข้างในเรือนรับรองนั้นเป็นโต๊ะไม้และเก้าอี้พลาสติก และหากมองเลยไป ก็จะพบกับทะเล ส่วนด้านหลังผมนั้นเป็นถนนลาดยางที่เป็นถนน 2 เลน รอบข้างพวกเรานั้นเป็นต้นไม้รอมทะเลทั้งนั้นและไม่ค่อยมีบ้านคนเท่าไหร่

    ผมเดินตามซาระที่เธอเดินไปตรงเรือนรับรองที่มีพวกผมเดินเข้าไปข้างในก่อนแล้ว เรือนรับรองนักท่องเที่ยวที่ว่านี่คือเป็นเหมือนสถานที่ติดต่อสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปพักผ่อนที่เกาะกูด โดยแต่ละรีสอร์ทจะมีที่ไม่เหมือนกัน อย่างของผมนั้นก็จะต้องมาขึ้นเรือที่นี่ เรือนรับรองนี้ไม่มีประตูและหน้าต่าง ทั้ง 3 ด้านเปิดโล่งหมดยกเว้นทางขวาที่เป็นห้องเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ท ซึ่งทำออกมาเหมือนเค้าเตอร์ในโรงรับจำนำเลย ซาระนั้นเธอเดินไปยังส่วนนั้นเพื่อติดต่อว่าพวกผมมาแล้ว ส่วนผมนั้นเดินหรี่ไปตรงคนอื่นๆที่ลากเก้าอี้มานั่งล้อมวงกัน ต่างคนต่างขนกระเป๋าของตัวเองลงมาจากรถหมดแล้ว

    "นั่งรถมาสบายดีไหมครับ" หัวหน้าห้องบอกกับผม จะว่าไป ชายอยู่ที่ไหนหว่า ไม่ได้นั่งอยู่กับแถวๆนี้นิ

    "อืม ก็โอเค" ผมโกหกไปงั้น ต้องมานั่งทรมานกับหนังผีเป็นชั่วโมง จะออกก็ออกไม่ได้

    "แล้วนี่รออะไรกันเหรอ" ผมถามพลางมองหาสะพานปลาที่น่าจะมีเรือมารับ และเมื่อผมมองไปทางทะเลก็มีสะพานปลาจริงๆและมีเรือสปีดโบ๊ดจอดอยู่

    "ซาระกำลังติดต่อการเดินทางของพวกเราและขอฝากรถนะ" หัวหน้าห้องบอกพลางเดินเข้ามาใกล้ๆผม "คาดว่าคงใช้เวลาสักพักนะครับ"

    "เหรอ" ผมเริ่มมองหัวหน้าอย่างสงสัย เพราะเขาเดินมาหาผมใกล้ๆ "แล้ว ไหงต้องเดินมาใกล้ๆเราหละเนี่ย"

    "เปล่าครับ" หัวหน้าห้องยิ้ม "ไม่มีอะไร"

    เขายืมมองใบหน้าของผมสักพักแล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้ผมมองอย่างงุงงง

    ผมมองไปทางขวาที่จะมีโต๊ะเครื่องดื่ม มีกระติกนํ้าร้อน เครื่องกรองกาแฟ บนถาดนั้นมีซองกาแฟและโอวัณตีนอยู่พร้อมนํ้าตาลและครีมเทียม และทางซ้ายนั้น ชายกำลังถือด้วยกาแฟและเอาแขนขวาวางบนขอบไม้ของเรือนรับรองอยู่ หน้าของเขาหันมองออกไปที่ทะเล ผมเดินไปอยู่ทางซ้ายของเขา

    "กาแฟนี่กินได้เหรอ ชาย" ผมถามชายและเอาแขนทั้ง 2 ข้างท้าวที่ขอบไม้ของเรือนรับรองบ้าง ชายสะดุ้งตัวออกมาเล็กน้อย

    "กินได้มิ้น" ชายบอกและพยายามไม่สบตากับผม ผมเริ่มมองชายอย่างสงสัย

    "เป็นอะไรไปเปล่า ชาย" ผมถามชายอย่างไม่มั่นใจ และตอนนั้นเอง หางตาของผมมองเหลือบไปข้างหลังที่ต้ากับจ๋าเริ่มมองผมแปลกๆ ฝนและคนอื่นๆเล่นไพ่อูโน่กัน ส่วนหัวหน้าห้องนั้นเริ่มมองมาที่ผมอย่างวิเคราะห์

    "นพ" ชายแอบพูดเสียงเบาๆมาหาผม "หัวหน้าห้องสงสัยคุณแล้วนะ"

    ผมมองไปที่หัวหน้าห้องตาโตด้วยความตกใจ เฮ้ย จริงเด๊ะ

    "ได้ไง" ผมถามชายเบาๆบ้าง "อย่าบอกนะว่าความแตกแล้ว"

    "ไม่รู้เหมือนกันนะว่าความแตกยัง" ชายที่ยังคงมองไปยังทะเลทำหน้าเครียดๆ "แต่หัวหน้าห้องเขาสงสัยที่ผมสามารถมาคุยกับคุณได้โดยไม่เขินอายนี่สิ"

    บรรลัยแล้วงานนี้

    "แล้ว" ผมรีบถามชายต่อด้วยเสียงที่เหมือนกระซิบ "นายบอกเขาไปเปล่าเนี่ย"

    "ผมบอกแค่ว่าผมรู้จักกับมิ้นมาตอนสมัยอนุบาล ทำให้ผมสนิทกับคุณเร็วขึ้น" ชายบอกผมอย่างเคร่งเครียด "แต่ดูเหมือนเขาไม่เชื่อ เขาพยายามคั้นถามจากผม ผมเลยบอกเหมือนเรื่องเล่นๆว่านายเคยเป็นผู้ชายมาก่อน ตอนแรกๆหัวหน้าเขาก็ไม่เชื่อหรอก ผมก็บอกไปอีกว่า นั่นสินะ ใครเชื่อก็บ้าแล้ว"

    ผมพยายามสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ให้หันไปมองหัวหน้าห้องที่กำลังมองมาที่ผมอยู่

    "มิน่า ทำไมหัวหน้าห้องถึงมองฉันแปลกๆ" ผมบอกไปอย่างอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก

    "นพ" ชายบอกผม "ช่วงที่มาเที่ยวนี้ ช่วยทำตัวให้เป็น มิ้น ละกันนะ พยายามอย่าให้ตัวเองหลุดมาว่าตัวเองเป็นผู้ชายละกัน" ชายบอกพลางค่อยๆเขยิบตัวหนี

    "เข้าใจละ" ผมรับปาก "ว่าแต่ ทำไมนายต้องค่อยๆหนีจากฉันด้วยหละเนี่ย"

    "ฉันพยายามคิดว่านายไม่ใช่นพ แต่เป็นมิ้นไง" ชายบอกแล้วพยายามตีสีหน้าอายๆ "เลยต้องคิดว่านายเป็นผู้หญิงคนหนึ่งด้วย และตอนนี้เลยต้องทำตัวอายๆเข้าไว้"

    "คุยอะไรกันอยู่เหรอ" จ๋าเดินเข้ามาหาผมทันที ซึ่งชายสะดุ้งออกมา

    "อ๋อ" ผมหันหน้ามามองจ๋าที ชายที และวิวที่เป็นทะเลที "อ๋อ คือ เราไม่เคยดำนํ้านะ เลยถามชายว่าดำนํ้าเขาต้องทำยังไงบ้าง"

    "ชะ ใช่ๆ" ชายบอกไปก้มหน้าไปและหน้าเริ่มแดงไป ผมแหล่สายตามามองหัวหน้าห้องทีนึง เขาก็ยังคงมองมาที่ผมอย่างสงสัย

    "งั้นเดี๋ยว" หัวหน้าห้องเดินมาบอกแล้วพูดบ้าง "เดี๋ยวถึงเวลาดำนํ้าจริงๆ เดี๋ยวผมสอนให้นะครับ" หัวหน้าห้องมองมาที่ผมอย่างเจ้าเล่ห์ "ใส่ชุดว่ายนํ้ามาด้วยนะครับ"

    โดยปกติแล้วผมจะเฉยๆไว้ แต่เราต้องทำตัวให้เป็นผู้หญิง ทำตัวให้เป็นผู้หญิงไว้

    "บะ บ้า" ผมพยายามพูดออกมาอย่างเอียงอาย "หัวหน้าทะลึ่งอ่า"

    "ไม่ทะลึ่งหรอก" หัวหน้าห้องมองมาตรงหน้าของผมราวกับเขากำลังเอกเรย์ตัวของผมอยู่ "มิ้นออกจะ Sexy ปานนี้"

    เข้าใจละ ถ้าฉันเป็นผู้หญิงจริงๆป่านนี้ก็ต้องเขินอายขึ้นมาสินะ ผมคิดออก ดีหละ ตามที่นายต้องการ หัวหน้าห้อง

    ผมตีสีหน้าออกมาอายๆและปั้นหน้าตัวเองให้เขินสุดๆเพื่อให้หน้าของผมแดงออกมา

    "พะ พูดอะไรก็ไม่รู้" ผมพึมพำตอบหัวหน้าเขา

    เขามองผมอย่างครุ่นคิดสักพัก

    "เฮ้ยๆๆ" ต้าเดินเข้ามาแทรกระหว่างตัวของผมกับหัวหน้าห้องให้แยกออกจากกัน "ทำไมนายถึงถามแบบนี้หละพงษ์"

    "เปล๊า" เขาตอบมาอย่างกวนๆ

    "คนทีจะถามแบบนั้นได้ ต้องเป็นฉันเท่านั้น" ต้าบอกออกมา "ดังนั้น อย่างที่รู้ ช่วยใส่ทูพีชมาด้วยนะค้าบ"

    เหอๆ ทีเรื่องมกๆนี่เชี่ยวชาญจังนะเอ็งเนี่ยไอ้ต้า  ผมเกือบตีบทไม่แตกก็เพราะต้ามาเนี่ยแหละ ว่าแต่ ชุดว่ายนํ้าทูพีชมันเป็นยังไงอะ ไม่เคยเห็น

    "ซาระเองก็อยากเห็นนะคะ" ซาระเดินมาบอก "เดี๋ยวพี่ๆเขาบอกว่าเรือกำลังเติมนํ้ามันอยู่ รอสักแปบเดี๋ยวก็ออกเรือแล้วคร่า "

    ผมหันไปมองเรือสปีดโบ๊ดที่มีเจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุดชาวบ้าน 2 -  3 คนอยู่และมีถังนํ้ามันอยู่บนสะพานปลา คงใกล้ได้เวลาแล้วสินะ

    ชายค่อยๆเดินเลี่ยงผมไปยังโต๊ะที่พวกฝนกำลังเล่นไพ่อูโน่กันอยู่ โดยเขานั่งข้างๆเทรนแทนที่จะไปนั่งกับพวกสาวๆ ผมเดินไปตรงตำแหน่งที่ชายยืนอยู่เมื่อกี้และมองไปยังวิวทะเลและก็มองไปยังทะเล ผมมองไปยังเบื้องหน้าเพื่อพยายามไม่คิดมากและดูสถานที่ปลายทางที่พวกผมจะไปกัน จากด้านหน้าของผมนั้นผมเห็นแค่ทะเลกับขอบฟ้าเท่านั้น ผมสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิและไอเค็มจากทะเลเข้าปอด

    "ซ้อมหอมแก้มกับผมเหรอครับ" ต้าโผล่หน้ามาข้างขวาของผมแล้วบอกข้างๆหูขวาของผม

    "เว้ยย !!" ผมร้องลั่นออกมาอย่างตกใจพลางเอามือซ้ายตบไปที่แก้มของต้าเต็มแรง เขาเอามือขวาของเขาจับที่แก้มของเขาที่ผมตบไป

    "อุ้ย ผู้หญิงตบ แสดงว่า ผู้หญิงรัก " ต้าบอกออกมาอย่างได้ใจ

    "คิดบ้าๆไรของแกฟะ " ผมพูดใส่มันอย่างฉุนกึก

    เอ๊ะ จะว่าไป นี่ก็เป็นครั้งแรกนี่หว่าที่เราตบหน้าไอ้ต้าแบบนี้ มือของผมเริ่มมีความรู้สึกชาจนผมรู้ตัว อ๊า ไม่นะ นี่เราคิดบ้าๆอะไรของเราเนี่ย

    "ทุกคน" ซาระโบกมืออยู่ข้างนอกเรือนรับรอง "ลงเรือได้แล้วคะ"

    ผมเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางของผมแล้วก็เดินไปหาซาระพร้อมกับคนอื่นๆทันทีโดยไม่สนใจเจ้าต้ามัน เหอๆ

    ผมเดินตามซาระไป ทางเดินที่พวกผมเดินนั้นเปลี่ยนจากถนนดินลูกรังไปเป็นสะพานไม้ ข้างขวาของผมก็คือทางที่พวกผมผ่านมาและเป็นเรือนรับรองที่พวกผมไปรอซาระกันเมื่อกี้ และทางซ้ายนั้นก็เป็นบ้านของชาวประมงแถวๆนี้ ผมเดินตามซาระและฝนที่เดินนำไปก่อนแล้วไปตามทาง รอบข้างทางพวกผมพื้นดินเริ่มลดลงเรื่อยๆและมีนํ้าทะเลมาปกคลุมแทน พื้นดินใต้สะพานปลานั้นเปลี่ยนจากหินและทรายเป็นนํ้าทะเลสีนํ้าเงินสดใส และเบื้องหน้าของพวกเรานั้นคือทะเลกว้างใหญ่ ลมทะเลพัดตีเข้าหน้าของพวกเราจนเสียงลมกึกก้องอยู่ในหูของพวกเรา

    เส้นผมที่สยายยาวของผมปลิวไปข้างหลังตามลม ผมหลับตารับลมทะเลอย่างสบายใจ ลมเย็นมากทั้งๆที่แดดส่องใส่พวกเราเปรี้ยงๆ ผมหันไปมองดูผิวนํ้าทะเลที่เป็นระลอกคลื่นตามลมมาแล้วอยากลงไปว่ายนํ้าเล่นเสียจริงๆ มองเบี่ยงตรงมาทางซ้ายหน่อยก็จะมีเรือสปีดโบ๊ดที่เทียบท่าลอยอยู่บนนํ้าทะเลเพื่อต้อนรับพวกเราอยู่

    "มากันแล้วสินะครับ" เจ้าหน้าที่รีสอร์ทที่น่าเป็นคนนำทางพวกเรายืนอยู่บนเรือ "ผมชื่อว่า ชัย เป็นคนจากรีสอร์ทมาต้อนรับพวกคุณครับ"

    ผมไปตรงขอบสะพานไม้ที่อยู่ทางซ้ายมือ ข้างล่างจากผมไปสักบันไดประมาณ 6 - 7 ขั้น ก็เป็นที่นั่งของเรือสปีดโบ๊ดข้างหน้า ซาระเดินไปก่อนคนแรกโดยการเอาเท้าเหยียบลงบนที่นั่งแทนบันไดแล้วเธอก็มุดหัวลงไปข้างใน (เรือสปีดโบ๊ดจะมีทางเข้าที่ข้างบนเป็นหลังคา ต้องก้มหัวลอดลงไป) และฝนก็ลงไป แล้วก็ตาผมลงไป ผมเดินลอดเข้าไปข้างในก็พบที่นั่งที่นั่งได้ประมาณ 2 - 3 คน อยู่ 2 ข้างซ้ายขวาเป็นแถวๆ ยกเว้นแถวแรกทางซ้ายที่ไม่มีเพราะเป็นที่นั่งคนขับเรือและก็มีคนขับเรือนั่งอยู่แล้ว จึงมีที่นั่งอยู่ทั้งหมด 6 แถว รวมข้างหลังสุดที่ทำเหมือนที่นั่งรถเมล์

    เมื่อคนอื่นๆลงมาครบแล้ว เจ้าหน้ารีสอร์ทก็แก้เชือกที่มัดเรือกับเสาบนสะพานปลาออกแล้วเขาก็กระโดดลงมาที่เรือเลย

    "โอเค จากนี้ไปชั่วโมงนึงเราจะไปถึงที่เกาะกูดนะครับ" เขาลอดหัวเข้ามาโดยที่ตัวของเขายังอยู่พื้นที่ด้านหน้าของเรือที่ไม่มีหลังคา "ครบทุกคนนะครับ"

    "ครบครับ" หัวหน้าห้องบอกพลางมองไปยังรอบๆ ส่วนตัวของผมนั้นนั่งอยู่กับฝนและซาระเบาะหลังสุดเรียบร้อยแล้ว

    "งั้น ออกเรือเลย" เขาพยักหน้าให้กับลุงที่เป็นคนขับเรือ เขาหมุนกุญแจเดินเครื่องยนต์ เสียงเครื่องดังขึ้นรอบๆพวกเราถึงจะไม่ดังมากก็ตาม และตัวของเรือก็สั่นเล็กน้อย เขารอให้หัวเรือค่อยๆหันหน้าออกมาจากสะพานปลาและหันหน้าไปทางทะเล แล้วเขาก็เดินเครื่อง เรือก็ค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ผมหันหลังไปมองอย่างตื่นเต้น คลื่นนํ้าทะเลแตะกระจายไป 2 ข้างทางข้างหลังเรือเพราะใบพัดเครื่องยนต์ของเรือทำงาน คลื่นนํ้าแยกออกมาเป็น 2 ข้างและมีฟองอากาศลอยอยู่เต็ม แผ่นดินเริ่มค่อยๆลับลอยห่างออกจาก ผมยื่นมือไปข้างหลังอย่างตื่นเต้นราวกับผมจะคว้าจับนํ้าทะเลที่กระเด็นออกมา

     

    (30 นาทีผ่านไป)

    ผมนั่งหลับตาเพื่อพยายามหาเรื่องหลับ แต่ก็ไม่หลับซะที เพราะเสียงเครื่องยนต์มันดังมาก

    เหมือนฝนและซาระเธอก็เบื่อๆเหมือนกัน เธอเริ่มมองไปยังวิวอย่างใจลอย ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากท้องฟ้าและทะเล

    "มิ้น" หัวหน้าห้องถามผม "ลองไปรับลมข้างหน้าเรือดีไหม"

    "อืมเอาสิ" ผมตอบรับอย่างเห็นด้วย นั่งอยู่เฉยๆมันก็น่าเบื่อเหมือนกัน ผมเดินไปข้างหน้าเรือตามหัวหน้าไปที่มีเทรนและแมวกับชายยืนรับลมอยู่

    ผมเอามือไปเกาะตรงขอบหน้าสุดของเรือที่ไม่มีใครยืน ผมหลับตารับผมเรื่อยๆอย่างสบายใจ ถึงแดดจะส่องมาตรงหัวพวกผมก็ตาม แต่ลมเหนือผืนนํ้าทะเลที่ตีเข้ามาหน้าของผมนี่กลับทำให้ผมกระปี้ประเปร่ามาก

    "ลมเย็นดีนะครับ มิ้น" เทรนบอกกับผม ผมยิ้มไปอย่างเห็นด้วย

    "แล้วนั่น ถึงเกาะกูดแล้วเหรอ" แมวยื่นมือไปทางหน้า เพราะเห็นเกาะอยู่ลับๆ

    "อ๋อ ไม่ใช่ครับ" คนจากรีสอร์ทเดินมาบอกพวกผม "นั่นเป็นเกาะช้างนะครับ อีก 30 นาทีถึงจะถึงเกาะกูดนะครับ"

    ผมมองไปยังเกาะช้าง ดูขนาดความใหญ่โตของมัน เกาะช้างผมเองก็ไม่เคยไป สงสัยเพราะความใหญ่ของมันนี่เองที่ทำให้คนเรียกมันว่าเกาะช้าง

    "เอาหละ" ต้าเดินลอดหัวออกมา "ถ่ายรูปกันหน่อยไหมพวกเรา"

    "เอาสิ" แมวออกมายืนโชว์หน้ากล้อง ต้ากดถ่ายรูปเดี่ยวให้เธอ

    "ถ้าจะออกมาถ่ายรูป ให้ออกมาทีละคนนะครับ" คนจากรีสอร์ทบอก "เพราะถ้าออกมาหมดทุกคน เดี๋ยวเรือจะเอียงครับ"

    "ได้ครับ" หัวหน้าห้องบอกพลางยืนเต๊ะท่าและจับไหล่เทรนเอาไว้ ซึ่งเขาก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี

    "เอาหละ" ต้าบอกพลางลดกล้องลงเมื่อถ่ายหัวหน้าห้องกับเทรนเสร็จ "หัวหน้า มาถ่ายฉันคู่กับมิ้นที"

    "เฮ้ย" ผมอุทานไปอย่างไม่ชอบใจ "ทำไมฉันต้องมาถ่ายคู่กับนายด้วยหละเนี่ย"

    "เอาหน่า มิ้น" ต้าบอกออกมา "ผมไม่ได้ข่มขืนคุณสักหน่อย"

    เหอๆ แต่มันก็จริงวุ้ย แค่ถ่ายรูปเอง คิดมากไปได้ ผมจำใจเดินเข้าไปหาต้าอย่างไม่เต็มใจนัก

    ผมหันหลังกลับมาหาหัวหน้าห้องที่ยกกล้องถ่ายรูปขึ้นเพื่อเตรียมถ่าย ต้าเดินมาทางขวาของผมทันที

    "ขออนุญาติโอบไหล่หน่อยนะครับ" ต้าบอกออกมาพลางยกมือซ้ายขึ้นและนิ้วมือซ้ายนั้นเริ่มทำท่าจับอากาศ

    "หาเรื่องแต๊ะอั๋งฉันอีกอะดิ" ผมถามมันไปราวกับผมอ่านใจเขาออก "ไม่ให้หรอก"

    "โถ่ จับไหล่ก็ไม่ได้"

    "ไม่ให้ มีไรปะ"

    "ขี้งก" ต้าบอกออกมา

    "เอาหละ จะถ่ายหละนะ" หัวหน้าห้องบอก ผมยืนเอามือไขว้ไปข้างหลังและยิ้มรับกล้อง ส่วนต้านั้นเอามือข้างขวาจับขอบของเรือไว้ "ยิ้มนะ"

    ผมมองไปยังกล้องเพื่อเตรียมถ่ายภาพ

    "3..2..1" หัวหน้านับ

    ทันใดนั้น มือซ้ายของต้ามาโอบไหล่ผมแล้วก็ดึงร่างของผมไปแนบติดกับตัวของต้าตรงส่วนแผ่นอกของเขาพอดี

    เฮ้ย ไอ้บ้า !!

    "แซะ !" เสียงกล้องดังขึ้น "ถ่ายแล้วนะครับ"

    "เฮ้ย ไอ้หัวหน้า ถ่ายจริงๆเหรอเนี่ย !!" ผมร้องถามออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน

    "อือ หน้าของมิ้นแดงน่ารักดีออก" หัวหน้าห้องบอก หน้าของผมร้อนฉ่าออกมาทันทีเมื่อรู้ตัวว่าหน้าของผมแดงออกมาด้วยความตกใจปนอายนิดๆ

    "แหม่" ต้ายิ้มออกมา "รูปนั้นจะน่ารักขนาดไหนน้า "

    ผมรีบเอามือผลักตัวของต้าเพื่อดันตัวเองออกมา

    "แหม่ หน้าแดงใหญ่เลยมิ้นจัง" แมวล้อเลียนผม

    ถึงผมจะไม่รู้สึกอะไรกับไอ้ต้าก็ตาม แต่ทำไมเราถึงรู้สึกอายแบบนี้วะเนี่ย อ๊ากกก

    "รีบลบรูปนั้นออกเดี๋ยวนี้เลยนะ" ผมร้องลั่นหาหัวหน้าที่เพิ่งคืนกล้องให้ต้าไป

    "ไม่ได้หรอก มิ้น" หัวหน้าห้องยิ้มบอกผมอย่างเจ้าเล่ห์ "กล้องนี่มันกล้องฟิล์มนะครับ"

    "หา อะไรนะ !!"

    "เดี๋ยวผมจะเอาไปล้างแล้วขยายรูปแล้วขออนุญาติเอาไปแปะห้องผมนะครับ" ต้าบอกออกมาอย่างดีใจ

    "เฮ้ย ไอ้บ้า กลับมานี่นะ !"

    ผมร้องใส่มัน ซึ่งมันก็ก้มหัวลอดขอบเรือเข้าไปข้างใน ผมเดินตามมันไปโดยไม่ดู จนหัวของผมไปโขกกับขอบเรือที่ว่านั่น

    "โอ้ย !" ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ อูย โนเลยมั้งเนี่ย

    "อุ้ย สีหน้าคุณมิ้นตอนเจ็บปวดช่างน่ารักอะไรแบบนี้ ขอถ่ายภาพตอนนี้เก็บไว้ได้ไหมครับ " ต้าบอกพลางยกกล้องขึ้นมา

    "ผลักแกตกทะเลเลยดีไหมเนี่ย" ผมเอามือซ้ายที่จับหัวของผมที่ชนกับขอบเมื่อกี้แล้วก็เดินไล่ตามมันไปข้างหลังของเรือ

    หัวหน้าห้องมองมาที่ผมอย่างวิเคราะห์

    สงสัยเราจะคิดไปเองแฮะที่คิดว่ามิ้นเคยเป็นผู้ชายมาก่อน หัวหน้าห้องคิดในใจ คงไม่มีอะไรมั้ง

    ชายมองมาที่หัวหน้าห้องอย่างละแวงนิดๆแล้วก็หันหน้าออกไปทางทะเลและถอนหายใจอย่างโล่งอก

     

    --------------------

     

    หลังจากครบ 1 ชั่วโมงแล้ว สีนํ้าทะเลเริ่มเปลี่ยนจากสีเข้มเป็นเริ่มใสจนมองเห็นพื้นทราย ข้างหน้าของพวกเราก็เป็นเกาะ เป้าหมายของพวกเรา เรือลัดเลาะพาเราเข้าไปในทางเข้าที่เหมือนกับเป็นซอยเข้าไป จำนวนต้นมะพร้าวก็มากขึ้น นํ้าทะเลที่เข้ามาในทางเข้าเกาะนั้นเริ่มเปลี่ยนสีจากสีฟ้าใสเป็นสีออกดำๆเหมือนสีนํ้าคลอง ผมมองไปรอบๆอย่างสนใจ มีรีสอร์ทบางทีมีท่าขึ้นไปข้างบนและข้างหน้าของเรือนั้นก็เป็นทางเข้าไปเหมือนคลองไม่มีผิด

    "ในนี้เขาเรียกว่า คลองเจ้า ครับ" คนจากรีสอร์ทบอก

    ความเร็วของเรือค่อยๆลดความเร็วลงและไปจอดอยู่ที่หน้าท่าเรือที่หนึ่งที่มีบันไดให้

    "ถึงแล้วครับ" คนที่มาจากรีสอร์ทบอกเมื่อเสียงเครื่องยนต์ของเรือดับลง "ก้าวระวังนะครับ"

    ผมลุกขึ้นเพื่อเตรียมขึ้นเรือ เนื่องจากผม ฝนและซาระอยู่หลังสุด เลยต้องรอให้คนอื่นๆก้าวขึ้นไปก่อน

    และเมื่อผมขึ้นไปบนท่าเรือ ก็ปรากฎเป็นทางเข้ารีสอร์ท มีป้ายชื่อรีสอร์ทอยู่ข้างซ้ายพวกผม และทางเข้านั้นก็เป็นทางเดินหลังคาปูด้วยไม้และมีเศษก้านใบมะพร้าวติดอยู่ ผมมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น เหมือนบริเวณที่ผมอยู่นั้นไม่ได้มาเที่ยวทะเลเลย เหมือนมาเที่ยวตามป่าธรรมชาติริมคลองมากกว่า

    "เอาหละ" ซาระบอก "เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันก่อนนะ"

    คนของรีสอร์ทนำทางพวกผมเข้าไปข้างในและเลี้ยวขาวไปซึ่งน่าจะเป็นร้านอาหาร เป็นร้านอาหารที่เหมือนจะยื่นตัวเข้าไปในป่า พื้นร้านยกตัวสูงจากพื้นดินเล็กน้อยและทำด้วยไม้ทั้งหมดตั้งแต่พื้น เสายันหลังคา มีโต๊ะทานอาหารอยู่เรียงรายกันไปและมีเก้าอี้พลาสติกอยู่ และบนโต๊ะก็มีอาหารทะเลตั้งอยู่ ผมมองไปด้วยความหิวและอยากกินและเพิ่งรู้ว่าท้องของผมนั้นหิวแค่ไหน

    อาหารเที่ยงนี้มีทั้งปูผัดผงกระหรี่ , ต้มยำโป๊ะแตกนํ้าใส , ข้าวผัดกุ้งโถโตๆ , ปลาทอดตัวใหญ่ และอื่นๆที่ผมไม่สนใจ ไปถึงคว้าจานมากินทันที

    ทุกคนกินอาหารกันเงียบๆ โดยเมื่อทุกคนกินเสร็จแล้ว ซาระเดินไปรับกุญแจห้องมาจากพนักงาน

    "จะนอนแยกบังกะโลนะคะ" ซาระบอก "จะมีบังกะโล 2 หลังคะ"

    ซาระยื่นกุญแจให้หัวหน้าห้องไปดอกนึง ส่วนผมนั้นคิดในใจอย่างโล่งอกเล็กๆหน่อยที่นอนแยกกับผู้ชาย (แยกห่างจากไอ้ต้า ) แต่ต้องมานอนบ้านพักหลังเดียวกันฝนเนี่ยนะ อ๊า จะทำยังดี

    เมื่อพวกเรากินอาหารกันเสร็จ พวกเราก็เดินตามพนักงานรีสอร์ทไปยังบ้านพักบังกะโลที่ตั้งเป็นหลังๆ เป็นบ้านพักที่เหมือนปูฐานและเสาด้วยปูน ส่วนกำแพงและหลังคาทำด้วยไม้ เป็นบ้านพักยกสูงจากพื้นดินนิดหน่อยและพื้นระเบียงทำด้วยไม้ เห็นมีเปลผ้าสีขาวแขวนไว้อยู่

    "ผู้หญิงจะนอนที่หลังนี้นะคะ" พนักงานรีสอร์ทบอก "ส่วนผู้ชายหลังนั้นคะ" พยักงานชี้ไปยังบังกะโลอีกหลังที่อยู่ถัดไป

    "เดียวตอนประมาณบ่าย 3 โมง จะพาไปเที่ยวที่นํ้าตกคลองเจ้านะครับ" คนที่มาจากรีสอร์ทคนแรกบอก "ตอนนี้พักผ่อนตามอัธยาศัยครับ"

    "ขอบคุณมากคะ" ฝนบอก ส่วนแมวนั้นมองไปทางผู้ชายอย่างไม่ไว้วางใจ

    "ห้ามแอบเข้ามาเด็ดขาดเลยนะ" เธอชี้ไปยังต้าคนเดียวที่เขามองมาที่แมวอย่างตะลึง "ไม่งั้น ตาย"

    "กรรม แล้วไหงต้องบอกฉันคนเดียวหละเนี่ย" ต้าถามอย่างสงสัย"

    "ถามได้ แกมันไอ้ตัวลามกไง"

    "อือ ใจร้าย ว่าเค้า"

    อืมๆ ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

    พนักงานรีสอร์ทเดินนำพากลุ่มผู้ชายไปยังบังกะโลอีกหลัง ส่วนทางกลุ่มสาวๆอย่างพวกผมนั้น ซาระเธอเดินนำขึ้นบันไดไปยังระเบียงหน้าห้องพักก่อนคนแรก พวกผมเดินตามไปแล้วก็ถอดรองเท้าไว้หน้าห้องแล้วก็เปิดประตูมุ้งลวดเดินไปสำรวจในห้องพักของพวกเรา

    มีเตียงแบบนอนกับพื้นอยู่ 4 ที่ พื้นที่ห้องพักนั้นไม่มีแอร์ แต่มีพัดลมตั้งพื้นอยู่ตัวเดียว

    เวรแล้ว ร้อนแบบนี้จะนอนกันได้ไหมเนี่ย ผมมองไปรอบห้อง แถมมีหน้าต่างแค่ 4 บานเอง

    "ว้าว" ซาระมองไปรอบๆ "เหมือนฟูกเลยอ่า"

    "ฟูก ?" ผมทวนคำไปอย่างไม่เข้าใจ

    "ที่นอนแบบญี่ปุ่นนะ" จ๋าอธิบายให้ผมฟัง ผมมองไปยังฟูกที่ซาระเธอเดินไปนั่งอย่างเข้าใจ

    หือ แบบนี้เราก็ต้องนอนรวมกับสาวๆแบบนี้เหรอ ผมมองไปรอบๆ แล้วฟูกมีแค่ 4 ฟูก แล้วจะนอนกันยังไงละเนี่ย อย่าบอกนะว่า....

    "เดี๋ยวซาระบอกให้พี่เขาเอาที่นอนมาเพิ่มนะคะ" ซาระบอก เพราะพวกเราสาวๆ (ผมคนเดียวที่ไม่ใช่สาว) ก็มีกัน 6 คน พื้นที่พอนอนกันอยู่หรอกนะ

    "งั้นฉันขอนอนริมห้องละกัน" ผมบอกพลางเดินไปตรงริมห้องในสุด เพราะไม่อยากนอนท่ามกลางสาวๆเลยนี่สิ

    ผมวางกระเป๋าลงแล้วก็เดินออกไปดูห้องนํ้า เพราะห้องนํ้านั้นอยู่ข้างนอกระเบียงห้องพัก ผมผลักประตูมุ้งลวดออกไปซึ่งทางขวาจากประตูห้องพักก็เป็นห้องนํ้า ผมผลักประตูเข้าไป

    เป็นห้องนํ้าที่หรูมาก มีบันไดไม้ลงไป 3 - 4 ขั้น พื้นห้องนํ้าเป็นหินแบนเรียบแบบหินตามนํ้าตก เหยียบไปแล้วไม่เจ็บเท้าและมีถังที่ทำจากไม้อย่างหรูเป็นถังนํ้าไว้ตักอาบ มีขันพลาสติกให้ และก็มีต้นไม้อยู่กระถางนึงด้วย กำแพงห้องนํ้านี่เป็นแบบ ปูนแล้วฝังหินลงไป อย่างกับห้องนํ้าสปา แต่ดูไปดูมามันหรูกว่าห้องนอนอีกนะ

    "ว้าว" ฟ้าอุทานออกมาอย่างชื่นชม "สวยมากเลยอะ"

    "หา" จ๋าร้องออกมา "นี่เวลาเราจะอาบนํ้า ก็ต้องเดินออกมาตรงระเบียงหน้าห้องพักเหรอเนี่ย"

    ผมเดินออกมาตรงระเบียงแล้วมองไปยังบังกะโลที่กลุ่มผู้ชายไปนอนกัน ถึงจะมีต้นมะพร้าวบังให้ 1 - 2 ต้น แต่มันก็ยังแอบมองได้มั้งเนี่ย

    "นี่ เราต้องระวังไอ้พวกลามกให้ดีๆนะ" แมวบอก "ถ้าเจอเข้าแม่จะตัดหัวเสียบประจานเลย"

    จะเอาไปบูชายัญเหรอเธอ ผมดูสีหน้าที่เหี้ยมโหดของแมว

    ผมเดินไปตรงขอบระเบียงห้องพักที่ทำด้วยไม้และมองไปข้างหน้าที่เป็นต้นไม้และหลังต้นไม้ก็เป็นร้านอาหาร ผมสูดหายใจเอาอากาศดีๆแบบนี้เข้าปอดอีกครั้ง และตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่บนเกาะกูด สถานที่เงียบสงบและห่างไกลจากตัวเมืองที่แสนวุ่นวาย

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×