คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 :: ทางเลือก
ตอนที่ 3 ทางเลือก
Happiness or pain
เช้าอรุณของวันใหม่เริ่มต้นขึ้นอีกครา
และก็เป็นปกติ
ที่ลี ฮยอกแจคนขี้เซาจะตื่นสายเป็นประจำ
“อ้าว ลมฟ้าลมฝนหอบคุณหนูมาเหรอคะเนี่ย ทำไมวันนี้ถึงตื่นเช้าจัง” ป้าโซอาทักขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กที่คุ้นเคยกำลังขมักเขม่นกับการทำอาหารเช้าในห้องครัว มือเรียวที่กำลังหั่นผักจึงหยุดชะงักพร้อม ๆ กับใบหน้าหวานที่หันมาทางผู้มาใหม่
“ง่า ก็วันนี้โรงเรียนหยุดด้วยนี่ครับป้าโซอา ผมอยากจะลองทำอาหารเองด้วย” ฮยอกแจตอบด้วยท่าทีเง้างอน
“โอ๋ ๆๆ ป้าแค่ทักไปแค่นั้นเองแหละค่ะ คุณหนูจะทำข้าวต้มหรอคะ มา..ป้าจะได้ช่วย เอ๋ ว่าแต่นึกยังไงถึงอยากทำคะเนี่ย” หญิงชราถามพร้อมเดินไปเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพิ่มให้เรียบร้อยกว่าเดิม
“อะ เออ..ผมก็แค่อยากลองทำเฉย ๆ ครับ ผมคิดว่าผมโตแล้ว ควรจะทำเป็นได้แล้ว” ร่างบางทำอ้ำอึ้ง
“เอ๋ ไม่ใช่ว่าทำให้คุณชายฮันคยองหรอกหรอคะ”
“ป้าโซอา!”
“แหมๆๆ ทำเขินเชียว ป้าล้อเล่นเฉย ๆ ค่ะ เฮ้อ
แต่ก็ดีนะคะที่คุณหนูฮยอกแจรักพี่ชายขนาดนี้ พี่น้องรักกันดี ทีนี้แหละป้าจะได้ตายตาหลับ” ป้าโซอาพูดพร้อมรอยยิ้มบาง
“เอ๋ ว่าแต่ผมยังไม่เห็นพี่ฮันคยองเลยนะครับ พี่เขาออกไปข้างนอกหรอครับ แต่ทำไมรถยังอยู่ ๆ เลย” ฮยอกแจถามต่อ พยายามเฉไฉไปเรื่องอื่น
“คงจะอยู่ในห้องทำงานแหละค่ะ เห็นว่าเพิ่งกลับมา เอกสารงี้กองพะเนินเป็นภูเขา น่าเป็นห่วงจริงๆ เกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะทำยังไง” พูดบ่นพร้อมส่ายหน้าไปมา
“ไม่ไหวจริง ๆ งั้นเดี๋ยวผมไปเรียกพี่ฮันคยองให้มาทานข้าวดีกว่า เมื่อคืนคงไม่ได้นอนมัวแต่ทำงานแน่ๆ”
“ก็ดีนะคะ งั้นเดี๋ยวป้าช่วยทำข้าวต้มด้วยดีกว่า ให้อร่อยจนลืมไม่ลงเลย” ป้าโซอาพูดกลั้วหัวเราะ ฮยอกแจจึงหัวเราะตามก่อนจะลงมือทำข้าวต้มครั้งแรกในชีวิตไปด้วยกันกับหญิงชรา รอยยิ้มเบาบางเริ่มปรากฏบนใบหน้า
“แล้วทานให้อร่อยนะครับ
พี่ชาย”
~~~~~*~~~~~
ก๊อก ๆๆ
เสียงเคาะประตูบานไม้โอ็คสีน้ำตาลดังขัดขึ้น ทำให้ฮันคยองต้องละสายตาจากเอกสารกองโตชั่วครู่ ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจต่อเหมือนเดิม
“เข้ามาสิ” เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่ทรงอำนาจ เมื่อได้รับคำสั่งให้เข้ามาได้ ร่างโปร่งจึงเปิดประตูเข้ามาทันที ปรากฏให้เห็นร่างของบอดี้การ์ดหนุ่มคนหนึ่งที่แสนคุ้นเคย มือหนาปิดประตูอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนไปมากกว่านี้แล้วก้าวขามายังผู้เป็นนาย
“รายงานจากสายแทบซองนัมครับ”
“ว่ามา”
“พบศพของสายข่าวเรานอนตายอยู่ในห้องพักขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่สอดแนม กระสุนที่ยิงตัดผ่านขั้วหัวใจได้อย่างแม่นยำ ไร้ร่องรอยการขัดขืน และที่สำคัญ...ตัวหนังสือที่ใช้เลือดของผู้ตายเขียนไว้ตรงฝาผนังห้อง มันถูกเขียนเอาไว้ว่า...”
“...”
“ฉันจะกลับมาแก้แค้นนาย....ฮันคยอง”
ไร้สรรพเสียงตอบรับ ร่างสูงนั่งนิ่งพร้อมขมวดคิ้วอย่างคนใช้ความคิด มือเรียวตัดสินใจวางปากกาเซ็นเอกสารตรงโต๊ะทำงานลงแล้วเอนตัวลงไปอย่างเมื่อยล้า
“รายละเอียด”
“ไม่มีครับ ตอนนี้มีเพียงเท่านี้ แต่ตอนนี้สายข่าวของเรากำลังสืบหาข้อมูล”
“แล้วตำรวจล่ะ” เสียงทุ้มถามอีกครั้ง
“ปิดปากเรียบร้อยแล้วครับ”
ร่างสูงใช้นิ้วนวดขมับทันทีที่บอดี้การ์ดของตนรายงานจบ ก่อนจะหันเก้าอี้ทำงานของตนออกไปทางหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ ดวงตาคมจ้องมองออกไปทางด้านนอกอย่างไร้จุดหมายอย่างใช้ความคิด ก่อนที่สายตาคมจะเบนไปทางด้านข้างเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด...
“คิบอม” ฮันคยองพูดเสียงแผ่วเบา คิบอมจึงพยักหน้ารับแล้วคว้าปืนจากข้างในเสื้อตัวนอกออกมาทันที มือหนาเล็งไปยังตรงมุมห้องที่มีผ้าม่านสีแดงปิดหน้าต่างเอาไว้
“หึ...” เสียงของผู้มาเยือนกระตุกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะค่อย ๆ ปรากฏตัวออกมาจากทางหลังผ้าม่าน นัยน์ตาหวานจับจ้องอยู่ที่ร่างโปร่งอย่างมีเลศนัย
“จับจิตสังหารของฉันได้ซะด้วยทั้ง ๆ ที่ฉันอำพรางมันแล้ว...ไม่เลวนี่”
“คุณเป็นใคร” บอดี้การ์ดหนุ่มถามอย่างไม่สนใจในคำชม ร่างบางที่มาใหม่จึงแย้มยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะทำเป็นยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้
“ใจเย็นสิพ่อคุณบอดี้การ์ด ฉันมาดี..และฉันก็เป็นพวกเดียวกับนาย”
“ฉันไม่เชื่..”
“ลดปืนลงซะคิบอม” ฮันคยองสั่งออกมาในที่สุด ในขณะที่ผู้รับคำสั่งต้องขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมลดมือลงแต่โดยดี
“ตาถึงจัง หล่อแบบนี้...สนใจเข้าห้องกับฉันหน่อยมั้ย” ร่างบางพูดยียวนกวนโทสะพลางเดินกรีดกรายเข้าไปใกล้ร่างสูงของฮันคยองอย่างมีจริต มือเรียวสัมผัสตรงปลายคางของอีกฝ่ายพร้อมเชยใบหน้าคมให้เงยขึ้นมาอย่างช้า ๆ
หล่อ..
“พรรคคังคยองส่งนายมาสินะ” ร่างสูงพูดเสียงเรียบไม่สนใจในเสน่ห์มายา ร่างบางจึงชักสีหน้าเล็กน้อยก่อนจะชักมือออกแล้วเดินไปนั่งไขว่ห้างตรงเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามกับร่างสูงโดยมีโต๊ะทำงานขวางกั้น
“ฉันล่ะเบื่อจริง ๆ ไอพวกไร้ความรู้สึก...ใช่ พรรคคังคยองส่งฉันมา” เสียงหวานใสราวกับระฆังแก้วตอบอย่างหงุดหงิด
“นี่จดหมาย” พูดพร้อมโยนซองจดหมายสีขาวที่มีตราประทับของพรรคคังคยองให้ร่างสูงทันที มือหนาจึงรับมาก่อนที่จะเบนสายตาคมมองอีกฝ่ายเขม็งแล้วโยนจดหมายทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ทำเอาร่างบางต้องหัวเราะร่วน
“ฉลาดดีนี่”
“กลิ่นยาพิษ” คิบอมตอบแทน “ในจดหมายคงเป็นแค่กระดาษเปล่า ๆ ที่มีผงยาพิษอยู่สินะ”
“ถูกต้อง โอเค..ฉันยอมรับแล้วว่านายคงเป็นลูกชายของท่านลี ชินดงจริง ๆ คงจะถูกฝึกมาอย่างดีสินะ ดมยาพิษชนิดร้ายแรงเข้าไปมันยังทำอะไรนายไม่ได้เลย...แต่จะว่าไป...ยาพิษนั้นมันก็แค่เบาะ ๆ เท่านั้นเอง” ร่างบางพูดเสียงเจ้าเล่ห์
“ฉันได้รับคำสั่งมาให้บอกข่าวสำคัญกับนาย...ตอนนี้พรรคโซฮวาได้ทำการเคลื่อนไหวแล้ว มันกำลังเล็งกวาดเล็งพรรคมาเฟียต่าง ๆ ...พรรคใหญ่ ๆ ตอนนี้โดนมันถล่มไปสองพรรคแล้ว แต่น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่ง...ที่ตอนนี้มันกำลังหันมาเล็งพรรคที่รามือไปจากวงการมาเฟียแล้วอย่างเรา”
“...”
“เหตุผล...ฉันขอไม่ก้าวก่าย แต่คำสั่งที่สำคัญอีกอย่างคือฉันได้รับคำสั่งให้มาคุ้มครองลี ฮยอกแจ น้องชายต่างสายเลือดของนาย ถ้าจะถามว่า แล้วคิดว่าพวกนายไม่มีปัญญาคุ้มครองเองรึไงถึงต้องส่งฉันมา คำตอบก็คือ...ฮันคยอง นายคงรู้อยู่แก่ใจ” ร่างบางพูดพร้อมใช้ดวงตากลมโตจ้องมองลึกเข้าไปในสายตาดุจเหยี่ยวของคนตรงหน้า แววตาสีรัตติกาลดั่งความมืดในมหาสมุทรลึก...นิ่งเงียบ เรียบสงบ พร้อมที่จะกวาดซัดทุกสิ่งทุกอย่างให้จมหายไปในท้องทะเลได้ในพริบตา
“ฮยอกแจไม่ใช่น้องชายแท้ ๆ ของนาย แต่เป็นลูกติดของแม่เลี้ยงใหม่ นายกับฮยอกแจจึงไม่มีสายเลือดเดียวกันอะไรทั้งนั้น แต่กลับมีคำว่า ‘พี่น้อง’ มันค้ำคอ นายรู้...ฮยอกแจรู้...แต่ปัญหาก็คือคำตอบนั้นนั่นแหละ เหตุผลที่ท่านชินดงส่งฉันให้มาคุ้มครองฮยอกแจแทนนาย” ร่างบางเริ่มพูดเสียงแผ่วเบาแล้วยิ้มกริ่ม
“เพราะไม่อยากให้นายใกล้ฮยอกแจไง นายก็รู้ดีนี่ ยิ่งนับวันที่นายอยู่ใกล้ฮยอกแจมากเท่าไหร่...ความรู้สึกที่เกินคำว่าพี่น้องมันก็ชักจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ
”
“หุบปาก!”
“หยุด...คิบอม ให้เขาพูดต่อไป” ฮันคยองกล่าวเสียงเรียบห้ามร่างโปร่งที่เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิดเพราะวาจาล่วงเกินเจ้านายของตนตรงหน้า ทำให้คิบอมจำเป็นต้องละมือจากกระบอกปืนแล้วชักสีหน้าอย่างไม่พอใจ ร่างบางจึงยิ้มเยาะให้กับร่างโปร่งอย่างผู้ชนะ
“นายรู้สึกกับฮยอกแจเกินพี่น้อง ใช่ แต่ฮยอกแจกลับใสซื่อบริสุทธิ์เสียเหลือเกิน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพี่ชายกำลังรู้สึกยังไงกับตัวเอง และเคารพรักนายเรื่อยมาในฐานะ...พี่ชาย”
“...”
“ฉันจำเป็นต้องมาดูแลคุ้มครองฮยอกแจเอง ก็เพราะนาย...คงเข้าใจสินะว่าจากนี้ไป ฮยอกแจยิ่งไกลนายเท่าไหร่ยิ่งดี ยิ่งเกลียดเท่าไหร่ก็ยิ่งปลอดภัย เพราะคงมีสักวัน...ที่ฮยอกแจจะรักนายมาก มากจนยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อให้นายอยู่รอด” ร่างบางพูดพลางดีดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหลังก้าวตรงไปยังประตูบานใหญ่ มือเรียวบิดลูกบิดประตูอย่างแผ่วเบา พลางหันหน้ามาทางอีกสองชีวิตด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ริมฝีปากเอิบอิ่มเริ่มคลี่ยิ้มหวานอาบยาพิษเป็นครั้งสุดท้ายก่อนลาจาก
“เลือกเอานะ...ระหว่างความสุขของนาย กับชีวิตบนเส้นด้ายของฮยอกแจ”
.......
‘
เสียงท่วงทำนองอันร่าเริงจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้ร่างบางต้องละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เกมส์ที่ขึ้นคำว่า ‘Game Over’ ไปรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ ลี ฮยอกแจรับสายครับ” ร่างบางกรอกเสียงส่งไปอย่างสุภาพเพราะเบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ก่อนจะต้องเบิกตาโพล่งเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นจากอีกปลายสาย
“นายเป็นอะไรไปน่ะ!
โอเค รออยู่หน้าบ้านฉันใช่มั้ย ได้ ๆ แล้วฉันจะรีบไป”
ฮยอกแจตัดบทจบแล้วรีบวิ่งออกไปจากบ้านทันที มือเรียวรีบคว้าจักรยานแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากระยะทางจากรั้วบ้านไปยังตัวบ้านของฮยอกแจนั้นกว้างมาก ทำให้ร่างบางจำเป็นจะต้องมีจักรยานเพื่อจะได้ไปไหนมาไหนสะดวก
“ดงเฮ!” เสียงหวานเรียกชื่อของผู้เป็นเพื่อนดังลั่นเมื่อขับมาถึงประตูรั้วหน้าบ้าน ร่างเล็กที่กำลังยืนร้องไห้อยู่อีกฟากของประตูทำเอาใจเขาเริ่มใจคอไม่ค่อยดี มือบางใช้กุญแจไขช่องประตูเล็ก ๆ ของประตูรั้วแล้วเปิดออกพร้อมวิ่งออกไปหาผู้เป็นเพื่อน
“ดงเฮ! นายเป็นอะไรไป ร้องไห้ทำไมน่ะ!?” เสียงหวานพูดอย่างตกใจ
“ฉ่ะ...ฉัน ฮึก ทะเลาะกับแม่” เสียงสะอื้นไห้ตอบจนแทบฟังไม่เป็นศัพท์ “ไอชั่วนั้น! ฮึก..! ม่ะ..มันจะข่มขืน ฮึก..ฉัน แต่แม่ฉันไม่เชื่อ”
“ฉันว่าเราไปคุยกันในบ้านดีกว่ามั้ย ตามฉันมาสิ” ร่างบางพูดแล้วช่วยพยุงร่างเล็กให้ยืนขึ้น ดงเฮจึงพยักหน้าทั้งน้ำตา เสียงหวานยังคงสะอึกสะอื้นไม่ขาดสายจนตัวแทบโยน ก่อนที่ฮยอกแจจะให้ดงเฮช้อนท้ายรถจักรยานแล้วตนจะเป็นรถขับไปเอง
ร่างบางพยุงผู้เป็นเพื่อนมาจนถึงในห้องรับรองแขกแล้วให้นั่งลงตรงโซฟา ก่อนที่จะเริ่มเอ่ยปากถามทันทีด้วยความเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นกับนาย..ดงเฮ”
“ฉันทะเลาะกับแม่..” ร่างเล็กที่เริ่มหยุดสะอึกสะอื้นแล้วปริปากเล่า หากแต่ยิ่งเล่ามากเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าน้ำตาใสจะยิ่งไหลริน
“แม่ฉันแต่งงานใหม่ ตอนแรกก็ยังดี ๆ อยู่..แต่ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ ไอชั่วนั้น! มันก็ยิ่ง...ฮึก! มันลวมลามฉัน ฮึก..แต่ฉันไม่กล้าบอกแม่...ฉันกลัว แต่วันนี้...ม่ะ มันจะข่มขืนฉัน! ฉันหนีมาแล้วไปฟ้องแม่ แต่แม่กลับเชื่อไอชั่วนั่น มันบอกว่าฉัน..ฮึก..ให้ท่ามัน!!”
ดงเฮปล่อยโฮออกมาตอนท้ายทันทีที่เล่าจบ ฮยอกแจรู้สึกสงสารคนตรงหน้าจับใจ...ไม่รู้จะช่วยเหลือคนตรงหน้ายังไงดีเพราะเป็นเรื่องของครอบครัว คงต้องจับพ่อเลี้ยงของดงเฮได้คาหนังคาเขาจริง ๆ เรื่องถึงจะจบ
“ฉันไม่อยากกลับไปบ้านหลังนั้นอีกแล้วฮยอกแจ” เสียงหวานเอ่ยบอกอย่างสั่นเครือ “ห่ะ..ให้ฉันอยู่...กับนายที่นี่ด้วยคนได้มั้ย”
“หืม...?” ฮยอกแจลากเสียงขึ้นเล็กน้อยพลางมองผู้เป็นเพื่อนที่ก้มหน้านิ่งตรงหน้า ก่อนจะแย้มรอยยิ้มบาง “ได้สิ ไม่มีปัญหาอยู่แล้วล่ะ”
ดงเฮเงยหน้ามองผู้เป็นเพื่อนทันทีด้วยแววตาที่เริ่มมีความหวัง
“จริงหรอ..?”
“จริงสิ ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา” ฮยอกแจตอบพร้อมรอยยิ้มเบาบาง ดงเฮจึงโผกอดคนตรงหน้าทันทีด้วยความดีใจ
“ขอบใจมากนะฮยอกแจ! ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของนายเลย!!” เสียงหวานตะโกนร้องพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินเป็นสาย
“ฮ่า ๆ ไม่เป็นไรหรอก แค่รู้ว่าฉันพอช่วยนายได้ก็พอใจ มีห้องว่างอยู่หลายห้องพอดี แล้วฉันจะบอกแม่บ้านให้จัดห้องให้ก็แล้วกัน”
“ขอบใจมากนะฮยอกแจ...ฉ่ะ ฉัน...ไม่รู้ว่าจะตอบแทนบุญคุณนายยังไงดี” ดงเฮพูดพร้อมผละอ้อมกอดออกจากร่างบาง ฮยอกแจจึงบีบมือบางของผู้เป็นเพื่อนเบา ๆ พลางยิ้มอ่อนโยนให้
“ขอแค่นายมีความสุขก็พอแล้วล่ะ แต่ถ้าอยากตอบแทนจริง ๆ...ไว้ฉันคิดออกแล้วฉันจะบอกก็แล้วกัน” เสียงหวานบอก ร่างเล็กจึงได้แต่มองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกสุดซึ้งก่อนจะรวบตัวผู้เป็นเพื่อนมากอดอีกที
“ขอบคุณมากนะฮยอกแจ...” ดงเฮพูดด้วยน้ำเสียงเบาบางจนแทบกลืนไปกับสายลม หากแต่ดวงตาหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเอ่อล้นกลับมีเลศนัยอื่นบางอย่างแอบแฝงอยู่..
บอบบางเสียเหลือเกินนะลี ฮยอกแจ
อ่อนโยน ใสซื่อ บริสุทธิ์...จนน่าทำให้เหลวแหลกคามือ
นกสีฟ้าตัวน้อย ๆ ไร้พิษสงที่อยู่ท่ามกลางอำนาจมืดในกรงสีทอง หนึ่งเดียวที่ทำให้พรรคคังคยองสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขเรื่อยมา
ฉันล่ะอยากจะรู้เสียจริงว่าถ้าวันใดนกสีฟ้าตัวนี้ต้องตายไป..
พรรคคังคยองจะอยู่ยังไง โดยเฉพาะนาย...
ลี ฮันคยอง
...นายจะอยู่ยังไงถ้าฮยอกแจต้องตายก็เพราะนาย...
คยูมิน น่าร๊ากจังเลย แฟร์ก็ชอบ XD
+++ตอบคอมเม้นต์ อิอิ (แฟร์ชอบมาก)+++ความคิดเห็นที่ 11 (จากตอนที่ 3)
แต่อยากรุ้จังว่า คยู ปิดบังอารายอยุ่ ...... อ่า..ไม่บอกค่ะ ลองทายดูสิคะ ตามอ่านด้วยจะยิ่งดี 55+Name : lemoneko_oae< My.iD > [ IP : 124.122.192.147 ] ความคิดเห็นที่ 10 สนุกดีนะ จริงหรอ O_O
และแล้วคยูมินก้มา
คู่โปรดเลยนะเนี่ย เหมือนกัน อ๊ายยย >///<
แถมเอา 1 ใน 5 เทพมาเป็นคนขับรถอีก ร้ายนะเนี่ย ชางมิน อิอิ วงดงบังน่าจะมีทุกคนในเรื่องนี้...ไม่แน่ใจเหมือนกัน ยังแต่งไม่จบ 55+
ยังไงก็มาอัพบ่อยๆนะ สู้สู้จ้า ไรเตอร์ จ้า ขอบคุณค่ะ Name : MoLoVeKyUmIn [ IP : 210.86.208.149 ] ความคิดเห็นที่ 9 (จากตอนที่ 3) โฮกฮาก!!
ตายละยาคู้~!ทำไมนิสัยเสียแบบนี้เนี่ย=__="ไม่ดีเลยๆๆ ไม่ดียังไง กี้เค้าออกจะหื่นเปิดเผย 55+
อ๊ากก...ตอนสองมาลงแล้วรู้สึกดีใจมากมาย!! O_O!
โฮกกก~!!!!
ว่าแต่...คู้มีแผนอะไรรึเปล่านั้น?? อ่า...วางไว้ให้ไม่มีนะ ให้มีแค่ตอนแรกที่ไปตามทวงหนี้เฉยๆ แต่ต่อไปไม่แน่
=..=
อยากกดซองมินอ่ะดิ!ชิชิชิ เรื่องนี้มันแน่...555+
พี่สาวมาต่อไวๆนะคะ!!สู้ๆ จ้าา >w<!
PS. อ่า..รักฮันฮยอกสุดหูรูด!! <<เก๊าะบอกแล้ว...ว่ารัก "ลับๆ" น่ะ มัน "เร้าใจ" กว่าเยอะ!!!>> Name : > N'Arika < < My.iD > [ IP : 124.121.152.68 ] ความคิดเห็นที่ 8 (จากตอนที่ 3) อัพแล้วว !!! เยส 55 เย้~! >O<
คยูดูเข้าใจยากน่ะ - - อ่า...ส่วนตัวแฟร์ชอบคาแร็กเตอร์คยูนะ ค่อนข้างเหมือนฮันคยอง แต่จะเด็กกว่า อิอิ
ซองมินรันทดจิงๆเลย 5555
(จะขำเพื่อ??) นั่นสิ จะขำเพื่อ...? (55+ ล้อเล่นค่ะ)Name : beeKUNG [ IP : 125.25.39.150 ]
ความคิดเห็น