ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Future Love Onmyouji(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : Charpter.3 ความฝัน(มาแล้วเจ้าค่ะ มาทำตามสัญญา)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.44K
      5
      12 ก.ย. 51

                           
    Charpter.3
    ความฝัน
                     วันนี้บรรยากาศในคฤหาสน์อาเบะ เริ่มกลับสู่ปกติ แม้จะยังหดหู่อยู่ แต่ทุกคนในคฤหาสน์ก็พยายามตัดความเศร้าที่มีต่อมาซาฮิโระทิ้งไป กุเรนเองแม้จะทำใจได้แล้ว แต่ก็ยังคงมีรอยแห่งความเศร้าหมองปรากฏอยู่ในดวงตาสีทองนั่น เป็นการยากหากจะลืมว่าคนที่ตนรักนั้นได้ตายไปแล้ว(เดี๋ยวก็ได้เจอกาน อุโฮะ!~ : คนเขียน) เขาจะไม่มีวันลืมมาซาฮิโระเด็ดขาด
                     ไม่รู้เมื่อไหร่ที่กุเรนเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนมาถึงริมทะเลสาบโอกุระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานมาซาฮิโระ  ภูตพรายบางตัวที่เคยเจอมาซาฮิโระ และเคยกระโดดทับกันเป็นกิจวัตรก็เข้ามาแสดงความเสียใจ ถึงกับร้องไห้บ้างก็มี เพราะเห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อยก่อนที่เซย์เมย์จะกางเขตอาคมคุ้มภัยรอบคฤหาสน์ แต่ตอนนี้ไม่มีเด็กคนนั้นมาให้แกล้งเล่นเช่นที่ผ่านมา
                      เทพหนุ่มเดินมาหยุดตรงข้างแผ่นหินที่เป็นป้ายสุสานของมาซาฮิโระ แล้วค่อยๆทรุดกายนั่งลงข้างๆราวกับมาซษฮิโระยังคงมีชีวิตและอยู่เคียงข้างเขา
                       “ ข้าคิดถึงเจ้า มาซาฮิโระ… ” เสียงทุ้มแฝงความเศร้าเอ่ยเบาๆ แทบจะกลืนไปกับสายลมที่พัดผ่านมา เขาทำใจได้แล้วจริงๆ แต่แม้จะบอกตัวเองอย่างนั้น ความเจ็บใจก็ยังไม่หายไป เจ็บใจที่ไม่อาจส่งความคิดถึงและความรักนี้ไปหามาซาฮิโระได้ แค่เพียงซักนิดก็ไม่สามารถ แค่คิดแบบนั้นในใจก็เจ็บปวดรวดร้าวยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยเป็นมา หัวใจของเขาเริ่มถูกเยียวยา เมื่อตอนที่มาซาฮิโระเกิด
                       เทพหนุ่มนั่งระลึกสิ่งต่างๆจนเมื่อไหร่ไม่ทราบที่เจ้าตัวหลับไป สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกทีก็เป็นสายๆของวันหนึ่ง ทำให้กุเรนอึ้งไปพักใหญ่ ‘ นี่เราหลับไปนานขนาดนี้เชียวรึ? ’ กุเรนรำพันกับตัวเอง พลางสำรวจมองรอบตัว เขาไม่ได้อยู่ข้างป้ายสุสานของมาซาฮิโระ แต่นั่งอยู่ข้างเสาตรงทางเชื่อมในคฤหาสน์อาเบะ
                       ไม่นานก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กน้อยดังขึ้นที่ไหนซักแห่ง กุเรนจึงหันไปหาต้นเสียงก็พบกับมาซาฮิโระในวัยประมาณสามขวบ กำลังพูดคุยและเล่นอยู่กับภูตพรายตนหนึ่ง ข้างๆสระน้ำในคฤหาสน์ ภาพนี้เขาเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง ภูตตนนั้นกำลังจะผลักมาซาอิดระให้ตกสระ แล้วก็เป็นอย่างที่คาด เจ้าภูตตนนั้นผลักมาซาฮิโระทันทีที่กุเรนคิด ทำให้กุเรนต้องถลันตัวเข้าไปคว้าตัวมาซาฮิโระไว้ ซึ่งก็ทันที่จะไม่ทำให้เด็กน้อยตกลงไป
                        มาซาฮิโระซึ่งตอนนั้นยังไม่ถูกเซย์เมย์ผนึกพลัง ทำหน้าฉงนแล้วหันมาถาม ในวัยแค่นี้คงยังจำความอะไรไม่ได้นัก จึงทำให้มาซาฮิดระในปัจจุบันก่อนจะ…สิ้นชีวิต จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนช่วยตนไว้จากการถูกทำร้ายครั้งนี้(อันนี้บิดเรื่องนิโหน่ย เนื่องจากผู้เขียนจำไม่ค่อยได้ TT^TT)
                        “ อย่าเข้าใกล้น้ำนะ ไม่งั้นจะโดนผลักตกลงไป ” เทพหนุ่มเตือน
                        “ พี่ชายเป็นใครเหรอ? ” มาซาฮิโระถามพลางเอียงคออย่างสงสัย กุเรนเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงเลยได้แต่ยิ้ม แล้วอุ้มมาซาฮิโระไปวางลงตรงทางเชื่อม ดูเหมือนเด็กน้อยจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาจะเล่นด้วยจึงวิ่งเข้าไปในตัวคฤหาสน์ กุเรนทำอะไรไม่ได้นอกจากวิ่งตามไปอย่างเคยชิน แต่พอถึงห้องของมาซาฮิโระ เด็กน้อยวัยสามขวบก็หายไป เหลือเพียงมาซาฮิโระตอนห้าขวบเท่านั้น
                       เซย์เมย์พามาซาฮิโระไปที่ภูเขาคิฟุเนะ แล้วทิ้งมาซาฮิโระไว้ยันเช้าโดยผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่ข้างศาลเจ้า ตอนนั้นมาซาฮิโระถูกผนึกพลังในการ ‘ มองเห็น ’ ไปแล้ว ก็เขาอีกั่นแหละที่ตามไปและคอยเฝ้าอยู่ใกล้ๆจนถึงเช้า โอบมาซาฮิโระไว้ในอ้อมแขนจนเขาเองก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกที ก็กลับมาอยู่ที่ห้องมาซาฮิโระเช่นเดิมแล้ว
                       มันช่างน่าแปลก เขาย้อนเวลามา หรือว่านี่เป็นแค่
                       …ความฝัน…
                       “ มกคุง! ไปกันเถอะ ” เสียงของมาซาฮิโระดังขึ้นข้างๆ ทำให้กุเรนเพิ่งรู้สึกว่า ตยกลายเป็นสัตว์อสูรสีขาวไปแล้ว มาซาฮิโระอุ้มเขาจนตัวลอย ทำให้เขาต้องถีบตัวขึ้นไปนั่งบนไหล่มาซาฮิโระอย่างเคยชิน
                       พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปเพื่อกำจัดคิวคิ!ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับจะตอกย้ำให้เขาได้รู้ว่าตนไม่มีคุรสมบัติในการช่วยเหลือคนที่ตัวเองรักซักนิด มาซาฮโระตายไปต่อหน้าต่อตาเขาอีกครั้งและภาพทุกอย่างก็ดับวูบลง
                       จบแล้ว
                       เหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า…
                       กุเรนตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าตนเองอยู่ที่เดิม เขายังนั่งอยู่ข้างป้ายสุสานของมาซาฮิโระแต่บรรยากาศกลับต่างจากเดิม มันเป็นยามพลบค่ำที่มีแสงสว่างจากหิงห้อย และทุกอย่างดูละเมียดละไมราวกับภาพวาด
                        กุเรน
                        “ ใครกัน! ” เทพหนุ่มขานรับเป็นคำถามอย่างตกใจระคนแปลกใจ เมื่อได้ยินเสียงที่เขาต้องการจะฟังอีกครั้งและคุ้นเคยมาตลอดแล้วก็มาสะดุดหยุดลงตรงที่ภาพตรงหน้าที่อยู่ไกลออกไปไม่มากนัก เด็กหนุ่มวัย14 ยืนอยู่ตรงนั้น ใส่ชุดกิโมโน(ของผู้ชาย)สีขาวบริสุทธิ์ เทพหนุ่มค่อยๆยืนขึ้นช้าๆมาซาฮิโระยืนอยู่ตรงนั้น ทำเอากุเรนแทบสิ้นเรี่ยวแรงจะเดิน
                       “ มาซา…ฮิโระ? ” กุเรนเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง ร่างนั้นพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตอบรับว่านามที่เอ่ยนั้นถูกต้องแล้ว เทพหนุ่มค่อยเดินเข้าไปช้าๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของมาซาฮิโระ พลางเอ่ยชื่ออีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
                       “ มาซาฮิโระ ” เทพหนุ่มค่อยๆยื่นไปหาร่างนั้นช้าๆราวกับว่าถ้าแตะแล้วร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้าจะแหลกสลายหายไป แค่เพียงปลายนิ้วที่สัมผัสกับใบหน้าละมุนนั่น เขาถึงได้รู้ว่านี่เป็นความจริง ร่างที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้คือ มาซาฮิโระ แค่นั้นจริงๆ
                       เทพหนุ่มไม่รอช้ารวบร่างบางนั่นเข้ามาไว้ในอ้อมกอดด้วยความคิดถึงทันที พอได้กอดมาซาฮิโระกุเรนก็เพิ่งนึกบางอย่างขึ้นได้ เขาเองก็สามารถไปหามาซาฮิโระได้แท้ๆนี่นา( ไอ้เทพต๊อง!!!~ ) แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้ความคิดถึงที่มีต่อมาซาฮิโระของเขา เยอะกว่าที่จะมาคิดเรื่องอะไรแบบนี้ ถึงนี่จะเป็นแค่ฝันแต่ยังไงเขาก็ได้เจอมาซาฮิโระแล้วล่ะนะ
                       “ เป็นเจ้าจริงๆด้วย มาซาฮิโระ รู้มั้ยว่าข้าคิดถึงเจ้า รู้มั้ยว่าข้าทรมานใจแค่ไหนที่เจ้าจากข้าไป บอกข้าหน่อย ช่วยเตือนสติข้าทีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน ” กุเรนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ อยากจะร้องไห้ด้วยความดีใจ แต่น้ำตามันไม่ยอมไหลออกมาซักหยด
                       “ กุเรน!ปล่อยข้าก่อน ข้าหายใจไม่ออก ” มาซาฮิโระพูดพลางดันตัวกุเรนออก แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้น
                       “ ข้าขอเทพที่นั่นขึ้นมาน่ะ เพราะข้ายังมีเรื่องที่ต้องบอกกุเรนและข้าก็จะมาลากุเรนด้วย ” มาซาฮิโระสาธยายเสร็จสรรพด้วยสำนึกว่าตัวเองมีเวลาเพียงน้อยนิด กุเรนตอนนี้ เขาก็เข้าใจว่ามาซาฮิโระจะลาเขาไปไหน จึงไม่คิดถาม 
                         OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
             เอ่อ ~ สวัสดีค่ะผู้อ่านที่มีอยู่เพียงน้อยนิดของกาวะ ทุกท่านคงทราบดีว่าตอนนี้กาวะเองมีงานท่วมหัวเลยค่ะ เรียนสายอาชีพนี่มันก็ลำบากนะคะ ลำบากกว่าสายสามัญอีกมั้งเนี่ย เพราะมีทั้งปฏิบัติ ทำโมเดลงาน บรรจุภัณฑ์ ทฤษฎีเลยค่ะ เฮ้อ เหนื่อย!!!~
                 จะบ่นไปก็คงไม่มีใครช่วยเราได้ต้องช่วยตัวเองค่ะทุกท่าน ตอนนี้ยังทำตามสัญญาไม่ได้นะคะ ต้องรออีก1อาทิตย์ต่อไปค่ะ
    กาวะจะอัพให้กระจายตามที่สัญญาไว้ตอนแรกจริงๆเลยค่ะ ต้องขอโทษด้วย ส่วนท่านใดที่เป็นชาวโอตาคุช่วยบอกกำหนดการงานคอมมิคให้กาวะรับรู้บ้างนะคะ งานคราวหน้ากาวะจะคอสเป็นโกคุในเรื่องรีบอร์นไปค่ะ (ถ้าหาชุดได้นะคะ ^^) แต่ถ้าไม่ทราบก็ไม่เป็นไรค่ะไม่ว่า ที่จริงก็มีสายข่าวอยู่แต่ยังไม่รู้กำหนดจริงๆค่ะต้องรอหน่อย ใครอยากคุยกับกาวะเป็นการส่วนตัวทักมาที่นี่เลยค่ะ
    Rudolph_Darkmore@windowslive.com ทักมาได้เลยนะคะ จะดีใจมากถ้ามีเพื่อนทางเน็ตเยอะขึ้น
                                        OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO
                       “ ข้ามาลากุเรน เราอาจได้เจอกันอีก แต่ข้าอาจเปลี่ยนไป ” มาซาฮิโระพูด ทำให้กุเรนรู้ทันทีว่ามาซาฮิโระยังไม่รู้
    ว่าเซย์เมย์ใช้เวทผนึกวิญญาณ ยังไงก็เล่นไปตามเกมส์ของเซย์เมย์ดีกว่า แต่ที่ว่าจะได้เจอกันอีกน่ะเมื่อไหร่กัน?
                       “ ข้าจะได้เจอเจ้าอีกเมื่อไหร่กัน? ” เขาถามตามที่ใจคิด “ ข้าก็ไม่รู้ แต่เราต้องได้เจอกันอีกแน่ๆ ในภพหน้า ที่ๆข้าจะไป ”
                       มาซาฮิโระพูดแล้วยิ้มให้เขาอย่างที่เคยเป็นมา ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงตอนนี้ รอยยิ้มนี้เท่านั้นที่ทำให้โลกของโทดะผู้นี้มีแสงสว่างส่องนำทาง
                       เงียบกันไปนาน และในที่สุดมาซาฮิโระก็พูดขึ้นทำลายความเงียบ
                        “ ขะ…ข้า ข้าว่าจะพูดเรื่องนี้ก่อนตาย แต่ไม่ทัน มันติดอยู่ในใจข้ามาตลอด ข้าอยากบอกกุเรนให้รู้ว่าข้า… เอ่อ คือ ข้า ”
                        เด็กหนุ่มก้มหน้างุด ใบหน้าละมุนนั่นมีสีเรื่อขึ้นนิดๆ ถ้านี่เป็นฝัน ก็คงเป็รนฝันที่เหมือนจริงมากแน่ๆ มาซาฮิโระอ้ำอึ้งอยู่นาน ทั้งยังหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆจนกุเรนคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้มาซาฮิโระคงจะไม่พูดอะไรต่อแน่ๆ
                         “ เอ่อ…อะไร? ข้ารอฟังเจ้าอยู่นะ มาซาฮิโระ ” คำถามของกุเรนยิ่งทำให้มาซาฮิดระหน้าแดงเป็นตำลึงสุกเข้าไปอีก
                         “ ข้า…ขอโทษด้วย ที่ข้ารักษาสัญญาไว้ไม่ได้ ข้าตาย ก่อนที่จะเป็นอนเมียวจิที่ยิ่งใหญ่กว่าท่านปู่ ” มาซาฮิโระพูดราวกับเพิ่งนึกได้ ทำเอากุเรนผิดหวังเล็กน้อย แต่มาซาฮิโระไม่ใช่คนที่เก็บงำอะไรได้นานๆ ยกเว้นเรื่องที่จำเป็นต้องเก็บจริงๆและถูกสั่งไว้เท่านั้น เขาจึงรอให้มาซาฮิโระพูดต่อ
                         “ ข้าก็ขอดทษที่ปกป้องเจ้าไว้ไม่ได้เหมือนกัน ยกโทษให้ข้าได้มั้ย มาซาฮิโระ? ” กุเรนพูดอย่างสำนึกผิด ทำให้มาซาฮิโระเงยหน้าขึ้นทันที
                         “ กุเรนไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ ข้าไม่มีอะไรต้องยกโทษให้นี่นา ” เด็กหนุ่มพูดเสียงดังอย่างตกใจ ระคนโกรธเคืองเล็กๆที่กุเรนเอาแต่โทษตัวเอง พลางทุบปั้กเข้าให้ที่แผ่นอกของกุเรนทีนึง
                         “ มีอีกอย่างที่ข้าจะบอกก่อนจะไป คือว่า… ” หน้าของเด็กหนุ่มแดงขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มาซาฮิโระจ้องตากุเรนอย่างแน่วแน่ในบางอย่าง ราวกับว่าจะสื่อออกมาแทนคำพูดที่ตนจะพูดต่อไปนี้
                         “ ข้า…ระ รัก กุเรนนะ ” แค่นั้นแหละที่เขาต้องการ อุตส่าห์อดใจรอตั้งนาน รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของกุเรนทันที
    เทพหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปหามาซาฮิโระพลางใช้มือใหญ่จับไว้ที่ท้ายทอยเบาๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามาซาฮิโระจะไม่หันหนีเขาไปทางอื่น พลางประทับริมฝีปากของตนเข้ากับริมฝีปากของมาซาฮิโระ โดยที่มาซาฮิโระเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยซักนิด ทำเอาเด็กหนุ่มอึ้งตัวแข็งทื่อไปทันที
                        เทพหนุ่มประทับริมฝีปากของตน นิ่ง นาน ให้ความรู้สึกที่เขามี สามารถสื่อไปถึงมาซาฮิโระได้ ด้วยริมฝีปากนี้ ทั้งความรัก ความคิดถึง ความเศร้าสร้อย ความรู้สึกทั้งหมดของกุเรนส่งผ่านไปหามาซาฮิโระได้ทั้งหมดจริงๆ ทั้งที่เป็นรสจูบที่แสนอ่อนหวาน อ่อนโยน แต่ทำไมถึงได้เศร้าโศกมากมาย และน่าร่ำไห้ให้คนตรงหน้าขนาดนี้นะ? ไม่นานกุเรนก็พรากความรู้สึกทั้งหมดนั่นไปจากริมฝีปากของมาซาฮิโระแล้วพูดขึ้น พลางเคลื่อนมือขึ้นมาซับน้ำตาบนใบหน้าของมาซาฮิโระเบาๆ
                         “ ข้าก็รักเจ้า มาซาฮิโระ รักมาตั้งแต่เจ้าเกิดมาบนโลกใบนี้ เจ้าทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปรู้มั้ย? มือที่เจ้ายื่นมาหาข้า รอยยิ้มที่เจ้าส่งมาให้ข้า ข้าอยู่กับเจ้ามาตั้งแต่เด็ก เรื่องนี้เจ้าคงไม่เคยรู้ เพราะเซย์เมย์ผนึกการมองเห็นอมนุษย์ของเจ้าตั้งแต่ยังเล็กเพื่อความปลอดภัยของตัวเจ้าเอง อย่าโกรธเซย์เมย์เลยนะ ” กุเรนพูด ทำให้มาซาฮิโระพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ แล้วอยู่ดีๆเด็กหนุ่มก็สะดุ้งขึ้น ราวกับเพิ่งนึกบางอย่างขึ้นได้
                          “ อ๊ะ! กุเรน ขอโทษนะ ข้าออกมานานเกินเวลาแล้วหละ ข้าคงต้องไปจริงๆซักที ข้ารักกุเรนนะ ลาก่อน… ” เด็กหนุ่มผละจากอ้อมแขนของกุเรนแล้ววิ่งหายลับไปในหมู่หิงห้อย
                          “ อย่าเพิ่งไป มาซะ…! ”
                          เฮือก!!!
                        เทพหนุ่มสะดุ้งลืมตาขึ้นแทบจะทันทีหลังจากมาซาฮิดระหายลับไป แม้จะรั้งไว้ไม่ทัน แต่ว่าเขาก็คิดว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ความฝัน เขาแน่ใจว่ามาซาฮิโระมาหาเขาจริงๆ
                        “ ข้าจะรอเจ้านะ มาซาฮิโระ ” กุเรนพึมพำพลางยิ้มกับตัวเองเบาๆอย่างมีความสุข
                        “ โทดะ!... ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้กุเรนต้องหันควับไปทันที
                        “ เซย์เมย์เรียกแน่ะ ” เซย์ริวนั่นเอง ขนาดมาเรียกเขา มันยังหน้าบูดเป็นตูดลิง ทำเอาความฝันเมื่อครู่เสียความโรแมนติค หมด พอทำหน้าที่ที่คิดว่ามันคงถูกมอบหมายมาให้เสร็จสรรพ ก็สะบัดหน้าสะบัดตูดเดินจากไปไม่รอกุเรนเลย
                         “ คงจะเป็นเรื่องนั้นสินะ ” กุเรนพูดอย่างแผ่วเบาจนแทบกลืนหายไปกับสายลม พลางเดินตามเซย์ริวไป
                                       ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
                  อะเร้ยยยยยยยยยย!!!!!~ มาแล้วเจ้าค่ะ มาทำตามสัญญาที่ข้าน้อยให้ไว้กับท่านผู้อ่านค่ะ ว่างๆก็ไปเยี่ยมชม มายไอดีจืดๆของข้าน้อยบ้างนะเจ้าคะ วันนี้กาวะมาทำตามสัญญาแล้วเจ้าค่ะ มีฉากโรแมนติคที่ข้าน้อยคิดว่าไม่โรแมนติคเลย เรื่องนี้ข้าน้อยเขียนอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกเจ้าค่ะ อย่างที่เคยบอกไว้ว่าติได้เลยเจ้าค่ะ เอาให้ตายกันไปข้าง แต่ต้องสุภาพนะเจ้าคะ แล้วก็ให้กำลังใจข้าน้อยหน่อยก็ดีเจ้าค่ะ ปิดเทอมแล้ว แต่กาวะยังต้องเจอกับวิบากกรรมงานบ้านมหาภัย กับวันที่30กันยายน ที่ต้องเจอกับวันประกาศผลสอบเจ้าค่ะ ขอให้ไม่สอบตก ไม่ติดศูนย์ ไม่ต้องซ่อม ข้าน้อยก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ อย่างไรก็แล้วแต่ เชื่อว่าทุกท่านก็คงใกล้สอบแล้ว ข้าน้อยขอให้ทุกท่าน สอบผ่านได้เกรด4 กันถ้วนหน้านะเจ้าคะ ไปแหล่ว!!!~ ฟึ่บ!!!~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×