คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 : กินหมูกระทะกันดีไหม
ผ่านวิชาเรียนมาทั้งสัปดาห์แรกของเทอม 1 ปี 4 ประโยคเดิมซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทุกวี่วันทันทีที่ได้ยินประโยคเริ่มก็เดาประโยคจบได้ไม่ยาก
“พวกเธอก็อยู่ปี 4 กันแล้วนะ จะมาเล่นไปวัน ๆ เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว เธอต้องมองไปถึงอนาคต ดูให้ดีดูให้ยาว ดูว่าตัวเองชอบเรื่องอะไรถนัดเรื่องไหน แล้วก็หาหัวข้อทำ Thesis กันได้แล้ว ไม่งั้นมันจะสายเกินไป บลา ๆๆ”
เปล่าครับไม่ใช่เสียงอ.หรอกครับ เสียงไอป๋องมันหลังจากทนกล้ำกลืนฝืนทนกับปาฐกถาของอาจารย์มาทั้งสัปดาห์ มันก็พล่าม ๆ ของมันต่อไปอยู่หน้าห้องซะจน นึกว่าอาจารย์มาเอง
“ถูกของเธอนะอ.ป๋อง” เสียงดุ ๆ ที่ฟังเป็นผู้ใหญ่อันแสนคุ้นเคยดังขึ้นมา
ไอป๋องค่อย ๆ หันหน้าไปมองต้นเสียง เหงื่อแตกกาฬ น้ำลายเหนียวหนืดกลืนลงคอช่างยากเย็น
“แฮ่...หวัดดีครับอ.เริน” พูดจบมันก็ใส่เกียร์หมามานั่งทันที
“เฮ้ย! ป๋องไปทำไวท์เทนนิ่งมาเหรอว๊ะ หน้าขาวเป็นผีจูออนเลยนะเมิง” ผมหยิกแกมหยอกมันหน่อย ๆ
“เอาน่า...เมิงก็รู้จารย์แกโหด”
“ครูล่ะเซ็งกับชื่ออ.เรินของพวกเธอซะจริง ฟังเผิน ๆ เหมือนครูเป็นโรคเริมเสียอย่างนั้น” อาจารย์บ่นพอเป็นกระสัย
“โห! จารย์ จารย์น่าจะชินได้แล้วนา พวกผมเรียกมาตั้งแต่ปี 1 แล้ว” ไอ้กิงคนกล้าบอกอาจารย์ไป
“ครูชื่ออ.เจริญโว้ย ถ้าจะให้ดีช่วยใช้สติปัญญาอันน้อยนิดของพวกเธอ เรียกเต็ม ๆ หน่อยละกัน”
“ฝันไปเหอะครับอ.เริน” ดูม้าน กับครูบาอาจารย์ยังจะเถียง “ฮ่า ๆๆๆ ~~” เสียงหัวเราะของลูกคู่ในห้องพร้อมเพรียงกันอย่างไม่กลัว....
“หึหึ” อาจารย์หัวเราะในลำคอ
“เรียกอย่างเดิมก็ได้ ครูไม่ว่าอะไรหรอก” พูดเสร็จก็ยิ้มให้สยองนิด ๆ “แต่เอาสเก๊ตซ์ดีไซน์ไปทำส่ง 5 โมงเย็นห้ามเลท กับมินิโปรเจคเอาไปทำอีก 2 สัปดาห์ส่ง” สิ้นคำอาจารย์ก็ทิ้งใบโปรแกรมให้เซ็งเล่น แล้วเดินจากไปไม่ฟังเสียงทักท้วงโวยวายที่สาปส่งตามหลังไป
ทันทีที่เผาสเก๊ตซ์เสร็จพวกผมก็รีบจรลีจากห้องstudio กันจารย์เรินย้อนมาให้งานเพิ่มอีก
“น่าน กรูว่าแล้วหาเรื่องแต่ต้นเทอมเลยเมิง” ผมหันไปค้อนไอ้กิง อันที่จริงก็อยากผสมลูกถีบไปด้วยซ้ำ มีที่ไหนสบายมาทั้งสัปดาห์ พอวันศุกร์ปุ๊บเจอทั้งงานในห้องทั้งงานล่วงหน้า กรรมจริง ๆ
“เมิงก็รู้ อ.แกไม่ด่าหรอกใจดี๊ใจดี แต่แกแก้แค้นด้วยการสั่งงานเหมือนนักศึกษาเป็นแรงงานเถื่อน ให้เท่าไหร่ต้องทำอีกเท่าตัว” ผมบ่น ๆ อย่างเซ็งจิต นี่แหละครับความโหดที่ว่าของอาจารย์แก
“โทษคร้าบคุณเร ผมไม่รู้ว่าการกระทำของผมจะกระตุ้นต่อมจารย์เรินได้ขนาดนั้น จนทำให้คุณต้องป่วยจนเกิดอาการทางจิต” ดูมันครับ ดูมัน จะขอโทษขอโพย ไหงพ่วงลูกประชดซะขนาดนั้น
“ไอ้กิง ไอ้เร แดกหมูกระทะป่ะ??” ไอ้ป๋องชักชวน
“มีบอลอ่ะดิ?” ผมถามอย่างรู้ทัน
“เออ คืนนี้ศึกใหญ่ด้วยเมิง” หน้าตาไอ้ป๋องดูเคลิ้มฝัน
“ไม?? ศึกวันทรงชัยเหรอฟร่ะ มุมแดงกับมุมน้ำเงินใครหล่ะ กร๊ากกกก”
“ไอ้เร บ้านเมิงสิวันทรงชัย แดงเดือดเฟ้ยแดงเดือด กรูใจสั่นหมดแล้วเนี่ยะ” ไอ้ป๋องล่องลอยไปไกลแล้ว
ไอ้ป๋องเป็นเด็กผีครับ ไม่ใช่ผีห่าซาตานนะครับ ถึงหน้ามันจะให้ก็เถอะ มันเป็นเด็กอุดรที่มีความภาคภูมิใจในหน้าตาเทรนด์อีสานของมันมาก มันบอกว่าดูต่อไปเหอะ เทรนด์กรามเด่น เน้นโหนก ไร้ดั้งจะมาแทนเทรนด์เกาหลีที่กำลังฮิตกัน ไม่เชื่อให้ดูจาพนมเป็นตัวอย่าง แล้วมาต่อกันกับไอ้ผีที่ว่าเนี่ยะก็ผีแดง man-u ทีมสโมสรชื่อดังจากพรีเมียร์ลีกประเทศอังกฤษ มันเทิดทูนบูชาราวกับบรรพบุรุษมันก็ไม่ปาน
“วันนี้ผีเจ้าบ้านด้วยนะเมิง สถิติชนะ 8 ใน 10 ฟันหมูแน่ ๆ” มันยังพล่ามต่อด้วยความชื่นชม
“กรูฟังเมิงพูดมาหลายปีแล้ว ไม่เบื่อมั่งไงว๊ะ”
“คนมันชอบทำไงได้เล่า”
“เออ! เดี๋ยววันเกิดเมิงปีนี้ กรูจะเลี่ยมอเล็ก เฟอร์กูสันให้เมิงห้อย” ผมประชดมัน
“จริงเหรอว๊ะ ใจว่ะ เอาเลี่ยมทองนะ กรูแพ้เงิน” หน้าด้านเอาอีก
เมื่อมีเด็กผีก็ต้องมีเด็กหงษ์ ในศึกวันแดงเดือดเช่นนี้
“เรา ว่า ก็ ไม่ แน่ เสมอ ไป หรอก นะ ป๋องง” เสียงยาน ๆ เนิบ ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของจีน บุคคลที่ผมเคยคิดว่ามันเอนท์ผิดคณะ
จีนเป็นคนกรุงเทพฯ สูงขาวหน้าตาตี๋ ๆ ดูเรียบร้อย สวมแว่นกลม ตัดผมสั้นไม่เคยลืมโกนหนวด คำหยาบที่สุดที่เคยออกจากปากจีนคือ ‘ไอ้ชั่ว’ แว่บแรกที่เห็นจะนึกว่าเป็นนักศึกษาแพทย์ ชอบทีมหงษ์แดงลิเวอร์พูลเข้าเส้นเลือด เป็นเหตุต้องขัดกับไอ้ป๋องอยู่เนือง ๆ สิ่งที่จีนเปลี่ยนไปมากที่สุดเมื่อเรียนคณะป่วงเช่นนี้ คือเริ่มใส่เสื้อไม่รีดแล้วเอาออกนอกกางเกงสแล๊ค
จีนใช้ความสามารถพิเศษที่ยากจะลอกเลียนแบบคือ ดำรงอยู่โดยที่คนอื่นไม่รู้ได้ เดินเนิบ ๆ มาหาป๋อง
“ป๋อง จะ มั่น ใจ เกิน ไป แล้ว”
“มั่นไม่มั่นไม่รู้ ของอย่างนี้ดูในสนามดีกว่า” ไอ้ป๋องท้าทายจีน
“เหอ ๆ งั้น ก็ ไป ดู กัน เลย ดี กว่า ผี กลาย เป็น ผี แน่ วัน นี้” ปกติจีนเป็นคนเงียบ ๆ พอบอลขึ้นสมองก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า
ขณะที่พวกผมสาละวนกับการเรื่องการเลือกร้านหมูกระทะ เลือกเอาร้านจอใหญ่ ๆ จะได้เห็นแมทซ์โปรดจะจะตาแบบไม่ต้องเปลืองค่าไฟที่หอ หรือจะร้านที่น้ำจิ้มรถเด็ดเสียแต่จอเล็กไม่เกรงใจคนดูไปหน่อย หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่คิดออกอยู่ใต้ตึกคณะนั่นเอง...
คณะของผมจะมีตึกขนาดกลาง ๆ สูง 3 - 4 ชั้น จำนวนหลายตึกกระจาย ๆ กันไปทั่วบริเวณ แยกเป็นตึกStudio ตึกสำหรับเลคเชอร์ หอประชุม ห้องพักอาจารย์ และสโมสรนักศึกษา ร่มรื่นไปด้วยไม้ยืนต้นที่ปลูกจนเต็มบริเวณ มีบ่อน้ำที่พวกผมชอบมาทำผิดศีลข้อแรกแอบตกปลาเล่นอยู่ 1 บ่อ และลานไทรซึ่งถือว่าเป็นโอเอซิสสำหรับชาวคณะ เพราะเต็มไปด้วยต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่นเย็นสบายไปทั่วพื้นที่ มีชุดโต๊ะม้าหินอ่อนตั้งกระจายให้นั่งเล่นกัน
“พี่กิงค้า~~~” เสียงหวานปานน้ำผึ้งเดือน 5 ของน้องเจนดาวมหาลัยปีที่แล้ว ปัจจุบันเป็นนึกศึกษาปี 2 คณะบริหารธุรกิจ (เขาว่าหนุ่มถาปัดต้องป๊ะกับสาวบริหาร ไม่รู้แนวความคิดใคร) เริ่มคบกับไอ้กิงตั้งแต่ก่อนปิดเทอมเดือนกุมภาพันธ์ผ่านมาก็ร่วม 4 เดือนย่างเข้าสู่เดือนที่ 5 แล้ว นานเป็นประวัติการณ์ทีเดียว
.....ไอ้กิงทำหน้า ที่ผมอ่านไม่ออกว่ามันคิดอะไรอยู่
“ว่าไง” ไอ้กิงตอบเสียงเรียบ
“เอ่อ ตั้งแต่ปิดเทอมเราก็ไม่เจอกันเลยนะคะ” น้องเจนอมลมจนแก้มสีชมพูป่อง ช้อนตาโตกับแบะปากเป็นเป็ดนิด ๆ ช่างแอ๊บแบ๊วจนน่ารักเสียนี่กระไร
พวกผมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดอลลี่ออกมาเงียบ ๆ
ภาพตรงหน้าอย่างกับฉากซึ้งในละครเกาหลี หนุ่มหล่อมาดเท่ห์กับสาวสวยตัวเล็กผมยาวที่ดัดลอนเป็นทรงอย่างเก๋ไก๋ยืนเคียงข้างกัน มีแบ็คกราวน์เป็นตึกเรียนที่รายรอบไปด้วยต้นไม้และไทมุง
“วันนี้พี่จะไปไหนป่ะคะ”
“พี่จะไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ทำไมเหรอ”
“ให้เจนไปด้วยนะคะ”
“มีแต่เพื่อน ๆ พี่ทั้งนั้น ไปดูบอลกันด้วย เดี๋ยวก็เบื่อหรอก”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ ไม่เบื่อหรอก” น้องเจนว่ายิ้ม ๆ ผมเหลือบไปดูไอ้ป๋องน้ำลายย้อยไปแล้วกับความงามของน้อง
“ตามใจสิ” ไอ้กิงตอบเรียบ ๆ
“งั้นให้เจนพาเพื่อนไปด้วยนะคะ”
“...” ไอ้กิงไม่ตอบอะไร แต่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
“เย้!” น้องเจนยิ้มน่ารักสดใส กระโดดกอดแขนไอ้กิงไป หลาย ๆ คนรอบตัวผมต่างมีหลากหลายความรู้สึก ทั้งเคลิบเคลิ้ม อิจฉา น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนา ส่วนผมน่ะเหรอ เหอะ ๆ แสลงใจนะเซ่
“ดีวุ้ยมีสาวงามร่วมโต๊ะ ไม่ต้องจมอยู่แต่กับพวกตัวผู้” ไอ้ป๋องเปรย ๆ
“แต่ ยัง งาย ผี ก็ มี เจ็บ แน่” จีนยังรักษาคอนเซปต์
“เฮ้ย! พวกเมิงจะไปพร้อมกรูรึปล่าว จะได้เอารถไปคันเดียว” ไอ้กิงหันมาถามพวกผมที่ยืนรอท่าอยู่
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวกรูกับจีนเอามอเตอร์ไซค์ไปคันนึง เวลากลับได้แยกกันง่าย” ไอ้ป๋องตอบไป กลัวก็แต่บอลจบ ไอ้ป๋องกับจีนมันจะไม่จบน่ะสิ
“เมิงอ่ะ มากับกรูป่าว หรือเอาแลมไปจอดที่หอก่อน เดี๋ยวกรูไปรับ”
“กรูไม่ไป เมิงไปเถอะ” ผมตอบไป พยายามซ่อนอารมณ์กลัว กล้า อาฆาตไว้
“ไมว๊ะ” ไอ้กิงขึ้นเสียงนิด ๆ แล้วสะบัดแขนจากน้องเจน เดินมาหาผม (จะดีใจหรือจะสยองดีหว่า)
“กรูไม่อยากน่ะ ท้องไส้ไม่ค่อยจะดี”
“เป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า” ว่าแล้วมือหนาของมันก็ทาบเข้าที่หน้าผากผม
“เออ ร้อนจริงด้วยว่ะ” ไม่ใช่เพราะผมเป็นไข้หรอกคร้าบ
“รู้แล้ว ก็ปล่อยสักทีสิว๊ะ” ผมตัดบทสนทนา แล้วปัดมือมันออก ตอนนี้ผมไม่กลัวจะเป็นขี้ปากใครอีกหรอกครับ ผมกลัวน้องเจนจะมาแหกอกผมมากว่า สายตาเธอช่าง... ถึงได้ว่าสัญชาตญานหญิงดูถูกกันไม่ได้
“ป๋อง เรา ว่า หน้า เร แดง กว่า หงษ์ กับ ผี รวม กัน อีก นะ”
“สงสัยไข้สูงมั้ง กลางวันยังดี ๆ อยู่เลย” ไอ้ป๋องว่า ก็เดากันไปเถิด...
----------------------------------------------------------------------------
ติชมได้ตามสะดวกค่ะ
ขอบคุณหลาย ๆ ที่เข้ามาอ่าน มาชม มาแล มาเม้นท์กันค่ะ ^^
TBC.
ความคิดเห็น