คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จุดเริ่มต้นของการเป็นศัตรู(-_-)
รถทั้งคันหยุดกึก ทำให้ทุกคนผวา ลิลี่ผุดลุกขึ้นพร้อมกับตะโกนเสียงดัง
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ"
"รถไฟเสียมั๊งครับ"
"รถไฟถูกโจมตี!!!!" เสียงดังราวกับใช้เครื่องขยายเสียงประกาศก้อง "ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบด้วย เด็กปี 1 กรุณาไปรวมกันที่ห้องเสบียงด่วน"
พวกเด็กปีหนึ่งรีบออกไปตามคำสั่งของนักเรียนรุ่นพี่ เซเวอรัสและลิลี่ตามไปด้วย แล้วก็ถึงเสียที แต่ที่นั่นมีคนที่พวกเค้าทั้งคู่ไม่ค่อยอยากเจออยู่ด้วย
"หวานชื่นเหลือเกินนะ" ซีเรียสพูดด้วยความหมั่นไส้ "แต่เสื้อผ้ายัยเปี๊ยกนั้นตัวใหญ่ไปนะ ชั้นว่า"
"ระวังปากหน่อยนะ" ลิลี่ว่า "เซเวอรัส สเนปเป็นเด็กผู้ชาย รู้ไว้ซะด้วย"
"โห... เป็นผู้ชายที่ทุเรศมากด้วย ไม่ยักรู้ว่านายมีรสนิยมแบบนี้"
เซเวอวัสไม่พูดอะไร แต่เจมส์ดูตกใจมาก... ความจริงก็ดูจะตกใจทุกคนนั่นแหละ แล้วพักหนึ่ง สีหน้าของเจมส์ฉายความผิดหวังออกมาชัดเจน
...........ลูกของคนรักของแม่ หน้าตาเหมือนกันมากด้วย....กับคนที่แม่รักน่ะ...............
....ซีดเผือดและผอมบางราวกับคนป่วย...แต่กระนั้นเราก็เข้าใจความหลงใหลของแม่นะ........เพราะเราเองก็สังเกตเห็น....ความสวยที่ราวกับลูกกวางเพิ่งเกิดของทั้งคู่ เป็นความสวยที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ในความซีดเซียวอันไม่น่ามองราวกับซากศพนั่นน่ะ............
แต่พอรู้สึกตัวอีกเจมส์ก็เห็นลิลี่ปีนขึ้นหลังคา พวกเด็กๆ คนอื่นกรีดร้องโวยวาย แต่ซีเรียสดังเป็นพิเศษ "นั่นนายทำอะไรวะ!!!"
"ไปช่วยพวกรุ่นพี่ปี 7 น่ะสิ จะอยู่เฉยๆ ได้ยังไง" ลิลี่ว่า
"ใครจะปล่อยให้นายเป็นวีรบุรุษคนเดียวล่ะ" ซีเรียสพูดพลางปีนหลังคาตามขึ้นไป เจมส์หันไปหาเซเวอรัสพลางพูดอย่างอบอุ่น... อบอุ่นราวกับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์
"ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นนายไปหลบข้างหลังได้เลยไม่ต้องอายหรอก ตัวเล็กๆ แบบนี้หลบพ้นอยู่แล้ว" เซเวอรัสตะลึงมอง เจมส์พล่ามต่อไป "ไม่ต้องกลัว... ชั้นจะปกป้องนายเอง"
ดวงตาสีดำสนิทมองทั้งผู้หญิงที่ชอบและคนที่ยื่นไมตรีมาให้จากไป ในที่สุดเค้าก็จะหนีพ้นวงจรอุบาทถ์ของชีวิตได้แล้วสินะ นานแค่ใหนแล้วที่เค้าถูกเด็กอื่นกลั่นแกล้งล้อเลียน นานแค่ใหนแล้วที่มองไปรอบๆ แล้วไม่มีใครนอกจากพ่อกับแม่ บ้านที่มีแต่ความทรงจำเลวร้าย แต่เค้าก็ยังอยากจะกลับไปเพราะแค่ อย่างน้อยๆ ที่นั่นมีคนที่ร้องไห้เพื่อเค้า
*****************************************
เหล่าอินเฟอร์ไรถูกโจมตีจนกระเด็นกระจักกระจายด้วยคาถาของพวกเด็กโต แม้พวกลิลี่จะเป็นแค่ตัวถ่วงที่ทำได้แค่พุ่งประกายไฟใส่ศัตรู แต่ก็ไม่เคยตกตระกำลำบากขนาดจะทำให้พวกรุ่นพี่มาคอยดูแล ลิลี่รู้คาถามากพอที่จะถนอมตัวให้รอดจากอันตราย แล้วในที่สุดเธอก็หันไปยิงคำแช่งใส่อินเฟอร์ไรที่กำลังจะโจมตีรุ่นพี่ผมสีเงินคนหนึ่ง กลายเป็นว่าจังหวะนั้นมีลำแสงอันตรายพุ่งเข้ามาหาเธอพอดี
"อันตราย!!!!!!!!!" เจมส์ร้องพร้อมกับพุ่งมาคว้าตัวลิลี่ออกจากวิถีคำสาป จนทั้งคู่กลิ้งหลุนๆ ไปกับพื้น คำสาปเฉี่ยวโดนแค่หนังยางที่รัดผมของเด็กหญิงเท่านั้น
แล้วเมื่อยันตัวขึ้น จะถามว่าอีกฝ่ายว่าเป็นไงบ้างก็มีอันต้องอึ้ง เมื่อตำแหน่งที่มือจับไว้(อก)นูนโค้งอย่างประหลาด ชายเสื้อคลุมไหลขึ้นมาอยู่ที่เอว เผย กางเกงในลายดอกไม้กุ๊กกิ๊กน่ารัก และช่วงเป้ากางเกงก็เรียบๆ ไม่นูนออกมา
"เอฟเวนส์.....นาย"
เสียงดังฉาดตามมาทันทีที่อีกฝ่ายเงยหน้าที่ดูสวยอย่างมากเมื่อสยายผมขึ้นมา ลิลี่ เอฟเวนส์ตบหน้าเจมส์ พอตเตอร์ที่ร้องเสียงหลง
"เป็นผู้หญิงเหรอเนี่ย!!!!!!!!"
"ไม่เคยอ้างซักนิดว่าเป็นผู้ชาย" เด็กหญิงตะคอก
แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องสงบศึกชั่วคราวเมื่อนึกได้ถึงสถานการที่เหลือรับประทาน หันหลังพิงกันและกัน แล้วก็ยิงคำแช่งเท่าที่ตนรู้จัก(ซึ่งเจมส์รู้แค่วิงการ์เดี้ยม เลวิโอซ่า) ไปทุกทิศทุกทาง ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกที่นั่งลำบาก เหตุการณ์ชวนตะลึงก็เกิดขึ้นอีกเรื่อง
........เปลวไฟเวทมนตร์พุ่งผ่านเข้ามาในสายตาของเจมส์........
.......แม่อยู่ที่นั้น มันใช้คาถาเพลิงเมกิโดเผาแม่จนอาการปางตาย.......
.......แม่ต้องนอนที่โรงพยาบาล และไม่มีท่าทีว่าจะฟื้น............
.......มัน..คนที่พ่อเรียกว่า ริดเดิ้ล!?!...............
และภาพของไอ้คนเลวนั้น กำลังซ้อนทับกับภาพเด็กชางร่างเล็ก ที่ผมสีดำสนิทและเสื้อคลุมตัวใหญ่เกินขนาดนั้นกำลังปลิวสะบัดในสายลมเย็น
"ทำไมเด็กตัวเล็กๆ นั่นถึงรู้จักศาสตร์มือขึ้นสูงแบบนั้นได้นะลูเซียส" เด็กสาวผมดำพูดเบาๆ
"นั่นสิเบลาทริกซ์" ลูเซียสตอบ "ทั้งที่เมกิโดเป็นคาถาที่แทบจะเรียกได้ว่า มีแต่พ่อมดแม่มดศาสตร์มืดที่แท้จริงโดยกำเนิดเท่านั้นที่ใช้เป็นแท้ๆ"
แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าไฟใช้ได้ผลดีกว่าอย่างอื่น ไม่นานนักพวกซากศพเดินได้ก็ถูกทำลายจนหมด แล้วทุกอย่างก็คืนสู่ภาวะปกติ ทะว่า.. ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าผู้ควบคุมซากศพอยู่ไกล้แค่ไหน ...ร่างๆ หนึ่งลอยอย่างสง่างามอยู่กลางอากาศ เฝ้ามองร่างเล็กที่ใช้ศาสตร์มืดขั้นสูงได้อย่างน่าประทับใจด้วยความชื่นชม ใบหน้าอันหล่อเหลาที่มักซ่อนไว้ใต้หน้ากากอันอัปลักษณ์เสมอมีร่องลอยแห่งความละโมบปรากฎชัด
รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนทันทีอย่างไม่มีสัญญาณบอกกล่าว ทำให้ร่างของลิลี่เสียหลัก และคงตกลงไปแล้วถ้าเจมส์และเซเวอรัสไม่รีบมาคว้าตัวไว้ ดูเหมือนพวกเค้าส่วนใหญ่ต้องนั่งบนหลังคาไปจนกว่าจะถึงฮอกวอสต์ ตอนนั้นซีเรียสค่อยๆ มาทางพวกเค้าอย่างระมัดระวัง
"ขอบใจมากนะ.."ลิลี่ว่า "ทั้งเจมส์ทั้งเซเวอรัส"
"ไม่น่าเชื่อ..... นายใช้คาถาได้แรงขนาดนี้เชียว" ซีเรียสทึ่งจัด
"คือ........ ผมเรียนมาจากหนังสือเก่าของแม่" เซเวอรัสก้มหน้า
"น่าทึ่งจริงๆ" ลิลี่ว่า แต่เจมส์ขัดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"ต้องมองนายใหม่แล้วสิสเนป ดูท่านายจะเป็นพวกคลั่งไคล้ศาสตร์มืดอย่างนักเลยนะ"
ท่าทีของเจมส์ทำให้ทุกคนเงียบไป มีเพียงซีเรียสที่กระซิบกระซาบกับลิลี่ว่า "เจ๋งมากเลยนะ เห็นผีมือแล้ว แต่ความจริงเป็นผู้หญิงสินะ เพราะได้ยินเจมส์มันว่างั้นว่ะ" ส่วนเจมส์ไม่พูดอะไรกับเซเวอรัสเลย ไม่แม้แต่ชำเลืองมองด้วยซ้ำ เด็กชายร่างผอมกระหร่องได้แต่ลอบมองอีกฝ่ายอย่างเจื่อนๆ
.......ทำไมนะ.......น่าจะเป็นเพื่อนกันได้แล้วนี่นา...........
...........แล้วทำไม.......ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้..........
**********************
ปราสาทที่สง่างามและใหญ่โตตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืด เซเวอรัสสั่นระริกมาตลอดทางจนถึงหน้าประตูห้องโถง เพราะตอนที่เรือลอดหมู่แมกไม้เค้าก้มหัวไม่ทันแลยโดนกิ่งไม้ฟาดหน้าตกเรือ ทำให้ต้องเกาะเรือลำที่ลิลี่นั่งมาตลอดทาง พึ่งรู้จักกันก็ทำตัวเปิ่นๆ ดูแล้วพึ่งพาไม่ได้ตั้งหลายครั้ง
............แล้วอนาคตเธอจะมองเค้าในฐานะผู้ชายบ้างมั้ยนะ...........
เสียงจามดังสนั่น ดู่ท่าอี.ที. น้อยจะเป็นหวัดเสียแล้ว มือเล็กๆ คว้าเสื้อคลุมของคนข้างหน้า.......แล้วก็......สั่งขี้มูก....?
"จ๊ากกกก!!!!!!!!! ไอ้เจ้าสนิฟเวลลัส(ขี้มูกโป่ง)" ซีเรียสกรีดร้องสั่นจนห้องโถงแทบถล่ม "กล้าดียังไงมาสั่งขี้มูกใส่เสื้อคลุมชั้นว๊าาา!!!!!!!!!!"
แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากอีกฝ่ายคือเสียงร้องไห้และร่างกายที่สั่นราวกับลูกแมวตกน้ำ ทุกสายตามองตรงมาเป็นตาเดียวด้วยความรู้สับสนว่าเจ้าเด็กหุ่นเหมือนก้านไม้ขีด(ไม่ก็ถั่วงอก)นี่มันน่าสมเพชหรือหน้าหัวเราะกันแน่
เพราะฉะนั้นการที่ได้เจ้าเด็กตัวประหลาดนี่ได้สังกัดบ้านสลิธีรินจึงเป็นสิ่งที่ทำให้คนทั้งห้องโถงตาโตด้วยความอัศจรรย์ใจ ทว่า....... มันสิ่งที่เจมส์มั่นใจอยู่แล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้น
"เห็นมั้ย... ชั้นบอกแล้ว.... พวกพ่อมอที่เอาดีด้านชั่วน่ะ สังกัดบ้านสลิธีรีนทั้งนั้นแหละ"
"เอาดีด้านชั่ว" ลิลี่ทวน "เป็นคำที่แรงมากนะ คนที่ชอบศาสตร์มืดไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนเลวซักหน่อย"
"อ้อ.......แหงสิ เธอต้องปกป้องเค้าอยู่แล้ว เธอเป็นแฟนเค้าหนิ"
"กล้าดียังไง!!!" ลิลี่ร้องอย่างเหลืออด ทำให้ทั้งห้องโถงหันมามอง
"เห็นมั้ย.." เจมส์ว่า ทำให้รีมัสเริ่มเหลียวซ้ายแลขวาระหว่างเจมส์กับลิลี่ ที่มีท่าทีจะฆ่ากันให้ตายคามือ "ขนาดเธอยังไม่คิดจะเอาหมอนั้นเลย เพราะงั้น.. เลิกปกป้องดีกว่า"
"ได้..." เด็กหญิงพูดเสียงเข้ม แววตาของเธอที่มองเค้าบอกชัดว่าไม่ชอบเค้าอย่างมาก "ก็ได้"
ลิลี่ เอฟเวนส์ ลุกจากโต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ แล้วเดินตรงไปยังโต๊ะบ้านสลิธีรีน ท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่มองมา และเธอก็หยุดที่เซเวอรัส สเนป อะไรบางอย่าง..... บางอย่างที่เธอไม่คาดฝัน.....เมื่อดวงตาสีเขียวสดของเธอสบกับตาสีดำราวกับอุโมงค์ที่มืดสนิทของเค้า คำพูดที่เธอแค่อยากจะประชดเจมส์....กลายเป็นความปรารถนาที่แท้จริงไปโดยไม่รู้ตัวราวกับต้องมนตร์ ริมฝีปากดั่งกลีบกุหลาบขยับพูดสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าออกไป....
"เป็นแฟนกันนะ"
ดัมเบิลดอร์ปล่อยมีดจากมือตกลงใส่จานดังเคล้ง....
เซเวอรัสตะลึง(ความจริงก็ตะลึงทุกคนนั้นแหละ) แล้วคำๆ หนึ่งก็ลอดผ่านริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบา
"ครับ...ลิลี่"
ระหว่างนั้นสายตาแห่งความเกลียดชังของเจมส์ พอตเตอร์ พุ่งตรงมาทางทั้งคู่อย่างรุนแรงจนเซเวอรัสขนลุก
***********************
TBC.
ความคิดเห็น