คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : HitsuKarin || ด้ายแดงแห่งโชคชะตา 3 (end)
運命の赤い糸 3 。
ด้ายแดงแห่งโชคชะตา 3
PG-13 | Short Fic (2-4ตอน)
Hitsigaya Toshiro x Kurosaki Karin
_____________________________________
ผ่านไปครึ่งเดือน เรื่องของคุโรซากิ คาริน ก็ยังไม่หลุดออกไปจากกระบวนการความคิดของข้า ไม่ว่าจะเป็นวันที่งานหนักมากขึ้นหรือน้อยลง แม้กระทั่งในวันนี้ที่ อิจิโกะ แช้ด และ อุโนะอุเอะ ขึ้นมาเยี่ยมคุจิกิคนสุดท้อง ข้าก็ยังคงไม่มีหน้าเข้าไปพบพวกเขาสักเท่าไหร่
ในหน่วยที่สิบก็มีตัวแทนอย่างรองหัวหน้าของข้าที่ไม่เคยพลาดงานรวมตัวสังสรรค์ไปแทน แล้วพอจบงานก็วิ่งโหวกเหวกมาที่ห้องทำงานข้าเหมือนเดิมไม่มีผิด
"หัวหน้าค้าา อิจิโกะเค้ายังไม่รู้เรื่องเหรอคะเนี่ย"
"ยัง" ไม่งั้นข้าคงไม่ต้องมาหลบหน้าอยู่อย่างนี้หรอก
"อุ้ย งั้นก็มีด่านหินเลยนะเนี่ย"
"หุปปากน่ามัตสึโมโตะ"
"ว่าแต่น้องสาวอิจิโกะนี่อายุเท่าไหร่น้า" คำพูดของมัตสึโมโตะทำให้ข้าฉุกคิด ถึงแม้ข้าจะรูปร่างรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ แต่ด้วยอายุร้อยกว่าปีของข้าก็ทำให้รู้สึกกระดากอยู่พอควร
"ข้าลืมคิดไปเลยแฮะ"
"แหมมม เข้าขั้นรักจนตาบอดแบบนี้ ระวังพี่ชายเค้าแจ้งความแล้วจะติดคุกนะคะหัวหน้าคิกๆ" แน่นอนว่ายมทูตอย่างข้าไม่มีวันติดคุกยกเว้นว่าจะสู้กันซึ่งๆหน้า แต่พอได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกว่าข้าเป็นคนคิดไม่ดีกับเด็กไปซะอย่างนั้น
ข้าไม่ค่อยแน่ใจว่าที่มัตสึโมโตะพูดนั้นเป็นเรื่องพูดเล่นหรือกังวล แต่มันก็ทำให้ข้านั่งคิดนอนคิดระหว่างทำงานมาได้เกือบหนึ่งอาทิตย์เต็ม ตอนนี้ข้าเริ่มแน่ใจแล้วว่าไม่ใช่เพียงเพราะช๊อคเรื่องด้ายแดงแต่เป็นเพราะข้าคงจะชอบเจ้าเด็กคนนั้นไม่ผิดแน่
“โทชิโร่คุงดูเหม่อเหมือนมีคนมีความรักเลย คุณรันงิคุว่าไหมคะ” แม้แต่โมโมะจังที่แวะมาพบในรอบเดือนแค่เห็นแว๊บเดียวก็ยังดูออก
“หัวหน้าข้าดูออกง่ายขนาดนั้นเลยจริงด้วย”
“อ้าว นี่ข้าเดาถูกเหรอ!" โมโมะที่ปกติแล้วไม่เคยจะเดาอะไรถูกซักเท่าไหร่กลับมองเห็นอย่างทะลุปรุโปร่งในรอบนี้ รองหัวหน้าเองเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนสนิทกับหัวหน้าตนมากก็รีบใส่ไฟเล่าเรื่องให้ช่วยทำอะไรสักอย่างกับหัวหน้าของเธอซักที
“ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วก็ยังไม่ยอมลงไปใหม่ ข้าล่ะขัดใจจริ๊ง”
“เหห รู้สึกตื่นเต้นเพราะน้องชายขายออกเลยแฮะ” เสียงซุบซิบตามประสาผู้หญิงด้วยกันเองหน้าห้องทำงานของหัวหน้าหน่วยที่สิบคงจะดังอยู่ไม่น้อย ในภายหลังที่จินตนาการคุยถึงคนในห้องกับความรักของเขาอยู่ได้อีกไม่นานก็มีเสียงประตูเลื่อนเปิดสนั่นดัง
ปัง
“พวกเธอไม่มีงานการจะทำกันหรือยังไง!” รังสีทะมึนที่ปะปนกับบรรยากาศแปลกๆไม่ได้ทำให้สองสาวที่รู้จักกันดีอยู่แล้วกลัวสักเท่าไหร่
กลับกันโมโมะผู้มาเยี่ยมในรอบเดือนก็เกิดปิ๊งข้อเสนอที่ดี ยิดเบือนความเป็นจริงนิดหน่อยและหยิบยื่นโอกาสให้ทันใด
“ช่วงนี้ข้ามีงานต้องจัดการในหน่วยเยอะเพราะยังไม่มีหัวหน้าหน่วยคนใหม่ที่ลงตัวเลย ชิโร่คุงช่วยลงไปตรวจตราช่วยข้าสักหน่อยได้ไหมจ๊ะ แล้วข้าจะแจ้งลูกน้องในหน่วยที่ประจำการอยู่บนโลกมนุษย์ให้เอง” เธอพูดแสร้งทำท่าเหนื่อยอ่อนนิดหน่อยอย่างรู้ดีว่าคนอย่างโทชิโร่คุงจะไม่ปฎิเสธข้อเสนอนี้จากตนอย่างแน่นอน
.
ผีเสื้อนรกกับประตูจากโซลโซไซตี้ไปยังโลกมนุษย์นั้นปรากฎต่อหน้าข้าเร็วกว่าที่คิดไว้มาก ทั้งที่กำหนดคืออีกครึ่งปีแท้ๆ แต่เพราะปฎิเสธโมโมะจังและคำหว่านล้อมอันน่ารำคาญของมัตสึโมโตะไม่ได้ เลยต้องไปยังโลกมนุษย์อีกทั้งที่เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงเดือนเดียว
“ตัดสินใจให้ดีนะค้าหัวหน้า” มัตสึโมโตะก็มายืนส่งโบกมือพูดอย่างกับข้าไม่ได้ไปทำงาน
แต่ก็นั่นแหละ ประตูเจ้ากรรมมันก็ดันพาข้าไปโผล่ที่หลังคาบนบ้านของคุโรซากิอิจิโกะอีกครั้งหนึ่ง พลันด้ายแดงที่เคยบอกตนเองมาตลอดทั้งเดือนว่าให้ลองลืมๆมันไปซะก็เด่นชัดขึ้นจนปฎิเสธความคิดถึงต่อเจ้าของเส้นด้ายอีกฝั่งไม่ลง
ความรู้สึกปะทุขึ้นราวกับไฟได้ลมโหมเหมือนข้าไม่เป็นตัวของตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็มายืนข้างเตียงที่เห็นเจ้าหญิงนิทรา เว้นแต่มีผมสั้นสีดำที่ดูเหมือนจะยาวขึ้นจนประบ่าจากเดือนที่แล้วนอนหลับอยู่อย่างสงบไม่รู้สึกถึงข้าที่มาใหม่
“เจ้าจะสูงขึ้นรึเปล่านะ” ข้าอดไม่ได้ที่จะลูบหัวเธออย่างเอ็นดู แม้จิตใจส่วนลึกอย่างจะปลดปล่อยให้ตนเองจุมพิตตามใจอยากเหมือนครั้งแรกที่เจอ ข้ายังอดใจไว้ได้ในรอบนี้ที่จะไม่ทำอะไรอุกอาจเช่นนั้นจนกว่าจะได้คุยกันอย่างจริงจังกับพี่ชายของเธอ
พอได้เห็นหน้าเธออีกครั้งข้าก็ตัดสินใจได้…ข้าจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้องอย่างไม่หลบซ่อน
“ไม่ต้องรอข้านานแล้วล่ะ คุโรซากิ คาริน" พูดไปก็ดูเหมือนมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน จนอดคิดไม่ได้ว่าในความจริงแล้วเธอจะคิดแบบเดียวกันกับข้าหรือไม่
ข้าก้าวพริบตาจากไปเพื่อตรวจตราเมืองคาราคุระอย่างรวดเร็ว
มาปฎิบัติงานครั้งนี้ยิ่งเสร็จเร็วมากเท่าไหร่ก็จะได้รีบกลับมาสะสางเพื่อพบเจอคนที่ใจอยากพบมากขึ้นเท่านั้น
โดยปกติแล้วจะต้องมีเวลาเจ็ดวันสำหรับการตรวจตราภายในเมืองหนึ่งเมือง แต่เพราะคราวนี้ข้าออกจะรีบร้อนกว่าปกติ ภารกิจตรวจตราเก็บข้อมูลจากลูกน้องหน่วยประจำการในเมืองคาราคุระจึงเสร็จภายในเพียงสี่วัน
และก็เป็นอีกครั้งที่มายืนหน้าบ้านสกุลคุโรซากิในยามบ่าย แต่คราวนี้ไม่ใช่คารินที่ข้ามาหา
“มาถึงที่นี่นายมีอะไรโทชิโร่ คราวที่แล้วไปโซลโซไซตี้ก็ไม่ยักกะเห็นหัวนาย” คุโรซากิ อิจิโกะ พี่ชายของคารินที่ข้าหลบหน้ามาสักพัก
“ข้ามีเรื่องจำเป็นต้องคุยกับเจ้า”
“จริงจังขนาดนั้นเลยเรอะ” อิจิโกะทำหน้าเครียด ดูเหมือนจะเข้าใจว่าทางโซลโซไซตี้มีปัญหาอะไรอีก
“ไม่ใช่เรื่องโซลโซไซตี้”
“อ้าว” อิจิโกะทำหน้างง ข้าบอกให้เขาเชิญข้าไปนั่งในบ้านก่อนที่จะเริ่มคุยเพราะคาดว่าคงจะได้รับการตอบรับที่ไม่ดีนัก
ข้านั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะถอนหายใจเอ่ยปาก “แต่เป็นเรื่องน้องสาวของเจ้า”
“นายจะมาขอน้องสาวฉัน!" อิจิโกะแหกปากเสียงดังจนน่าตกใจ ท่าทางที่ดูไม่ขัดขวางนั่นก็เหนือความคาดหมายจนน่าตกใจ
“อะไร..เจ้ารู้”
“หา? ไม่รู้อะไรขนาดนั้นแต่ก็ได้ยินคุณรันงิคุหลุดเรื่องคารินกับนายอะไรนี่แหละ เอาจริงๆวันนี้ก็พึ่งสังเกตเห็น”
“มัตสึโมโตะ.." ข้าได้แต่กัดฟันกรอดกับความปากสว่างของรองหัวหน้าหน่วยที่น่าปวดหัว มข้ากำมือแน่นในระหว่างที่อิจิโกะทำท่าจะง้างกำปั้นของข้าเพื่อดูเส้นด้ายแดงให้เห็นชัดๆ
“เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มานิดหน่อย ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงนะเนี่ย”
“ตอนแรกข้าก็คิดว่าเจ้าจะมองไม่เห็นมัน”
“ก็เคยมองเห็นแว้บๆอยู่ แต่เพราะไม่ได้รู้มาก่อนเลยไม่ได้ใส่ใจน่ะ” ..เป็นคำพูดที่เหมาะกับอิจิโกะเอาเสียจริง
“เอาจริงๆฉันก็รับไม่ได้ตอนที่ได้ยินคุณรันงิคุหลุดปาก แต่เพราะว่าทุกคนก็มีเหตุผลดีกันซะเหลือเกินเลยพอทำใจได้ เหลือแค่กลัวนายต่อต้านอยู่เท่านั้นแหละ” อิจิโกะนั่งพิงโซฟาถอนหาายใจเสียงดังพลางพูดต่อ
“เฮ้อออ พอรู้ว่านายดูจะจริงจังขนาดนี้ฉันก็ดีใจแล้วล่ะ”
“งั้นข้าก็สามารถมาหาเธอได้?"
“ก็ได้บ้างแหละ แต่อย่าลืมนะว่าคารินยังเด็กอยู่แล้วปกตินายก็เก็บความรู้สึกเก่งนี่ ไว้น้องฉันโตค่อยบอกก็ได้”
“กี่ปี..” ข้าเริ่มรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาซะดื้อๆ ยกนิ้วนับปีที่ต้องรอ ถึงแม้ว่าข้าจะเก็บความรู้สึกเก่งแต่ไม่นานมานี้ก็พบว่าพอเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุโรซากิ คารินแล้ว ข้าเก็บความรู้สึกไม่อยู่กับตัวเอาเสียเลย
ข้าเอาแต่นั่งเงียบคิดพิจารณาจนไม่ได้ระวังตัวหรือมองเห็นสีหน้าปุเลี่ยนพูดไม่ออกของอิจิโกะ เงาในชุดนักเรียนหญิงมอต้นที่ยืนจังก้าอยู่ด้านหลังของข้าก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเข้ม
“พี่อิจิจะเก็บความลับอะไรกับฉัน!”
“อะ เอ่อ"
“นายด้วยโทชิโร่ หายหัวไปตั้งนานแต่กลับมาซุบซิบกับพี่อิจิเนี่ยนะ” อิจิโกะทำท่าพูดไม่ออกทำอะไรไม่ถูก ข้าที่ควบคุมสีหน้าได้ดีอยู่จึงตัดสินใจกัดฟันโกหกทำตามข้อตกลงที่ว่าไปก่อนหน้า
“ธุระนิดหน่อยน่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า” ข้าหลับตาพูด กดข่มความรู้สึกไว้ในใจอย่างยากเย็น
เพราะข้าหลับตาจึงไม่เห็น แต่อิจิโกะที่เห็นสีหน้าของน้องสาวที่ตนเองทั้งรักและหวงแหนดูหม่นเศร้าสร้อยขึ้นมาก็ทนไม่ได้กลายเป็นคนเริ่มต้นฉีกสัญญาแทน
“โทชิโร่เขาไม่กล้าพูด”
“พูดอะไรเหรอ?”
“เขาชอบเธอนะคาริน”
“ห๊าาา พี่อิจิอย่าล้อเล่นแถวนี้ได้มั้ย" คารินตวาดเสียงดัง แต่ใบหน้าของเธอนั้นแดงเป็นริ้วตั้งแต่แก้มไปจนถึงใบหู
“ถามโทชิโร่เองสิ” อิจิโกะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่ตัดบทโยนความรับผิดชอบให้เจ้าตัวเจ้าของเรื่องไปในทันที
ข้าเองที่นิ่งอึ้งอยู่นานเพราะอยู่ดีๆก็มีคนบอกแทนแบบโต้งๆอย่างนี้ก็ทำตัวไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งอยู่กับความรู้สึกที่วุ่นวายของตัวเองกับใจที่เต้นรัวอย่างกับกำลังแข่งวิ่งสี่คูณร้อยยังไงยังงั้น
กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ก็เดินจูงแขนคุโรซากิ คาริน มาที่สวนหลังบ้านเสียแล้ว
“พี่อิจิไม่ได้ตามมา ปล่อยฉันได้แล้ว"
“ข้าขอโทษ”
"ไม่ต้องการคำขอโทษแต่บอกความจริงกับฉันซิ” ข้าตกอยู่ในภวังค์ เด็กสาวที่บัดนี้ก้มตัวเพื่อช้อนหน้าจ้องตาข้าไม่หลบเลี่ยงมีแววกึ่งอ้อนวอน กุมข้อแขนทั้งสองของข้าไว้หลวมๆเช่นเดียวกันกับคราวที่เป็นห่วงพี่ชายตนเองไม่มีผิด
ติดเพียงแค่คราวนี้เธอไม่ได้อยากรู้เรื่องของพี่ชาย…เธออยากรู้เรื่องของข้า
พอใจนึกได้แบบนั้นก็พลันขาดสติ ดึงเธอเข้ามากอดแนบชิดอย่างใจอยาก พร่ำบอกความรู้สึกแบบไม่ปิดบัง
“ไม่เพียงแต่ชอบเจ้าแต่โชคชะตาของข้าผูกอยู่กับเจ้า ข้ามอบให้ทั้งใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเจ้า” อ้อมกอดกับคำหวานเลี่ยนที่แม้แต่ข้าก็ไม่อยากเชื่อว่ามันออกมาจากปากของข้าเองทำให้คารินเสียอาการ สรรหาคำพูดถามตะกุกตะกัก
“ตะ ตอนที่นายเก็บบอลให้ฉันน่ะเหรอ”
“เปล่า”
“?”
“ความจริง…ฉันเปิดประตูมายังโลกมนุษย์แล้วเห็นเธอตอนนอนพอดีน่ะ” ข้าพูดเสียงเบาด้วยความกระดาก เตรียมตัวรับการโต้ตอบตามสไตล์คนบ้านคุโรซากิ แต่เพราะผิดคาดไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยข้าจึงพยายามผละออกมาดู
“อย- อย่าผละออกไปนะ! ฉันอายจะตายเพราะนายอยู่แล้วเนี่ย" คารินกลับยึดลำตัวของข้าไว้แน่น ซุกหน้าเข้ากับเสื้อพูดเสียงอู้อี้
“เธอ..ไม่ชอบข้าหรือ” สำหรับข้าในตอนนั้น คำว่าอายคงเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่พิสมัยจึงถามกลับด้วยความน้อยใจ
“ฉันชอบนายจะตายอยู่แล้วต่างหาก! สารภาพแบบนี้ กอดแบบนี้ ถ้าปล่อยฉันคงขาอ่อนลงไปกองอยู่บนพื้น!” คำตอบที่ไม่ได้มาพร้อมกับเสียงหวานใส ออกจะเหวี่ยงห้าวนั้นกลับทำให้ข้าหัวใจพองโตยิ่งกว่าครั้งไหนๆตั้งแต่เกิดมาและตอบกลับด้วยความยินดี
“งั้นข้าจะกอดแน่นๆจนกว่าเจ้าจะพอใจเลยดีไหม"
“อือ” คารินพยักหน้ากับคำตอบรับสั้นๆก่อนที่จะซุกหน้าลงบนเสื้อเช่นเดิม ปล่อยให้เวลาแสนสุขผ่านไปไร้ความกังวลกับคู่แห่งโชคชะตาของกันและกัน
ส่วนข้าที่รู้สึกเหมือนอีกครึ่งหนึ่งถูกเติมเต็มก็สัญญาสาบานกับโชคชะตาและด้ายแดงอันเด่นชัดนี้ว่ามันจะไม่เลือนหายไป ข้าจะปกป้องรักษาคนคนนี้ให้ดีที่สุด
…แล้วก็สัญญากับตนเองไว้อีกด้วยว่า ไม่มีทางที่จะบอกว่าเผลอขโมยจูบคารินไปก่อนหน้านี้ให้คุโรซากิ อิจิโกะที่ตอนนี้ยื่นหน้าออกมาจากห้องนอนทำท่าตัดคอขู่ข้าได้ฟังโดยเด็ดขาด
เฮ้อออ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วข้าคงจะต้องรอจนกว่าคุโรซากิ คาริน โตเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ไปอีกนาน..
- E N D -
______________________________________________________
จบแล้วค่าาา เย้! ดีใจมากๆที่เจอลูกเรือที่ยังอยู่ด้วยกันมาอีกสองคน ฮืออออ มีไฟมาต่อเรื่องนี้เลยล่ะค่ะ
แล้วตอนนี้ก็มีพล็อตเพิ่มอีกแล้ว!!! เตรียมรอสไตล์มุมน้องสาวได้เลยค่าาา รักคนอ่านทุกคน
ขอบคุณที่คอมเม้นและให้กำลังใจมากๆนะคะ สุดท้ายนี้ขอให้คนมาลงเรือ #HitsuKarin เยอะๆค่า5555
ความคิดเห็น