คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : อย่าให้รถโดนยึดเป็นพอ
ตอนที่ 4 : อย่าให้รถโดนยึดเป็นพอ
ตอนเช้าผมลืมตาตื่นขึ้นมาก็เจอม๊านั่งอยู่ข้างเตียง ส่วนเตี่ยนั่งอยู่ตรงโซฟาอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ แขนข้างซ้ายก็โดนเจาะเพื่อให้น้ำเกลือ
“ก๊วยเจ๋ง ทำไมเมื่อคืนไม่โทรบอกม๊า นี่ถ้าแบงค์ไม่โทรมาบอก ม๊าจะรู้ไหมว่าเจ๋งเข้าโรงบาล” พอตื่นมาก็ใส่ชุดใหญ่เลยนะม๊า แต่ผมก็รู้แหละว่าม๊าเป็นห่วง
“ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาอะม๊า มัวแต่ปวดท้อง” ผมยิ้มแห้งๆให้ม๊า ม๊าถอนหายใจทีหนึ่งแล้วก็เอื้อมมือมาลูบหัว
“แล้วใครพามาส่งโรงบาลล่ะ” เตี่ยลุกจากโซฟาแล้วเดินมาถาม ผมได้ยินก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนไอ้เชนเป็นคนพาผมมาส่งโรงพยาบาล แล้วตอนนี้มันไปไหนแล้ว ไหนบอกว่า จะไม่ไปไหนไงวะ สงสัยชิ่งกลับไปแล้วชัวร์
“เพื่อนอะเตี่ย” จะบอกว่าเพื่อนข้างห้องก็ไม่ได้ ก็ผมหนีเตี่ยไปนอนคอนโดที่เตี่ยเองก็ไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน
“แล้วนี่หายไปไหนมา ไม่กลับบ้าน” ว่าแล้วว่าเตี่ยต้องถาม
“เอ่อ....ไปนอนบ้านเพื่อนมา”
“หายหัวไปแบบนี้ สงสัยกลัวเตี่ยจะยึดรถแน่ๆ” สมกับเป็นม๊าผมจริงๆ รู้เหมือนอ่านใจออก
“อย่าคิดว่าหลบหน้าเตี่ยแล้ว เตี่ยจะตามไปยึดรถไม่ได้นะ” เตี่ยขู่ผมใช่มั้ย แต่ไม่สำเร็จหรอก ผมรู้ว่าเตี่ยรู้จักบ้านเพื่อนผมทุกคน ผมเลยซื้อคอนโดโดยไม่บอกเตี่ยไง จ้างให้เตี่ยก็ไม่รู้หรอกว่าผมอยู่ที่ไหน
“อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะเรื่องข่าว” ผมป่วยอยู่นะม๊า
“ฮ้าวววววว ง่วงพอดีเลย นอนก่อนนะม๊า” ผมพลิกตัวหันหนีม๊าไปอีกฝั่ง แต่ดูเหมือนม๊าไม่เชื่อ เลยดึงผมให้หันมาหา
“อย่ามารยานะเจ๋ง เล่ามา” ผมแค่นยิ้มให้ม๊า เมื่อเห็นว่าเลี่ยงไม่ได้ผมก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ตั้งแต่เมาไปเซ็นสัญญา ค่าปรับ 100 ล้าน เรื่องที่โมโหจนประกาศว่าจะทำให้หนังโกยเงิน โกยกล่อง
เตี่ยฟังผมเล่าเสร็จก็กุมหัว ส่ายหัว ส่วนม๊าขำจนตัวสั่น อะไรอะม๊า เรื่องมันเครียดจะตาย ทำไมหัวเราะล่ะ
“สมน้ำหน้า ดีแล้วล่ะ เจ๋งจะได้รู้ซะบ้างว่าการไม่มีสติเนี่ย มันทำให้เดือดร้อนขนาดไหน” เตี่ยจะตอกย้ำอีกทำไม ไอ้เจ๋งรู้แล้วค้าบบบบ
“เอ้า!!!! หวะ.... หวัดดีครับ” เสียงใครคุ้นๆ ผมยื่นคอไปดู เห้ย ไอ้เชน มันเปิดประตูเข้ามา ผมนึกว่ามันกลับไปแล้วนะเนี่ย
“แล้วนี่ใครอะเจ๋ง” เชื่อไหมเตี่ยผมเก็บข้อมูลเพื่อนผมทุกคน เอาไว้เวลาผมทำเรื่องอะไรแล้วหนีไปอยู่กับเพื่อน เตี่ยจะได้หาตัวเจอ และตอนนี้เตี่ยก็กำลังจะทำแบบนั้น
“อ้อ เพื่อนที่เล่นหนังด้วยกันอะเตี่ย เห็นว่าจะกลับแล้วไม่ใช่เหรอ ไปดิ มีธุระนี่” ผมทำมือไล่ไอ้เชนให้รีบกลับไป ขืนปล่อยให้อยู่ต่อ ความลับเรื่องคอนโดมีหวังเตี่ยรู้แน่ๆ
ไอ้เชนทำหน้านิ่ง เจืออาการงงเล็กน้อย แต่มันก็ขอตัวกลับทันที ขอบใจนะเว้ยเชน แต่บุญคุณก็ส่วนบุญคุณ ความแค้นก็ส่วนความแค้น เอามาปนกันไม่ได้
ไอ้ธิวเพื่อนรัก ผู้ชอบตามข่าว หรือเรียกง่ายๆว่าเสือก รีบแจ้นมาหาผมทันทีที่รู้ว่าผมป่วย จริงๆคนอื่นในวงก็จะมาพร้อมมัน แต่เห็นว่าติดเรียนก็เลยจะตามมาเยี่ยมทีหลัง แต่ผมว่าที่ไอ้ธิวมันรีบมาหาผมเพราะว่ามันมีอะไรจะอวดผมมากกว่า ไอ้ธิวรีบเปิดเว็บข่าวบันเทิงในมือถือมันมาให้ผมดู
เจ๋ง แบล็กแฟล็ก เครียดรับบทเกย์ ต้องหามส่งโรงพยาบาล
จรรยาบรรณสื่อมันอยู่ตรงไหนวะ กูไม่ได้เครียดจนต้องหามส่งโรงพยาบาลโว้ย ใครให้ข่าววะ มั่วชิบหาย ข่าวเก่ายังไม่ทันซา ข่าวใหม่มาอีกละ นี่ถ้าเตี่ยกับม๊ารู้ล่ะก็ ได้โวยอีกรอบ
“ไอ้สัด กูอาหารเป็นพิษโว้ย” ไอ้ธิวพอมันได้ยินผมสบถก็ขำสะใจใหญ่ มิน่าล่ะถึงแจ้นมาหาก่อนคนอื่น มึงอยากมาสมน้ำหน้ากูใช่ไหม
“แล้วนี่ใครเป็นคนให้ข่าววะ” ไอ้ธิวถาม ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าใคร คนที่รู้ว่าผมเข้าโรงพยาบาลก็มีไม่กี่คน ก็มี ม๊า เตี่ย เพื่อนในวง เจ๊ส้ม เอ่ออออ ไอ้เชน แล้วก็...
“ธิวกูยืมโทรศัพท์หน่อย” ไอ้ธิวส่งมือถือให้ผม ผมเลยรีบต่อสายโทรหาเจ๊ส้มทันที
“อีเจ๊ ใครให้ข่าววะ”
“พี่แบงค์” เสียงเจ๊ส้มก็ฟังดูไม่พอใจเหมือนกัน ไอ้ธิวแม่งก็หูดี เสือกได้ยินอีเจ๊พูดกับผม มันเลยหัวเราะลั่น
“กูว่าละ แม่ง...จะจองเวรกูไปถึงไหนเนี่ย” ไอ้เชี่ยพี่แบงค์มันเป็นเจ้ากรรมนายเวรผมหรือไงวะ ขยันหาเรื่องปวดหัวให้ผมจริงๆ
“กูว่ากูจะโทรไปด่าเนี่ย” เอาเลยอีเจ๊ กูเชียร์เต็มที่
“แล้วที่ค่ายว่าไงบ้าง”
“จะว่าอาร้ายยย กูว่าชอบด้วยซ้ำ ข่าวมึงฉาวบ่อยแบบนี้ ค่ายจะได้ไม่ต้องเปลืองตังมาประชาสัมพันธ์ให้มึง” นี่ผมควรจะดีใจหรือว่าอะไร
“อีเจ๊มึงหลอกด่ากูเหรอวะ”
“ฮิๆๆๆ แล้วมึงเป็นไงบ้าง ตกลงเข้าโรงบาลทำไม”
“อาหารเป็นพิษ”
“แล้วใครพามึงส่งโรงบาล”
“อีเจ๊ แค่นี้ก่อนนะ กูปวดเยี่ยว” ผมรีบตัดสายทันที ไม่ได้ๆ จะให้รู้ไม่ได้ว่า คนที่ส่งผมมาโรงพยาบาลคือ ไอ้เชน ไม่งั้นอีเจ๊ต้องซักละเอียด ถามไปถึงชาติก่อนแน่ๆ
รอดจากอีเจ๊ไป ผมก็ต้องมาเจอไอ้เพื่อนตัวแสบที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่มันกำลังแสยะยิ้มหูผึ่ง หางตั้ง ทำหน้าอยากรู้เสียเต็มประดา
“ใครพามึงมาส่งโรงบาลวะ ถ้าเป็นม๊ากับเตี่ยมึง มึงคงตอบอีเจ๊ไปแล้ว แต่นี่มึงเลี่ยง แสดงว่ามีลับลมคมใน” แสนรู้จริงนะมึง เรื่องเสือกเนี่ยกูให้โล่มึงเลยว่ะ
ผมเลยแกล้งหลับ ไอ้ธิวไม่ยอมแพ้เลยจับผมถ่างตา
“ไอ้เชี่ย กูเจ็บ” นี่มึงอยากรู้ถึงขนาดต้องใช้กำลังกับกูเลยเหรอวะ
“บอกมาเดี๋ยวนี้” มันยังไม่เลิกแหกตาผมเลยครับ เออ กูรู้แล้วว่ามึงจะขาดใจตาย ถ้ากูไม่เล่าให้มึงฟัง
ผมไม่อยากเล่าเรื่องคอนโดผมให้มันฟัง เพราะถ้าไอ้ธิวรู้ เดี๋ยวไม่นาน เตี่ยผมก็ต้องรู้ ไอ้นี่เก็บความลับอะไรไม่ค่อยได้ ผมเลยเล่าไปว่า
“กูนัดเจอพี่เชน คนที่เล่นหนังคู่กับกู เดี๋ยวๆๆ มึงอย่าเพิ่งคิดมาก กูนัดเจอเค้าเพราะว่าวันที่เจอกันวันแรกกูพูดกับเขาไม่ดี กูกลัวว่าต่อไปต้องทำงานด้วยกันอีกนาน กลัวจะไม่สบายใจ กูเลยอยากจะขอโทษเขา แต่พอดี ตอนที่กูไปเจอเค้า กูก็ปวดท้อง เขาก็เลยพามาส่งโรงบาล” ผมว่าผมจะไปเอาดีด้านเขียนนิยายบ้างละ รู้สึกว่าตัวเองโม้ได้เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้
“เหรอวะ” ไอ้ธิวทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ
“กูจะโกหกทำไมวะ” อาศัยที่เล่นหนังมาหลายเรื่อง ผมตีหน้าจริงจังจนไอ้ธิวเปลี่ยนสีหน้าเป็นคลายใจที่ได้รู้ความจริง ขอโทษว่ะธิวแต่เพื่อนปากสว่างอย่างมึง กูไม่เอาความลับมาแขวนไว้กับปากมึงหรอก
ผมนอนโรงพยาบาล 2 วัน หมอก็บอกให้กลับบ้านได้ ซึ่ง 2วันที่ผ่านมาผมไม่ได้ไปเรียน แถมชวดงานอีเวนท์ไป 2 งาน แล้วก็ขาดไปเวิร์คช็อปก่อนเล่นหนังด้วย ดีที่มือถือผมอยู่ที่คอนโด ไม่งั้นคงมีทั้ง กิ๊ก ทั้งเพื่อน ทั้งญาติโทรมาถามไม่หยุดไม่หย่อน
ได้เวลาหนีเตี่ยกับม๊าอีกครั้ง ผมรีบออกจากโรงพยาบาลคืนก่อนที่เตี่ยกับม๊าจะมารับตอนเช้า ดีที่วันก่อนบอกให้ไอ้ธิวเอาตังมาให้ยืมก่อน ไม่งั้นผมออกจากโรงพยาบาลไม่ได้แน่ๆ
ผมมาถึงคอนโดกะจะเข้าห้องไปเช็คดูมือถือเสียหน่อย
“ชิบหาย!!!!” กุญแจห้องผมหายครับ ซวยอีกแล้วไอ้เจ๋ง ไหนลองนึกดูดีๆซิ ว่าไปลืมไว้ที่ไหน ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงพยาบาล กุญแจก็ไม่อยู่ในกระเป๋ากางเกง คือประตูห้องมันเป็นประตูที่ล็อคอัตโนมัติ เวลาผมจะออกจากห้องผมก็ต้องพกกุญแจห้องออกมาด้วยอยู่แล้ว หรือว่าทำตกไว้ที่ไหน ตอนปวดท้องก็ไม่มีสติจะใส่ใจอะไรเท่าไรเลย
“ตึงๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงเคาะที่คุ้นเคย ผมเคาะห้องไอ้เชนบ่อยไปละช่วงนี้ ผมกำลังคิดว่ากุญแจรถมันต้องตกอยู่ในรถไอ้เชนแน่ๆ
ผมได้ยินเสียงไอ้เชนเดินมาเปิดประตู ทำไมคราวนี้ถึงเปิดง่ายจังวะ
“มีอะไร” สภาพมึงเยินมากว่ะเชน ผมเผ้ากระเซิง หน้าตายับ เสื้อไม่ใส่ ใส่แต่บ็อกเซอร์ สงสัยมันจะหลับไปแล้ว กูขอโต้ดดดดดด
“มีกุญแจห้อง ตกอยู่ในรถหรือเปล่า” ผมล่ะอยากได้ยินมันตอบมาว่า ‘เก็บไว้ให้แล้ว’ แต่มันคงเป็นคราวซวยของไอ้เจ๋งอีกครั้งที่ผมได้ยินไอ้เชนมันตอบว่า
“กุญแจเหรอ ไม่รู้สิ ผมเอารถไปให้ที่ร้านล้างอะ” ชิบหายละ มันคงเอารถไปให้ที่ร้านล้างอ้วกผมออก
“เชี่ยยยยย ทำไมซวยอย่างนี้วะ แล้วจะเข้าห้องยังไงล่ะเนี่ย” ไอ้เชนหน้าค่อยๆตื่นมามองผมแล้วถอนหายใจ
“กลับไปนอนบ้านสิ” ถ้ากูกลับได้กูกลับไปนานแล้ว ไม่มาลำบากอยู่คอนโดแบบนี้หรอก
“กลับไม่ได้อะ”
“ทำไมล่ะ วันนั้นผมก็เห็น พ่อแม่คุณมาหานี่ ให้ท่านมารับสิ” ผมจะทำไงดีวะ ควรจะเล่าให้มันฟังไหม แต่เดี๋ยวมันก็ด่าว่าเหตุผลที่ผมไม่กลับบ้านแม่งงี่เง่าอีก
“มีปัญหากับที่บ้าน เลยไม่อยากกลับ” ผมตีหน้าเศร้าทันที อุตส่าห์เล่นหนังมาหลายเรื่อง เอาวิชามาใช้บ้างวะ ไอ้เชนหน้านิ่งมองผม
“ผมว่าคุณกลับบ้านไปเหอะ เดี๋ยวผมโทรบอกพี่แบงค์ให้บอกพ่อกับแม่คุณให้” มันเดินเข้าไปในห้องครับ สงสัยจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ ผมถือโอกาสนี้เดินตามมันเข้าไปแล้วก็
“พี่เชน อย่าติดต่อพ่อแม่ผมเลยนะครับ “ ผมร้องไห้ออกมา เอาให้สมบทบาทที่สุด
“ถ้าผมกลับบ้านไป ท่านต้องบังคับให้ผมแต่งงานกับคนที่ท่านเลือกให้ ผมไม่ได้รักเธอครับ ผมไม่อยากให้ชีวิตต้องมาทรมานเพราะอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก อีกอย่าง ผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว พี่เชนให้ผมอยู่ที่นี่ก่อนได้ไหมครับ แล้วถ้าผมได้กุญแจคืน ผมจะไม่รบกวนพี่อีก” จัดเต็มไปเลยไอ้เจ๋ง ลงทุนร้องไห้ ปั้นเรื่องขนาดนี้ ไม่เชื่อก็ให้รู้ไป
“อะ เช็ดน้ำตาซะ” มันยื่นทิชชู่ให้ผมครับ ไม่เสียแรงที่สะสมประสบการณ์การแสดงมานาน เอามาใช้ครั้งนี้ ถือว่าคุ้ม ผมรับทิชชู่มาเช็ดน้ำตา
“เป็นตุ๊ดป่าวเนี่ย ลงทุนเล่นละครบีบน้ำตาขนาดนี้ ผู้ชายปกติเขาไม่ทำกันนะ” ไอ้สัด ด่ากูอีกละ ปกติไอ้ลูกไม้แบบนี้ใช้กับสาวๆได้สบายเลย ใช้ทีไรสาวๆเข้ามาเห็นอกเห็นใจ สงสารตลอด มีไอ้นี่แหละ แม่งรู้ทัน
“เอางี้ บอกมาตรงๆ ทำไมถึงไม่อยากกลับบ้าน”
“ก็อย่างที่บอก กลับไปก็จะโดนจับแต่งงาน แล้วผมก็มีคนรักอยู่...”
“อย่าเยอะ ขอจริงใจ”
“เคยสัญญากับเตี่ยไว้ว่าจะไม่ให้เป็นข่าว เตี่ยเลยซื้อรถให้ แต่มึงก็รู้ว่า กูมีข่าวออกมาแทบจะรายวันเลย กูกลัวเตี่ยยึดรถคืน ก็เลยไม่อยากกลับบ้าน” ผมพูดเสียงอ่อย หน้าจ๋อย
“ก็แค่เนี้ย นอนโซฟาได้ไหมล่ะ พรุ่งนี้ค่อยไปถามที่ร้าน ว่าเจอกุญแจไหม” ทำไมมันง่ายอย่างนี้วะ รู้งี้บอกตรงๆตั้งแต่แรกละ จะเสียเวลาเหนื่อยปั้นเรื่อง บีบน้ำตาเล่นละคร ทำไมเนี่ย
“ขอบคุณมากกกก ไหนมากอดหน่อย” ผมยิ้มกว้างดีใจสุดชีวิต วิ่งร่าเข้าไปหาไอ้เชน แต่พอเห็นมันทำหน้านิ่งใส่ ก็รู้ตัวว่าไม่ควรเข้าใกล้ เลยรีบหุบแขน ยืนนิ่งทันที
“เดี๋ยวเอาผ้าห่มมาให้” มันเดินหายไปในห้องนอน เอาวะคืนนี้นอนโซฟาก็ได้ ดีกว่ากลับบ้านไปให้เตี่ยยึดรถ
ความคิดเห็น