คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter 04 การหนีออกจากวังครั้งที่สองร้อยสามสิบแปดของอันนา
4
❄ การหนีออกจากวังครั้งที่สองร้อยสามสิบแปดของอันนา ❄
ท่ามกลางดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะจนกลายเป็นสีขาวสุดลูกหูลูกตาเด็กหญิงตัวน้อยผมสีน้ำตาลวิ่งอยู่ท่ามกลางพายุหิมะที่โหมกระหน่ำราวกับว่าเธอกำลังหนีอะไรบางอย่างอยู่ เด็กน้อยวิ่งท่ามกลางหิมะหนาแต่กลับไม่สวมรองเท้าแถมยังสวมชุดนอนที่ดูจะเบาสบายไม่เหมาะกับบรรยากาศสักนิด แต่ที่น่าแปลกไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะไม่รู้สึกหนาวไปกับบรรยากาศรอบๆเลย
เด็กน้อยวิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จุดหมาย แต่ท่ามดินแดนที่ถูกพายุที่โหมกระหน่ำปกคลุมไปทั่วนั้นกลับไร้ซึ่งผู้คนใดๆที่ดูเหมือนกำลังวิ่งไล่เธออยู่เลย ใช่แล้วเธอไม่ได้วิ่งหนีใครบางคนแต่เธอกำลังวิ่งหนีเสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวเธอต่างหาก
“ข้าขอสาปแช่งสายเลือดโสมมที่คิดอาจหาญเทียบตนกับข้า ขอสาปแช่งเจ้าที่มีเลือดของข้าไหลเวียนอยู่ ให้เจ้าเป็นปีศาจเฉกเช่นดังตัวข้า ต้องอยู่อย่างหลบซ้อนพลังในกายของตนเอง หวาดกลัวพลังของตนเอง”
น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกดังก้องอยู่ไม่ขาดสาย ทั้งคำด่าและสาปแช่งสารพัดนั้นมันรุนแรงเกินกว่าที่เด็กตัวเล็กๆอย่างเธอจะทนไหว
เด็กน้อยวิ่งร้องไห้ไปเรื่อยๆ สองมือน้อยพยายามปัดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“โอ๊ย!!” เด็กน้อยล้มลงกับกองหิมะ ดูเหมือนว่าเธอจะวิ่งชนเข้ากับอะไรบางอย่างท่ามกลางพายุที่ไม่น่าจะมีอะไรนอกเสียจาก...น้ำแข็ง
“เจ้า...เป็นอะไรไหม?” พายุหิมะค่อยๆจางลงเผยให้เห็นร่างของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ท่ามกลางพายุหิมะเช่นเดียวกับเธอ ทันทีที่เห็นเด็กสาวล้มลงไปกับกองหิมะเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็ยื่นมือไปสาวเด็กหญิงตัวน้อย
แต่เด็กน้อยกลับมีสายตาที่ตื่นกลัวกับชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอปัดมือของเขาทิ้งก่อนก็รีบลุกขึ้นยืน “พี่ชายอย่าอยู่ใกล้หนูนะ เดี่ยวจะเป็นอันตราย หนูขอร้อง”
“ออกห่างจากหนูเถอะ มันจะดีสำหรับตัวพี่ชาย...” เด็กน้อยค่อยๆเดินถอยหลังออกห่างจากชายตรงหน้า ผมที่เคยเป็นสีน้ำตาลค่อยเปลี่ยนจนกลายเป็นสีบลอด์นจนเกือบจะเป็นขาวราวกับหิมะ
“นี้เจ้าแปลกดีนะ เจ้าชื่ออะไร เอ่อ...ข้าชื่อ แจ็ค ฟรอสต์” เด็กหนุ่มย่อลงนั่งก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวเด็กน้อยโดยไม่ฟังคำเตือนของเธอแต่อย่างใด
“ฮึกๆ เอลซ่า...” เด็กน้อยเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“เจ้าหลงทางหรอ มาสิข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน” แจ็คเดินไปจูงมือเอลซ่าวัยเด็กให้เริ่มเดินต่อไปอีกครั้ง
เด็กหญิงมองไปที่มือของตน น่าแปลที่ครั้งนี้เธอยอมพูดคุยกับคนแปลกหน้า แถมยังจับมือกับเขาโดยที่เธอไม่รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย
มือของเขาอุ่นจัง...
“หนูกลัว.... หนู...”
“ไม่ต้องกลัว ข้าสัญญาข้าไม่ปล่อยมือเจ้าแน่ จะจับไว้จนกว่าเจ้าจะเบื่อเลย”
ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่น เธอมักจะฝันประหลาดอย่างนี้เสมอ แต่มันมักจะจบลงที่เธออยู่คนเดียว วิ่งร้องไห้จนเหนื่อยล้า แต่ครั้งนี้กลับต่างกันออกไป...
เอลซ่าพิงตัวไปกับหัวเตียงก่อนจะวางมือลงข้างๆ แต่ดูเหมือนว่ามือของเธอจะสัมผัสอะไรบางอย่าง
ตัวอักษรที่สลักอยู่บนหนังสือเล่มหนาอย่าคุ้นตา Rise Of The Guardians
“แจ็ค ฟรอสต์” เอลซ่าเอ่ยชื่อนั้นเบาๆ “เหอะ...ก็แค่ฝันไปสินะ จะไป..มีตัวตนอยู่จริง.....ได้ยังไง” เอลซ่าหยิบหนังสือขึ้นมาก่อนจะวางมันไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
“งั้นข้าก็ขอโทษที่ต้องทำให้องค์ราชินีฝันสลาย” เอลซ่าหันไปตามเสียงก็พบแจ็ค ฟรอสต์นั่งห้อยเท้าพิงขอบหน้าต่างอยู่อีกทาง แน่นอนพร้อมกับนางฟ้าสีเขียวตัวน้อยที่นอนหลับอยู่บนตักของเขาด้วย
เอลซ่าหันไปค้อนเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะกำลังขำที่เธอสบสนระหว่างความจริงกับความฝัน “เพิ่งรู้ว่าหน้าที่ของเทพผู้พิทักษ์ คืองานสบายๆที่วันๆไม่ต้องทำอะไร”
ชู่ๆ....
แจ็คส่งสัญญาณมือให้เอลซ่าลดเสียงลงก่อนจะชี้ไปที่นางฟ้าตัวน้อยที่หลับอยู่บนตัก “เรื่องอู้นะข้าไม่ทำหรอก ข้าก็งานทำอยู่นี้ไง มาทางนี้สิจากตรงนี้มองเห็นทั่วอาณาจักรเลย”
เอลซ่าดึงผ้าห่มผืนหนาออกก่อนจะเดินลงจากเตียง แต่ทันทีที่เท้าของเธอเหยียบลงพื้นความรู้สึกราวกับไฟฟ้าซ๊อคก็แล่นไปทั่วร่างจนเจ้าตัวต้องลงไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง
เอลซ่านั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะลุกเดินไปทางบานหน้าต่างซึ่งดูเหมือนว่าใกล้แค่ไม่กี่ก้าว แต่มันกลับไกลมากสำหรับเอลซ่าตอนนี้
แจ็คชี้ให้เอลซ่าที่เพิ่งเดินมาถึง มองไปยังบริเวณหลังเมืองที่พวกเด็กกำลังเล่นสเก็ตน้ำแข็งกันอย่างสนุกสนาน “เห็นไหม พวกเด็กๆพวกนั้นดูมีความสุขใช่ไหมล่ะนั้นแหละคือหน้าที่ของข้า....สร้างความสุขให้กับเด็กๆ”
ร่างบางมองพวกๆเด็กที่กำลังเล่นหิมะอย่างร่าเริง..
..ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เธออยากจะใช้เวลาในวัยเด็กกับอันนาให้คุ้มค่ามากกว่านี้ อยากเล่นด้วยกันให้มากกว่านี้อีกนิดตามประสาสองคนพี่น้อง ไม่ใช่เก็บตัวอยู่ในห้องด้วยความหวาดกลัวอย่างที่ผ่านมา
“นั่งก่อนสิ” แจ็คความมือของเอลซ่าก่อนจะดึงเธอให้มานั่งข้างๆ แต่เนื่องจากเจ้าตัวกำลังมองอะไรอยู่เพลินๆบวกกับความเหนื่อยล้าที่ขาของเธอจากการเต้นรำทั้งคืนทำให้ร่างของเอลเสียหลักก่อนจะล้มลงไปตามแรงดึงของแจ็ค
นางฟ้าตัวน้อยค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นด้วยใบหน้าที่อารมณ์เสีย และคอยมองค้อนทั้งคู่เป็นระยะๆแต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะเน้นหนักไปทางเอลซ่ามากกว่าแจ็คอย่างจงใจ
“ข้าขอโทษนะที่ทำให้เจ้าตื่น” เอลซ่าที่ทนสายตามุ่งร้ายของนางฟ้าตัวน้อยไม่ได้จึงเป็นฝ่ายเอ๋ยปากเริ่มบทสนทนา
“จี๊ด จีด จี ไจ จัจ” เอลซ่ามองหน้าแจ๊คอย่างต้องการคำแปล ดูเหมือนหน้าที่แปลภาษาของเจ้านางฟ้าน้อยนี้จะกลายเป็นหน้าที่หลักของเขาไปแล้ว
“เธอชื่อ นางฟ้าตัวน้อย” แจ๊คต้องจำยอมแปลอย่างช่วยไม่ได้
“จี๊ด จีด จี ไจ จัจ”
“เจ้ากล้าดียังไงมาแย่งแจ๊คของข้า ฮะ..เฮ้ย!! นี้เจ้านางฟ้าตัวน้อยข้าไปเป็นของเจ้าตอนไหน” แจ๊คที่นั่งริมขอบหน้าต่างกลับหงายหลัง โชคดีที่ได้ไม้เท้าคู่ใจช่วยเอาไว้ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด
เอลซ่าหัวเราะก่อนจะหยิบเจ้านางฟ้ามาถือไว้บนฝ่ามือ “ดูเหมือนข้าจะทำให้เจ้านางฟ้าตัวน้อยตนนี้หึงซะแล้วสิ” เอลซ่าว่าพร้อมหันไปมองแจ็คที่ลอยอยู่ด้านนอกระเบียง
เมื่อสายตาของเอลซาสบกับแจ็ค เขาก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันที
แต่เมื่อเขาคิดได้ว่าถ้าหันหน้าหนีอย่างนี้ก็แปลว่าเป็นการยอมรับกลายๆ แจ็คก็รีบหันหน้ากลับที่เดิมก่อนจะลอยมาคว้านางฟ้าตัวน้อยจากมือของเอลซ่า
แจ็คหยิบนางฟ้าตัวน้อยขึ้นมาบนระดับสายตาของตน “แกล้งข้าดีนัก ครั้งหน้าข้าทิ้งเจ้าไว้ที่วังทันตะแน่”
ตึกๆๆ
ดูเหมือนว่าทางด้านนอกจะเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง เสียงวิ่งวุ่นเป็นระยะไม่ขาดสาย เอลซ่าเงี่ยหูฟังก่อนจะค่อยๆเดินไปที่บานประตู แต่ทว่ายังไม่ทันที่เอลซ่าจะเอื้อมมือไปหมุนลูกบิดประตูก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วจนเหมือนจะเป็นการกระชากมากกว่า
“วันนี้เรานัดช่างตัดชุดมาให้องค์หญิงเนื่องในวันเกิดของพระองค์แต่ว่า....เราค้นหาจนทั่ววังแล้วแต่กลับไม่พบองค์หญิงอันนาเลยพะยะค่ะ” สิ้นเสียงของทหารเอลซ่าจิกปลายเท้าของตนราวกับจะข่มความเจ็บไว้ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องนอนของอันนา
อันนา พี่ขอร้องหล่ะขอให้มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด..
แม้ร่างบางจะเจ็บขาของตนมากแค่ไหนแต่เธอกลับไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยตอนนี้ในหัวของเอลซ่ามีแต่อันนาเต็มไปหมด ร่างบางทนกัดฟันวิ่งจนมาถึงหน้าห้องของอันนา
แต่ภาพที่เห็นคือห้องที่ว่างเปล่าไม่มีแม้แต่เงาของอันนา...
“เราเจอแต่สิ่งนี้พะยะค่ะ” นายทหารนายหนึ่งเดินเข้ามาในห้องก่อนจะยื่นจดหมายให้เอลซ่าที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่ เอลซ่าหยิบจดหมายนั้นก่อนจะรีบเปิดอ่าน
ถึงท่านพี่เอลซ่า
น้องไปงานเทศกาลประจำปีที่เมืองแมกเทอร์ซ่า สัญญาจะรีบกลับมาภายในสามวันให้ทันวันเกิดแน่นอน
รักท่านพี่ที่สุดในโลกอย่าโกรธน้องนะ ^_^
อันนา
“เตรียมม้าให้พร้อมเดี่ยวนี้! ข้าจะไปตามอันนาที่เมืองแมกเธอร์ซ่า” สิ้นเสียงของเอลซ่าทหารทุกคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็รีบวิ่งออกไปเตรียมม้าเร็วตามคำสั่งขององค์ราชินี
“เจ็บขาขนาดนั้นจะขี่ม้าไหวหรอ องค์ราชินีเอลซ่าแห่งเอเรนเดลล์” แจ็คที่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่างหมดแล้วพูดขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน ก่อนจะลอยมาหยุดที่ข้างหลังเอลซ่า
“เจ็บแค่ไหนข้าก็ต้องไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับอันนาข้าไม่ให้อภัยตัวเองแน่” เอลซ่าพูดขึ้นโดยที่ไม่หันหลังไปมองหน้าแจ็คสักนิด
“ถ้าอย่างนั้น...”แจ็คชี้ไม้เท้าของตนไปทางหน้าต่างเพื่อเปิดมันออกก่อนจะรวบตัวของเอลซ่าไว้ข้างตัว “บทเรียนที่สอง ที่ข้าจะสอนเจ้าพร้อมหรือยัง”
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่แจ็คถามจะเป็นแค่มรรยาทเท่านั้น เด็กหนุ่มไม่รอช้าเอื้อมมือมาหิ้วเอลซ่าขึ้นด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะมายื่นอยู่ที่ริบขอบหน้าต่าง
“เดี่ยวเจ้าจะทำอะไรน่ะ เดี่ยว! เดี่ยวก่อน! ข้าบอกว่าข้ายังไม่พร้อม!!” แจ็คทิ้งตัวลงลงจากหน้าต่างที่สูงกว่าสิบชั้น โดยที่ไม่รอให้คนที่ถูกหิ้วอยู่ได้มีโอกาสตั้งหลักแม้แต่น้อย
เอลซ่าหลับตาลงด้วยความกลัว สองมือคว้าสิ่งที่จะมายึดเหนียวเพื่อลดความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกในขณะนี้ให้ลดลงสักนิดก็ยังดี
“สายลมช่วยหน่อยนะ ข้าอยากไปทางเหนือ” แจ็คยิ้มร่าอย่างมีความสุขต่างจากหน้าของเอลซ่าที่ซีดจนแทบจะไม่มีสี ไม่นานร่างของเขาค่อยๆลอยสูงขึ้นไปในอากาศ
“เดี่ยวนะเจ้าบอกจะไปทางเหนือนแต่เมืองแมกเทอร์ซ่าอยู่ท่าตะวันออกนะ” เอลซ่าตะโกนแข่งกับเสียงลมที่พัดวนอยู่รอบตัวเธอ
“เอาเถอะน่—า มีเวลาตามหาน้องสาวเจ้าตั้งสามวันเมืองแมกเทอร์ซ่าใกล้แค่นี้เอง ว่าแต่เจ้าเถอะจะกอดข้าไปจนถึงเมื่อไร”แจ็คว่าก่อนจะหันไปมองเอลซ่าที่กำลังกอดเขาแน่น
เอลซ่าค่อยลืมตาขึ้นก่อนจะพบว่าตอนนี้เธอกอดเอวของแจ็คไว้แน่น “ก็...คนมันกลัวนี่..” ว่าจบเอลซ่าก็ค่อยๆปล่อยมือออกจากร่างของแจ็ค
ทางด้านอาณาจักรเอเรนเดลล์ ณ.ห้องนอนของอันนา
“องค์ราชินีม้าพร้อมแล้วพะยะค่ะ” นายทหารที่ได้รับคำสั่งให้เตรียมม้ารีบวิ่งเข้ามาในห้อง....
แต่ก็พบกับความว่างเปล่า
“วันนี้มันวันอะไรองค์หญิงอันนาก็หายตัวไปพระองค์นึงแล้วนี้ยังองค์ราชินีอีก” นายทหารคนเดิมบ่น
“ไม่ใช่แค่นั้นหรอกน่ะ ตอนแรกที่ข้าเข้ามาเรียกองค์หญิงอันนานะข้าหาองค์หญิงจนทั่วห้องไม่เห็นจะเจอจดหมายขององค์หญิงเลย...ข้าว่ามันแปลกๆนะ ทหารคนที่ยื่นจดหมายให้องค์ราชินีข้าก็ไม่คุ้นหน้า” นางกำนัลคนสนิทของอันนาพูดเสริม
ร่างบางของใครบางคนเดินเข้ามาขัดการสนทนาของทั้งคู่
เธอมีผมสีส้มมันเปียหลวมๆไว้ทั้งสองข้า ดวงตาสีเขียวมรกตราวกับใบไม้ที่ผลิออกในฤดูใบไม้ผลิ ใบหน้ามีรอยกระเล็กน้อยแต่ร่องรอยนั้นกลับถูกกลบด้วยรอยยิ้มที่สดใสแทน “เอ่อ...นี้คนที่จะมาตัดชุดให้ข้ามารึยังอ่ะข้ารอนานแล้วน้---า”
นางกำนัลยื่นมองหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาในห้องด้วยดวงตากลมโต “องค์หญิงอันนา!! นี่ท่านไม่ได้ไปเมืองแมกเทอร์ซ่าหรอกรึเพค่ะ แล้วจดหมายฉบับนั้น...”
“นี่ๆเดี่ยวก่อนอะไรทำไมมองหน้าข้าแล้วต้องตกใจขนาดนั้นด้วย” อันนาถามขึ้นเมื่อสังเกตได้ว่าใบหน้าของนางกำนัลไม่สู้ดีนัก
ทางด้านหลังปราสาท
นายทหารคนที่เดินถือจดหมายไปให้เอลซ่านั้น เดินมาเรื่อยๆจนลับสายตาผู้คน ฉับพลั้นร่างนั้นก็สลายกลายเป็นควันที่ดำทมิฬล่องลอยหายขึ้นไปบนท้องฟ้า
“กงล้อได้ถูกหมุ่นขึ้นแล้วแจ็ค ฟรอสต์ และมันจะไม่หยุดลงจนกว่าเจ้าจะสูญเสียทุกอย่าง...แม้ข้าต้องยอมทำตามใครบางคนอย่างจนใจก็ตาม”
เฮ้อ...จบไปอีกหนึ่งตอน อยากจะสารภาพว่าเค้าใช้เวลาแต่งฟิคนี้ตอนหนึ่งนานมากๆๆๆ บทหนึ่งใช้เวลาทั้งวันย่ำทั้งวันจริงๆนะ อาจจะเป็นเพราะทั้งเรื่องโฟร์เซ็นและไรส์ ออฟ เดอะ การ์เดียนเป็น การ์ตูนที่เป็นตอนสั้นๆก็ได้มั้งบทบาทของแต่ละตัวเลยต้องมีการตีความแยกออกไปอีกก่อนจะแต่งฟิคเรื่องนี้ วันนี้แค่นี้ก่อนไปแล้วน้าาา...(ฟิ้ว!!)
เปเปอร์เมล
ความคิดเห็น