คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : บทที่ 13 : เอลฟ์ติดตาม
บทที่ 13 : เอลฟ์ติดตาม
“รวมๆ
แล้ววันเกิดรอนคราวนี้ไม่ดีเลยนะ” เฟร็ดพูด
ค่ำวันอาทิตย์ห้องพยาบาลเงียบสงัด
หน้าต่างปิดม่านโคมไฟสว่าง เตียงของรอนเป็นเตียงเดียวที่มีผู้ป่วย
วันที่หนึ่งมีนาคมหรือก็คือวันนี้เป็นวันเกิดของรอน
แต่แฮร์รี่เล่าว่าเขาโดนยาสเน่ห์จากชอคโกแลตที่โรมิลด้า
เวนเคยให้แฮร์รี่เมื่อก่อนวันคริสมาสต์
เขาจึงพารอนไปหาซลักฮอร์นเพื่อแก้พิษของยาเสน่ห์
หลังจากนั้นทั้งสามก็คิดจะฉลองกันแต่เหล้าของซลักฮอร์นนั้นกลับมียาพิษเจือปนอยู่
มาดามพอมฟรีย์ให้พวกเขาเข้ามาเฝ้ารอนได้เมื่อตอนสองทุ่ม
ส่วนเฟร็ดกับจอร์จมาถึงที่นี่ตอนทุ่มสิบนาที
“นี่ไม่ใช่วิธีให้ของขวัญที่เราเคยจินตนาการเอาไว้เลย”
จอร์จบ่นหน้าเครียด เขาวางของขวัญกล่องใหญ่ห่อเรียบร้อยบนตู้ข้างเตียงของรอนและนั่งลงข้างๆ
กับจินนี่
“ใช่
เราวาดภาพไว้ รอนมีสติรู้ตัว” เฟร็ดบอก
“เราอยู่ที่ฮอกส์มี้ด
คอยทำให้เขาประหลาดใจ” จอร์จพูด
“พี่อยู่ฮอกส์มี้ดเหรอ”
จินนี่ถาม เงยหน้ามอง
“เราคิดจะซื้อร้านซองโก้น่ะ”
เฟร็ดบอกใบหน้าซึมลงเห็นได้ชัด “ตั้งเป็นสาขาที่ฮอกส์มี้ดไง คงดีชะมัดถ้าพวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปซื้อของเราตอนสุดสัปดาห์อีกต่อไปแล้ว
แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นแล้วต่อไปนี้”
เขาดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆ
เฮเลน เอนศีรษะมาพิงไหล่ที่อยู่ต่ำกว่าเบาๆ มองดูใบหน้าซีดเผือดของรอน
“มาดามพรอมฟรีย์บอกว่าเขาจะต้องอยู่ที่นี่อีกอาทิตย์หนึ่งหรือมากกว่า
ต้องให้กินหัวน้ำมันสลด” แฮร์รี่บอก
“ให้ตาย
โชคดีที่นายคิดถึงบีซัวร์” จอร์จพูดเบาๆ
“โชคดีที่มีอันนึงในห้อง”
แฮร์รี่ตอบ
เฮเลนได้ยินเสียงเฮอร์ไมโอนี่สูดจมูกฟุดฟิดและเงียบผิดปกติตั้งแต่รู้เรื่อง
เธอไม่ได้ร่วมวงพูดคุยกับพวกเขาเลยเรื่องที่รอนถูกวางยาได้ยังไง
เธอได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ เตียงและมีสีหน้าหวาดกลัว เป็นห่วงปะปนกันไป
เฮเลนแอบลองคิดว่าถ้าหากเป็นเดรโกที่นอนอยู่ตรงนี้แทนที่จะเป็นรอน
มันจะเป็นยังไงนะ
“แม่กับพ่อรู้รึยัง”
จอร์จถามจินนี่
“ตอนนี้อยู่ห้องทำงานดัมเบิลดอร์
แต่อีกเดี๋ยวก็คงจะมา”
เงียบกันไปครู่หนึ่ง
ระหว่างนั้นทุกคนมองดูรอนส่งเสียงพึมพำแผ่วเบาขณะนอนหลับ
“ยาพิษอยู่ในเครื่องดื่มงั้นเหรอ”
เฟร็ดถามเบาๆ
“ใช่”
แฮร์รี่ตอบทันที “ซลักฮอร์นรินมันออกมา”
“นายไม่คิดเหรอว่าเขาอยากวางยานายแฮร์รี่”
เฟร็ดพูดต่อ ยังไม่ยอมยกหัวขึ้นจากไหล่เฮเลน “นายไม่คิด เหรอว่าเขาบังเอิญส่งแก้วให้ผิดคน”
“แล้วทำไมซลักฮอร์นถึงอยากวางยาแฮร์รี่ล่ะ”
จินนี่ถาม
“ในฐานะคนที่ถูกเลือกมั้ง”
เฟร็ดตอบ
“แต่เขาคงไม่บ้าขนาดที่ว่าจะวางยาแฮร์รี่คนเดียวหรอก”
เฮเลนพูดขึ้นบ้าง “เขาไม่ใช่ผู้เสพความตายสักหน่อย”
“เขาอาจจะอยู่ใต้คำสาปสะกดใจก็ได้”
จอร์จพูดบ้าง
“ยาพิษอาจจะอยู่ในขวดนั่นอยู่แล้วก็ได้”
จินนี่บอก “ถ้าเป็นแบบนั้นใครบางคนอาจจะจงใจเก็บซลักฮอร์น”
“ดัมเบิลดอร์บอกว่าโวลเดอมอร์ต้องการให้ซลักฮอร์นไปอยู่ฝ่ายเขา”
แฮร์รี่พูด “ซลักฮอร์นหลบเขาอยู่ตั้งปีหนึ่งก่อนจะมาที่นี่”
“แต่นายบอกว่าซลักฮอร์นจะเอาขวดนั่นให้ดัมเบิลดอร์”
เฮเลนพูดอีกครั้ง “บางทีเขาอาจจะอยากกำจัดดัมเบิลดอร์ก็ได้นะแฮร์รี่”
“ถ้างั้น
คนวางยาก็ไม่รู้จักซลักฮอร์นเลย” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้น
เป็นครั้งแรกในรอบหลายชั่วโมงและเสียงอู้อี้เหมือนเป็นหวัดอย่างแรง “ใครก็ตามที่รู้จักซลักฮอร์น
จะต้องรู้ว่ามันเป็นไปได้มากที่เขาจะเก็บของดีๆ ไว้ให้ตัวเอง”
หลังจากการวิเคราะห์ของเฮอร์ไมโอนี่พวกเขาก็ถกกันเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นหอนอนโดยเฮเลนพยายามไม่ให้แฮร์รี่พูดขึ้นมาอีกว่าเดรโกเป็นคนทำทุกอย่างนี้
เพราะเธอเองก็เริ่มคิดว่าบางทีอาจจะใช่เขาที่ส่งของพวกนี้มาเพื่อฆ่าดัมเบิลดอร์...
หลังจากวันนั้นเฮเลนและแฮร์รี่ไม่มีโอกาสถกกันเรื่องนี้มากนักเพราะเฮเลนถูกลาเวนเดอร์ตามติดเหมือนกับปลิงดูดเลือดตัวโตๆ
และรบเร้าให้เธอดูลายมือให้ทุกชั่วโมงเรียนพยากรณ์ศาสตร์
เธอมักจะพูดเรื่องรอนอยู่เสมอว่าทำไมไม่มีใครบอกเธอเลยว่ารอนอยู่ที่ห้องพยาบาลและมักจะพูดอยู่ซ้ำๆ
ตลอดว่าเธอเป็นแฟนเขาและสมควรได้รู้เรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง!
“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอไม่ไปพูดเรื่องนี้กับเขาเอง”
เฮเลนถามหลังจากเดินลงบันไดลงมาจากห้องเรียน พยากรศาสตร์ ลาเวนเดอร์ถามทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องเล็กๆ
ไปจนถึงความสัมพันธ์ของรอนและเธอว่านี่มันจริงจังรึเปล่า
จนเฮเลนแอบคิดกับตัวเองเลยว่าตอนที่เธอคบกับเดรโกเธอทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ไหม
“ฉันก็อยาก!
แต่เขานอนหลับตลอดเลย เวลาที่ฉันไปเยี่ยม” ลาเวนเดอร์ตอบอย่างหงุดหงิด
“งั้นเหรอ”
เฮเลนย้อน
เธอรู้สึกประหลาดใจมากเพราะเห็นรอนดี๊ด๊าทุกครั้งที่เธอขึ้นไปห้องพยาบาลพร้อมแฮร์รี่
ทั้งสนใจข่าวที่แฮร์รี่เอามาเล่าให้ฟังอย่างมากและกระตือรือร้นที่จะยุแยงเรื่องแม็คล้ากเก้น
“แล้วยัยเกรนเจอร์ยังไปเยี่ยมเขาอยู่รึเปล่า!”
ลาเวนเดอร์ตั้งคำถาม
“ไปสิ
ฉันคิดว่างั้นนะ” เฮเลนตอบ “เขาเป็นเพื่อน รู้ใจ กันนี่”
“เพื่อน?
น่าตลก!” ลาเวนเดอร์พูดเยาะๆ “เขาไม่คุยกับรอนมาเป็นเดือนๆ
ตั้งแต่รอนเริ่มคบกับฉัน ตอนนี้เขาคงอยากจะคืนดีด้วยน่ะสิ รอนน่ะน่าสนใจ...”
“ถูกวางยาพิษนี่น่าสนใจเหรอ?”
เฮเลนหรี่ตาถามลาเวนเดอร์ “โทษทีนะ ฉันต้องรีบไปเรียนต่อ พอดีตารางฉันแน่น!”
เฮเลนก้าวยาวๆ ลัดลงไปสู่ห้องเรียนปรุงยา ขอบคุณพระเจ้าที่ลาเวนเดอร์ตามมาไม่ได้
ในที่สุดเช้าวันแข่งควิดดิชมาถึง
เฮเลนจำไม่ได้แล้วว่าวันนี้กริฟฟินดอร์ต้องแข่งกับบ้านไหน
เธอปล่อยแฮร์รี่ไปเยี่ยมรอนที่ห้องพยาบาลก่อนเริ่มแข่งส่วนเฮอร์ไมโอนี่เดินไปสนามควิดดิชพร้อมกับจินนี่
เฮเลนยืนอยู่ที่ประตูปราสาทมองนักเรียนหลายคนลงไปยังสนามควิดดิช
เธอขอยืมผ้าคลุมล่องหนมาจากแฮร์รี่และเดินไปยังชั้นเจ็ดที่เป็นสถานที่ที่อยากไปที่สุดในตอนนี้
ห้องต้องประสงค์
เด็กสาวคลุมผ้าคลุมและนึกถึงสถานที่ที่ต้องการซ่อนสิ่งของ
ประตูบานใหญ่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เฮเลนดันมันให้เปิดออกและเข้าห้องไปอย่างเงียบๆ
ครั้งนี้เธอไม่ได้ยินเสียงพึมพำคาถาเหมือนครั้งก่อน เดรโกยังไม่ได้มาที่นี่
เฮเลนเดินไปยังตู้ที่เดรโกเคยยืนอยู่เมื่อก่อนหน้า
เธอเปิดมันออกและพบหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ภายใน
เขากำลังพยายามซ่อมตู้นี่...
ตู้อันตรธานที่อาจจะเกี่ยวโยงกับเรื่องที่เขาไปอยู่ที่ร้านบอร์เจ็นและเบิร์กส์เมื่อตอนที่พบกันก่อนเปิดเทอม
เฮเลนปิดประตูตู้และลองพูดคาถาที่เดรโกเคยพูด โชคดีมากที่เธอจำมันได้ขึ้นใจ
“ฮาร์โมเนีย
เนคเตอร์ พาสซัส”
เสียง ฟุ่บ
เบาๆ ดังขึ้น มือเล็กเลื่อนเปิดประตูตู้ออกและพบว่าหนังสือเล่มนั้นหายไปแล้ว
ดวงตากลมโตจ้องมองพื้นสีดำด้านในตู้อย่างเงียบๆ และปิดประตูลงไปอีกครั้ง
นึกถึงร้านบอร์เจ็นและเบิร์กส์พยายามนึกถึงว่าจุดเชื่อมต่อของตู้นี้อาจจะเป็นอีกตู้หนึ่งที่เชื่อมต่อกัน
“ฮาร์โมเนีย
เนคเตอร์ พาสซัส”
เสียง ฟุ่บ
ดังขึ้นอีกรอบ เฮเลนดึงประตูตู้เปิดออก สิ่งที่กลับมานั้นไม่ใช่หนังสือที่ถูกส่งไป
แต่กลับมีนกสีดำตัวหนึ่งบินออกมาแทน
เด็กสาวมองนกตัวนั้นพร้อมกับความรู้สึกหวาดหวั่นที่เพิ่มพูนขึ้นมาในจิตใจ
รู้สึกไม่ดีเลยที่ได้เห็นสิ่งที่กลับมานั้นไม่ใช่หนังสือ
ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากนัก
เสียงประตูเปิดก็ดังขึ้น เฮเลนกระชับผ้าคลุมล่องหนแน่นและเดินออกไปจากตรงนั้น
หามุมดีๆ เพื่อหลบซ่อนไม่ให้เดรโกเห็นเธอ
ความจริงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เธอจะต้องมาจับตาดูเขาแต่ว่าความสงสัยเรื่องของรอนและอื่นๆ
บังคับให้เธอมาที่นี่ เฮเลนสงสัยว่าเขาเป็นคนที่ทำทุกอย่างนั่นจริงหรือเปล่า
หรืออาจจะไม่ใช่เขากันแน่
เดรโกเดินเข้ามาในห้องนี้พร้อมกับนกน้อยสีขาวบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง
เสียงร้องไพเราะของมันทำให้เฮเลนรู้สึกใจหาย
เขาจับมันใส่ลงไปในตู้อันตรธานและเริ่มท่องคาถาเหมือนดั่งที่เคยทำ
ดวงตาสีฟ้าซีดจ้องมองไปยังประตูตู้ด้วยแววตามุ่งมั่นและนิ่งต่างจากครั้งก่อนที่เธอเคยเห็นอย่างสิ้นเชิง
เป็นหลักฐานที่บอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาคงจะลืมเรื่องของเธอไปจนหมดแล้วจริงๆ
คิดได้แบบนั้นหัวใจของเฮเลนกระตุกวูบ
น้ำตาพาลจะไหลลงมาเสียดื้อๆ มือเล็กกระชับผ้าคลุมแน่น
ดวงตาจ้องมองไปยังร่างสูงอย่างไม่ละสายตาจนกระทั่งเขาเปิดประตูตู้ออกมาอีกครั้งหนึ่ง
สีหน้าพึงพอใจของเขาบ่งบอกว่านกตัวนั้นได้หายไปจากตู้แล้ว
เดรโกคงกำลังคิดว่าการซ่อมแซมนั้นเป็นไปได้ด้วยดี แต่หลังจากที่เขาปิดประตูตู้ลงและท่องคาถาอีกครั้งนั้นเอง
สิ่งที่ได้กลับมาทำให้เขาผงะถอยหลังออกจากตู้นั้น
“บ้าบอที่สุด”
เขาพึมพำด้วยใบหน้าที่เริ่มเป็นสีชมพูหน่อยๆ ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้
มือเรียวยาวค่อยๆ กอบร่างไร้ลมหายใจของนกตัวเมื่อครู่ออกมาจากในตู้
มันมาพร้อมกระดาษใบหนึ่งห้อยมาด้วย เดรโกเปิดอ่านกระดาษใบนั้น ใบหน้าของเขาทำให้เฮเลนใจหาย
เดรโกกำลังร้องไห้
น้ำตามากมายไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคมสีฟ้าซีดพร้อมกับการสะอื้นที่ไร้เสียง
อะไรที่ทำให้เดรโกสามารถร้องไห้ออกมาได้ในตอนนี้กัน
เฮเลนคิดในขณะที่เดรโกล้มตัวลงนั่งบนพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่น
เขาวางร่างนกน้อยตัวนั้นเอาไว้ข้างกายและปล่อยกระดาษใบนั้นลอยปลิวมาตกอยู่ตรงหน้าเฮเลนพอดิบพอดี
อย่าทำให้เราต้องคอยนานเดรโก!
ก่อนที่พวกนั้นจะต้องตาย
สิ่งที่ถูกเขียนเอาไว้ทำให้เฮเลนตัวชา
เขากำลังทำเพราะถูกใครบางคนขู่อย่างนั้นเหรอ?
ใครที่เป็นแรงกดดันที่บังคับให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้ แผ่นหลังของเขากระเพื่อมอยู่ด้านหน้าของเธอ
มือเล็กอยากจะเอื้อมไปดึงเขามา กอดใจจะขาดเหมือนกับตอนที่เขาสูญเสียลูเซียส
แต่ว่าไม่กล้าพอ
เมื่อเขาสั่งไม่ให้เธอมาพบเขาอีกในครั้งนั้น
เธอก็ไม่ควร... ไม่ควรเลย
“ได้โปรด”
เสียงพึมพำดังขึ้น “ได้โปรด ผมจะพยายาม ผมไม่อยากให้เธอเป็นอะไรไป”
เดรโกพูดเสียงเบาแต่กลับดังก้องไปทั่วห้อง
“ฉันคิดถึงเธอ
เฮเลน” ประโยคสุดท้ายทำให้น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ร่วงผล็อยลงมาอย่างรวดเร็ว เฮเลนพยายามกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้และไม่ให้เขารู้ว่าเธออยู่ตรงนี้
ถ้าเขาเห็นก็คงจะโกรธเธอมากที่ยังตามเขาเข้ามาที่นี่
ยังตามมาทั้งที่โดนเขาไล่ไปแล้วครั้งหนึ่ง
“คุณมันอ่อนแอ
คุณมัลฟอย” เสียงใครอีกคนดังขึ้น
เฮเลนใช้สองมืออุดปากตัวเองเอาไว้แน่นและกวาดตามองหาต้นเสียง “ผมคิดว่าคุณจะแกร่งกว่านี้ซะอีกนะ”
แท็ค
อาเรนเดล แม็กมาเวลล์ก้าวยาวๆ มาหยุดยืนตรงหน้าของเด็กหนุ่มเรือนผมสีบลอนด์ที่พยายามเช็ดคราบน้ำตาที่หลงเหลืออยู่ออกไป ใบหน้าของเดรโกเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในทันที
เขายันตัวลุกขึ้นยืนและจ้องหน้าแท็คด้วยแววตาไม่พอใจ
“มันไม่ใช่เรื่องของแกที่จะต้องเข้ามาสอด!”
เดรโกพูด “ฉันทำ ในสิ่งที่ฉันต้องทำ!”
“โอ๊ะ
โอ๋...” แท็คร้องขึ้น “ผมไม่คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องของคุณคนเดียวนะ”
เดรโกเงียบไป
เฮเลนปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ
และพยายามตั้งใจฟังบทสนทนาของทั้งสองให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ผมคิดว่าการสกัดใจมันใช้ไม่ได้ผลตอนที่คุณกำลังอ่อนแอ”
แท็คยิ้มเยาะ “ผมรู้ว่าคุณคิดถึงเธอแค่ไหนคุณมัลฟอย ตอนนี้เธอยังสบายดี
รวมไปถึงแม่ของคุณด้วย”
“อย่ามาแส่!!”
เดรโกตะคอก “แกไม่จำเป็นต้องยุ่งเรื่องของฉัน”
“ผมยุ่งเต็มๆ
เลยล่ะ” แท็คว่า “มันจะดีกว่าไหมที่คุณพยายามซ่อมตู้นี่โดยมีผมร่วมมือด้วยน่ะ
มันอาจจะเร็วขึ้นนะแล้วบางทีคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งร้องไห้งอแงแบบเมื่อกี้ไง”
“หุบปาก!!”
เดรโกพูดอีกครั้ง “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกใช้คำสาปสะกดใจกับมาดามโรสเมอร์ทา”
“อุ๊บ...
บางครั้งคุณก็ฉลาดเหลือเชื่อนะครับ” แท็คพูดเยาะๆ “ใช่
ผมใช้คาถาสะกดใจกับมาดามโรสเมอร์ทา
แล้วก็ยังแอบเปลี่ยนขวดเครื่องดื่มในห้องทำงานซลักฮอร์นด้วย”
เฮเลนเบิกตาโพลง
เธอยังคงซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าคลุมล่องหนและพยายามเงียบเสียงที่สุด
เฮเลนต้องบอกแฮร์รี่เรื่องนี้ให้ได้ถ้ามีโอกาส
แต่ไม่รู้ว่ามันจะมีขึ้นมาอีกเมื่อไหร่กันแน่
“แกทำให้รอน
วีสลีย์ต้องโดนยาพิษ!” เดรโกว่า
“ผมเปล่า”
เขายักไหล่ “อย่าลืมว่าผมแค่พยายามทำตามสิ่งที่จอมมารสั่งให้ทำ
และผมคิดว่าบางทีคุณทำไม่สำเร็จหรอกถ้าเกิดว่าผมไม่พยายามสร้างเรื่องพวกนี้ให้”
“แกกำลังทำตัวเหมือนเซเวอรัส
สเนป!”
“ผมไม่เหมือนเขาหรอก”
แท็คยกยิ้มมุมปาก “ผมไม่ได้จะช่วย แต่ผมจะทำเพื่อแย่งผลงานคุณต่างหาก!”
เงียบกันไปพักหนึ่ง
“ไม่ต้องห่วงเลยว่าผมทำสำเร็จก่อนคุณแน่นอน”
แท็คพูดย้ำ “แล้วอีกอย่าง เรื่องของเฮเลน ผมคิดว่าคุณไม่ได้พบเธอเลยใช่ไหมล่ะ”
หลังจากประโยคนั้นเขาก็พูดอะไรบางอย่างที่เสียงเบาราวกับกำลังกระซิบ
เดรโกผลักไหล่เขาแรงๆ หนึ่งที แต่แท็คไม่ได้มีสีหน้าโกรธเคืองแต่อย่างใด
เขายิ้มกริ่มแล้วก็เดินออกไปจากห้องต้องประสงค์
ทิ้งให้เดรโกยืนกัดฟันกรอดอย่างไม่พอใจอยู่เพียงลำพัง
เสียงโครมดังๆ
พร้อมกับกองอุปกรณ์หน้าตาประหลาดล้มลงบนพื้นห้อง
เดรโกตวัดเท้าฟาดใส่มันเข้าเต็มแรงด้วยอารมณ์โทสะ
เฮเลนเฝ้ามองการกระทำของเดรโกอยู่ชั่วครู่และค่อยๆ ย่องออกจากห้องไป
แทนที่ในใจจะรู้สึกแย่ลงพอรู้เรื่องว่าลูกพี่ลูกน้องเฮอร์ไมโอนี่เป็นตัวการแต่มันกลับรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก
เธอดึงผ้าคลุมออกและเก็บมันใส่ไว้ในเสื้อคลุ่ม ในสมองของเฮเลนมีเพียงแต่ประโยคที่บอกว่า
เดรโกไม่ได้อยากทำ เขาไม่ได้ต้องการผลักไสเธอ เขากำลังทำเพื่อปกป้องเธอ
นั่นคือสิ่งที่ทำให้เฮเลนรู้สึกดีที่สุดตั้งแต่เขาไล่เธออกไปจากชีวิต
ความหมายของจูบที่เต็มไปด้วยความสับสนถูกไขให้กระจ่างเรียบร้อยแล้ว
“เฮเลน!!
เฮเลนแย่แล้ว”
ในขณะที่กำลังเดินลงบันไดเพื่อไปยังสนามควิดดิชเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้น
เดมเลซ่า ร็อบบินส์ที่สมควรอยู่ในสนามแข่งโผล่พรวดเข้ามาที่บันไดเวียน เธอมีสีหน้าตกใจมากราวกับว่ามีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นอย่างนั้น
“แฮร์รี่!
แฮร์รี่โดนลูกบลัดเจอร์หวดใส่จนสลบไปแล้ว”
“หา!!”
เฮเลนร้องเสียงหลง รีบวิ่งตามเดเมลซ่าไปยังห้องพยาบาลในทันที
ทุกคนในทีมควิดดิชยืนอยู่รอบเตียงที่แฮร์รี่นอนอยู่
แฮร์รี่มีผ้าพันเอาไว้รอบศีรษะหลับตาและเหมือนกับว่ายังไม่ได้สติ เฮเลนพรวดพราดฝ่าวงล้อมนักกีฬาควิดดิชทีมกริฟฟินดอร์เข้าไปหาเขาในทันที
“เกิดอะไรขึ้น!”
เด็กสาวร้องถาม “ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น!!”
“เบาเสียงหน่อยคุณพอตเตอร์!
นี่ห้องพยาบาล” มาดามพอมฟรีย์เอ็ดเสียงดุ
เฮเลนหันไปขอโทษเธอนิดหน่อยและมองหน้าเหล่าสมาชิกทีมที่ดูเหมือนขาดหายไปคนหนึ่ง
“กระโหลกร้าว แม็คล้ากเก้นเป็นคนทำ”
จินนี่ว่า “เขาไม่ยอมคุมห่วงแล้วไปแย่งไม้บีตเตอร์ในทีม”
“แล้วยังไงอีก”
เฮเลนถามย้ำ
“เขาก็พยายามจะสอนพีกส์ตีลูกบลัดเจอร์”
เดเมลซ่าตอบ “แล้วเขาก็หวดมันใส่แฮร์รี่เข้าเต็มแรงเลย”
“เราแพ้ไม่เป็นท่า”
ดีนพูด “สามร้อยยี่สิบต่อหกสิบ”
“เยี่ยม!
แม็คล้าคเก้นอยู่ไหน ฉันจะไปฆ่าเขา!”
น้ำเสียงเฮเลนเต็มไปด้วยโทสะ จินนี่รั้งแขนเธอเอาไว้
“เธอยังไม่อยากยุ่งกับเขาหรอก”
จินนี่บอก “และฉันคิดว่าเธอควรปล่อยให้พวกเราจัดการ”
“ฝากดูแฮร์รี่ด้วย” จินนี่พูดอีกครั้งและทีมกริฟฟินดอร์ทุกคนก็เดินออกไปจากห้องพยาบาล เฮเลนจ้องมองใบหน้าของแฮร์รี่ที่หลับอยู่บนเตียงราวกับว่ากำลังฝันดี แต่เธอรู้ว่าถ้าหากเขาตื่นมาแล้วคงหัวเสียน่าดูที่แพ้ยับเยินได้ถึงขนาดนี้
“ฉันไม่เคยบอกนะว่าทั้งหมดนี่เป็นแค่ความคิดของนาย”
เสียงของรอนเรียกให้เฮเลนผงกหัวขึ้นมา
เธอใช้สองมือขยี้ตาเบาๆ
ก่อนจะมองไปยังรอนที่ใช้ศอกดันตัวลุกขึ้นนิดหน่อยและเขากำลังมองมาทางแฮร์รี่พร้อมขมวดคิ้ว
เฮเลนจำไม่ได้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนนี้คงเป็นเวลาประมานสองทุ่ม
เธอควรกลับขึ้นไปห้องนั่งเล่นรวมได้แล้ว
“นายหมกมุ่นเกี่ยวกับหมอนั่นมากไปแล้วนะแฮร์รี่
ฉันหมายถึงนายคิดจะทิ้งการแข่งเพื่อตามเขาไป...”
“ฉันต้องจับเขาให้ได้!”
แฮร์รี่พูดด้วยความกลัดกลุ้ม “ฉันหมายถึง เขาหายไปจากแผนที่!”
“ฮอกส์มี้ดมั้ง!”
รอนแนะพร้อมอ้าปากหาว ไม่นานนักเสียงของเขาก็เงียบไปแทนที่ด้วยเสียงกรนแทน
แฮร์รี่ทิ้งตัวลงบนหมอนพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ๆ
“เขาอยู่ในห้องต้องประสงค์”
เฮเลนแทรกขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เรียกความสนใจจากแฮร์รี่ได้เป็นอย่างดี
“เธอหมายความว่าไงที่ว่าอยู่ในห้องต้องประสงค์”
แฮอร์รี่ถามสีหน้างงงวย “แล้วเธอไปรู้มาได้ไง”
“ฉันจิบน้ำยานำโชคไป
เพราะฉันอยากเจอเขา” เฮเลนพูด “แล้วมันก็พาให้ฉันเข้าไปในห้องต้องประสงค์
พูดตามตรงนะแฮร์รี่ นายไม่จำเป็นต้องโกหกฉันหรอกว่านายไม่รู้เรื่องนี้”
“เธอรู้” เขาอึ้งไป “ได้ไง”
“เดาน่ะ”
เฮเลนยักไหล่ “ฉันรู้อีกด้วยว่านายกับเดรโกพยายามทำอะไรสักอย่างเพื่อฉันใช่ไหม
ทำอะไรกัน”
คนตรงหน้าเธอหลุบตาลงต่ำทันทีที่เจอคำถามจี้จุด
แฮร์รี่เงียบไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะตอบ
“เดรโกได้รับภารกิจให้ฆ่าดัมเบิลดอร์”
แฮร์รี่พูดเสียงเรียบ “ดัมเบิลดอร์รู้เรื่องนี้แล้ว
โวลเดอมอร์ขู่เดรโกว่าจะฆ่าแม่เขากับเธอ”
สมองของเฮเลนว่างเปล่าไปชั่วครู่ราวกับว่ามันไม่อยากจะรับรู้อะไรอีก
“พวกเราตกลงกันว่าจะทำตามแผนของดัมเบิลดอร์”
แฮร์รี่พูดต่อ “ดัมเบิลดอร์บอกว่าให้เดรโกเป็นคนฆ่าเขาหลังจากที่เรียกผู้เสพความตายมาที่นี่ได้สำเร็จด้วยตู้อันตรธานในห้องต้องประสงค์นั่น
โวลเดอมอร์จะได้เชื่อใจเขาและเราก็จะได้สายสืบอย่างเดรโกเข้ามาร่วมด้วย”
“ทำไมต้องดัมเบิลดอร์”
เฮเลนถาม “ทำไมต้องเดรโก”
“ฉันไม่รู้เฮเลน”
แฮร์รี่ตอบเสียงเครียด “พวกเราแค่เดาว่ามีใครอีกคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
มันเป็นแค่การเดาสุ่ม ดังนั้นเราสองคนจำเป็นที่จะต้องปิดบังทุกอย่างจากทุกคนเฮเลน
ฉันจำเป็นต้องทำเป็นจับตาดูเดรโกและใส่ความเขาไม่ให้คนอื่นต้องสงสัยและไม่ให้คนที่เราคิดว่าอยู่เบื้องหลังสงสัยด้วย”
“ดัมเบิลดอร์เป็นคนให้ทำเหรอ”
“ใช่”
แฮร์รี่ตอบ “ตอนนี้ฉันได้รับภารกิจให้เอาความทรงจำมาจากซลักฮอร์นกลับไปให้ดัมเบิลดอร์
แต่ฉันไม่รู้ว่าเดรโกมีความกล้าพอที่จะฆ่าเขาไหม
ทั้งเขาและฉันไม่อยากให้เธอเข้ามาเสี่ยงด้วย เฮเลน ขอแค่เราสองคนก็พอแล้ว”
เฮเลนไม่ตอบอะไร
ปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมอยู่พักหนึ่ง
“ไม่”
เฮเลนว่า “ฉันปล่อยให้พวกเธอเจ็บปวดไม่ได้ ครั้งหน้าถ้านายจะไปหาดัมเบิลดอร์
นายจะต้องให้ฉันไปด้วยแฮร์รี่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ฉันจะต้องทำ!”
“แต่เฮเลน!
มันอันตรายเกินไป” แฮร์รี่พยายามแย้ง
“แล้วให้ฉันปล่อยคนที่ฉันรักทั้งสองคนไปเสี่ยงงั้นเหรอแฮร์รี่!”
เฮเลนว่า “ฉันไม่ได้ต้องการให้ใครมาตายเพื่อฉันนะ”
“มันจะทำให้เธอตกเป็นเป้าของเขา”
แฮร์รี่ย้ำ "เธออาจจะตายได้นะ"
“อย่างน้อยมันก็ไม่ได้แย่”
เฮเลนพูด “ไม่ได้แย่ไปกว่าที่ฉันต้องทนเห็นพวกนายตายหรอก”
คำพูดของแฮร์รี่ไม่ได้เข้าไปสู่สมองของเฮเลนเลยแม้แต่น้อย
ยิ่งต้องมารับรู้ว่ามีคนต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อเธอแค่ไหนยิ่งทำให้รู้สึกโมโห
ทั้งเดรโกและทั้งแฮร์รี่ เฮเลนรู้สึกโกรธที่พวกเขาไม่เชื่อใจว่าเธอจะต้องปลอดภัย
รู้สึกโกรธที่พวกเขาพยายามทำทุกอย่างให้เธอเข้าใจผิดและเจ็บปวดมาเสียตั้งนาน!
“แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง”
แฮร์รี่ว่า “เดรโกต้องฆ่าฉันแน่ถ้าฉันปล่อยให้เธอมาเอี่ยวด้วย”
“ฉันจะจัดการเองแล้วกัน!”
เฮเลนพูด “เอาล่ะ ฉันคิดว่ามีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากจะพูด
แต่คิดว่าเอาไว้หลังจากไปเจอดัมเบิลดอร์ก็แล้วกัน
ฉันจะไปพูดเรื่องนี้ที่นั่นทีเดียวเลย”
“เรื่อง...”
แฮร์รี่กำลังจะเอ่ยปากถาม
“ครีเชอร์!”
เสียง เปรี้ยง
ดังสนั่นมาพร้อมกับเสียงร้องแหลมและเสียงต่อสู้ดังไปทั่วห้องจนรอนตกใจตื่น
แฮร์รี่รีบยกไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่ประตูห้องทำงานของมาดามพรอมฟรีย์ทันทีพร้อมร่ายคาถาที่เฮเลนไม่รู้จักออกมา
“เธอเรียกพวกนี้มาทำไม”
แฮร์รี่ถามหลังจากตะเกียดตะกายมาดูที่ปลายเตียงและพบว่ามีเอลฟ์ประจำบ้านสองตัวกำลังกลิ้งอยู่บนพื้นกลางห้อง
ตัวหนึ่งสวมเสื้อถักสีแดงเลือดนกกับหมวกไหมพรมจำนวนมาก
ส่วนอีกตัวมีผ้าขี้ริ้วห้อยอยู่ที่สะโพกเหมือนผ้าเตี่ยว
ก่อนจะมีเสียงดังสนั่นขึ้นมาอีกหนพร้อมกับร่างของพีฟส์ ผีโพลเตอไกส์ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
“ฉันกำลังดูมันๆ
อยู่เลยพอตตี้!” มันหันมาบอกเฮเลนด้วยสายตาเดือดดาลชี้ไปยังการต่อสู้เบื้องล่าง
“ดูสองตัวนี่ทะเลาะกันสิ! ต่อยเลย ต่อยเลย”
“หุบปากน่ะพีฟส์”
เฮเลนหรี่ตามองผี
“ครีเชอร์จะต้องไม่ดูหมิ่นพอตเตอร์ต่อหน้าด๊อบบี้ ไม่ เขาต้องไม่ทำ!”
ด๊อบบี้ส่งเสียงร้องสูงแหลม “ไม่อย่างนั้นด๊อบบี้จะปิดปากครีเชอร์เอง!”
พีฟส์ทำท่าชอบใจ
มันขว้างชอล์กแท่งเล็กๆ ใส่เอลฟ์เพื่อยั่วโมโหให้พวกมันโกรธมากขึ้นไปอีก
“ครีเชอร์จะพูดในสิ่งที่เขาอยากพูดเกี่ยวกับเจ้านาย
เจ้านายเป็นเพื่อนกับพวกเลือดสีโคลน!”
ด๊อบบี้ชกหน้าครีเชอร์ เฮเลนชี้ไม้กายสิทธิ์ไปที่พีฟส์ในขณะที่แฮร์รี่กับรอนกระเด้งตัวลงมาจากเตียงเพื่อจับเอลฟ์ทั้งสองให้แยกจากกัน
“แลงล็อค!”
พีฟส์ยกมือขึ้นกุมคอ
อ้าปากกลืนน้ำลายแล้วบินหวือออกไปจากห้องทำท่าทางหยาบคายแต่พูดไม่ได้
“ดีจริง”
แฮร์รี่ว่า “นี่มันคำแช่งในหนังสือของฉันนี่”
“แอบเอามาอ่านนิดหน่อยช่วงคริสมาสต์น่ะ”
เฮเลนตอบ มองด๊อบบี้และครีเชอร์ที่ดิ้นอยู่ในมือของแฮร์รี่และรอน “เอาล่ะ!
เลิกสู้กัน ห้ามสู้กับด๊อบบี้นะครีเชอร์ ด๊อบบี้ ฉันรู้ว่าฉันสั่งคุณไม่ได้ แต่...”
“ด๊อบบี้เป็นเอลฟ์อิสระ!
ด๊อบบี้จะทำทุกอย่างที่พี่น้องพอตเตอร์อยากให้ทำครับ” ด๊อบบี้ตอบ
“ดี”
เฮเลนพูดเสียงเฉียบ พยักหน้าให้แฮร์รี่และรอนวางทั้งสองตัวลง
“เจ้านายเรียกครีเชอร์หรือ”
ครีเชอร์ถามเสียงแหบแห้งแม้จะส่งสายตาสาปแช่งมาให้เธอก็ตาม
“ใช่”
เฮเลนตอบ “ฉันมีเรื่องจะขอร้อง”
“ครีเชอร์จะทำทุกอย่างที่เจ้านายต้องการ”
ครีเชอร์พูดก้มตัวโค้งลงต่ำ “เพราะครีเชอร์ไม่มีทางเลือก ละอายใจเหลือเกิน...”
“ด๊อบบี้จะทำให้เองเฮเลน
พอตเตอร์!” ด๊อบบี้ร้องขึ้นเสียงแหลม “ด๊อบบี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ช่วยเหลือ”
“มันก็ดีนะถ้าได้สองตัวช่วยกัน”
แฮร์รี่ว่า “ว่าแต่เธอจะให้พวกเขาทำอะไรเฮเลน”
“ติดตามใครบางคน”
เฮเลนพูด ย่อเข่าลงนั่งมองไปยังครีเชอร์ “แต่ถ้าไม่ต้องการ จะไม่ทำก็ได้นะครีเชอร์”
เอลฟ์เหมือนกำลังสะดุ้ง
มันเงยหน้าขึ้นมองเฮเลนราวกับกำลังสงสัย
“เจ้านายถามความสมัครใจของครีเชอร์หรือ?”
เอลฟ์ถาม เฮเลนพยักหน้าเบาๆ
“ฉันแค่อยากให้พวกคุณติดตามใครคนหนึ่ง”
เฮเลนพูดต่อ “ฉันต้องการรู้ว่าเขาไปไหน ไปกับใครตลอดเวลา”
“ได้เลยครับเฮเลน!”
ด๊อบบี้รับคำทันควัน “แล้วถ้าด๊อบบี้ทำพลาด ด๊อบบี้จะโยนตัวเองเข้าไปในเตาผิงครับ!”
“ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นก็ได้มั้ง”
รอนว่า
“เจ้านายต้องการให้กระผมติดตามใครหรือขอรับ”
ครีเชอร์ส่งเสียงแหบๆ
“แท็ค
อาเรนเดล แม็กมาเวลล์”
ชื่อของคนๆ
นั้นทำให้แฮร์รี่และรอนหันมามองเฮเลนเป็นตาเดียวในทันที
“แท็คเหรอ!”
แฮร์รี่ถาม “นี่เธอกำลังสงสัยหมอนั่นเหรอ”
“ใช่!”
เฮเลนตอบทันที “ฉันไม่ได้แค่สงสัยหรอกแฮร์รี่ เอาเป็นว่าจะทำหรือไม่ทำครีเชอร์”
“ถ้ามันเป็นความต้องการของเจ้านายล่ะก็...”
เอลฟ์โค้ง
“ฉันขอห้ามไม่ให้ติดต่อกับเขา ไม่แม้แต่ทางเดียว
ห้ามแสดงให้รู้ว่าคุณกำลังตามเขาอยู่ ห้ามติดต่อสื่อสารใดๆ ทั้งสิ้น เข้าใจไหม”
เฮเลนย้ำ “แล้วถ้าทำสำเร็จฉันอาจจะอนุญาตให้คุณไปดูแลเดรโก มัลฟอยสักวันหนึ่ง”
ครีเชอร์เงยหน้าขึ้นมองเฮเลน
ดวงตาเต็มไปด้วยประกายแปลกๆ จะดีใจก็ไม่ใช่ จะเสียใจก็ไม่เชิง
“เฮเลน! เธอจะบ้าหรือไง” รอนแย้งขึ้น “นี่เอลฟ์ประจำบ้านของเธอนะ”
“ฉันพูดว่า
‘อาจจะ’ ไม่ได้ยินรึไง” เฮเลนว่า “ถ้าเกิดงานไม่สำเร็จก็อด
ฉันรู้ว่าครีเชอร์อยากรับใช้เจ้านายที่เป็นเลือดบริสุทธิ์มากกว่า ดังนั้นหนึ่งวันฉันจะให้คุณไปเป็นเอลฟ์ของเดรโก
ถ้าเกิดคุณทำงานสำเร็จ แต่มีข้อแม้นะว่าคุณต้องทำงานให้เขาเป็นเวลา ไม่ใช่ตลอดเวลา
และต้องมารายงานตัวกับฉันสามเวลาด้วย เข้าใจไหมครีเชอร์”
“ขอรับเจ้านาย”
เอลฟ์รับคำ ท่าทางดีอกดีใจออกนอกหน้า “ขอบคุณขอรับเจ้านาย”
“เป็นอันว่าตกลง”
เฮเลนบอก “ฉันต้องการให้รายงานเรื่องแท็คเป็นประจำทุกวัน
แต่ต้องดูให้ดีว่าไม่มีคนอื่นนอกจากฉัน รอน แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่
และห้ามบอกใครแม้แต่คนเดียวว่าคุณกำลังทำอะไร
ขอให้ตามติดแท็คเหมือนเป็นแผ่นพลาสเตอร์ติดหูดของเขาเลย!”
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น