คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : -:- Shortfic 1 -:-
Shortfic 1 | HalloweenDay
#เรื่องเกิดในช่วงเวลาหนึ่ง ทามไลน์ไม่แน่นอน
#สปอยตัวหยั่ย ๆ
เสียงดนตรีในเทศกาลยามราตรีดังไปทั่วทุกหนแห่ง
เมืองทั้งเมืองเต็มไปด้วยแสงไฟจากฟักทองแกะสลัก
แสงจากตะเกียง และแสงวับ ๆ แวบ ๆ จากบ้านร้างต่าง ๆ
และที่ทำขึ้นให้เข้ากับงานในวันนี้
เมืองแห่งพระจันทร์เขตมาเจน่า
ในคืนนี้เต็มไปด้วยภูตผีปีศาจ
ร้านค้าตามแนวถนนขายแต่สินค้าที่ถูกทำขึ้นมาโดยเน้นภาพลักษณ์จากโลกหลังความตายเป็นหลัก
“ว้าว ! ทางนั้นมีลูกอมค้างคาวด้วยล่ะ !”
เสียงของกอร์นปะปนไปกับหมู่คนกลางถนนคนเดิน
เด็กชายสวมเขาแกะสีงาช้างโค้งก้นหอย เสื้อสีน้ำตาลที่ชายเสื้อถูกตัดสลับเป็นฟันปลาเผยให้เห็นหน้าท้องน้อย ๆ
เข้ากับกางเกงสีเขียวสด ยาวลงไปเป็นรองเท้าที่ใส่แล้วไม่ต่างจากกีบเท้าแกะจริง ๆ
“เห็นแล้วน่า”
คิรัวร์ในชุดพ่อบ้านแวมไพร์เองก็ไม่น้อยหน้า
ชุดสูทยาวสีม่วงลายทางทำให้เด็กชายถูกแปลกไปกว่าทุกที
ที่หลังติดปีกค้างคาวประดับไว้เล็ก ๆ แต่พองาม มือถืออมยิ้มไม้กางเขนเข้าปาก
“นายจะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นน่ะกอร์น มันก็แค่งานที่มีลูกอมแปลก ๆ ขายเอง”
เขาบ่นอุบอิบ ...แต่ถามว่าตามเพื่อนสนิทไปเลือกลูกอมอันใหม่ ๆ
มาใส่ตระกร้าแทนการไปขอตามบ้านไหม
แน่นอนว่าไม่พลาดครับ
“คุเรฮะ ตามมาเร็ว เดี๋ยวก็หลงกันเข้าหรอก !”
เจ้าของชื่อถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
--- เด็กสาวอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีขาวพองแต่พอดี ริบบิ้นสีดำเล็ก ๆ ผูกที่คอเสื้อกับกางเกงขาสั้นพ่วงมาด้วยสายรัดขาและถุงเท้ายาวที่ไม่ต่างจากเมื่อก่อนเท่าไหร่
แค่มีพร็อบเพิ่มมาเป็นเสื้อคลุมคอปกตั้งสีดำยาว
บนหัวสวมเขาสีดำสนิทโค้งดัดไปทางด้านหลัง
ทุกอย่างมาจากพี่สาวฝาแฝดคนพี่อย่างฟีลล้วน ๆ ...
พวกเขาพากันแวะมาเที่ยวงานเทศกาลในสาธารณรัฐฯเฟียโดชาร์ของคุเรฮะเพราะคิรัวร์โพล่งขึ้นมาว่าของกินอร่อย ๆ
เพียบ ดังนั้นสำหรับคุเรฮะ การมาครั้งนี้จึงคล้ายการกลับมาเยี่ยมบ้านนิดหน่อย
ยิ่งคืนนี้พระจันทร์บนฟ้าส่องสว่างจ้าเต็มดวง
งานยิ่งครึกครื้นแลดูสนุกสนาน และอาจยิงยาวไปถึงเช้าวันใหม่เลยถ้าทำได้
“ที่บ้านนายไม่มีอะไรแบบนี้รึไงกอร์น ?” คิรัวร์หัวเราะเสียงดังเมื่อเพื่อนผมดำตั้งทำท่าจะวิ่งโร่ไปขอขนมกับผู้ใหญ่
--- ที่ยืนแจกขนมต่าง ๆ ให้กับปีศาจน้อยทุกคนหน้าบ้านหลังใหญ่
“ก็ไม่มีน่ะสิ บ้านฉันเป็นแค่เกาะเล็ก ๆ เองนี่นา !”
คุเรฮะยืนกอดอกไขว้ขาพลางเอนพิงต้นไม้ใหญ่
ตระกร้าฟักทองของเธอจะว่าน้อยก็ไม่ จะว่ามากก็ไม่
...เพราะยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากรั้วบ้าน
ทั้งพ่อแม่พี่ ๆ รวมไปทั้งพวกพ่อบ้านก็พากันมาใส่ขนมและลูกอมให้คนละนิดละหน่อยจนล้นตระกร้า
แม้แต่เซ็นจิที่ไม่ชอบขี้หน้ากันเท่าไหร่ยังแอบหย่อนมาให้ตอนเธอเดินผ่าน
ส่วนซีริลก็ฝากมากับพี่ใหญ่แทน
และทุกอันเป็นดาร์คช็อกโกแลตหมดเลย
...ก็ไม่เลวล่ะมั้ง
ก่อนออกมาหาพวกกอร์น
เดเรคช่วยเอาขนมบางส่วนที่ล้นไปเก็บไว้ให้ก่อน ใบหน้าอ่อนโยนยิ้มบางให้เหมือนทุกครั้ง
ตามมาด้วยคำพูดธรรมดาแต่บรรยากาศรอบตัวกลับแฝงไปด้วยนัยยะประหลาด
‘ขอให้สนุกนะครับ’
“เอ้า ! เร่เข้ามา เร่เข้ามา เด็กน้อยทั้งหลายจงฟังทางนี้ ! ข้าจะเล่าตำนานเก่าแก่ของวันฮาโลวีนให้ทุกคนฟังเอง !!”
เด็กสาวกะพริบตาปริบ
ชายชราในชุดพ่อมดดูเก่าแก่ชวนให้ดูขลังยามมองผ่านตาเคาะไม้เท้าลงกับพื้นดัง ๆ
จนเสียงเจี๊ยวจ๊าวเงียบลง เด็กเล็กรวมไปถึงผู้ใหญ่พากันไปรุมล้อมคน ๆ นั้น ---
นั่นคงเป็นพวกนักเล่านิทานที่พเนจรเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไม่เป็นหลักแหล่ง
จะว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่เธอได้เห็นนักเล่านิทานตัวเป็น ๆ
ยืนอยู่ไม่ไกล
“รู้กันรึเปล่า และสิ่งที่รู้มาใช่เรื่องจริงหรือไม่
ข้าจะแจ้งให้กระจ่างชัดเอง” ไม้เท้าของพ่อมดเฒ่าแกว่งขึ้นด้านบน มีแสงสีเขียว ฟ้า แดง
พร่างไปด้วยแสงสีขาวระยิบระยับเหมือนดาววิ่งตามชวนให้เด็ก ๆ ตาโตกันใหญ่
อาจจะเป็นเน็น
--- แต่เธอใช้เงียวมองแล้วไม่พบอะไร --- งั้นนั่นก็คงเป็นลูกเล่นอะไรสักอย่างในไม้เท้านั่นแหละ
เสียงแหบกังวานกดต่ำ
เริ่มต้นเล่าเรื่องราว
“เทศกาลวันฮาโลวีนนั้นมีชื่อเรียกอีกชื่อคือ เทศกาลแห่งความตาย” ควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากแขนเสื้อยาวกรอมเท้า
ดูตระการตาให้คนฟังมองตาไม่กะพริบ
“ชนเผ่าโบราณเชื่อว่าวันนี้เป็นวันที่โลกคนเป็นและโลกคนตายโคจรเข้ามาอยู่ใกล้กันมากที่สุด
...และนั่นทำให้วิญญาณทั้งหลายสามารถผ่านเข้าออกทั้งสองโลกได้อย่างอิสระ”
เด็กคนที่ยังไม่รู้ก็พากันร้องผวา
ส่วนเด็กที่รู้แล้วก็ยังตื่นตาตื่นใจไปกับน้ำเสียงและการแสดงประกอบของพ่อมดชราตรงหน้าอยู่ดี
“วิญญาณของบรรพบุรุษและญาติพี่น้องที่เคารพจะได้รับการต้อนรับกลับบ้าน
ส่วนวิญญาณร้ายจะถูกขับไล่ด้วยการแต่งตัวเป็นผีปีศาจซะเอง เพราะฉะนั้น...บางทีตอนนี้เราอาจจะเดินปะปนอยู่กับเหล่าดวงวิญญาณคนตายก็เป็นได้”
เสียงของเด็ก ๆ
พากันเงียบลง
เงียบลง...
“แต่ระวังไว้นะ เผลอไปเมื่อไหร่อาจจะถูกคนตายดึงไปอยู่ที่โลกฝั่งนั้นไม่ได้กลับมาอีกเลย”
เด็กน้อยปิดเปลือกตาลง
พักสายตาจากแสงไฟทั้งหลายที่วูบวาบรอบตัว
หูเงี่ยฟังเสียงเล่าที่เริ่มแผ่วลงเรื่อย ๆ
“คิรัวร์ ? กอร์น ?”
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกทีเด็กทุกคนรวมถึงนักเล่านิทานเฒ่าก็เหมือนแยกย้ายกันไปคนละทางเสียแล้ว
แต่ความคึกคักยังคงไม่หายไป
ผู้คนยังเดินไปมาดูร้านค้าและซื้อขนมไม่เปลี่ยนไปจากตอนแรกที่มาเท่าไหร่
...รึเปล่า ?
เด็กสาวผมยาวสีดำหันซ้ายขวา
ขมวดคิ้วกับเพื่อนชายที่ไร้การตอบรับ สองคนนั้นคงพากันล่าขนมจากผู้คนรวมถึงหาของกินกันจนเพลินแหง
ส่วนเธอก็เผลอหลับไปงีบนึงอยู่ตรงนี้
อย่างนี้นับว่าหลงกันได้ไหมนะ
ร่างเล็กในชุดปีศาจน้อยก้าวเท้าออกไป
ไม่แตกตื่นกับการพลัดหลงในครั้งนี้เหมือนเด็กทั่วไป
การหาตัวเจ้าตัวแสบทั้งสองคนน่ะไม่ใช่เรื่องยากหรอก สัก 5 นาทีก็คงเจอ—
หมับ !
มือซีดผอมแห้งยื่นมาจับแขนข้างนึงไว้
ตาคมสีผสมหันไปหา เห็นเป็นร่างที่ผอมจนเนื้อหนังหุ้มติดกระดูก นอกจากแขนและขาแล้ว
ทุกส่วนล้วนเก็บซ่อนไว้ใต้ผู้คลุมสีดำยาว
ราวกับเป็นขอทานที่ต้องการเงินและหาอาหารจากผู้ที่ผ่านทาง
แต่เมืองนี้ไม่มีขอทาน
ดวงตาสีแดงเสี้ยวมองกร้าว สะบัดแขนออกฉับพลันจนร่างตรงหน้าล้มกระเด็นไป ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มราวกับไม่พอใจ
เสียงขู่ในลำคอดังออกมา ขาตั้งท่ากระโดดเข้าใส่อีกครั้ง
ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะมืดลง
“ไสหัวไป”
เสียงทุ้มต่ำไร้ความเป็นมิตรดังมาจากด้านบน
คุเรฮะมองผ่านรอยแยกของผ้าคลุมสีดำที่ปิดร่างเธอไว้ ร่างผอมแห้งในชุดคลุมสั่นระริกคล้ายหวาดผวา
ก่อนจะคลานหายลับไปในความมืดที่เป็นป่าข้างทาง
เสียงจอแจรอบด้านเงียบลงชั่วขณะ
เด็กใต้ผ้าคลุมยาวสังเกตได้ว่าทุกคนมองมายังทางนี้ด้วยความสงสัย
แต่แค่พักเดียวก็หันกลับไปราวกับก่อนหน้านี้ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
“...”
ใบหน้าฉงนปนประหลาดใจเงยหน้ามองผู้ช่วยเหลือตัวสูง
ผ้าคลุมสีดำถูกปัดออก
มือสังหารตัวน้อยรับรู้ได้ว่าตัวเองถูกมือหนาของคนตรงหน้าช้อนเข้าที่รักแร้
อุ้มขึ้นมานั่งมาท่อนแขนแข็งแรงโดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ
เธอเองก็ไม่มีความรู้สึกต่อต้านอะไรจนน่าแปลกใจ
ทำไมกัน
“ไง เจ้าก้อนแป้งน้อย”
“...”
ชายร่างสูงตรงหน้าสวมเครื่องแต่งกายหลายอย่างคล้ายเธอจนน่าแปลกใจ
เพียงแต่เขาบนหัวนั้นใหญ่และดัดยาวกว่าจนน่าเกรงขาม ใบหน้าคมคายครึ่งบนมีหัวกะโหลกตัดครึ่งประดับไว้
ในดวงตากลวงโบ๋ของหัวกะโหลกมีแต่สีดำมืดมิดทำให้มองไม่เห็นดวงตา
เขาก้มลงมองตระกร้าฟักทองในมือเธอ แว่วเสียงหัวเราะในลำคอ
ก่อนจะพาเดินออกไปท่ามกลางความงงงวยของเด็กบนอ้อมแขน
“ไปไหน... ?”
“วันฮาโลวีนพวกเด็ก ๆ จะออกขอทานเอาขนมกันไม่ใช่รึไง”
“...”
การละเล่นในวันฮาโลวีนกลายเป็นวันเด็กขอทานไปเลยเมื่อชายคนนี้เอ่ยปากพูด...
ดวงตาคมกะพริบปริบ
ระหว่างที่ถูกอุ้มไปมาด้วยคนแปลกหน้าเธอก็หันไปมองรอบ ๆ แม้จะดูเป็นเทศกาลครื้นเครง
แต่ก็พอสังเกตได้ว่าบรรยากาศต่างไปจากเดิม
ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีเมื่อน้ำหนักของตระกร้าในมือเพิ่มขึ้น
เด็กน้อยก้มมองก่อนจะทำหน้าตายเมื่อข้างในเต็มไปด้วยขนมหวานหลากสี
“ทำไม ไม่ชอบรึไง ?”
“อือ ไม่ชอบ”
“แล้วทำไมถึงไม่ชอบล่ะ” ชายแปลกหน้าพาเด็กน้อยเดินไปกับฝูงคนที่แม้จะเยอะแต่ก็ไม่มีชนหรือกระทบไหล่กัน
เหมือนพาเดินชมงานไปเรื่อย ๆ ฆ่าเวลา
คุเรฮะอยู่ใกล้คนอุ้มจนมองเห็นว่าผมของคนตรงหน้าเป็นสีดำแซมแดงคุ้นตา
จอนผมด้านหน้าข้างนึงถักเป็นเปียเล็ก ๆ แต่กลับไม่ได้ลดกลิ่นอายความน่าเกรงขามรอบตัวลงไปเลยสักนิด
และกลิ่นอายที่ว่านั่น
ลึก ๆ เธอกลับรู้สึกว่าคุ้นเคย
...ชวนให้โหยหาอย่างบอกไม่ถูก...
“เพราะมันหวานเกินไป” เธอตอบเสียงแผ่ว เป็นคำตอบที่ใครถามมาก็ตอบแบบนี้ไปซ้ำ ๆ
จนชาชิน
แต่คำตอบจริง ๆ
นั้นแม้แต่เธอยังไม่รู้เลย
“หึ...”
แว่วเสียงหัวเราะ
มือข้างที่อุ้มกระชับเข้าหา “เลือกอันที่ชอบขึ้นมาให้ฉันทีสิ”
เด็กสาวเลิกคิ้วสงสัยแต่ก็ทำตามที่บอก
มือเล็กขาวซีดล้วงลงไปในตระกร้า ควานหาดาร์คช็อกโกแลตที่พวกคราวน์พากันให้มา
ยังดีที่เดเรคเหลือไว้ให้บางส่วน
“แกะแล้วป้อนด้วย”
คุเรฮะลอบกลอกตาเล็กน้อย
...เอาแต่ใจชะมัด
แต่ก็ทำตามอย่างไม่อิดออด
เด็กสาวแกะห่อขนมออกแล้วหยิบขนมสีน้ำตาลเข้มขึ้นมาดันใส่ปากคนที่อ้าลงอยู่ --- ซึ่งคนถูกป้อนมีทีท่าพอใจน่าดู
รอบด้านยังคงเต็มไปด้วยเงาสีดำที่เดินผ่านกันไปมา
“ว่าแล้วเชียว นี่มันรสโปรดฉัน”
“ชอบขม ๆ เหมือนกันเหรอ ?”
“ใครว่าล่ะ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ดวงตาที่กลมกว่าเขากำลังฉายแววไม่เข้าใจ
เด็กน้อยมุ่นคิ้วใส่เมื่อมือข้างที่ว่างของเขาล้วงเข้าไปในตระกร้า หยิบลูกอมขึ้นมาห่อนึง
ฟันคม ๆ
ของเขากัดถุงห่อออก ยกขึ้นมา แล้วดันมันเข้าปากเด็กน้อยไปโดยไม่ถามอะไรสักคำ
“... !”
เสียงอู้อี้ของเธอร้องประท้วง
มือเล็กทุบอกแกร่งของเขาอย่างไม่พอใจ แต่นั่นไม่สะเทือนอะไรทั้งสิ้น
“เจ้าก้อนแป้งแบบเธอน่ะชอบของหวานแบบนี้ต่างหาก”
เด็กน้อยพ่นลมหายใจออกจมูกพลางมองด้วยสายตาปลาตายสุดฤทธิ์
ให้ตายสิ...
—ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมขึ้นมาอีกครั้ง จับหัวทุย ๆ
ของเด็กตัวเล็กให้ซบไปบนไหล่เขา ... คุเรฮะเลิกคิ้วใส่เป็นคำถาม
แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือรอยยิ้มมุมปากที่ดูแล้วคล้ายกับ... ใครบางคนรู้จัก
“หลับซะ เดี๋ยวจะพาไปส่ง”
...
สัมผัสที่ปัดผ่านผมหน้าม้าอย่างแผ่วเบาทำให้เปลือกตาค่อย ๆ
ลืมขึ้นเชื่องช้า กลิ่นอายของโคโลญจน์ที่จำได้ไม่ลืมลอยมาแตะจมูก
เด็กน้อยปรือตาขึ้นมาในอ้อมกอดแข็งแรง
“ตื่นแล้ว ๆ ~”
น้ำเสียงดี๊ด๊าเหมือนทุกครั้ง
--- ร่างสูงในชุดองเมียวจิสีสดใสยิ้มแป้นแล้น
ผมสีฮอตพิ้งค์ถูกจัดทรงให้ลู่ลงมาตามกรอบหน้า ฮิโซกะคลอเคลียปลายจมูกกับเหม่งเด็กในอ้อมกอด
“เห็นพวกกอร์นบอกว่าสลีปปี้หายไประหว่างทาง
ฉันมาเจออีกทีนอนหลับปุ๋ยบนม้านั่งริมทางซะงั้น”
เขาทำเป็นยักคิ้วหยอกล้อ
“ดีนะเนี่ยที่ยังไม่มีใครมาหิ้วไป”
คนเพิ่งตื่นกะพริบตาปริบ ๆ
แต่ยังปรือเหมือนตื่นไม่สุด โจ๊กเกอร์หนุ่มลุกขึ้นโดยที่ไม่คิดปล่อยเจ้าเด็กขี้เซาให้ลงเดิน สองขาก้าวยาวสลับสั้นด้วยนิสัยกวน ๆ ของตัวเอง
“อืม~ ระหว่างพาสลีปปี้ไปส่งให้เจ้าสองหมาแมวนั่นกับหิ้วไปเที่ยวกับฉัน
อันไหนน่าสนุกกว่ากันนะ !”
มือขาวซีดยื่นขึ้นมาจับเข้าที่สาบเสื้อตรงอกคนอุ้ม
ดวงตาคมสีแดงเสี้ยวปรือลงแล้วหลับต่อหน้าตาเฉย
“ยังไม่อยากกลับ...”
ฮิโซกะหัวเราะร่า
“โอเค งั้นไปเดทกับฉันสินะ~ !”
ร่างสูงของฮิโซกะฮัมเพลงแล้วพาเจ้าเด็กขี้เซาในอ้อมกอดเดินไปถ้วนทั่ว แม้เด็กมันจะไม่ตื่นขึ้นมาพูดคำว่าทริคออร์ทรีตใส่เขาเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ก็เถอะ --- แต่การที่ยอมหลับปุ๋ยแล้วปล่อยให้เขาพาไปนู่นนี่ตามใจนั่นก็เป็นการทริคที่ไม่เลวเลยล่ะ
ในชั่วขณะนึงคุเรฮะปรือตาขึ้นมา
หัวทุย ๆ ขยับเข้าไปซุกเข้ากับต้นคอของอีกฝ่ายอย่างงัวเงีย
อา...
รสหวานของลูกอมยังติดอยู่ที่ปลายลิ้นอยู่เลย
Talk: ช่วงนี้กิจกรรมเยอะและการสอบไฟนอลกำลังใกล้เข้ามาแล้ว เอาตอนพิเศษฮาโลวีนไปก่อนนะ !
ความคิดเห็น