ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของกระบี่เย้ยภพ

    ลำดับตอนที่ #39 : bm3 ควิน

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 59


    ตรงที่ปรับเข้ากับเนื้อเรื่องผมจะไฮไลท์สี


    โลกจริง

    ชื่อจริง : แก้วกานต์ เทวกุล (กานต์)

    อายุ : 24 ปี

    ชอบ-เกลียด : การผจญภัย, สถานที่ใหม่ๆโบราณสถานสิ่งประดิษฐ์กลุ่มเพื่อน!, เพลงป๊อบ การดูถูกคนอื่นสัตว์หน้าขน(แต่ในเกมไม่แพ้นะ), ของรสชาติขมฝาด

     

    โลกเกม
    (ขออนุญาตยกสีกับคลาสมาไว้ตอนต้นๆ นะคะ ตอนเขียนจะได้โยงสะดวกหน่อยสำหรับเรา)

    ชื่อในเกม : Quinn (ควินน์)

    รูปร่างในเกม :  


    ชายหนุ่มผู้มีเรือนผมยาวตรงสีส้มถักเปียและมัดเป็นวงโดนัทไว้ด้านหลัง โดยผูกริบบิ้นสีน้ำเงินเอาไว้ เครื่องหน้าติดหวานสวยนั้นมักถูกชวนให้เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงรูปร่างเพรียวสูง 170 ซม. ดวงตาสีทองประกายแต่ทว่ามันกลับเป็นแก้วตาที่เป็นทองจริงๆ ผิวสีขาวผ่องและเล็บมือกับเท้าถูกทาด้วยสีเหลือง

    สี : ฟ้า-เหลือง

    คลาส : Reviver

    นิสัย : ควินน์เป็นคนที่มีนิสัยไม่ซับซ้อนมากนักเวลาอยู่ในสังคม เขาซื่อตรงและจริงใจแก่ทุกคนที่อยู่ร่วมด้วย นั่นทำให้ไม่ว่าใครต่อใครก็เชื่อในคำพูดของเขา นอกจากนี้แล้วยังเป็นคนที่ร่าเริงกระตือรือร้นมาก ความสดใสมีชีวิตชีวาแบบคนหนุ่มทำให้บรรยากาศรอบตัวสดชื่นตามไปด้วย รอยยิ้มของเขามักช่วยปลอบประโลมคนที่กำลังหดหู่ เสียงหัวเราะบางครั้งก็ช่วยให้อารมณ์เศร้าหมองคลายลง แถมยังเป็นคนที่ตลกเฮฮา ยิงมุกก็ได้ตบมุกก็ดี จึงไม่แปลกหากควินน์จะเป็นที่รักของคนรอบข้างโดยง่ายดาย แถมยังมีนิสัยไม่มักมากหรือเห็นแก่ตัว ความที่เป็นคนอารมณ์ดีเช่นนี้ผู้คนจึงมองว่าเขาเป็นเหมือนดวงตะวันทอแสง

    อีกประการคือควินน์เป็นคนเก่ง เขาฉลาดและรอบคอบเสมอ ดังนั้นจะไม่มีทางทำอะไรผลีผลาม มีนิสัยสีเหลืองโดยแท้ คือชอบรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา ควินน์ชอบสร้างมากกว่าทำลาย (ชนิดที่ว่าไม่ต่อสู้ หนีเอาไว้ก่อนเสมอ) เขามีความรักในการที่จะเฟ้นหาไอเทมหรือทำมันขึ้นมาโดยสัญญากับตนเองทุกครั้งว่ามันจะต้องออกมาดีไม่แพ้ใคร จากข้างต้นทำให้ควินน์เป็นคนที่อยู่ไม่นิ่ง ช่างสังเกต ช่างสงสัย มักชอบออกแสวงหาสิ่งแปลกใหม่ตลอดเวลา เขาหมกมุ่นกับการตะลุยดันเจี้ยนหรือเรดเพื่อสั่งสมประสบการณ์และค้นหาสิ่งของแปลกตา ถ้าเป็นอะไรที่ไม่เคยมีใครพบมาก่อนจะยิ่งประทับใจมาก แบบว่า นี่มันโคตรสุดยอดไปเลย!” หลังจากนั้น แน่นอน ควินน์ย่อมหาทางที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่พบเห็นอยู่แล้ว แถมยังสรรค์สร้างให้มันมีคุณสมบัติแปลกใหม่ได้อีกด้วย อาชีพสายผู้ใช้วัตถุจึงเข้าตาอย่างจัง ถึงจะเปลี่ยนอาชีพยากแค่ไหน แต่ความมานะพยายามที่สูงเป็นทุนเดิมเขาจงยึดมั่นในสายนี้ แถมควินน์ยังชอบอะไรเก่าๆ อย่างพวกโบราณสถาน เขาหลงใหลมันและมองว่ามันคือสิ่งสวยงาม เพราะสำหรับควินน์แล้วโบราณสถานมักมีกลิ่นอายของความขลังเสมอ 

     เขาเองก็อารมณ์เสียเป็น แค่ถ้าหงุดหงิดจะไม่พูด แต่โกรธจัดแล้วจะมองด้วยสายตายะเยือกพร้อมชูนิ้วกลางให้โดยไม่เอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียว --- วิธีการพูดของควินน์มักจะเป็นกันเอง เขามักแทนตัวเองว่า ฉัน แทนคนอื่นว่า เธอ’ ทั้งหมด แต่บุรุษที่ จะใช้ เขา ไม่ก็เรียกชื่อ น้ำเสียงที่ใช้จะมีความสดใสเจืออยู่ด้วย ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วยกัน เวลาเจออะไรที่ไม่คุ้นจะออกอาการตื่นเต้นทันที ทำให้การพูดเปลี่ยนไปเป็นเร่าร้อน(?)อยากจะสำรวจใจจะขาดแทน  เหมือนเป็นคนคลั่งไอเทมและอาร์ติแฟคคนหนึ่งดีๆ นั่นแหละ (…)


    ความเป็นมาในเกม หรือ วีรกรรม : ในอดีตเคยเป็นสมาชิกของ BM3 สมัยก่อนและยังคงเล่นสายอาชีพ Reviver ไม่เปลี่ยนแปลง การที่เขาได้มาเป็นสมาชิกต้องเท้าความไปถึงครั้งหนึ่งที่เคยไปสำรวจดันเจี้ยนซึ่งตอนนั้นยังเพิ่งเป็น Ruin Finder ใหม่ๆ ขาถูกมอนสเตอร์ในนั้นไล่โจมตียอมรับว่าเลินเล่อมากที่กลถ่มมีไม่กี่คนอีก ด้วยความที่โชคเต็มเปี่ยม(?)เลยยังไม่ตายเอากลางทางแต่เพื่อนๆ บางส่วนกลับจุดเซฟเรียบร้อย เขาหนีหัวซุกหัวซุนจนเจอเข้ากับกลุ่มของอรุณโดยบังเอิญและได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ หลังจากที่ดันเจี้ยนถูกเคลียร์เรียบร้อยเขาก็คิดว่าอรุณมีบุญคุณมากที่ช่วย จึงมอบอาร์ติแฟคที่คิดว่ามีประโยชน์ให้อรุณทั้งหมด หลังจากนั้นเขาก็ปฏิญาณตนว่าจะต้องเลื่อนเป็นผู้เล่นสาย Reviver ที่เก่งคนหนึ่งให้ได้ ควินน์รู้สึกว่ายังตอบแทนน้ำใจของอรุณได้ไม่ทั้งหมด เพราะนอกจากจะช่วยเหลือเขาแล้ว ยังช่วยเพื่อนอีกบางส่วนที่รอดมาด้วยกันอีกต่างหาก(แถมสายอาชีพของเขาก็ดูจะเป็นตัวถ่วงเวลาอยู่ในปาร์ตี้ด้วย นอกจากเพื่อนแล้วก็มีอรุณคนแรกที่ช่วย) เขาจึงขยันขยันแข็งที่จะเป็นนักคืนชีพสมบัติโบราณให้ได้

    เวลาผ่านไปจนควินน์สามารถไต่ได้ถึงระดับที่ต้องการ (เขาได้เรียนรู้ทักษะเกี่ยวกับการช่างเพิ่มอีกด้วย เรียกได้ว่าไม่ค่อยพึ่งพวกBlacksmith อะไรทำนองนั้นมากนัก) เขาปลุกอาร์ติแฟคให้ปลดปล่อยพลังจนได้อาวุธที่ร้ายกาจและทรงพลังยิ่งกว่าของ Reviver คนอื่นๆ ขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ทั้งยังเสริมความสามารถที่ได้จากอักขระโบราณลงไปจนมันกลายเป็นอาวุธที่หายนะมากก็ว่าได้ (เป็นอาวุธที่ดีล้ำที่สุดที่ควินน์สร้าง หลังจากนั้นเขาก็ไม่สร้างอะไรที่ทัดเทียมกับอาวุธชิ้นนี้อีก) ก่อนตัดสินใจตามหาอรุณและมอบให้โดยคิดสิ่งตอบแทนเป็นการขอเข้าร่วม BM3 เพราะควินน์สังเกตมาตลอดเวลามีเหตุการณ์ต่างๆ ในเกมว่าหัวหน้ากิลด์คนนี้ไปทำอะไรไว้บ้าง(?) จนอรุณกลายเป็นคนที่น่ายกย่องนับถือในสายตาของเขามากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นมาควินน์มักทำหน้าที่ปิดทองหลังพระ เส้นทางดันเจี้ยน เรด โบราณสถาน รวมไปถึงอาร์ติแฟคและไอเทมล้ำค่าทั้งหลายในคลังของ BM3 ล้วนมาจากควินน์ที่เป็นต้นโผในการล่าสมบัติที่ดีที่สุดมาให้กิลด์ตนเอง  เขาคัดวัตถุดิบทุกชนิดเพื่อนำมาปลุกให้เป็นสิ่งของเปี่ยมอานุภาพสำหรับสมาชิกกิลด์ที่ออกไปสู้รบโดยเฉพาะคนที่เป็นตัวหลัก(แต่ควินน์เป็นแนวหลัง --- ประมาณว่าหลังมาก เขาจะหมกกับพวกชิ้นของตลอดเว้นแต่มีการเรียกสมาชิกกิลด์ทั้งหมดออกไปสู้การที่รู้จักและสนิทสนมกับสมาชิกในกิลด์ทั้งหลายนั้นทำให้เขาได้รับการยอมรับกว้างขวาง และได้ความสนิทสนมแน่นแฟ้นเสียยิ่งกว่าเพื่อนในโลกจริงบางคนเสียอีก

    ควินน์มอบความภักดีและจริงใจให้กับอรุณมากที่สุดในกิลด์ ดังนั้นเมื่อคัลเลอร์แคลชได้เปิดใหม่อีกครั้ง เขาจึงไม่เข้าร่วมกับ EOS อีกประการคือเขาไม่ชอบใจการปกครองแบบนี้เท่าไหร่ เขาคิดว่าจะใช้ช่วงเวลาของผู้เล่นอิสระไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าอรุณจะกลับมาอีก

    วีรกรรมระหว่างนั้นของควินน์ก็ไม่มีอะไรหวือหวามากมายนัก เขายังคงรักษาปณิธานตนเองได้ดีเยี่ยมเสมอด้วยการเป็น Reviver อันดับต้นของเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ใช่ว่าจะง่ายนัก เขาอาศัยความรู้เดิมในคัลเลอร์แคลชสมัยยังเป็นเกมคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ เริ่มแรกจากการรวมกลุ่มเพื่อนเก็บเลเวล แต่ด้วยนิสัยช่างสังเกต ไม่อยู่นิ่ง และสนใจสิ่งรอบตัวไปเสียหมด ทำให้ควินน์มักพาเพื่อนๆ ไปเจอดันเจี้ยนหรือโบราณสถาน รวมถึงไอเทมหรือเส้นทางที่ถูกซ่อนตามพื้นที่ต่างๆ บ่อยครั้งตาเขาไวพอที่จะจับจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่เห็นว่ามัน 'แปลกๆ' (?) หรือไม่ก็เดินสุ่มมั่วแล้วดวงดี ...) เหตุฉะนี้กลุ่มของควินน์จึงขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มที่ค้นพบดันเจี้ยนกับโบราณสถานในขณะนั้นมากที่สุด ถ้าหากมีใครถามว่าทำได้ยังไง คำตอบก็คือควินน์ (แต่ไม่ใช่กลุ่มที่เคลียร์มากที่สุด เพราะบางที่ก็ความสามารถไม่ถึง แต่ถ้ามีกลุ่มไหนอยากลุยล่ะก็ ควินน์จะขอเข้าร่วมด้วยเพื่อสำรวจนั่นแหละ) แถมเจ้าตัวยังชอบเก็บของมานั่งเกลาจนมีประสิทธิภาพอีกต่างหาก ในส่วนของอาร์ติแฟค ควินน์ยังจำได้แม่นว่าจะหาของดีต้องหาที่ใด ชิ้นไหนปลุกแล้วจะได้ไอเทมที่ประสิทธิภาพสูงและตรงความต้องการของคนในกลุ่ม กระทั่งไอเทมถูกสะสมไว้มากเกิน(...)จึงนำไปขายในตลาด เพราะมีอาร์ติแฟคและของอื่นๆ คุณภาพใช้ได้เป็นจำนวนมาก จึงมีผู้คนสนใจซื้อเรื่อยๆ บางชิ้นเป็นของหายากด้วยซ้ำ เวลามีใครอยากรู้ว่าหามายังไง คนในกลุ่มก็จะบอกว่าให้ไปถามควินน์ --- ดังนั้นผู้ที่ต้องการลุยสถานที่ใหม่ๆ หรือเฟ้นหาของดีๆ จงเริ่มติดต่อกับเขา ทั้งที่ในขณะนั้นเขายังอยู่ที่คลาสสอง

    จนกระทั่งเขาก้าวขึ้นมาเป็น Reviver ควินน์ก็เริ่มใช้ข้อดีของคลาสนี้ทั้งหมดทันที เพราะเป็นผู้เล่นที่มีฝีมือ พรสวรรค์บวกพรแสวง ผนวกความรู้ในด้านอาร์ติแฟคเป็นทุนเดิม เขาเริ่มทดลองคืนชีพอาวุธชั้นเยี่ยมให้เพื่อนในกลุ่มก่อน ด้วยความที่ทีมทยอยมีของดีๆ ใช้มากขึ้น แถมแต่ละคนก็ฝึกตนเองจนเก่งในระดับที่มีคนอื่นชักชวนเข้ากิลด์ นั่นทำให้กลุ่มของควินน์เริ่มทยอยแยกกันไปคนละทาง จากนั้นมาเขาก็ตระเวนไปเรื่อยเปื่อย ร่วมปาร์ตี้กับคนนั้นบ้างนี้บ้าง ไปไหนก็จะเก็บชิ้นส่วนตามที่ต่างๆ ไว้เผื่อใช้วันหน้า จุดที่ทำให้ชื่อเสียงของเขาขจรขจายมากขึ้น(แถมเครดิตดีเป็นทุนเดิม)คือ การที่เขาใช้ชิ้นส่วนที่เก็บรวบรวมมาประกอบกันแล้วคืนชีพ เพราะเก็บสะสมจนแทบล้นช่องเก็บจงสามารถทำออกมาได้มาก หลังจากนั้นก็ลองเอาไปขาย(แค่ทำเหมือนเดิมตอนอยู่คลาสสอง) เวลามีคนซื้อแน่นอนว่าให้ตรวจสอบไอเทมเสมอ ซึ่งพบว่าความสามารถของแต่ละชิ้นเทียบเท่าไอเทมเกรดสูง เผลอๆ บางชิ้นดีกว่าด้วยซ้ำ ผู้คนจึงทยอยให้ความสนใจ และพบว่ามาจากการรังสรรค์ของเขาล้วนๆ --- เลยเริ่มมีคนซื้ออาร์ติแฟคและไอเทมต่างๆ จากเขาเยอะขึ้น หรือกระทั่งจ้างเขาคืนชีพอุปกรณ์ในแบบที่ต้องการให้ อันนี้ควินน์ไม่รับปากเท่าไหร่ ถ้าเขาทำได้ก็จะทำให้(แน่นอนว่าต้องจ่าย) บางครั้งอาจได้ไอเทมที่ไม่เป๊ะตามความต้องการนักแต่ใช้แทนกันได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าควินน์คิดว่าสิ่งที่ต้องการมันเป็นของที่ดูอุดมคติเกินไปก็จะไม่รับ บางคราวถ้าอยากได้ของอานุภาพสูงจริงๆ จะขอให้ควินน์ใช้อักขระโบราณในการเสริมประสิทธิภาพด้วยซ้ำ(ซึ่งก็ต้องจ่ายแพงขึ้นตามค่าเหนื่อย) ซึ่งโดยมากแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ คุ้มค่า ควินน์ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างและใส่ใจลูกค้าเสมอ ทุกคนพอใจและให้ความไว้วางใจอย่างมาก จนมีการพูดต่อกันว่า 'ถ้าจะหาของดีๆ ลองไปติดต่อควินน์ดูสิ' ... แถมควินน์มีลูกค้าประจำไม่น้อย ตอนนี้เขาก็มีเงินทุนมากพอที่จะใช้ค้นหาวัตถุชั้นยอดต่อไปได้เรื่อยๆ

    ถ้าสรุปรวบยอดก็คือ ด้วยความที่ตนเองก็มีความสามารถสูงในการคืนชีพอุปกรณ์ในแบบที่ต้องการ(มีพลาดบ้าง เพราะผลทุกอย่างไม่ 100% เสมอไป) บวกกับมีขายไอเทมกับอาร์ติแฟคเกรดดีๆ เยอะ และเก่งในเรื่องหาไอเทมกับเส้นทางลับ ควินน์รู้การตลาดและอุปสงค์อุปทาน พร้อมรู้จักสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคง ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันเขาให้มีชื่อเสียง ดังนั้นตำแหน่งนี้ของควินน์ได้มาจากการค้ากับการสำรวจ ไม่ใช่การต่อสู้เลย ทุกอย่างเกิดจากความทุ่มเทในสิ่งที่ถนัดล้วนๆ

    นอกจากนี้เขามักสนิทกับพวกโคโค่มาร์เก็ทกับหยางหลง ถึงกับเคยถูกทาบทามแต่แน่นอนว่าปฏิเสธไป แต่ควินน์ให้ความช่วยเหลือทั้งสองกิลด์นี้ในเรื่องไอเทมบ้างเป็นบางคราว

    แต่จะมีเรื่องหนึ่งที่ควินน์คิดว่าพีสุดตั้งแต่เล่นคัลเลอร์แคลชมา เขาเคยค้นพบเส้นทางลับบริเวณโบราณสถานแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ มันเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยัง 'หุบเขามังกร' (ควินตั้งชื่อเอง ชื่อจริงตรวจสอบไม่ได้) ซึ่งเป็นสถานที่ลึกลับ ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน พื้นที่แถบนั้นเป็นภูมิประเทศ 6 แบบ ตามสีทั้งหกเรียงอยู่ติดกันเป็นวงกลม ใจกลางคือท้องทุ่งซึ่งควินเดินมาถึง แต่ละแห่งจะมีวิหารโบราณซึ่งเป็นดันเจี้ยนในตัวของมันเองอีกด้วย โดยวิหารของแต่ละสีมีเทวรูปเทพแห่งสีสันแต่ละองค์เหมือนในโบสถ์ของคลาสนักบวชสาวก ควินน์ตั้งใจจะลองสำรวจดู  ทว่าเขายังไม่ทันทำอะไรเลยก็มีมังกร 6 ตัวปรากฏกายขึ้นมาออกมาจากใจกลางวิหารทั้งหกแห่ง ดูเหมือนหุบเขามังกรคือที่อยู่อาศัยของมังกรเหล่านี้ โดยอาจมีท้องทุ่งเป็นจุดรวมตัว มังกรทั้งหกสังเกตเห็นควินน์ แต่พวกมันกลับไม่ทำอะไร เขาสังเกตได้ว่าทุกตัวมีสติปัญญาเหนือมอนสเตอร์อื่นๆ มาก เหนืออื่นใดคือพวกมันทุกตัวพูดได้! ควินน์รู้จากการที่เหล่ามังกรกำลังคุยกันว่าจะทำยังไงกับเขา ด้วยความที่เห็นว่ามนุษย์ตัวจ้อยนี่ไม่ได้ทำอันตรายใดๆ เลยปล่อยไป

    แต่เลือดนักสำรวจมันไม่ได้หายกันง่ายๆ นี่สิ เขาคิดว่าที่นั่นต้องมีอะไรมากกว่านั้แน่นอน ควินน์ได้กลับไปยังหุบเขามังกรอีกครั้ง เขาประกาศเจตนาชัดเจนว่าอยากสำรวจที่นี่โดยให้สัญญาว่าจะไม่ทำความเสียหาย รวมไปถึงอยากเป็น 'เพื่อน' กับมังกรเหล่านั้น หลังจากนั้นควินน์ก็เริ่มมายังหุบเขามังกรถี่ขึ้น โดยพกเรื่องเล่าที่ไปพบเจอมา มีหลากหลายรูปแบบ เหมือนเล่านิยายสักเรื่องให้พวกนั้นฟัง เขาเริ่มต้นด้วยการผูกมิตรกับมังกรทีละตัวอย่างใจเย็นค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะสำเร็จ และทำให้เขาได้รู้เรื่องเกี่ยวกับหุบเขามังกรขึ้นมานิดนึง

    หุบเขามังกรเป็นสถานที่ประหลาด เพราะเป็นพื้นที่ดันเจียนซ้อนดันเจียน แต่ไม่มีมอนสเตอร์อื่นๆอยู่เลย เขาพยายามตรวจสอบแล้วก็ยังไม่สามารถระบุได้ ขนาดจะตรวจสอบข้อมูลของมังกรแต่ละตัว กรอบข้อมูลก็แสดงเพียงแค่ชื่อและสีเท่านั้น

    แต่แล้วควินน์ก็มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมวิหาร อันเป้นที่อยู่ของมังกรทุกตัว หลังจากเคลียร์ได้ด้วยความลำบาก (ไม่มีมอนสเตอร์ศัตรู แต่เป็นกลไกพัซเซิ่ลล้วนๆ) เขาพบว่าภายในนั้นอุดมด้วยไอเทมชั้นเลิศกับอาร์ติแฟคจำนวนมากมาย พอรวมกัน 6 ถ้ำแล้วนับเป็นมหาขุมทรัพย์เลยก็ว่าได้ แล้วพวกมันก็อนุญาตให้เขานำออกไปใช้ตามสบาย --- แต่ว่าสิ่งที่ควินน์ให้ความสนใจสูงสุดเลยก็คืออักขระโบราณข้างในนั้น ดูเหมือนแต่ละถ้ำจะสลักข้อความต่างกันออกไป แล้วควินน์ก็รู้ว่าต้องเอาเนื้อความทั้งหมดมาต่อร้อยเรียงกันเหมือนเป็นจิ๊กซอว์ อักขระเหล่านี้อ่านยากมากจนควินน์ต้องทุ่มเวลาแทบทั้งหมดในการจมอยู่กับการแกะคำแปล ทำให้เขาหายหน้าหายตาจากสังคมไปเป็นเดือน ... จนกระทั่งเนื้อความบางส่วนถูกแปลได้ ควินน์คิดว่าการใช้รูปแบบคำเหมือนจะเป็นคำพยากรณ์มากกว่า ตอนนั้นถึงอ่านออกก็ไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี จนกระทั่งคัลเลอร์แคลชอัปเดตแพทช์ล่าสุดนั่นแหละ

    มันเป็นคำพยากรณ์เกี่ยวกับผู้รุกรานไร้สี สตาร์เกท จักรพรรดิสีซีดที่จะเปิดฉากสงครามใหญ่ และโดยบทเกี่ยวกับมังกรทั้งหกถูกกล่าวขานในนาม 'ผู้พิทักษ์แห่งสีสัน' โดยเมื่อถึงเวลา เหล่ามังกรจะออกจากหุบเขาและไปช่วยผู้เล่นในการต่อสู้ แล้วในวาระสุดท้ายจะมีการสังเวยตัวเองเพื่อมอบพลังสีทั้งหมดกระจายให้กับผู้เล่นที่เหมาะสม รายละเอียดที่เหลือเกี่ยวกับมังกรแต่ละตัวหรือศัตรูไร้สีเหล่านั้นยังแกะได้ไม่ดีพอที่จะสามารถประติดประต่อเพิ่มเติม ควินน์ต้องการเนื้อความที่เหลือทั้งหมด เผื่อจะเป็นกุญแจอะไรได้บ้าง แต่เขาก็ไม่ไว้ใจใคร

    จนปัจจุบันควินน์ยังคงปิดปากเงียบเรื่องนี้ไว้และพยายามแปลอักขระโบราณต่อไป เ จนกระทั่งการปรากฏตัวของอรุณ ข่าวคราวเกี่ยวกับการปรากฏตัวของหัวหน้ากิลด์ BM3 คนนี้แพร่สะพัดทั่วคัลเลอร์แคลช ควินน์ดีใจมาก เขาตั้งใจที่จะตามหาอรุณ ตัดสินใจว่าถ้ามีโอกาสจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง รวมถึงจะพาไปยังหุบเขามังกรด้วย ต่อให้อรุณจะไร้สี แต่ควินน์ก็เชื่อว่ายังไงคนๆ นี้คงไม่อยู่กับฝ่ายนั้น ... ล่ะมั้งนะ และบางทีอรุณคงเป็นกุญแจสำคัญก็ได้ เผื่อผู้สังกัดไร้สีไปหุบเขามังกรอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร? (และเหล่ามังกรไม่น่าจะเขม่น --- หวังว่าอย่างนั้น) ในระหว่างการเดินทางไปพบ ควินน์ก็ได้สร้างอาร์ติแฟคสำหรับอรุณไว้ชิ้นหนึ่ง เอาไว้เซอร์ไพรส์(?)

    ระดับนักผจญภัย : 94

    อุปกรณ์ : 
    Voyager’s Attire (เกรด 3) – ชุดเซทของนักผจญภัยแห่งยุดอารยะรรมที่สาบสูญ เพิ่มพลังเวทสูงสุด และพลังสีของผู้ใช้ให้สูงขึ้น 40% ซึ่งตัวชุดจะเปลี่ยนลวดลายและสีตามผู้สวมใส่(ชุดของควินน์เลยเป็นสีฟ้า-เหลืองแบบในภาพตัวเนื้อผ้าเบาสบายเหมาะสำหรับการเคลื่อนไหว ช่วยเพิ่มความเร็วและโชค25% แก่ผู้ใช้ ความสามารถแฝงคือ ถ้าหากผู้ใช้มีการค้นพบพื้นที่ใหม่ จะมีอัตราการดรอปหรือพบไอเทมที่แปลกใหม่เพิ่มขึ้น 10% อีกด้วย
    Lintier Crossbow (เกรด 4) – หน้าไม้สีเงินยวงน้ำหนักเบาที่เป็นอาวุธอาร์ติแฟค เหมือนกับอันย่า มันไม่จำเป็นต้องใช้ลูกดอกจริงเลย มีแค่ต้องรอเวลาชาร์จยิงลูกกระสุนแต่ละลูก พร้อมจ่ายพลังเวทจำนวนหนึ่งเท่านั้น  ตามใจต้องการ หลังจากควินคืนชีพมันจนสมบูรณ์ หน้าไม้นี้สามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้ใช้ 
    ลูกดอกสามารถโจมตีได้ทั้งรูปแบบกายภาพและเวทมนตร์ มีระบบโค้งนำวิถี และระบบยิงติดต่อกันหลาลุกแลกกับเวลาชาร์จกระสุนที่นานขึ้น

    Monster Horn (เกรด 3) – เขาสัตว์ซึ่งถูกประดับด้วยทับทิมและสร้อยทองเส้นบาง ช่วยให้มอนสเตอร์ประเภท สัตว์บก และสัตว์ปีกที่มองเห็นลดความดุร้ายลงครึ่งหนึ่ง  
    Amber Droplets (เกรด 4) – หยดอำพันที่มีรูปร่างกลมคล้ายลูกแก้วบรรจุ อาร์ติแฟคหายากอีกชิ้น ภายในบรรจุดอกไม้เอาไว้เพื่อความสวยงาม ความสามารถของมันคือเมื่อถูกบดขยี้ให้เป็นละอองแล้วโปรยเข้าไปในถ้ำ เศษเหล่านั้นจะเริ่มล่องลอยและทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวสำรวจพื้นที่โดยรวมทันทีโดยไม่ถูกตรวจจับได้  ระหว่างใช้นั้นดวงตาของควินจะเปล่งประกายดั่งมีแก้วตาทองคำ เขาจะมองไม่เห็นสิ่งใดเลย นอกจากเส้นทางที่ละอองอำพันปลิวไปถึง

    เขี้ยวแก้วมังกร (เกรด ?) – เขี้ยว ชิ้นที่ได้จากมังกร สี(สีละชิ้นดูเหมือนจะเป็นอาร์ติแฟคชั้นสูงและพลังมหาศาล แต่ยังไม่ได้ถูกปลดปล่อยพลังสักชิ้น
     แหวนกันสายฟ้า (ชื่อชั่วคราว เทียบได้กับเกรด 4 ) – อาร์ติแฟคที่ทำไว้เพื่ออรุณอย่างภาคภูมิใจ เพราะได้ยินว่าอรุณถูกซิกตี้หมายหัวเป็นศัตรูและจ้องจะกำจัด เลยลองนึกหาอาร์ติแฟคที่มีคุณสมับัติกันสายฟ้ารวมกันปลุกชีพของท่คิดว่าอรุณจะสวมใส่หรือพกพาได้อย่างสะดวก และสุดท้ายก็ได้แหวน ภายนอกเหมือนเป็นแหวนหินธรรมดาสลักชื่อว่า เอรอน เหมือนอาร์ติแฟคทั่วไป แต่มันมีคุณสมบัติป้องกันดาเมจจากสายฟ้าไม่ว่าจะสีอะไรได้ถึง 70% รวมถึงป้องกันสถานะเหน็บชาโดยสมบูรณ์อีกด้วย (คูลดาวน์การป้องกันหนึ่งวัน)

    ทักษะ :  ผมขอแก้เยอะเลยนะ
    Passive Skills

    Glance Throughทักษะคลาส เมื่อพบอาร์ติแฟคจะสามารถตรวจสอบความสามารถได้ในทันที ไม่เพียงแค่ผิวเผินแบบการตรวจสอบทั่วไป แต่จะรู้ถึงความสามารถทุกอย่างที่แฝงอยู่ในตัวไอเทมซึ่งไม่ถูกเปิดเผยได้อีกด้วย เรียกว่าสแกนจนหมดจดชนิดซ่อนไว้ลึกตื้นแค่ไหนก็ไม่พ้น 

    Speed Snitch - ทักษะสี หากใช้ทักษะสีหรือโจมตีโดนศัตรู จะลักลอบขโมยความเร็วการเคลื่อนที่ และมานาของเป้าหมาย 2% จากทั้งหมด

    Active Skills

    Backup Plan : ทักษะคลาสสอง มาร์กตำแหน่งที่ตัวเองอยู่ล่าสุดเอาไว้ หลังจากนั้นถ้าเรียกใช้สกิลอีกครั้ง จะทำการดึงผู้ใช้กลับไปยังจุดที่มาร์กเอาไว้ โดยไม่รับความเสียหายใดๆ เป็นสกิลสำหรับรองรับความเสี่ยงในการต่อสู้หรือสำรวจ   
    Trade wind – ทักษะสี สลับที่กับเป้าหมาย ปล่อยสายลมไปทางด้านหน้า เมื่อโดนศัตรูคนแรกจะทำการสลับที่กับเป้าหมาย และเพิ่มความเร็วให้กับควิน 30% เป็นระยะเวลาเท่ากับก่อนที่ลมจะพัดไปโดน คูลดาวน์ 7 วินาที สายลมนี้หากพัดไปโดนด้านหลังยานพาหนะ จะเร่งความเร็วให้เล็กน้อยด้วย
    Spider Sense - ทักษะสี ปล่อยเส้นใยพลังเวทที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าออกไปรอบตัว หากเส้นใยที่ยิงออกไปสัมผัสกับสิ่งที่เคลื่อนไหวซึ่งไม่ใช่พันธมิตร ควินจะได้รับคำเตือนเป็นกระแสไฟฟ้าเบาบางแล่นวูบผ่านร่างมาตามทิศทางนั้น พร้อมได้รับความเร้วในการเคลื่อนที่ปานกลาง ใช้พลังเวทเล็กน้อยและมีคูลดาวน์เพียงหนึ่งวินาที หากเส้นใยขาดคูลดาวน์เพิ่มเป็น 1 นาที 
    Ultimate Skill
    Lintieryanen – (ชื่อเต็มคือ Norne A Lintieryanen) เป็นท่าไม้ตายอาวุธ โจมตีบริเวณกว้างด้วยการกราดยิงเป็นรูปโคนไปด้านหน้า ให้ลูกดอกฝังอยู่บนร่างฝ่ายตรงข้าม ลูกดอกทุกลูกจะเริ่มแตกแขนงกลายเป็นตาข่ายเชื่อมหากันตรึงพวกศัตรูไว้เป็นหมู่จนขยับไม่ได้ วินาที(เหมือนตะกร้ออัดมนุษย์ไว้ข้างใน) ระหว่างนั้นก็จะอัดลูกดอกโจมตีไปเรื่อยๆ แต่ทักษะนี้มีผลร่วมกับ Speed Snitch นั่นทำให้ยิ่งปล่อยให้โจมตีเข้าเป้ามากเท่าไหร่ ผ่านไปเป็นเวลานานขึ้นความเร็วในการเคลื่อนที่จะสูงขึ้นจนยากจะจับตัว และได้พลังเวทซึ่งนำไปเปลี่ยนเป็นลูกดอกกลับคืนมาส่วนหนึ่ง (หากศัตรุเป้นพวกสีฟ้าหรือดำ ก้ได้มานาคืนมาเยอะหน่อย)


    ตอบคำถามโดยตัวละคร 

    1. คิดอย่างไรกับระบบการแข่งขัน ที่ทำให้เกิดสงครามและการแก่งแย่งในเกมแทบตลอดเวลา

    ตอบ ควินน์ไหวไหล่ เป็นเรื่องปกติ แต่ฉันไม่ค่อยยุ่งกับพวกนี้เท่าไหร่” เขาว่าพลางเว้นช่วงเพื่อนึก ถ้าถามว่าคิดยังไง อืมมม ... มันก็เป็นอะไรที่มีข้อดีข้อเสียล่ะนะ ฉันบอกไม่ถูกแฮะ เอาเป็นว่าระบบนี้ทำให้เห็นตัวตนของหลายๆ คนได้ก็แล้วกันว่าเป็นยังไงในสถานการณ์แนวๆ นี้ บางคนนี่พลิกบุคลิกไปเลยก็มี เนอะ?

    2. เป็นสมาชิกเก่าของ BM3 สมัยก่อนเหรอถึงได้มาร่วมกิลด์ รึว่ามาด้วยเหตุผลอื่น

    ตอบ “อาฮะ” ชายหนุ่มพยักหน้า เขาคลี่ยิ้มกว้างและสดใส ฉันเป็นสมาชิกเก่ามาก่อน ดังนั้นก็คงไม่ต้องถามเหตุผลอะไรมากว่าทำไมถึงอยากจะเข้าร่วมอีกครั้ง

    3. สีไหนที่คุณชอบและไม่ชอบ

    ตอบ ควินน์มีสีหน้าครุ่นคิดรอบสอง เอ ... ไม่ล่ะ ฉันโอเคกับทุกสี

    4. คิดยังไงกับอรุณ หัวหน้ากิลด์ของคุณ

    ตอบ “เขาเป็นคนเก่ง” ควินน์ตอบพลางหัวเราะเบาๆ เป็นคนที่น่านับถือที่สุดของฉัน ฉันมั่นใจมากว่าเขาเป็นหัวหน้ากิลด์ที่ดี และจะเป็นตลอดไป” ชายหนุ่มประสานมือบนตักด้วยท่วงท่าสบายๆ อันที่จริงถ้าให้บรรยายความรู้สึกคงยาว แต่รู้ไหม ตอนนี้ฉันอยากเจอเขาจะแย่อยู่แล้ว!” ดวงตาสีทองทอประกาย เขาไม่ได้พบคนๆ นี้อีกเลยตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ปิดไปในตอนนั้น --- อรุณจะเป็นยังไงบ้างแล้วนะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×