คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : บทที่ 12 : คริสมาสต์ที่แสนเยือกเย็น
บทที่ 12 : คริสมาสต์ที่แสนเยือกเย็น
“เขาต้องล้อเล่นแน่”
เฮเลนสะดุ้งตื่นขึ้นในวันต่อมาเพราะเสียงโอดครวญของรอน
ถุงเท้าบวมโป่งที่ปลายเตียงบ่งบอกได้ว่ามีของขวัญวันคริสมาสต์จำนวนมากอัดอยู่ข้างในนั้น
หน้าต่างบานเล็กถูกหิมะบดบังจนเกือบมิด
เฮเลนมองไปยังรอนที่นั่งอยู่บนเตียงข้างหน้าต่าง
กำลังพิจารณาของที่ดูเหมือนสร้อยทองเส้นหนา
“นั่นอะไรน่ะ”
แฮร์รี่เอ่ยถามขึ้นในขณะที่กำลังสวมแว่นตา
“มาจากลาเวนเดอร์” รอนตอบ น้ำเสียงดูขยะแขยงพิกล “เขาคงไม่คิดจริงๆ หรอกนะว่าฉันจะยอมใส่ไอ้นี่น่ะ” เฮเลนไม่ได้สนใจของชิ้นนั้นนักเมื่อรู้ว่ามันมาจากลาเวนเดอร์ รอนยัดสร้อยเข้าไปในหมอนให้พ้นสายตา
“ฉันพูดจริงๆ
นะว่าเราไม่ค่อยได้คุยกันหรอก” รอนบอก “ส่วนใหญ่ก็...”
“จูบกัน”
เฮเลนเติมคำในช่องว่างให้หลังจากที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้ว
“เออใช่!”
รอนทำหน้าเบี้ยว “แล้วเฮอร์ไมโอนี่คบกับแม็คล้ากเก้นจริงๆ เหรอเฮเลน”
“ไม่รู้”
เธอยักไหล่ ปรายตามองไปยังแฮร์รี่
“เขาไปงานเลี้ยงของซลักฮอร์นด้วยกัน แต่ฉันไม่คิดว่าเข้ากันได้หรอก” แฮร์รี่ตอบ รอนดูร่าเริงขึ้นอีกหลังจากที่เริ่มคุ้ยของขวัญจากถุงเท้าของตัวเอง ของขวัญของเฮเลนประกอบด้วยเสื้อกันหนาวถักฝีมือนางวีสลีย์ ผลิตภัณฑ์ร้านเกมกลวิเศษวีสลีย์กล่องใหญ่จากฝาแฝด ห่อของชื้นๆ เหม็นอับหน่อยๆ และกล่องรูปทรงสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีแดงสดมีป้ายติดเอาไว้
เฮเลนหยิบห่ออับๆ
ขึ้นมาก่อน มันมีป้ายห้อยเอาไว้ว่า ‘แด่เจ้านาย จากครีเชอร์’
“แฮร์รี่
นายคิดว่ามันจะปลอดภัยไหม” เฮเลนถามในขณะที่แฮร์รี่ก็ได้ห่อของแบบเดียวกัน
“ไม่รู้สิ
แต่ไปรษณีย์ทั้งหมดต้องส่งให้กระทรวงตรวจนะ” แฮร์รี่ตอบ
จับตามองห่อของอย่างไม่ไว้ใจ
“จะว่าไปก็ยังไม่ได้ให้อะไรกับครีเชอร์เลย”
เฮเลนว่าพลางหันไปมองแฮร์รี่
“ปกติแล้วพวกนายให้ของขวัญคริสมาสต์เอลฟ์ประจำบ้านด้วยรึเปล่า”
แฮร์รี่ถามรอน
“เฮอร์ไมโอนี่ก็คงให้นั่นแหละ
เหมือนปีที่แล้ว!” รอนตอบ “แต่เปิดดูก่อนจะรู้สึกผิดจะดีกว่า”
เฮเลนส่งห่อของตัวเองไปให้แฮร์รี่เปิดด้วย
ทั้งสองก็ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
แฮร์รี่กระเด้งตัวจากเตียงผ้าใบเพราะห่อของนั้นบรรจุหนอนจะนวนมากเอาไว้
“ตลกมาก!”
เฮเลนว่า
“ช่างคิด”
รอนพูด หัวเราะเสียงก้อง
“ยังไงมันก็ดีกว่าได้สร้อยนั่นล่ะ”
แฮร์รี่ตอบ ทำเอารอนเงียบเสียงลงไปทันที
แฮร์รี่และรอนลงไปข้างล่างทันทีเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ
เฮเลนเปลี่ยนชุดไปสวมเสื้อกันหนาวของนางวีสลีย์และหันกลับมาสนใจห่อของเล็กๆ
ที่มีเพียงป้ายเขียนเอาไว้ว่า ‘ทดแทน’ เท่านั้น
มือเล็กค่อยๆ เลื่อนเปิดกล่องออก ช้าๆ แหวนวงเล็กถูกห่อเอาไว้ด้วยผ้ากำมะหยี่สีม่วงถูกใส่เอาไว้ในนั้น
เฮเลนสัมผัสได้ว่ามันไม่ได้มีคำสาปอะไรถูกร่ายเอาไว้จึงหยิบมันขึ้นมาสำรวจลักษณะโดยรอบ
มีตัวอักษรตัวเล็กถูกสลักเอาไว้ด้านในของแหวนคือ ‘DH’
เธอพยายามสะบัดหัวไล่ความคิดว่ามันอาจจะเป็นตัวย่อของ
‘เดรโก เฮเลน’ ก็ได้
แต่ว่าในเมื่อเขาไล่เธอขนาดนั้นจะส่งของแบบนี้มาให้ทำไม
เฮเลนสวมมันเอาไว้ที่นิ้วกลางซ้ายก่อนจะลงไปรับประทานอาหารกลางวันคริสมาสต์พร้อมกับครอบครัววีสลีย์และแฮร์รี่
ทุกคนในห้องทานอาหารตกใจมากเมื่อเพอร์ซี่กลับมาที่บ้านพร้อมกับรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์
เขาเปิดประตูเข้ามาด้านในบ้าน
เกิดความเงียบอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
“สุขสันต์วันคริสมาสต์ครับแม่”
“โอ เพอร์ซี่!”
นางวีสลีย์ร้องแล้วโถมตัวเข้าไปกอดเขา
รูฟัส
สคริมเจอร์ยืนนิ่งอยู่ที่ช่องประตู
เขายืนพิงไม้เท้าและยิ้มขณะที่มองฉากน่าจับใจนี้
“ต้องขออภัยที่บุกรุกเข้ามาแบบนี้”
เขาเอ่ยเมื่อนางวีสลีย์หันไปมอง “เพอร์ซี่กับผมแวะมาทำงานแถวๆ นี้
แล้วเขาก็ยั้งใจไม่ไหวต้องขอแวะมาหาพวกคุณสักหน่อย”
เฮเลนเห็นว่าเพอร์ซี่ไม่ได้แสดงอาการอยากทักทายสามชิกที่เหลือในครอบครัวเลยสักนิด
เขายืนนิ่งเหมือนเหล็กเขี่ยไฟ ท่าทางเจื่อนๆ มองข้ามหัวทุกๆ คน
“ผมไม่รบกวน
ผมคงไม่ได้มาที่นี่เลยถ้าเพอร์ซี่ไม่อยากมาเจอพวกคุณ”
“โอ
เพอร์ซี่!” นางวีสลีย์ร้องพลางยืดตัวขึ้นไปจูบลูกชาย
“เราอยู่ได้แค่ห้านาที
เพราะฉะนั้นผมว่าผมจะไปเดินเล่นรอบๆ เสียหน่อย
จะพอมีใครช่วยพาผมดูสวนที่สวยงามของคุณได้บ้าง... อา! แฝดสองคนที่กินเสร็จแล้วนั่น
น่าจะมาเดินกับผมหน่อยนะ”
บรรยากาศรอบโต๊ะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
ทุกคนมองดูสคริมเจอร์แล้วหันมามองเฮเลนและแฮร์รี่
ดูเหมือนว่าการเล่นละครของสคริมเจอร์จะแย่ไปหน่อย
ไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทั้งสองคนถูกเจาะจงให้ไปเดินเล่นรอบสวนกับรัฐมนตรี
ในเมื่อจินนี่ เฟลอร์และจอร์จก็มีจานเปล่าอยู่ตรงหน้าเช่นกัน
“ได้ครับ”
แฮร์รี่พูดแหวกความเงียบขึ้นมาพลางดึงมือเฮเลนให้ลุกขึ้นยืน
ทั้งสองเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร
“วิเศษมาก!”
สคริมเจอร์ว่า “เราจะเดินรอบสวนกันสักรอบหนึ่ง แล้วผมกับเพอร์ซี่ก็จะไป
เชิญทุกคนตามสบายครับ!”
แฮร์รี่พาเฮเลนเดินตัดลานไปทางสวนของพวกวีสลีย์ที่รกเรื้อและปกคลุมด้วยหิมะหนา
สคริมเจอร์เดินกะโผลกกะเผลกตามทั้งคู่มา
เฮเลนมองดูนายกรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์นิดหน่อย
เขาดูบึกบึนและเต็มไปด้วยรอยแผลจากการต่อสู้ แตกต่างจากฟัดจ์โดยสิ้นเชิง
“มันสวยงามมากนะ”
สคริมเจอร์เอ่ย เขาหยุดตรงหน้ารั้วของสวนที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ
เฮเลนแอบสงสัยในใจว่าเขาสามารถแยกประเภทของต้นไม้พวกนั้นได้ยังไง “มันมีเสน่ห์มาก”
ไม่มีใครตอบอะไร
เฮเลนรู้สึกว่าสคริมเจอร์กำลังจับตามองเธออยู่
“ฉันอยากพบพวกเธอมานานแล้ว”
เขากล่าวหลังจากนั้นสักครู่ “รู้รึเปล่า”
“ไม่ทราบเลยครับ”
แฮร์รี่ตอบต่างจากเฮเลนที่ยังคงเงียบ
“จริงๆ
ฉันอยากพบมานานมาก แต่ดัมเบิลดอร์คอยห้ามฉันเสียเหลือเกิน” สคริมเจอร์บอก “ก็เป็นเรื่องธรรมดา
แน่ล่ะธรรมดามาก หลังจากที่พวกเธอต้องผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างมา โดยเฉพาะที่กระทรวง”
เฮเลนกำมือซ้ายที่เริ่มรู้สึกปวดเมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์วันนั้น
“ฉันหวังว่าจะมีโอกาสได้พูดกับพวกเธอตั้งแต่ตอนรับตำแหน่ง
แต่ดัมเบิลดอร์กันฉันเอาไว้”
ยังคงไม่มีใครตอบอะไร
“ข่าวลือสะพัดไปทั่ว”
สคริมเจอร์พูด “นั่นแหละนะ ใช่สิ!
เราทั้งคู่รู้ดีว่าเรื่องพวกนี้มันบิดเบือนไปขนาดไหน เรื่องที่พวกเธอเป็น ‘คนที่ถูกเลือก’ นั่นไง”
ใกล้จะเข้าเรื่องแล้วสิ
สาเหตุที่สคริมเจอร์มาที่นี่
“ฉันคิดว่าดัมเบิลดอร์คุยกับพวกเธอแล้วใช่ไหม”
เฮเลนกำลังจะส่ายหน้าแต่แฮร์รี่กระตุกแขนเสื้อเธอเอาไว้และเขาก็เป็นคนที่พูดออกไป
“ใช่ครับ
เราคุยกันเรื่องนั้น”
“งั้นเหรอ”
สคริมเจอร์หรี่ตามองทั้งคู่ เฮเลนแกล้งทำเป็นสนใจโนมที่โผล่หัวขึ้นมาใต้ต้นโรโดเดนดรอน
“แล้วดัมเบิลดอร์บอกอะไรพวกเธอ”
“ขอโทษด้วยครับ
มันเป็นเรื่องของพวกเรา” แฮร์รี่ตอบ
เฮเลนรู้สึกว่าเขาพยายามทำเสียงให้ดูสุภาพมากที่สุดแต่มันช่างขัดกับประโยคที่เขาพูดขึ้นมามากเลย
“แน่ล่ะ!
ถ้านั่นเป็นเรื่องลับ ฉันก็ไม่อยากให้เธอเปิดเผยหรอก ไม่เลย... แล้วอีกอย่าง
มันสำคัญด้วยเหรอว่าพวกเธอจะถูกเลือกหรือเปล่า”
แบบนั้นก็ไม่ต้องถาม!
เฮเลนแอบคิดเงียบๆ
อยากจะพูดออกไปบ้างแต่ดูเหมือนแฮร์รี่จะไม่ต้องการให้เธอพูดอะไรในตอนนี้
“ผมไม่เข้าใจว่าท่านหมายความว่าไง
ท่านรัฐมนตรี”
“อ๋อแน่ล่ะ
สำหรับเธอมันต้องสำคัญมาก” สคริมเจอร์พูดพร้อมหัวเรา “แต่สำหรับชุมชนผู้วิเศษทั้งหลายมันขึ้นอยู่กับการรับรู้จริงไหม
สิ่งที่ผู้คนเชื่อนั่นแหละสำคัญ”
แฮร์รี่ไม่ตอบอะไร
เฮเลนยังคงมองโนมที่อยู่ใต้ต้นโรโดเดนดรอนขุดหาหนอนตรงรากของมัน
“ผู้คนเชื่อว่าพวกเธอเป็นคนที่ถูกเลือก
ก็รู้นี่” เขาพูดต่อ “พวกเขาคิดว่าพวกเธอเป็นวีรบุรุษหรือวีรสตรีเลยทีเดียว แน่ล่ะ!
พวกเธอเป็นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะถูกเลือกหรือไม่ก็ตาม กี่ครั้งกี่หนแล้วล่ะที่พวกเธอต้องเผชิญหน้ากับคนที่ไม่ควรเอ่ยชื่อ”
“ประเด็นคือพวกเธอเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังสำหรับคนจำนวนมาก
พอตเตอร์ ความคิดที่ว่าจะมีใคร จากที่ไหนสักแห่ง
ใครที่สามารถหรืออาจถึงกับได้รับลิขิตมาให้ทำลายคนที่ไม่ควรเอ่ยชื่อ ก็ธรรมดานะ!
ความรู้สึกนี้ทำให้ผู้คนกระปรี้กระเปร่า!”
สคริมเจอร์ยังคงรุกต่อไป “และฉันก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าในเมื่อรู้อย่างนี้ พวกเธอก็น่าจะคิดว่ามัน
เอ่อ... เป็นหน้าที่ของพวกเธอที่จะต้องยืนหยัดอยู่ข้างกระทรวงและทำให้ทุกคนรู้สึกมั่นใจ”
โนมจับหนอนได้
ตอนนี้มันกำลังใช้แรงดึงเพื่อให้หนอนหลุดออกมาจากพื้นดินแข็งๆ
“ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าท่านต้องการอะไร”
แฮร์รี่พูดช้าๆ “คำว่า ‘ยืนหยัดอยู่ข้างกระทรวง’ หมายความว่ายังไง”
“หมายความว่าท่านต้องการให้เราไปอยู่ที่กระทรวง”
เฮเลนพูดทั้งที่ตายังมองโนมตัวน้อย “หมายความว่าท่านกำลังต้องการให้เราเปิดเผยว่าอยู่ข้างท่านอย่างจริงจังใช่ไหมคะ”
“ใช่”
สคริมเจอร์ตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ถ้างั้นประเด็นก็คือ”
แฮร์รี่พูดต่อ “ท่านต้องการให้ดูเหมือนกับว่าพวกเรากำลังทำงานให้กระทรวงใช่ไหมครับ”
“ทุกคนคงสบายใจขึ้นถ้าเกิดรู้เรื่องนี้”
สคริมเจอร์บอก ดูโล่งอกที่พวกเขาเข้าใจ “ก็พวกเธอเป็น ‘คนที่ถูกเลือก’ นี่นะ เข้าใจใช่ไหม ทั้งหมดนี้มันเกี่ยวกับการทำให้ผู้คนมีความหวัง
มีความรู้สึกว่าสิ่งที่น่าตื่นเต้นกำลังเกิดขึ้น”
“แต่ถ้าเราคอยเข้าออกกระทรวง”
เฮเลนพูด “มันจะไม่ดูเหมือนว่าเรากำลังเห็นชอบกับสิ่งที่กระทรวงกำลังทำอยู่เหรอคะ”
“อ่า”
สคริมเจอร์ลากเสียง “ก็ใช่น่ะสิ นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ว่าทำไมเราต้องการ...”
“แต่ผมไม่คิดว่าเป็นไปได้ครับ”
แฮร์รี่ตอบอย่างนุ่มนวล “ท่านเข้าใจไหมว่า เราไม่ชอบบางอย่างที่กระทรวงทำ”
“ฉันไม่หวังว่าพวกเธอจะเข้าใจหรอก”
เขาพูด “นี่เป็นเวลาอันตรายและมาตรการบางอย่างจำเป็นต้องนำมาใช้
เธออายุแค่สิบแปด...”
“ดัมเบิลดอร์อายุมากกว่าสิบแปดตั้งเยอะ
และเขาไม่คิดว่าสแตนควรอยู่ในอัซคาบันเหมือนกัน” แฮร์รี่ตอบ “ท่านให้สแตนเป็นแพะรับบาปเหมือนที่ต้องการให้เราเป็นตุ๊กตานำโชค”
“ฉันเข้าใจละ”
ในที่สุดสคริมเจอร์ก็พูดโดยไม่เสแสร้งว่าเป็นมิตรอีก “พวกเธอพอใจที่จะตัดขาดความสัมพันธ์กับกระทรวงเหมือนดัมเบิลดอร์
วีรบุรุษของเธอใช่ไหม”
“ผมไม่อยากถูกใช้”
แฮร์รี่ตอบเสียงแข็ง
“บางคนอาจะพูดว่าเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องรับใช้กระทรวง”
“ใช่!
และบางคนก็อาจจะพูดว่าเป็นหน้าที่ของท่านที่ต้องตรวจสอบว่าคนพวกนั้นเป็นผู้เสพความตายจริงๆ
หรือเปล่า ก่อนจะโยนพวกเขาเข้าคุก!”
เฮเลนพูดอย่างเหลืออดแต่ยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากการมองโนม ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่พวกเธอจะต้องไปเป็นตัวนำโชคให้กับกระทรวง
“ท่านกำลังทำในสิ่งที่บาร์ตี้
เคร้าช์เคยทำ พวกท่านไม่คิดจะทำให้มันถูกบ้างเลยรึไง!”
แฮร์รี่พูด “ถ้าไม่ได้คนอย่างฟัดจ์ ที่แกล้งทำเป็นว่าทุกอย่างดีงามสดใส ทั้งๆ
ที่คนถูกฆ่ากันอยู่ใต้จมูกแท้ๆ
เราก็ได้คนอย่างท่านที่โยนคนไม่ผิดเข้าคุกและพยายามทำเป็นว่าได้คนที่ถูกเลือกมาทำงานให้!”
“แล้วพวกเธอไม่ใช่คนที่ถูกเลือกเหรอ!”
สคริมเจอร์ถาม
“มันไม่ได้สำคัญหรอกค่ะ!”
เฮเลนหัวเราะฝืนๆ “อย่างน้อยก็ไม่สำคัญสำหรับท่านเลย”
“ฉันไม่ควรพูดแบบนั้นเลย”
สคริมเจอร์แก้ตัวอย่างรวดเร็ว “มันไม่ถูกกาลเทศะ...”
“เปล่าครับ
มันจริงใจต่างหาก” แฮร์รี่บอก “มันเป็นหนึ่งในคำพูดจริงใจไม่กี่คำที่ท่านพูดกับเรา
ท่านไม่แยแสหรอกว่าพวกเราจะอยู่หรือตาย
แต่ท่านห่วงว่าเราจะช่วยท่านทำให้ทุกคนเชื่อได้หรือเปล่า
ว่าท่านกำลังจะชนะสงครามกับโวลเดอมอร์! ผมไม่เคยลืมเลยครับ
ท่านรัฐมนตรี...”
แฮร์รี่ดึงมือของเขากับเฮเลนขึ้นมา
รอยสีขาวบนหลังมือของสองคนนั้นคือรอยแผลเป็นที่โดโรเรส
อัมบริดจ์บังคับให้เขียนด้วยปากกาขนนกของกระทรวงจนเป็นรอยกรีดเป็นคำว่า ฉันต้องไม่โกหก
“ผมไม่ยักจำได้ว่าท่านเคยรีบเข้ามาช่วยปกป้องเราตอนที่เราพยายามบอกใครๆ
ว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้ว กระทรวงไม่เต็มใจจะอยู่เคียงข้างเราเลย!”
ความเงียบเข้าปกคลุม
เย็นยะเยือกเหมือนพื้นดินใต้เท้า ในที่สุดโนมตัวนั้นก็ดึงหนอนออกมาจนได้
“ตอนนี้ดัมเบิลดอร์กำลังทำอะไรอยู่ล่ะ”
สคริมเจอร์ถามห้วนๆ “เขาไปไหนเวลาไม่อยู่ฮอกวอตส์”
“ไม่มีใครรู้ค่ะ”
เฮเลนตอบ
“ต่อให้รู้ก็คงไม่บอก”
สคริมเจอร์พูด “ใช่ไหมล่ะ”
“ครับ
ผมเองก็คงไม่บอก” แฮร์รี่ว่า
“ก็ได้
ถ้าอย่างนั้นฉันคงต้องดูว่าจะรู้ด้วยวิธีอื่นได้ไหม”
“จะลองดูก็ได้ครับ”
แฮร์รี่พูดอย่างไม่แยแส “แต่ท่านดูฉลาดกว่าฟัดจ์มาก เพราะฉะนั้นผมคิดว่าท่านน่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาดของฟัดจ์นะครับ
เขาพยายามเข้ามาแทรกแทรงที่ฮอกวอตส์
ท่านคงเห็นแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นรัฐมนตรีอีกต่อไป แต่ดัมเบิลดอร์ยังคงเป็นอาจารย์ใหญ่
ผมจะไม่ยุ่งกับดัมเบิลดอร์ถ้าผมเป็นท่าน”
นิ่งกันไปนานทีเดียว
“อ้อ
ฉันเห็นได้ชัดเลยว่าเขาสอนพวกเธอมาดีมาก” สคริมเจอร์พูด
ดวงตาเย็นชาและโหดร้ายอยู่หลังแว่นตากรอบลวดนั้น “พวกเธอเป็นคนของดัมเบิลดอร์เต็มตัวเลยนะพอตเตอร์”
“คงใช่มั้งคะ”
เฮเลนตอบ “ดีใจจังที่เราเข้าใจตรงกันสักที”
เฮเลนเงยหน้าขึ้นจากโนมไปมองสคริมเจอร์พร้อมฉีกยิ้มกว้างก่อนที่แฮร์รี่จะดึงมือเธอเดินผ่านเขาก้าวเดินกลับไปที่บ้าน
สองสามวันหลังจากผ่านช่วงวันหยุด
เฮเลน แฮร์รี่ รอนและจินนี่เข้าแถวกันข้างเตาผิงในครัวเพื่อกลับไปฮอกวอตส์
กระทรวงเชื่อมเครือข่ายผงฟลูเฉพาะกิจเพื่อส่งนักเรียนกลับไปโรงเรียนอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
มีนางวีสลีย์อยู่กล่าวอำลาเพียงคนเดียวในขณะที่นายวีสลีย์ เฟร็ด จอร์จ
บิลและเฟลอร์ไปทำงาน
“ทำตัวดีๆ
นะทุกคน”
รอนยิ้มและออกไปเป็นคนแรก
ตามด้วยจินนี่และแฮร์รี่ เฮเลนก้าวเข้าไปในกองไฟสีเขียวมรกต เขวี้ยงผงฟลูลงไปที่เตาผิงและตะโกนเสียงดังว่า
‘ฮอกวอตส์’ ภาพครัวของพวกวีสลีย์แว้บหายไปในนาทีที่เปลวไฟลุกฮือท่วมตัวเธอ
ขณะที่หมุนติ้วอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดก็หยุดสนิทในเตาผิงที่ห้องของศาสตราจารย์มักกอนนากัล
เธอเงยหน้ามามองเล็กน้อย
“สวัสดีคุณพอตเตอร์
อย่าทำขี้เถ้าหล่นบนพรมมากนักล่ะ”
“ค่ะ
อาจารย์”
เฮเลนปัดผุ่นออกจากผม
อีกสามคนรอเธออยู่ข้างหน้าเตาผิง
เฮเลนรีบเดินไปสมทบและทั้งสี่ก็เดินแถวออกจากห้องของศาสตราจารย์มักกอนนากัล
ตรงไปทางหอกริฟฟินดอร์ แฮร์รี่มองออกไปนอกหน้าต่างตามระเบียงขณะเดินผ่าน
ดวงอาทิตย์กำลังตกลับสนามของโรงเรียน
ซึ่งปูลาดด้วยพรมหิมะหนายิ่งกว่าสวนในบ้านโพรงกระต่าย
“ลูกบอลประดับสีทอง”
รอนพูดอย่างมั่นใจเมื่อมาถึงหน้าสุภาพสตรีอ้วน
ซึ่งดูซีดเซียวผิดปกติและเธอสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงรอน
“ไม่ใช่”
เธอบอก
“หมายความว่าไง”
“มีรหัสผ่านใหม่แล้ว”
เธอบอก “กรุณาอย่าตะโกน”
ไม่นานเฮอร์ไมโอนี่ก็โผล่มาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างๆ
เธอไม่ทักทายรอนและทำเป็นไม่เห็นเขาด้วยซ้ำ รหัสผ่านใหม่ของห้องนั่งเล่นคือ ‘ไม่ดื่มสุรา’ เธอนำม้วนกระดาษที่มีลายมือของดัมเบิลดอร์มาส่งให้แฮร์รี่ทันทีเมื่อเดินเข้าไปถึงห้องนั่งเล่น
แต่ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงร้องแหลมสูงของลาเวนเดอร์ดังขึ้นมาก่อนที่เธอจะวิ่งร่าพุ่งเข้าใส่รอน
หลายคนที่มองอยู่หัวเราะกันคิกคัก
“มีโต๊ะว่างตรงนั้น
ไปนั่งด้วยกันไหมจินนี่ เฮเลน”
“ไม่ล่ะ
ฉันบอกดีนว่าจะไปเจอเขา” จินนี่ตอบ แต่น้ำเสียงดูไม่กระตือรือร้นเท่าไหร่
แฮร์รี่และเฮเลนทิ้งรอนกับลาเวนเดอร์ให้กอดรัดกันต่อไปและเดินตามเฮอร์ไมโอนี่ไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่
“คริสมาสต์ของเธอเป็นไงบ้าง”
เฮเลนเริ่มถามหลังจากนั่งลงแล้ว
“ก็ดีนะ
แท็คพูดถึงเธอตลอดวันหยุดเลย” เฮอร์ไมโอนี่ยักไหล่ “มันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก
แล้วที่บ้าน วอน-วอน ล่ะเป็นไง”
“แฮร์รี่อยากเล่าให้เธอฟังใจจะขาดแล้ว”
เฮเลนทำเป็นเมินเรื่องแท็คก่อนจะพูดแล้วหันไปมองแฮร์รี่
“ใช่สิ!”
แฮร์รี่ตอบ “แต่ฟังนะเฮอร์ไมโอนี่ เธอจะ...”
“ไม่
ฉันทำไม่ได้” เธอตอบดื้อๆ “เพราะฉะนั้นไม่ต้องขอ”
แฮร์รี่เลิกคิดที่จะพูดเรื่องรอนและเล่าทั้งหมดที่เขาแอบได้ยินสเนปและเดรโกคุยกันอย่างละเอียดยิบ
เมื่อเขาเล่าจบเฮอร์ไมโอนี่นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“เธอไม่คิดเหรอว่าเขาแกล้งทำ”
“พ่อของรอนกับลูปินก็คิดแบบนั้น”
แฮร์รี่พูด “แต่มันก็พิสูจน์แน่ๆ ล่ะว่าเขามีแผนจะทำอะไรบางอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้”
“ใช่
ปฏิเสธไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ
“แต่เขาไม่ได้พูดชื่อโวลเดอมอร์ออกมานะแฮร์รี่”
เฮเลนพูดอย่างเนือยๆ
แฮร์รี่เบ้หน้าเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไป
“ฉันกับเฮเลนทะเลาะกับรูฟัส สคริมเจอร์มาด้วย”
เวลาตลอดค่ำนั้นก็ผ่านไปโดยทั้งสามเอาแต่พูดเรื่องของกระทรวงที่หลังจากที่กระทรวงทำแบบนั้นกับพวกเขาเมื่อปีที่ผ่านมา
พวกนั้นช่างกล้าเหลือเกินที่ยังจะมาขอความช่วยเหลืออีก
เทอมใหม่เริ่มขึ้นในเช้าวันถัดมาพร้อมด้วยเรื่องประหลาดใจที่ถูกใจนักเรียนปีหกนั่นคืออยู่ๆ
ก็มีป้ายใหญ่มาติดไว้ที่ประกาศในห้องนั่งเล่นรวม
วิชาการหายตัว
ถ้าคุณอายุสิบเก้าหรือครบสิบแปดหรือจะสิบเก้าภายในวันที่
31 สิงหาคม
คุณมีสิทธิ์สมัครเรียนวิชาการหายตัวจำนวนสิบสองสัปดาห์
โดยอาจารย์ผู้สอนการหายตัวของกระทรวงเวทมนตร์
โปรดลงชื่อข้างล่างนี้ถ้าต้องการเรียน
ค่าเรียน
12 เกลเลียน
ทุกคนเดินไปลงชื่อกันอย่างเงียบๆ
เฮเลนไม่ค่อยอยากจะสนใจนักว่าเธอจะหายตัวได้หรือไม่
เพราะยังไงตราบใดที่อยู่ในฮอกวอตส์มันก็ไม่สำคัญอยู่ดีเพราะเราไม่สามารถหายตัวในโรงเรียนนี้ได้
ในขณะที่หลายคนดูตื่นเต้นเรื่องการลงเรียนวิชาหายตัว
พวกเขาคุยฟุ้งกันตลอดชั่วโมงเรียนคาถาจนเชมัสแกว่งไม้พลาดทำให้คาถาอากัวเมนตีเสกน้ำสาดใส่หน้าศาสตราจารย์ฟลิตวิกเต็มๆ จนเขาโดนลงโทษ
วันรุ่งขึ้นแฮร์รี่มาเล่าให้พวกเขาฟังอีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องที่ไปหาศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์เมื่อคืนวานโดยได้รับมอบหมายเกี่ยวกับงานที่จะต้องไปนำความทรงจำของซลักฮอร์นมาให้ได้
เฮเลนไม่คิดว่าเขาจะทำยากเพราะยังไง ซลักฮอร์นก็เห็นว่าพวกเขาเป็นสุดที่รักอยู่แล้ว
เขาคงไม่สามารถปฏิเสธเจ้าชายนักปรุงยาประจำคลาสของเขาได้หรอก
“เขาจงใจซ่อนเรื่องที่เกิดขึ้น
ขนาดดัมเบิลดอร์ยังรีดเอามาไม่ได้เลย” เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ ระหว่างช่วงพักขณะที่เฮเลน
เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่ยืนอยู่ในลานปราสาทไร้ผู้คนซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะหนา “ฮอร์ครักซ์...
ฉันไม่เคยได้ยินเลย”
“ไม่เคยได้ยินเลยเหรอ”
แฮร์รี่ทำเสียงผิดหวัง
เขาลองถามเฮเลนตั้งแต่ช่วงทานอาหารเช้าแต่เฮเลนเองก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
จริงๆ
เฮเลนคิดว่าตัวเองควรจะรู้แต่พยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าจะต้องพูดออกไปว่าอะไรจึงบอกแฮร์รี่ไปว่าไม่รู้อะไรเลย
“มันต้องเป็นเวทมนตร์ฝ่ายมืดระดับสูงจริงๆ
นั่นแหละมั้ง ไม่อย่างนั้นทำไมโวลเดอมอร์ถึงอยากรู้” เฮเลนว่า
“แต่แฮร์รี่
เธอต้องระวังให้มากเลยว่าจะเข้าไปหาซลักฮอร์นยังไง ต้องงคิดหาวิธี...”
“รอนว่าฉันควรจะคอยอยู่หลังชั่วโมงปรุงยาบ่ายนี้” แฮร์รี่แทรกขึ้นทั้งที่เฮอร์ไมโอนี่ยังพูดไม่จบ
“อ๋อดีแล้ว
ถ้า วอน-วอน คิดแบบนั้นเธอก็ควรทำตาม!” เฮอร์ไมโอนี่พูด
โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา “ในเมื่อ วอน-วอน น่ะเคยตัดสินใจผิดพลาดซะเมื่อไหร่”
“เฮอร์ไมโอนี่
เธอจะเลิก...”
“ไม่!”
เธอตอบอย่างโมโหและกระทืบเท้าจากไป
แฮร์รี่ก็สะบัดหน้าเดินออกไปจากตรงนั้นอีกคนทิ้งให้เฮเลนยืนนิ่งมองแผ่นหลังของสองคนเดินห่างออกไปโดยมีหิมะท่วมถึงข้อเท้า
เธอสะบัดหัวไปมานิดหน่อย
รู้สึกว่าไม่มีอะไรดีขึ้นเลยถึงแม้ว่าจะผ่านวันคริสมาสต์ไปแล้ว
เฮเลนคิดว่าถ้ารอนยังไม่เลิกกับลาเวนเดอร์อะไรๆ ก็คงไม่ดีขึ้นแน่นอน
ร่างบางยืนเหม่อออกไปบนท้องฟ้า
ลมพัดพาอากาศหนาวเยือกมากระทบร่างของเธออย่างแผ่วเบา
ดวงตากลมโตมองไปยังก้อนเมฆที่ลอยอยู่เหนือหัว
หลายอย่างที่เฮเลนรับรู้มาทำให้เธอนึกเป็นห่วงเดรโกอยู่ลึกๆ ว่าจริงๆ
แล้วเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
หิมะรอบๆ
โรงเรียนละลายเมื่อถึงเดือนกุมภาพันธ์และแทนที่ด้วยความชื้นแฉะที่หนาวเย็นและน่าเบื่อ
เมฆสีเทาอมม่วงลอยต่ำอยู่เหนือปราสาท ฝนที่หนาวสะท้านตกลงมาไม่ได้หยุดหย่อน
ทำให้สนามลื่นและเป็นโคลน ผลที่สุดบทเรียนการหายตัวครั้งแรกของนักเรียนปีหก
ซึ่งกำหนดเอาไว้ในเช้าวันเสาร์เพื่อไม่ให้ขาดเรียนในวิชาปกติ
จึงต้องทำกันในห้องโถงใหญ่แทนที่จะเป็นสนาม
ตลอดหลายสัปดาห์เฮเลนไม่ได้พบหน้าเดรโกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เธอแอบหวังลึกๆ ว่าเขาจะมาปรากฏตัวในห้องโถง โต๊ะต่างๆ หายไปหมด ฝนซัดกระหน่ำลงบนหน้าต่างบานสูงและเพดานที่ต้องมนตรานั้นหมุนเวียนมืดคลุมอยู่เบื้องบน
ขณะที่พวกนักเรียนมารวมกลุ่มกันตรงหน้าศาสตราจารย์มักกอนนากัล สเนป
ฟลิตวิกและสเปราต์ อาจารย์ประจำแต่ละบ้าน
เฮเลนไม่ค่อยมีสมาธิในการหายตัวนัก
เธอเอาแต่ชำเลืองมองเดรโกที่เข้ามาเรียนด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดี
จนในเวลาไม่นานการสอนก็จบลงโดยที่เฮเลนไม่ได้มีสมาธิจดจ่อในการหายตัวเลยสักนิด
หลังจากเรียนไปได้สามสี่ครั้ง การหายตัวก็ยังยากเหมือนเดิม
แม้ว่าจะมีอยู่สองสามคนทำให้ตัวเองเกิดการค้างครึ่งได้แล้วก็ตาม
แต่เฮเลนไม่คิดว่าการค้างครึ่งเป็นอะไรที่ดีนัก
เฮเลนเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ดีขึ้นเลย
ยิ่งเมื่อลองได้คิดถึงเดรโกตอนกำลังเรียนหายตัวมันทำให้เฮเลนเหมือนกับตัวเองกำลังจะหายตัวไปอยู่ข้างๆ
เขายังไงอย่างนั้น ยิ่งความสัมพันธ์ของรอนและเฮอร์ไมโอนี่ดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ
ผ่านมาหลายเดือนสองคนนี้ไม่มีทีท่าว่าอยากจะกลับไปคืนดีกันเลยสักนิด
“กลุ้มใจอะไรอยู่เหรอครับ”
แท็คพูดขึ้น ดวงตาสีดำสนิทมองหน้าเธอพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ เฮเลน
เด็กสาวหันไปมองหน้าเขานิดหน่อยและถอนหายใจออกมาอีกรอบ
“เปล่า”
เธอตอบเสียงเรียบ “ปกติฉันก็นั่งแบบนี้แหละ ไม่เคยเห็นรึไง”
“ปกติผมเห็นเฉพาะเวลาคุณอยู่กับคุณมัลฟอย”
ประโยคนั้นทำเอาเฮเลนรู้สึกเหมือนกับมีอะไรมาแทงกระเพาะ
ปิศาจโผล่ขึ้นมาในจิตใจพร้อมกับสั่งให้เธอสาปแท็คแรงๆ ไปเสียให้เขาหุบปาก
แต่ว่าเธอยังพอจะตั้งสติได้ ระงับปิศาจในใจให้หยุดอาละวาด
“ไม่จำเป็นต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาหรอก”
เฮเลนตอบ “บางทีนายควรจะเลิกทำเป็นไม่รู้ได้ว่าแล้วทำไมหมู่นี้ถึงไม่เห็นฉันอยู่กับเขาเลย”
แท็คยักไหล่
“แล้ววันนี้เรียนหายตัวเป็นไปได้ด้วยดีรึเปล่าครับ”
เขาถาม เฮเลนไม่ค่อยอยากจะตอบเขาเท่าไหร่
“ก็ดีล่ะมั้ง!”
เธอว่า “ถ้าหัวฉันคิดถึงสถานที่ที่จะไป ไม่ใช่ใครที่อยากเจอ”
“แล้วใครล่ะที่คุณอยากเจอ”
แท็คถามอีกรอบ
“คนที่นายก็รู้!”
เฮเลนตอบ “เขาคงไม่ได้อยากเจอฉันหรอก อย่างน้อยคงมีแต่ฉันที่ยังคิดถึงเขา”
“แล้วคุณไม่อยากจะคิดถึงคนอื่นบ้างเหรอ?”
เด็กหนุ่มถามพลางมองหน้าเฮเลน นัยตาแฝงเอาไว้ด้วยความหมายหลายอย่าง เฮเลนหลบสายตานั้นพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ
มันไม่ใช่ว่าจะรู้สึกดีที่เขาทำเหมือนคิดกับเธอมากกว่าพี่น้อง
แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
“ไม่รู้สิ”
เฮเลนตอบ “ฉันคิดว่าเดรโกเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึก...”
“ผมก็ทำได้”
แท็คแทรกขึ้น “ทำไมคุณไม่ลองให้โอกาสผมบ้างล่ะ?”
ติดตามตอนต่อไป...
ก่อนจากวันนี้ ฝากนิยายอีกสักเรื่อง 5555
จิ้มที่รูปได้เลยน้า >w<
ยังไม่ได้ระบุพระเอกเช่นเคย ฮิ้วว//หลบเกิบ
ฝากทุกคนด้วยนะคะ ♥
อาจจะอัพไม่บ่อยเท่าเรื่องนี้ แต่รับรองแต่งเรื่องนี้จบ
เขียนเรื่องนั้นต่อยาวๆ แน่นอนค่ะ >w<
ความคิดเห็น