ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แปลเพลงของ Mili + AWAAWA

    ลำดับตอนที่ #37 : Opium [Millennium Mother]

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 62



     

    I just wanted to tug your hair behind your ears

    ฉันแค่อยากจะทัดผมของเธอไว้ที่หู
    Hold you in my arms

    กอดเธอไว้ในอ้อมแขน
    I'm always here

    ฉันอยู่ตรงนี้เสมอ


    I couldn't have gone so far, so far

    ฉันคงจะไปได้ไม่ไกลถึงเพียงนั้น
    Without your absence

    หากเธอยังอยู่ด้วย
    But somehow I still wish

    แต่เพราะอะไรก็ตามฉันยังหวัง
    That you'll be here

    ว่าเธอจะอยู่ตรงนี้

     

    You're my poison

    เธอคือพิษของฉัน
    You're my poison

    เธอคือพิษของฉัน
    You're my poison

    เธอคือพิษของฉัน
    Magical scent

    กลิ่นแสนมหัศจรรย์


    I'm addicted to

    ฉันเสพติด
    I'm addicted to

    ฉันเสพติด
    I'm addicted to you

    ฉันเสพติดเธอ

     

    I just wanted to let you know I'm sorry too

    ฉันแค่อยากให้เธอรู้ว่า ฉันก็อยากขอโทษเหมือนกัน
    Neither of us wanted it to end up this way

    ไม่มีใครอยากให้มันจบแบบนี้

     

    The poppies cry

    ดอกฝิ่นร่ำไห้
    The poppies sing

    ดอกฝิ่นขับขาน
    The poppies bleed

    ดอกฝิ่นหลั่งเลือด
    As we drifted apart

    ขณะเราล่องลอยห่างจากกัน


    Have me poisoned

    วางยาพิษฉัน
    You have me poisoned

    เธอวางยาพิษฉัน
    Oh talk to me

    โอคุยกับฉัน
    Tell me the world you see

    บอกหน่อยว่าโลกที่เธอเห็นเป็นยังไง


    I just wanted to make you smile again

    ฉันแค่อยากให้เธอยิ้มอีกครั้ง

     

    ได้เวลาบทวิเคราะห์ยาวเหยียดอีกแล้วจ้า~

    เราแอบตกใจเหมือนกันที่มีหลายคนมากไม่รู้ว่าดอกป๊อปปี้ หรือดอกทหารผ่านศึกเป็นญาติๆ กับดอกฝิ่น อันนี้ถือเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ไม่ได้เกี่ยวกับเพลง

     

    เราว่าเพลงนี้ตีความได้สองอย่าง(อีกละ)

    1.     ตรงๆ เลยคือเป็นเพลงเกี่ยวกับการเสพฝิ่นของคนรักสองคน ดูในรูปประกอบเพลง รูม่านตาที่เล็กเป็นผลกระทบหนึ่งจากการเสพฝิ่น ถ้าดูในท่อนที่สอง “I couldn't have gone so far, so far without your absence” หมายความว่า ถ้าเธอยังอยู่ฉันก็ไปไหนไม่ได้ แต่พอเธอไม่อยู่ฉันสามารถไปได้ไกล หมายความว่าคนใดคนหนึ่งเลิกเสพไปแล้วมารำลึกความหลังว่าเธอเป็นพิษของฉัน ฉันเสพติดเธอ แต่อีกคนยังเลิกเสพไม่ได้เลยเป็นท่อนที่ว่า “Neither of us wanted it to end up this way” คือไม่ได้คิดว่าจะโดนฝิ่นทำลายชีวิตแบบนี้ ท่อนต่อมา การที่ดอกฝิ่น “ร่ำไห้” “ขับขาน” “หลั่งเลือด” น่าจะกำลังพูดถึงการผลิตฝิ่นที่ต้องกรีดยางจากฝักอ่อนของต้นฝิ่น “As we drifted apart” คือพอเสพแล้วอีกคนจะหลงเข้าไปในโลกของตัวเองทำให้ติดต่อกันไม่ได้ ประโยคสุดท้ายที่ว่าฉันอยากให้เธอยิ้มอีกครั้ง เป็นผลพวงจากการเลิกเสพฝิ่น พอเสพเข้านานๆ สมองจะไม่สามารถรับรู้ความสุขได้หากปราศจากฝิ่น ซึ่งก็หมายความว่าคนที่เลิกไปแล้วจำใจให้อีกคนเสพต่อ เพราะไม่งั้นคนที่รักจะไม่มีความสุขนั่นเอง ทว่าพอมองภาพในวิดีโอดีๆ จะเห็นว่ามีมืออยู่ตรงมุมล่างของจอที่ดูเหมือนจะไม่ขยับเลย แสดงว่าอาจจะเสพยาเกินขนาดไปแล้วก็ได้

    2.     เพลงนี้เปรียบความรักเหมือนฝิ่น ซึ่งก็ไม่ต้องพูดเลยว่าความรักของคนในเรื่องไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพจิตแน่นอน ความรักของพวกเขาเป็นเหมือนพิษแม้จะไม่ได้ตั้งใจให้มันกลายเป็นแบบนั้น แต่ก็ยังเลิกรักกันไม่ได้ ทั้งสองคนเริ่มห่างกันเรื่อยๆ จนตัดขาดกันในที่สุด

     

    สรุปง่ายๆ คือ อย่ายุ่งกับสารเสพติดนะจ๊ะ ด้วยปรารถนาดีจาก—//เสียงหาย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×