คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #37 : บทที่ 11 : ปฏิญาณไม่คืนคำ
บทที่ 11 : ปฏิญาณไม่คืนคำ
คริสมาสต์ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว แฮกริดขนต้นคริสมาสต์เข้ามาในห้องโถงใหญ่เรียบร้อย มาลัยใบฮอลลี่และสายรุ้งบิดเป็นเกลียวประดับอยู่รอบราวบันได เทียนไม่มีวันดับส่องแสงเรืองรองอยู่ในหมวกของชุดเกราะและมีมิสเซิลโทช่อใหญ่แขวนห่างกันเป็นระยะตามระเบียงทางเดิน เฮเลนขลุกตัวอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ตลอดหลายวันที่ผ่านมา มันอาจจะทำให้แฮร์รี่และเธอลำบากใจอยู่นิดหน่อยที่จะต้องอยู่กับเพื่อนสนิท (หรือเฮเลนเรียกพวกเขาว่าคู่รักที่คบกันอย่างไม่เปิดเผย) ไม่ยอมคุยกันอีกแล้วหลังจากวันฉลองที่พวกเขาได้ถ้วยควิดดิช
เฮเลนไม่ได้พบแฮร์รี่มาสักระยะหนึ่งเนื่องจากเวลาที่แฮร์รี่อยู่นั่นหมายถึงรอนจะต้องอยู่ด้วย
มันมักจะทำให้เฮอร์ไมโอนี่ไม่พอใจและเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นเสียทุกทีไป
โชคดีหน่อยที่เธอกับเฮอร์ไมโอนี่มีความชอบเหมือนกันเรื่องการอยู่ในห้องสมุดถึงแม้ว่าเฮเลนจะเห็นภาพของเดรโกมาวนเวียนอยู่บ่อยๆ
แต่ถ้าหากเฮอร์ไมโอนี่อยู่ด้วย มันก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้มากขึ้นไปอีก
“เขามีเสรีภาพเต็มที่ที่จะจูบกับใครก็ได้”
เฮอร์ไมโอนี่พูดเน้นเสียงที่คำว่า 'เสรีภาพ' และ ‘จูบ’
จนเฮเลนนึกถึงวันที่เดรโกจูบเธอในห้องต้องประสงค์วันนั้น “ฉันไม่สนใจเลยจริงๆ”
วันนี้แฮร์รี่มาหาเฮอร์ไมโอนี่ที่ห้องสมุดและเล่าสิ่งที่รอนพูดให้เธอฟัง
เฮอร์ไมโอนี่ดูท่าจะไม่พอใจอย่างมากและกดปากกาขนนกระหว่างเขียนแรงเสียจนกระดาษเป็นรู
เฮเลนก้มหน้าก้มตาจดงานของตัวเองต่อไปและพยายามพูดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เนื่องจากมาดามพินซ์เริ่มมองมาที่เธออีกแล้ว
“อีกอย่าง”
เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้น “เธอควรระวังตัวไว้”
“อะไร”
แฮร์รี่ตอบหลังจากที่เขาฟังเฮอร์ไมโอนี่บ่นอยู่ราวๆ สิบห้านาทีได้แล้ว
“ฉันกับเฮเลนไปเข้าห้องน้ำกันมาก่อนที่จะมาที่นี่
มีเด็กผู้หญิงอยู่ในนั้นสักโหลหนึ่งได้มั้ง”
เฮอร์ไมโอนี่พูดทั้งที่สายตายังจับจ้องอยู่บนกระดาษและมือยังคงเขียนหนังสือยุกยิก
“รวมไปถึงโรมิลด้า เวนด้วย พวกนั้นกำลังคิดว่าจะแอบเอายาสเน่ห์ให้เธอกินได้ยังไง”
“พวกนั้นหวังว่าจะทำให้นายพาไปงานปาร์ตี้ของซลักฮอร์น”
เฮเลนพูดพลางกลอกตานึก “แล้วก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะซื้อยาสเน่ห์ของเฟร็ดกับจอร์จด้วย
ฉันไม่อยากบอกหรอกนะ แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะได้ผล”
“แล้วทำไมเธอไม่ริบมันมาล่ะเฮอร์ไมโอนี่”
แฮร์รี่ตั้งคำถาม เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นจากกระดาษขมวดคิ้วใส่เขา
“ก็พวกนั้นไม่ได้พกติดตัวมา!”
เฮอร์ไมโอนี่ตอบ “พวกเขาแค่ปรึกษาหาวิธีกัน
ฉันสงสัยว่าแม้แต่เจ้าชายเลือดผสมของเธอก็คงจะสามารถประดิษฐ์ยาแก้ยาสเน่ห์สิบกว่าแบบในครั้งเดียวไม่ได้หรอกนะ”
เฮเลนแอบหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นว่าแฮร์รี่ทำหน้าไม่พอใจ
ก่อนที่เธอจะเอ่ยขึ้นบ้าง
“ฉันคิดว่านายน่าจะชวนใครสักคนไปงานด้วยได้แล้วนะ”
เธอว่า “พวกเขาจะได้เลิกคิดว่าตัวเองยังมีโอกาสไง คืนพรุ่งนี้แล้วด้วย”
“ไม่มีใครที่ฉันอยากเชิญไปนี่”
แฮร์รี่พูดเสียงอู้อี้
“จินนี่ไง”
เฮเลนพูดเสียงใส ปรายตามองมาดามพินซ์นิดหน่อย
“ฉันคิดว่าบางทีนายอาจจะอยากชวนเธอไป”
“เงียบน่า”
แฮร์รี่ตอบอึกอัก รู้สึกไม่ดีที่แฝดดูเขาออก
“เอาเถอะ”
เฮอร์ไมโอนี่ตัดบท “ตอนนี้ก็ระวังเรื่องของกินกับเครื่องดื่มหน่อยก็แล้วกันเพราะโรมิลด้า
เวนเหมือนจะเอาจริง”
“แต่ว่า”
แฮร์รี่พูดช้าๆ “ฉันจำได้ว่าฟิลช์สั่งห้ามของทุกอย่างจากร้านเกมกลวีสลีย์นี่”
“ใครสนเรื่องที่ภารโรงสั่งห้ามตั้งแต่เมื่อไหร่”
เฮอร์ไมโอนี่ย้อนถาม ดวงตากลับไปจ้องที่เรียงความอีกครั้ง
แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากกว่านั้นเสียงการเคลื่อนไหวของใครบางคนก็ดังขึ้นใกล้ๆ
ทางด้านหลังท่ามกลางชั้นหนังสือมืดๆ
เฮเลนรีบกวาดข้าวของเข้ากระเป๋าถือและลุกพรวดขึ้นทันที ในไม่กี่อึดใจต่อมาใบหน้าเหมือนนกแร้งของมาดามพินซ์ก็โผล่พรวดขึ้นตรงหัวมุมถูกตะเกียงที่ถืออยู่ส่องสว่างใส่หน้าอย่างไม่น่ามอง
“ห้องสมุดปิดแล้ว”
เธอพูดพลางกวาดตามองทั้งสามคนในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เก็บข้าวเก็บของอย่างรวดเร็วและรีบแจ้นออกจากห้องสมุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทั้งสามรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้พูดกันด้วยเสียงปกติ
พวกเขาเดินไปตามระเบียงว่างเปล่าไร้แสงตะเกียงพลางถกกันเรื่องมาดามพินซ์กับฟิลช์ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน
“ลูกบอลประดับสีทอง”
แฮร์รี่บอกกับสุภาพสตรีอ้วน รหัสผ่านที่เปลี่ยนใหม่ให้เข้ากับเทศกาลรื่นเริง
สุภาพสตรีอ้วนยิ้มก่อนจะเหวี่ยงตัวออกมาข้างหน้าให้พวกเขาเข้าไป
“สวัสดีแฮร์รี่!”
โรมิลด้า เวนทักขึ้นทันทีเมื่อแฮร์รี่ก้าวผ่านช่องรูปภาพเข้าไป
เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่มองหน้ากันเล็กน้อยและตัดสินใจว่าจะเดินขึ้นหอนอน
อย่างน้อยทั้งสองก็ได้ออกปากเตือนเขาไปแล้วเรื่องนี้
ตอนนี้เฮเลนเองก็ยังคิดไม่ตกว่าจะชวนใครไปงานเลี้ยงครั้งนี้ดี
ใครก็ตามที่ไม่ใช่คนที่อยู่ในหัวของเธอตอนนี้...
วันถัดมาในชั่วโมงแปลงร่างทุกคนต้องฝึกกันในหัวข้อการแปลงร่างมนุษย์
เฮเลนค้นพบว่ามันยากที่สุดเท่าที่เคยได้เรียนมา
ศาสตราจารย์มักกอนนากัลให้พวกเขาฝึกกันหน้ากระจกและพยายามเปลี่ยนสีคิ้วของตัวเองให้ได้
ภายในชั่วโมงจะสนุกมากกว่านี้ถ้าหากรอนและเฮอร์ไมโอนี่ไม่ตีกันจนสุดท้ายเฮอร์ไมโอนี่ก็รีบวิ่งออกไปจากห้องเรียนทันทีที่ระฆังดังโดยทิ้งของจำนวนมากเอาไว้บนโต๊ะเรียน
เฮเลนกับแฮร์รี่มองหน้ากันก่อนจะช่วยเก็บข้าวของของเฮอร์ไมโอนี่และวิ่งตามเธออกไปพร้อมกันโดยไม่สนใจรอน
ทั้งสองพบเธออีกครั้งเมื่อเธอโผล่ออกมาจากห้องน้ำหญิงชั้นล่าง
ลูน่าเดินตามออกมาด้วยพร้อมกับตบหลังเธอเบาๆ
“อ้าวสวัสดีทั้งสองคน”
ลูน่าทัก
“ไงลูน่า”
เฮเลนเอ่ยขึ้นในขณะที่แฮร์รี่ส่งของให้เฮอร์ไมโอนี่
แต่เธอก็รีบรับของแล้วเดินจากไป
“เขาเสียใจ”
ลูน่าเอ่ยขึ้น “ตอนแรกฉันคิดว่าเป็นเมอร์เทิลแต่ปรากฏว่าเป็นเฮอร์ไมโอนี่
ได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่างถึงรอน วีสลีย์ด้วย...”
“ใช่
เขามีเรื่องทะเลาะกัน” แฮร์รี่บอก
“บางทีรอนก็พูดอะไรตลกดีนะ
ใช่ไหม” ลูน่าพูดในขณะที่ทั้งสามเดินไปตามระเบียงทางเดินด้วยกัน
“แต่บางทีเขาก็ใจร้ายนะ ฉันเห็นเมื่อปีที่แล้ว”
เฮเลนปล่อยให้แฮร์รี่และลูน่าเดินนำไปก่อน
เธอหยุดและมองไปตามระเบียงทางเดินอันคุ้นเคยก่อนจะเห็นเสื้อคลุมของใครบางคนสะบัดไหวอยู่ไม่ไกล
เฮเลนเดินตามเขาไปอย่างรวดเร็วและในที่สุดเธอก็คว้าเสื้อคลุมของเขาทัน!
“เดี๋ยว!”
เธอร้องเรียก “เดี๋ยวก่อนแท็ค!!”
ร่างสูงชะงักเท้าหันกลับไปมองเฮเลนด้วยสายตาประหลาดใจ นานแล้วที่เขาไม่ได้ยุ่งวุ่นวายอะไรกับเธอเลยมาตั้งแต่เปิดเทอม
“มีอะไรครับ”
เขาเลิกคิ้ว “ตอนนี้ผมกำลังรีบ”
“เอ่อ...”
เฮเลนอึกอัก “วันนี้นายว่างไหม”
“วันนี้?”
เขาทวนคำ “ก็ไม่เชิงนะครับ ผมคิดว่ามีอะไรต้องทำนิดหน่อย มีอะไรเหรอ”
“ฉันคิดว่าฉันจะชวนนายไปงานปาร์ตี้ซลักฮอร์นด้วยกันน่ะ”
เธอโพลงออกไป “แต่ถ้านายไม่ว่างก็ไม่เป็นไร”
ทั้งที่เป็นคนชวนแต่เฮเลนกลับรู้สึกอยากให้แท็คตอบมาว่าเขาไม่ว่างและปฏิเสธเธอซะ บางทีเธอควรเดินไปชวนเด็กหนุ่มบ้านฮัฟเฟิลพัฟเชยๆ สักคนหนึ่งที่อาจจะนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่พร้อมเพื่อนๆ และทำท่าดีอกดีใจจนตัวสั่นเมื่อเธอเข้าไปหา
“ได้สิครับ”
แท็คบอกพร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นมานิดหน่อย
“ว่าแต่แปลกนะครับที่คุณไม่ชวนคุณมัลฟอยไป”
ชื่อของเดรโกทำเอาเฮเลนสะอึกและเหมือนแท็คจะมองเธอออก
“โอ๊ะ
ผมลืมไป” เขาร้อง “เอาเป็นว่าเจอกันที่ห้องโถงก็แล้วกันนะครับ ผมขอตัว”
“ตอนสองทุ่มนะ!!”
เฮเลนตะโกนตามหลังแท็คที่กำลังเดินออกไป
เขายกมือขึ้นเป็นเชิงรับรู้และเดินเลี้ยวออกไปอีกทาง
“แท็คเหรอ!”
เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อตอนอาหารเย็น “เธอชวนแท็คไปเหรอ
ไหนว่าเธอไม่โอเคเรื่องเขาไง”
“จริงๆ
ก็ไม่!” เฮเลนตอบ คนสตูว์ในชามไปมา “เธอก็เหมือนกันนั่นแหละเรื่องแม็คล้ากเก้น
ไหนบอกว่าเขาเป็นตัวร้ายไง”
“ฉันก็แค่อยากทำให้รอนหงุดหงิดบ้างเท่านั้นแหละ!”
เฮอร์ไมโอนี่ว่า ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเสียงเรียกจากปาราวตีก็ดังขึ้น
เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่หันไปยิ้มกว้างๆ ให้เธอ มันเป็นรอยยิ้มที่เสแสร้งที่สุดในชีวิตที่เธอเคยทำมา
เฮเลนเห็นลาเวนเดอร์โอบกอดรอนอยู่อย่างกับปลาหมึก
แสดงว่าเธอไม่ได้สนใจเรื่องที่เฮเลนเตือนไปเมื่อต้นเทอมเลยสินะ
“ไงปาราวตี!”
เฮอร์ไมโอนี่ร้องทัก “คืนนี้เธอจะไปงานปาร์ตี้ของซลักฮอร์นรึเปล่า”
เฮเลนแอบตกใจนิดหน่อยที่เฮอร์ไมโอนี่พูดถึงปาร์ตี้ของซลักฮอร์นต่อหน้ารอน
แต่ว่ามันคงไม่แปลกอะไรหรอก เพราะพวกเขาทะเลาะกันอยู่นี่
“ฉันไม่ได้รับเชิญนี่”
ปาราวตีตอบอย่างเซ็งๆ ตอนนี้เฮเลนและเฮอร์ไมโอนี่นั่งอยู่ห่างจากรอนและแฮร์รี่พอสมควรในระยะที่ว่าถ้าไม่ได้ตะโกนเสียงดังๆ
พวกเขาก็ไม่มีวันได้ยินเสียงที่ทั้งสองคนพูดแน่นอน
และในตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่กำลังตะโกนคุยกับปาราวีตีอยู่
“ฉันอยากไปนะ”
ปาราวตีว่า “ฟังแล้วน่าจะสนุกมากเลย เธอจะไปเหรอ”
“ใช่!
ฉันนัดคอร์แม็กไว้ตอนสองทุ่ม”
“คอร์แม็กเหรอ”
ปาราวตีถาม “คอร์แม็ก แม็คล้ากเก้นน่ะเหรอ”
“ใช่!”
เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงหวาน “คนที่เกือบจะได้เป็นคีปเปอร์ของกริฟฟินดอร์ยังไงล่ะ”
“เธอคบกับเขาเหรอ”
ปาราวตีถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
เฮเลนหันไปส่งสายตาใส่เฮอร์ไมโอนี่เป็นเชิงว่าให้เธอพอได้แล้วแต่ดูเหมือนว่ายิ่งเห็นลาเวนเดอร์กับรอน
เฮอร์ไมโอนี่ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น
“ใช่!”
เฮอร์ไมโอนี่ว่าพลางหัวเราะคิกคัก “เธอไม่รู้หรอกเหรอ เฮเลนยังรู้เลย”
เฮอร์ไมโอนี่ว่าพลางพยักเพยิดมาทางเฮเลน
เธอมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสายตาตกใจเป็นเชิงถามว่านี่เธอจะต้องเออออตามไปด้วยใช่ไหม!
“ไม่รู้เลยนะ”
ปาราวตีบอก “เธอนี่ชอบนักกีฬาควิดดิชจริงๆ เลย คนแรกก็ครัม...”
“ฉันชอบนักกีฬาควิดดิชที่
‘เก่ง’ จริงๆ น่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่แก้คำพูด "งั้นแล้วเจอกันนะ! ฉันจะเตรียมตัว...”
“แล้วเธอล่ะเฮเลน”
ปาราวตีหันหัวข้อมาทางเฮเลน “เธอชวนใครไปงั้นเหรอ”
เฮเลนเกือบพ่นน้ำฟักทองออกมาเมื่อถูกถาม
เมื่อไม่นานมานี้เธอมีข่าวกับเดรโกให้พวกนี้คุยกันสนุกปาก
นี่เธอยังต้องบอกอีกเหรอว่าเธอจะไปกับใครที่ไม่ใช่เดรโก
มันจะเพิ่มข่าวซุบซิบให้มากขึ้นไปอีกใช่ไหมเนี่ย
“แท็ค”
เฮเลนพูดหลังจากกลืนน้ำฟักทองลงคอ “แท็ค แม็กมาเวลล์ บ้านสลิธีรินน่ะ”
“เด็กคนที่เล่นเป็นเชสเซอร์แทนเวชีย์น่ะเหรอ!”
ปราราวตีเอามอือป้องปากท่าทางอึ้งๆ “เขาเก่งแถมหน้าตาดีมากๆ เลยล่ะ
ฉันคิดว่าเธอจะไปกับเดรโกเสียอีก”
เฮเลนวางแก้วกระแทกโต๊ะเสียงดัง
“ไม่หรอก! บางทีเขาก็ไม่ว่างน่ะ ขอตัวล่ะ... ไปเถอะเฮอร์ไมโอนี่”
เฮเลนว่าแล้วเดินนำหน้าเฮอร์ไมโอนี่ออกไปพลางหรี่ตามองลาเวนเดอร์และเดินไปยังห้องนั่งเล่นทันทีเพื่อหลีกหนีคำถามอีกมากมายของเหล่านักเรียนคนอื่นๆ
ที่มองอยู่
เวลาสองทุ่มเฮเลนเดินลงมาที่ห้องโถงพร้อมกับแฮร์รี่
เธอไม่รู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่นัดกับแม็คล้ากเก้นที่ไหนแต่เธอกับแฮร์รี่นัดคู่ควงของตัวเองเอาไว้ซึ่งบังเอิญเป็นที่เดียวกันอย่างน่าตกใจ!
ลูน่าสวมเสื้อคลุมประดับเลื่อมแพรวพราว
เธอดูน่ารักมากที่เดียวในสายตาเฮเลนและตัวแท็คเองในวันนี้เขาก็เหมือนจะแต่งตัวพิถีพิถันเป็นพิเศษ
ชุดสูทแบบเรียบๆ
กับผมสีดำถูกทำให้ยุ่งเหยิงดูดีในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครทำให้เหล่าเด็กสาวบริเวณนั้นมองไปที่เขาเป็นตาเดียว
เฮเลนยอมรับเลยว่าถ้าเกิดว่าเขาไม่ทำตัวลึกลับและร้ายกาจในบางครั้ง
เขาก็ดูเป็นผู้ชายที่หล่อใช้ได้เลยทีเดียว
“ไง”
เธอทัก “ไปกันเถอะ”
“งานจัดที่ไหนเหรอครับ”
ริมฝีปากยกยิ้มเล็กน้อย เฮเลนเลื่อนมือไปควงแขนเขาเอาไว้และออกเดินไปพร้อมกันโดยมีสายตาของแฮร์รี่คอยจ้องมองมาอย่างไม่ไว้วางใจ
“ห้องทำงานของซลักฮอร์นน่ะ”
เธอตอบพลางดึงแขนเขาให้เดินขึ้นบันไดหินอ่อนไปโดยมีเสียงซุบซิบดังขึ้นตามเป็นระยะ จนในที่สุดทั้งสองก็เดินมาใกล้ห้องทำงานของซลักฮอร์นแล้ว
เสียงหัวเราะ เสียงเพลงและเสียงพูดคุยกันดังขึ้นเรื่อยๆ ทุกย่างก้าวที่ใกล้เข้าไป
ห้องทำงานของซลักฮอร์นกว้างกว่าห้องของอาจารย์ทั่วๆ ไปมากเลยทีเดียว ไม่รู้ว่ามันสร้างขึ้นมาอย่างนั้นหรือเพราะเขาเสกคาถาเปลี่ยนแปลงให้ใหญ่ขึ้น
เพดานและผนังถูกตกแต่งด้วยผ้าสีเขียวมรกต
แดงเลือดหมูและสีทอง จึงดูราวกับว่าพวกเขาอยู่ในกระโจมหลังใหญ่
ห้องนั้นแน่นขนัดไปด้วยนักเรียนที่ถูกเชื้อเชิญและอาบไล้ไปด้วยแสงสีแดงที่ส่องมาจากตะเกียงทองหรูหราที่ห้อยจากกึ่งกลางเพดาน
เอลฟ์จำนวนหนึ่งลัดเลาะเบียดเสียดไปท่ามกลางบรรดาหัวเข่าทั้งหลาย
พวกมันถูกบังเอาไว้ด้วยถาดเงินใส่อาหารหนักอึ้งที่แบกอยู่
“เฮเลน!
แม่สาวน้อยคนสวยของฉัน” ซลักฮอร์นเอ่ยทักทันทีที่เฮเลนและแท็คเบียดตัวเข้าไปในห้อง
“แฮร์รี่มาด้วยรึเปล่า! เขายอมมาไหมคืนนี้”
“มาค่ะ”
เฮเลนตอบ “เขาคงกำลังเดินตามมา หนูขอตัวนะคะ”
เด็กสาวว่าพลางดึงแขนแท็คให้ออกมาจากตรงนั้น
ซลักฮอร์นพุ่งเข้าใส่แฮร์รี่ทันทีที่เห็นเขา เด็กสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ
ในขณะที่เดินไปหยิบแก้วเครื่องดื่มส่งให้แท็ค เขารับมันเอาไว้พร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ
“งานนี้ดูเหมือนจะมีคนดังๆ
มาด้วยนะครับเนี่ย”
“ไม่รู้สิ บรรดาศิษย์เก่าของซลักฮอร์นมั้ง” เฮเลนยักไหล่
“เหรอครับ”
แท็คว่า “โชคร้ายที่ผมไม่มีความสามารถพอจะเป็นคนโปรดของเขา”
“แต่ฉันว่านายฉลาดอยู่นะ”
เฮเลนพูดพลางจิบเหล้าน้ำผึ้งนิดหน่อย “ฉันเห็นว่าศาสตราจารย์สเนปคอยชมนายให้พวกเราฟังอยู่ไม่เคยขาดเลย”
“คงบังเอิญล่ะมั้งครับ”
แท็คยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ผมเองก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ตอนที่เขาสอนปรุงยา”
“แล้ววิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดล่ะ”
เฮเลนถามสวนทันที “เขาว่าไง”
แท็คยักไหล่พลางมองไปยังศาสตราจารย์สเนปที่กำลังยืนรวมอยู่กับแฮร์รี่และซลักฮอร์น
“ไม่รู้สิครับ”
แท็คตอบ “เขาไม่เคยคุยอะไรกับผมเวลาอยู่ในชั่วโมงเรียน”
“ศาสตราจารย์ซลักฮอร์น!!”
เสียงตะโกนเรียกซลักฮอร์นดังขึ้นเรียกความสนใจของคนในงานได้เป็นอย่างดี เดรโก
มัลฟอยถูกอาร์กัส ฟิลช์ดึงคอเสื้อลากตัวเข้ามาในห้อง ดวงตาโปนประกายเพ้อคลั่ง
ดีใจที่ตรวจจับการทำผิดได้ “ผมเจอเด็กนี่ลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงระเบียงทางเดินข้างบนนี่
เขาอ้างว่าได้รับคำเชิญมางานเลี้ยงอาจารย์ด้วยครับ แต่ว่ามาช้า
อาจารย์ส่งบัตรเชิญให้เขารึเปล่าครับ!”
เดรโกสะบัดตัวหลุดจากการจับกุมของฟิลช์
เขามีท่าทางเดือดดาล
“ก็ได้
ฉันไม่ได้รับเชิญ!” เขาพูดเสียงขุ่น “ฉันอยากมางานนี้ พอใจรึยัง!!”
“ไม่!”
ฟิลช์ตอบ เป็นคำพูดที่ขัดกับสีหน้าเขาเสียเหลือเกิน “แกลำบากแน่
อาจารย์ใหญ่ไม่ได้บอกรึไงว่าห้ามเดินตอนกลางคืนยกเว้นจะได้รับอนุญาต!!”
“ไม่เป็นไรอากัส
ไม่เป็นไร” ซลักฮอร์นโบกมือ “นี่วันคริสมาสต์ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว
เราจะลืมมันไปซะเรื่องการลงโทษ เธออยู่ในงานนี้ได้เดรโก”
สีหน้าผิดหวังของฟิลช์ไม่ต้องนั่งจ้องลูกแก้วก็รู้
เฮเลนแอบสงสัยนิดหน่อว่าทำไมเด็กหนุ่มข้างกายและศาสตราจารย์สเนปต้องทำท่าไม่พอใจที่พบเขาที่นี่
แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรออกไป ฟิลช์ก็หันหลังกลับและเดินลากเท้าออกไป
เดรโกปรับเปลี่ยนสีหน้าไปนิดหน่อยพลางกล่าวขอบคุณซลักฮอร์น
“เป็นอะไรไปแท็ค”
สองสามวินาทีเฮเลนก็เอ่ยถามขึ้น แท็คเปลี่ยนสีหน้าไปเป็นราบเรียบในทันที
“ครับ?”
เขาพูด “ไม่มีอะไรนี่ครับ ว่าแต่งานเลี้ยงจะเลิกกี่โมงครับเนี่ย
ผมว่าผมเริ่มจะง่วงซะแล้ว”
“อะไรกัน
นี่นายยังเข้ามายืนอยู่ในนี้ได้ไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะ”
เฮเลนว่าในขณะที่แท็คทำท่าอ้าปากหาว “แถมปีสี่การบ้านก็ไม่เยอะเท่าปีห้าเสียหน่อย อยู่ดึกสักวันจะเป็นไรไป”
“ไม่ดีกว่าครับ”
แท็คพูดอีกครั้ง “ผมว่าผมขอตัวไปนอนก่อนจะดีกว่า แล้วพบกันนะครับ”
เขาพูดแล้วกระดกเครื่องดื่มจนหมดแก้วก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางเรียบเฉย
เฮเลนเดินเข้าไปหาแฮร์รี่ในตอนที่ศาสตราจารย์สเนปลากเดรโกออกไปหลังจากที่แท็คเดินออกไปได้เพียงครู่เดียวเท่านั้น
“อยากไปห้องน้ำไหมแฮร์รี่”
เธอถาม แฮร์รี่หันมาสบตาราวกับว่าความคิดของทั้งสองคนตรงกัน
แฮร์รี่และเฮเลนขอตัวออกจากงานของซลักฮอร์น
แฮร์รี่ดึงผ้าคลุมล่องหนออกมาคลุมร่างของเฮเลนกับตนเองเอาไว้
ทั้งสองเดินสำรวจไปตามระเบียงและในที่สุดก็พบเสียงของสเนปเล็ดรอดออกมาจากห้องสุดท้ายริมระเบียงทางเดิน
“เธอทำพลาดไม่ได้นะเดรโก
เพราะถ้าเธอถูกไล่ออก...”
“ผมไม่รู้ว่าอาจารย์กำลังพูดถึงเรื่องอะไร”
“ฉันหวังว่าเธอกำลังพูดความจริง!
เพราะว่านั่นมันทั้งโง่และงุ่มง่าม เธอถูกสงสัยไปแล้วว่า...”
“ใครจะมาสงสัยผม!”
เดรโกตอบน้ำเสียงโกรธเคือง “บอกเป็นครั้งสุดท้ายเลยนะว่าผมไม่ได้ทำ! ยัยเด็กเบลล์อะไรนั่นต้องมีศัตรูที่ไหนแน่ ผมรู้ว่าอาจารย์กำลังจะทำอะไร
แต่มันไม่ได้ผลหรอก”
“ป้าเบลาทริกซ์คงสอนการสกัดใจให้เธอล่ะสิ
ความคิดอะไรนะที่เธออยากจะปิดบังจากเจ้านายของเธอเดรโก!”
“ผมไม่ได้พยายามปิดบังอะไรท่าน
ผมแค่ไม่ต้องการให้ใครมายุ่ง! เขาเลือกผม!!”
เฮเลนกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
เธอคอยฟังสิ่งที่เดรโกจะพูดต่อไปอย่างเงียบเชียบ
เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น
มือเล็กกระชับแขนเสื้อแฮร์รี่เอาไว้แน่น
“นี่คือสาเหตุที่เธอไม่ยอมพบฉันตลอดเทอมนี้ใช่ไหม!
เธอกลัวฉันจะเข้ามาแทรกเรอะ เธอรู้ตัวรึเปล่าถ้าเป็นคนอื่น ฉันจะ...”
“กักบริเวณสิ!
รายงานกับดัมเบิลดอร์เลย” เดรโกพูดด้วยน้ำเสียงเยาะๆ
“เธอก็รู้ว่าฉันทำแบบนั้นไม่ได้!”
“ถ้างั้นก็เลิกสั่งให้ผมไปที่ห้องทำงานอาจารย์สักที!”
“ฟังฉันนะ”
น้ำเสียงของสเนปเปลี่ยนไป “ฉันกำลังพยายามช่วยเธอ
ฉันสาบานกับแม่ของเธอว่าฉันจะปกป้องเธอ ฉันทำปฏิญาณไม่คืนคำเอาไว้แล้วเดรโก!”
“ดูเหมือนว่าอาจารย์จะต้องคืนคำแล้วล่ะ!
ผมไม่ต้องการให้อาจารย์มาปกป้องผม ผมมีแผน และมันต้องสำเร็จแน่แค่ใช้เวลานานไปหน่อยเท่านั้นเอง”
“แผนของเธอคืออะไร”
“มันไม่ใช่เรื่องของอาจารย์!”
“ถ้าเธอบอกฉันว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ฉันอาจจะช่วยเธอได้”
“ผมมีคนช่วยเท่าที่ต้องการแล้ว
ขอบคุณ! ผมไม่ได้ตัวคนเดียวหรอก”
“แต่คืนนี้เธอตัวคนเดียวแน่”
“ผมคงมีแครบกับกอยล์อยู่ด้วยหรอกถ้าเกิดว่าอาจารย์ไม่สั่งกักบริเวณพวกนั้น!”
“พูดเบาๆ!”
สเนปตวาด “ถ้าเพื่อนของเธอตั้งใจสอบ ว.พ.ร.ส.
วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดให้ผ่าน...”
“แล้วมันสำคัญยังไง”
เดรโกพูด “ป้องกันตัวจากศาสตร์มืดมันก็เรื่องตลกดีๆ นี่เอง
ทำเหมือนว่าเราต้องใช้...”
“การแสดงก็สำคัญต่อความสำเร็จ
เดรโก!!” สเนปบอก “คิดดูซิว่าฉันจะต้องไปอยู่ที่ไหนตลอดหลายปีนี่
ถ้าฉันไม่รู้จักแสดงละคร! นี่ ฟังฉันนะ เธอกำลังเลินเล่อ
เธอเที่ยวเดินท่อมๆ ตอนกลางคืน ปล่อยให้ถูกจับได้
และถ้าเธอไว้วางใจผู้ช่วยแบบสองคนนั่น...”
“ผมไม่ได้มีแค่นั้นหรอก
ผมยังมีคนอื่นอีก!”
“แล้วทำไมเธอไม่บอกฉัน
ฉันจะ...”
“ผมรู้ว่าอาจารย์คิดอะไรอยู่!
อย่ายื่นมือเข้ามาสอดจะดีกว่า!!”
เงียบกันไปครู่หนึ่งก่อนที่เสียงสเนปจะดังขึ้นมาอีกครั้ง
“เธอพูดเหมือนเป็นเด็ก
ฉันเข้าใจดีว่าการที่เธอต้องเสียพ่อไปและเรื่องของเด็กคนนั้นทำให้เธอเสียใจ
แต่...”
ร่างบางถูกแฮร์รี่ดันถอยออกมาจากประตูอย่างรวดเร็วจนเกือบเสียหลักเมื่อเดรโกเปิดประตูผลัวะออกมา
เขาก้าวไปตามทางเดิน ผ่านประตูห้องทำงานของซลักฮอร์นที่เปิดอ้าไว้
เลี้ยวตรงหัวมุมใกล้ๆ และหายลับไปจากสายตา แฮร์รี่รวบเอาร่างเล็กๆ
มากอดเอาไว้เกร็งตัวจนแทบหยุดหายใจเมื่อสเนปโผล่ออกมาจากห้องเรียนอย่างช้าๆ
เขาเดินกลับไปร่วมงานเลี้ยง ทั้งสองยังคงซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าคลุมใจเต้นไม่เป็นส่ำ
“มันหมายความว่ายังไงแฮร์รี่”
เฮเลนส่งเสียงพูดเบาราวกระซิบ “นี่เป็นเรื่องที่นายยังไม่บอกฉันใช่ไหม”
ใบหน้าซุกอยู่บนแผงอกกว้างของแฮร์รี่
ดวงตากลมโตเหลือบมองใบหน้าของแฮร์รี่อย่างต้องการคำตอบ
“เขา”
เฮเลนงึมงำ “เขาเป็นผู้เสพความตายไปแล้วใช่ไหม”
แฮร์รี่เงียบ
เขานึกถึงเรื่องที่เดรโกกำชับเอาไว้ไม่ให้พูดอะไร สองแขนยังคงโอบกอดฝาแฝดเอาไว้แน่น
ร่างบางในอ้อมกอดสั่นระริกเฮเลนเริ่มกัดริมฝีปากล่างเมื่อลองได้คิดอีกครั้งว่าเดรโกเข้าไปทำอะไรในห้องต้องประสงค์และอะไรที่เขาพยายามที่จะซ่อมมัน
“ยังไม่เป็นแบบนั้นเฮเลน”
แฮร์รี่กล่าว “ยังไม่ใช่แบบนั้น”
“แต่สิ่งที่เขาพูด”
เฮเลนตอบ “มันบอกได้หมดทุกอย่าง ว่าเขากำลังจะทำอะไรแฮร์รี่...”
“อย่าพูดอีกเลยนะ”
แขนทั้งสองข้างรัดร่างของเธอแรงขึ้น “เธอยังไม่ควรรับรู้เรื่องพวกนี้ในตอนนี้”
“ทำไม”
“ขอร้อง”
เขาว่า “ฉันกำลังทำทุกอย่างเฮเลน ทำทุกอย่าง... ได้โปรดอย่าถามอะไรเลย”
แฮร์รี่พูดเอาไว้เพียงแค่นั้นก่อนที่พวกเขาจะพากันกลับเข้าไปในงานเลี้ยงของซลักฮอร์นโดยหลังจากนั้นแฮร์รี่ก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรถึงเรื่องนี้อีกเลยตลอดจนจบงานเลี้ยง
วันหยุดคริสมาสต์มาถึงพร้อมกับแฮร์รี่และเฮเลนมาอยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายพร้อมๆ
กับรอน แฮร์รี่กับรอนถูกนางวีสลีย์ให้ช่วยปลอกหัวสเปราต์อยู่ในครัวสองคน
เฮเลนนั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหารกับเฟร็ดและจอร์จ
พวกเขากำลังล้อเลียนรอนเรื่องของลาเวนเดอร์ที่จินนี่เล่าให้พวกเขาฟังเมื่อเช้านี้
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคิดอะไรยังไง”
เฟร็ดพูด “สิ่งที่เราอยากรู้คือมันเกิดขึ้นได้ยังไงต่างหาก”
“หมายความว่าไง”
รอนถาม
“ผู้หญิงคนนั้นประสบอุบัติเหตุอะไรทำนองนี้รึเปล่า”
จอร์จพูดต่อ
“อะไรนะ”
“ก็แหม
สมองเขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงขนาดนั้นได้ยังไงล่ะ” เฟร็ดบอก “เฮ้!
ระวังหน่อยสิ!!”
นางวีสลีย์เข้ามาทันเห็นตอนที่รอนขว้างมีดปอกสเปราต์ใส่เฟร็ดซึ่งเขาเปลี่ยนมันเป็นเครื่องบินกระดาษได้ทัน
“รอน!”
เธอร้องอย่างเดือดดาล “อย่าให้แม่เห็นแกขว้างมีดอีกเชียวนะ!”
“ไม่ทำแล้วครับ”
เขาตอบและหันหลังกลับไปหากองภูเขาหัวสเปราต์และบ่นงึมงำอะไรกับแฮร์รี่ที่เฮเลนไม่ได้ยิน
เด็กสาวหันไปหาเฟร็ด กับจอร์จและถามไถ่เขาเกี่ยวกับเรื่องภายในร้านเกมกลวีสลีย์เล็กน้อยก่อนที่นางวีสลีย์จะหันมาหาพวกเขา
“เฟร็ด
จอร์จ ขอโทษทีนะจ๊ะ แต่รีมัสจะมาหาเราคืนนี้เพราะฉะนั้นบิลจะต้องไปเบียดอยู่กับลูกสองคน!”
“ไม่มีปัญหาครับ”
จอร์จตอบ
“แล้วในเมื่อชาลีไม่กลับ
ห้องใต้หลังคาก็จะเหลือแค่แฮร์รี่กับรอนแล้วก็เฮเลน แล้วถ้าเฟลอร์แบ่งห้องกับจินนี่ทุกคนก็จะอยู่กันได้สบายๆ
นะ เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีเตียงให้นอน” นางวีสลีย์พูด ท่าทางดูไม่สบายใจเล็กน้อย
“ถ้างั้นเพอร์ซี่ก็โผล่มาด้วยงั้นสิครับ”
เฟร็ดถาม นางวีสลีย์เบือนหน้าไปทางอื่น
“ไม่หรอก
แม่ว่าเขาคงยุ่งกับงานในกระทรวงน่ะ”
“หรือไม่เขาก็เป็นยี้ที่งี่เง่าที่สุดในโลก”
เฟร็ดพูดเมื่อนางวีสลีย์เดินออกไปจากครัวแล้ว “เอาล่ะ ไปกันเถอะจอร์จ”
แฝดวีสลีย์ว่าแล้วลุกออกไปจากโต๊ะ
เฮเลนนั่งมองรอนกับแฮร์รี่ปลอกหัวสเปราต์เงียบๆ
หลังจากกลับเข้าไปในงานเลี้ยงของซลักฮอร์น เฮอร์ไมโอนี่ก็หายตัวไปจากงานแล้ว
นั่นคือสิ่งที่แม็คล้ากเก้นบอกกับพวกเขาแถมเธอยังขึ้นหอนอนไปแล้วตอนที่ทั้งสองคนกลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวม
เฮเลนแทบจะไม่ได้เสวนากับใครเลยหลังจากที่มาอยู่ที่บ้านโพรงกระต่าย สมองครุ่นคิดถึงสิ่งที่ได้ยินและการกระทำทั้งหมดของเดรโก เขากำลังซ่อมอะไรอยู่ในห้องต้องประสงค์แล้วสิ่งที่เขากับสเนปพูดกันอยู่นั่นหมายความว่ากำลังทำภารกิจที่โวลเดอมอร์สั่งมาใช่รึเปล่า
ในที่สุดก็มาถึงคืนก่อนวันคริสมาสต์ ครอบครัววีสลีย์และบรรดาแขกนั่งกันอยู่ในห้องนั่งเล่น ซึ่งจินนี่ตกแต่งเสียฟู่ฟ่าออกจะเหมือนนั่งอยู่ท่ามกลางระเบิดโซ่กระดาษ ทุกคนจำต้องฟังรายการคริสมาสต์ที่ถ่ายทอดสดเพลงของเซเลสทิน่า วาร์เบ็ก นักร้องคนโปรดของนางวีสลีย์ เฟลอร์ซึ่งดูเหมือนจะรู้สึกว่าเซเลสสิน่าน่าเบื่อมากกำลังพูดคุยเสียงดังอยู่ตรงมุมหนึ่ง เฟร็ดกับจอร์จเริ่มเล่นไพ่สแนประเบิดปังกับจินนี่ รอนคอยแอบมองบิลกับเฟลอร์ราวกับหวังจะได้เห็นเทคนิคอะไรน่าสนใจ ระหว่างนั้นรีมัส ลูปินนั่งอยู่ข้างๆ เตาผิงกับแฮร์รี่ ดูผอมและซีดยิ่งกว่าเดิม
“งานที่กระทรวงยุ่งมากเลยเหรอคะ”
เฮเลนเอ่ยถามนายวีสลีย์
“ยุ่งมากๆ”
เขาตอบ “ฉันคงไม่ว่าหรอกถ้าเราได้ความคืบหน้ามาบ้าง
แต่สามรายที่เราจับเมื่อสองเดือนก่อนนั่น
ฉันสงสัยว่าจะมีสักรายไหมที่เป็นผู้เสพความตายตัวจริง อย่าพูดไปเชียวล่ะเฮเลน”
“นี่พวกคุณจับนายสแตน
ชันไพก์ขังเอาไว้เหรอคะ” เฮเลนถาม
“ขังอยู่น่ะสิ”
นายวีสลีย์ตอบ “ฉันรู้ว่าดัมเบิลดอร์พยายามยื่นอุธรณ์ต่อสคริมเจอร์โดยตรงเลยเรื่องสแตน
แต่ใครๆ ก็เห็นพ้องต้องกันว่าเขาน่ะมีโอกาสเป็นผู้เสพความตายได้พอๆ กับส้มนี่ล่ะ”
เฮเลนเหลือบมองไปยังส้มในมือของนายวีสลีย์ที่ยังปอกเปลือกไม่เสร็จ
“แต่ระดับสูงต้องการให้ดูเหมือนว่าตัวเองทำงานคืบหน้าและ
‘จับกุมสามราย’ ก็ฟังดูดีกว่า ‘จับผิดพลาดสามรายและต้องปล่อยไป’
ล่ะนะ เรื่องพวกนี้น่ะเป็นความลับรู้ไหม”
“หนูไม่พูดไปหรอกค่ะ”
เฮเลนตอบ เธอยิ้มและมองหน้านายวีสลีย์ที่ยิ้มตอบกลับมาอย่างใจดี
ไม่นานนักพวกเขาก็รีบเร่งไต่บันไดขึ้นไปนอนเมื่อเฟลอร์พยายามร้องเพลงเลียนแบบเสียงของเซเลสทิน่า
ห้องใต้หลังคามีผ้าใบปูเตรียมพร้อมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น