ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #36 : บทที่ 10 : เก็บซ่อนความรู้สึก

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 64


    บทที่ 10 : เก็บซ่อนความรู้สึก


    เช้าวันถัดมาเฮเลนเรียนวิชาสมุนไพรศาสตร์เป็นอันดับแรก แฮร์รี่นิ่งเงียบไม่เปิดปากพูดอะไรเลยจนกระทั่งถึงช่วงที่เดินไปเรือนกระจก เขาเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับโวลเดอมอร์หลังจากที่ไปเข้าพบดัมเบิลดอร์เมื่อวาน แต่เหมือนว่าจะยังเล่าไม่หมด สายตาของเขาดูเป็นกังวลกับอะไรสักอย่าง ลมพายุรุนแรงในช่วงวันหยุดเบาบางลงแล้ว หมอกและควันประหลาดปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่งและพวกเขาต้องใช้เวลานานกว่าปกติเพื่อหาเรือนกระจกที่ต้องเข้าไปเรียนให้ถูกต้อง 

    “คิดแล้วก็น่ากลัวนะ คนที่คุณก็รู้ว่าใครตอนเป็นเด็กน่ะ” รอนพูดเสียงเบาในขณะที่ทุกคนเข้าประจำที่รอบตอต้นสนาร์กาลัฟตะปุ่มตะป่ำซึ่งจะเป็นโครงการใหญ่สุดของเทอมนี้ ทั้งสี่เริ่มสวมถุงมือป้องกัน “ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมดัมเบิลดอร์ถึงให้พวกนายดูเรื่องนี้ด้วย ฉันหมายความว่ามันน่าสนใจทุกอย่างเลยนะ แต่มันสำคัญตรงไหน?”

    “ไม่รู้สิ” แฮร์รี่ตอบพลางใส่เกราะป้องกันยางไม้ “แต่เขาบอกว่ามันสำคัญแล้วมันก็ยังจะช่วยให้รอดตายน่ะ!

    “ฉันคิดว่ามันน่าสนใจนะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังและเหล่มองเฮเลนเป็นระยะ “ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นแน่ๆ ที่จะรู้เกี่ยวกับโวลเดอมอร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นเธอสอ... เธอจะหาจุดอ่อนเขาได้ยังไง”

    แฮร์รี่ยักไหล่ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองคนถึงได้ทำท่าจะหลุดเรื่องของเดรโกออกมาบ่อยขนาดนั้น ทั้งที่เฮเลนยืนอยู่ใกล้กับพวกเขามากแต่สายตาของเธอดูเหมือนไม่ได้มีเอาไว้มองอย่างอื่นเลย แฮร์รี่เหลือบมองน้องสาวฝาแฝดที่ยืนเหม่ออยู่จึงเปลี่ยนเรื่องและชวนเธอคุย

    “งานปาร์ตี้ล่าสุดของซลักฮอร์นเป็นไงบ้าง” แฮร์รี่ถามเสียงอู้อี้ผ่านเกราะกันยางไม้ เฮอร์ไมโอนี่เงียบและรอให้เฮเลนเป็นคนตอบแต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากเด็กสาวที่อยู่ในชุดเกราะกันยางเลยแม้แต่พยางค์เดียว จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องขยับไปสะกิด เฮเลนสะดุ้งเฮือกเงยหน้าจากตอต้นต้นสนาร์กาลัฟและมองไปยังแฮร์รี่

    “หะ! ว่าไงเหรอ” เฮเลนพูดพลางทำให้น้ำเสียงออกมาปกติที่สุด ดวงตากลมโตมองไปยังใบหน้าของแฮร์รี่อย่างสงสัยและพยายามซ่อนความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้เบื้องหลังดวงตานั้น

    “งานปาร์ตี้ของซลักฮอร์นน่ะ เมื่อวานเป็นไงบ้าง” แฮร์รี่ถามย้ำอีกครั้ง

    เฮเลนกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด เธอจำไม่ค่อยได้แล้วว่าเมื่อวานมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ที่รู้ๆ มีอยู่ไม่กี่อย่างที่ซลักฮอร์นพูดถึงตอนกำลังดื่มน้ำชาแก้เลี่ยนจากของหวาน

    “ก็สนุกดี” เฮเลนตอบสั้นๆ และยกแว่นตาขึ้นมาสวมเตรียมตัว “หมายถึงเขาก็พูดเรื่องอดีตลูกศิษย์เขาเหมือนเดิม เราได้กินอาหารดีๆ กันนั่นแหละแต่ดูเขาจะประจบประแจงแม็คล้ากเก้นมากเกินไปหน่อย คงเพราะหมอนั่นรู้จักคนใหญ่คนโตล่ะมั้ง”

    เด็กสาวยักไหล่พลางผูกเถาต้นสนาร์กาลัฟที่เหมือนกับปลาหมึกติดกันเอาไว้กันไม่ให้มันพยศ ก่อนที่มันจะเปิดรูตรงกลางออก เฮเลนมองไปยังรูนั้นอย่างชั่งใจ เพราะรู้ดีว่าจะต้องเอาอะไรออกมาจากในนั้น

    “ช่วยทีสิเฮอร์ไมโอนี่” เฮเลนร้องเรียก เฮอร์ไมโอนี่บิดเถาไม้ที่ถูกผูกกันเอาไว้แน่นในขณะที่เฮเลนกำลังล้วงมือลงไปในนั้นโดยพยายามทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันปิดรูจับข้อศอกของเฮเลนในทันทีราวกับว่านี่เป็นกับดัก เฮเลนสะดุ้งเฮือกใหญ่

    “อีกอย่างเมื่อวานนี้เขาก็แนะนำเราให้รู้จักเกว็นน็อก โจนส์ด้วย” เฮเลนว่า “บิดแรงอีกนิดสิเฮอร์ไมโอนี่”

    ประโยคนั้นดึงความสนใจจากรอนได้เป็นอย่างดี ขณะที่แฮร์รี่เริ่มมองไปยังต้นสนาร์กาลัฟของเขากับรอนด้วยสายตาไม่ปลื้มเท่าไหร่ที่ต้องมาเก็บฝักของต้นไม้ต้นนี้

    “กัปตันทีมโฮลี่เฮด ฮาร์ปีส์น่ะนะ!

    “ใช่!” เฮอร์ไมโอนี่ตอบ ใบหน้าบูดเบี้ยวเนื่องจากออกแรงบิด “พูดตรงๆ นะฉันคิดว่าเขาออกจะหลงตัวเองไปสักหน่อยด้วย”

    “งั้น...”

    “ตรงนั้นน่ะ! พอตเตอร์ วีสลีย์” ศาสตราจารย์สเปราต์พูดเสียงดังและเดินฉับๆ เข้ามาหาแฮร์รี่และรอนในขณะที่เฮเลนดึงเอาฝักสีเขียวๆ ที่เต้นตุ้บๆ เหมือนจังหวะหัวใจออกมาจากรูนั้น “เธอสองคนช้ามาก! คนอื่นๆ เริ่มกันไปถึงไหนแล้ว ดูสิ เฮเลนได้ฝักแรกแล้วด้วย!!

    ศาสตราจารย์สเปราต์ว่าแล้วหันมาทางเฮเลนที่กำลังวางฝักสีเขียวลงไปในชาม ขณะเดียวกันเถาหนามแหลมของต้นสนาร์กาลัฟของเธอก็หดกลับเข้าไปในตอไม้ทำราวกับว่าไม่เคยทำอะไรแบบเมื่อสักครู่มาก่อน มันดูเหมือนตอไม้แห้งๆ ที่ไร้พิษสง เฮอร์ไมโอนี่ดันแว่นตาป้องกันขึ้นไปไว้ด้านบนหน้าผากพลางมองเฮเลนบีบฝักอย่างระทึก

    “ฉันลืมไป!” เฮเลนอุทานในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ดึงแว่นตาลงและกำลังจะใช้มือล้วงฝักต่อไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ต้องหาอะไรมาเจาะมันออก”

    เฮเลนว่าแล้วหันรีหันขวางมองหาของที่ตนต้องการและพบว่ามีเพียงอย่างเดียวที่สามารถใช้การได้ในตอนนี้ก็คือไม้กายสิทธิ์ในกระเป๋าเสื้อคลุม เฮเลนใช้มือซ้ายกำฝักที่เต้นตุ้บๆ ในมือแน่นและพยายามล้วงมือผ่านเกราะกันยางและดึงไม้กายสิทธิ์ออกมาแทงลงไปบนฝักสุดแรง เมล็ดประหลาดสีเขียวหน้าตาเหมือนหนอนดุ๊กดิ๊กน่าขยะแขยงดิ้นไปมาในชาม เมือกของมันกระเด็นมาติดตามเกราะนิดหน่อยแต่มันกลับเคลือบเอาไว้เต็มไม้กายสิทธิ์ของเฮเลน

    “นี่น่ะ!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องพร้อมกับดึงฝักที่สองออกมา “ซลักฮอร์นจะจัดปาร์ตี้คริสมาสต์ล่ะแฮร์รี่และไม่มีทางเลยที่เธอจะดิ้นหลุดไปได้ เพราะเขาขอให้ฉันตรวจดูว่าค่ำวันไหนที่เธอว่าง แถมเขายังขอให้เฮเลนอ้อนให้เธอมาให้ได้ด้วยนะ เขาจะได้แน่ใจว่ายังไงเธอก็ ต้องมา”

    แฮร์รี่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ในขณะที่ใช้สองมือจับเถารากของต้นไม้ไว้และรอนใช้แขนซ้ายล้วงลงไปในรูก่อนที่เขาจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว “แล้วนี่ก็เป็นงานปาร์ตี้สำหรับคนโปรดของซลักฮอร์นเท่านั้นอีกงานล่ะสิ!

    “ใช่” เฮเลนพูดหลังจากที่รีดเมล็ดออกจากฝักที่สองสำเร็จ "ไม่รู้ว่าจะตั้งอะไรขึ้นมาให้เกิดความเหลื่อมล้ำทำไม"

    “สำหรับสโมสรซลักเท่านั้นเหมือนเดิม” เฮอร์ไมโอนี่ต่อ

    ฝักบินหวือออกจากใต้นิ้วมือของรอนไปกระแทกเรือนกระจกต้นไม้และกระเด้งไปตกอยู่เสียไกล แฮร์รี่มองตามและวิ่งร่าไปเก็บฝักนั้นโดยทิ้งรอนที่ทำหน้าทมึงทึงเอาไว้ตรงที่เดิม เฮเลนคิดว่าโชคดีมากที่แฮร์รี่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ด้วย

    “เฉพาะ คนโปรด ของเขางั้นเหรอ” รอนพูดด้วยน้ำเสียงเยาะๆ อย่างที่เฮเลนคุ้นเคยจากใครบางคน “น่าขำเนอะที่ฉันเป็นแค่คนเดียวที่เขาไม่ได้ออกปากชวนไปด้วย ทำไงได้ก็มันคือ สโมสรซลัก นี่นะ! ฉันก็แค่ 'วอลเนบี้' คนที่เขาจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำไป”

    “นี่” เฮอร์ไมโอนี่พ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด “ฉันไม่ได้เป็นคนตั้งชื่อ สโมสรซลัก นะ”

    “เหอะ” รอนทำเสียงในลำคอ “น่าสมเพชสิ้นดี ฉันหวังว่าเธอคงจะสนุกกับงานปาร์ตี้นะ ทำไมเธอไม่ลองรักใคร่ผูกพันกับแม็คล้ากเก้นซะล่ะ ทีนี้ซลักฮอร์นก็จะได้ตั้งพวกเธอเป็นคิงและควีนซลักซะเลย...”

    เฮเลนอยากจะเขวี้ยงฝักต้นสนาร์กาลัฟใส่หน้ารอนมาก รู้สึกโมโหขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลแต่ก็พยายามตั้งสติให้ตัวเองแทงไม้กายสิทธิ์ลงที่ฝักของมันแรงๆ แทน แฮร์รี่เดินกลับมาแล้ว เขาทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นทั้งสองคนมีปากเสียงกันในเรื่องที่ไม่น่าจะทะเลาะกันได้

    “เราได้รับอนุญาตให้พาแขกไปได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างพยายามสงบสติอารมณ์ “และฉันกำลังจะเชิญเธอไป แต่ถ้าคิดอยากให้ฉันไปกับเขา ฉันก็ไม่รบกวนล่ะ!

    เฮเลนเหล่ตามองไปยังแฮร์รี่ที่พยายามแกะฝักนั้นออกทำเหมือนไม่ได้ยินที่ทั้งสองพูด หลังจากรีดเมล็ดจากฝักที่สามเสร็จเฮเลนจึงเดินไปหาเขาและแนะนำว่าควรทำยังไงในขณะที่รอนและเฮอร์ไมโอนี่ยังคงเถียงกันอยู่

    “เธอจะให้ฉันไปด้วยเหรอ” รอนถาม น้ำเสียงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    “ใช่” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างฉุนๆ “แต่ถ้าเธออยากให้ฉันรักใคร่ผูกพันกับแม็คล้ากเก้นล่ะก็...”

    ทั้งสองเงียบกันลงไปครู่หนึ่ง เฮเลนยื่นไม้กายสิทธิ์เลอะเมือกของเธอให้แฮร์รี่ เขามองด้วยสายตารังเกียจนิดหน่อยก่อนจะรับมันไปและเจาะมันเต็มแรงจนน้ำเมือกของต้นสนาร์กาลัฟกระจายไปทั่ว ศาสตราจารย์สเปราต์มองแฮร์รี่ด้วยสายตาไม่พอใจนิดหน่อยแต่ดูเหมือนว่านั่นจะทำให้รอนและเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกตัวว่ามีอีกสองคนอยู่ตรงนั้นด้วย

    “ไม่ ฉันไม่อยาก” รอนพูดเสียงเบาตอนที่เฮอร์ไมโอนี่หันหน้าไปมองยังชามของเฮเลนและเธอที่จัดการทุกอย่างเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวผมฟูหยิบชามเดินไปให้ศาสตราจารย์สเปราต์และยืนอยู่ตรงนั้น เฮเลนคาดว่าเธอคงจะยืนอยู่อีกนานเลยจนกว่าจะสงบอารมณ์ได้

    ชั่วโมงที่เหลือผ่านไปโดยไม่มีใครพูดถึงสโมสรซลักอีกเลย สองสามวันต่อมารอนและเฮอร์ไมโอนี่ดูจะดีขึ้นกว่าเดิมแต่เหมือนพวกเขากำลังเพิ่มระยะห่างให้แก่กัน เฮเลนคงจะต้องจับตาดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปท่ามกลางแสงสลัวของงานปาร์ตี้ในห้องทำงานของซลักฮอร์นในวันศริสมาสต์

    เฮเลนเห็นแฮร์รี่มีสีหน้าเป็นกังวลมากขึ้นทุกวันดังนั้นในทุกเวลาที่เธอไม่สบายใจจึงแอบหลบทั้งสามคนมานั่งเล่นอยู่ในห้องสมุด แต่ยิ่งอยู่ในห้องสมุดยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ ภาพของเดรโกที่คอยกวนเวลาเธออ่านหนังสือวนเวียนอยู่ตลอดและพาลจะทำให้น้ำตาไหล สุดท้ายเธอก็อยู่ที่ห้องสมุดไม่ได้

    วันหนึ่งในขณะที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมที่ไม่ค่อยจะมีคนอยู่เท่าไหร่นัก เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าก้มตาทำรายงานวิชาอะไรสักอย่างที่ยาวเหยียด ส่วนเฮเลนก็นั่งเล่นกับครุกแชงก์เงียบๆ โดยไม่พูดอะไร ดีนโผล่เข้ามาในห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแบบแปลกๆ เฮเลนหันไปหาเขา

    “เกิดอะไรขึ้นดีน?” เฮเลนเอ่ยถามขึ้น

    “นิดหน่อย ฉันว่ารอนคงโมโหน่าดู” เขายักไหล่แล้วเดินขึ้นหอนอนไปก่อนจะตามมาด้วยจินนี่ เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาเล็กน้อยผ่านทั้งสองคนขึ้นไปยังหอหญิงอย่างเงียบๆ

    “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย” เฮเลนขมวดคิ้ว ดวงตากลมมองจ้องช่องรูปภาพรอคอยว่าจะมีใครสักคนเดินเข้ามาอีกหรือเปล่า แต่มันกลับเงียบเชียบ

    “รอนคงมีปัญหากับจินนี่อีกล่ะมั้ง” เฮอร์ไมโอนี่ว่าพร้อมวางปากกาลง เธอเขียนรายงานยาวยืดวิชาอักษรรูณเสร็จเรียบร้อย “เอาล่ะ ฉันขอตัวไปนอนก่อนที่ใครบางคนจะโผล่มาอาละวาดใส่จะดีกว่า”

    เฮอร์ไมโอนี่พูดแล้วรีบเก็บของเดินขึ้นหอนอนไปอย่างรวดเร็ว เฮเลนก้มลงมองครุกแชงก์และอยากจะถามมันเหลือเกินว่าควรจะทำยังไงในสถานการณ์ที่เลวร้ายลงทุกวันแบบนี้ แต่ถึงอย่างนั้นครุกแชงก์ก็ไม่ใช่แมวพูดได้หรืออนิเมจัสที่เธอจะสามารถคอยเรียกได้ทุกครั้งที่มีปัญหา มันเป็นเจ้าเหมียวตัวส้มขี้หงุดหงิดธรรมดาๆ เท่านั้น

    วันต่อมาท่าทางรอนดูแปลกไปจนเฮเลนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เขาไม่เพียงเย็นชาใส่จินนี่และดีนเท่านั้นแต่ยังทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องเจ็บช้ำด้วยท่าทางไม่ใยดีประกอบรอยยิ้มเยาะอย่างเยือกเย็น ยิ่งไปกว่านั้นเพียงแค่ข้ามคืนราวกับว่าเธอได้พบรอนคนละคนกับที่เคยเจอ เขาดูเหมือนคนเจ้าอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดใส่ใครก็ตามที่เข้าไปใกล้ๆ

    การแข่งขันควิดดิชใกล้เข้ามาแล้วแฮร์รี่มีสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิมส่วนตัวเฮเลนเองก็ไม่สามารถไปนั่งรอพวกเขาซ้อมต่อไปได้อีก ไม่ใช่แค่เฉพาะรอนที่ทำตัวเปลี่ยนไป แต่ทีมที่เข้ามาซ้อมต่อจากพวกเขาเองก็เช่นกัน เดรโกยังคงมีท่าทีเย็นชาและมีแพนซี่ตามติดเขามาตลอดทุกครั้งของการซ้อม เธอไม่เคยทนได้เลย

    วันเสาร์มาถึง การรับประทานอาหารเช้าเป็นไปตามปกติ แฮร์รี่และรอนเดินเข้ามาในห้องทานอาหารพร้อมกับทีมกริฟฟินดอร์คนอื่นๆ ในขณะที่เฮเลนกับเฮอร์ไมโอนี่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะ พวกนักเรียนบ้านสลิธีรินทำเสียงโห่ดังๆ จนเฮเลนอยากจะหันไปแช่งให้พวกเขาเป็นใบ้กันยกทีม!

    เดรโกไม่ได้อยู่ในนั้น เฮเลนมองหาเขาแล้วแต่เขาไม่อยู่ เขาไปซ้อมตลอดจนกระทั่งเมื่อวันสุดท้ายที่เธอไปดูแฮร์รี่ เธอก็ยังคงเห็นว่าเขาไปซ้อมกับทีมโดยมีแท็คเป็นเชสเซอร์คนใหม่ของทีมเขา โต๊ะของบ้านกริฟฟินดอร์ส่งเสียงเชียร์ต้อนรับเมื่อแฮร์รี่และรอนโผล่มา แฮร์รี่ยิ้มและโบกมือให้ ส่วนรอนนิ่วหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายและสั่นหัวแทบจะตลอดเวลา

    “เธอสองคนรู้สึกยังไงบ้าง” เฮอร์ไมโอนี่ถามเมื่อทั้งสองทิ้งตัวลงนั่ง

    “ดี” แฮร์รี่ตอบ เขายื่นน้ำฟักทองที่เฮเลนเพิ่งเลื่อนให้เขาไปเมื่อสักครู่ให้รอน “ดื่มให้เกลี้ยงนะ”

    เฮเลนเห็นแฮร์รี่ยัดขวดแก้วเล็กๆ ลงไปในกระเป๋าเสื้อและเหมือนกับจงใจให้เฮอร์ไมโอนี่เห็น รอนยกแก้วแตะริมฝีปาก เฮอร์ไมโอนี่ก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาทันที

    “อย่าดื่มมันนะ!

    “ทำไมล่ะ” รอนถาม เฮอร์ไมโอนี่จ้องแฮร์รี่อย่างไม่เชื่อสายตา

    “เธอใส่อะไรลงไปในนั้น!

    “อะไรนะ” แฮร์รี่ย้อนถาม

    “เธอได้ยินแล้วนี่ ฉันเห็นนะว่าเธอเทอะไรลงไป!!

    “ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร” แฮร์รี่ตอบยักไหล่แล้วมองหน้ารอนยิ้มๆ

    “รอน! อย่าดื่มน้ำนั่น” รอนไม่ได้ฟังเฮอร์ไมโอนี่เลย เขายกแก้วน้ำนั่นขึ้นดื่มจนเกลี้ยง เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทางชิงชัง

    “เธอควรจะถูกไล่ออก ฉันไม่นึกเลยว่าเธอจะทำแบบนี้ได้แฮร์รี่!

    “พูดออกมาได้นะ” แฮร์รี่กระซิบตอบ “เธอเสกคาถางงงันใส่ใครอีกรึเปล่าล่ะช่วงนี้”

    เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก เธอลุกขึ้นเดินออกไปโดยไม่หันหลังมามองพวกเขาอีกเลย เฮเลนมองเหตุการณ์นั้นอย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร เฮเลนคิดว่าถ้าเกิดพูดเข้าข้างเฮอร์ไมโอนี่หรือแฮร์รี่ก็อาจจะมีปัญหาเกิดตามขึ้นมาอีกก็ได้ เธอเดินตามรอนและแฮร์รี่ออกไปจากห้องโถงเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ ดวงตาพยายามกวาดมองหาเฮอร์ไมโอนี่ระหว่างทางแต่ไม่พบเธอเลย

    “สภาพต่างๆ ดูดีมากนะ” จินนี่พูดเมื่อทั้งสามเดินมาถึงหน้าห้องเปลี่ยนเสื้อ เธอทำเป็นไม่สนใจรอน “เมื่อวานนี้เวชีย์ เซสเซอร์ของสลิธีรินถูกบลัดเจอร์อัดเข้าที่หัวตอนซ้อม เขาเจ็บจนลงเล่นไม่ได้ แล้วที่ดียิ่งกว่านั้นคือมัลฟอยไม่ลงเพราะเจ็บด้วยเหมือนกัน!

    “อะไรนะ” เฮเลนร้องในขณะที่กำลังจะขอแยกตัวออกจากแฮร์รี่เพื่อขึ้นไปบนอัฒจันทร์ “เกิดอะไรขึ้น”

    “ไม่รู้สิ! แต่มันยอดเยี่ยมมากสำหรับทีมเรา” จินนี่พูดเสียงใส "พวกเขาให้โอไรฮาร์ทลงเล่นแทนในตำแหน่งซีกเกอร์ ส่วนเชสเซอร์ให้แท็คเป็นคนลงเล่น โอไรฮาร์ทนะปัญญานิ่ม แต่สำหรับเราแล้วแท็คค่อนข้างน่ากลัวล่ะนะ”

    เฮเลนหันไปมองหน้าแฮร์รี่ที่มีสีหน้างุนงง เธอรู้สึกแปลกใจที่เดรโกไม่ลงเล่นในการแข่งขันนัดนี้ ความเป็นห่วงแล่นปลาบขึ้นมาส่งผลให้ขาทั้งสองข้างวิ่งออกจากสนามควิดดิชในทันทีโดยไม่สนใจเสียงเรียกของแฮร์รี่หรือรอนหรือแม้กระทั่งเฮอร์ไมโอนี่ที่เพิ่งจะเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนบ้านเรเวนคลอ ในหัวของเฮเลนตอนนี้มีเพียงคำถามเดียวคือเดรโกเป็นอะไรมากหรือเปล่า แค่นั้น!

    เฮเลนวิ่งขึ้นไปยังห้องพยาบาลของมาดามพอมฟรีย์ เธอวิ่งพรวดพราดเข้าไปโดยไม่ฟังแม้แต่เสียงปรามและพบว่าในห้องพยาบาลนั้นว่างเปล่า มีเพียงเวชีย์นอนพันผ้าที่หัวเอาไว้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เฮเลนโค้งให้มาดามพอมฟรีย์เล็กน้อยเป็นเชิงขอโทษก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์ทันที เธอนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ร่างบางวิ่งพรวดขึ้นไปบนหอหญิงและหยิบขวดแก้วเล็กๆ ขึ้นมา ภายในขวดแก้วนั้นบรรจุของเหลวสีทองเอาไว้เต็มเปี่ยม มันคงไม่แย่เท่าไหร่นักถ้าเกิดว่าเธอลองใช้มันเสี่ยงกับเรื่องนี้แค่เพียงจิบเดียวเท่านั้น

    ฝาของมันถูกเปิดออก เฮเลนยกมันขึ้นมาจิบเพียงเล็กน้อยและปิดฝากลับเข้าที่เดิม ความรู้สึกกังวลใจหายไปเป็นปลิดทิ้งและรู้สึกว่าตอนนี้เธอต้องไปทำอะไรสักอย่างที่หอชายตอนนี้ ร่างบางเก็บน้ำยานำโชคใส่กระเป๋าเสื้อคลุมก่อนจะเดินออกจากหอนอนหญิงผ่านห้องนั่งเล่นขึ้นไปยังหอชาย ความรู้สึกของเธอบอกได้ว่าหีบที่วางอยู่สะเปะสะปะนั้นใบไหนเป็นของแฮร์รี่ เฮเลนเปิดหีบออกแล้วค้นของด้านในอย่างช้าๆ ในที่สุดก็พบกับแผนที่ตัวกวนในนั้น

    “ข้าขอสาบานว่า ข้านั้นหาความดีไม่ได้”

    ไม้กายสิทธิ์แตะลงเบาๆ บนกระดาษ ชื่อของผู้สร้างแผนที่ตัวกวนก็ปรากฏขึ้น ชื่อของ เท้าปุย ทำให้เฮเลนรู้สึกจุกไปนิดหน่อยแต่มือเล็กๆ ก็กางแผนที่ออกพร้อมกับกวาดตามองหาชื่อของเดรโก มัลฟอยในนั้น ป้ายชื่อหลายป้ายขึ้นเต็มไปหมดที่สนามควิดดิช ภายในปราสาทก็มีชื่อของเด็กนักเรียนบางคนที่ยังนั่งอยู่ในห้องอาหารหรือห้องนั่งเล่นของตัวเองโดยไม่ไปดูการแข่งขัน

    “นี่ไง” ริมฝีปากบางพึมพำขึ้นมาเบาๆ ป้ายชื่อของเดรโกลอยเด่นอยู่ตรงบันไดเวียนและกำลังจะขึ้นไปที่ชั้นเจ็ดของปราสาทในตำแหน่งที่เฮเลนรู้สึกคุ้นตา “ตรงนั้นมัน... ห้องต้องประสงค์ไม่ใช่เหรอ”

    คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้ามาชนกันในทันที เด็กสาวปิดแผนที่ลงและพึมพำว่า แผนลวงสำเร็จแล้ว ก่อนจะรีบเก็บข้าวของของแฮร์รี่ให้เรียบร้อย เก็บไม้กายสิทธิ์และวิ่งออกจากช่องรูปภาพในทันที เฮเลนรู้สึกอยากจะแค่แอบดูว่าเขาเข้าไปทำอะไรในนั้น รู้สึกต้องการซ่อนอะไรสักอย่างที่มีอยู่แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร โชคดีที่เด็กสาวหยิบฉวยเอาสำรับไพ่มาจากในห้องนั่งเล่นด้วยเธอจึงรู้สึกได้ว่าควรเอาสำรับไพ่นี้ไปซ่อนไว้ที่ไหนสักแห่งเพื่อไม่ให้เชมัสโกรธ

    ในที่สุดเฮเลนก็เดินขึ้นมาถึงชั้นเจ็ด เธอยืนอยู่หน้ารูปภาพพ่อมดที่สอนให้โทรล์เต้นบัลเล่ต์ มือกำสำรับไพ่ในมือเอาไว้แน่นและพยายามนึกถึงสถานที่ดีๆ ที่สามารถซ่อนสิ่งนี้เอาไว้ให้ได้โดยไม่มีใครพบเจอ ดวงตากลมมองจ้องไปยังกำแพงที่มีประตูบานใหญ่ปรากฏขึ้นมาอย่างช้าๆ เฮเลนเลื่อนมือไปสัมผัสบานประตูค้างไว้ชั่วครู่ เธอรู้สึกว่าไม่ควรโผล่เข้าไปแบบโผงผางจึงค่อยๆ ดันประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ

    ฮาร์โมเนีย เนคเตอร์ พาสซัส

    เสียงพึมพำคาถาดังลอยแหวกอากาศอับชื้นในห้องที่เต็มไปด้วยสิ่งของประหลาดมากมายลอยมาเข้าหูของเธอ เสียงกระซิบแสนคุ้นหูที่ไม่ว่าจะได้รับฟังกี่ครั้งเธอก็สามารถรับรู้ได้ว่าเป็นใคร เฮเลนวางสำรับไพ่เอาไว้บนโต๊ะที่ใกล้ที่สุดและพยายามไม่ส่งเสียงดังให้ใครอีกคนที่อยู่ในห้องนี้ได้ยินและรู้ตัวก่อนที่เธอจะพบเขา ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบห้องกว้าง เฮเลนไม่เคยเห็นของมากมายขนาดนี้มาก่อน เธอค่อนข้างจะทึ่งที่ห้องต้องประสงค์สามารถเก็บอะไรเอาไว้ได้มากมายขนาดนี้

    “บ้าเอ๊ย!

    เสียงสบถดังๆ พร้อมกับเสียงกระแทกของอะไรบางอย่างทำให้เฮเลนสะดุ้ง ร่างบางก้าวเท้าเดินอย่างช้าๆ อีกครั้งและเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอทำอะไรเสียงดังเธอจึงเดินเลียบไปตามสิ่งของต่างๆ ในทิศที่เธอรู้สึกว่าควรจะไปจนในที่สุดเฮเลนก็พบกับเงาร่างของใครบางคนยืนอยู่ตรงหน้าตู้หน้าตาประหลาด ทำท่าทางหงุดหงิด ผมสีบลอนด์ดูยุ่งเหยิง

    “เมื่อวันก่อนมันยัง...” เดรโกบ่นงึมงำ เขาหันไปจับประตูตู้นั้นพร้อมกับส่งเสียงพึมพำอีกรอบ ฮาร์โมเนีย เนคเตอร์ พาสซัส

    เฮเลนยืนตัวแข็งทื่อ เธอรู้สึกว่าไม่ควรจะเดินออกไปพบเขา ควรจะยืนอยู่ตรงนี้และคอยฟังเขาไปอย่างเงียบๆ

    “พอที!” น้ำเสียงของเขาดูหงุดหงิด เดรโกกระชากประตูเปิดออกและโยนหนังสือหน้าตาแปลกๆ ออกไป “พอได้แล้วเดรโก มัลฟอย! คิดถึงตู้ ไม่ใช่คิดถึงเธอ!!

    คำว่า คิดถึงเธอ ทำให้เฮเลนรู้สึกอยากกระโจนออกไปถามเขาเสียงดังๆ เลยว่าเขาหมายถึงใคร แต่ความรู้สึกสั่งห้ามไม่ให้เธอทำแบบนั้น เฮเลนจึงยืนอยู่ที่เดิมต่อไปเงียบๆ

    เสียงฟุบดังขึ้นอีกครั้งเฮเลนพบว่าเดรโกทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น ชันเข่าขึ้นข้างหนึ่งและยืดขาขวาเหยีดตรง แขนซ้ายพาดอยู่บนหัวเข่าและแขนขวาใช้ยันตัวไม่ให้ล้มลงเมื่อเขาเงยหน้ามองเพดานห้องพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาราวกับกำลังผ่อนคลาย ริมฝีปากบ่นงึมงำอะไรสักอย่างฟังไม่ได้ศัพท์และในที่สุดเขาก็ก้มหน้าลงมองพื้นที่เต็มไปด้วยฝุ่นจับหนาเป็นนิ้วซึ่งเมื่อลุกขึ้นคงจะต้องใช้เวลานานพอควรเพื่อปัดมันออกจากกางเกง

    “ได้โปรเดรโก” เขาพึมพำ “แกไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว”

    เขาพูดแล้วยันตัวลุกขึ้น ควานหาของแถวๆ นั้นโดยการสุ่มหยิบมันขึ้นมา หนังสือเก่าอีกเล่มถูกโยนเข้าไปในตู้ ความเงียบเข้าปกคลุมห้องนี้อีกครั้ง เฮเลนยืนมองใบหน้าของเดรโกด้วยความเป็นห่วงเต็มหัวใจ ถึงแม้ตอนนี้เธอจะรู้แล้วว่าเดรโกปลอดภัยดี แต่ดูเหมือนเขากำลังจะทำอะไรบางอย่างที่ไม่ควรจะทำ

    ฮาร์โมเนีย เนคเตอร์ พาสซัส

    เสียงกระซิบท่องคาถาดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ความรู้สึกของเฮเลนบอกเธอว่าเธอควรจะเดินออกไป ไม่ใช่ออกไปตรงหน้าเขาแต่ออกไปยืนทางด้านหลังของร่างสูงที่กำลังหลับตาเพื่อตั้งสมาธิกับการร่ายเวทมนตร์ สองขาเล็กๆ ค่อยๆ ก้าวเดินอ้อมสิ่งของทั้งหลายออกไปยืนอยู่ด้านหลังของเดรโก ดวงตากลมจ้องมองแผ่นหลังที่ดูเหมือนจะกว้างขึ้นและเดรโกเหมือนจะสูงขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยจนตอนนี้เธอคงจะตัวเล็กเกินไปแล้ว

    ไม่ได้มีโอกาสยืนมองร่างสูงๆ ตรงหน้าแบบนี้นานแค่ไหนแล้วกันนะ หนึ่งเดือนหรือสองเดือนเฮเลนเองก็จำไม่ได้ว่ามันนานเพียงใด เธอยืนนิ่งๆ มองเขาท่องคาถาต่อไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเดรโกเปิดประตูตู้ออกอีกครั้งและเขาพบว่าหนังสือเล่มนั้นอันตรธานหายไปแล้ว เดรโกปิดประตูตู้ลงอย่างเบามือ เจ้าของดวงตาคมสีฟ้าซีดเงยหน้าขึ้นพ่นลมหายใจออกมานิดหน่อยก่อนจะหันหลังกลับมา

    อาการตกใจแบบไร้เสียงเกิดขึ้นในทันทีที่ดวงตาสีฟ้าซีดนั้นสบเข้ากับดวงตากลมโตสีเขียวมรกตอันแสนคุ้นเคย เขาพูดอะไรไม่ออก เพียงแต่อ้าปากโดยไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมาเลยแม้แต่พยางค์เดียว

    “สงสัยว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ใช่ไหม” เฮเลนพูดขึ้น “ฉันเอาไพ่มาซ่อนน่ะ แล้วก็มาเจอนายเข้า”

    “ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่า...”

    “ไม่อยากเจอฉันอีก” เฮเลนพูดขึ้นทั้งที่เดรโกยังพูดไม่จบ “ฉันรู้ว่านายคงไม่อยากจะพบจะเจอฉันอีก นายคงจะเกลียดฉันเอามากๆ เลยใช่ไหม”

    เฮเลนพูด คนตรงหน้าของเธอเงียบเสียงไป เหมือนกับว่าเขาคิดอะไรไม่ออก เจ้าของดวงตาสีฟ้าซีดมองใบหน้าหวานของเฮเลนอย่างเงียบๆ เขาพูดอะไรไม่ออกเมื่อจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและดูอ่อนล้ามากกว่าที่เคย เขามองเงาสะท้อนรูปของตนในดวงตานั้น

    “ฉันแค่อยากจะพูดในสิ่งที่ฉันยังไม่เคยพูด” เฮเลนพูดต่อ ความรู้สึกสั่งการให้เธอพูดในสิ่งที่เคยเก็บซ่อนเอาไวในใจเมื่อปีก่อนอกมา “ฉันไม่เคยบอกนายเลยว่าฉันรู้สึกยังไง ฉันไม่เคยพูดว่าฉันคิดถึงนายเลยถึงแม้ฉันจะรู้ว่านายอยากได้ยินมันแค่ไหนก็ตาม”

    “ฉันอยากมีนายอยู่ใกล้ๆ ฉันตลอดแต่ว่าฉันหยิ่งเกินไป ฉันถือทิฐิที่ว่าจะต้องเป็นนายเท่านั้นที่เข้ามาหาก่อน” เฮเลนยังคงพูดต่อ “ฉันมีอีกหลายเรื่องที่เก็บเอาไว้โดยไม่บอกนาย ฉันเก็บมันเอาไว้ตลอดเพราะเพียงแค่กลัวที่จะเอ่ยออกไป กลัวว่านายจะไม่เข้าใจและกล้วว่านายจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูด... ฉัน...”

    เฮเลนหลุบตาลง ในหัวเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่เรียงร้อยออกมาโดยไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรร่างบางก็ถูกกระชากแขนอย่างแรงและผลักไปกระแทกกำแพงจนเฮเลนรู้สึกได้ถึงความชาไปทั่วแผ่นหลังมากกว่าความเจ็บปวด

    “พอที!” น้ำเสียงของเดรโกเต็มไปด้วยความเดือดดาล “ฉันไม่ต้องการรับรู้อะไรเกี่ยวกับเธออีก!!

    ร่างสูงว่าพลางเท้าแขนเสองข้างข้ากับกำแพงโดยมีร่างของเธออยู่ตรงกลาง ดวงตาคมกริบจ้องมองมายังใบหน้าของเธอด้วยความเกรี้ยวกราด เฮเลนไม่เคยเห็นเดรโกโกรธขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต

    “ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ!” เขาตวาด “ฉันไม่อยากเจอเธออีก พูดแค่นี้ไม่เข้าใจรึไง!!

    “ฉัน... ฉันเข้าใจ!” ดูเหมือนว่าน้ำยานำโชคเพียงจิบเล็กๆ จะนำความโชคดีมาให้เธอได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เฮเลนรู้สึกว่าตัวเองตัวสั่นพร้อมกับความรู้สึกหวาดกลัวเมื่อได้สบนัยตาสีฟ้าซีดที่เคยมีเสน่ห์แล่นขึ้นมาสู่สมอง เธอทำตัวไม่ถูกนอกจากมองตอบเดรโกไปอย่างเงียบๆ

    “ดี!” เขากระแทกเสียงมือทั้งสองข้างเลื่อนมาจับต้นแขนของเธอแน่น “หลังจากนี้อย่าตามฉันมากอีก... ขอร้อง”

    ประโยคสุดท้ายเขาพูดโดยไม่สบตาเธอ เดรโกปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระก่อนจะหันหลังให้เฮเลน เด็กสาวยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ไม่ใช่ความรู้สึกสั่งเอาไว้ไม่ให้ไป แต่ว่าเฮเลนไม่อยากไปเสียมากกว่า เธอไม่อยากจะต้องจ้องมองตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างนี้เดินหลบหายไปอีกแล้ว

    ไม่ต้องการ!

    “เธอทำอะไร! ฉันบอกให้ไปไง!!” เดรโกตวาดลั่นเมื่อเขารู้สึกว่าสองแขนของเฮเลนโอบรัดรอบลำตัวของเขาเอาไว้ เฮเลนใช้แรงทั้งหมดในการกอดครั้งนี้เพื่อไม่ให้เดรโกสะบัดหลุดไปได้แต่ว่าตราบใดที่เธอยังเป็นผู้หญิง เธอก็ไม่สามารถสู้แรงมหาศาลของชายหนุ่มตรงหน้าได้เลยแม้แต่นิดเดียว!

    เดรโกจับมือของเธอดึงออกและหันหลังกลับมาจ้องหน้าเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว เบื้องหลังความรู้สึกโกรธนั้นกลับแฝงเอาไว้ด้วยอะไรบางอย่างที่เฮเลนตีความไม่ออก เขาใช่มือทั้งสองข้างจับข้อมือของเธอแน่นจนรู้สึกปวดไปหมด แว้บหนึ่งเฮเลนแอบเห็นแววตานั้นแสดงออกถึงความเจ็บปวดแต่มันก็เพียงแว้บเดียวเท่านั้น

    “ทำไมเธอถึงได้เข้าใจอะไรยากแบบนี้!!” เขาตวาดใส่อีกครั้ง “ถ้าเธอไม่ไปฉันจะ...!!

    “จะอะไร! จะทำอะไรก็เอาสิ!!” เฮเลนแทรกขึ้น “จะแช่งฉันหรืออะไรก็เชิญ! ฉันไม่ไปจนกว่านายจะฟังฉัน!!

    “ได้!!” เขาดันร่างบางอย่างแรงจนเฮเลนถอยกลับไปติดกับกำแพงอีกครั้งหนึ่ง กดข้อมือของเธอเอาไว้แนบกับกำแพงด้วยแรงโทสะของเขาก่อนที่ริมฝีปากจะประทับลงบนปากของเธอ จูบที่เต็มไปด้วยอารมณ์โทสะและความร้อนรุ่มถูกส่งมาให้โดยไม่เต็มใจรับ แต่มันกลับแฝงเอาไว้ด้วยความสับสนมากมายพร้อมทั้งความรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสที่เฮเลนเพิ่งเคยได้สัมผัส

    แผลเป็นปวดแสบปวดร้อนขึ้นมากะทันหันพร้อมๆ กับริมฝีปากที่บดขยี้ลงมาโดยไม่เว้นช่วงให้ได้หายใจ ความทรมานปะทุขึ้นมาในอกและเฮเลนหวังว่าเขาจะรีบปล่อยเธอเป็นอิสระเสียที นอกจากนั้นมือซ้ายของเธอยังรู้สึกเจ็บยิ้งขึ้นไปอีก ยิ่งรับการสัมผัสที่รุนแรง ยิ่งที่ให้รู้สึกเจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

    “ทีนี้ไปได้รึยัง...” เดรโกพูดเสียงเรียบ เขาถอนจูบออกและหันกลับไปที่ตู้อันตรธาน “ไสหัวไปได้แล้ว!

    เฮเลนทรุดตัวลงกับพื้นหายใจหอบเสียงดังพร้อมกับพยายามกักเก็บความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ถึงมันจะไม่ได้ผลก็ตาม หยดน้ำสีใสไหลลงมาจากดวงตากลมอย่างไม่อาจห้ามได้ อย่างน้อยตอนนี้เธอยังสามารถกลั้นเสียงสะอื้นได้ดีมากกว่าตอนที่อยู่บนเตียงนอน

    เฮเลนเก็บความรู้สึกปวดแสบปวดร้อนจากแผลเป็นบนหน้าผากพร้อมกับบนฝ่ามือเอาไว้ ดวงตาพร่าเบลอเนื่องจากมันเต็มไปด้วยน้ำตามากมายที่พรั่งพรูออกมา เธอยันตัวลุกขึ้นมองไปยังแผ่นหลังกว้างที่กำลังสั่นน้อยๆ ตรงหน้า อยากจะกอดเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพียงแต่ว่ามันคงไม่มีความหมายอีกแล้ว เฮเลนสาวเท้าเดินออกมาจากห้องต้องประสงค์อย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ปล่อยเดรโกเอาไว้เบื้องหลัง

    ร่างสูงเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงทรุดตัวลงนั่งทันทีที่ได้ยินเสียงประตูปิดลง ดวงตาคมสีฟ้าซีดกะพริบถี่ๆ เพื่อไล่น้ำตา เดรโกถอนหายใจออกมาเสียงดังเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกทรมานในทรวงอก เขาทำเรื่องที่แย่ที่สุดลงไปแล้ว ทำร้ายเธอทั้งคำพูดและร่างกาย เขาแอบคิดว่ายังไงเธอคงไม่มีวันกลับมารู้สึกดีกับคนอย่างเขาได้อีก... ไม่มีวัน

    “ขอโทษ”

    เสียงพึมพำอย่างแผ่วเบาดังออกมาจากริมฝีปากบาง เขายกมือขึ้นปาดของเหลวบนใบหน้าออกอย่างลวกๆ และลุกขึ้นยืนอีกครั้งหนึ่ง จิตใจมุ่งมั่นแน่วแน่ เดรโกยื่นมือไปจับบนบานประตูอีกครั้งและจ้องมันอย่างไม่ละสายตาพร้อมกับที่ในหัวนึกถึงร้านบอร์เจ็นและเบิร์กส์

    ฮาร์โมเนีย เนคเตอร์ พาสซัส

    เขาพึมพำออกมาอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า พูดเพื่อให้ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา เพื่อให้ตัวเองคิดไปว่าเฮเลนคงเกลียดเขาแล้ว เพื่อภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จโดยที่ไม่ให้เธอต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อชีวิตของเธอและเพื่อไม่ให้เขาทำลายเธอ เขาจะต้องทำ

    มันคงไม่มีอะไรที่จะเลวร้ายยิ่งกว่านี้อีกแล้ว



    ติตามตอนต่อไป


    ก่อนจากวันนี้ ฝากนิยายอีกสักเรื่อง 5555

    ยังไม่ได้ระบุพระเอกเช่นเคย ฮิ้วว//หลบเกิบ

    ฝากทุกคนด้วยนะคะ ♥

    อาจจะอัพไม่บ่อยเท่าเรื่องนี้ แต่รับรองแต่งเรื่องนี้จบ

    เขียนเรื่องนั้นต่อยาวๆ แน่นอนค่ะ >w<


    ปล. สำหรับเรื่องของอายุ ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ปรับอายุขึ้นไป 2 ปีค่ะ

    จากเรื่องจริงเข้าฮอกวอตส์ตอนอาายุ 11 ทุกตัวจะเปลี่ยนเป็นอายะุ13 ทั้งหมดค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×