ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] Impossible Miracle Love [คู่จิ้นตามใจฉัน]

    ลำดับตอนที่ #35 : [SF] Luhan x Xiumin - Third

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 56


    Title: Third
    Pairing: Luhan x Xiumin
    Author: BettyNoona
    Note: ตอนนี้มันมีที่มาที่ไป แต่เล่าให้ฟังไม่ได้ เขิน >/////< เพราะฉะนั้นห้ามถามมมมมมมม
     
    ชอบจังเลยนะ~~ ^///3///^
     
     


     
     
    __________________________________
     



     
     
     
    First …


     
     
    ด้วยอากาศที่ยังเย็นอยู่บวกกับที่นอนที่ยังคงเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ห่อตัวอยู่นั้น ก็ทำเอาคิมมินซอกแทบไม่อยากจะลุกจากที่นอนในช่วงวันสายๆแบบนี้เลยให้ตายสิ 
     
    คนตัวกลมก็เลยได้แต่กลิ้งไป กลิ้งมากับที่นอนเท่านั้น วันว่างๆที่ไม่มีเรียนแบบนี้คิมมินซอกช๊อบ ชอบ~ กลิ้งไป กลิ้งมาแล้วก็เลยกลิ้งไปหยิบรีโมทที่หัวเตียงแล้วกดเปิดทีวีดูซะเลย รายการก็เดิมๆ ซ้ำๆ แต่ไม่เป็นไรมินซอกดูได้ขอแค่ห้องนี้ไม่เหงาจนเกินไปก็พอ
     
    วันนี้คิมมินซอกคิดว่าอยากจะนอนไปให้ถึงช่วงบ่ายแก่ๆเลยเถอะ หลังจากที่ทั้งทำงานแล้วก็เรียนไปด้วยแทบจะไม่ได้หยุดมา 3อาทิตย์ ก็มีวันนี้นี่แหละที่มินซอกจะได้อยู่ว่างๆเหมือนคนขี้เกียจบ้าง งานก็ส่งหมดแล้ว วิชาเรียนก็ไม่มี สุขใจจังเลยน้า~
     
    ดังคำกล่าวที่ว่าชอบมีมารมาผจญยามที่เรากำลังได้ดิบได้ดี... และตอนนี้มารผจญของมินซอกก็คือเพื่อน
     
    “ว่าไงโทรมามีไร” กดรับสายได้มินซอกก็ถามหาเรื่องซะเลย ตอนนี้เพื่อนเขาอยู่ที่ไหนนะฝั่งดูเสียงจอแจเหลือเกิน
     
    “นี่แกอยู่ไหนมินซอก” คนโดนถามก็หัวเราะใส่ซะเลย
     
    “ก็อยู่บ้านสิ จะให้ไปไหนล่ะ” มินซอกพลิกตัวไปอีกด้านของเตียงแล้วก็หลับตาลง เย็นๆแบบนี้หลับอีกสักตื่นก็คงดี
     
    “ไอ้มินซอกนี่ลืมใช่ไหมว่าวันนี้ต้องมาเข้าประชุมมอน่ะ วันนี้เช็คชื่อห้ามขาดนะเว๊ย!!” มินซอกทำตาโตแล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
     
    “ห๊ะ!!! แย่แล้ว!!!!!” หันมองนาฬิกาแล้วก็รีบกดตัดสายทันที
     
    ไม่เกิน 10นาทีมินซอกก็เตรียมพร้อมออกจากบ้าน ข้าวอะไรก็ไม่ต้องกินมันหรอกไปหาเอาดาบหน้าดีกว่า นี่พูดเลยนะว่าคนตัวกลมลืมไปแล้วว่าวันนี้มีประชุมมอที่ห้ามโดด ในเวลาเร่งด่วนแบบนี้จะโดยสารรถประจำทางก็คงจะไม่ไหว มินซอกรีบวิ่งไปรถไฟใต้ดินทันที แม้ว่าคนจะเยอะแต่ก็คงต้องยอมล่ะ
     
    และวันนี้โชคก็ไม่เข้าข้างมินซอกเอาซะเลยเมื่อคนใช้บริการรถไฟใต้ดินเยอะมาก อาศัยที่สัดส่วนตัวเล็กพอที่จะหลบหลีกเบียดขึ้นไปได้ คนตัวกลมยืนเกาะเสาหอบหายใจ เล่นเอาซะเหนื่อยเลยให้ตายสิ อีกสักแปบก็คงถึงมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เพื่อนเขานี่สิโทรจิกไม่หยุดเลย
     
    “เออเนี่ยออกจากรถไฟใต้ดินแล้ว อีกแปบก็ถึง” มินซอกพยายามอย่างมากที่จะแทรกคนอื่นออกมาจากขบวนรถไฟ
     
    พอออกมาได้ก็วิ่งหน้าตั้งเลยทีนี้ คิมมินซอกตัวกลมรีบวิ่งแบบแทบจะไม่คิดชีวิตเลย เพราะถ้าไปช้าแล้วทุกคนเข้าห้องโถงประชุมหมดแล้วล่ะก็... นรกแน่ๆ!!
     
    มินซอกรีบวิ่งเข้ามหาวิทยาลัยมาก็เห็นนักศึกษาทุกคนกำลังต่อแถวเดินเข้าประตูห้องโถงประชุมใหญ่อยู่ มีประตูทั้งหมด 8 บานใหญ่ แบ่งให้เข้าประตูละ 2คณะ คณะละ 3แถว คณะของมินซอกใช้ประตูทางเข้าร่วมกับคณะวิศวะ 
     
    “ถึงแล้วน่า ต่อแถวอยู่แกอยู่ไหนล่ะ” มินซอกชะโงกหน้ามองก็เห็นเพื่อนที่ต่อแถวอยู่ด้านหน้าๆชะโงกหน้ามาโบกมือให้ 
     
    “ก็จำไม่ได้นิ ฉันไม่ผิดนะคยองซูนั่นแหละผิดที่ไม่ยอมโทรมาเตือนให้เร็วกว่านี้น่ะ” เสียงต่อล้อต่อเถียงกับเพื่อนของมินซอกทำให้คนรอบข้างหันมามอง รวมถึงใครบางคนที่ต่อแถวอยู่แถวข้างๆด้วย ดวงตาเรียวคู่นั้นมองมินซอกที่ยิ้มไปก็พูดกับเพื่อนไป ก็เลยยิ้มตามไปด้วย ฝั่งที่มินซอกต่อแถวอยู่นั้นกำลังได้รับแสงแดดอยู่พอดีเลย
     
    “แค่นี้ก่อนนะ เข้าไปจองที่ให้ด้วย ตรงนี้ร้อนอ่ะข้างหน้ารีบๆเดินเข้าไปเลยนะ” แล้วก็ต่อด้วยเสียงหัวเราะน่ารักใสๆของคนตัวกลม พอกดวางสายได้เสร็จมินซอกก็ยมือขึ้นป้องตาแล้วก็ทำหน้าขัดใจ
     
    “เมื่อไหร่จะหมดแดดนะ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” มินซอกกำลังบ่นแดดอยู่ อยู่ๆก็รู้สึกถึงเงามืดมาบังแดดเสียอย่างนั้น พอหันกลับไปมองก็เจอเข้ากับผู้ชายตัวสูงกว่าที่ยืนเอาหมวกแก๊ปบังแดดให้อยู่ มินซอกกระพริบตาปริบๆแล้วก็มองคนที่ยืนส่งยิ้มมาให้ด้วยความไม่เข้าใจ
     
    “ร้อนไม่ใช่เหรอ” มินซอกพยักหน้ารับ
     
    “อือ.. ก็ร้อนนะ อ่า.. ขอบคุณนะ” ก็เลยส่งยิ้มให้ไปอีกหนึ่งที คนนั้นก็ยังใจดียืนเอาหมวกบังให้อีกแน่ะ แถมยังจะโบกมือพัดลมให้อีกด้วย ใจดีจังเลยนะ~
     
    “ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เราไม่ร้อนแล้ว นายกลับไปต่อแถวดีกว่ามั้ง” 
     
    “ไม่เป็นไร”
     
    “เปล่าคือ... แถวนายเลื่อนไปไกลแล้วนะ” มินซอกชี้ให้คนใจดีดู พอหันไปก็เห็นพวกเพื่อนๆโห่ร้องแซวกันอยู่ 
     
    “ถามได้ไหม ว่าชื่ออะไร” มินซอกมองคนที่ถามชื่อแล้วก็ยิ้ม
     
    “อืม... ไม่บอกหรอก ไว้เราเจอกันอีกรอบเราค่อยบอกแล้วกัน เราไม่อยากสานต่อกับกับคนที่จะเจอแค่ครั้งเดียวหรอกนะ นายก็คงไม่อยากเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”
     
    “รู้ได้ไงว่าเราจะเจอกับแค่ครั้งเดียว..”
     
    “ไม่รู้สิ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้นนะ ไปต่อแถวได้แล้ว” คนนั้นส่งยิ้มให้จนตาหยี
     
    “รับรองว่าเราได้เจอกันอีกแน่” แล้วเขาก็เดินไปต่อที่แถวกับเพื่อนๆ ก็ดูเหมือนจะโดนเพื่อนๆแซวด้วย แต่มินซอกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร...
     
    คนนั้นที่อยู่คณะวิศวะหันมามองมินซอกอยู่บ่อยครั้ง แถววิศวะเลื่อนไปไวต่างจากแถวที่มินซอกต่อ มินซอกมองตามสายตาของคนนั้นที่มองมา เมื่อเขายิ้ม มินซอกก็ยิ้มให้
     
    ...ก็อยากจะรู้เหมือนกันแหละว่าเราจะได้เจอกันอีกไหม...
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    Second …


     
     
    วันนี้มินซอกมีนัดส่งงานให้ลูกค้า เห็นแบบนี้มินซอกก็เป็นถึงเว็บดีไซน์นะ ถึงจะเรียนมาไม่ตรงกับที่ทำงานก็เถอะ แต่ใครล่ะจะสน? ขอแค่เราทำงานและผลงานออกมาดี ถูกใจและตรงตามความต้องการของลูกค้าก็พอ แต่ขอบอกเลยนะว่ามินซอกไม่ได้ทำงานชุยๆนะจะบอกให้
     
    สถานที่นัดส่งมอบงานให้ลูกค้าก็เป็นสถานที่ทั่วๆไปอย่างเช่น ร้านกาแฟ ร้านนี้มินซอกชอบมาก ถึงจะดื่มกาแฟมากไม่ได้แต่มินซอกชอบกินขนมของที่ร้านมากๆ ไม่หวานเกินไป อร่อยกำลังดีเลย มินซอกเลือกมุมหนึ่งที่ติดกับกระจก แม้จะไม่ใช่โต๊ะติดริมกระจกเลย แต่ก็กระเถิบออกมาแต่ก็เห็นวิวนอกกระจกอยู่ดี
     
    มินซอกชอบกระจก... มินซอกชอบมองผู้คนทั่วไปที่เดินผ่าน บางครั้งเวลามองแล้วมินซอกก็รู้สึกดี บางทีก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เหงาอยู่คนเดียวในโลกนี้
     
    กว่าครึ่งชั่วโมงที่มินซอกนั่งคุยกับลูกค้า หลังจากคุยกันเสร็จเรียบร้อยมินซอกก็ยังนั่งต่อที่เดิม เก็บข้าวของเสร็จก็จัดการดื่มกาแฟในแก้วแล้วก็กินขนมที่สั่งมาให้หมด รอยยิ้มของมินซอกถูกใครบันทึกภาพลงสมองไปเรียบร้อยแล้ว
     
    ไม่นานคนตัวกลมก็ละเลียดกินขนมจนหมด เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มจะหย่อนนะสิ มินซอกกำลังขี้เกียจล่ะ ยกมือบิดขี้เกียจนิดหน่อยก็ประสานมือตั้งศอกเตรียมเท้าหัวแอบอู้กันเลยทีเดียว พอมองวิวในร้านเบื่อแล้วมินซอกก็หันออกไปมองวิวด้านนอก
     
    “เฮ้ย!” มินซอกร้องอย่างตกใจที่เห็นใครบางคนที่คุ้นตาที่ยืนด้านนอกกระจก คนนั้นส่งยิ้มมาให้ก่อนที่จะเดินเข้าร้านมานั่งที่ฝั่งตรงข้ามของมินซอก
     
    “มายืนตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ” มินซอกเอ่ยถาม อีกฝ่ายก็ยิ้มตอบ
     
    “ก็ตั้งแต่คุยกับคนเมื่อกี้สักพักน่ะ” มินซอกทำตาโต
     
    “โห้! ยืนอยู่ตั้งนาน แล้วมายืนทำไมล่ะ ตามเรามาเหรอ?”
     
    “ไม่ได้ตาม วันนี้เรามาเดินเล่นดูของน่ะแล้วก็ผ่านมาเจอพอดี” ตัวเขาไม่ได้โป้ปดเพราะเขามาเดินจริงๆแล้วก็ไมได้แอบตามมาด้วย แม้จะอยากแอบตามก็เถอะ ดักรอที่มหาวิทยาลัยแล้วก็ไม่เห็นจะเจอเลย นี่เรียกว่าเป็นพรหมลิขิตได้ไหมนะที่ทำให้เขามาเจอกับคนแก้มกลมตรงหน้า
     
    “แล้วซื้อหรือยังล่ะ” อีกฝ่ายส่ายหัว
     
    “ยังเลย เดินมาเจอนายซะก่อนน่ะสิ” แล้วก็ตบท้ายด้วยยิ้มอีกครั้ง
     
    “ตอนนี้นายก็ทำตามสัญญาได้แล้วนะ” มินซอกถอนหายใจแล้วก็นั่งเท้าคางกับโต๊ะ จะมาทำหน้าตาซื่อแล้วบอกจำไม่ได้มันก็คงดูไม่ดีสินะ
     
    “แล้วไม่คิดที่จะบอกชื่อตัวเองก่อนเหรอ?” อีกฝ่ายยิ้มแล้วก็ขยับตัวนั่งเท้าคางคนละข้างกับมินซอก
     
    “ฉันชื่อลู่หาน”
     
    “ฉันชื่อมินซอก” ทั้งสองยิ้มให้กันก่อนที่ลู่หานจะเอียงคอแล้วส่งยิ้มซะตาเล็บยิบหยีให้มินซอก
     
    “ขอเบอร์ได้ไหมมินซอก?” มินซอกส่งยิ้มคืนแล้วส่ายหน้ายิ้มล้อเลียน
     
    “เจอกันรอบหน้านะลู่หาน”
     
    “ถ้าเจอกันอีกรอบหน้า ขออะไรก็จะให้หรือเปล่า” ลู่หานยักคิ้วท้าทาย มินซอกยิ้มขำคืนให้
     
    “ถ้าให้ได้ก็จะให้นะ แต่ถ้าให้ไม่ได้ก็ตกไปนะ” มินซอกหัวเราะเบาๆก่อนที่จะขยับตัวมานั่งพิงหลังกับเก้าอี้ดีๆ 
     
    “มินซอกว่างแล้วใช่ไหม ไปเดินเล่นกันไหม”
     
    “แล้วลู่หานดูของเสร็จหรือยังล่ะ” ลู่หานยักไหล่เบาๆ
     
    “ไปดูกับมินซอกก็ได้นิ” คนที่โดนลากไปเดินเป็นเพื่อนยู่หน้าใส่
     
    ลู่หานลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปคว้ามือพร้อมกับกระเป๋าสะพายข้างของมินซอกแล้วดึงออกจากร้านไป แม้มินซอกจะโวยวายแต่ลู่หานก็ไม่ยอมปล่อยมือหรอกนะ ตัวประกันของมินซอกก็สะพายอยู่ที่ไหล่ของลู่หานด้วย เพราะฉะนั้นมินซอกหนีเขาไม่ได้อีกแล้วล่ะ
     
    ลู่หานไม่เชื่อทฤษฎีเรื่อความบังเอิญ แต่ลู่หานเชื่อในเรื่องของโชคชะตา ดังนั้นการที่เขาได้เจอกับมินซอกนั้นเรื่องของโชคชะตาไม่ใช่เรื่องความบังเอิญ มินซอกที่เดินหน้ามุ่ยคงไม่รู้หรอกว่าลู่หานน่ะใจเต้นแค่ไหน ยิ่งมือนิ่มๆที่จับสอดประสานอยู่นี่ยิ่งแล้วใหญ่
     
    ถ้าโชคชะตาจะปราณีต่อลู่หานบ้าง... ขอให้เขาได้เจอกับมินซอกเป็นครั้งที่ 3 และแน่นอนว่ามันจะต้องมีครั้งต่อๆไปอีกแน่นอน
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    Third …



     
    มินซอกกำลังหงุดหงิด เปล่า... ไม่ได้หงุดหงิดสภาพอากาศหรือคนโดยสารรถราหรอก แต่หงุดหงิดที่ตัวเองจะต้องไปมหาวิทยาลัยนี่แหละ ทุกคนคงไม่รู้แต่มินซอกพยายามเลี่ยงที่จะไม่ไปมหาวิทยาลัยมา 1อาทิตย์แล้ว 
     
    หลายคนอาจจะรู้ .. ใช่ แบบนั้นแหละ.. มินซอกกลัวเจอลู่หาน การเจอ 2ครั้งสำหรับมินซอกมันไม่ใช่เรื่องธรรมดาและมันก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่คนเราจะเจอกันได้ถึง 3ครั้ง แต่ยังไงก็กันไว้ก่อนดีกว่า 
     
    คือถ้าจะให้พูดตามตรงมินซอกกลัวอนาคตจริงๆนั่นแหละ ถึงกับแอบไปถามตารางเรียนกับเพื่อนที่เรียนวิศวะเลยนะ ก็แอบๆสืบมาแล้ววันนี้ลู่หานไม่มีเรียนมินซอกถึงยอมมา วันนี้ต้องมาแก้รายงานกลุ่มน่ะสิ ก็ทั้งเซ้งและเบื่อรวมกันไปเลย
     
    พอลงจากรถโดยสารได้มินซอกก็เดินเข้ามหาวิทยาลัยพร้อมกับกดมือถือถามเพื่อนไปด้วยว่าอยู่ที่ไหนสลับรับฟังได้ใจความว่าอยู่ใต้ตึกคณะ มินซอกก็อือออรับรู้ไปตามเรื่องตามราว วันนี้มินซอกไม่ได้รีบเพราะฉะนั้นจังหวะการก้าวเท้าก็เป็นปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติ.. มินซอกเหมือนรู้สึกว่ามีคนเดินตาม
     
    นักศึกษาในมหาวิทยาลัยนั้นเยอะแยะ เดินกันให้ขวักไขว่ มันไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าจะมีคนเดินตามหลังและไปในทางเดียวกัน แต่มันน่าแปลกตรงที่รู้สึกเหมือนโดนจ้องน่ะสิ ตอนนี้มินซอกจะหันไปมองดีหรือจะวิ่งหนีไปเลยดีนะ?
     
    “มินซอก” เสียงเรียกมาพร้อมกับมือที่จับบ่า ทำเอาคนโดนเรียกสะดุ้งโหยง มินซอกหมุนตัวกลับไปมองคนด้านหลังที่ยืนส่งยิ้มมาให้พร้อมกับล้วงสองมือเข้ากระเป๋ากางเกง
     
    “......ลู่หาน” วันนี้ลู่หานอยู่ในชุดนักศึกษาและไม่รู้ว่ามินซอกรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่วันนี้ลู่หานดูอารมณ์ดีแปลกๆ
     
    “ในที่สุดก็มามอจนได้นะ” มินซอกกระพริบตาปริบๆ ลู่หานยิ้มกว้างๆก่อนที่จะสาวเท้าเข้ามาใกล้มินซอกอีก 1ก้าว
     
    “รู้ไหมเรามาดักรอมินซอกทุกวันเลยนะ ในที่สุดมินซอกก็มาจนได้... เราเจอกัน 3ครั้งแล้วนะ มินซอกจำสัญญาได้ไหม”
     
    “จำได้สิ เราไม่ได้ขี้ลืมขนาดนั้นนะ เอามือถือนายมาสิ” มินซอกแบมือขอและลู่หานก็ล้วงออกจากกระเป๋าเสื้อให้ มินซอกรับมาก็กดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองก่อนที่จะกดโทรเข้าเครื่องแล้วหยิบมาให้ลู่หานดูว่า นี่น่ะเบอร์เขาจริงๆ โทรได้และติดจริง
     
    “ลู่หานมีเรียนเหรอวันนี้” ลู่หานหยิบมือถือมากดเมมชื่อก่อนที่จะยัดใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตามเดิม
     
    “เปล่าหรอก ฉันมาดักรอเจอมินซอกโดยเฉพาะเลยนะ” คนโดนมาดักรอก็เอียงคอทำหน้าสงสัย
     
    “ดักรอเรา? ดักทำไมล่ะ? ลู่หานมีอะไรหรือเปล่า”
     
    “จะว่ามีก็มีนะ มินซอกจำสัญญาอีกข้อที่เราบอกได้ไหม? ถ้าเราเจอกันรอบที่ 3 มินซอกจะให้ตามที่ขอทุกอย่างน่ะ” มินซอกพองแก้มแล้วยกมือเท้าสะเอวทันที
     
    “นี่ลู่หาน! เราบอกว่าถ้าให้ได้เราจะให้ต่างหาก!!” ลู่หานไหวไหล่แล้วแลบลิ้น
     
    “ว๊า~ เนียนไม่ได้เลยแหะ”
     
    “แล้วลู่หานจะขออะไร บอกไว้ก่อนนะถ้ามากเกินไปเราก็จะไม่ให้นะ” มินซอกชี้นิ้วใส่ ลู่หานพยักหน้าแล้วกับนิ้วชี้นั้นไว้
     
    “เราขอเป็นแฟนมินซอกได้ไหม” คนโดนขอเป็นแฟนทำหน้าตกใจ อ้าปากค้างเลยน่ะสิ ลู่หานหัวเราะชอบใจแล้วก็ปล่อยนิ้วมินซอกที่จับได้
     
    “อย่ามาพูดเล่นนะลู่หาน”
     
    “เราก็ไม่ได้พูดเล่นนะ... เราอยากเป็นแฟนมินซอกจริงๆ ครั้งแรกที่เราเห็นมินซอกเราก็ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงเดินไปบังแดดให้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มินซอกหันมานั่นแหละ” ลู่หานที่หูแดงก็หันหน้าหนีแล้วยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองแก้เขิน มินซอกเองก็เขินแต่ก็เลือกที่จะมองลู่หาน
     
    “ลู่หานอยากเป็นแฟนเราจริงๆเหรอ?” คนอยากเป็นแฟนพยักหน้ารับแม้จะยังหันหน้าไปมองทางอื่นอยู่ก็ตาม
     
    “ลู่หานหันมามองหน้าเราสิ” ลู่หานค่อยๆหันมา หูของลู่หานแดงจนมินซอกอยากจะหัวเราะ แต่ตอนนี้มันก็หัวเราะไม่ออก
     
    “ถ้าลู่หานอยากจะเป็นแฟนเรา... เดินไปส่งเราที่คณะสิแล้วเราจะยอมให้ลู่หานจีบ” ลู่หานค่อยๆแย้มยิ้มจนกลายเป็นยิ้มกว้างแล้วก็คว้ามือของมินซอกมากุมไว้
     
    “เราไปส่งมินซอกได้ทุกที่เลยนะ อยู่ได้ตลอดเวลาเลยด้วย” มินซอกหัวเราะเบาๆ
     
    “รู้แล้วน่า ไปเถอะเราสายแล้ว” ลู่หานเปลี่ยนจากที่กุมมือมินซอกเป็นมาจับมือสอดประสานแล้วเดินไปกับคนตัวกลม ลู่หานยังคงประหม่า เหมือนกับมินซอกที่กำลังหัวใจเต้นแรง
     
     
     
    ...บางที คิมมินซอกก็จะไม่เหงาอีกแล้ว...
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×