คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : dancing in the fire
ll and they're screaming out loud around me. ll
____________________________________________________
◣Application
◣Profile◥
“ตราบชั่วชีวิต คำสวดภาวนาเดียวที่ฉันขอ,
นั่นคือการที่จะได้ฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง ”
บทบาท : [5] ผู้วิเศษคนที่ห้า
ชื่อ/นามสกุล : ออสก้า โลเวล โคลด์ l Oscar Lowell Colt
*โลเวลเป็นนามสกุลฝั่งแม่ เนื่องจากเป็นตระกูลที่มีชื่อไม่ต่างจากตระกูลโคลด์ แม้แม่ของเขาจะแต่งออกจากบ้านมาแล้ว เธอก็ยังใช้นามสกุลของเธอไว้ในชื่อของเขาและน้องสาวเพื่อให้เกียรติตระกูลต้นกำเนิดตนเองอยู่ดี*
ชื่อเล่น :
โลเวล l Lowell [ ความจริงแทบจะเรียกว่าชื่อเล่นไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นนามสกุลทางฝั่งแม่ของเขา แต่ออสก้ามักจะบอกให้ทุกคนเรียกเขาด้วยชื่อนี้อยู่บ่อย ๆ เว้นแต่จะสนิทใจกัน เหมือนจะบอกว่าถ้าไม่ได้รู้จักกันดี ก็อย่ามาตีซี้มั่วซั่ว, อะไรแบบนั้น ]
ออส l Oss [ สำหรับเพื่อนสนิทและครอบครัว ]
ออสซี่ l Ossy [ บางคนเรียกมันเพื่อกวนประสาทเขา ส่วนบางคนก็เรียกเพราะความเคยชิน แน่นอนว่าออสก้าโคตรเกลียดชื่องี่เง่านี่เลย l และเรื่องตลกก็คือ ออสก้าไม่ได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าคนแรกที่เริ่มเรียกเขาด้วยชื่อนี้ ก็คือพี่ชายต่างแม่อย่างวัลดัสนั่นแหละ ]
ความหมายของชื่อ : ออสก้า - หอกเทพเจ้า l โลเวล - หมาป่า l โคลด์ - ทรงอำนาจ l ออสก้า โลเวล โคลด์ - { หมาป่าผู้ครอบครองหอกแห่งพระเจ้าที่ถือครองไว้ด้วยอำนาจ }
สัญชาติ : American
เชื้อชาติ : American
เพศ : Male
ลักษณะภายนอก : ดวงตาที่ราวกับกำลังแผดเผาโลกทั้งใบ สีเงินที่วาววับดั่งแสนจันทราในเงามืดของความเงียบสงัดยามราตรี ออสก้า โลเวล โคลด์ ชายหนุ่มผู้นั้นเต็มไปด้วยความน่าหวั่นเกรงทั้งในบรรยากาศรอบตัวและสีหน้า ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียวคิ้วมักขยับขมวดเข้าหากัน และริมฝีปากที่เรียบตึงอยู่เสมอ เส้นผมสีพาวเดอร์ของเขานุ่มฟูเหมือนขนสัตว์หากไม่ได้รับการจัดทรงมากเท่าใดนัก รูปลักษณ์ที่ปรากฏรอยบาดแผล รวมถึงการเจาะที่ใบหูซ้ายกับระหว่างสนับมือ มันจึงทำให้เขาน่ากลัวเขาไปใหญ่ มวลกายที่ไม่ได้สูงใหญ่มากนัก กระนั้นกลับมีกล้ามเนื้อแข็งแรงสมบูรณ์ดี แค่มันมักถูกบดบังโดยเสื้อผ้าสีทึบอยู่เสมอ บางครั้งจึงอาจถูกเข้าใจผิดไปเสียได้บ้าง ออสก้ามักสวมรองเท้าผ้าใบที่เปลี่ยนแทบไม่ซ้ำวัน แน่นอนว่าไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษนอกจากรวยมากและเป็นความพอใจส่วนบุคคล (171ซม. l 63กก.)
จุดที่มีตราผู้วิเศษปรากฏ : หลังคอ
ปีศาจที่หวาดกลัวมากที่สุด : ซาตาน ปีศาจแห่งความโกรธเกรี้ยว [ นิสัยของเขาที่เป็นแบบนี้โดยทุนเดิม ความเดือดดาลที่ประทุตลอดเวลา และอารมณ์ที่ไม่สามารถกักเก็บความโกรธเหล่านั้นไว้ได้เหมือนอย่างคนปกติ ความโมโหร้ายของเขามากกว่าคนปกติมาก และนั่นก็สร้างเรื่องสร้างปัญหาให้เขาบ่อยครั้งเลยด้วย แต่ว่าพอโตขึ้นมาจนอายุขนาดนี้ กับบางเรื่องมันก็พอจะคุมได้บ้างแล้วล่ะนะ.. ]
อายุ : 22 - year - old
อุปนิสัย :
• F I R E
หากทุกคนปรารถนาที่จะจินตนาการภาพของผู้ชายที่ชื่อว่า ออสก้า โลเวล โคลด์ ทุกคนล้วนแนะนำและสนับสนุน ให้คนเหล่านั้นจินตนาการภาพของเปลวเพลิงอันร้อนระอุได้เลย เพราะตัวของออสก้านั้น หากเปรียบเเล้วต้องเป็นไฟ แถมยังเป็นไฟร้อนเฉียดองศา ที่กะจะเผามันให้วอดทุกอย่างด้วยความเกรี้ยวกราดในตัวของเขาอีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งสีหน้าที่ดูหงุดหงิดอยู่เสมอ หรือจะตาดุ ๆ กับเสียงแหบต่ำที่ห้วนสั้นของเขา ไม่ว่าจะอะไรขับเน้นบรรยากาศรอบตัวชายหนุ่มคนนี้ให้ดูร้อนระอุไปหมด แบบที่ว่าไม่น่าเข้าใกล้เอาซะเลยอีกต่างหากล่ะนั่น..
เป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่มันชักช้า เอื่อยเฉื่อย และค่อยเป็นค่อยไปเท่าไหร่นัก สำหรับออสก้า มันไม่ได้ดั่งใจ และเขาก็ไม่ชอบเรื่องที่มันยุ่งยากจนเกินไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถใจเย็นได้กับเฉพาะเรื่องที่ชอบเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นการเล่นหุ้น เขาสามารถจมกับของที่ชอบได้ทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่รู้จักเบื่อเลยล่ะ พอตัดภาพไปเรื่องอื่น ดันกลายเป็นว่าโยนทิ้งตั้งแต่สามสิบนาทีแรกซะอย่างนั้น..
ดูเป็นคนที่มีความหุนหันพลันแล่นในตัวสูง แต่ก็นั่นแหละ แค่ดูเหมือน..หรือว่าใช่นะ? จะว่ายังไงดี เขาเป็นคนที่ทำอะไรก็เร็วไปซะทุกอย่าง คนรอบตัวก็เลยคิดว่าเขาเป็นพวกทำก่อนเเล้วค่อยคิด แต่พอดูผลลัพธ์ก็ดันออกมาดูดีซะอย่างนั้นนี่สิ..ถ้าถามถึงเหตุผล แน่นอนว่าต้องมี ก็เพราะว่าออสก้าเป็นมนุษย์ที่คาดเดาทุกอย่างได้อย่างแม่นยำจากการวิเคราะห์ในชั่วอึดใจอย่างไรล่ะ
• A G G R E S I V E
หนึ่งในสิ่งที่ขึ้นชื่อลือชาเป็นอย่างมาก นั่นคือความก้าวร้าวของเขาที่มากระดับทะลุปรอทแตก เรียกได้ว่าอยู่กับใครก็ไม่เว้น จะเด็กหรือผู้หญิงก็ว้ากใส่โต้ง ๆ หรือจะอยู่กับคนสูงอายุ ก็พร้อมถอนหงอกได้ทุกเมื่อถ้าไม่พอใจเช่นกัน เขาดูเหมือนกับระเบิดที่ถ้าเผลอเหยียบก็ระเบิดตู้มได้ดื้อ ๆ ออสก้ามีสิ่งที่สามารถทำให้เขาหงุดหงิดได้กองเท่าบ้าน อย่างข้างบ้านที่ชอบทะเลาะกัน หรือหมาที่เอาแต่เห่าไม่หยุด แค่นั้นมันก็ทำเขาหงุดหงิดขึ้นมาได้แล้ว
ปกติแล้วเป็นคนที่พูดจาหยาบคายได้แบบน่าร้องไห้แทนบิดามารดาเป็นอย่างมาก แต่ส่วนมากแล้วจะเป็นคำสบถมากซะกว่าการพูดสนทนากับคนอื่น อาจหลุดคำลงท้ายหรือสรรพนามไม่น่ารักบ่อย ๆ แต่ก็พยายามไม่ใช้คำด่าคำหยาบกับคนอื่นเหมือนกัน จะเห็นได้ว่าออสก้าพูดจาเหมือนปกติได้โดยทั่วไป ทว่าเวลาที่เขาตกใจหรือสะดุ้ง ก็จะหลุดสบถออกมา ส่วนเวลาไหนพึมพำกับตัวเอง ก็ชอบเผลอหลุด 'แม่งเอ้ย' 'ไอ้ห่x' 'เวรเหอะ' ออกมาตลอดเลยล่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าสมมติมีคนเข้ามากวนประสาทเขา เขาก็พร้อมจะด่าหยาบใส่คนพวกนั้นเหมือนกันนะ สำหรับเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกด้วยกันเอง ออสก้าไม่มีความอดทนด้วยเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกปากปู อารมณ์ประมาณว่า ถ้าไม่อยากกินข้าวสวยที่บ้าน ก็เดี๋ยวพาไปกินข้าวต้มที่โรงพยาบาล อะไรแบบนั้น บวกกับการกระทำของเขาที่ค่อนข้างซื่อตรงกับใจไปสักหน่อย เลยดูเป็นคนที่ดุร้ายมาก ถือคติ 'ถ้าไม่ฟัง ก็เดี๋ยวมาคุยกันด้วยหมัด' อีกต่างหากนั่น
• I N E X P R E S S I V E
เด็ดขาดอย่างมากถึงที่สุด ประสบการณ์ในอดีตสอนให้เขาโตมาเป็นคนที่มีการตัดสินใจอย่างฉับไวและเด็ดขาด คำว่าโลเลไม่ได้อยู่ในพจนานุกรมของออสก้าอีกต่อไปแล้ว เขามักจะเลือกสิ่งต่าง ๆ ด้วยความรวดเร็วอยู่เสมอ และมันไม่ใช่การเดาสุ่ม แต่เป็นการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนดีเเล้วต่างหาก แค่เพราะว่าเขาคิดไวไปสักหน่อย คนอื่นเลยแอบนึกระแวง ไม่ค่อยกล้าเชื่อในการตัดสินใจของเขาสักเท่าไหร่ เเต่เชื่อเถอะ ออสก้าน่ะเดาอะไรไม่เคยจะผิดหรอก
คำไหนคำนั้นมาก ๆ ออสก้าไม่ชอบการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เดี๋ยวอย่างโน้น เดี๋ยวอย่างนี้ เขาเลยเป็นพวกเสาบ้านเสาเมือง ที่พอปักฉึกลงไปแล้วก็ไม่ยอมย้ายถิ่นไปที่ไหนอีกเลย หลายคนสามารถสบายใจได้กับนิสัยในส่วนนี้เมื่อทำสัญญากับออสก้า เพราะพิจารณาได้แล้วแน่ ๆ ว่าออสก้าจะไม่ผิดคำพูด และทำตามสัญญาแน่ ๆ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าอายก็ตาม แต่สำหรับการงานหรือบางเรื่องที่เป็นการตัดสินใจทำให้เกิดความเดือดร้อนกับคน ๆ นั้น มันก็จะเหนื่อยสักหน่อย เพราะว่าต่อให้ร้องไห้เกาะขาอ้อนวอนยังไง เขาก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจน่ะสิ
นอกจากนี้แล้วออสก้ายังเกลียดมนุษย์จำพวกชอบตามตื๊อเป็นที่สุด เป็นแมลงวันกันรึไงถึงได้ชอบมาเกาะแกะวอแวให้รำคาญกันนัก ยิ่งถ้าพูดไม่รู้เรื่องนะ เผลอ ๆ จะโดนเขาจับทุ่มลงถังขยะเข้าให้สินั่น อีกอย่าง ถ้าเขาจะเลือกแบบไหนทำอะไร เขาก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ต้องมาจูงจมูก ไม่ต้องมาโปรยเหยื่อล่อแมลงแถวนี้ เขาไม่ได้โง่ขนาดจะโดนทำให้ไขว่เข้วได้แค่เพราะคำพูดหรอกนะ
• R E B E L
หัวรั้นที่สุดในสามโลก นิสัยที่เหมือนกับเด็กคือไม่ค่อยฟังใครเอาซะเลย อย่างบางครั้ง ก็ปฏิบัติหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บกลับมาเป็นแผลเหวอะหวะ แต่ก็ยังมีหน้าวิ่งสลอนโบกปืนเข้าหาพวกปีศาจได้หน้าตาเฉยอยู่อีก ออสก้ามีคุณหมอส่วนตัวที่คอยเช็คสุขภาพให้เขาประจำในทุกเดือน และเขาก็โดนอีกฝ่ายบ่น (ด่า---) อยู่ตลอดเวลาเกี่ยวกับการใช้ร่างกายโดยไม่รักษาหรือถนอมมันเอาเสียเลย แน่ล่ะว่าไม่เคยจะฟังเขาหรอกไอ้คน ๆ นี้
ไม่ชอบให้ใครมาสั่ง และจะไม่ฟังด้วยถ้ามันไม่ใช่เรื่องของหน้าที่ คำสั่งอันไหนไร้สาระจัดออสก้าก็จะทำเมินไปเลย หรือบางครั้ง เขาเจอพวกอันธพาลแล้วมาทำห้าวสั่งให้เขาเอาเงินให้นี่ก็จะหงุดหงิด (อีกแล้ว) เเล้วเผลอซัดพวกมันจะเดี้ยงก็บ่อย ออสก้ารักอิสระ และชอบอะไรที่ไร้กฎเกณฑ์ แต่เขาไม่ใช่คนที่ขยันแหกกฎ อันไหนที่รับได้ก็จะปฏิบัติตามตามความพึงพอใจ ก็นั่นแหละ..ถ้ากดขี่มากไป เขาก็ระเบิดโบ้มได้อยู่ดีล่ะนะ
ฝืนสังขารเก่งมาก ๆ ผิวหนังทนทานกว่าชาวบ้าน เคยเจอกับความเจ็บที่มากมายเกี่ยวกับแขนมาก่อนครั้งหนึ่ง เลยรู้สึกว่าความเจ็บที่เหลือมันธรรมดาไปเลย ออสก้าติดนิสัยชอบลุยดาหน้าไปเป็นคนแรก เขาไม่สนว่าตัวเองจะตัวเล็กกว่าชาวบ้าน หรืออาจจะมีสภาพที่ไม่พร้อมรบ แค่คิดว่า ถ้ามันจำเป็น ไม่ว่าเรื่องไหนเขาก็ต้องทำให้ได้ ดังนั้นจึงเป็นคนที่ไม่ค่อยกลัวตายเท่าไหร่นัก อาจเพราะไม่มีเรื่องอื่นให้ต้องกังวลเว้นเเต่ราคาหุ้นเเล้วด้วยนั่นแหละ..
• G E N I U S
อัจฉริยะภาพในร่างยากูซ่า---ออสก้าเห็นหน้าแบบนี้แต่เป็นคนที่เก่งในเฉพาะทางของเขามาก เด่นมาก ๆ ในเรื่องของทักษะคณิตศาสตร์ ต่อมาก็คือเรื่องการเรียนรู้ สมองของออสก้าเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้เร็ว และร่างกายของเขาปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้โดยง่ายอยู่เสมอ ถ้าหากเขาพยายามเอาใจจดใจจ่อกับมันสักหน่อย นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะทำออกมาได้ดี
หลายคนอิจฉาเขาในเรื่องนี้ แต่ออสก้ากลับค่อนข้างเบื่อหน่าย เพราะมันทำให้เรื่องรอบตัวดูง่ายดายไปซะหมด เขาเลยมีนิสัยขี้เบื่อ และไม่ชอบอะไรที่มันง่ายเกินไป กลายเป็นถูกคนเขาด่าว่าบ้า ของง่ายไม่ชอบ ชอบอะไรที่มันยากแบบลากเลือด ออสก้ามักจะรู้สึกดีเวลาเจอกับเป้าหมายที่ยากมากในการคว้ามันมา และต่อให้มันจะเป็นเรื่องซีเรียสขนาดไหน ลึก ๆ แล้วในใจของเขาก็กำลังตื้นเต้นและกระหายในความท้าทายนั้นอยู่ดี
ผู้คนเขาว่ากันว่า คนที่ดีแต่ใช้กำลังล้วนเป็นพวกโง่เขลา แต่ก็น่าเสียดาย ที่ออสก้าไม่ได้มีดีแค่กล้ามหน้าท้องและกล้ามแขน เขายังมีดีถึงขั้นสมองที่อยู่ในกระโหลกสวยสวย ๆ นี่อีกด้วยนี่สิ ว้า แย่จัง ใครอิจฉาก็ทนหน่อยนะ (เอาล่ะ, ถึงขั้นนี้ก็ไม่ต้องบอกเเล้วล่ะเนอะ ว่าจริง ๆ พ่อคุณก็แอบเป็นคนกวนประสาทโดยสันดานอยู่เหมือนกัน ถนัดนักไอ้เรื่องเยาะเย้ยถากถางชาวบ้านเขาเนี่ย..แค่ไม่ค่อยยอมรับก็เท่านั้นแหละ)
• L A Z Y
ความมุ่งมั่นต่อเรื่องที่ตั้งเป้าหมายไว้มีมากเท่าไหร่ ความขี้เกียจต่อเรื่องอื่น ๆ ก็มีมากเท่านั้นแหละ ถ้าเกิดให้เลือกระหว่างไปทำงานกับนอน ออสก้าย่อมเลือกการนอนแน่นอนอยู่เเล้ว100% เขาชอบพักผ่อน และจะโคตรหงุดหงิดเลยด้วยถ้ามีคนมารบกวนการพักผ่อนของเขา เป็นคนที่หลับยากตื่นง่าย แต่ถ้าหลับแล้วก็คือหลับยาว แบบว่าถ้าไม่มีคนมาปลุก บางทีก็หลับมันข้ามคืนล่อไป12ชั่วโมงก็ยังเคยมีมาแล้วเลย
ดังนั้นไม่ต้องบอกเลยว่า ถ้ามีคนมาปลุก หรือมีอะไรมาขัดขวางคืนวันพักผ่อนของเขา ออสก้าจะรู้สึกอารมณ์เสียขนาดไหน เขาชอบที่จะตื่นเองมากกว่าถูกปลุก เสียดายก็แต่ไม่ค่อยจะเป็นแบบนั้น ออสก้าเลยมักตื่นมารับรุ่งอรุณกับสีหน้าที่หงิกงอเหมือนโดนบังคับให้กลืนโคลนลงท้องอยู่ตลอด และจะแผ่รังสีทะมึนออกมาหนักมากในช่วงเช้า ผมเพ้ายุ่งเหยิงเนื่องจากว่าขี้เกียจหวี สภาพเช่นนี้จึงสรุปได้เป็นนัยว่า ไม่ชอบตื่นเช้านั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงจะขี้เกียจตัวเป็นขน เรื่องหน้าที่การรับผิดชอบก็ไม่เคยขาดตกบกพร่องหรอก ออสก้าจะบ่นอยู่ตลอดเวลาว่าเขาโคตรขี้เกียจเลย อยากกลับไปพักจะแย่เเล้ว กระนั้นทุกคนก็ยังเห็นเขาทำงานของเขาต่อไปอยู่ดี เช้ามาก็รดน้ำต้นไม้ สาย ๆ หน่อยก็นั่งตรวจหุ้น สักพักก็คุยปรึกษาธุรกิจกับญาติคนสนิท ไป ๆ มา ๆ ตกเย็นก็แบกปืนไปทำหน้าที่ผู้วิเศษ แล้วก็กลับมานอนหลับตายรัง..ก็..เป็นชีวิตที่ดูเรียบง่ายดีล่ะนะ
• K I N D ?
ใจดีรึเปล่า? ก็คงต้องบอกได้ว่าครึ่ง ๆ ปกติไม่อ่อนข้อให้ใครหรือมีความเมตตาสงสารอะไรเท่าไหร่ อย่างถ้าต้องฝึกศิลปะการต่อสู้ให้ใคร ก็จะฝึกแบบเข้มงวด ไม่มีการพักมือหรือผ่อนปรนลงเลยแม้แต่น้อย มือหนัก เท้าหนัก ไฟในใจยังหนักหน่วงอีกต่างหาก เรียกได้ว่าถ้าพยายามแล้วต้องเอาให้สุด ต้องเอาให้ได้ จนกว่าจะตายกันไปข้างก็ห้ามหยุดพักเด็ดขาด แต่เขาก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ หากจะล้มลงสักครั้งหนึ่งน่ะ
เป็นคนที่ให้อภัยในความล้มเหลว เขาไม่กล่าวว่าหากจะมีสักคนทำผิดพลาดไป แต่คน ๆ นั้นก็ต้องระลึกและสำนึกในบาปของตน..กล่าวว่าผู้ที่ผิดนั้นไม่ใช่ผู้ที่ร่วงหล่น แต่คือผู้ที่ไม่คิดปืนกลับขึ้นมาต่างหาก ออสก้ารักในความพยายาม เขาชอบคนที่มีใจเข้มแข็งจะมีชีวิตที่ดีหรือทำบางสิ่งให้สำเร็จ เพราะมันมักสะท้อนให้เห็นถึงตัวเขาในก่อนหน้านี้ ที่พยายามอย่างหนักเพื่อพาตัวเองขึ้นมาจากความทรมานดั่งว่าตายทั้งเป็นนั่น..
ทว่าหากบางสิ่งที่ได้ทำผิดพลาดลงไป มันเลวร้ายจนยากให้อภัย ตัวเขาเองก็ไม่สามารถปล่อยปละไปได้ ทุกคนที่ทำผิดล้วนแต่ต้องรับโทษ ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็ตาม มันเป็นสัจธรรมของโลกนี้..เขาเองก็เช่นกัน ในอดีตเขาทำเรื่องผิดพลาด และถึงแม้ว่าออสก้าจะไม่ชอบช่วยเหลือใครพร่ำเพื่อ แต่ถ้าเกี่ยวกับเรื่องของชีวิต เขาก็ไม่ลังเลที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย ไม่ว่าใครก็ตาม เพราะเขามีตราบาปในจิตใจเกี่ยวกับเรื่องนี้..ที่เขาเคยเป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งทำให้คนตายมากมาย ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตใครไว้ได้ เขาก็จะรู้สึกผิดมาก ๆ และคอยกล่าวโทษตนเองเสมอเลยล่ะ
• A D D I C T E D
อาการที่เสพติดในความเคยชินต่าง ๆ เข้าไส้เข้ากระดูกดำ ออสก้ามักจะทำกิจวัตรเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา แม้ว่าปากจะบอกว่าเบื่อก็ตาม แต่นั่นก็คือความเคยชินอย่างหนึ่งของเขาที่แก้ไม่หาย ร่างกายของเขากำหนดตารางชีวิตให้เองโดยอัตโนมัติ หรืออย่างบางเรื่องก็เป็นหนักขนาดว่าแก้มันไม่หายเลยด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น ลูกอมรสคาราเมล คนอื่นน่ะชอบแซวว่าเขาติดหวาน มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่านั่นคืออาการเสพติดอย่างหนึ่ง
ออสก้าต้องมีลูกอมรสคาราเมลติดกระเป๋าเอาไว้ เพราะถ้าเขาเครียดจนเกินไป ร่างกายจะสั่นและหายใจไม่ออก ยาตัวไหนก็ช่วยเขาไม่ได้ แต่ลูกอมรสคาราเมลดันทำได้ซะอย่างนั้น ฟังดูตลก แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับเขามากเลยนะ..อีกอย่าง เขาชอบกินหวาน และลูกอมรสคาราเมลก็หวานด้วย ถ้าไม่ได้กินล่ะก็เขาจะหน้าบูดบึ้งมากเลยล่ะ แถมยังหัวอ๊อง ๆ เบลอ ๆ อีกต่างหากนั่น
แต่ถ้าพูดถึงอาการเสพติดอย่างอื่น หรือการเสพติดผู้คน..คงต้องบอกว่าออสก้าเสพติดการสัมผัส ทั้งการกอด การจับมือ หรือกระทั่งหอมแก้มและจูบ หากมีคนที่ชอบ เขาคงจะชอบอีกฝ่ายที่มีนิสัยเข้ากับเขาได้ และมีกลิ่นหอมหวานเหมือนกับขนมติดตัว แต่การเป็นคนรักของเขามักมีเรื่องน่าหน่ายใจ เพราะเขาคนนี้ไม่อายอะไรเลย แม้จะอยู่กลางฝูงชน ก็สามารถดึงมือคุณไปจูบได้หน้าตาเฉย เเค่เพราะว่าชอบแค่นั้นเอง
• A F R A I D
ความกลัวสำหรับออสก้า มันดูเหมือนเป็นสิ่งที่อยู่ห่างไกลกันคนละโลก เว้นเพียงแต่บางสิ่งเท่านั้น ที่เขาหวาดกลัวมันมากจริง ๆ และแน่นอนว่าเขาไม่ยอมพูดถึงสิ่งที่กลัวหรอก..ว่ากันว่าความกลัวก็คือจุดอ่อนร้ายแรงอย่างหนึ่ง การเปิดเผยจุดอ่อนจึงไม่ต่างอะไรจากการตัดแขนและขาของตนเองออก เขาเป็นคนระแวดระวังไม่น้อยเลยล่ะ เห็นทำหน้าหัวร้อนไปวัน ๆ แต่ความจริงเเล้วละเอียดอ่อนมาก เพราะจะให้มีสิ่งที่ทำให้เขาเผลอหลุดอาการกลัวของตนออกไปให้คนอื่นรู้ไม่ได้ยังไงล่ะ
ออสก้ากลบเกลื่อนสีหน้าของตนได้เก่ง ในขณะที่ควบคุมความโมโหแทบไม่ได้ เขากลับเก่งมากถ้าเป็นเรื่องการเก็บงำความกลัว ต่อให้สีหน้าจะนิ่งแค่ไหน บางทีในใจเขาอาจจะกำลังกู่ร้องอย่างบ้าคลั่งก็ได้ ออสก้าจะไม่บอกใครเลย แต่ตอนที่เขากลัว เขามักมีอาการสั่นเมื่อมันมากจนทนไม่ไหว แล้วก็มีอาการปวดศีรษะรุนแรงกับอาการหายใจไม่ออกร่วมด้วย นั่นจึงอันตรายมากที่เขาเอาแต่เก็บงำมันเอาไว้เเบบนี้
สำหรับบนโลกนี้ มีเพียงสองสิ่งที่เขาหวาดกลัว นั่นคือ ของแหลม และผู้ชายคนหนึ่ง---หากแต่ในอย่างหลัง ออสก้าทั้งเกลียดและกลัวอีกฝ่ายไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นต่อให้ต้องเผชิญหน้าเเล้วจะรู้สึกสั่น เขาก็จะไม่หนีแน่ ๆ
เพราะว่าเขาจะต้องฆ่ามันให้ได้ยังไงล่ะ..
ประวัติ :
ลักษณะการพูด : โทนเสียงของออสก้ามีความแข็งกระด้างอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับคนทั่วไป เขาจะให้อารมณ์เหมือนคุยอยู่กับยากูซ่าตลอดเวลา เพราะออสก้าเป็นคนพูดจาห้วน ๆ และลงเสียงหนัก บวกกับน้ำเสียงติดแหบและต่ำในลำคอ จึงทำให้เขาดูน่ากลัวมากเพียงแค่เปิดปากพูด บางครั้งก็ติดกรรโชกเสียงหรือตะโกนไปบ้าง แต่ถ้าโกรธเเล้ว เสียงจะนิ่งและเย็นจนรู้สึกหนาวหลังคอได้ง่าย ๆ เขาไม่ใช่คนสุภาพ ไม่และไม่มีวันเป็นด้วย แต่ก็ไม่ใช่คนที่ชี้หน้าด่าใครไปทั่ว เเค่ชอบเผลอสบถบ่อย ๆ แค่นั้นเอง ออสก้ามักเรียกแทนตัวว่า ฉัน เรียกคนอื่นว่า เธอ / นาย / แก (อันนี้ถ้ามากวนตีนเขาน่ะนะ..) ไม่มีหางเสียง แม้ว่าจะคุยกับผู้ใหญ่ก็ตาม เขาเถียงเก่งมาก และพูดไวมาก เพราะฉะนั้นก็ทำใจให้สงบ แล้วเตรียมหูฟังให้ดีล่ะ ไม่อย่างนั้นจะฟังไม่ทันเอาได้นะ
{ ตัวอย่างประโยคสนทนา }
• first situation
ช่วงเช้าเวลายามเช้าในวันที่ไม่มีงานทำ มันสมควรเป็นเวลาอันสงบสุข ที่เขาจะสามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบายใจ แต่กลับมีสิ่งหนึ่งกำลังรบกวนวันแสนสงบของออสก้า ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองหลับตาเเน่นจนแทบจะเป็นการข่มตา หัวคิ้วขมวดพันทบกันยุ่งเหยิง สีหน้าหงุดหงิดรำคาญใจ และเส้นเลือดก็ปูดโปนขึ้นมาบนขมับจากอาการหงุดหงิดขั้นสุด
เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามเอาที่อุดหูมายัดใส่หูตัวเอง หรือเอาหัวจุ่มหมอนพันม้วนด้วยผ้าห่มสักแค่ไหน เสียงโหวกเหวกโวยวายจากบ้านข้าง ๆ ก็ยังดังกระหน่ำไม่หยุด อาจจะเป็นคู่สามี-ภรรยาช่วงหมดโปร หรือเป็นแม่ลูกที่ไม่ลงรอยอะไรกันสักอย่าง แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ..
ร่างโปร่งกระโดดลงจากเตียงนอน เดินดุ่ม ๆ เข้าประชิดขอบหน้าต่าง เขาเปิดมันออกด้วยเเรงเต็มที่จนมันกระแทกกับผนังส่งเสียงปึง! ดวงตาสีเงินมองถลึงไปยังเพื่อนบ้านทั้งสองที่ติดสตั๊นท์ หยุดแหกปากทะเลาะกันแล้วหันหน้ามามองเขาเเทน
ก่อนที่ออสก้าจะสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วตะโกนออกไปทันทีว่า
"หนวกหูโว้ย!! คนจะหลับจะนอน จะทะเลาะกันก็ไปทะเลาะในส้วมไป๊!!!"
• second situation
บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยควมตึงเครียด ดวงตาสองคู่สบประสานกันนิ่งเนิ่นนานมากว่าสิบนาทีแล้ว หนึ่งคือชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีเงินวาววับ ท่าทางเอาเรื่องและเต็มไปด้วยความจริง และสองคือดวงตาสีน้ำตาลหลังกรอบแว่นสี่เหลี่ยม ชายวัยกลางกับกระดาษผลรายงานการตรวจสุขภาพประจำเดือน ที่ทำให้พวกเขาทั้งสองคนต้องมาจับเข่าคุยกันอยู่แบบนี้
"คุณโลเวล..หมอว่ามันถึงเวลาแล้วนะครับ" ลมหายใจถอนออกมาหนึ่งเฮือก ในขณะที่คนตรงหน้าเขามีสีหน้าดำทะมึนมากเข้าไปใหญ่ หมอวัยกลางลังเลอยู่ครู่ ก่อนจะตัดสินใจบอกด้วยสีหน้าจริงจังว่า "คุณต้องดของหวานครับ"
เมื่อฟังจบ ก็ยิ่งเหมือนกับมีเงาดำพาดทะมึนลงบนหน้า ชายหนุ่มก้มหน้าลง ก่อนจะเงยขึ้นมาสูดหายใจลึก เอ่ยถามอย่างจริงจังว่าระยะเวลาคือเท่าไหร่ แล้วก็ทำสีหน้าลำบากใจทันที เมื่อเห็นคุณหมอประจำตัวชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว
"..สองวัน?" ออสก้าถาม หน้าตาเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
"สองเดือนครับ"
ปึง!
อ่า..คนไข้ของเขาลุกหนีออกไปซะแล้วสินั่น..ทำยังไงต่อดีล่ะทีนี้?
• third situation
ช่วงเวลายามตีสองแบบนี้ไม่ใช่เวลาที่ควรออกมาเดินเตร่ข้างนอกเลยสักนิด แต่ออสก้ากลับรู้สึกนอนไม่หลับ เขาลุกออกมาจากบ้านพักหลังน้อยโดยที่ไม่สวมทั้งเครื่องป้องกันความหนาว หรือกระทั่งเเขนเทียมของตน เดินไปเรื่อย ๆ ไร้จุดหมายซะจนน่าสับสน
กระทั่งเขาสังเกตเห็นร้านอาหารอิตาลีแห่งหนึ่ง ดวงตามองเข้าไปด้านในนั้น เห็นภาพเงาสะท้อนที่ปรากฏขึ้น หากแต่กลับเป็นภาพที่ถูกย้อนหวนกลับไปในวันที่ตัวเขาอายุเพียงแค่สิบห้าปี..วันเกิดครบรอบปีนั้น คุณพ่อพาทุกคนในครอบครัวมาที่นี่ เพื่อเลี้ยงฉลองให้ใครเขา
ใช่..ทุก ๆ คน..
'ออสซี่นี่ชอบพาสต้าจังเลยนะครับ' เสียงเย็นระรื่นเอ่ยออกมา ดวงตาสีส้มจ้องมองมายังเขาที่ร้องห๊า?ออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด
'แล้วแกจะมายุ่งอะไรด้วย' เด็กหนุ่มกล่าวตอบฮึดฮัด ก่อนเขาจะเลิกใส่ใจพี่ชายต่างสายเลือดคนนั้นไปเมื่อโรเซตต้าหันมาคุยกับเขาบ้าง
ภาพในความทรงจำทุกอย่างไหลเข้ามาในหัว และแน่นอน..มันรวมถึงภาพที่วัลดัสแอบเลื่อนจานพาสต้าที่ยังไม่ได้รับการแตะต้องของตัวเองมาให้กับเขา ที่กินมันอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่คิดจะเอ่ยขอบคุณใด ๆ ออกมาแม้แต่คำเดียวก็ตาม
พลันเสียงร้องแจ้งเตือนดังจากโทรศัพท์มือถือในกระเป๋า ออสก้ากะพริบตาหนึ่งครั้ง ก่อนภาพทุกอย่างจะหายลับไป เขาหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาเปิดดู พบว่ามีงานด่วนเข้ามา ชายหนุ่มหันหลังกลับ ทิ้งความทรงจำในอดีตที่ไม่มีค่าอะไรอีกแล้วไว้เบื้องหลัง ใบหน้าเรียบสนิทจนน่าสงสัยเสียจริง ว่าในหัวของเขา กำลังคิดคาดหวังอยากให้ทุกอย่างกลับไปเรียบง่ายเหมือนกับวันวานอย่างเดิมรึเปล่านะ?
• fourth situation
เสียงทะเลาะโหวกเหวกของเด็กหนุ่มวัยรุ่นสองคนทะเลาะกันกลางที่สาธารณะ มันดังโหวกเหวกเสียดหูตลอดเวลา และแม้ว่าสถานการณ์จะไม่เอื้ออำนวย พวกเขาก็ไม่คิดใส่ใจกันเลย เอาแต่ทุ่มคำพูดต่าง ๆ มากมายใส่กัน สาปส่งให้ไปตายด้วยเหตุผลงี่เง่าบางอย่างไม่ยอมหยุด
"เฮ้ย ๆ ให้มันพอดีเถอะน่า มาทะเลาะกันอะไรกลางทางเดินวะเนี่ย" ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีเงินวาวเอ่ยอย่างเหลืออด เขาเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปหาคนทั้งสอง แต่ตอนที่ขยับเข้าไปใกล้นั้น ออสก้าถูกหนึ่งในนั้นเหวี่ยงแขนใส่เต็มแรงจนชายหนุ่มตัวเซ
และตอนที่เด็กหนุ่มคนนั้นหันกลับไปยังคู่กรณี ตั้งท่าว่าจะยกหมัดเข้าใส่ เขากลับเปล่งเสียงแหกปากร้องลั่น เรี่ยวแรงมหาศาลจากฝ่ามือกระชากเข้ามาที่ข้อมือ บีบกดลงไปเต็มแรงจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นกร็อบ ดวงตาสีเงินโชนเเสงรำคาญใจสุดขีดในขณะที่จ้องไปยังเด็กหนุ่มทั้งสอง
"ฉันบอกว่าให้พอไม่ใช่รึไงวะ?" ก่อนเขาจะขยับริมฝีปากเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ เล่นเอาผู้ก่อความไม่สงบถึงกับสะดุ้ง ตัวแข็งทื่อไปเลยทีเดียว
• fifth situation
เสียงอัดกระแทกแรงบางอย่างลงบนกล่องกระดาษและถุงขยะมากมายดังอย่างต่อเนื่อง ภายในตรอกแคบ ๆ เหม็นอับสกปรกที่ไม่มีใครจะเห็น ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังอาละวาดอย่างหนัก ฝ่าเท้าฟาดลงไปย้ำ ๆ บนเศษขยะเบื้องหน้าจนมันเละเทะกระจัดกระจาย แต่ต่อให้เขาจะทำแบบนั้นซ้ำไปอีกนานแค่ไหน มันก็ไม่ได้ช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
"ห่xเอ๊ย!!" ริมฝีปากสบถคำหยาบออกมา ก่อนเขาจะหันยกเท้าถีบถังขยะข้างตัวจนล้มคว่ำ แล้วทิ้งร่างนั่งลงบนพื้นดินสกปรกในเวลาต่อมา
ลมหายใจหอบหนักจนรู้สึกแสบปอดไปหมด ออสก้าชันข่าขึ้นรองรับกับศอกของเขาเอง ฝ่ามือยกหยีกลุ่มผมเเน่นจนแทบเปลี่ยนเป็นดึงทึ้ง ดวงตากดต่ำจ้องมองพื้นดินสกปรกเบื้องหน้า หัวสมองได้ยินเสียงเต้นตุบ ๆ ดังต่อเนื่องไม่ยอมหยุด
เขาทำพลาด..เขาไม่สามารถช่วยคนอื่นได้ ทั้งที่เขามีพลังต่างจากคนพวกนั้นแท้ ๆ..
ฟันขาวขบกัดกรอดลงบนกลีบปาก แรงมากถึงขนาดเริ่มที่จะได้กลิ่นสนิม พลันท้องฟ้าร้องคำรามก้อง ก่อนสายฝนมากมายจะเริ่มโปรยปรายลงมาอาบย้อมร่างกายเขาให้เปียกปอน ใบหน้านั้นชุ่มโชก ดูไม่ออกอีกแล้ว ว่าแท้จริงหยดน้ำใสนั้นคือหยาดน้ำฝน หรือเป็นน้ำตาจากดวงตาของเขากันแน่
พลังพิเศษ :
• Blood Heat [ ออสก้าสามารถเผาไหม้เลือดให้ร้อนขึ้นมาได้ โดยลักษณะจะแตกต่างกันสองประการ หนึ่งคือเลือดในร่างกายมนุษย์ เขาจะเพิ่มอุณหภูมิมันขึ้นมาจนทำให้ผู้ถูกพลังรู้สึกร้อนไปทั่วทุกพื้นที่ที่มีเลือดแล่นพล่าน และอาจจะทำให้ช็อคหรือหมดสติไปเลยก็ได้ สองคือกรณีที่เป็นเลือดที่ไหลออกมาจากร่างเเล้ว เขาสามารถเพิ่มความร้อนและเปลี่ยนให้มันกลายเป็นระเบิดได้ ซึ่งมันจะต้องใช้เวลาสักนิดหน่อยล่ะนะ (30วินาที - สร้างอาการทรมานสำหรับเลือดที่อยู่ในร่าง / 20วินาที สำหรับการทำเลือดที่อยู่นอกร่างกายระเบิด ]
• Eyes Catcher [ การตรวจสอบตำแหน่งของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในรัศมีห้าสิบกิโลเมตร ดวงตาของออสก้าสามารถรับรังสีความร้อนของสิ่งมีชีวิตในการระบุตำแหน่งได้ แต่ว่าเขาจะไม่สามารถระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้ นั่นจึงเป็นปัญหาไม่น้อย โดยการใช้พลังของออสก้านั้นสามารถควบคุมทิศทางหรือตำแหน่งที่ต้องการจะตรวจสอบได้ แค่ว่าเขาต้องเพ่งสมาธิให้ดี (ถ้าจินตนาการไม่ออก ให้ลองนึกถึงเวลางูมันหาตำแหน่งเหยื่อดูนะคะ) ]
ความสามารถพิเศษ :
• ทักษะทางคณิตศาสตร์ [ ออสก้าเป็นคนที่คำนวณเลขต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก เขาสามารถคูณเลขสี่หลักในใจได้ด้วยซ้ำ ]
• การคาดเดาประเมินผล [ ไม่ใช่เซ้นส์ แต่เป็นการรวบรวมข้อมูลก่อนนำมาประมวลหาผลลัพธ์ที่น่าจะออกมาดีที่สุด แล้วกอปรออกมาเป็นรูปแบบความคิดสำหรับการดำเนินการต่อ ]
• ศิลปะการต่อสู้ [ หลังจากโศกนาฎกรรมวันนั้นก็เรียนรู้เรื่องนี้อย่างจริงจัง เขาทำได้ทั้ง ซิสเตมา, บ็อกซิ่ง, คาราเต้ และ คาลี อัสครีม่า (ศิลปะการใช้อาวุธประเภทมีดและไม้ของชาวฟิลิปปินส์ ถือเป็นต้นแบบการใช้อาวุธจำพวกมีดที่อันตรายที่สุดในโลก) ]
• การยิงปืน [ เขาไม่ได้ยิงแม่นมากนัก แต่มีความคล่องแคล่วสำหรับอาวุธประเภทนี้สูง และออสก้ายังประกอบปืนเป็นอีกด้วย ]
สิ่งที่ชอบ :
• ขนมหวาน [ เรียกว่าเสพติดรสหวานก็ได้มั้ง เพราะกินเเล้วไม่เครียด ก็เลยกินบ่อย จนกลายเป็นว่าติดรสชาติแบบนี้ไปแล้วน่ะ ]
• ลูกอมคาราเมล [ มันช่วยทำให้เขาคลายเครียดได้ดี บวกกับรสหวานนุ่มลิ้น เลยยิ่งถูกใจออสก้าเป็นพิเศษ ]
• วันที่ไม่มีงาน [ ต่อให้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะตามล่าวัลดัสให้ได้ แต่วันธรรมดาเขาก็ต้องทำงานปกติ ออสก้าที่ไม่ได้กระตือรือร้นกับเรื่องอื่นนอกจากภารกิจตามฆ่าพี่ชายตัวเอง เลยรู้สึกดีใจมาก ๆ ที่ได้หยุด ]
• อาหารจำพวกเส้น [ อร่อยดี, เขาจะชอบสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศเป็นพิเศษล่ะ ]
• กีฬายิงปืน [ เขาชอบจังหวะหัวใจที่เต้นแรงตอนกำลังเล็ง และชอบความสงบที่เกิดขึ้นหลังลั่นไกไปแล้วมาก ๆ ]
• หนังสือเกี่ยวกับธุรกิจกระดานหุ้น [ เขาได้พ่อมาเต็ม ๆ หัวนักคณิตศาสตร์และเจ้าแห่งการคาดเดาลงทุน ออสก้ามีงานอดิเรกเสริมยามว่างคือการเล่นหุ้น ดังนั้นเขาจึงชอบที่ศึกษาหนังสือและบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ตลอด ]
สิ่งที่ไม่ชอบ :
• ชื่อเล่น ออสซี่ [ จนถึงวันนี้ก็ยังสงสัยอยู่เลยว่าไอ้เวรตัวไหนมันเป็นคนตั้งวะ.. ]
• ผักขม [ เขาไม่ถูกโรคกับของขม.. ]
• กาแฟ [ เป็นคนหลับยาก ดังนั้นจึงไม่ปลื้มกาแฟ แต่ถ้าแค่กลิ่นก็คิดว่าพอโอเคอยู่ ]
• ตอนเช้า [ ขี้เกียจตื่น--- ]
• เสื้อผ้าสีสันสดใส [ ออสก้าคิดว่ามันไม่เหมาะกับเขา โดยเฉพาะพวกสีพาสเทล เขาว่ามันแบ๊วเกินกว่าตัวเองจะสามารถ ]
สิ่งที่เกลียด :
• วัลดัส โคลด์ [ เหตุผลน่ะเหรอ? ของแบบนั้นน่ะมีเยอะจนพูดไม่หมดเลยล่ะ..เอาเป็นว่าเขาเกลียดมันโคตร ๆ ก็แล้วกัน ]
• ผลไม้ [ วัลดัสไม่ชอบจนถึงเข้าขั้นเกลียดเจ้าของกินชนิดนี้ ความเป็นไฟเบอร์ในผิวสัมผัสของมันทำให้เขาขนหัวลุกสุด ๆ ]
• คนกวนประสาท [ เพราะอารมณ์ร้อนและหลุดก๊อกง่าย พอโดนกวนประสาทเข้าเลยเผลอสติขาดบ่อย ๆ แน่นอนว่ามันเดือดร้อนชีวิตเขา..วัลดัสเลยพาลเกลียดไอ้คนจำพวกนี้ไปเลย ]
• โดนตามตื๊อ [ รำคาญ รำคาญ รำคาญ รำคาญ รำคาญ รำคาญ---- ]
สิ่งที่แพ้ :
• ถั่วทุกชนิด [ ทำให้เกิดอาการคันคะเยอในลำคอ และมีผื่นขึ้นตามร่างกาย ไม่ใช่อาการแพ้รุนแรงสาหัส แต่ถ้าจงใจกินเข้าไปในปริมาณมาก ๆ และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที ก็สามารถตายได้เช่นกัน ]
{ วิธีรักษา - ล้วงคอให้อาเจียนออกมาและดื่มน้ำสะอาดปริมาณมาก นำตัวส่งแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการในทันที ]
สิ่งที่กลัว :
• ของแหลม [ ออสก้ากลัวของแหลมมาก ยกตัวอย่างเช่นปลายปากกา ลวดหนาม หรือเข็ม แต่ไม่นับรวมกับของมีคม เพียงแค่เห็นของเเหลมพวกนั้นมันก็มักจะทำให้ออสก้าปวดหัวจี๊ดขึ้นมาแล้ว และถ้าต้องเข้าใกล้กับของแหลม มันก็จะทำให้เขาหายใจผิดจังหวะ เกิดอาการเครียดถึงขนาดที่สามารถชักได้เลย ]
เพิ่มเติม :
• ความจริงเขาควรตายไปในคืนนั้นเเล้วด้วยซ้ำ แต่กลับพบว่าตนตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลในเช้าวันถัดมา คุณหมอบอกกับเขาว่า มีผู้ชายคนหนึ่งพาเขามาที่นี่
• การมีตราผู้วิเศษปรากฏอยู่บนหลังคอ ทำให้เขามักสวมเสื้อคอเต่า หรือผ้าพันคอปกปิดมันเอาไว้เสมอ ด้วยเหตุผลว่ารู้สึกไม่คุ้นชินที่ถูกจับจ้อง
• ออสก้ามีกระเป๋าสะพายใบหนึ่งติดตัวเอาไว้ ถ้าเทออกมาดู ก็จะพบกับกระเป๋าเงิน บัตรเครดิต ปืน มีดสั้น มีดเอนกประสงค์ กุญแจสารพัดอย่าง โทรศัพท์มือถือ ผ้าเช็ดหน้า และลูกอมคาราเมลอย่างต่ำสองโหล (..)
• แรก ๆ แขนเทียมที่มาแทนแขนซ้ายขยับไม่ได้ดั่งใจนัก และด้วยความเป็นคนถนัดซ้าย เลยต้องฝึกใช้มือขวาแทน เขาจึงกลายเป็นคนถนัดสองมือ
• ออสก้าเคยตั้งใจว่าเข้าศึกษาในคณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้น เขาก็ทุ่มเทให้กับการเรียนศิลปะการต่อสู้ต่าง ๆ และเลือกการศึกษาผ่านออนไลน์เพิ่มเติมในสาขาที่เขาต้องการแทน แน่นอน, เขาทำมันได้ดี และก็ปัจจุบันมีใบปริญญาออนไลน์ของคณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน ไว้ประดับบ้านเรียบร้อยด้วยอายุวัย22ปีเรียบร้อยแล้วด้วย
• หลังจากเหตุการณ์คราวนั้น ก็ย้ายมาอยู่บ้านหลังน้อยที่พ่อเคยสร้างไว้ให้เอลลีน โคลด์ ตอนแรกเขาคิดว่าถ้าสร้างบ้านใหม่เสร็จเมื่อไหร่ จะรีบย้ายออกไปและสั่งทุบทิ้งทันที แต่เมื่อได้เห็นความทรงจำต่าง ๆ และบันทึกที่เอลลีนเขียนทิ้งเอาไว้เกี่ยวกับวัลดัส เขาก็เลือกที่จะอยู่ที่นั่นต่อ เพื่อศึกษาเรื่องราวของศัตรู
• พินัยกรรมจากผู้เป็นพ่อ ระบุชัดเจนว่าอำนาจ เงินทอง และกิจการทุกอย่างจะตกอยู่ภายใต้การดูแลของ ออสก้า และ โรเซตต้า โลเวล โคลด์
• ออสก้ายกหุ้นส่วน40%ในกิจการอื่น ๆ ให้ญาติที่ไว้ใจ ส่วนตลาดหุ้น แรก ๆ หลังจากบิดาเสียชีวิตนั้น มันมีความรวนเรพอสมควร แต่เขาก็ใช้ทักษะของตัวเองในตอนนั้นควบคุมมัน เเละก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าแห่งตลาดหุ้นรายใหม่ด้วยอายุเพียงแค่22ปีเท่านั้น
• มาคาล็อท โคลด์ (29) คือญาติคนสนิทที่ได้รับการไว้วางใจ ให้เข้าดูแลธุรกิจอีก40%ที่เหลือของตระกูลโคลด์ เป็นคนคอยซัพพอร์ตชีวิตของออสก้าในช่วงแรก ๆ หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เขาเป็นเหมือนกับพี่ชายของออสก้า แต่ก็ไม่ได้สนิทกันถึงขนาดที่ออสก้าจะยอมบอกทุกเรื่องกับอีกฝ่ายอยู่ดี
• ในบ้านหลังใหม่ของออสก้า มีอาวุธปืนจำนวนมากเก็บไว้เต็มไปหมด แน่ล่ะว่าพวกตำรวจว่าอะไรไม่ได้ ก็อำนาจตระกูลเขามันคับฟ้าซะขนาดนั้น
【Interview】
∆ สวัสดีครับ ก่อนอื่นก็คงต้องทำความรู้จักกันก่อน...คุณชื่ออะไรเหรอ?
: คิ้วโก่งเลิกขึ้นสูงเป็นอันดับแรกหลังสิ้นคำเอ่ยถาม ท่าทีที่ดูเหมือนกับจะหาเรื่อง แต่ความจริงแล้วก็เป็นเพียงแค่ความเคยชินเท่านั้น ออสก้ายกแขนขึ้นกอดอก เขามีสีหน้าระแวดระวังนิดหน่อย แต่ก็ยังยอมตอบคำถามแต่โดยดี "ออสก้า โลเวล โคลด์" ริมฝีปากขยับบอกชื่อของตัวเองชัดถ้อยชัดคำ และแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ทำหน้าตึงขึงอะไร แต่สายตาดุดันก็ยังคงอยู่ไว้คอยกดดันอีกฝ่ายไม่ห่าง "จะกรุณามากถ้าเรียกฉันว่าโลเวล"
∆ เป็นชื่อที่ดีนะครับ แล้ว...คุณรู้สึกยังไงบ้างที่พบว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ?
: "ก็ดี" ชายหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงเฉยชา คล้ายว่าจะไม่สนใจเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากสังเกต จะพบว่าในดวงตาของเขาปรากฏประกายวาววาบบางอย่าง ความคิดในหัวแล่นไปมาอย่างเงียบเชียบ และเขาก็เผลอขบฟันกรอดในตอนที่ดันเผลอนึกภาพใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมา ออสก้าสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ พยายามระงับความหงุดหงิดของตน แล้วเอ่ยต่อว่า "เพราะมันหมายความว่า โอกาสที่ฉันจะทำตามเป้าหมายของตัวเองได้สำเร็จ มันมีสูงขึ้นยังไงล่ะ"
∆ งั้นเหรอครับ แล้วคุณคิดว่าตัวเองจะเป็นประโยชน์แก่มวลมนุษย์มากแค่ไหนกัน?
: คราวนี้ออสก้าขมวดคิ้วเข้าหากันอีกรอบ สีหน้าเขาดูสงสัยขึ้นมาจริง ๆ "ก็ไม่ได้มากมายอะไร" เขาตอบไปตามตรง ออสก้ารู้ตัวดีว่าเขาไม่ใช่คนดี และชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำคุณประโยชน์อะไรขนาดนั้นด้วย "อีกอย่าง คนเรามันก็ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเป็นหลักกันทั้งนั้นแหละ, จะมีเหตุผลสวยหรูแค่ไหน ลึก ๆ แล้วก็เป็นการตอบสนองความต้องการของตนทั้งนั้น" เขาพูดออกไปตามตรง ไม่สนด้วยว่าทัศนคติตนจะไปขัดแย้งกับใครรึเปล่า
∆ โอ้... แล้วคุณคิดยังไงกับพวกปีศาจล่ะ?
: "สำหรับฉัน คน ๆ เดียวที่เหมาะกับคำว่าปีศาจก็คือไอ้สารเลวนั่น" ภาพความทรงจำถูกกระตุ้นขึ้นมาครั้นเอ่ยถึงใครที่ไม่ได้อยู่ในที่แห่งนี้ "และถ้าปีศาจทุกตัวเป็นเหมือนกับมัน โลกนี้ก็คงถึงคราวกลียุคแน่" ว่าจบเขาก็บิดยิ้มเย้ยหยันออกมา
∆ ฮะๆ โอเคครับ สำหรับคำถามในวันนี้ก็หมดลงเพียงเท่านี้ ขอให้โชคดีครับ :)
: เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยจบการสนทนา ออสก้าก็คลายแขนที่กอดอกเอาไว้ลง เขาผงกศีรษะรับน้อย ๆ "เออ โชคดี" เอ่ยอวยพรแก่คู่สนทนาชั่วคราวคนนั้น แล้วจากนั้นจึงลุกขึ้นยืน เดินดุ่ม ๆ ออกไปทันที ในใจก็ขบคิดว่าตัวเองมีงานอะไรต้องทำรึเปล่า ถ้าไม่มี เห็นทีภารกิจวันนี้คงเป็นการนอนจมเตียงท่ามกลางเครื่องปรับอากาศสุดที่รักอีกสักหนึ่งวัน
【Talk with parents】
∆ แฮะะ นานๆทีจะหาเรื่องคุย//เขินตัวบิด—เอาเป็นว่าสวัสดีค่ะ ทางนี้ชื่อสโนว์หรือโนนะคะ ทางนู้นชื่ออะไรเอ่ยย
: รันรันค่า พามาส่งอีกคนแร้ว เบื่อหน้ากันยังคะ 55555
∆ อาจจะเวิ่นเว้อพล่ามเยอะเรื่องพล็อตไปหน่อย... แต่คิดยังไงถึงมาเรื่องนี้คะ ;;w;;
: คำตอบเดิมกับใบแรกคั้บ!
∆ โนไม่ใช่คนขยันหรือเก่งอะไรนะคะ อาจมีการเงียบหายไปบ้างไม่ว่ากันนะคะ จะไม่เรียกว่าดองให้ใจเสียหรอกค่ะ พยายามจะไม่ทำแบบนั้น5555 (ไม่นานนู๋จิกลับมา—)
: ลูบ ๆ นะคะ อันที่จริงมานั่งนึก ๆ ดูอีกที คุณโนก็ผลิตออกมาได้ไวมาก ๆ เลยนะคะ ฮือ ;w;
∆ โนไม่ค่อยถนัดฉากหวานๆเท่าไหร่ และเนื้อเรื่องอาจไม่ได้เน้นความรักอย่างเดียว มันอาจมีอะไรดาร์คๆมานิดนึง ซึ่งอาจลามไปถึงตัวละครด้วยที่อาจจะโดนย่ำยี(?) และถูกโนกระทำชำเรา(?)บ้างนะคะ อาจมีตายด้วย ไม่ว่ากันนะคะ แจ้งไว้ก่อนเนอะ ;;w;;
: เสริมเกราะแกร่งเรียบร้อยค่ะ---
∆ ถ้าหากว่าตัวละครนี้ไม่ติดตามบทบาทที่ต้องการ จะอนุญาตให้เปลี่ยนบทบาทหรือรับกลับคะ
: ตามสะดวกเลยค่ะ จัดบทได้ตามสบัยเรย
∆ มีอะไรจะบอกโนไหมคะ อย่างเช่นอยากให้โนข่มขืนตัวละค—แค่ก เช่น อยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะค่ะ ถ้าทำได้จะจัดให้เน้อ! =w=
: ความจริงเป้าหมายแรกคือกะเอามาตีกับเจ้าวัลดัสนางค่ะ---แต่เขียนไปเขียนมา รันว่าออสก้าน่าจะโดนตีมากกว่า ฮือ 55555 ยังไงถ้าติดก็ตามสะดวกเลยค่ะ คุณโนเห็นว่าไงก็ไปทั้งนั้นโลด!
ขอบคุณที่สมัครนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ!//เตรียมของเซ่นไหว้ให้(?)
ความคิดเห็น