ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #296 : Kokoro Sora Moyou | ep1_ファーストラヴ (First Love)

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 67


    Kokoro Sora Moyou -ココロ空モヨウ-
    Playlist: Utada Hikaru – COLORS












    .

     

    “ถ้าเธอบอกว่าวาดได้แต่ภาพที่ไร้ความฝัน

    งั้นก็วาดภาพบนผืนผ้าใบไปเรื่อยๆ เลย”

    คัลเลอร์ส (สีสัน)

     

    ไม่ใช่แค่การต้องจากทุกสิ่งที่คุ้นเคยยังบ้านเกิดเมืองนอนที่อยู่มาตลอดสิบหกปี แต่ยังรวมถึงการต้องมาอยู่ในเมืองแปลกหน้า กับครอบครัวแปลกหน้าของพี่สาวแท้ๆ ที่เธอเองก็ไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่ามี แม้ว่าทุกอย่างในโตเกียวจะเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาและความทันสมัยอย่างที่บ้านเกิดซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติรายล้อมของเธอเทียบกันไม่ติด ทว่ามันกลับยิ่งทำให้มุราคามิ มาริรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ที่มากกว่าก็คือความเปลี่ยวเหงา

    ทั้งที่ตอนอยู่ทากาทสึกิก็ใช่ว่าเป็นพวกสรวลเสเฮฮาหรือว่าชอบเที่ยวเตร่อะไร กับแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาด้วยตัวคนเดียวหลังพ่อหนีไปกับชู้พร้อมของมีค่าในบ้านเกือบสี่ปีแล้วก็เรียกได้ว่าเหินห่างเพราะหล่อนที่เอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำจนไม่มีเวลาได้เจอหน้ากัน เพื่อนสนิทที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดก็มีอยู่แค่คนเดียว แต่อย่างน้อยเพื่อนร่วมห้องทุกคนก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี ลุงป้าที่อาศัยอยู่ข้างห้องก็คอยช่วยเหลือดูแลเธอแทนแม่เป็นอย่างดี แม้จะเป็นชีวิตที่เรียบง่ายแต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเด็กสาวที่ไม่มีความทะเยอทะยานใดในชีวิต เพราะอย่างนั้นมาริถึงไม่เคยคิดว่าอยาก...หรือจะ...จากบ้านเกิดเมืองนอนแห่งนี้ไปที่ไหน

    แต่เพราะโชคชะตาย่อมมีหนทางที่แปลกประหลาดของมัน อย่างการที่มาริต้องมาเสียแม่ไปเพราะอุบัติเหตุป้ายหล่นทับ ทุกอย่างเกิดขึ้นปุบปับจนดูราวกับไม่ใช่เรื่องจริง ขนาดที่แม้กระทั่งตอนนี้ มาริก็ยังไม่มีน้ำตาไหลหลั่งออกมาแม้สักหยดให้กับเหตุการณ์ที่รางเลือนนั้น ไม่ใช่อย่างพี่สาวที่ได้เห็นข่าวทางทีวีและรีบรุดมาร่วมงานศพด้วยน้ำตาที่นองหน้า ก่อนที่จะพาเธอไปโตเกียวด้วยกันหลังพบว่าไม่เหลือใครในครอบครัวให้น้องสาวพึ่งพิงได้อีก

    พี่ซาริอายุมากกว่าเธอสิบห้าปี ด้วยความเป็นเด็กหัวขบถเลยหนีออกจากบ้านเพราะมีปากเสียงกับพ่อแม่เรื่องเส้นทางชีวิตในตอนที่มาริเพิ่งจะอายุได้แค่สองขวบ  และเพราะเคยผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายของการถูกกดดันและคาดหวังมาก่อนจนได้แต่นึกเสียใจทีหลังในวันที่สายเกินไปอย่างนี้ หล่อนถึงได้ไม่เข้ามาจุ้นจ้านกับชีวิตของน้องสาวมากเกินไปนัก แต่ไม่ใช่กับสามีของหล่อนอย่างคุณโคจิมะที่เอาแต่สรรหาเรื่องโน้นนี้มาบ่นว่า แถมยังแสดงออกด้วยความชัดเจนมากว่าเขาไม่พอใจที่มีเธอมาร่วมชายคาเดียวกัน และมาริก็ไม่ชอบเลยที่ต้องมาเห็นพวกเขาทะเลาะกันโดยมีเธอเป็นต้นเหตุ ด้วยเหตุนั้นมาริถึงได้ตัดสินใจออกไปหางานพิเศษทำถึงพี่ซาริจะบอกว่าไม่จำเป็น และพยายามใช้เวลาเตร็ดเตร่อยู่นอกบ้านให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

    ทั้งอุปนิสัยที่เงียบขรึมจนทำให้ดูเป็นคนอึมครึมเย็นชา พูดก็ไม่เก่ง เข้าหาคนอื่นก็ไม่เป็น ลงท้ายก็เลยไม่มีเพื่อนสนิทสักคนในห้องที่จับกลุ่มด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นปีที่หนึ่ง ทั้งที่มาริก็เหมือนกับเด็กสาววัยรุ่นทั่วไปที่อยากมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ใครสักคนที่จะคอยรับฟังปัญหาของกัน เป็นที่พึ่งพิงในยามที่เธอท้อแท้หรือว่าต้องการกำลังใจ

    มาริยังคงไม่ได้พบกับใครคนนั้น แต่ได้พบกับคนที่ทำให้เธอรู้สึกมากกว่านั้นในร้านฟรุ๊ตพาร์เลอร์ที่ทั้งเธอและเขาต่างก็ทำงานพิเศษอยู่ด้วยกัน

    โอกาซากิ โคทาโร่เป็นเด็กนักศึกษาชั้นปีที่สองในมหาวิทยาลัยระดับแนวหน้า เขาตัวสูง หน้าตาดี ผิวสีขาวเข้ากับผมสีทองที่ทำให้ดูดีจนเหมือนกับนายแบบได้ไม่ยาก ทั้งที่เวลาทำงานก็ออกจะยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้าดี แต่กลับคอยเอาแต่ดุด่าทำหน้าโกรธใส่เวลาที่เธอทำผิดพลาดแม้แค่เรื่องเล็กน้อย เพราะอย่างนั้นสิ่งที่มาริรู้สึกจึงมีแต่ควาครั่นคร้ามระคนหวาดหวั่นให้กับเขาในทีแรก

    กระทั่งในเย็นวันพุธหนึ่งที่เธอไม่ได้ทำงานเลยไปนั่งทำการบ้านอยู่ในห้องสมุดคนเดียวเหมือนกิจวัตร ขณะที่เอาแต่หน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับโจทย์คณิตศาสตร์ที่ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลยสักอย่าง มาริก็จะรู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหวของเก้าอี้ข้างตัวที่ถูกเลื่อนออก และเมื่อหันไปมอง เธอก็จะได้เห็นโคทาโร่ปลดกระเป๋าสะพายที่สวมไหล่วางลงบนโต๊ะ ก่อนถือวิสาสะเลื่อนสมุดการบ้านที่มีแต่หน้ากระดาษว่างของเธอมาดู ไม่เหมือนกับกระดาษฉีกแผ่นใหญ่ที่เธอเอาไว้ทดเลข แต่เพราะไม่รู้วิธีแก้โจทย์ตั้งแต่แรกผลเลยออกมามั่วซั่วไม่เหมือนกันสักครั้ง ครั้นพอสมองตื้อก็วาดรูปเขียนอะไรเล่นไปเรื่อยเปื่อยจนเต็มหน้ากระดาษ เรียกเสียงหัวเราะของโคทาโร่ในตอนที่มองเลยไปเห็นภาพปีศาจมีเขาถือชามพาร์เฟ่ต์กำลังหัวเราะชั่วร้าย มีตัวอักษรเขียนกำกับว่า รุ่นพี่โอกาซากิตามด้วยคาโอโมจิหน้าบึ้ง

    “ฉันจะสอนการบ้านให้ สัญญาว่าคราวนี้จะไม่ใจร้าย”

    เพียงแค่รอยยิ้มจนตาปิดกับคำพูดแสดงความเอ็นดูแรกที่ได้รับจากเขา มาริก็ได้รู้จักกับคำว่า รักครั้งแรกง่ายๆ แบบนี้เอง

     

    แต่บนโลกนี้จะมีสักกี่คนกันที่สมหวังกับรับครั้งแรก ไม่อย่างนั้นเพลง เฟิร์ส เลิฟของอุทาดะ ฮิคารุก็คงไม่ดังระเบิดระเบ้อขนาดนี้ แน่นอนว่าคนธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษอย่างเธอก็คงไม่ใช่ข้อยกเว้น มาริที่รู้ตัวดีอยู่แล้วถึงสามารถฝืนเค้นรอยยิ้มออกมาได้ทั้งที่ข้างในใจกำลังแหลกสลายเมื่อได้เห็นคนรักของเขาเข้ากับตาตัวเองในเย็นวันหนึ่ง ชื่อของหล่อนคือโอนิชิ อาเคมิ เป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขาแต่อยู่คนละคณะ หน้าตาสะสวย รูปร่างบอบบาง พูดจาอ่อนหวาน กิริยามารยาทก็พรักพร้อม เป็นกุลสตรีที่ได้รับการขัดเกลามาแล้วอย่างดี...อย่างที่มาริไม่มีวันจะเป็นได้

    และหล่อนก็ไม่มีอะไรเหมือนกับน้องชายที่โลกกลมมากขนาดทำให้เขาบังเอิญเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกับเธอ มาริไม่เคยพูดคุยหรือแม้แต่จะแค่ทักทายโอนิชิ ฟูกะเลยสักครั้ง หากกิตติศัพท์ความปากร้ายที่ทำให้เขายิ่งดูหล่อเท่เป็นบ้าในสายตาสาวๆ ก็เลื่องลือ ขนาดกับครูประจำชั้นที่ว่าเฮี้ยบๆ ยังกล้าพูดจาขวานผ่าซากใส่ มาริถึงได้พยายามเลี่ยงไม่มองหน้าสบตาเขาเพราะกลัวจะทำอะไรไม่ถูกใจเข้าในตอนที่ออกไปรับออเดอร์

    “เด็กพาร์ทไทม์ที่พี่โคตะเล่าให้ฟังว่าเรียนโรงเรียนเดียวกับฉันก็คือคุณมุราคามิเองเหรอเนี่ย!”

    น้ำเสียงกระตือรือร้นนั้นมาจากทากามิตสึ รินงที่นั่งติดหน้าต่างข้างกันกับเขา หล่อนเองก็เป็นเด็กสาวคนดังในโรงเรียนที่พ่วงมาด้วยตำแหน่งสมบัติห้องบีประจำฝ่ายหญิง หรือที่มาริควรต้องบอกว่าหมายถึงกลุ่มเพื่อนร่วมก๊วนของหล่อนทุกคนที่นั่งอยู่นี้เลยต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นนิชิมูระ ทาคุยะ...สมบัติห้องบีประจำฝ่ายชาย นากาโอกะ เรโอะ...เอซชมรมบาสเกตบอล และมายูมิ ทาเกยูกิ...คนเดียวในกลุ่มที่มาริเคยพูดคุยด้วยเรื่องโรงเรียนและการเรียนเพราะเขาเป็นรองหัวหน้าห้อง

    “เอ๊ะ?”

    เมื่อนั้น รินงจึงเริ่มต้นขยายความด้วยรอยยิ้มกว้าง

    “ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องคนสนิทม้ากมากของพี่โคตะ...ที่ตอนนี่ถูกเขี่ยตกกระป๋องเพราะพี่สาวของอีตาฟูกะมาแย่งไปแล้ว แย่มาก! แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่มีวันเกี่ยวดองกับอีตานี่เหมือนพี่ๆ ของเราไม่ว่าทางไหนอย่างแน่นอน!”

    “ทำเป็นพูดดี แต่ก็เห็นชอบเกาะแกะฟูกะตลอดไม่ใช่หรือไง” เรโอะเย้ากลั้วไปกับเสียงหัวเราะ เรียกค้อนวงใหญ่จากรินงที่ยกนิ้วขึ้นชี้หน้าเด็กหนุ่มฝั่งตรงกันข้าม

    “หยาบคาย! นิสัยแบบนี้ก็สมแล้วที่จะโดนมิโดริจังเขี่ยทิ้ง!”

    แต่เรโอะก็หาได้สะท้านเมื่อเพียงแค่ยักไหล่ไหวแล้วว่า “ฉันเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนต่างหาก”

    “เชื่อก็กินหญ้าแล้วป่ะ!”

    “ไม่เชื่อก็กินหญ้าเหมือนกันนั่นแหละ ยัยโง่”

    การโต้เถียงไปมาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องของสองคนนั้นบวกกับเสียงหัวเราะขบขันที่ดังเป็นฉากหลังของทาคุยะ จู่ๆ ก็จะทำให้มาริรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา พอกลืนน้ำลายก็รู้สึกคล้ายกับว่ามีรสชาติขมปร่าของน้ำย่อยอยู่ในปาก ไม่ใช่เพราะเธอเกลียดพวกเขาหรือเกลียดความร่าเริงสดใสในแบบวัยรุ่นอย่างที่พวกเขาเป็น ทั้งอย่างนั้นมาริก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่ามันคือความรู้สึกอะไร แต่ก่อนที่ความนึกคิดของมาริจะเข้มข้นชัดเจนกว่านั้น ฟูกะก็จะโพล่งขึ้นขัดจังหวะเสียก่อนว่า

    “ใจคอจะให้เขารอจนรากงอกเลยหรือไง เลิกพูดเรื่องไร้สาระแล้วรีบๆ สั่งกันได้แล้ว”

    รินงที่รู้สึกตัวหันมาส่งยิ้มแหยพร้อมคำขอโทษให้กับเธอที่จะรีบสั่นหัวแล้วบอกว่าไม่เป็นไร

     

    ทั้งที่เธอบอกไปแล้วว่าไม่เป็นไร แต่ทันทีที่กริ่งช่วงพักเที่ยงวันต่อมาที่โรงเรียนดังขึ้น รินงที่นั่งหน้าสุดตรงกลางห้องก็จะรีบลุกพรวดพราดมาหาเธอที่นั่งหลังสุดแถวเดียวกัน ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของหล่อนขณะยกสองมือขึ้นแปะและพูดว่า “เพื่อเป็นการไถ่โทษเรื่องเมื่อวาน ขอให้ฉันได้เลี้ยงมื้อเที่ยงคุณมุราคามิเถอะนะ!” ถึงอาจแฝงด้วยจริตบ้างแต่ก็ไม่มีความเสแสร้งแกล้งทำอยู่เลยแม้แต่น้อย ทั้งในตอนที่มาริถูกชักชวนทางอ้อมผ่านมื้อเที่ยงที่หล่อนคะยั้นคะยอให้ไปด้วยกันอยู่ได้ทุกวี่วัน หรือกระทั่งตอนที่เธอจะได้กลายมาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันถึงขนาดเรียกชื่อต้นของกันได้โดยปริยาย

    แต่ความร่าเริงสดใสจนเกินเบอร์เหมือนดอกทานตะวันที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์ตลอดเวลาของรินงจะทำให้มาริรู้สึกอึดอัด ทั้งที่เคยวาดฝันว่าอยากมีเพื่อนสนิทเพศเดียวกันเหมือนสมัยอยู่ที่บ้านเกิด แต่หล่อนแตกต่างจากเธอมากเกินไป และความคิดที่ว่าผู้หญิงสมบูรณ์แบบอย่างนี้ต่างหากคือคนที่ได้อยู่ในโลกเดียวกันกับรุ่นพี่โคทาโร่ที่เธอชอบก็ทำให้มาริเกิดช่องว่างกลวงเปล่าข้างในอก อาจรวมไปถึงความไม่ชอบใจต่อรินงที่เริ่มก่อตัวขึ้น ทั้งที่หล่อนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่อย่างเดียว

    โชคดีที่ต่อให้จะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันยังไงก็ย่อมมีความสนิทสนมมากกว่าอยู่ในนั้น เหมือนอย่างที่รินงเป็นกับทาคุยะและเรโอะซึ่งล้วนแล้วแต่มีฐานะและนิสัยคลึงคล้ายกัน พวกเขาไม่เคยต้องทุกข์ร้อนกับเรื่องอะไร ขณะที่เธอก็สบายใจที่ได้อยู่กับทาเกยูกิที่อัธยาศัยดีและนิสัยดีกับเธอมากที่สุด แต่อย่างไรเขาก็ไม่มีทางจะเป็นเพื่อนสนิทที่มาริสามารถระบายความในใจในทุกเรื่อง — โดยเฉพาะเรื่องของความรัก — ให้ฟังด้วยได้อยู่ดี

     

    ท้ายที่สุดแล้ว ความรู้สึกที่ได้แต่เก็บกดเอาไว้ลำพังโดยไร้ซึ่งทางออกก็ย่อมต้องมีวันระเบิด เป็นเพราะรอยยิ้มกว้างของโคทาโร่ในตอนที่เขาแค่คุยโทรศัพท์กับหญิงคนรักไม่กี่นาทีด้วยซ้ำที่เป็นตัวจุดชนวน ใช่จะไม่รู้ว่ามันเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ แต่มาริก็ไม่อาจเก็บกักคำสารภาพรักเอาไว้แต่เพียงฝ่ายเดียวได้อีกต่อไป แน่นอนว่าเธอไม่ได้ต้องการคำตอบอะไรทั้งนั้นเพราะมันไม่มีทางจะเป็นไปได้อยู่แล้ว ทว่าสีหน้าที่แสดงความลำบากใจแทนที่จะเป็นไม่พอใจของเขากลับตอกย้ำให้มาริยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนชั่วช้าเลวทราม มาริรีบค้อมศีรษะเอ่ยคำขอโทษก่อนหันหลังวิ่งหนีจากไป และการที่โคทาโร่ไม่แม้แต่จะตะโกนเรียกชื่อเธอไล่หลังก็จะยิ่งเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมถึงความไร้ค่าของตัวเอง

    เธอไม่จำเป็นต้องกดกำมือจนปลายเล็บจิกลงไปในเนื้อหรือกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลอีกต่อไปในสวนสาธารณะที่ร้างไร้ผู้คน ทว่าความเหนื่อยอ่อนทั้งจากงานพิเศษและการร้องไห้นานนับชั่วโมงจะทำให้มาริซึ่งก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่เสียงริงโทนมือถือเพลง ‘คัลเลอร์ส’ ของศิลปินคนโปรดอย่างอุทาดะ ฮิคารุแว่วดังทะลุผ่านความฝันที่ไร้สีสันเข้ามา แต่ในตอนที่เธอขยับตัวกลับขึ้นมานั่งทรงตัว มาริก็จะได้มองเห็นเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมห้องกำลังนั่งฟังเพลงจากเครื่องเล่นพกพาอยู่บนม้านั่งข้างกันกับเธอ

    “ค...คุณโอนิชิ?”

    ครั้นได้ยินเสียงเรียก ฟูกะจึงค่อยถอดหูฟังที่เสียบหูแค่ข้างเดียวออกแล้วผินใบหน้าหันมาหาเธอ พร้อมกับคำพูดที่ไม่ใช่คำทักทายด้วยซ้ำว่า

    “เธอไม่เคยนึกแสลงใจบ้างเลยหรือไงที่ต้องเรียกนามสกุลของผู้หญิงที่ได้เป็นแฟนกับคนที่เธอรัก?”

    ริงโทนที่เล่นวนมาแล้วสองรอบจบลงไปแล้ว ดึกดื่นป่านนี้คงเป็นพี่ซาริที่โทร.มาถามว่าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญในตอนนี้มากเท่ากับคำพูดของคนตรงหน้าที่บอกเป็นนัยว่าเขา...รู้

    “ฝืนไปก็มีแต่เจ็บปวดเปล่าๆ มันไม่มีความหวังอะไรอยู่แล้ว ลาออกมาเถอะ”

    และคำพูดที่ฟังดูใจร้ายของเขาก็จะทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ตรงขอบตา

    “แค่เพราะฉันไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนพี่สาวของนายหรือรินง ฉันเลยไม่มีสิทธิ์อยู่เคียงข้างรุ่นพี่โคทาโร่เหรอ? ฉันรู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่มีความหวัง แต่ฉันจะแค่อยู่เคียงข้างเขาไม่ได้เลยเหรอ?”

    “ไม่ได้” เหมือนกับที่อีกฝ่ายก็ยังคงตอบกลับมาด้วยความเย็นชา “ทุกอย่างมันจบตั้งแต่เธอสารภาพรักแล้ว”

    “แค่สารภาพรักแล้วมันผิดตรงไหน?”

    “ผิดตรงที่เธอเห็นแก่ตัวไง ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ แต่เธอก็ทำให้เขาต้องลำบากใจเหมือนกัน”

    ใช่ว่ามาริจะไม่รู้เรื่องนั้น แต่เธอในตอนนี้ยังไม่พร้อมรับฟังความจริงเพื่อตอกย้ำซ้ำเติมบาดแผลเดิมให้กรีดอ้าออก ในหมู่เพื่อนทั้งหมดห้าคน ทำไมต้องเป็นฟูกะที่อยู่ตรงนี้ ทำไมต้องเป็นฟูกะที่รู้เรื่องนี้ ทำไมถึงไม่ใช่รินงที่คงร้องไห้ไปกับเธอ ทำไมถึงไม่ใช่ทาคุยะที่คงเห็นอกเห็นใจเธอ ทำไมถึงไม่ใช่เรโอะที่คงพยายามทำให้เธอหัวเราะ ทำไมถึงไม่ใช่ทาเกยูกิที่คงนั่งเป็นเพื่อนเงียบๆ อยู่ข้างเธอ มีแต่คำถามที่ว่า ทำไม’ เล่นวนซ้ำไปซ้ำมาในหัวจนมาริรู้สึกได้ว่ามีหยดน้ำมาเอ่อคลอที่ดวงตา แทนที่จะต่อปากต่อคำกับคนเลือดเย็นพรรค์นี้แล้วพ่ายแพ้จนต้องแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น มาริขอเลือกเดินหนีไปดีกว่า แต่ก็ไม่ทันฟูกะที่ลุกขึ้นตามมาดึงแขนข้างหนึ่งของเธอไว้

    “ฉันไม่อยากเห็นเธอเจ็บเพราะฉันชอบเธอนะ มาริ”

    แต่คำสารภาพรักแบบผิดที่ผิดทางและชื่อต้นที่ได้ยินจากปากของเขาเป็นครั้งแรกไม่ได้ทำให้มาริรู้สึกอะไรนอกจากโกรธเคือง เธอสะบัดท่อนแขนตัวเองออกอย่างแรงจนมันหลุด แต่ที่มันง่ายดายก็แค่เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ใส่แรงทั้งหมดลงไปเท่านั้น

    “นายมันก็เห็นแก่ตัวที่ฉวยโอกาสตอนที่ฉันอ่อนแอเหมือนกันนั่นแหละ!” มาริที่เหลือจะทนได้ไหวตัดสินใจแผดตะโกนใส่หน้าเขา “ทำไม! คิดว่าฉันจะอยากได้คนปลอบใจแล้วยอมคบกับนายง่ายๆ แค่เพราะอกหักมาหรือไง!

    “ไม่เลย มาริ” ฟูกะจ้องหน้าสบตาเธอนิ่ง “ฉันจะยอมให้เธอฉวยโอกาสจากฉัน ฉันจะย้อมผมสีทอง ฉันจะทำทุกอย่างแบบเขา ฉันจะเป็นเขาให้เธอ เธอจะเห็นฉันเป็นแค่ตัวแทนของเขาก็ได้”

    มาริแค่นหัวเราะออกมา

    “นายยอมทำได้ถึงขนาดนั้นแค่เพราะว่าชอบฉันเหรอ?”

    “เพราะว่าฉันชอบเธอมากต่างหาก”

    “ต่อให้ฉันจะเกลียดพี่สาวของนายไปจนตายเหรอ?”

    “เธอจะเกลียดฉันด้วยก็ได้ จะไม่มีวันรักฉันไปจนตายเลยก็ได้ แต่ขอให้ฉันอยู่กับเธอนะ มาริ”

    มาริรู้ว่าเป็นเพราะความอ่อนแอที่ทำให้หัวใจของคนเราเปราะบางและไม่มั่นคง แต่การได้รับรู้ว่าอย่างน้อยเธอเองก็ยังมีค่าในสายตาของใครสักคนก็ราวกับมีไออุ่นพัดโพยผ่านความเย็นเยือกข้างในอก และทำให้น้ำตาที่เอ่อคลอไหลอาบสองข้างแก้มจนมาริต้องยกแขนเสื้อสูทขึ้นปาด ก่อนที่ฟูกะจะก้มตัวลงมาแล้วใช้ปลายนิ้วทั้งสองข้างช่วยเช็ดมันออกให้ จากนั้นเปลี่ยนมาประคองใบหน้าเธอไว้

    “นายมันโง่ที่สุดเลย ฟูกะ”

    จูบแรกของมาริไม่ได้มีรสชาติทั้งหวานขม แต่เจือเค็มเพราะน้ำตาที่กลั่นออกมาจากความหม่นเศร้าและเสียใจ หากเมื่อหลับตาลง มาริก็ได้เข้าใจว่าผู้ชายคนที่เธอไม่ได้รักก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความรักหมดทั้งใจได้ในจินตนาการของเธอเอง


     











    2024年11月11日
    _______________
     เพราะวันนี้คือ 11.11 ถึงจะไม่ใช่ลาซาด้าแต่เกาะกะโหลกก็ต้องมาร่วมแคมปญจ้า >_< / นี่คือฟิคที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ดูคอนฯคามิกาตะ 2024 ออนไลน์ วันที่ 22 ก.ย. แล้วนานิวะร้องเพลง Live in the moment ที่กูเพิ่งเคยฟังวันนั้นแล้วก็ชอบเลย! กรี๊ดมาก! ชักแหง่กๆ! ประจวบเหมาะกับที่ก่อนหน้านั้นเคยคิดว่าอยากแต่งฟิคแนวเหงาๆ เย็นๆ แสงสีนีออน แต่เป็นฉบับวัยรุ่นวัยเรียน จากเพลง Enhanced Flower ของ tripleS ที่รักมาก เพราะงั้นพล็อตจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากโตเกียวจ้า แต่ในเมื่อคันไซคือแรงบันดาลใจใหญ่หลวง ดังนั้นฟิคเด็กคันไซล้วนหลังจากผ่านไปสองปีจึงได้ฤกษ์กลับมาอีกครั้ง วู้ววว! / ละแม่งตลกชิบหายที่เมน 2-6 ของกูอยู่ในวงคันไซหมดเลย (ไทโชยังเป็นที่หนึ่งโว้ย ตีปาก แค่ตอนนี้วงเงียบๆ ละพอมาตามคันไซกูถึงเพิ่งรู้ว่ามีรายการในบ้านเยอะมากกก เอาแค่ไมโดะก็ทุกสัปดาห์ละ Orz) ละอีกอย่างที่ตลกคือจากนานิวะและเอ๋กรุ๊ปในวันนั้น กลายมาเป็นแอมบิกับริโตคันในวันนี้ 55555
    ★ บทรุ่นพี่ตอนแรกมันคือฟูกะเว้ย! เพราะไม่เด่นหรอก ผ่านมาเป็นรักแรกแล้วก็ผ่านเลยไป ส่วนโคทาโร่ยังไม่ได้วางบทอะไรทั้งนั้น แต่ดูรูปที่เด็กคันไซเป็นพรีเซนเตอร์ PAL CLOSET ไป ดูรูปในแมกฯไป อ่านประวัติไป คิดถึงตอนเล่นกับแมวไป สรุปไอ้ที่คิดไว้ตอนแรกก็คือไปหมดเลย เป็นฟิคแรกที่ทุกอย่างผิดจากที่คิดไว้หมดเลย อิหยังนิ แต่กูก็ยังเมนคทรสุดนะ แค่บทเรื่องนี้มันต้องฟูกะถึงเปิงจริงว่ะ วะฮะฮ่า (หัวเราะแบบแลนๆ) / พระเอกของมาริตั้งใจให้เป็นมายูมิจริง แต่บทยังลงให้ ณ ตอนนี้ไม่ได้ Orz ก็คิดซะว่าเหมือนชีวิตจริงที่ต้องรอเหตุการณ์โน้นนี้ผ่านเข้ามาเค้าถึงจะอยู่ในสายตา แต่ไม่ขนาดแผนหรรษาที่พี่คนโตมาไงวะละกันวุ้ย
    ขอบคุณชื่อฟิคจากเพลงของรุ่นพี่คันไซอย่าง 8 ที่แปลว่าอะไรก็ไม่รู้จ้า (หลิ่วตาแบบห้ะหงิง) ส่วนเพลงตอนแรกไม่ใช่เฟิร์สเลิฟหรอก แต่ไหนๆ ก็เขียนถึงในฟิคไปละ และรักแรกของมารินี่แหละที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง...มั้ง / ที่ให้พี่อายุเยอะกว่ามากๆ เพราะจำได้ว่าพี่ชายอุมิอายุมากกว่าสิบเอ็ดปี ละถ้าให้เป็นน้าเป็นอาก็สิบล้านเรื่องละ รอเรื่องที่สิบล้านเอ็ดค่อยแต่งใหม่จ้า / ฉากป้ายหล่นทับมาจากเรื่องเต่าของจุนจิที่ช่วงนั้นหยิบไปอ่านพอดี / ส่วนที่เลือกฟรุ๊ตพาร์เลอร์เพราะเห็นลิลคันไซไปกินตอนคลิปเข้าโตเกียว แล้วก็นึกออกว่าเคยอ่านในเรื่องรีเวนจ์ของโยโกะ โอกาวะ น่าจะเรื่องน้ำผลไม้...มั้งนะ / อนึ่ง ฟิคนี้เป็นเรื่องราวในปี 201x ไม่ดาร์ก ไม่วิชวลเคย์ ไม่มีคนบ้า ไม่มีคนตาย เป็นชีวิตวัยรุ่นดราม่าธรรมดาทั่วไปจ้า 
    ★ ปล. ฟิคแอนีมอยอา 5 กูมาก่อนกาลที่ให้แอมบิเจอนินจาโว้ยยย นอกจากโอกะทุกคนมาหมดเลย เป็นไงล่ะ

    2024年11月17日
    _______________
     รีบกลับมาเกลาก่อน(เผื่อ)ไม่มีเวลาเพราะช่วงนี้ต้องแปลงานซีรีส์ไซไฟที่ท้าทายความสามารถกูมาก แต่เพราะกูคือคนเก่งหัวใจแกร่ง ไม่มีอะไรทำให้กูคลอนแคลนได้...นอกจากคำด่าของลูกค้า (ชูนิ้วแบบแมวพี่แท้) >_< / เห็นป่ะว่าพอเราเกลาฟิคทีไรมันก็ต้องเพิ่มโน่นตัดนี่กว่าจะสมบูรณ์ ถึงคนอื่นทำได้ แต่กูก็ไม่สามารถลงฟิคกากๆ โดยไม่เกลาหรือหาข้อมูลอะไรเลย แล้วมั่นหน้าว่าตัวเองแต่งดีเลิศเลอหรือชลาดมากทั้งที่โง๊โง่อย่างควายได้ โอ๊ย หยุดด่าไม่ได้ คันคอ / และเพราะโทชิคาเระตอน 10 ของโคทาโร่ฉายวันนี้ ส่วนวันก่อนก็ประกาศทำบุไตเรื่องนี้ที่ฟูกะได้เป็นพระเอก โอ้ว้าว เป็นไงล่ะ จำได้ไหมว่านี่แหละคือคนเดียวที่ไม่โดนข่าวต้นปี และเป็นคนที่มึงชมว่าจิบินุยน่ารัก 55555
     กูอยากจะบ้าตายกับอีฟิคเรื่องนี้ ขนาดถึงฉากสุดท้ายก็ยังไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลย เป็นอะไรบอกหมอที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ละนะ คือกูอ่ะตั้งใจให้ฟูกะเป็นพระรองของมาริอยู่แล้ว แต่แรกสุดคือไม่ได้ลงกันแบบนี้ เอาไปเอามานี่มันคือบทพระเอก...แบบที่กูชอบเลยไม่ใช่หรือไงวะ อีผีเอ๊ย! Orz เนี่ยแหละ ผลของการนั่งดูรูปตอนอันอันที่ถ่ายสมัยหัวทองละก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไปไม่กลับหลับไม่ตื่นเลยกู เอาจริงนะ กูบอกเลยว่าคนเนี้ยเป็นเมนรองในวงมานานละแต่ความชอบห่างจากเมนหนึ่งแบบยอดดอยกับตีนเขา ประมาณนั้น กระทั่งมาเจอฮิสทีเรียที่ทำให้ใจบางแตกร้าวร่วงกราว แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ เพราะมึงก็เห็นว่ากูไม่ได้แต่งฟิคอะไรให้เค้าอีกเลยหลังจากนั้น กระทั่งเดือนก่อนที่ไปอ่านแมกฯละเห็นว่าเป็นพวกปากร้ายสายซึนแล้วซ่ะใจกูมาก! เพื่อนในค่ายยังว่าคนนี้ดูเพี้ยนๆ (เพี้ยนเท่าใส่หมวกใบไม้พรางตัวในหนังค่ายลูกเสือไหม) เท่านั้นแหละกูก็ชอบเลย 55555 / แล้วดูบทคนอื่นนะ มายูมิกับทาคุยะก็จื๊ดจืด รินงกับเรโอะก็น่ารำค๊านรำคาญ แม้แต่กูผกก.ยังไม่สามารถพูดได้ว่าทิศทางฟิคนี้จะเป็นยังไง ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา(กรรม)ไป แต่มันจะยังมีตอนต่อ! เพราะกูยังอยากแต่งเรื่องของมายูมิอยู่ คิดไว้ในหัวก่อนทุกคนด้วยซ้ำ แต่มันยังไม่ลงตัวสักเตื้อนิ
     แอบแว่บมาเปลี่ยนเพลงหน่อยจ้า เพราะเอาจริงนะ ในหัวกูไม่เคยคิดถึงเพลง First Love แบบพล็อตวัยเรียนเลย ทีนี้ตอนไปหาเพลงมาเป็นริงโทนให้มาริก็เลยเอานักร้องที่เขียนถึงไปแล้วให้จบๆ นึกถึงสมัยก่อนที่ต้องหาโหลดเอาไม่ก็ตัดเพลงมาใช้เป็นริงโทนเลยเนาะ ไม่ทันรุ่นกดโน้ตเอง โอ๊ยๆ รุ่นริงโทนเป็นเพลงก็เกิดไม่ทันๆ >_< และเพราะโลกรู้! มึงรู้! ว่ากูรักเพลงนี้มากมาตั้งแต่สมัยได้ฟังทาง...เจโซน โอ๊ยๆ รายการอะไรเกิด(ตื่น)ไม่ทัน ฟังเค้าเล่ามาๆ >_< แต่เพราะมาเปลี่ยนเอาโค้งสุดท้าย กูเลยไม่สามารถใส่คำเปรียบเปรยเรื่องสีสันหรือผืนผ้าใบอะไรลงไปได้ แพ้ฟิคเตงเจ้อติงมึงว่ะ อีนี่ ตบกูไหมล่ะ! ว่าก็ว่านะ กูก็ยังชอบเพลงอุทาดะแนวแฟนตาซีมากกว่าจริงๆ แต่ไม่มีพระเอกแนวแฟนตาซีเลยวะโว้ย ไอ้วงเดียวที่ใช่ (ไม่บอกว่าชื่อย่อ TJ) ก็เปลี่ยนแนวไปไหนไปเบ่าบ่าฮู้ละ กูนะดีใจม้ากมากที่ตอนนี้ฟังอุทาดะได้โดยไม่นึกถึงอุมิแล้วโว้ย! ไม่มีอะไรตะขิดตะขวงใจกูอีกแล้ว วะฮะฮ่า! (หัวเราะแบบแลนๆ) / ปล. ในเพลงไม่มีพูดถึงสีม่วงเลยง่ะ เออ ลืมเล่าว่ากูตั้งใจให้สีเพื่อนในกลุ่มไม่ซ้ำกันเลยนะ รอดได้ไงวะ สองวงสองคนโดยไม่ซ้ำ ถ้าเป็นตอนหลักของใครสีตัวอักษรในโปสจะเป็นของคนนั้น มาริชมพู ส่วนรินงก็เหลืองจ้ะ (หรือว่ากูจะถูกโฉลกกับสีม่วงคันไซจริงวะ โดนมาละสองวง รักแรงชอบแรงหมด แต่พอเทปุ๊บก็รถค่วมเลย)
     เขียนไว้เป็นจดหมายเหตุหน่อยว่า Takatsuki, Osaka คือบ้านเกิดของมายูมิ (พระเอก) ละพอไปเสิร์ชดูถึงรู้ว่ามันก็คือบ้านเกิดของชิงโง SUPER EIGHT ที่มายูมิก็นับถือที่สุดในค่าย ก็เลยตัดสินใจลักนามสกุลปี้เค้ามาน่อยเลาะ ตอนแรกก็กะจะให้มาริใช้คันจิตัวมะเดียวกับมายูมิด้วย อุตส่าห์ไปหาตั้งนานด้วยนะ แต่พอเห็นนามสกุลเส้นน้อยเลยอยากให้ชื่อเส้นน้อยตาม สรุปเลยมาลงที่ตัวคาตะแทน Orz / อนึ่ง กูเข้าใจว่ามึงตะขิดตะขวงใจกับการพูดถึงแก๊งรินงว่าไม่น่าจะเป็นตัวท๊อป all แต่มึงต้องเข้าใจก่อนว่าความดังของเด็กคันไซไม่ได้มาจากเบ้าหน้าเหมือนเด็กโตเกียวที่หล่อเว่อร์วังจุุฑาเทพ ไรงี้ เพราะเค้าว่ามายูมิน่ารักนิสัยดีแฟนเซอร์วิสก็ดี (หน้าตาก็ดี อันนี้คนญปเขียน ไม่ใช่กู) เรโอะก็ทรงวัยรุ่นเทสต์ดีเท่ๆ คูลๆ และเล่นบาสจริงจ้ะ ส่วนฟูกะตอนร้องฮิสทีเรียในวัชโช่ยคือไทม์ไลน์แตก บอกแค่นี้ / ว่าไปทำไมกลุ่มเพื่อนมันแอบคล้ายเรื่องอิบาระมึงเลยวะ แต่กูไม่ได้ก๊อปนะ (เลิ่กลั่กแบบแลนๆ)
     เออว่ะ นึกขึ้นได้ว่าหลายวันก่อนกูแอบฝันถึงคทร แต่ในฝันกูเค้าแทบไม่เคยเป็นคนดีเลย งงมาก ต้องมาแนวหล่อ รวย (บางครั้งก็) เฬวตลอดด้วยนะ มันทำไมวะ ทั้งที่ดูเค้าในยูทูบในคอนฯอะไรก็ตกกะปิทั่วไป หรือจิตใต้สำนึกกูอยากเห็นเค้าเป็นแบดบอยเหรอ งี้ขับรัมโบต้องมาละไหม / ส่วนโคจิมะมาเป็นผัวนิสัยเสียของพี่ไปนะ อยากเป็นซีอีโอนักใช่ไหม! ได้เลย! บอสเคน!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×