คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #295 : Chilla's Art: The Long Dream -永い夢- (15% ชิลล่าคอฟฟี่มาแล้วค่ะ)
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเองดันทุรังอยากเข้ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเมืองหลวงเองเป็นนักหนา เด็กสาวรักสบายอย่างเธอก็คงไม่ต้องลำบากลำบนหางานพิเศษทำเพื่อรองรับกับค่าใช้จ่ายที่ทางบ้านช่วยได้แค่ค่าเทอมแบบนี้ คิริโกเอะ โทวะได้แต่นึกสะท้อนใจ แต่ครั้นจะให้เธอหันหลังกลับบ้านนอกทั้งที่การสอบเข้านั้นยากเย็นแสนเข็ญก็ไม่ใช่ทางเลือก เพราะอย่างนั้นเธอถึงพยายามเลือกตามหางานที่พอสบายและรายได้ดี แม้จะรู้ดีว่านั่นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยก็ตาม
โชคดีที่โทวะจะได้รู้จักกับเพื่อนร่วมคณะอัธยาศัยดีที่มีชื่อว่านากาเสะ เคย์ หล่อนบอกว่ามีพี่ชายเปิดร้านกาแฟและยินดีฝากให้เป็นพาร์ทไทม์ด้วยค่าจ้างรายชั่วโมงที่จัดว่าไม่เลว และด้วยเหตุฉะนี้ โทวะจึงได้เหยียบย่างเข้ามายังร้านกาแฟที่มีโลโก้เป็นรูปหนูตัวอวบอ้วนหน้าตาน่ารักที่ชื่อ ‘ชิลลาส์คอฟฟี่’ เป็นครั้งแรกในเย็นวันเดียวกันนั้นเอง
นอกจากผมสีทองสว่างที่มีเหมือนกันแล้ว นากาเสะ เร็นก็แตกต่างจากน้องสาวอย่างเคย์หมดทุกอย่าง ทั้งผิวสีคล้ำ ใบหน้าที่หล่อเหลาแต่ดูไม่เป็นมิตร แถมแต่งหน้าแต่งตัวสำอางอย่างกับพวกโฮสต์ที่โทวะขยาดหลังจากเคยถูกตามตื๊อตอนเข้าเมืองกรุงใหม่ๆ ทว่าเขากลับเป็นเพียงเจ้าของร้านกาแฟบรรยากาศสงบเงียบแถวชานเมืองที่ดูอย่างไรก็ไม่เข้ากับบุคลิกเอาเสียเลย แต่เมื่อริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มหลังจากได้ยินเธอแนะนำตัวเองก็ช่างสว่างไสว ให้โทวะค่อยคลายความอึดอัดกังวลใจ ขนาดทำให้มือที่จับกันชื้นเหงื่อขึ้นมาภายใต้เครื่องปรับอากาศได้เลย
“ชื่อของโทวะจังสะกดด้วยตัวคันจิเหมือนนากะของเราเลย เรียกว่าเป็นโชคชะตาได้หรือเปล่านะ?”
และด้วยคำพูดจากน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนนั้น ไหนจะคำว่า ‘โทวะจัง’ ที่เขาเรียก ก็จะทำให้หัวใจของสาวน้อยเต้นรัวแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน
ก่อนที่จังหวะนั้นจะถูกขัดด้วยเสียงผลักบานเปิดประตูเปิดผัวะเข้ามาในห้องพักพนักงาน ขณะที่โทวะตกใจสะดุ้งเฮือกจนตัวโยน เร็นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และเอียงตัวมองเลยผ่านเธอไปก็จะตะโกนขึ้นว่า
“พอดีเลย มานี่สิ มีพนักงานคนใหม่จะแนะนำให้รู้จัก”
โทวะไม่จำเป็นต้องหันมองดูผู้มาใหม่ที่จะรีบสาวฝีเท้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ เป็นเพราะสัญชาตญาณที่ทำให้เธอละล่ำละลักเอ่ยทักทายพร้อมกับศีรษะที่ค้อมลง เพื่อที่จะเงยหน้าขึ้นมาเห็นเด็กหนุ่มวัยเดียวกับเธอกำลังส่งยิ้มกว้างทั้งจากดวงตาและริมฝีปากมาให้
“นี่นากาโอกะ เรโอะ น้องชายต่างพ่อของฉันกับเคย์ แต่พวกเราก็ยังเป็นนากะเหมือนกันหมดอยู่ดี บางทีอาจเป็นเพราะโชคชะตาจริงๆ ก็ได้ล่ะมั้ง” ขณะที่เร็นกำลังเอ่ยกลั้วไปกับเสียงหัวเราะ กลับเป็นอีกครั้งที่ในใจของโทวะจะเกิดความคลางแคลงถึงความแตกต่างของสอง...สาม...พี่น้องขึ้นมา เพราะเด็กหนุ่มตัวผอมที่ยืนอยู่หน้าเธอมีใบหน้าน่ารักมาก เข้ากับท่าทีที่แสดงความเป็นมิตรนับแต่แรกเห็นมาก ไหนจะสีผิวขาวซีดที่ดูเปราะบางมากแบบนี้ด้วยอีก ความคิดที่วกวนไปมาทำให้โทวะไม่ได้สนใจคำพูดแนะนำตัวแทนเธอต่อจากนั้นของเร็นเลยด้วยซ้ำ ก่อนสติที่โบกโบยจะถูกรั้งเรียกกลับคืนเมื่อเรโอะยื่นมือข้างขวาออกมาให้ และเมื่อโทวะยื่นมือข้างเดียวกับออกไปจับ อีกฝ่ายก็จะกระชับมันไว้แน่นแล้วเขย่าขึ้นลง จากนั้นเริ่มต้นพูดด้วยน้ำเสียงรัวเร็วว่า “ยินดีที่ได้รู้จักนะ โทวะ ขอเรียกเธอว่าโทวะนะ เธอก็เรียกฉันว่าเรโอะได้เลย แบบนั้นเราจะได้สนิทกันไวๆ ไง” ขนาดที่คนหัวไวอย่างเธอก็ยังจับใจความแทบไม่ทัน ในตอนที่ได้แต่ผงกศีรษะตอบรับ เออออหัวเราะตามไปกับสองพี่น้อง แม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรนักก็ตาม
เช่นเดียวกับคำพูดในวันต่อมาที่มหาวิทยาลัยของเคย์หลังจากคำถามถึงเรื่องของเรโอะ พอเธอตอบกลับไปอย่างกระตือรือร้นว่าเขาทั้งน่ารัก นิสัยดี แถมยังใจดีคอยช่วยสอนงานทุกอย่าง เคย์ก็จะทำหน้ายี้แล้วว่า
“ถือว่าเตือนเลยนะ โทวะ อย่าได้โดนหน้าซื่อๆ รอยยิ้มหวานๆ แบบนั้นหลอกเข้าล่ะ ตอแหลทั้งเพ ขนาดฉันยังไม่อยากนับคนนิสัยเสียแถมยังเห็นแก่ตัวพรรค์นั้นเป็นน้องเลย เหอะ...คงคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายมาเกิดมากมั้ง บางทีถ้าฉันชื่อฮิเมะ ฉันอาจจะมั่นหน้าแบบอีตาเรโอะบ้างก็ได้”
_______________
ความคิดเห็น