ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #16 : Akuma no Shomei -悪魔の証明-

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 67


    Akuma no Shomei -悪魔の証明-
    Playlist: sukekiyo – hyouhaku flavour 「漂白フレーバー」












    .

    ฝันร้ายอีกแล้ว

    ไม่มีทั้งความมืดมิดที่ชวนให้ขนลุกชัน ภูติผีปีศาจสยองขวัญที่ออกมาหลอกหลอน สัตว์เลื้อยคลานที่เธอเกลียดกลัวเป็นนักหนา หรือความรู้สึกของการร่วงดิ่งตกจากที่สูงซึ่งเธอหวั่นพรั่นมาโดยตลอด

    หากเป็นฉากหนึ่งของเหตุการณ์ปกติสามัญ ในวันทัศนศึกษาที่หน้าร้านค้าในชนบทซึ่งเต็มไปด้วยวัยรุ่นหนุ่มสาวส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวร่าเริงสดใส เธอได้มองเห็นใบหน้าของเด็กผู้ชายตัวสูงที่กำลังยืนพูดคุยหัวเราะอยู่กับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน หากเมื่อเขาหันมาเห็นเธอที่เพิ่งจะเดินมาถึง รอยยิ้มบนใบหน้าก็หุบกลับลงไป เธอจำไม่ค่อยได้แล้วว่าเรื่องราวต่อจากนั้นดำเนินไปอย่างไร หรือเขาพูดว่าอะไรออกมาบ้าง หากสิ่งที่เธอจำจดได้เป็นอย่างดีคือภาพที่เขาเดินจากไปด้วยสีหน้าเฉยชา หลังจากประโยคคำพูดที่เย็นชายิ่งกว่าว่า “ฉันไม่มีวันชอบเธอหรอก เพราะฉันโคตรรังเกียจเธอเลย เซไค” ก่อนที่เด็กสาวเจ้าของชื่อจะลืมตาโพลงขึ้นมา ทั้งที่แม่ยังไม่ทันเข้ามาปลุกเหมือนอย่างทุกวันที่ต้องไปเรียนด้วยซ้ำ

    มันเป็นความฝันที่สมจริงมากขนาดทำให้หัวใจของเธอปวดหนึบ จนต้องยกมือทาบลงไปบนนั้นเมื่อลืมตาตื่น

    เพราะคิริชิกิ เซไคตกหลุมรักเพื่อนร่วมห้องที่มีชื่อว่าอิวาซากิ ไทโชมาได้หนึ่งปีแล้ว และนี่ก็เป็นครั้งที่สี่แล้ว กับความฝันที่เขาพูดประโยคทำนองที่ว่า ฉันเกลียดเธอ’ ‘เธอมันน่ารังเกียจ’ ‘ฉันไม่มีวันชอบเธอหรืออะไรก็ตามแต่ที่เซไคไม่เคยได้ยินมันออกมาจากปากของไทโชตัวจริง ไม่แม้แต่ทีท่าที่แสดงออกมาในแง่นั้น ขนาดที่เธอกล้าพูดได้ว่าไม่มีวันเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อไทโชเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ทั้งใจดีและนิสัยดีมาก เขามักจะทักทายเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนเฉกเช่นเดียวกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ถึงอาจไม่ได้มากมายไปกว่าสถานะเพื่อนร่วมห้องอย่างที่เด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ก็ไม่ได้มากมายไปกว่านั้นเหมือนกันก็ช่างปะไร

    แต่ไม่ว่าจะพยายามเค้นคิดเท่าไหร่ เซไคก็ไม่เข้าใจเหตุผลของความฝันพวกนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

    หรือไม่...ก็อาจเป็นเพราะจิตใต้สำนึกต่อผู้ชายคนแรกในชีวิตที่เซไคหวาดกลัวว่าเขาจะไม่มีวันตอบรับรักของเธอต่อให้สารภาพมันออกไปก็ตาม

     

    เพราะอย่างนั้นเซไคถึงได้ไม่อยาก...ไม่กล้า...สารภาพรักกับเด็กผู้ชายคนเดียวที่เธอรักที่สุดในโลกสักที แม้ว่าวันนี้ไทโชจะทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวได้มากกว่าเดิมเมื่อพบกับใบหน้าและรอยยิ้มกว้างในตอนเช้า ผนวกกับความคิดที่ว้าวุ่นจากความฝันที่ส่งต่อมาจนถึงเที่ยงซึ่งยังคงวนเวียน กระทั่งจะทำให้บ่อน้ำตาของเธอแตกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยในตอนบ่าย จนต้องอ้างว่าไม่สบายแล้วหลบไปนอนร้องห่มร้องไห้ต่อที่ห้องพยาบาลแทน ข้างในหัวสมองมีแต่ใบหน้ากับคำพูดที่เย็นชาของเขาวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา พร้อมกับคำวิงวอนของเซไคที่ว่าขอให้ฝันร้ายเหล่านั้นจบสิ้นลงไปเสียที ขอบคุณฤทธิ์ยาแก้ปวดหัวที่ทำให้เธอซึ่งล้าอ่อนทั้งกายใจอยู่แล้วนอนหลับอย่างสงบได้ในที่สุด

    สิ่งที่เซไคได้เห็นเมื่อค่อยๆ ลืมนัยน์ตาตื่นขึ้นมาโดยไม่ฝันถึงอะไรเลยก็คือแสงสีส้มสนธยาที่ลอดผ่านม่านพลิ้วไสวผืนบางเข้ามา ไม่รู้ว่าครูทาเคมิหายไปไหนหรือทำไมหล่อนไม่ปลุกเธอในตอนที่โรงเรียนเลิก หากเซไคก็คิดว่าแบบนี้อาจดีแล้ว เพราะอย่างน้อยๆ เธอก็จะได้ไม่ต้องเจอหน้าไทโชให้ข้างในอกปวดแปลบอย่างกับมีเข็มแหลมคมมาทิ่มแทงอีก

    ทว่าตลอดเส้นทางนับตั้งแต่ออกจากห้องพยาบาลมา เซไคก็กลับรู้สึกได้ถึงความเงียบที่ผิดประหลาด และทำให้ขนทั่วสรรพางค์ของเธอลุกชันจนต้องก้าวฝีเท้าเร็วๆ กลับไปยังห้องเรียน เพราะโรงเรียนและห้องเรียนของเธอไม่เคยร้างไร้ผู้คนจนกว่าเวลาประกาศให้กลับบ้านในตอนหกโมงเย็น ทว่าบัดนี้มันกลับเงียบสงัด ไม่มีทั้งสิ่งมีชีวิตหรือว่าสรรพเสียงใดแผ้วพานผ่านเข้ามาเลยแม้แต่อย่างเดียว เซไคหยุดพิงแผ่นหลังกับบานหน้าต่างข้างที่นั่งด้านหน้าสุดของตัวเองเพื่อพยายามทำใจให้สงบ หากเสียงลมหายใจที่มาจากความหวาดระแวงก็ดังชัดเจนมากเกินไป อาจเช่นเดียวกับเสียงส้นรองเท้าผ้าใบกระทบพื้นให้เซไคลืมตาขึ้นมองไปยังตำแหน่งของบานประตูห้องที่เธอยังไม่ได้เลื่อนปิด

    เด็กหนุ่มผู้นั้นหยุดยืนในตำแหน่งที่พอเหมาะพอเจาะกับแสงอาทิตย์ที่ทาบทับลงบนใบหน้าจนเหมือนกับมีหมึกสีดำมาปาดป่าย แต่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ได้เห็น เซไคที่มีตาไว้มองแค่ผู้ชายคนเดียวก็รู้ว่านั่นคือ

    “ไทโช”

    “เซไค” เหมือนกับที่เขาก็เรียกชื่อต้นของเธอ แล้วเอ่ยต่อไปโดยไม่รั้งรอว่า “เธอกลัวความฝันมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

    “เอ๊ะ?”

    “ไม่ใช่สิเนอะ” หนนี้กลั้วไปกับเสียงหัวเราะขบขันที่เปล่งออกมา “ต้องถามว่า เธอกลัวความฝันที่ถูกไทโชเกลียดมากขนาดนั้นเลยเหรอ?’ ต่างหาก” ด้วยน้ำเสียง ประโยคคำพูด หรือแม้แต่เสียงหัวเราะที่เซไคมั่นใจได้เลยว่ามันคือความเยาะหยัน...อย่างที่ไทโชย่อมไม่มีวันทำ และนั่นเองที่จะทำให้เธอได้แต่ชะงักงันไป

    “นี่ไม่ใช่ความฝันหรอกนะ”

    เขาตอบคำถามที่เธอยังไม่ทันได้เอ่ยออกมาดังๆ พร้อมกันนั้นก็ก้าวออกจากเงามืดแล้วเดินมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า หากในระยะห่างที่เด็กสาวซึ่งตัวเตี้ยกว่ามากไม่จำเป็นต้องแหงนเงยมอง

    ใบหน้าของไทโชคนนี้ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากไทโชที่เธอได้เห็นในวันนี้เลยแม้แต่น้อย หากไม่เปิดปากเซไคก็คงไม่รู้ว่าไม่ใช่

    ก็เหมือนกับไทโชในความฝันร้ายของเธอที่ก็ไม่ใช่

    “ถ้านี่ไม่ใช่ความฝัน...แล้วมันคืออะไร?”

    “ถ้าพูดให้เซไคเข้าใจง่ายๆ ก็คงจะเป็นเหมือนดินแดนสนธยาล่ะมั้ง” เขาตอบคำถามพร้อมรอยยิ้มกว้างจนดวงตาหรี่เล็กลงไป “อ้อ และฉันก็คือไทโชนะ”

    “แต่ว่านายไม่ใช่ไทโชตัวจริง” เซไคสวนย้อนกลับไป

    เรียกลมหายใจของเขาให้พรูออกมา ก่อนใบหน้าและแววตาที่จ้องสบมาจะแปรเปลี่ยนไปเป็นความจริงจังอย่างที่เซไคไม่อาจเบือนหลบ

    “อิวาซากิ ไทโช ตัวจริงไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนบนโลกทั้งนั้น สิ่งที่มันสนใจมีแค่ความฝันในการได้เล่นละครเวทีอย่างที่เธอก็คงรู้ แต่เธอคงไม่รู้ว่าพอเรียนจบแล้วมันจะย้ายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศทันที จริงอยู่ว่ามันไม่ได้เกลียดเธอเหมือนในความฝันที่เธอคิดมากจนเก็บไปฝันร้ายหรอก แต่มันก็ไม่ได้ชอบเธอมากพอที่จะตอบรับคำสารภาพรักถ้าเธอกล้าที่จะทำเหมือนกัน สรุปเลยนะว่าทางไหนเธอก็แห้ว”

    เซไคจ้องมองเขาด้วยแววตาสั่นไหวที่เต็มไปด้วยความสับสนราวกับคนแปลกหน้าเฉกเช่นเรื่องราวที่แปลกประหลาดตลอดเวลาเหล่านั้น หากน้ำเสียงของเธอก็ไม่ได้สั่นเทาเมื่อโยนคำถามกลับไปว่า

    “แล้วนายรู้เรื่องทั้งหมดนั้นได้ยังไง? ถ้านายไม่ใช่ไทโชตัวจริงแล้วนายเป็นตัวอะไรกันแน่? ภูติ ผี หรือว่าปีศาจ?”

    ทว่าเขากลับเมินเฉยต่อคำถามนั้นแล้วเอ่ยต่อไปว่า

    “เธอตกหลุมรักไทโชก็เพราะหน้าตาไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ดูฉันสิเซไค ภายนอกของฉันเหมือนกับอิวาซากิ ไทโชคนที่เธอรักทุกประการไม่มีผิดเพี้ยนเลยนะ เพราะว่าฉันเองก็รักเธอมากยังไงล่ะ มากจนยอมทิ้งตัวเองแล้วเป็นไทโชเพื่อเธอได้ขนาดนั้นเลย ก่อนหน้านี้ที่ห้องพยาบาล เธอภาวนาขอให้ฝันร้ายจบสิ้นลงสักทีใช่ไหม? ฉันทำให้ได้นะ ในโลกของฉัน เธอจะไม่ฝันร้ายอีกตลอดไป เซไค แค่เป็นของฉัน”

    เซไคเผลอกัดริมฝีปากของตัวเองเมื่อเขาย่างเท้าเข้ามาหา แผ่นหลังและข้อศอกทั้งสองข้างของเธอเปลี่ยนไปถอยชิดกับโต๊ะเรียนราวปฏิกิริยาอัตโนมัติ หากไทโชก็ไวพอที่จะยันมือข้างหนึ่งกับโต๊ะ ส่วนอีกข้างก็ขยุ้มเสื้อเชิ้ตนักเรียนของเธอแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เซไคคิดว่าเธอน่าจะรู้สึกหวาดกลัวหรือรังเกียจ แต่การกระทำที่ไม่มีวันจะได้เห็นจากไทโชตัวจริงกลับทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาจนเผลอลืมตัวกลั้นหายใจ คงจะเป็นความจริงที่เซไคตกหลุมรักใบหน้าของไทโชมากกว่านิสัยอบอุ่นอ่อนโยนอย่างที่ทำให้หัวใจของเธอเต็มตื้น เพราะขณะนี้มันคือความบ้าคลั่งอย่างกับมีใครมารัวกลอง และอีกไม่นานก็คงจะระเบิดออก กระนั้นก็มากพอที่จะทำให้คนตรงหน้ารู้สึกได้จากรอยยิ้มตรงมุมปาก และนั่นก็ทำให้เขาดูแตกต่างจากไทโชตัวจริงจนเหมือนกับคนละคน

    ไม่ใช่สิ...เพราะเขาก็คือคนละคนอยู่แล้วต่างหาก

    “ไทโชตัวจริงทำให้เธอใจเต้นแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ”

    “แล้วตัวปลอมทำได้แค่นี้เหรอ?”

    “ใจร้ายจังนะที่บอกว่าฉันเป็นตัวปลอม” เขาหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน “แต่ต้องแสร้งทำเป็นปากดีทั้งที่อยากได้แทบแย่แบบนี้สิ ถึงสมกับเป็นเซไคคนที่ฉันมองดูมาตลอด” ก่อนที่เขาจะเงียบปากได้สักทีเมื่อทาบมันลงมาประทับกับเธอ

    ทุกอย่างช่างดูเลือนลางราวกับความฝัน ขณะใบหน้าของชายที่เคยอบอุ่นอ่อนโยนกำลังจูบดูดดื่มกับเธอ ราวกับจะสูบทั้งลมหายใจและวิญญาณออกมาด้วยอย่างที่ไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรย กับฝ่ามือที่ลากไล้ไปบนผิวหนังด้วยความเร่าร้อน และไม่บรรเทาความรุนแรงในตอนที่ปลายนิ้วของเขาสอดเข้ามาเพื่อตระเตรียมพร้อม

    หากเซไคก็ได้มั่นใจแล้วว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เพราะความรู้สึกเจ็บปวดของครั้งแรกนั้นสมจริงมากและเธอก็ไม่ได้สะดุ้งตื่น ทุกอย่างแจ่มชัดอยู่ในผัสสะทั้งตัวตนที่เขาดันมันเข้ามาข้างใน ก่อนขยับขับเคลื่อนโดยไม่รั้งรอจนเธอรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ไหลหยดลงมาตามท่อนขา ความเจ็บทำให้เธอต้องเปลี่ยนมือทั้งสองข้างไปเกาะท่อนแขนของเขาเพื่อใช้เป็นหลักยึด ก่อนจังหวะที่เร่งขึ้นจนเปลี่ยนไปเป็นความเสียดเสียวมากถึงกับทรมานจะทำให้เซไคต้องกดปลายเล็บลงไปอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อนั้นเขาจึงเงยใบหน้าขึ้นจากริมฝีปากที่พ่นลมหายใจร้อนระอุลงไปรดรินในตอนที่เธอจิกมันแน่นขึ้น ทั้งรอยยิ้มตอนที่เขาพูดว่า “รู้สึกดีจังเลยที่ได้อยู่ในตัวของเซไค” เหมือนอย่างที่เธอเองก็กำลังรู้สึก และเสียงหายใจหอบหนักที่น่าฟังเป็นบ้าภายใต้รูปลักษณ์ของชายที่ทำให้เธอคลั่งไคล้มาตลอด ในสภาพชุดนักเรียนหลุดลุ่ยภายในห้องเรียนอย่างที่เธอเคยจินตนาการถึงครั้งแรกกับเขามาตลอด

    ไม่ว่าที่นี่จะเป็นที่ไหน ไม่ว่าไทโชคนนี้จะเป็นใคร...หรืออะไร แต่เขาก็ได้เติมเต็มความปรารถนาทุกอย่างต่ออิวาซากิ ไทโชที่เธอต้องการ

    “ฉันจะยอมเป็นไทโชเพื่อเธอตลอดกาล อิวาซากิ ไทโชจะเป็นของเซไคแค่คนเดียว เพราะงั้นมาอยู่ในโลกของฉัน ด้วยกันตลอดไปเลยนะ”

    เซไครู้ดีว่าไม่จำเป็นที่เธอต้องตอบมันออกมาเป็นคำพูด เพราะถึงอย่างไรเขาก็ย่อมรู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว ในเมื่อคนโลภอย่างเซไคไม่ได้ต้องการเขาแค่เพียงครั้งเดียวสักหน่อย แต่ก่อนที่เธอจะหมดสติลงไปเพราะความเหนื่อยอ่อนกับครั้งแรกที่เหมือนจะมากจนเกินไปนี้ ในสายตาที่เริ่มมัวพร่าลงไป เธอคิดว่าได้เห็นหยดเหงื่อที่อาบใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดง

    “ขอบคุณนะ ไทโช”

    มีรสชาติฝาดเฝื่อนราวกับสนิมในโพรงปากเมื่อเธอโน้มใบหน้าของเขาลงมาลิ้มเลีย











    2024年09月12日
    _______________
     เพราะวันนี้มีราวิท เพราะวันนี้กูเป็นไทจากงานขยะ และเพราะเมื่อวานกูได้แว่นใหม่ กันดั้มจักรวรรดิซีออน อิอิ เลยได้ฤกษ์ดีมาเกลาลงสักที >_< / เอาจริงแต่งเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว แต่จำไม่ได้ว่าวันไหน เพราะกูฝันเหมือนฉากตอนต้นเปี๊ยบ! คือไปทัศนศึกษามีกลุ่มเพื่อนเยอะๆ แบบนี้แหละ แค่ไทโชไม่ได้พูดอะไรกับกู แต่ก็รู้จากสายตาว่าเค้าเกลียดกู! เฮ้ย! กูฝันอะไรเหี้ยๆ แบบนี้กับคนนี้มาสามสี่ครั้งแล้วนะ ยังไม่หยุดอีกเหรอวะ! Orz ก็เลยท้อใจหยิบตอนต้นมาแต่งแก้เซ็ง (เหรอวะ) / เห้ออ ละเมื่อราวสองสามวันก่อนก็ฝันดีมากถึงไทโช ฝันอะไรไม่รู้ กูก็จำไม่ได้ เอ้า! อีผี! ที่ดีๆ เสือกจำไม่ได้ รู้แค่ว่ามันดีมาก เค้าน่ารักมาก ใจกูบางเลยจนต้องหยิบมาเกลาสักทีนี่แหละ ช่วงนี้ลีลาอยู่ได้ เป็นอะไรไหนบอกหมอซิ / แรกสุดกูโยงฉากในฝันไม่ได้เลยนะ แต่ก็ไม่อยากทิ้ง เลยคิดว่าจะมาแนวยันเดเระสิมูเลเต้อ (หมายถึงเค้าเป็น ไม่ใช่กู) แล้วกูก็คิดว่ามันจะลงอย่างใดบ่ะ กึ๊ดยังไงก็กึ๊ดบ่าออก แต่ก็ทำให้นึกถึงเกม Saiko no Sutoka (ที่พี่นัทเล่น) ที่มีฉากยามเย็นแบบนี้ แล้วจากนั้นก็นึกถึงเกม Yuoni ที่ส้มตามาเลย ก็เลยได้ฉากตั้งต้นมานี่แหละ / ฉากตอนทชบอกว่าจะทำให้เลิกฝันร้ายนึกถึงออกัสตีน (ชื่อนี้ป่าววะ ลืม) กับแมดิในแฟรงค์ สโตนเลยบ่ะนิ
     หลักใหญ่ใจความมีแค่นางเอกได้อยู่กับไทโชที่ไม่ใช่ตัวจริง แต่ก็ยังไม่ตกผลึกสักที กระทั่งกูเปิดหนังเรื่อง Present ของคาซึโอะ อุเมซึดูกับมึงอ่ะ แล้วก็ปิ๊งฉากที่นางเอกขอพรกับซานต้าตอนเด็ก ก่อนมาโดนไล่ฆ่าตอนโตเพราะทำตัวไม่ดี ที่เซไคได้มาอีกโลกเพราะขอพรในห้องพยาบาลจริง แต่ความจริงไทโชตัวปลอมเนี่ยรู้จักเซไคมานานแล้ว แต่ไทโชคนนี้เป็นผีในห้อง เป็นปีศาจ เป็นพระเจ้า เป็นสัตว์ประหลาดหรืออะไร ไม่รู้ๆๆ และกูคนแต่งก็ไม่อยากหาคำตอบให้ด้วย / แล้วก็บังเอิญมากๆๆ ที่หลายวันก่อนเราดู The Watchers ทาง HBO Go ที่วอชเชอร์สเปลี่ยนร่างเป็นใครก็ได้แค่ต้องจับตาดู! แล้วกูก็อู้หูว ขนลุกมาก แนวคิดเดียวกัน ฟิคไทโชคนนั้นคนโน้นคนนี้นี่มันมาจากไหน อะไร ทำไม น่ากลัวมากค่ะแม่
     ตอนแรกนางเอกไม่ใช่เซไคหรอก เพราะฟิคจากความฝันต้องเป็นยูเมนะเนาะ 55555 แต่มาคิดๆ ดูว่าพล็อตมันก็คล้ายๆ เรื่องไล่จับ ละตอนนั้นกูอ่านการ์ตูนเรื่องนึงที่นางเอกได้กับเทพเจ้าจิ้งจอก แล้วคนแต่งก็เขียนว่าจบแบบผีลักซ่อน ก็เลยได้ตอนจบมาแบบนี้ ที่กูจะเฉลยให้ตรงนี้แหละว่า...เลือดที่มันเลอะหน้าเพราะไทโชตัวปลอมไปฆ่าไทโชในโลกจริงแล้วไงวะ! เซไครู้แบบแย็บๆ จากคำพูดของตัวปลอมไงว่าตอนนี้เหลือแค่คนเดียวแล้ว แบบนั้นอีกคนก็จะไม่มีวันได้รักกับใครแล้วต่อให้เราไม่รู้ไม่เห็น ถึงเค้าตะเป็นตัวปลอมแล้วไง ใครแคร์ แค่หน้าตาเหมือนเค้าก็พอแล้ว นิสัยเป็นไงก็ช่างสิ แค่รักเราก็พอ โห เฉียบ! พล็อตสมกับเป็นกูมากเว่อร์! เรื่องผู้ชายอันตรายที่เราดูวันนี้ก็จริตกูมาก น่าแต่งมากเว่อร์ (แต่มึงด่า)
     ชื่อเรื่องไปเจอมาจากชื่อตอนของไซโคพาส แปลได้ว่า The Devil's Proof ประมาณว่า “ข้อเท็จจริงหรือปรากฏการณ์นั้นๆ ว่า ไม่มีเลยหรือไม่เกิดขึ้นเลย” ที่กูไม่เข้าใจอะไรเลย อยากรู้ก็ลองเอาไปเสิร์ชอ่านเองได้เลย แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้กูก็ไม่ทราบเลย แค่อยากใช้ต้องได้ใช้ สวัสดี / และเพลงของสุเคคิโยะพ่อพ้ม ที่ไปอ่านคำแปลมาก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย กูนั่งเหม่ออยู่ แต่ในเนื้อเพลงมีคำว่า Santa (Sangre) เหมือนเรื่องพรีเซนต์ที่เป็นแรงบันดาลใจด้วย อู๊ยยย น่ากลัวอยู่นะ / ตั้งใจให้ทชพูดถึงคำว่าโลกบ่อยๆ เพราะเป็นชื่อของเซไคจ้ะ เป็นกิมมิคๆ (เหรอวะ) และคำว่าด้วยกันตลอดไปที่กูอยากพิมพ์มานานละ จุนจิ อิโต้ เพราะกูมึงนี่แหละคือคนเย็บไอ้พวกเกาะกลุ่มกันดีนักใช่ไหม! งั้นก็ตายซะสิ!
     อีสัส กูแต่งก่อนตั้งชาตินึง แค่ลงทีหลังเลยเหมือนก๊อปมึง เหม็นหน้าว่ะ แค่เห็นไทโชแหวกเสื้อในแมกฯกูก็น้ามตาคลอละ อย่าให้ต้องร้องไห้ กูนี่แหละจี้คาวะ

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×