ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #30 : ANEMOIA CHAPTER 5: Between The White Key And The Black Room (I) (75% พี่ตัวถ่วง พี่อ่อนจัง TT_TT)

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 67


    ทั้งรัก ทั้งเกลียด
    ฉันตัดสินใจไม่ได้ว่าควรรู้สึกยังไง
    — ทู เดด อินไซด์, ยูล

     
      
    _________________________________________________________________________________________________________________________________
    _________________________________________________________________________________________________________________________________


    ANEMOIA CHAPTER 5: Between The White Key And The Black Room (A)
    Inspiration: Bloody Birthday (Film, 1981) & I Saw the TV Glow (Film, 2024) & Night Swim (Film, 2024)
    Playlist: Mareux – The Perfect Girl

     











    .


    “เธอเป็นผู้หญิงที่ประหลาด

    ฉันอยากจะอยู่กับเธอ”

    – เดอะ เพอร์เฟกต์ เกิร์ล, มาโรซ์

     

    มีบรรยากาศผิดแผกแปลกประหลาดนับตั้งแต่วันเริ่มต้นการศึกษาใหม่ที่โคโค่ คุโรดะได้ขึ้นเกรดสิบสอง

    โคโค่เจาะจงไปยังเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมชั้นปีเดียวกันที่มีชื่อว่าเลโอ นากาโอกะ ไม่ใช่นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขากับน้องสาวย้ายจากแมสซาชูเซตต์มาร่ำเรียนที่วอยด์ไฮสคูลในนิวเจอร์ซีย์เพราะครอบครัวล้มละลายเมื่อหนึ่งปีก่อน แต่เป็นนับตั้งแต่ตอนที่ผู้ชายหน้าตาบ้านๆ ท่าทางหงอๆ วันๆ เอาแต่ยิ้มโง่ๆ จนทำให้โคโค่นึกรำคาญใจ พยายามตามเธอต้อยๆ หลังจากได้จับคู่ทำรายงานด้วยกันในคาบวรรณกรรมแค่ครั้งเดียว ไม่เอะใจเลยสักนิดว่าเหตุผลที่โคโค่ทำดีด้วยเป็นเพราะความสมเพชเวทนาเท่านั้น ขนาดตัวเองก็ยังนึกทึ่งใจว่าอดทนกับเรื่องบ้าบอพรรค์นั้นมาได้ยังไงตั้งเป็นเดือน กว่าที่เธอจะกล้าตะคอกใส่หน้าเขากลางโรงอาหารเพราะโดนโห่แซวไม่ได้หยุดสักทีว่า

    “ไม่มีศักดิ์ศรีบ้างหรือไงถึงได้เอาแต่ตามฉันอยู่ได้! ฉันไม่มีวันชอบคนน่าสมเพชอย่างนายลงหรอก! จากนี้เลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันสักที!”

    พร้อมกับปัดถาดอาหารที่เขาถือมาด้วยจนล้มคว่ำ สำทับด้วยกล่องนมที่น้องชายเธอปาใส่หน้าจนมันหยดติ๋งลงมาจากเส้นผม และเสียงหัวเราะดังลั่นของพวกเด็กนิสัยเสียหลายต่อหลายคน (แน่ล่ะว่านำโดยน้องชายของเธอ) ถึงหนึ่งในนั้นจะไม่รวมเธอที่ตอกส้นรองเท้าบู๊ตจากไปแรงๆ ด้วยความหัวเสียเต็มทีแล้วก็ตาม

    แล้วนับตั้งแต่วันนั้น เลโอก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธออย่างที่ขอ เหมือนกับที่ก็เลิกมีรอยยิ้มโง่ๆ บนใบหน้าอีกต่อไป แล้วกลับไปเกาะกลุ่มอยู่กับพวกเด็กเนิร์ดในชมรมภาพยนตร์ของตัวเอง เขาไม่แม้แต่จะสนใจให้ค่าหรือจ้องตอบกลับมาทั้งที่ก็รู้ตัวเลยสักครั้ง และนั่นก็ยิ่งทำให้โคโค่รู้สึกหงุดหงิด เพราะคนที่มีสิทธิ์ปฏิบัติต่ออีกฝ่ายเหมือนเป็นอากาศธาตุควรเป็นเธอต่างหากไม่ใช่หรือไง

    โคโค่เชื่อว่าแบบนั้น

     

    ก่อนความเชื่อของเธอจะคลอนแคลนลงไปในช่วงปิดเทอมที่เพื่อนสนิทอย่างแคนดิซ ลี ผู้รอบรู้ดูออกทุกสิ่งอย่าง เว้นก็แต่เรื่องในตำรา ซึ่งหายหน้าหายตาจากชีวิตของโคโค่ไปพักใหญ่มากเพราะกำลังคั่วอยู่กับหนุ่มนักว่ายน้ำจะแวะมาหาที่บ้าน บอกว่า “เพราะเลโอเป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าเมินเธอ เธอก็เลยปิ๊งเขาเข้าแล้วน่ะสิ!” ให้โคโค่ได้เบ้หน้าเบะปาก แทบอยากขย้อนแท่งช็อกโกแลตที่ยัดเข้าปากออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด

    “เงียบไปเลย แคนดี้! เธอก็รู้ว่าฉันชอบใครอยู่ แถมเขายังเพอร์เฟกต์กว่าคนพรรค์นั้นทุกด้านอย่างเทียบกันไม่ติดเลยด้วยซ้ำเหอะ!

    “อยากพิสูจน์ก็ลองไปจูบกับนาโอะของเธอดูสิจ๊ะ ดูว่าเพอร์เฟกต์บอยอย่างเขาจะยังทำให้เธอใจเต้นได้อยู่ไหม”

    จนโคโค่ต้องถองไหล่ใส่ยัยเพื่อนตัวดีไปหนึ่งดอก

    “ฉันไม่อยากเป็นมือที่สามของใครย่ะ!

    “อ๊ะๆ ตกข่าวจ้ะ” แคนดิซท้วงด้วยรอยยิ้ม “นาโอะเพิ่งเลิกกับเมโลดี้เมื่อวานนี้เอง ฉันถึงได้รีบแจ้นมาหาเธอยังไงล่ะ โอกาสมาถึงเธอแล้วนะโคโค่ รู้จากน้องชายแล้วใช่ไหมว่าพรุ่งนี้ริวเซย์ของฉันจะจัดปาร์ตี้สระว่ายน้ำที่บ้าน เพราะงั้นก็โดดขึ้นรถมากับโคกิได้เลยจ้ะ”

     

    ด้วยเหตุฉะนี้ โคโค่จึงได้มาร่วมงานปาร์ตี้ของกลุ่มเด็กนักเรียนที่เรียกได้ว่าไม่สนิทสนมเลยแม้แต่น้อย นอกจากแค่พอคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง ในเมื่อโคโค่ไม่ใช่สัตว์สังคมเหมือนอย่างน้องชายเธอที่พอมาถึงปุ๊บก็โดนกอดคอลากตัวไปที่สระปั๊บ ทิ้งให้เธอได้แต่ยืนเคว้งคว้างอยู่คนเดียว ครั้นชะเง้อชะแง้มองหาก็ไม่เห็นทั้งแคนดิซหรือริวเซย์อยู่ที่ไหน เช่นนั้นจึงตัดสินใจหลบลี้หนีผู้คนเข้าไปในบ้านเป็นการชั่วคราวแทน

    “ในตู้เย็นไม่มีเหล้านะ”

    เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำให้แมวขโมยอย่างโคโค่สะดุ้งโหยง รีบลุกขึ้นมาจากตู้เย็นแน่นขนัดที่กำลังคุ้ยหาน้ำอัดลมเย็นๆ เผื่อว่าจะมีอยู่ในครัว เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขบขันจากเด็กหนุ่มคนเดียวที่ทำให้หัวใจของโคโค่สั่นไหวได้เสมอ เพราะโอริยามะ นาโอะเป็นแบบนั้นสำหรับเธอเสมอ

    “โคกิล่ะ?”

    “อยู่กับเพื่อนและคนที่กำลังจะเป็นเพื่อนใหม่อีกโขยงอยู่ที่สระโน่นแหละ” โคโค่ไหวไหล่ ทำเนียนโยนคำถามกลับไปทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แก่ใจว่า “แล้วเมลล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ?”

    “เลิกกันแล้ว” เขาตอบแค่นั้น แล้วเดินแทรกตัวผ่านมาเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบขวดน้ำอัดลมที่ซุกอยู่ในซอกหลืบให้เธอโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ย “แย่หน่อยนะที่ต้องโดนลากตัวมาอยู่ในดงคนแปลกหน้าแบบนี้ โคกิมันชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เรื่อยเลย” และโคโค่ก็ไม่คิดหาข้อแก้ตัวให้น้องชายที่วันอื่นอาจเป็นแบบนั้นจริง แต่ไม่ใช่กับวันนี้ที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยเลยสักอย่าง นอกจากพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นเงื่องหงอย ขณะยกขวดแก้วที่เปิดฝาแล้วขึ้นแตะขอบปาก

    “ที่จริงนะ วันนี้ฉันเองก็ไม่อยากสมาคมกับใครเหมือนกัน ถ้ายังไงเธออยากขึ้นไปดูหนังข้างบนด้วยกันไหม?”

     

    ทีแรกโคโค่คิดว่านาโอะอาจมีเจตนาแอบแฝง...เหมือนอย่างที่เธอก็แอบหวังให้มี แต่พอได้เห็นเขาตั้งใจดูหนังที่เธอไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำอย่าง บลัดดี้ เบิร์ธเดย์อยู่บนเตียงข้างกันด้วยใบหน้าที่ไม่ว่อกแว่กก็เลยเลิกจินตนาการเข้าข้างตัวเองไปอีกคน นอกจากคิดว่าถ้าโคกิระยำตำบอนได้ถึงขนาดนั้นเธออาจเป็นคนจับเขายัดตู้เย็นเก่าแล้วขังลืมเอง น่าขอบคุณที่สุริยุปราคาไม่ได้เกิดขึ้นในวันเกิดของน้องชายเธอที่ก็สันดานเสียอยู่แล้ว แน่นอนว่าหนังไล่เชือดแบบนี้ย่อมต้องมีฉากโป๊เปลือยที่ทำให้เธอกระอักกระอ่วนจนได้แต่นั่งนิ่ง ขนาดว่าไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาดังๆ ด้วยซ้ำ กว่าจะพ้นฉากคู่รักนัวเนียกันในรถตู้อยู่ตั้งนานสองนานแล้วถูกฆ่าตายได้สักทีก็ทำเอาลมหายใจของโคโค่แทบจะหมด

    แต่ก่อนที่โคโค่จะได้รู้ว่ามียาพิษในเค้กวันเกิดของเด็กๆ จริงหรือเปล่า ปุบปับนั้นเอง นาโอะที่ไม่รู้ว่าขยับมาอยู่ข้างกันเมื่อไหร่ก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นพาดคอ โน้มใบหน้าเข้าหาแล้วกระทำในสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่า นั่นคือการจูบเธอ

    ชายที่เธอตกหลุมรักพร้อมกับวาดหวังถึงช่วงเวลานี้มาตลอดก็ยังคงทำให้หัวใจและร่างกายของเธอไหวสั่น และอีกไม่ช้าก็คงจะระเบิดแตกเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปมากเกิน แม้ว่าในตอนนี้จะมาจากแรงกดบนริมฝีปากที่ทำให้เธอยิ่งกว่ายินดี หากปลายลิ้นของเขามียาพิษอยู่จริง โคโค่ก็พร้อมยอมตายไปกับจูบของเขาได้เลย

    กระทั่งแผ่นหลังของเธอทาบลงไปกับที่นอนและชายกระโปรงของเดรสตัวสั้นก็ถูกเลิกขึ้น โคโค่ถึงได้ประท้วงเสียงแผ่วว่า “เอ่อ เดี๋ยว แต่นี่มันห้องของริวเซย์นะ”

    แต่นาโอะก็เพียงปิดปากเธอด้วยจูบอีกครั้ง

     

    โคโค่ไม่รู้ว่าเพราะมันเป็นการร่วมรัก...ในห้องนอนของคนอื่น เพราะมันเป็นการร่วมรัก...ที่ไม่มีทั้งคำพูดหรือคำปลอบประโลม หรือเพราะมันเป็นการร่วมรัก...หากจะใช้คำนั้นได้...ที่อาจไร้รัก ทว่าหัวใจที่เคยเต้นรัวแรงเพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของนาโอะในที่ไกลๆ ก็กลับลดน้อยถอยลงไป และการที่เขาจะกลับไปคืนดีกับอดีตคนรักก็ไม่ได้ทำให้ข้างในอกของเธอปวดแปลบอีกต่อไป

    ไม่เหมือนอย่างผู้ชายอีกคนที่เพิ่งจะได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้งในตอนเปิดเทอม ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเลโอ นากาโอกะดูผิดแผกไปจากเดิม ทั้งบุคลิก ท่วงท่า รอยยิ้ม ราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนกลายเป็นคนใหม่อย่างสิ้นเชิง แคนดิซบอกว่าเขาอาจโดนมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปแล้วส่งร่างก๊อปปี้มาอยู่บนโลกแทน “เพื่อเป็นเพอร์เฟกต์บอยให้เธอรักเธอหลงยิ่งกว่านาโอะ” พร้อมกับแผ่นหลังที่โดนทุบไปหนึ่งอั้ก หากโคโค่ก็ต้องยอมรับว่าเลโอในตอนนี้ ใกล้เคียงกับคำคำนั้น — เพอร์เฟกต์ — แทบจะทุกกระเบียด

    ทั้งที่ใบหน้าของเลโอก็ยังคงเดิมไม่มีอะไรที่เพี้ยนผิด แต่ในตอนนี้มันกลับดูดีขึ้นมาก เปลี่ยนแปลงไปมาก จนเหมือนไม่ใช่คนเดิมที่ทุกคนในวีเอชเอสเคยรู้จัก บางทีอาจเป็นเพราะความมั่นอกมั่นใจที่แสดงออกมาให้ได้ประจักษ์ เลโอไม่ใช่เด็กหนุ่มหงอๆ ท่าทางโง่ๆ เป็นได้แค่ตัวตลกให้คนอื่นได้หัวเราะเยาะไม่ก็เหยียดหยามกันสนุกปากอีกแล้ว พวกเด็กผู้ชายเริ่มคบค้าสมาคมกับเขาที่เฮฮาร่าเริง ส่วนพวกเด็กผู้หญิงก็เริ่มเข้าหาเขาที่หล่อเหลาดูดี อย่างกับลืมเลือนเรื่องในอดีตกันไปหมดแล้ว

    แต่สำหรับโคโค่ เลโอเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้ทำให้ความเชื่อตลอดมาของเธอพังครืนลงไปในทุกคราวที่ได้บังเอิญสบตากันและเธอต้องรีบหลุบหลบมันทุกครั้งไป เขาทำให้ชีวิตของเธอกลายเป็นเรื่องยาก เมื่อโคโค่ต้องเจอหน้าเขาในทุกวิชาที่ลงเรียนเหมือนกันอย่างน่าเหลือเชื่อ และโคโค่ก็ไม่สามารถแสดงออกในสิ่งที่รู้สึกไปตรงๆ ได้ หรือแม้แต่จะหลงคิดเข้าข้างตัวเองอีกครั้งได้ หลังจากเหตุการณ์ที่ได้เคยกระทำต่อเขา ซึ่งเธอยังคงจดจำทุกเรื่องราวได้เป็นอย่างดี

     

    ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูม่วงเหมือนกับขนมสายไหมในเวลาเย็นย่ำ เพราะอย่างนั้นโคโค่ถึงได้หยุดยืนบนโถงทางเดินระหว่างทางเชื่อมอาคาร เหม่อมองออกไปนอกบานหน้าต่าง แล้วนิ่งงันอยู่อย่างนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่จู่ๆ เธอก็คิดขึ้นถึงหนังเรื่องบลัดดี้ เบิร์ธเดย์ขึ้นมาซะได้ ว่าแต่มันจบยังไงนะ เด็กทั้งสามคนถูกจับได้ ตาย หรือว่าหนีรอดไปทำความชั่วกันต่อ นาโอะไม่ได้ปิดเสียงทีวีเลยตลอดเวลาที่เคลื่อนไหวอยู่บนตัวเธอ แต่ความคิดของโคโค่ก็มัวพร่าเกินกว่าจะจำจดสิ่งอื่นที่รายล้อมรอบตัวได้ น่าตลกดีที่ตอนนี้เธอกลับคิดถึงหนังเลื่อนเปื้อนไร้สาระพรรค์นั้นมากกว่าเด็กผู้ชายที่เคยอยู่ในทุกความนึกคิด เอาไว้เธอจะไปขอให้แคนดิซยืมม้วนวิดีโอจากริวเซย์มาให้ใหม่

    “มีแค่เด็บบี้ที่หนีรอดนะ”

    โคโค่ตกใจกับสุ้มเสียงที่ดังทะลุความเงียบจนเผลอตัวถอยเท้าไปก้าวหนึ่ง และการได้เห็นว่าเป็นใครจะทำให้เธอตกใจยิ่งกว่า เลโอที่ไม่รู้ว่ามายืนข้างเธอเมื่อไหร่หันมายิ้มให้ และโคโค่ก็หมายถึงรอยยิ้มแบบที่ทำให้สติของเธอหมุนติ้วราวกับลูกข่าง จนไม่ทันได้สงสัยเลยว่าเขาอ่านความคิดของเธอได้อย่างไร

    “แค่สัญญาว่าต่อไปนี้จะเป็นเด็กดีแม่ก็เชื่อแล้ว คนเราไม่มีทางเปลี่ยนสันดานได้ในชั่วข้ามคืนหรอก หนังอะไรจบได้โง่งี่เง่าเป็นบ้าเลยเนอะ” เลโอหัวเราะ “คนบางคนมันก็เกินเยียวยาแล้ว เธอว่างั้นไหม โคโค่?” จากนั้นก็เดินมากดไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้แล้วจ้องเข้ามาในดวงตาที่ไหววูบ โคโค่ไม่รู้ว่าเธอกำลังมองสบตากับอะไรอยู่ ความสาแก่ใจ ความเจ็บปวด ความแค้นเคือง หรือความปีติยินดี หากในประโยคคำพูดทั้งก่อนและหลังของเขามีแววเยาะหยันที่โคโค่สามารถเข้าใจได้ในทันที

    “อ้อ ตอนดูพลาดฉากนี้ไปพอดีสินะ แต่ในเค้กน่ะไม่มียาพิษหรอก จูบของนาโอะก็ไม่มียาพิษเหมือนกัน เพราะมันไม่ได้ทำให้โคโค่ถึงตายสักหน่อย จริงไหม?”

    คำพูดไม่ทันได้หลุดรอดพ้นลำคอของโคโค่ เมื่อเลโอจะก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปาก เธอพยายามเม้มมันเอาไว้แน่นเพราะคำพูดที่ฟังดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย แต่ความเจ็บทั้งที่แผ่นหลังซึ่งถูกเขาดันไปกระแทกเข้ากับผนังและที่ริมฝีปากล่างจากแรงกัด ก็ทำให้ทำให้โคโค่ต้องเปิดปากออกเพื่อรับการรุกล้ำที่เขาสอดแทรกมันเข้ามา ไม่มีทางเลยที่เด็กเนิร์ดไม่มีใครเอาคนนั้นจะเก่งเรื่องแบบนี้ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาในช่วงปิดเทอมกันแน่ ทว่าความสงสัยก็เกาะติดกับโคโค่ได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น หลังจากเสียงหัวเราะของริมฝีปากที่แนบติดอยู่กับเธอราวกับอีกครั้งที่เขาอ่านความคิดของเธอออก ด้วยจังหวะที่ล่วงล้ำและรุนแรงมาก มือของเธอได้แต่ขยุ้มกระโปรงนักเรียนเอาไว้แน่นจนมันยับย่น รสชาติของสนิมถูกกวนอยู่ในโพรงปากของเธอด้วยลิ้นของเขาที่ช่ำชองเอามากจนโคโค่ที่ก็ไม่ได้อ่อนหัดยังตอบรับไม่ถูก หากนี่เป็นรสชาติของยาพิษมันก็ไม่ได้หวานหอม กระนั้นก็ล่อหลอกให้เธอมัวเมา ก่อนที่จะต้องพบกับจุดจบ นั่นคือความตาย

    เนื้อตัวของโคโค่ที่ทรุดฮวบลงไปกับพื้นชาวาบ ไม่แม้แต่จะกระดิกนิ้วทำอะไรได้นอกจากกลอกนัยน์ตาที่ฉ่ำปรือมองดูมองดูเลโอที่นั่งยองๆ อยู่ข้างหน้า แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากซึ่งเปื้อนเปรอะไปด้วยเลือดสีแดง...ของเธอ

    “เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษให้สาสมกับความผิดของตัวเองต่างหากถึงจะถูก”

    โคโค่รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก

     

    ก่อนที่โคโค่จะลืมตาโพลงขึ้นมาภายในห้องเรียน ที่ซึ่งครูไพรมส์กำลังจ้องสบกับเธอซึ่งนอนหนุนแขนข้างหนึ่งอยู่ที่โต๊ะเรียนหลังสุดกลางห้อง

    “ไม่เป็นไร คุโรดะ ถ้าง่วงมากก็หลับต่อเถอะ”

    เพื่อนในห้องพากันหันมองมาทางเธอแล้วระเบิดเสียงหัวเราะขบขันจนทำให้โคโค่ต้องรีบเด้งตัวขึ้น ผงกศีรษะแทนคำขอโทษให้ครูไพรมส์อย่างขวยเขิน จำไม่ได้เลยสักนิดว่าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่มีทางที่เธอจะทำแบบนั้นในคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ชอบด้วย โคโค่ส่ายหัวน้อยๆ เพื่อขับไล่ความรู้สึกอันน่าหวาดหวั่นของความฝันพิลึกพิลั่นดั่งทัณฑ์ทรมานนั้นออกไป และเมื่อทำท่าว่าจะอ้าปาก เธอก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ริมฝีปากล่างของตัวเองจนต้องยกนิ้วขึ้นแตะ

    ไม่มีทั้งสีแดงบนปลายนิ้ว หรือรสชาติฝาดเฝื่อนบนปลายลิ้น แต่ความเจ็บเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแท้จนเธอต้องนิ่วหน้า สัญชาตญาณทำให้โคโค่เงยหน้าไปยังเจ้าของที่นั่งเยื้องไปด้านหน้าเธอสองแถว เพื่อที่จะได้เห็นเลโอกำลังเท้าคางหันมองมาทางเธอ

    พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง




    ANEMOIA CHAPTER 5: Between The White Key And The Black Room (B)
    Inspiration: I Saw the TV Glow (Film, 2024)
    Playlist: Bella Poarch – Living Hell

     











    .


    “เธอจูบปากฉันจนมันเย็นชืด

    คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายควบคุม”

    – ลิฟวิ่ง เฮลล์, เบลล่า พอร์ช

     

    มีบรรยากาศผิดแผกแปลกประหลาดนับตั้งแต่วันเริ่มต้นการศึกษาใหม่ที่โคกิ คุโรดะได้ขึ้นเกรดสิบเอ็ด

    โคกิเจาะจงไปยังเด็กสาวเพื่อนร่วมชั้นปีเดียวกันที่มีชื่อว่าลินนา ลินน์ นากาโอกะ เด็กสาวชาวไทยที่แม่แต่งงานกับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น-อเมริกันและอาศัยอยู่ที่แมสซาชูเซตต์มาตั้งแต่อายุได้ห้าขวบ พอครอบครัวล้มละลายก็ถูกส่งมาอยู่ที่นิวเจอร์ซีย์กับคุณย่าจอมจู้จี้พร้อมพี่ชายไม่แท้อายุมากกว่าหนึ่งปี นั่นคือประวัติครอบครัวฉบับย่อที่เธอเล่าให้ฟังหลังจบคาบภาษาฝรั่งเศสที่เขาตั้งใจไปนั่งข้างๆ แล้วทำทีเป็นพาเดินชมรอบโรงเรียนรวดเลยจนถึงมื้อเย็นในร้านเบอร์เกอร์ และสุดสัปดาห์ที่บอร์ดวอล์กในอีกสามวันต่อมา เพราะใบหน้าโฉบเฉี่ยวใต้เครื่องสำอางของเธอสวยสะดุดตาเขามากนับแต่วินาทีแรกที่ได้เห็น แต่ในเวลาที่ยิ้ม หัวเราะ หรือเปิดปากสนทนาเรื่อยเจื้อยได้อย่างไม่รู้เบื่อกลับสดใสร่าเริงเหมือนกับเด็กน้อย ขนาดทำให้หัวใจของโคกิที่เข้าหาอย่างมีเจตนากับเธอแอบแกว่งไปไม่น้อย

    แต่เพราะโคกิก็คือโคกิ และการทำทีเป็นเอาอกเอาใจ เออออรับฟังเรื่องราวทุกอย่างด้วยรอยยิ้มทั้งที่ข้างในใจรำคาญจะตายชักก็เป็นเรื่องปกติ เหมือนอย่างที่พวกหล่อนก็หลงเชื่อฉากหน้าที่เขาแสดงออกแล้วโอนอ่อนยอมให้เขาเป็นปกติ โคกิจะเริ่มต้นด้วยจูบที่แสร้งทำเป็นเผลอตัวเวลาที่เธอนั่งกินไอศกรีมโคนบนม้านั่งแล้วอ้างว่า “โทษที เพราะเธอน่ารักมาก” ที่ได้ผลมาแล้วนักต่อนัก แน่นอนว่าลินนาที่ตกหลุมพรางเขาตั้งแต่วันแรกสุดก็ไม่มีข้อยกเว้น และเมื่อเธอไม่ได้ผลักไสหรือปฏิเสธคำชวนให้ไปที่บ้านต่อด้วยกัน มันก็คือไฟเขียวให้เขาทำอะไรๆ ต่อหลังจากนั้น

    เพราะพ่อที่ยุ่งเรื่องงานตลอด และแม่ที่ชอบออกไปหากิจกรรมข้างนอกทำกับพวกแม่บ้านด้วยกันตลอด บ้านหลังใหญ่ของคุโรดะจึงเงียบเหงาแทบทั้งวันจนกว่าจะถึงตอนดึกที่ทุกคนกลับบ้านมาอยู่กันพร้อมหน้า ขณะพี่สาวที่มักจะอยู่ติดบ้านตลอดก็โดนเขาอ้อนวอนขอให้ออกไปที่อื่นตั้งแต่เช้าแล้วเช่นกัน ยอมเสียเงินค่าขนมครึ่งหนึ่งให้หล่อนได้เอาไปเที่ยวเล่นนอกเมืองพร้อมกับคำด่าอีกนิดหน่อยก็ถือว่าคุ้มค่า

     ตัดเข้าโค่ดสะนาตรงนี้ก่อนงับ

    ความไม่ประสาของลินนาที่ปลุกเร้าให้เขาตื่นตัวได้เสมอทำให้โคกิพอใจอยู่ได้สักพัก ถึงระยะเวลาหนึ่งเดือนจะนานกว่าที่เขาตั้งใจไว้ไปสักหน่อย แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา ลินนาที่พยายามตามติดเขาต้อยๆ ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ และไม่พอใจที่เขาจะคบหากับเด็กผู้หญิงคนไหน ก็ได้กลายเป็นแค่อีกความน่าเบื่อหน่ายโดยไม่มีข้อยกเว้น

    กระทั่งโคกิได้รู้จักกับเด็กสาวต่างโรงเรียนที่ชื่อมิริ-แอนน์ ควินน์ ตอนที่พี่สาวลากตัวเขาไปช่วยเป็นสารถีและคนถือของให้ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ในตัวเมือง ทั้งท่วงท่าและหน้าตาของหล่อนอย่างกับหลุดออกมาจากเจ้าหญิงในเทพนิยาย กระนั้นการเป็นเจ้าชายที่ควรคู่ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อหล่อนไม่ได้ให้ค่าความสนใจเขามากไปกว่าคนแปลกหน้าที่พยายามเข้ามาตีสนิทด้วยอย่างที่คงเคยเจอมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้าไม่ใช่เพราะโคโค่ที่เป็นฝ่ายถูกเขาลากตัวมาให้ช่วยบ้าง หล่อนก็คงเผ่นหนีไปนานแล้ว

    ความยากลำบากเป็นสิ่งที่ทำให้โคกิหงุดหงิดใจ ขนาดเบอร์โทรศัพท์บ้านแค่ไม่กี่หลักหล่อนก็ยังไม่ยอมให้โคโค่ด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาเคยได้ทุกอย่างมาง่ายดายแท้ๆ และการได้เห็นความน่าสมเพชของผู้หญิงที่ช่างง่ายดายสำหรับเขาก็จะทำให้โคกิยิ่งหงุดหงิดใจ เขาตัดสินใจบอกเลิกกับลินนาตอนเย็นหลังเลิกเรียนในวันถัดมา โดยไม่สนใจต่อเสียงกรีดร้องร่ำไห้และฟูมฟายเหมือนกับจะขาดใจตาย หากเธอก็ยังเอาแต่ตามตื๊อถามหาเหตุผลที่ตัวเองต้องถูกบอกเลิกเหมือนกับผู้หญิงไร้ค่าจนทำให้โคกิรู้สึกสังเวช ถึงขนาดไม่อยากเปลืองน้ำลายพูดอะไรกับเธอต่อไปอีกสักคำ

    ทว่าฟางเส้นสุดท้ายที่แท้จริงคือตอนที่เขาจะถูกหมัดลุ่นๆ ซัดเข้าใบหน้า หลังจากที่ออกแรงสะบัดท่อนแขนของเธอที่เกาะแกะเขาไม่ยอมปล่อยสักทีจนร่างปวกเปียกนั้นล้มลงไป และเหตุผลที่ทำให้โคกิหัวร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ ก็เพราะเจ้าของหมัดที่ทำเอาเขาหน้าหันไปเลยคือไอ้เด็กเนิร์ดตัวเตี้ยหน้าตาโง่เง่าจากชมรมภาพยนตร์กะหลั่วๆ ที่ตรงตามนิยามของคำว่า โคตรกระจอกเป็นบ้าที่มีชื่อว่าทาเคยูกิ มายูมิ

    “ทำอะไรผู้หญิงวะ!”

    โคกิไม่อยากยอมรับกับการที่ต้องมาถูกไอ้พวกต่างระดับพรรค์นี้มาทำให้เสียหน้า เขาถึงได้ตะโกนท้าทายไปว่า

    “แล้วแกมาเสือกอะไรด้วยวะ! ถ้าอยากได้ลินนานักก็เอาไปเลย! แต่แกก็ได้แค่ของเหลือจากฉันเท่านั้นแหละ ไอ้ห่าเอ๊ย!”

    แต่ก่อนที่หมัดอีกลูกจะพุ่งตามมา ลินนาก็จะรีบลุกเข้าไปขวางระหว่างกลาง แล้วผลักอกของทาเคยูกิที่ก็หาได้ทำให้เขาระคายจากเรี่ยวแรงเท่านี้ แต่คงเป็นความขุ่นเคืองข้างในอกมากกว่าที่ได้เห็นว่าเธอหน้ามืดตามัวเพราะความหลงตั้งขนาดนี้

    “มันไม่ได้รักเธอแล้วนะ ลินนา ยอมรับความจริงได้แล้ว!”

    “ไม่ใช่เรื่องของนาย ทาเกะ!” เธอกรีดเสียงตะโกนใส่หน้าเขาอย่างนั้น “แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของเลโอที่บอกให้นายมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันด้วย!”

    แต่กลับเป็นโคกิที่โพล่งแทรกขึ้นก่อนใครได้เอ่ยว่า “ฉันก็ไม่อยากให้เธอมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันเหมือนกันเว้ย ลินนา!” ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปิดบังความไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย “ฟังนะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว คนที่ไม่ได้น่าเบื่อ น่ารำคาญ และไม่ได้ง่ายเหมือนเธอ! รู้แล้วก็ไปให้พ้นๆ ชีวิตของฉันสักที! อย่าทำให้ฉันต้องเกลียดเธอไปมากกว่านี้เลยเหอะว่ะ!

    โดยไม่รอฟังทั้งเสียงร้องไห้หรือเสียงด่าทอที่ผสมปนเปกันไปในตอนที่กระแทกส้นรองเท้าหนังจากมา ก่อนหยุดมองดูเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนบานหน้าต่างใสแจ๋วตรงโถงทางเดิน แก้มของเขาทั้งเจ็บทั้งปวดแถมยังมีรอยช้ำจากแค่หมัดเดียวที่หนักเป็นบ้า ระยำเอ๊ย! เฮงซวยฉิบหาย! เขาสบถก่นด่าทั้งไอ้ทาเคยูกิที่สันดานชั่ว ลินนาที่เกาะติดอย่างกับปลิง เหมือนกับพี่ชายของเธอที่ก็ไม่เจียมกะลาหัวมาชอบพี่สาวของเขา เขาเกลียดแม่งหมดทุกตัว

    และการคบควงผู้หญิงคนอื่นเพื่อเป็นไม้กันหมาของแฟนเก่าที่เอาแต่มองตามเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์ แต่ไม่กล้าเข้าหาแล้วอยู่ได้ ก็พอจะเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยระงับอารมณ์ขุ่นมัวให้โคกิไปได้จนกว่าจะถึงช่วงปิดเทอม











    2024年09月09日
    _______________
     เพราะเมื่อวันที่ 7 มี TGC เด็กคันจูไปแล้วกูก็ชักแหง่กๆๆๆๆ เพราะร้องเพลงบีลีฟของอาราชิที่กูรักมากกกกกๆๆๆๆ O<--< แล้วพอเห็นโอเระเรโอะร้องท่อนก่อนนิชิทาคุจะแร็ปครั้งเดียว ใจกูก็ไม่เป็นของกูอีกเลย 55555 ด้วยความสงสัยคาใจอะไรไม่รู้ กูก็ไปเสิร์ชหาว่าเรโอะสีอะไรวะเพราะลืม ละพอรำลึกได้ว่าเป็นสีขาวแล้วชื่อหนังเรื่องนี้ก็แว่บเข้ามา จากนั้นก็เอาเว้ย! มาโว้ย! ขาวดำ! โอเทลโล่! (ไม่ใช่เคน) โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อย แต่ได้เจอเรโอะบ่อยแน่นอน เพราะเด็กคันไซเล่นกูอีกแล้วว้อยย ไม่น่าหลงเข้าไปดูแข่งการ์ดเกมโปเกม่อนพี่ฟุกกะคัพเล้ย Orz ลาแล้วนะ โอกะ ยูริ เมนในแอมบิเชียสคนแรกที่ยังไม่ทันได้ประกาศให้โลกรู้ กูรู้คนเดียวก็พอ แต่ไม่ไปฝั่งคันไซเต็มตัวอีกแล้วแน่นอน เพราะรุ่นน้องชอบคัฟเวอร์เพลงรุ่นพี่แถวบ้านแล้วมันไม่ม่วนง่ะ ละกูสายฟังเพลงง่ะ ขอท่ดนะ ยังไงโตเกียวก็อิสดาเบสต์ >_<
     ตั้งใจเลือกอีกคนที่อยู่วงเดียวกัน เพราะยังไม่ค่อยรู้จักแอมบิเชียสเท่าไหร่ (แต่จำหน้าได้หมดแล้วนิตอนนี้) แต่นี่ชอบมายูมิใน TGC มากกกๆๆ ออร่าปังๆๆ สมกับเป็นเซนเตอร์ เพราะงั้นก็มาเป็นตัวรองต่อจากฮิสทีเรียอีกสักเรื่องนะจ๊ะ ไม่แน่ว่าสักวันนายอาจได้เป็นพระเอกก็ได้ ใครจะไปรู้ >_< / ส่วนนาโอะแค่เพราะรูปในเซ็ตนี้ที่ถ่ายกับคุโรดะหล่อสุด สมัย 5 ที่ไม่มีใครสู้ได้แล้วป่ะวะ ว่าแต่เรื่องนี้ทำไมผู้ชายมีแต่เตี้ยๆ จัง เครียดเลยกู อิอิ (แต่เรโอะกับนาโอะได้ลงไฟน์บอยส์นะ!) / ขอโทษนะ ตอนแรกจะใช้คุโระหัวทองแล้ว แต่ไหนๆ ละก็หัวดำน้ามตาลให้หมดทั้งเรื่องเลยละกัน แหะๆๆ เดี๋ยวช่างไฟ (กู) จัดสีให้เองจ้ะ >_<
     ชื่อหนังจริงๆ คือ Between the White Key and the Black Key ด้วยความที่ชื่อนี้ติดหูติดหัวกูมากเลยเอามาดัดแปลงหน่อย ตอนแรกหาคำต่อท้ายไวท์ไปเยอะมากแต่ไม่เปิงใจสักอย่าง ส่วนแบล็กรูมส์เพราะ...กูไม่อยากบอกว่ามันคล้องกับคำว่าแบครูม แค่นั้นแหละ 55555 แล้วพอตื่นมาใหม่กูก็คิดว่างั้นคงคำว่า Key ดีไหมวะ เพราะห้องต้องมีกุญแจไข เฉียบ! แต่ถามว่าเกี่ยวอะไรกับเรื่องไหม เอาจริงคือไม่ เพราะเรื่องที่เปิดประตูไขกุญแจมันคือแชปสองแล้ว กูไม่เล่นซ้ำแล้ว แต่ไม่เป็นไร เซ็ตนี้กูเน้นชื่อไม่เกี่ยวกับเรื่องอยู่ละ ต้องแคร์ไร 55555 / ขอบคุณ Apple TV ที่มีเรื่อง I Saw the TV Glow ให้เช่าดู เป็นเรื่องที่ดิชั้นสนใจเพราะเห็นตัวอย่างเป็นภาพนีออน เค้าขายเป็นแนว horror และ yeule ที่ดิชั้นรักก็ร้องเพลงประกอบ แต่พอได้ดูแล้วก็ไม่ได้ว้าวเท่าไหร่ ชอบแค่แสงสี บรรยากาศ ตุ๊กตาอะม็องอัสกับสควิดเกม อะไรใดๆ แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้ได้ฉากกับบรรยากาศมาลงกับเรื่องนี้ ที่จริงแล้วเรื่องนี้อาจไม่ต้องอยู่ในแอนีมอยอาก็ได้ แต่เพราะได้แรงบันดาลใจจากคลิปแบครูมในโรงเรียนที่อยากแต่งมานานมาก งั้นก็มาเถอะ จะได้ฟีลลิมินอลไหมก็ช่าง V/H/S ยังใส่ไปเรื่อยได้เลยโว้ยย! เรื่องนี้เน้นความดาร์ค ความกอร์ ความปาก ตามหน้าพระเอกจ้ะ
     ขอบคุณเพลงประกอบล่วงหน้า เพราะกูคิดบทสี่คนนี้ออกหมดแล้วจ้ะ (แต่บอกเลยว่าคุโรดะนี่มีอาถรรพ์นะ เปิดมาทุกเรื่องไม่แต่งสักเรื่อง ทั้งที่มีพล็อตทุกเรื่อง งง) ในที่สุดก็ได้ใช้เพลง The Perfect Girl ที่รักมานานมาก อีดอกเอ๊ย นึกถึงฟิคเดดสิลูเอ็ตเลย ฟีลเดียวกันเป๊ะ ยังคิดอยู่ว่าจะเอาไง  / และเห้ย! กูเจอเพลงของเบลล่า พอร์ชว่ะ! ฟอลกายว่ะ!

    2024年09月17日
    _______________
     ที่จริงพล็อตตอนนี้จะปูแค่ว่า พอเปิดเทอมมา สองพี่น้องก็เจอสองพี่น้องที่เปลี่ยนไป ไม่มีการปูเรื่องระหว่างทางอะไรทั้งนั้นนอกจากบอกเล่าที่มาแล้วข้ามไปวันเปิดเทอมเลย แต่พอแต่งๆ ไปฉากโน้นนี้ก็ดันเพิ่มเข้ามา แล้วมันก็ด้นสดไปเรื่อยเหมือนอย่างที่พวกเราเป็นกันตลอดอีกแล้วว่ะ...เพิ่ล / ถึงอย่างนั้นก็ตั้งใจให้เรื่องในแอนีมอยอาเกี่ยวพันกับความฝันทั้งหมดจริง เพราะลิมินอลแบครูมส่วนใหญ่มันเกิดในความฝันไหมวะ และสำหรับกูที่เคยฝันถึงแนวลิมินอลมาแล้วหลายครั้งก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่น่ากลัวจริง ฟีลเหมือนเส้นแบ่งระหว่างฝันหรือตื่น ได้แต่ตัวสั่นหงึกๆๆ / แต่ขอสารภาพก่อนว่ากูยังคิดพล็อตหลักใหญ่ใจความอะไรไม่ค่อยออก ในหัวกูมีแค่ บ้านคุโรดะนิสัยเสีย เจอบ้านนากาโอกะมาเอาคืน (แต่งพาร์ทคุโรดะแล้ว (สองร้อยคำ) มีตอนต่อแน่ (มั้ง) ไม่เจออาถรรพ์แน่ (เหรอวะ)) แต่บ้านนากาโอกะทำแบบนี้ได้ยังไง เพราะมิสเตอร์เมแลนโคลี่ไหม หรือยังไง อะไร ไม่รู้ว่ะ ขอรอตกผลึกอีกที แต่ไม่ใช่มนุดต่างดาวแน่นอนจ้า นั่นอยู่ที่แชปสองละ (มั้ง)
     ชื่อโรงเรียนลักมาจากเรื่องทีวีโกลว์ เพราะเห็นเค้าย่อว่า VHS แล้วเหยดดด เยี่ยวมาก! ปังมาก! ชอบมาก! เพราะโรงเรียนที่ไปถ่ายทำชื่อเวโรน่าไฮสคูลเว้ย! ก็เลยเลือกนิวเจอร์ซีย์และเซ็ตติ้งปี 1996 เหมือนในเรื่องตอนต้นที่พระเอกไปดูพิงค์โอเพคบ้านแมดดี้ไปเร้ย ยันเช้า! เพราะถ้าไม่มีหนังเรื่องนั้นก็คงไม่มีฟิคเรื่องนี้ U_U จะได้ดูวีเอชเอสเหมือนชื่อโรงเรียนด้วยไง เริ่ดไหมๆ อิอิ / และขอบคุณฉากปาร์ตี้ริมสระจากเรื่อง Night Swim ค่ำคืนอย่าแหวกว่ายที่เราดูด้วยกันเดือนก่อน (พล็อตเห่ยมาก น้ำพุญปป่ะ) แต่ฉากสระว่ายน้ำแบบชิโรเสะกูยังไม่มาจ้า อันนั้นต้องทชเท่านั้น รอก่อน อิอิ...หาแม่
     ทีแรกฉากดูหนังกับนาโอะมันจะไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย กูกะหามั่วๆ เอาเรื่องอะไรก็ได้ขอแค่เป็นหนังสยอง แต่ทีนี้ จู่ๆ กูก็คิดถึงเรื่องวันเกิดนี้ที่เราดูด้วยกันเมื่อหลายเดือนก่อน ทั้งกูมึงต่างก็ไม่รู้จักเรื่องนี้มาก่อน แล้วก็งงมากว่ามันอิหยังวะ ผีบ้าผีบอ เด็กดีที่ไหน แต่เด็กเปรตที่นี่ จากนั้นพอแต่งๆ ไปแล้วก็เอ้า! เด็กนิสัยเสียเหมือนบ้านคุโรดะเปี๊ยบเลยนี่! โหหห เว่อร์เนาะ ทั้งที่หาไปเรื่อย แต่ดันลงได้แบบงงๆ พวกเรานี่ชลาดไม่เบา เอาเรื่องว่ะ / ส่วนที่เลือกเป็นชมรมหนังเพราะกูมีคอหนังอยู่สองคนละในเรื่องนี้ (มึงกับมายูมิไงวะ ฮ่าๆๆ) / ขอเล่าหน่อยว่าฉากตอนท้ายได้มาจากสมัยเรียนมอปลาย วิชาภาษาไทย ตอนนั้นคุยโทสับกับผัวจนดึกจนดื่น พอบ่ายๆ ก็เคลิ้มๆ แล้วก็นอนหลับเท้าแขนไปแบบนี้เลย ฉากลืมตามาป๊ะกับครูผู้ชายละพูดว่าให้กูหลับต่อก็มีจริง ขอบคุณประสบการณ์จริงที่ให้หยิบยืมมาลงฮร่ะ
     โอกะแอบได้มาเพราะเห็นเค้าพูดปะกิต พอไปเสิร์ชมาก็เหยดด เรียนเอกอังกฤษกับอเมริกันว่ะ ไหนๆ ก็คงไม่ได้แต่งฟิคแอมบิในเวลาอันใกล้ (มั้ง) ก็สวัสดีค่ะ เมนเก่าดิชั้นเอง อะไรนะ มีหัวทองแล้วทำไมไม่ให้พระเอกหัวทองเหรอ ไม่รู้ๆๆ (รูปติกเก้อมูนไลน์แคะหู) / ฟุคาดะได้มาเพราะอยู่ในรูปเซ็ตเดียวกับคุโระ(เมโระ)ที่กูเปลี่ยนเนี่ย สามหนุ่มสามมุมตะลุยต่อกๆ เมื่อหลายวันก่อนไงวะ เอาจริงถ้าไม่ใช่คนนี้ แต่เป็นน้องแถวหลังคนไหนก็ได้ไม่ว่าใครกูก็จะเอามาอยู่ดี ทำไปเพื่ออะไร ทำไมกูชอบใช้รูปเป็นเซ็ตก็ไม่รู้ 55555 ละขอโทษด้วยนะ กูไม่ได้ชอบเค้าเหมือนมึงหรอก แต่ถ้าบทไม่ลงเป็นแฟนแคนดี้กูก็ไม่รู้แล้ว จะให้มีรีแอนรับบทเพื่อนนางเอกกิ๊กก๊อกก็ไม่ได้ แต่ไม่เด่นหรอกสองคนนี้ เพราะงั้นก็ช่างมันๆๆ ขอโทษนะ ไม่แย่งหรอก กูไม่ชอบ เคียวเฮที่ไหน เด็กดีที่ไหน / แอบให้อ่านชื่อว่าเลโอเพื่อความเป็นฝรั่ง เหมือนที่ถ้าโคโค่อยู่ญปก็คือโคโกะนั่นแหละจ้ะ
     กูรู้จุดร่วมของเมนคันไซกูละว่า...เสียงไม่(ค่อย)เวิร์ก ยกเว้นโคทาโร่คนเดียวที่รอด ฮ่าๆๆ Orz / ละนี่เพิ่งรู้ว่าใน Jr. แชมป์ มายูมิคือคนที่กินโค้กท่องค่าพายแต่ดันแพ้น้องบีบอย 55555 อ้อ นึกออกด้วยละว่าคนนี้คือคนที่กลับจากวัชโช่ยแล้วได้เป็นเพื่อนไทโช โลกหมุนรอบเมนดิชั้นจริงๆ สวัสดีค่ะ

    2024年10月10日
    _______________
     ที่จริงแต่งสองย่อหน้าแรกของพาร์ทล่างพร้อมกับพาร์ทบนนั่นแหละ แต่ก็ทิ้งไว้ตรงนั้นเพราะยังไม่เจอพล็อตที่เปิงใจสักที กระทั่งสองสัปดาห์ก่อนที่ยูลปล่อยเอ็มวีเพลง ghosts แล้วกูก็กรี๊ดดด!!! ชักแหง่กๆๆๆๆ O<--< เพราะเอ็มวีเป็นโทนขาวดำ! ละมีฉากฆ่าอย่างที่กูตั้งใจให้คู่นี้เปี๊ยบ! แค่ยังคิดภาพชัดๆ ในหัวไม่ออกจนกระทั่งได้เห็นเอ็มวีนี้แหละ โอ้โห ขนลุกย่าบๆ เพราะงั้นก็พูดได้เต็มปากแล้วล่ะนะว่ายูลเป็นแรงบันดาลใจชิ้นใหญ่มากให้กับให้ฟิคเรื่องนี้จริงๆ ยกมือไหว้เลยค่ะ T/\T / ที่จริงกะว่าจะรอแต่งให้จบหมดถึงค่อยลงรวดเดียวไปเลยเหมือนพาร์ทบน แต่เพราะช่วงนี้เราแต่งฟิคจบก็ขี้เกียจเกลาอยู่เนืองๆ เดี๋ยวไม่มีใครเชื่อว่ากูแต่งเรื่องนี้อยู่จริงๆ ละไหนๆ วันที่ 9 ก็เปิดรอบดรีมบอยส์ (ต่อยมวย) เลยเอามาลงก่อนเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีเรื่องนี้จริงๆ นะ! (ตบอกแบบโยซิสแตมป์) แต่จำต้องขออนุญาตตัดฉากไม่เหมาะสมไปก่อนชั่วคราว (สองย่อหน้า) ตอนนี้สมองตื้อตัน รอกูหาซื้อนิยายเอาฉากเอาภาษามาก่อน คิดซะว่ากำลังดูหนังที่ฉายช่องเจ็ดสมัยก่อนละโดนตัดทิ้งจนเหี้ยนไปนะ เอาเป็นว่าเวอร์ชั่นเต็มจะมาพร้อมกับครึ่งหลังแน่นอน ในปีนี้แหละ! ใครไม่เชื่อกูแล้วแต่ กูก็ไม่เชื่อเหมือนกัน (ตบอก)
     กูจะบอกให้เลยว่าที่คู่ล่างจะออกแนวบลัด...แอนด์ฮันนี่ เพราะผู้ชายมันเฬวไงวะ! fun แล้วทิ้งเหรอ! (สติกเกอร์แลนแลนกระทืบเท้า) ลินนาที่รักมากก็เลยยิ่งแค้นมาก! ต้องมาแก้แค้นเอาคืนให้เจ็บกว่าที่ตัวเองเจ็บเป็นร้อยเท่าพันเท่า! (นั่นกูไหมวะ) แต่เพราะคุโรดะมันเฬว เดี๋ยวก็จะหาวิธีแก้แค้นเอาคืนต่อ! โอ้โห! แค่คิดก็เทอริฟาย(เออร์)แล้ว ส่วนโคโค่แค่ทำให้เรโอะอับอายเฉยๆ เค้าก็เลยแค่กลับมาเย้ยหยัน (มั้ง อิอิ) / ตกใจมาก ไม่อยากเชื่อว่าแต่งไปแล้วจะชอบนิสัยของคุโระกับเรโอะในเรื่องนี้มากกก ออกมาถูกใจยิ่งกว่าที่คิดในหัวอีก (แต่สองนางเอกน่ารำคาญหมด) ตอนแต่งฉากคุโรดะด่าคนอื่นหมดแต่ไม่โทษตัวเองเลยนี่โคตรชอบ ได้มาก อย่างเอา ทำไมเค้าถึงได้เปิงขนาดนี้นะ 55555 / นอกจากลินนา คุโระ นาโอะ มิริ ทุกคนที่อยู่ในรูปด้านบนเรียนอยู่ชั้นปีเดียวกับโคโค่หมด แต่เพราะเรโอะห่วงน้องเลยฝากเพื่อนที่ไว้ใจได้ให้ช่วยดูแลแทนตัวเอง แต่ที่มายูมิมาเจอสองคนนี้พอดีคือเรื่องบังเอิญเหมือนในหนังละคอนทั่วไปเฉยๆ ไม่ได้แอบตามมาแต่อย่างใดจ้าา / ไทม์ไลน์อาจจะงงๆ กับพาร์ทบน เพราะกูอ่านเองก็ยังงงๆ ว่าฝั่งไหนมีเรื่องก่อน -_- แต่จะไม่แก้อะไรละนะ คิดซะว่าฟอร์ fun (แต่ดีเทลอื่นไม่เคยมั่ว เพราะกูหาข้อมูลก่อนตลอด ถ้ามั่วก็จะบอก ไม่ใช่ทำเป็นอวดชลาด เพราะชลาดจริง (ตบอก)) / ฉากต่อยในเรื่องนี้คิดว่าไม่น่าจะปลอม เพราะคุโระอาจเข้ายิมจริงแต่ก็ยังดูผอมไหม ส่วนทาเกะอันนี้เล่นกีฬาหลายอย่างจริงละดูเตี้ยๆ ตันๆ หมัดน่าจะหนักจริงอยู่ไหม เพราะกูจะสื่อว่าพวกเด็กเนิร์ด(ในเรื่องนี้)ไม่ได้แค่วันๆ ดูแต่หนัง มันก็ทำอย่างอื่นไปเรื่อยแหละ แต่พวกคุโรดะมันไม่สนใจพวกชั้นล่างกว่าไง ไรงี้ แต่ไม่มีฮอตเนิร์ดอะไรทั้งนั้น อันนั้นต้องควิซคลับ 55555
     ปล. เห้อออ กูนะชอบบรรยากาศในฟิคเรื่องนี้มากกก ฟีลคลิปแบครูมส์ ลิมินอล เดดมอลล์แบบที่กูชอบดูมากกก แต่งออกมาก็ดีมากกก ใครว่าไม่ก็แล้วแต่ ฮูแคร์ หมีม่วงแคร์แบร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×