ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #30 : ANEMOIA CHAPTER 5: Between The White Key And The Black Room (I)

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 67


    ทั้งรัก ทั้งเกลียด
    ฉันตัดสินใจไม่ได้ว่าควรรู้สึกยังไง
    — ทู เดด อินไซด์, ยูล

     
      
    _________________________________________________________________________________________________________________________________
    _________________________________________________________________________________________________________________________________


    ANEMOIA CHAPTER 5: Between The White Key And The Black Room (A)
    Inspiration: Bloody Birthday (Film, 1981) & I Saw the TV Glow (Film, 2024) & Night Swim (Film, 2024)
    Playlist: Mareux – The Perfect Girl

     











    .


    “เธอเป็นผู้หญิงที่ประหลาด

    ฉันอยากจะอยู่กับเธอ”

    – เดอะ เพอร์เฟกต์ เกิร์ล, มาโรซ์

     

    มีบรรยากาศผิดแผกแปลกประหลาดนับตั้งแต่วันเริ่มต้นการศึกษาใหม่ที่โคโค่ คุโรดะได้ขึ้นเกรดสิบสอง

    โคโค่เจาะจงไปยังเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมชั้นปีเดียวกันที่มีชื่อว่าเลโอ นากาโอกะ ไม่ใช่นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขากับน้องสาวย้ายจากแมสซาชูเซตต์มาร่ำเรียนที่วอยด์ไฮสคูลในนิวเจอร์ซีย์เพราะครอบครัวล้มละลายเมื่อหนึ่งปีก่อน แต่เป็นนับตั้งแต่ตอนที่ผู้ชายหน้าตาบ้านๆ ท่าทางหงอๆ วันๆ เอาแต่ยิ้มโง่ๆ จนทำให้โคโค่นึกรำคาญใจ พยายามตามเธอต้อยๆ หลังจากได้จับคู่ทำรายงานด้วยกันในคาบวรรณกรรมแค่ครั้งเดียว ไม่เอะใจเลยสักนิดว่าเหตุผลที่โคโค่ทำดีด้วยเป็นเพราะความสมเพชเวทนาเท่านั้น ขนาดตัวเองก็ยังนึกทึ่งใจว่าอดทนกับเรื่องบ้าบอพรรค์นั้นมาได้ยังไงตั้งเป็นเดือน กว่าที่เธอจะกล้าตะคอกใส่หน้าเขากลางโรงอาหารเพราะโดนโห่แซวไม่ได้หยุดสักทีว่า

    “ไม่มีศักดิ์ศรีบ้างหรือไงถึงได้เอาแต่ตามฉันอยู่ได้! ฉันไม่มีวันชอบคนน่าสมเพชอย่างนายลงหรอก! จากนี้เลิกมายุ่งวุ่นวายกับฉันสักที!”

    พร้อมกับปัดถาดอาหารที่เขาถือมาด้วยจนล้มคว่ำ สำทับด้วยกล่องนมที่น้องชายเธอปาใส่หน้าจนมันหยดติ๋งลงมาจากเส้นผม และเสียงหัวเราะดังลั่นของพวกเด็กนิสัยเสียหลายต่อหลายคน (แน่ล่ะว่านำโดยน้องชายของเธอ) ถึงหนึ่งในนั้นจะไม่รวมเธอที่ตอกส้นรองเท้าบู๊ตจากไปแรงๆ ด้วยความหัวเสียเต็มทีแล้วก็ตาม

    แล้วนับตั้งแต่วันนั้น เลโอก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธออย่างที่ขอ เหมือนกับที่ก็เลิกมีรอยยิ้มโง่ๆ บนใบหน้าอีกต่อไป แล้วกลับไปเกาะกลุ่มอยู่กับพวกเด็กเนิร์ดในชมรมภาพยนตร์ของตัวเอง เขาไม่แม้แต่จะสนใจให้ค่าหรือจ้องตอบกลับมาทั้งที่ก็รู้ตัวเลยสักครั้ง และนั่นก็ยิ่งทำให้โคโค่รู้สึกหงุดหงิด เพราะคนที่มีสิทธิ์ปฏิบัติต่ออีกฝ่ายเหมือนเป็นอากาศธาตุควรเป็นเธอต่างหากไม่ใช่หรือไง

    โคโค่เชื่อว่าแบบนั้น

     

    ก่อนความเชื่อของเธอจะคลอนแคลนลงไปในช่วงปิดเทอมที่เพื่อนสนิทอย่างแคนดิซ ลี ผู้รอบรู้ดูออกทุกสิ่งอย่าง เว้นก็แต่เรื่องในตำรา ซึ่งหายหน้าหายตาจากชีวิตของโคโค่ไปพักใหญ่มากเพราะกำลังคั่วอยู่กับหนุ่มนักว่ายน้ำจะแวะมาหาที่บ้าน บอกว่า “เพราะเลโอเป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าเมินเธอ เธอก็เลยปิ๊งเขาเข้าแล้วน่ะสิ!” ให้โคโค่ได้เบ้หน้าเบะปาก แทบอยากขย้อนแท่งช็อกโกแลตที่ยัดเข้าปากออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด

    “เงียบไปเลย แคนดี้! เธอก็รู้ว่าฉันชอบใครอยู่ แถมเขายังเพอร์เฟกต์กว่าคนพรรค์นั้นทุกด้านอย่างเทียบกันไม่ติดเลยด้วยซ้ำเหอะ!

    “อยากพิสูจน์ก็ลองไปจูบกับนาโอะของเธอดูสิจ๊ะ ดูว่าเพอร์เฟกต์บอยอย่างเขาจะยังทำให้เธอใจเต้นได้อยู่ไหม”

    จนโคโค่ต้องถองไหล่ใส่ยัยเพื่อนตัวดีไปหนึ่งดอก

    “ฉันไม่อยากเป็นมือที่สามของใครย่ะ!

    “อ๊ะๆ ตกข่าวจ้ะ” แคนดิซท้วงด้วยรอยยิ้ม “นาโอะเพิ่งเลิกกับเมโลดี้เมื่อวานนี้เอง ฉันถึงได้รีบแจ้นมาหาเธอยังไงล่ะ โอกาสมาถึงเธอแล้วนะโคโค่ รู้จากน้องชายแล้วใช่ไหมว่าพรุ่งนี้ริวเซย์ของฉันจะจัดปาร์ตี้สระว่ายน้ำที่บ้าน เพราะงั้นก็โดดขึ้นรถมากับโคกิได้เลยจ้ะ”

     

    ด้วยเหตุฉะนี้ โคโค่จึงได้มาร่วมงานปาร์ตี้ของกลุ่มเด็กนักเรียนที่เรียกได้ว่าไม่สนิทสนมเลยแม้แต่น้อย นอกจากแค่พอคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้าง ในเมื่อโคโค่ไม่ใช่สัตว์สังคมเหมือนอย่างน้องชายเธอที่พอมาถึงปุ๊บก็โดนกอดคอลากตัวไปที่สระปั๊บ ทิ้งให้เธอได้แต่ยืนเคว้งคว้างอยู่คนเดียว ครั้นชะเง้อชะแง้มองหาก็ไม่เห็นทั้งแคนดิซหรือริวเซย์อยู่ที่ไหน เช่นนั้นจึงตัดสินใจหลบลี้หนีผู้คนเข้าไปในบ้านเป็นการชั่วคราวแทน

    “ในตู้เย็นไม่มีเหล้านะ”

    เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำให้แมวขโมยอย่างโคโค่สะดุ้งโหยง รีบลุกขึ้นมาจากตู้เย็นแน่นขนัดที่กำลังคุ้ยหาน้ำอัดลมเย็นๆ เผื่อว่าจะมีอยู่ในครัว เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะขบขันจากเด็กหนุ่มคนเดียวที่ทำให้หัวใจของโคโค่สั่นไหวได้เสมอ เพราะโอริยามะ นาโอะเป็นแบบนั้นสำหรับเธอเสมอ

    “โคกิล่ะ?”

    “อยู่กับเพื่อนและคนที่กำลังจะเป็นเพื่อนใหม่อีกโขยงอยู่ที่สระโน่นแหละ” โคโค่ไหวไหล่ ทำเนียนโยนคำถามกลับไปทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แก่ใจว่า “แล้วเมลล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ?”

    “เลิกกันแล้ว” เขาตอบแค่นั้น แล้วเดินแทรกตัวผ่านมาเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบขวดน้ำอัดลมที่ซุกอยู่ในซอกหลืบให้เธอโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ย “แย่หน่อยนะที่ต้องโดนลากตัวมาอยู่ในดงคนแปลกหน้าแบบนี้ โคกิมันชอบทำอะไรตามใจตัวเองอยู่เรื่อยเลย” และโคโค่ก็ไม่คิดหาข้อแก้ตัวให้น้องชายที่วันอื่นอาจเป็นแบบนั้นจริง แต่ไม่ใช่กับวันนี้ที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยเลยสักอย่าง นอกจากพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่แสร้งทำเป็นเงื่องหงอย ขณะยกขวดแก้วที่เปิดฝาแล้วขึ้นแตะขอบปาก

    “ที่จริงนะ วันนี้ฉันเองก็ไม่อยากสมาคมกับใครเหมือนกัน ถ้ายังไงเธออยากขึ้นไปดูหนังข้างบนด้วยกันไหม?”

     

    ทีแรกโคโค่คิดว่านาโอะอาจมีเจตนาแอบแฝง...เหมือนอย่างที่เธอก็แอบหวังให้มี แต่พอได้เห็นเขาตั้งใจดูหนังที่เธอไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำอย่าง บลัดดี้ เบิร์ธเดย์อยู่บนเตียงข้างกันด้วยใบหน้าที่ไม่ว่อกแว่กก็เลยเลิกจินตนาการเข้าข้างตัวเองไปอีกคน นอกจากคิดว่าถ้าโคกิระยำตำบอนได้ถึงขนาดนั้นเธออาจเป็นคนจับเขายัดตู้เย็นเก่าแล้วขังลืมเอง น่าขอบคุณที่สุริยุปราคาไม่ได้เกิดขึ้นในวันเกิดของน้องชายเธอที่ก็สันดานเสียอยู่แล้ว แน่นอนว่าหนังไล่เชือดแบบนี้ย่อมต้องมีฉากโป๊เปลือยที่ทำให้เธอกระอักกระอ่วนจนได้แต่นั่งนิ่ง ขนาดว่าไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาดังๆ ด้วยซ้ำ กว่าจะพ้นฉากคู่รักนัวเนียกันในรถตู้อยู่ตั้งนานสองนานแล้วถูกฆ่าตายได้สักทีก็ทำเอาลมหายใจของโคโค่แทบจะหมด

    แต่ก่อนที่โคโค่จะได้รู้ว่ามียาพิษในเค้กวันเกิดของเด็กๆ จริงหรือเปล่า ปุบปับนั้นเอง นาโอะที่ไม่รู้ว่าขยับมาอยู่ข้างกันเมื่อไหร่ก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นพาดคอ โน้มใบหน้าเข้าหาแล้วกระทำในสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่า นั่นคือการจูบเธอ

    ชายที่เธอตกหลุมรักพร้อมกับวาดหวังถึงช่วงเวลานี้มาตลอดก็ยังคงทำให้หัวใจและร่างกายของเธอไหวสั่น และอีกไม่ช้าก็คงจะระเบิดแตกเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกสูบลมเข้าไปมากเกิน แม้ว่าในตอนนี้จะมาจากแรงกดบนริมฝีปากที่ทำให้เธอยิ่งกว่ายินดี หากปลายลิ้นของเขามียาพิษอยู่จริง โคโค่ก็พร้อมยอมตายไปกับจูบของเขาได้เลย

    กระทั่งแผ่นหลังของเธอทาบลงไปกับที่นอนและชายกระโปรงของเดรสตัวสั้นก็ถูกเลิกขึ้น โคโค่ถึงได้ประท้วงเสียงแผ่วว่า “เอ่อ เดี๋ยว แต่นี่มันห้องของริวเซย์นะ”

    แต่นาโอะก็เพียงปิดปากเธอด้วยจูบอีกครั้ง




    โคโค่ไม่รู้ว่าเพราะมันเป็นการร่วมรัก...ในห้องนอนของคนอื่น เพราะมันเป็นการร่วมรัก...ที่ไม่มีทั้งคำพูดหรือคำปลอบประโลม หรือเพราะมันเป็นการร่วมรัก...หากจะใช้คำนั้นได้...ที่อาจไร้รัก ทว่าหัวใจที่เคยเต้นรัวแรงเพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของนาโอะในที่ไกลๆ ก็กลับลดน้อยถอยลงไป และการที่เขาจะกลับไปคืนดีกับอดีตคนรักก็ไม่ได้ทำให้ข้างในอกของเธอปวดแปลบอีกต่อไป

    ไม่เหมือนอย่างผู้ชายอีกคนที่เพิ่งจะได้กลับมาเจอหน้ากันอีกครั้งในตอนเปิดเทอม ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเลโอ นากาโอกะดูผิดแผกไปจากเดิม ทั้งบุคลิก ท่วงท่า รอยยิ้ม ราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนกลายเป็นคนใหม่อย่างสิ้นเชิง แคนดิซบอกว่าเขาอาจโดนมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปแล้วส่งร่างก๊อปปี้มาอยู่บนโลกแทน “เพื่อเป็นเพอร์เฟกต์บอยให้เธอรักเธอหลงยิ่งกว่านาโอะ” พร้อมกับแผ่นหลังที่โดนทุบไปหนึ่งอั้ก หากโคโค่ก็ต้องยอมรับว่าเลโอในตอนนี้ ใกล้เคียงกับคำคำนั้น — เพอร์เฟกต์ — แทบจะทุกกระเบียด

    ทั้งที่ใบหน้าของเลโอก็ยังคงเดิมไม่มีอะไรที่เพี้ยนผิด แต่ในตอนนี้มันกลับดูดีขึ้นมาก เปลี่ยนแปลงไปมาก จนเหมือนไม่ใช่คนเดิมที่ทุกคนในวีเอชเอสเคยรู้จัก บางทีอาจเป็นเพราะความมั่นอกมั่นใจที่แสดงออกมาให้ได้ประจักษ์ เลโอไม่ใช่เด็กหนุ่มหงอๆ ท่าทางโง่ๆ เป็นได้แค่ตัวตลกให้คนอื่นได้หัวเราะเยาะไม่ก็เหยียดหยามกันสนุกปากอีกแล้ว พวกเด็กผู้ชายเริ่มคบค้าสมาคมกับเขาที่เฮฮาร่าเริง ส่วนพวกเด็กผู้หญิงก็เริ่มเข้าหาเขาที่หล่อเหลาดูดี อย่างกับลืมเลือนเรื่องในอดีตกันไปหมดแล้ว

    แต่สำหรับโคโค่ เลโอเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้ทำให้ความเชื่อตลอดมาของเธอพังครืนลงไปในทุกคราวที่ได้บังเอิญสบตากันและเธอต้องรีบหลุบหลบมันทุกครั้งไป เขาทำให้ชีวิตของเธอกลายเป็นเรื่องยาก เมื่อโคโค่ต้องเจอหน้าเขาในทุกวิชาที่ลงเรียนเหมือนกันอย่างน่าเหลือเชื่อ และโคโค่ก็ไม่สามารถแสดงออกในสิ่งที่รู้สึกไปตรงๆ ได้ หรือแม้แต่จะหลงคิดเข้าข้างตัวเองอีกครั้งได้ หลังจากเหตุการณ์ที่ได้เคยกระทำต่อเขา ซึ่งเธอยังคงจดจำทุกเรื่องราวได้เป็นอย่างดี

     

    ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูม่วงเหมือนกับขนมสายไหมในเวลาเย็นย่ำ เพราะอย่างนั้นโคโค่ถึงได้หยุดยืนบนโถงทางเดินระหว่างทางเชื่อมอาคาร เหม่อมองออกไปนอกบานหน้าต่าง แล้วนิ่งงันอยู่อย่างนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่จู่ๆ เธอก็คิดขึ้นถึงหนังเรื่องบลัดดี้ เบิร์ธเดย์ขึ้นมาซะได้ ว่าแต่มันจบยังไงนะ เด็กทั้งสามคนถูกจับได้ ตาย หรือว่าหนีรอดไปทำความชั่วกันต่อ นาโอะไม่ได้ปิดเสียงทีวีเลยตลอดเวลาที่เคลื่อนไหวอยู่บนตัวเธอ แต่ความคิดของโคโค่ก็มัวพร่าเกินกว่าจะจำจดสิ่งอื่นที่รายล้อมรอบตัวได้ น่าตลกดีที่ตอนนี้เธอกลับคิดถึงหนังเลื่อนเปื้อนไร้สาระพรรค์นั้นมากกว่าเด็กผู้ชายที่เคยอยู่ในทุกความนึกคิด เอาไว้เธอจะไปขอให้แคนดิซยืมม้วนวิดีโอจากริวเซย์มาให้ใหม่

    “มีแค่เด็บบี้ที่หนีรอดนะ”

    โคโค่ตกใจกับสุ้มเสียงที่ดังทะลุความเงียบจนเผลอตัวถอยเท้าไปก้าวหนึ่ง และการได้เห็นว่าเป็นใครจะทำให้เธอตกใจยิ่งกว่า เลโอที่ไม่รู้ว่ามายืนข้างเธอเมื่อไหร่หันมายิ้มให้ และโคโค่ก็หมายถึงรอยยิ้มแบบที่ทำให้สติของเธอหมุนติ้วราวกับลูกข่าง จนไม่ทันได้สงสัยเลยว่าเขาอ่านความคิดของเธอได้อย่างไร

    “แค่สัญญาว่าต่อไปนี้จะเป็นเด็กดีแม่ก็เชื่อแล้ว คนเราไม่มีทางเปลี่ยนสันดานได้ในชั่วข้ามคืนหรอก หนังอะไรจบได้โง่งี่เง่าเป็นบ้าเลยเนอะ” เลโอหัวเราะ “คนบางคนมันก็เกินเยียวยาแล้ว เธอว่างั้นไหม โคโค่?” จากนั้นก็เดินมากดไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้แล้วจ้องเข้ามาในดวงตาที่ไหววูบ โคโค่ไม่รู้ว่าเธอกำลังมองสบตากับอะไรอยู่ ความสาแก่ใจ ความเจ็บปวด ความแค้นเคือง หรือความปีติยินดี หากในประโยคคำพูดทั้งก่อนและหลังของเขามีแววเยาะหยันที่โคโค่สามารถเข้าใจได้ในทันที

    “อ้อ ตอนดูพลาดฉากนี้ไปพอดีสินะ แต่ในเค้กน่ะไม่มียาพิษหรอก จูบของนาโอะก็ไม่มียาพิษเหมือนกัน เพราะมันไม่ได้ทำให้โคโค่ถึงตายสักหน่อย จริงไหม?”

    คำพูดไม่ทันได้หลุดรอดพ้นลำคอของโคโค่ เมื่อเลโอจะก้มหน้าลงมาประทับริมฝีปาก เธอพยายามเม้มมันเอาไว้แน่นเพราะคำพูดที่ฟังดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย แต่ความเจ็บทั้งที่แผ่นหลังซึ่งถูกเขาดันไปกระแทกเข้ากับผนังและที่ริมฝีปากล่างจากแรงกัด ก็ทำให้ทำให้โคโค่ต้องเปิดปากออกเพื่อรับการรุกล้ำที่เขาสอดแทรกมันเข้ามา ไม่มีทางเลยที่เด็กเนิร์ดไม่มีใครเอาคนนั้นจะเก่งเรื่องแบบนี้ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับเขาในช่วงปิดเทอมกันแน่ ทว่าความสงสัยก็เกาะติดกับโคโค่ได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น หลังจากเสียงหัวเราะของริมฝีปากที่แนบติดอยู่กับเธอราวกับอีกครั้งที่เขาอ่านความคิดของเธอออก ด้วยจังหวะที่ล่วงล้ำและรุนแรงมาก มือของเธอได้แต่ขยุ้มกระโปรงนักเรียนเอาไว้แน่นจนมันยับย่น รสชาติของสนิมถูกกวนอยู่ในโพรงปากของเธอด้วยลิ้นของเขาที่ช่ำชองเอามากจนโคโค่ที่ก็ไม่ได้อ่อนหัดยังตอบรับไม่ถูก หากนี่เป็นรสชาติของยาพิษมันก็ไม่ได้หวานหอม กระนั้นก็ล่อหลอกให้เธอมัวเมา ก่อนที่จะต้องพบกับจุดจบ นั่นคือความตาย

    เนื้อตัวของโคโค่ที่ทรุดฮวบลงไปกับพื้นชาวาบ ไม่แม้แต่จะกระดิกนิ้วทำอะไรได้นอกจากกลอกนัยน์ตาที่ฉ่ำปรือมองดูมองดูเลโอที่นั่งยองๆ อยู่ข้างหน้า แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากซึ่งเปื้อนเปรอะไปด้วยเลือดสีแดง...ของเธอ

    “เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษให้สาสมกับความผิดของตัวเองต่างหากถึงจะถูก”

    โคโค่รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก

     

    ก่อนที่โคโค่จะลืมตาโพลงขึ้นมาภายในห้องเรียน ที่ซึ่งครูไพรมส์กำลังจ้องสบกับเธอซึ่งนอนหนุนแขนข้างหนึ่งอยู่ที่โต๊ะเรียนหลังสุดกลางห้อง

    “ไม่เป็นไร คุโรดะ ถ้าง่วงมากก็หลับต่อเถอะ”

    เพื่อนในห้องพากันหันมองมาทางเธอแล้วระเบิดเสียงหัวเราะขบขันจนทำให้โคโค่ต้องรีบเด้งตัวขึ้น ผงกศีรษะแทนคำขอโทษให้ครูไพรมส์อย่างขวยเขิน จำไม่ได้เลยสักนิดว่าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่มีทางที่เธอจะทำแบบนั้นในคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ชอบด้วย โคโค่ส่ายหัวน้อยๆ เพื่อขับไล่ความรู้สึกอันน่าหวาดหวั่นของความฝันพิลึกพิลั่นดั่งทัณฑ์ทรมานนั้นออกไป และเมื่อทำท่าว่าจะอ้าปาก เธอก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บที่ริมฝีปากล่างของตัวเองจนต้องยกนิ้วขึ้นแตะ

    ไม่มีทั้งสีแดงบนปลายนิ้ว หรือรสชาติฝาดเฝื่อนบนปลายลิ้น แต่ความเจ็บเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแท้จนเธอต้องนิ่วหน้า สัญชาตญาณทำให้โคโค่เงยหน้าไปยังเจ้าของที่นั่งเยื้องไปด้านหน้าเธอสองแถว เพื่อที่จะได้เห็นเลโอกำลังเท้าคางหันมองมาทางเธอ

    พร้อมกับรอยยิ้มกว้าง




    ANEMOIA CHAPTER 5: Between The White Key And The Black Room (B)
    Inspiration: I Saw the TV Glow (Film, 2024) & yeule – ghosts (MV, 2024)
    Playlist: Bella Poarch – Living Hell

     











    .


    “เธอจูบปากฉันจนมันเย็นชืด

    คิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายควบคุม”

    – ลิฟวิ่ง เฮลล์, เบลล่า พอร์ช

     

    มีบรรยากาศผิดแผกแปลกประหลาดนับตั้งแต่วันเริ่มต้นการศึกษาใหม่ที่โคกิ คุโรดะได้ขึ้นเกรดสิบเอ็ด

    โคกิเจาะจงไปยังเด็กสาวเพื่อนร่วมชั้นปีเดียวกันที่มีชื่อว่าลินนา ลินน์ นากาโอกะ เด็กสาวชาวไทยที่แม่แต่งงานกับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น-อเมริกันและอาศัยอยู่ที่แมสซาชูเซตต์มาตั้งแต่อายุได้ห้าขวบ พอครอบครัวล้มละลายก็ถูกส่งมาอยู่ที่นิวเจอร์ซีย์กับคุณย่าจอมจู้จี้พร้อมพี่ชายไม่แท้อายุมากกว่าหนึ่งปี นั่นคือประวัติครอบครัวฉบับย่อที่เธอเล่าให้ฟังหลังจบคาบภาษาฝรั่งเศสที่เขาตั้งใจไปนั่งข้างๆ แล้วทำทีเป็นพาเดินชมรอบโรงเรียนรวดเลยจนถึงมื้อเย็นในร้านเบอร์เกอร์ และสุดสัปดาห์ที่บอร์ดวอล์กในอีกสามวันต่อมา เพราะใบหน้าโฉบเฉี่ยวใต้เครื่องสำอางของเธอสวยสะดุดตาเขามากนับแต่วินาทีแรกที่ได้เห็น แต่ในเวลาที่ยิ้ม หัวเราะ หรือเปิดปากสนทนาเรื่อยเจื้อยได้อย่างไม่รู้เบื่อกลับสดใสร่าเริงเหมือนกับเด็กน้อย ขนาดทำให้หัวใจของโคกิที่เข้าหาอย่างมีเจตนากับเธอแอบแกว่งไปไม่น้อย

    แต่เพราะโคกิก็คือโคกิ และการทำทีเป็นเอาอกเอาใจ เออออรับฟังเรื่องราวทุกอย่างด้วยรอยยิ้มทั้งที่ข้างในใจรำคาญจะตายชักก็เป็นเรื่องปกติ เหมือนอย่างที่พวกหล่อนก็หลงเชื่อฉากหน้าที่เขาแสดงออกแล้วโอนอ่อนยอมให้เขาเป็นปกติ โคกิจะเริ่มต้นด้วยจูบที่แสร้งทำเป็นเผลอตัวเวลาที่เธอนั่งกินไอศกรีมโคนบนม้านั่งแล้วอ้างว่า “โทษที เพราะเธอน่ารักมาก” ที่ได้ผลมาแล้วนักต่อนัก แน่นอนว่าลินนาที่ตกหลุมพรางเขาตั้งแต่วันแรกสุดก็ไม่มีข้อยกเว้น และเมื่อเธอไม่ได้ผลักไสหรือปฏิเสธคำชวนให้ไปที่บ้านต่อด้วยกัน มันก็คือไฟเขียวให้เขาทำอะไรๆ ต่อหลังจากนั้น

    เพราะพ่อที่ยุ่งเรื่องงานตลอด และแม่ที่ชอบออกไปหากิจกรรมข้างนอกทำกับพวกแม่บ้านด้วยกันตลอด บ้านหลังใหญ่ของคุโรดะจึงเงียบเหงาแทบทั้งวันจนกว่าจะถึงตอนดึกที่ทุกคนกลับบ้านมาอยู่กันพร้อมหน้า ขณะพี่สาวที่มักจะอยู่ติดบ้านตลอดก็โดนเขาอ้อนวอนขอให้ออกไปที่อื่นตั้งแต่เช้าแล้วเช่นกัน ยอมเสียเงินค่าขนมครึ่งหนึ่งให้หล่อนได้เอาไปเที่ยวเล่นนอกเมืองพร้อมกับคำด่าอีกนิดหน่อยก็ถือว่าคุ้มค่า

    หรืออาจมากกว่าคุ้มค่าเมื่อโคกิสานต่อจูบที่เป็นแค่การแตะปากในทีแรก แต่ที่นี่...ภายในห้องนอนทึบทึมที่ม่านสีดำสนิทไม่ได้ถูกรูดเปิดนี้มีเพียงแค่พวกเขาสองคน โคกิได้ลิ้มรสชาติของไอศกรีมวานิลลาและเซเว่นอัพที่เธอดื่มกลั้วปากหลังจากนั้นชัดเจนกว่าเดิมเมื่อเขากวาดลิ้นเข้าไปสำรวจจนทั่วภายในนั้น ทั้งที่เขาไม่ได้ตั้งใจว่าจะรีบร้อน แต่เพราะเนื้อตัวที่สั่นเทามากเกินไปและอ้อมแขนที่กอดรัดเขาไว้แน่นเกินไปจากแค่จูบ ทำให้โคกิต้องหยุดเพื่อถามว่า

    “ครั้งแรกเหรอ?”

    ใบหน้าขาวของลินนาที่เขามองเห็นผ่านเงาสลัวกลายเป็นสีแดงก่ำในตอนที่เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วพยักหน้าเบาๆ โคกิไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับคำถามอะไรให้มากความอีก นอกจากก้มลงไปประกบปากกับเธออีกหน ด้วยความร้อนรนที่ร้อนเร่ายิ่งกว่าอุณหภูมิรอบด้านจนเธอได้แต่ดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่างเมื่อรู้สึกถึงอากาศที่ขาดหาย และความทรมานที่เบื้องล่างในตอนที่นิ้วมือของเขาสอดใส่เข้าไป แต่เพราะปฏิกิริยาตอบรับที่ดีเกินไปอย่างปลายเล็บยาวที่เลื่อนขึ้นมาจิกลงบนท่อนแขนเปลือยเปล่า ความเจ็บปวดนั้นเองที่กระตุ้นเร้าเขาได้ดีเกินพอ...หรืออาจต้องบอกว่ามากเกินพอ โคกิถึงไม่อาจอดทนรอคอยได้อีกต่อไป ปฏิกิริยาตอบรับจากเธอทั้งเนื้อตัวที่สั่นสะท้าน มือที่เกาะเกี่ยว ปลายเล็บที่กดลงบนแผ่นหลัง ความอ่อนนุ่มของช่องทางคับแคบที่บีบรัดให้เขารู้สึกเหมือนกับจะระเบิดพร่างออกมา เขากอบโกยทุกอย่างจากครั้งแรกของเด็กสาวได้อย่างคุ้มค่า แม้แต่การฝากฝังร่องรอยสีแดงช้ำจนทั่วเนื้อตัวสีขาวผ่อง เช่นเดียวกับของเหลวสีแดงสดตรงหว่างขาจากการรุกล้ำที่ไม่ปรานี

    ความไม่ประสาของลินนาที่ปลุกเร้าให้เขาตื่นตัวและกระหายหิวได้เสมอทำให้โคกิพอใจอยู่ได้สักพัก ถึงระยะเวลาหนึ่งเดือนจะนานกว่าที่เขาตั้งใจไว้ไปสักหน่อย แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา ลินนาที่พยายามตามติดเขาต้อยๆ ทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ และไม่พอใจที่เขาจะคบหากับเด็กผู้หญิงคนไหน ก็ได้กลายเป็นแค่อีกความน่าเบื่อหน่ายโดยไม่มีข้อยกเว้น

    กระทั่งโคกิได้รู้จักกับเด็กสาวต่างโรงเรียนที่ชื่อมิริ-แอนน์ ควินน์ ตอนที่พี่สาวลากตัวเขาไปช่วยเป็นสารถีและคนถือของให้ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ในตัวเมือง ทั้งท่วงท่าและหน้าตาของหล่อนอย่างกับหลุดออกมาจากเจ้าหญิงในเทพนิยาย กระนั้นการเป็นเจ้าชายที่ควรคู่ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อหล่อนไม่ได้ให้ค่าความสนใจเขามากไปกว่าคนแปลกหน้าที่พยายามเข้ามาตีสนิทด้วยอย่างที่คงเคยเจอมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้าไม่ใช่เพราะโคโค่ที่เป็นฝ่ายถูกเขาลากตัวมาให้ช่วยบ้าง หล่อนก็คงเผ่นหนีไปนานแล้ว

    ความยากลำบากเป็นสิ่งที่ทำให้โคกิหงุดหงิดใจ ขนาดเบอร์โทรศัพท์บ้านแค่ไม่กี่หลักหล่อนก็ยังไม่ยอมให้โคโค่ด้วยซ้ำ ทั้งที่เขาเคยได้ทุกอย่างมาง่ายดายแท้ๆ และการได้เห็นความน่าสมเพชของผู้หญิงที่ช่างง่ายดายสำหรับเขาก็จะทำให้โคกิยิ่งหงุดหงิดใจ เขาตัดสินใจบอกเลิกกับลินนาตอนเย็นหลังเลิกเรียนในวันถัดมา โดยไม่สนใจต่อเสียงกรีดร้องร่ำไห้และฟูมฟายเหมือนกับจะขาดใจตาย หากเธอก็ยังเอาแต่ตามตื๊อถามหาเหตุผลที่ตัวเองต้องถูกบอกเลิกเหมือนกับผู้หญิงไร้ค่าจนทำให้โคกิรู้สึกสังเวช ถึงขนาดไม่อยากเปลืองน้ำลายพูดอะไรกับเธอต่อไปอีกสักคำ

    ทว่าฟางเส้นสุดท้ายที่แท้จริงคือตอนที่เขาจะถูกหมัดลุ่นๆ ซัดเข้าใบหน้า หลังจากที่ออกแรงสะบัดท่อนแขนของเธอที่เกาะแกะเขาไม่ยอมปล่อยสักทีจนร่างปวกเปียกนั้นล้มลงไป และเหตุผลที่ทำให้โคกิหัวร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ ก็เพราะเจ้าของหมัดที่ทำเอาเขาหน้าหันไปเลยคือไอ้เด็กเนิร์ดตัวเตี้ยหน้าตาโง่เง่าจากชมรมภาพยนตร์กะหลั่วๆ ที่ตรงตามนิยามของคำว่า โคตรกระจอกเป็นบ้าที่มีชื่อว่าทาเกยูกิ มายูมิ

    “ทำอะไรผู้หญิงวะ!”

    โคกิไม่อยากยอมรับกับการที่ต้องมาถูกไอ้พวกต่างระดับพรรค์นี้มาทำให้เสียหน้า เขาถึงได้ตะโกนท้าทายไปว่า

    “แล้วแกมาเสือกอะไรด้วยวะ! ถ้าอยากได้ลินนานักก็เอาไปเลย! แต่แกก็ได้แค่ของเหลือจากฉันเท่านั้นแหละวะ ไอ้ห่าเอ๊ย!”

    แต่ก่อนที่หมัดอีกลูกจะพุ่งตามมา ลินนาก็จะรีบลุกเข้าไปขวางระหว่างกลาง แล้วผลักอกของทาเกยูกิที่ก็หาได้ทำให้เขาระคายจากเรี่ยวแรงเท่านี้ แต่คงเป็นความขุ่นเคืองข้างในอกมากกว่าที่ได้เห็นว่าเธอหน้ามืดตามัวเพราะความหลงตั้งขนาดนี้

    “มันไม่ได้รักเธอแล้วนะ ลินนา ยอมรับความจริงได้แล้ว!”

    “ไม่ใช่เรื่องของนาย ทาเกะ!” เธอกรีดเสียงตะโกนใส่หน้าเขาอย่างนั้น “แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของเลโอที่บอกให้นายมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันด้วย!”

    แต่กลับเป็นโคกิที่โพล่งแทรกขึ้นก่อนใครได้เอ่ยว่า “ฉันก็ไม่อยากให้เธอมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันเหมือนกันเว้ย ลินนา!” ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปิดบังความไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย “ฟังนะ ฉันมีคนที่ชอบแล้ว คนที่ไม่ได้น่าเบื่อ น่ารำคาญ และไม่ได้ง่ายเหมือนเธอ! รู้แล้วก็ไปให้พ้นๆ ชีวิตของฉันสักที! อย่าทำให้ฉันต้องเกลียดเธอไปมากกว่านี้เลยเหอะว่ะ!

    โดยไม่รอฟังทั้งเสียงร้องไห้หรือเสียงด่าทอที่ผสมปนเปกันไปในตอนที่กระแทกส้นรองเท้าหนังจากมา ก่อนหยุดมองดูเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนบานหน้าต่างใสแจ๋วตรงโถงทางเดิน แก้มของเขาทั้งเจ็บทั้งปวดแถมยังมีรอยช้ำจากแค่หมัดเดียวที่หนักเป็นบ้า ระยำเอ๊ย! เฮงซวยฉิบหาย! เขาสบถก่นด่าทั้งไอ้ทาเกยูกิที่สันดานชั่ว ลินนาที่เกาะติดอย่างกับปลิง เหมือนกับพี่ชายของเธอที่ก็ไม่เจียมกะลาหัวมาชอบพี่สาวของเขา เขาเกลียดแม่งหมดทุกตัว

    และการคบควงผู้หญิงคนอื่นเพื่อเป็นไม้กันหมาของแฟนเก่าที่เอาแต่มองตามเขาด้วยความอาลัยอาวรณ์ แต่ไม่กล้าเข้าหาแล้วอยู่ได้ ก็พอจะเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยระงับอารมณ์ขุ่นมัวให้โคกิไปได้จนกว่าจะถึงช่วงปิดเทอม




    แต่เมื่อเทอมใหม่เริ่มต้นขึ้น รอยยิ้มก็กลับมาประดาประดับบนใบหน้าที่เคยเซื่องซึมของลินนาอีกครั้ง สายตาที่เคยทอดมองเขาด้วยความละห้อยบัดนี้เต็มไปด้วยประกายเจิดจ้าที่แพรวพราวสดใส ความมีชีวิตชีวาอาบล้อมอยู่ทั่วตัวเธอเหมือนกาลครั้งหนึ่งก่อนที่จะถูกเขาพรากมันไป ทว่าทั้งหมดเหล่านั้นไม่ได้มีไว้เพื่อเขาอีกต่อไป และการได้สำเหนียกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสายตาของเธออีกแล้วก็จะยิ่งทำให้โคกิขุ่นเคืองใจ

    แต่ไม่ใช่กับสายตาของพี่ชายเธอที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทุกครั้งที่เขาบังเอิญสบตา โคกิก็เกือบจะแน่ใจว่ามันจดจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว เหมือนกับที่เขาก็เกือบจะรู้สึกได้ถึงเวิ้งมืดมิดผ่านดวงตาสีดำสนิทที่ราวกับมองทะลุเข้าไปภายในใจและอ่านทุกอย่างที่เขาเก็บซ่อนไว้ได้ปรุโปร่ง เป็นความรู้สึกยะเยือกเย็นไปถึงไขสันหลังที่ทำให้เขาขนลุกชันได้เสมอจนต้องเป็นฝ่ายเบือนหลบไปเอง ไม่ใช่อย่างไอ้กระจอกทาเกยูกิที่ตัวติดกับสองพี่น้องซึ่งไม่เคยทำให้โคกิรู้สึกอะไรนอกจากรกหูรกตา

    กระทั่งมาถึงวันที่โคกิอดรนทนไม่ไหวกับสายตาคู่นั้นของเลโออีกต่อไป แต่เขาก็หวาดหวั่นเกินกว่าจะไปพูดกับคู่กรณีด้วยตัวเอง กระทั่งลินนาขอตัวไปเข้าห้องน้ำระหว่างคาบเรียน เขาเลยมองเห็นเป็นโอกาสขณะประวิงเวลาอยู่อีกพักแล้วถึงขอตัวลุกตามไป ทันได้มองเห็นแผ่นหลังของเธอที่เดินเอ้อระเหยอยู่บนโถงทางเดิน ก่อนผลักบานประตูแล้วหายลับเข้าไปในห้องน้ำหญิง

    เกิดความลังเลอยู่ชั่วอึดใจ แต่สุดท้ายโคกิก็ตัดสินใจตามเธอเข้าไปในนั้นด้วย

    “ลินนา”

    เมื่อนั้น เด็กสาวที่ยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้าจึงค่อยๆ ขยับใบหน้ามาตามเสียงเรียก วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มมาตั้งแต่เช้า มีแสงสว่างส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างบานเดียวน้อยเกินไป ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอจึงถูกพาดผ่านด้วยเงามืดจนเขามองเห็นได้ไม่ชัดเจน กระนั้นก็ช่วยขับเส้นผมที่เป็นสีดำขลับเหมือนกับชุดกระโปรงและรองเท้าส้นสูงบนผิวสีขาวจนเกือบจะซีด ครั้นแล้วริมฝีปากสีแดงสดที่เปื้อนเปรอะลงมาจนถึงคางของเธอก็แยกออกเป็นรอยยิ้ม ก่อนที่โคกิจะชะงักงันไปเมื่อได้เห็นว่ามันไม่ใช่สีของลิปสติกอย่างที่เข้าใจในทีแรก

    และสิ่งที่เต้นตุบอยู่ในอุ้งมือของเธอก็คือ...หัวใจที่มีเส้นเลือด

    ฉับพลันนั้นเองที่ความพรั่นพรึงแล่นปราดเข้ามา เขาอยากวิ่งหนีออกไปจากที่ตรงนี้ให้ไกลที่สุด แต่ราวกับมีเวทมนตร์มาตอกตรึงร่างกายเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน แม้แต่สรรพเสียงใดก็ไม่เล็ดลอดออกจากลำคอ มีเพียงลูกนัยน์ตากลอกเกลือกที่มองเห็นลินนาก้าวย่างเข้ามา

    พร้อมกับรูกลวงที่หน้าอกข้างซ้าย

    “คนเดียวที่ฉันมอบหัวใจให้ก็คือนายนะ โคกิ”

    เธอกัดกินเศษเสี้ยวหนึ่งของหัวใจตัวเองแล้วโยนมันทิ้งไป ก่อนที่จะเอื้อมมือมาประคองใบหน้าทั้งสองข้างของเขาไว้ โคกิรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงพยายามเม้มริมฝีปากปิดสนิท หากการกระทำขืนขัดใดล้วนไม่เป็นผล ปากของเขาเผยออ้าเพราะเธอต้องการให้มันเปิดรับ มันเป็นจูบที่ทั้งน่าขยะแขยงและน่าสะอิดสะเอียน ไม่เพียงแต่รสชาติคาวของเลือดที่ทะลักทะลายเข้ามา หากยังรวมถึงชิ้นเนื้อทำให้โคกิอยากอ้วกออกมา แต่เธอก็ยังคงปิดกั้นเส้นทางนั้นไว้ด้วยจูบที่กลืนกินโดยไม่ยอมผละจาก และเมื่อโคกิรู้สึกได้ถึงอวัยวะภายในที่บิดไปมาเหมือนกับว่ามันกำลังถูกกัดกิน ร่างกายของเขาก็คลายเป็นอิสระ เมื่อได้แต่ดิ้นพราดลงไปบนพื้นด้วยความทรมาน

    ก่อนที่เขาจะสำรอกเอาของเหลวสีแดงออกมาเปรอะกระจายไปทั่วพื้นกระเบื้องสีขาวหม่น

     

    แต่เป็นแฮมเบอร์เกอร์มื้อค่ำที่เขาลุกขึ้นปิดปากตัวเองก่อนเข้าไปอาเจียนลงชักโครกได้ทันท่วงที

    ไม่มีสีแดงฉานของเลือด ไม่มีเศษชิ้นส่วนของอวัยวะภายใน ไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรนอกจากลำคอที่ปวดแสบปวดร้อนจากน้ำย่อยสุดท้าย

    โคกิรู้ว่ามันคือความฝัน ทว่าทุกความรู้สึกกลับชัดเจนแจ่มชัดราวกับว่ามันได้เคยเกิดขึ้นจริง











    2024年09月09日
    _______________
     เพราะเมื่อวันที่ 7 มี TGC เด็กคันจูไปแล้วกูก็ชักแหง่กๆๆๆๆ เพราะร้องเพลงบีลีฟของอาราชิที่กูรักมากกกกกๆๆๆๆ O<--< แล้วพอเห็นโอเระเรโอะร้องท่อนก่อนนิชิทาคุจะแร็ปครั้งเดียว ใจกูก็ไม่เป็นของกูอีกเลย 55555 ด้วยความสงสัยคาใจอะไรไม่รู้ กูก็ไปเสิร์ชหาว่าเรโอะสีอะไรวะเพราะลืม ละพอรำลึกได้ว่าเป็นสีขาวแล้วชื่อหนังเรื่องนี้ก็แว่บเข้ามา จากนั้นก็เอาเว้ย! มาโว้ย! ขาวดำ! โอเทลโล่! (ไม่ใช่เคน) โอกาสแบบนี้มีไม่บ่อย แต่ได้เจอเรโอะบ่อยแน่นอน เพราะเด็กคันไซเล่นกูอีกแล้วว้อยย ไม่น่าหลงเข้าไปดูแข่งการ์ดเกมโปเกม่อนพี่ฟุกกะคัพเล้ย Orz ลาแล้วนะ โอกะ ยูริ เมนในแอมบิเชียสคนแรกที่ยังไม่ทันได้ประกาศให้โลกรู้ กูรู้คนเดียวก็พอ แต่ไม่ไปฝั่งคันไซเต็มตัวอีกแล้วแน่นอน เพราะรุ่นน้องชอบคัฟเวอร์เพลงรุ่นพี่แถวบ้านแล้วมันไม่ม่วนง่ะ ละกูสายฟังเพลงง่ะ ขอท่ดนะ ยังไงโตเกียวก็อิสดาเบสต์ >_<
     ตั้งใจเลือกอีกคนที่อยู่วงเดียวกัน เพราะยังไม่ค่อยรู้จักแอมบิเชียสเท่าไหร่ (แต่จำหน้าได้หมดแล้วนิตอนนี้) แต่นี่ชอบมายูมิใน TGC มากกกๆๆ ออร่าปังๆๆ สมกับเป็นเซนเตอร์ เพราะงั้นก็มาเป็นตัวรองต่อจากฮิสทีเรียอีกสักเรื่องนะจ๊ะ ไม่แน่ว่าสักวันนายอาจได้เป็นพระเอกก็ได้ ใครจะไปรู้ >_< / ส่วนนาโอะแค่เพราะรูปในเซ็ตนี้ที่ถ่ายกับคุโรดะหล่อสุด สมัย 5 ที่ไม่มีใครสู้ได้แล้วป่ะวะ ว่าแต่เรื่องนี้ทำไมผู้ชายมีแต่เตี้ยๆ จัง เครียดเลยกู อิอิ (แต่เรโอะกับนาโอะได้ลงไฟน์บอยส์นะ!) / ขอโทษนะ ตอนแรกจะใช้คุโระหัวทองแล้ว แต่ไหนๆ ละก็หัวดำน้ามตาลให้หมดทั้งเรื่องเลยละกัน แหะๆๆ เดี๋ยวช่างไฟ (กู) จัดสีให้เองจ้ะ >_<
     ชื่อหนังจริงๆ คือ Between the White Key and the Black Key ด้วยความที่ชื่อนี้ติดหูติดหัวกูมากเลยเอามาดัดแปลงหน่อย ตอนแรกหาคำต่อท้ายไวท์ไปเยอะมากแต่ไม่เปิงใจสักอย่าง ส่วนแบล็กรูมส์เพราะ...กูไม่อยากบอกว่ามันคล้องกับคำว่าแบครูม แค่นั้นแหละ 55555 แล้วพอตื่นมาใหม่กูก็คิดว่างั้นคงคำว่า Key ดีไหมวะ เพราะห้องต้องมีกุญแจไข เฉียบ! แต่ถามว่าเกี่ยวอะไรกับเรื่องไหม เอาจริงคือไม่ เพราะเรื่องที่เปิดประตูไขกุญแจมันคือแชปสองแล้ว กูไม่เล่นซ้ำแล้ว แต่ไม่เป็นไร เซ็ตนี้กูเน้นชื่อไม่เกี่ยวกับเรื่องอยู่ละ ต้องแคร์ไร 55555 / ขอบคุณ Apple TV ที่มีเรื่อง I Saw the TV Glow ให้เช่าดู เป็นเรื่องที่ดิชั้นสนใจเพราะเห็นตัวอย่างเป็นภาพนีออน เค้าขายเป็นแนว horror และ yeule ที่ดิชั้นรักก็ร้องเพลงประกอบ แต่พอได้ดูแล้วก็ไม่ได้ว้าวเท่าไหร่ ชอบแค่แสงสี บรรยากาศ ตุ๊กตาอะม็องอัสกับสควิดเกม อะไรใดๆ แต่ก็ขอบคุณที่ทำให้ได้ฉากกับบรรยากาศมาลงกับเรื่องนี้ ที่จริงแล้วเรื่องนี้อาจไม่ต้องอยู่ในแอนีมอยอาก็ได้ แต่เพราะได้แรงบันดาลใจจากคลิปแบครูมในโรงเรียนที่อยากแต่งมานานมาก งั้นก็มาเถอะ จะได้ฟีลลิมินอลไหมก็ช่าง V/H/S ยังใส่ไปเรื่อยได้เลยโว้ยย! เรื่องนี้เน้นความดาร์ค ความกอร์ ความปาก ตามหน้าพระเอกจ้ะ
     ขอบคุณเพลงประกอบล่วงหน้า เพราะกูคิดบทสี่คนนี้ออกหมดแล้วจ้ะ (แต่บอกเลยว่าคุโรดะนี่มีอาถรรพ์นะ เปิดมาทุกเรื่องไม่แต่งสักเรื่อง ทั้งที่มีพล็อตทุกเรื่อง งง) ในที่สุดก็ได้ใช้เพลง The Perfect Girl ที่รักมานานมาก อีดอกเอ๊ย นึกถึงฟิคเดดสิลูเอ็ตเลย ฟีลเดียวกันเป๊ะ ยังคิดอยู่ว่าจะเอาไง  / และเห้ย! กูเจอเพลงของเบลล่า พอร์ชว่ะ! ฟอลกายว่ะ!

    2024年09月17日
    _______________
     ที่จริงพล็อตตอนนี้จะปูแค่ว่า พอเปิดเทอมมา สองพี่น้องก็เจอสองพี่น้องที่เปลี่ยนไป ไม่มีการปูเรื่องระหว่างทางอะไรทั้งนั้นนอกจากบอกเล่าที่มาแล้วข้ามไปวันเปิดเทอมเลย แต่พอแต่งๆ ไปฉากโน้นนี้ก็ดันเพิ่มเข้ามา แล้วมันก็ด้นสดไปเรื่อยเหมือนอย่างที่พวกเราเป็นกันตลอดอีกแล้วว่ะ...เพิ่ล / ถึงอย่างนั้นก็ตั้งใจให้เรื่องในแอนีมอยอาเกี่ยวพันกับความฝันทั้งหมดจริง เพราะลิมินอลแบครูมส่วนใหญ่มันเกิดในความฝันไหมวะ และสำหรับกูที่เคยฝันถึงแนวลิมินอลมาแล้วหลายครั้งก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่น่ากลัวจริง ฟีลเหมือนเส้นแบ่งระหว่างฝันหรือตื่น ได้แต่ตัวสั่นหงึกๆๆ / แต่ขอสารภาพก่อนว่ากูยังคิดพล็อตหลักใหญ่ใจความอะไรไม่ค่อยออก ในหัวกูมีแค่ บ้านคุโรดะนิสัยเสีย เจอบ้านนากาโอกะมาเอาคืน (แต่งพาร์ทคุโรดะแล้ว (สองร้อยคำ) มีตอนต่อแน่ (มั้ง) ไม่เจออาถรรพ์แน่ (เหรอวะ)) แต่บ้านนากาโอกะทำแบบนี้ได้ยังไง เพราะมิสเตอร์เมแลนโคลี่ไหม หรือยังไง อะไร ไม่รู้ว่ะ ขอรอตกผลึกอีกที แต่ไม่ใช่มนุดต่างดาวแน่นอนจ้า นั่นอยู่ที่แชปสองละ (มั้ง)
     ชื่อโรงเรียนลักมาจากเรื่องทีวีโกลว์ เพราะเห็นเค้าย่อว่า VHS แล้วเหยดดด เยี่ยวมาก! ปังมาก! ชอบมาก! เพราะโรงเรียนที่ไปถ่ายทำชื่อเวโรน่าไฮสคูลเว้ย! ก็เลยเลือกนิวเจอร์ซีย์และเซ็ตติ้งปี 1996 เหมือนในเรื่องตอนต้นที่พระเอกไปดูพิงค์โอเพคบ้านแมดดี้ไปเร้ย ยันเช้า! เพราะถ้าไม่มีหนังเรื่องนั้นก็คงไม่มีฟิคเรื่องนี้ U_U จะได้ดูวีเอชเอสเหมือนชื่อโรงเรียนด้วยไง เริ่ดไหมๆ อิอิ / และขอบคุณฉากปาร์ตี้ริมสระจากเรื่อง Night Swim ค่ำคืนอย่าแหวกว่ายที่เราดูด้วยกันเดือนก่อน (พล็อตเห่ยมาก น้ำพุญปป่ะ) แต่ฉากสระว่ายน้ำแบบชิโรเสะกูยังไม่มาจ้า อันนั้นต้องทชเท่านั้น รอก่อน อิอิ...หาแม่
     ทีแรกฉากดูหนังกับนาโอะมันจะไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย กูกะหามั่วๆ เอาเรื่องอะไรก็ได้ขอแค่เป็นหนังสยอง แต่ทีนี้ จู่ๆ กูก็คิดถึงเรื่องวันเกิดนี้ที่เราดูด้วยกันเมื่อหลายเดือนก่อน ทั้งกูมึงต่างก็ไม่รู้จักเรื่องนี้มาก่อน แล้วก็งงมากว่ามันอิหยังวะ ผีบ้าผีบอ เด็กดีที่ไหน แต่เด็กเปรตที่นี่ จากนั้นพอแต่งๆ ไปแล้วก็เอ้า! เด็กนิสัยเสียเหมือนบ้านคุโรดะเปี๊ยบเลยนี่! โหหห เว่อร์เนาะ ทั้งที่หาไปเรื่อย แต่ดันลงได้แบบงงๆ พวกเรานี่ชลาดไม่เบา เอาเรื่องว่ะ / ส่วนที่เลือกเป็นชมรมหนังเพราะกูมีคอหนังอยู่สองคนละในเรื่องนี้ (มึงกับมายูมิไงวะ ฮ่าๆๆ) / ขอเล่าหน่อยว่าฉากตอนท้ายได้มาจากสมัยเรียนมอปลาย วิชาภาษาไทย ตอนนั้นคุยโทสับกับผัวจนดึกจนดื่น พอบ่ายๆ ก็เคลิ้มๆ แล้วก็นอนหลับเท้าแขนไปแบบนี้เลย ฉากลืมตามาป๊ะกับครูผู้ชายละพูดว่าให้กูหลับต่อก็มีจริง ขอบคุณประสบการณ์จริงที่ให้หยิบยืมมาลงฮร่ะ
     โอกะแอบได้มาเพราะเห็นเค้าพูดปะกิต พอไปเสิร์ชมาก็เหยดด เรียนเอกอังกฤษกับอเมริกันว่ะ ไหนๆ ก็คงไม่ได้แต่งฟิคแอมบิในเวลาอันใกล้ (มั้ง) ก็สวัสดีค่ะ เมนเก่าดิชั้นเอง อะไรนะ มีหัวทองแล้วทำไมไม่ให้พระเอกหัวทองเหรอ ไม่รู้ๆๆ (รูปติกเก้อมูนไลน์แคะหู) / ฟุคาดะได้มาเพราะอยู่ในรูปเซ็ตเดียวกับคุโระ(เมโระ)ที่กูเปลี่ยนเนี่ย สามหนุ่มสามมุมตะลุยต่อกๆ เมื่อหลายวันก่อนไงวะ เอาจริงถ้าไม่ใช่คนนี้ แต่เป็นน้องแถวหลังคนไหนก็ได้ไม่ว่าใครกูก็จะเอามาอยู่ดี ทำไปเพื่ออะไร ทำไมกูชอบใช้รูปเป็นเซ็ตก็ไม่รู้ 55555 ละขอโทษด้วยนะ กูไม่ได้ชอบเค้าเหมือนมึงหรอก แต่ถ้าบทไม่ลงเป็นแฟนแคนดี้กูก็ไม่รู้แล้ว จะให้มีรีแอนรับบทเพื่อนนางเอกกิ๊กก๊อกก็ไม่ได้ แต่ไม่เด่นหรอกสองคนนี้ เพราะงั้นก็ช่างมันๆๆ ขอโทษนะ ไม่แย่งหรอก กูไม่ชอบ เคียวเฮที่ไหน เด็กดีที่ไหน / แอบให้อ่านชื่อว่าเลโอเพื่อความเป็นฝรั่ง เหมือนที่ถ้าโคโค่อยู่ญปก็คือโคโกะนั่นแหละจ้ะ
     กูรู้จุดร่วมของเมนคันไซกูละว่า...เสียงไม่(ค่อย)เวิร์ก ยกเว้นโคทาโร่คนเดียวที่รอด ฮ่าๆๆ Orz / ละนี่เพิ่งรู้ว่าใน Jr. แชมป์ มายูมิคือคนที่กินโค้กท่องค่าพายแต่ดันแพ้น้องบีบอย 55555 อ้อ นึกออกด้วยละว่าคนนี้คือคนที่กลับจากวัชโช่ยแล้วได้เป็นเพื่อนไทโช โลกหมุนรอบเมนดิชั้นจริงๆ สวัสดีค่ะ

    2024年10月10日
    _______________
     ที่จริงแต่งสองย่อหน้าแรกของพาร์ทล่างพร้อมกับพาร์ทบนนั่นแหละ แต่ก็ทิ้งไว้ตรงนั้นเพราะยังไม่เจอพล็อตที่เปิงใจสักที กระทั่งสองสัปดาห์ก่อนที่ยูลปล่อยเอ็มวีเพลง ghosts แล้วกูก็กรี๊ดดด!!! ชักแหง่กๆๆๆๆ O<--< เพราะเอ็มวีเป็นโทนขาวดำ! ละมีฉากฆ่าอย่างที่กูตั้งใจให้คู่นี้เปี๊ยบ! แค่ยังคิดภาพชัดๆ ในหัวไม่ออกจนกระทั่งได้เห็นเอ็มวีนี้แหละ โอ้โห ขนลุกย่าบๆ เพราะงั้นก็พูดได้เต็มปากแล้วล่ะนะว่ายูลเป็นแรงบันดาลใจชิ้นใหญ่มากให้กับให้ฟิคเรื่องนี้จริงๆ ยกมือไหว้เลยค่ะ T/\T / ที่จริงกะว่าจะรอแต่งให้จบหมดถึงค่อยลงรวดเดียวไปเลยเหมือนพาร์ทบน แต่เพราะช่วงนี้เราแต่งฟิคจบก็ขี้เกียจเกลาอยู่เนืองๆ เดี๋ยวไม่มีใครเชื่อว่ากูแต่งเรื่องนี้อยู่จริงๆ ละไหนๆ วันที่ 9 ก็เปิดรอบดรีมบอยส์ (ต่อยมวย) เลยเอามาลงก่อนเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีเรื่องนี้จริงๆ นะ! (ตบอกแบบโยซิสแตมป์) แต่จำต้องขออนุญาตตัดฉากไม่เหมาะสมไปก่อนชั่วคราว (สองย่อหน้า) ตอนนี้สมองตื้อตัน รอกูหาซื้อนิยายเอาฉากเอาภาษามาก่อน คิดซะว่ากำลังดูหนังที่ฉายช่องเจ็ดสมัยก่อนละโดนตัดทิ้งจนเหี้ยนไปนะ เอาเป็นว่าเวอร์ชั่นเต็มจะมาพร้อมกับครึ่งหลังแน่นอน ในปีนี้แหละ! ใครไม่เชื่อกูแล้วแต่ กูก็ไม่เชื่อเหมือนกัน (ตบอก)
     กูจะบอกให้เลยว่าที่คู่ล่างจะออกแนวบลัด...แอนด์ฮันนี่ เพราะผู้ชายมันเฬวไงวะ! fun แล้วทิ้งเหรอ! (สติกเกอร์แลนแลนกระทืบเท้า) ลินนาที่รักมากก็เลยยิ่งแค้นมาก! ต้องมาแก้แค้นเอาคืนให้เจ็บกว่าที่ตัวเองเจ็บเป็นร้อยเท่าพันเท่า! (นั่นกูไหมวะ) แต่เพราะคุโรดะมันเฬว เดี๋ยวก็จะหาวิธีแก้แค้นเอาคืนต่อ! โอ้โห! แค่คิดก็เทอริฟาย(เออร์)แล้ว ส่วนโคโค่แค่ทำให้เรโอะอับอายเฉยๆ เค้าก็เลยแค่กลับมาเย้ยหยัน (มั้ง อิอิ) / ตกใจมาก ไม่อยากเชื่อว่าแต่งไปแล้วจะชอบนิสัยของคุโระกับเรโอะในเรื่องนี้มากกก ออกมาถูกใจยิ่งกว่าที่คิดในหัวอีก (แต่สองนางเอกน่ารำคาญหมด) ตอนแต่งฉากคุโรดะด่าคนอื่นหมดแต่ไม่โทษตัวเองเลยนี่โคตรชอบ ได้มาก อย่างเอา ทำไมเค้าถึงได้เปิงขนาดนี้นะ 55555 / นอกจากลินนา คุโระ นาโอะ มิริ ทุกคนที่อยู่ในรูปด้านบนเรียนอยู่ชั้นปีเดียวกับโคโค่หมด แต่เพราะเรโอะห่วงน้องเลยฝากเพื่อนที่ไว้ใจได้ให้ช่วยดูแลแทนตัวเอง แต่ที่มายูมิมาเจอสองคนนี้พอดีคือเรื่องบังเอิญเหมือนในหนังละคอนทั่วไปเฉยๆ ไม่ได้แอบตามมาแต่อย่างใดจ้าา / ไทม์ไลน์อาจจะงงๆ กับพาร์ทบน เพราะกูอ่านเองก็ยังงงๆ ว่าฝั่งไหนมีเรื่องก่อน -_- แต่จะไม่แก้อะไรละนะ คิดซะว่าฟอร์ fun (แต่ดีเทลอื่นไม่เคยมั่ว เพราะกูหาข้อมูลก่อนตลอด ถ้ามั่วก็จะบอก ไม่ใช่ทำเป็นอวดชลาด เพราะชลาดจริง (ตบอก)) / ฉากต่อยในเรื่องนี้คิดว่าไม่น่าจะปลอม เพราะคุโระอาจเข้ายิมจริงแต่ก็ยังดูผอมไหม ส่วนทาเกะอันนี้เล่นกีฬาหลายอย่างจริงละดูเตี้ยๆ ตันๆ หมัดน่าจะหนักจริงอยู่ไหม เพราะกูจะสื่อว่าพวกเด็กเนิร์ด(ในเรื่องนี้)ไม่ได้แค่วันๆ ดูแต่หนัง มันก็ทำอย่างอื่นไปเรื่อยแหละ แต่พวกคุโรดะมันไม่สนใจพวกชั้นล่างกว่าไง ไรงี้ แต่ไม่มีฮอตเนิร์ดอะไรทั้งนั้น อันนั้นต้องควิซคลับ 55555
     ปล. เห้อออ กูนะชอบบรรยากาศในฟิคเรื่องนี้มากกก ฟีลคลิปแบครูมส์ ลิมินอล เดดมอลล์แบบที่กูชอบดูมากกก แต่งออกมาก็ดีมากกก ใครว่าไม่ก็แล้วแต่ ฮูแคร์ หมีม่วงแคร์แบร์

    2024年10月22日
    _______________
     เพราะเมื่อวานวงนางเอกดิฉันคัมแบค (กับเอ็มวีที่ฟีลลิมินอลสเปซมากๆๆๆ และอย่างที่รู้กันว่าฟิคเซ็ตนี้ก็ก่อกำเนิดมาจากลิมินอลสเปซที่ดิฉันรักมากๆๆๆ T_T) / วันนี้ครบรอบ 3 ปีแอมบิเชียส / และสิ้นเดือนพระเอกดิฉันก็จะได้ลงอันอัน / เนื่องจากไม่รู้ว่าจะได้อยู่ฉลองครบรอบ 4 ปีของวงไหม (หมายถึงเลิกชอบก่อน ไม่ได้แปลว่ากูตาย) แต่ไหนๆ ก็เอามาลงวันนี้ให้เป็นจดหมายเหตุ เพราะนี่คือฟิคเรื่องแรกที่แต่งให้แอมบิ แม้เมนหนึ่ง (ในวง) เมื่อต้นเดือนก่อนจะกลายมาเป็น...เมนสาม...ได้ไงวะ เหตุการณ์คุ้นๆ มาก ซ้ำรอยสมัยวงชื่อย่อบชนมากๆ แต่ฟิคนี้ก็ยังจะเป็นขาวดำเหมือนเดิมนี่แหละ แดงดำไม่ได้ ไม่เหมาะ ไม่เอา เนื่องจากเรื่องนี้เกิดขึ้นได้เพราะเรโอะ (เออ ว่าไปสมัยแชป 1 กูยังเปลี่ยนพระเอกที่เป็นสารตั้งต้นได้เลยนี่หว่า ฮ่าๆๆ แต่ไม่ๆๆ แชปนี้ไม่เปลี่ยนๆๆ) และดิฉันก็ยังชอบหน้าและหุ่น(ก้างๆ)ของเค้ามากกๆๆๆ อยู่ดี ขอบพระคุณค่ะ
     อย่างที่ได้เคยบอกไปว่าเอ็มวีเพลง ghosts ของยูลคือแรงบันดาลใจใหญ่มากให้กับพาร์ทล่าง ตั้งใจไว้แล้วว่าต้องเป็นฉากในห้องน้ำเหมือนกัน (แต่เอ็มวียังมีฉากสวยๆ อยู่อีก ถ้าบุรบาปก็คงได้อ่านในสักวันหนึ่ง) แรกสุดเลยนะ ลินนาต้องฆ่าคุโระโดยใช้มีดแทงแล้วควักหัวใจออกมา แต่ก็คิดว่ามันดาดดื่นธรรมดาไปไหมวะ ซ้ำซากยังไงก็ไม่รู้ เลยยังไม่มีอารมณ์แต่งเท่าไหร่ ดองๆ เอาไว้ก่อน เผื่อเจอไอเดียที่ดีกว่านี้ กระทั่งกูซื้อนิยายเล่มใหม่ที่ได้ก้าวขึ้นสู่ Top 5 ในใจกูอย่าง Mexican Gothic (ที่ฟีลเหมือนเดกะแด๊งมึงมากเย้ดแม่ม) แล้วก็เจอฉากเกือบได้แดกของเหลว(ตุ่มหนอง)ที่ไค่ฮากมาก แค่อ่านก็พะอืดพะอม เลยคิดว่านี่แหละโว้ยที่อยากแต่ง ตบเข่าฉาด! แต่ขอแบบซอฟต์ๆ เบเบาเบาหน่อยละกัน เอาแค่แดกหัวใจกับเลือดก็พอ ยังพอไหว แล้วทีนี้ตอนแต่งฉากนี้กูก็แอบคิดถึงเรื่องของจุนจิที่นกมาป้อนเนื้อ ละมันชื่อเรื่องว่าอะไรรู้ไหม Kuroi Tori ซึ่งก็เว่อร์มากกกเพราะกูไม่ได้อ่านเรื่องนี้มานานแล้ว และคงไม่หาอ่านหรอกเพราะเกลียดมากกกก พูดแล้วอยากสิไค่ฮาก อีโมจิกลั้นอ้วก ละเห้ยย! จี้คาวะก็เป็นตอน Kuroi Nagareboshi ว่าแต่ขาวไปไหนหมดเอ่ย T_T
     สารภาพเลยว่าเรื่องนี้แต่งเอามันเฉยๆ เรื่อยเปื่อยตามอารมณ์และทรงผม ถามว่ามีพล็อตหลักไหมก็มี แต่เป้าหมายจริงๆ ของเรื่องนี้คือเพราะอยากแต่งฉากลิมินอลไปเรื่อย มันเลยต้องเป็นในฝันเพื่อความเซอร์เรียล และเพราะกูอยากแต่งฉากไล่ล่ากับไล่ฆ่านี่แหละ ว่าไปมันควรสลับบทของสองบ้านนี้เนาะ แต่นางเอกกูกับพระเอกมึงร้ายมาเยอะแล้วไง มันเฝือ ผสมๆ กันไปบ้างแล้วกัน (เหรอวะ) เนี่ย กูคิดฉากตอนต่อไปออกแล้วด้วยแหละว่าจะเป็นอาร์เคด (ยอมรับว่าเพราะเมาส์แทร็ป 55555) กับบ้านบอล เห้อออ อยากแต่งฉากลิมินอลอีกเยอะๆ ร้อยล้านเรื่อง  เพราะนี่แหละคือทางของกู แต่นึกไม่ออกเลยว้อยย Orz
     ฟังกูเล่าหน่อยนะ กูอุตส่าห์กว้านซื้อนิยายโรแมนซ์มา สรุปดันเป็นนิยายโรแมน...ติก แต่มันสนุกมาก ขนาดนิยายโรแมนซ์กูยังอ่านทิ้งๆ ขว้างๆ แต่อันนี้กูอ่านจบหมดเลย ทั้งที่บทนางเอกนะตอแล๊ตอแหล งง หรือเพราะจริงๆ กูเป็นคนตอแหล ไม่งง เพราะงั้นถ้าถามว่าทำไมช่วงนี้กูมีแต่นิยายรักใสๆ จังวะก็...ฮิฮิ (หัวเราะแบบด๊อกค่า) / แต่เริ้ยซีนในเรื่องนี้ก็รอดมาได้เพราะอีบุ๊คของสนพ.ฟองน้ำที่มึงแนะนำกู ถ้าแต่งเหี้ยก็ไปด่ามึง ขอบพระคุณ ให้เครดิตแล้ว พอใจหรือยังฮึ! / ยังไม่จบ ขอเมาท์อีกเรื่องนึง คันปากมานานละ พิมพ์ชื่อโคกิโคตรบ่ม่วน บ่คือ บ่เอา ละเวลาพิมพ์ในมือถือกูชอบพิมพ์ผิดเป็นโคกอ มันเพราะอะไร ไหนบอกหมอซิ เนี่ย ละเด็กคันโตรุ่นใหม่จะเอาชื่ออะไรไปสู้กับคันไซ แค่สุโกยากะก็กินรอบวงละ คันหัวเหม่ด
     ปล. ว่าแต่พอเปิดเทอมแล้วนาโอะกับมิริแอนหายไปไหนเลย สองคนนี้เป็นพระรองกับนางรองแต๊บ่นิ (บ่) / กั่กๆๆ ให้โคโค่เปลี่ยนมาย้อมสีผมละเพราะจะเอารูปชุดนักเรียน ส่วนโคกิก็ผมเข้มต่อไป always นะหนุ่มนะ >_< / และขออวยพรวันเกิดนาโอะจุนจุนล่วงหน้าวันที่ 27 ด้วยเลยแล้วกันนะจ๊ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×