ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I have mine.

    ลำดับตอนที่ #32 : I'm Perfect! || OMG หอผมมีผี!!

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 61


    [ APPLICATION FOR GENIE ]





    "อย่างน้อยเราก็เคยเป็นเพื่อนร่วมโลกกันน่ะนะ" <3
    "เพราะฉะนั้นหยุดลบหลู่และเข้าใจเราแบบผิดๆ ทีเถอะ! แล้วนี่ก็แก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้เพราะพวกคุณไม่ได้ยินเสียงผีนะ แบบนี้มันเสียเปรียบกันเห็นๆ เลยนี่ เอารัดเอาเปรียบกันเกินไปแล้ว จะฟ้องศาลฐานหมิ่นประมาทให้ดู!"

    _________________________________________________________________________




    สิ่งของที่สิงสู่ : ตู้เสื้อผ้า

    ชื่อ - นามสกุล : เปรมมิกา ชัยชนะ [Premmika Chaichana] 

    ชื่อเล่น : เพอร์เฟกต์ [Perfect] 
                 - แต่ถ้ารู้สึกกระดากปากหรือเคอะเขินเกินจะเอ่ยก็เรียกแค่ 'เพอร์' [Per] พอนะ!

    สัญชาติ : ไทย

    เพศ : หญิง

    อาชีพ : นักเรียนม.6

    ลักษณะภายนอก : ผีเด็กสาวที่มักแสดงใบหน้าแห่งความอารมณ์ดีอยู่เสมอ ผมของเธอยาวตรงเป็นสีน้ำตาลดำและตัดหน้าม้าเรียบเสมอกัน ดวงโตกลับสีน้ำตาลสว่างสวยงาม ผิวขาวนวล รูปร่างสมส่วนไม่ผอมและไม่อ้วนจนเกินไป สูง 167 ซม. น้ำหนัก 57 กก. 

    นิสัย : ความสามารถพิเศษของเพอร์เฟกต์คือการพูด แน่นอนว่าสำหรับเธอนั้นย่อมไม่ใช่การพูดดีวาทศิลป์เลิศ แต่เป็นไปในแนวทาง 'พูดอย่างไรให้คนผู้แสนอดทนยังรำคาญได้!' ต่างหาก และดูเหมือนเจ้าตัวจะพอใจกับความสามารถของตนเองนี้มากๆ เลยด้วย อธิบายเพิ่มเติมอีกนิดคือเธอเป็นวิญญาณเด็กสาวผู้มั่นคงในเอกลักษณ์การพูดของตนถึงขั้นตั้งคอนเซ็ปต์ให้ตัวเองว่า 'พูดตามตรง พูดมาก พูดน้ำไหลไฟดับ พูดไปเรื่อย' พ่วงมากับความหน้าด้านหน้าทนซึ่งทำให้เธอสามารถพูดสิ่งต่างๆ ได้อย่างไร้อาการเคอะเขินและยางอาย เพอร์ผู้คิดหนักเสมอว่าควรพูดอย่างไรให้กวนประสาทและน่ารำคาญที่สุด ทว่าอย่างน้อยเธอก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควรในระดับนึง (ซึ่งอาจต่ำมากในสามัญสำนึกของคนทั่วไป) แล้วจึงตั้งปณิธาณกับตนเองไว้อย่างแรงกล้าว่าแม้ตนจะพูดมากเช่นใดแต่จะไม่พูดถึงเรื่องใต้สะดือและไม่ลามปามบุคคลอื่นถึงโคตรเหง้าบุพการีเด็ดขาด! 

         อารมณ์ดีและมักมองโลกในแง่ดีเสมอซึ่งถ้าจะพูดให้ถูกก็คือมองโลกว่าจะเป็นยังไงก็ช่างเพราะตัวเธอก็ตายไปแล้วต่างหาก การเป็นวิญญาณมันดีตรงที่ไม่ต้องยึดติดกับสิ่งใดอีกแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าหากโลกจะแตกวันนี้หรือน้ำจะท่วมโลกพรุ่งนี้เธอก็จะยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดีและมองโลกสดใสเหมือนเดิมเพราะมันก็ไม่มีอะไรส่งผลกระทบกับเธอได้อีกแล้ว และเธอว่าสุดท้ายแล้วอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดอยู่ดี ตามแต่แต้มบุญนิดๆ กับบาปหนาๆ จะรังสรรค์ขึ้นมานั่นแหละ

         เป็นผีขี้แกล้งและไม่ได้แกล้งบ่อยหรือแรงแต่มักเป็นการหยอกในเวลาเร่งรีบ... ความขี้เล่นของเธอเป็นสิ่งที่สั่งสมมานานตั้งแต่ตอนเป็นคนจนกลายเป็นผีก็ยังไม่หายไปไหน แต่ก็ไม่ได้เล่นแรงหรอกนะแค่หยอกด้วยความรักใคร่และความหมั่นไส้เท่านั้นแหละ! ถึงแม้เพอร์จะเป็นวิญญาณที่ไม่ยึดติดสิ่งใดเป็นพิเศษแต่การที่เวลาของตนหยุดเดินไปแล้วกลับไปไหนไม่ได้นี่มันน่าเบื่อสิ้นดี ฉะนั้นอะไรที่มีความสุขหรือสร้างความสนุกให้ได้เธอก็จะทำ ซึ่งการแกล้งคนกับผีอื่นนี่แหละวัตถุดิบความสุขชั้นเยี่ยม ในตอนที่ยังไม่ได้เป็นผีสิงตู้เสื้อผ้าในห้องพักเมษ [พระเอก] เธอก็มักจะฆ่าเวลาด้วยการหลอกคนที่ผ่านไปมาแถวๆ ที่เธออยู่แทนแล้วแกล้งด้วยสารพัดวิธีเท่าที่จะนึกออก ซึ่งขอบอกเลยว่าบันเทิงยิ่งนัก!

         คนไม่สนิทอาจจะมองเธอว่าเป็นคนร่าเริงปากจัดไร้มารยาท แต่ถ้าสนิทกันขึ้นมาก็จะกลายเป็นร่าเริงปากจัดไร้มารยาทที่มีข้อดีเพิ่มขึ้นมาบ้างประปราย ถึงแม้ว่าเธอจะสงวนข้อดีต่างๆ ของตนไว้สำหรับเพื่อนสนิทและคนที่ไว้ใจเท่านั้นก็เถอะ แต่มันก็คือความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริงๆ ส่งตรงถึงคุณนะ! อย่างความเป็นห่วงเป็นใยหรือการเอาใจเขามาใส่ใจเราที่แต่ละคนควรมีให้แก่กันเธอก็ไม่ได้มอบให้ใคร แม้แต่เพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนเพอร์ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ ขนาดชื่อเพื่อนบางคนเธอยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ--- แต่ถึงจะบอกว่าไม่สนใจยังไงแต่มันก็มีบ้างที่ต้องแสดงความเป็นห่วงออกไปให้คนอื่นๆ ดังนั้นจะยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าคนไม่สนิทบาดเจ็บเพอร์จะแค่ถามคำถามตามมารยาทประมาณ 'เจ็บตรงไหนมั้ย?' 'เป็นอะไรรึเปล่า?' แต่ถ้าเป็นเพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้ใจล่ะก็จะซักแล้วซักอีกว่าเป็นอะไรมากมั้ย แม้ว่าอีกฝ่ายจะตอบว่าไม่เป็นไรเพอร์ก็ยังคงถามและแทบจะวิ่งไปเอายาจากห้องพยาบาลมาให้ด้วยอันที่จริงคือจะให้อุ้มไปส่งห้องพยายาลก็ทำได้

         โดยพื้นฐานเป็นคนหัวดีแต่ไม่มีความทะเยอะทะยานและไร้การพยายามเพื่อพัฒนาศักยภาพใดๆ เพราะเธอมักจะมองหลายๆ สิ่งรอบตัวเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องจริงจังมากนักแค่ทำมันให้ผ่านๆ ไปก็เพียงพอ ทว่าเมื่อใดที่เธอมีเป้าหมายเมื่อนั้นก็จะเกิดความพยายามอันไร้ที่มาเพื่อนำตัวเองไปสู่จุดหมายให้จงได้ กระนั้นเป้าหมายของเธอไม่ใช่สิ่งที่อยู่ดีๆ ก็เกิดขึ้นมาโดยง่าย เพอร์คิดว่าสิ่งที่ตนตั้งใจจะทำควรเป็นสิ่งที่เธอกำหนดขึ้นเองโดยไม่มีใครมายุ่งเกี่ยวหรือวางจุดหมายไว้ให้ (แต่ชี้แนะได้ตามสมควรนะ!) ควรเป็นสิ่งที่เธอมองว่าคุ้มค่าต่อการพยายามและจะไม่นึกเสียใจในผลที่ตามมา ถึงแม้ว่าความคิดของเธอจะดูเป็นทฤษฎีมากกว่าสิ่งที่ใช้ได้จริงแต่เพอร์ก็ยึดถือการกระทำของตนตามนั้นอยู่ดี และเพอร์ก็ไม่ใช่คนที่บังคับขืนใจใครเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จด้วย แต่แค่ในกรณีที่เธอสามารถบรรลุมันได้ด้วยตัวเองน่ะนะ ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมาก็ต้องมีการยืมมือคนอื่นบ้างแหละน่า---  

    ประวัติ : แรกเริ่มเดิมทีชีวิตของเธอไม่ได้มีความสุขมากนัก กับการอยู่กับครอบครัวฐานะปานกลางที่แสนจะกดดันและเพื่อนสมัยประถมก็พากันเรียกชื่อเล่นเธอกันอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้สนเลยว่าเธอสนุกกันมันหรือไม่ เฮ้ๆ เธอว่าชื่อเธอก็ไม่ได้แย่นะ ความหมายดีด้วย แค่แปลกนิดหน่อยเพราะไม่ค่อยมีคนชื่อนี้เอง แถมบางคนยังเอามาแซ็วประมาณว่า 'ทำไมเพอร์เฟกต์ไม่เห็นเพอร์เฟกต์เหมือนชื่อเลย!' อีก มันหงุดหงิดนะโว้ย! พอจะบอกให้เลิกล้อก็ดันบอกอีกว่า 'แค่ล้อเล่นเอง คิดมากทำไม' อืมจ้ะ! เอาที่สบายใจ
              เธอมีความอยากหลุดพ้นจากเรื่องพวกนี้สูงจึงพยายามอย่างหนักในการเข้าเรียนที่โรงเรียนดังแห่งหนึ่งให้ได้ โดยมีเสียงเชียร์และเสียงยุแยงจากครอบครัวว่า 'ถ้าทำได้แล้วชีวิตจะดีขึ้น!' และด้วยคำว่าชีวิตดีขึ้นนี้มันก็ไม่แปลกใช่ไหมที่จะทำให้เธอตั้งความหวังกับมันว่ามันจะ 'ดี' จริงๆ
               แต่พอสอบเข้ามาได้เธอก็รู้เลยว่าเธอคิดผิด เพราะดูเหมือนว่าคำว่าดีของเธอกับของครอบครัวจะเป็นคนละความหมายกัน เอาล่ะยอมรับเลยว่าโรงเรียนมันเจ๋งจริง ทั้งด้วยระบบต่างๆ และความเป็นเลิศทั้งทางด้านวิชาการและกิจกรรมที่ทางโรงเรียนดูจะเอาจริงเอาจริงเหลือเกิน แต่เพอร์ก็ไม่ได้คาดคิดนี่นาว่าสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องมาเจอกับการล้อชื่อที่เพื่อนสนุกแต่เธอไม่สุขอีกครั้ง เรียกได้ว่าถึงจะดีแต่ก็ดีไม่สุดโดยแท้จริง และถึงจะไม่ชอบยังไงแต่เธอก็ไม่สามารถปิดปากทุกคนห้ามไม่ให้ล้อได้อยู่ดีเนี่ยสิ สิ่งที่ทำได้ก็เลยมีเพียงทนไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่จะทนได้
              พร้อมกันนั้นเอง เพอร์ก็เปิดมาตรการพูดมากและพูดไปเรื่อยเพื่อไล่คนให้ออกห่างจากเธอ เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะส่วนใหญ่คนที่ห้ามแล้วไม่ฟังในการล้อชื่อที่สุดก็คือเพื่อนสนิทนี่แหละ! ส่วนเพื่อนธรรมดาหากปรามไปแล้วก็จะยอมฟังบ้าง ด้วยเหตุนี้เธอจึงมักจะทำตัวพูดมากไม่น่าคบเพื่อดีดออกจากตัวคนเสมอ
              เธอทำเช่นนี้เสมอนั่นแหละ จนเมื่อขึ้นม.2 เจ้าตัวก็ได้พบกับระบบจัดห้องตามเกรดของทางโรงเรียน เธอจึงได้วนมาเจอกับ 'ซัน' ที่บังเอิญเรียนห้องเดียวกันพอดี ซันผู้อัธยาศัยดีมักจะชวนคนอื่นๆ และเธอคุยเสมอและเพอร์ก็มักจะตอบกลับไปอย่างกวนประสาททุกครั้งเช่นกัน แต่เมื่อคุยไปคุยมาเธอกก็พบว่าทั้งตนและซันนั้นมีความชอบและบางสิ่งที่เหมือนกันหลายอย่างเสียจนน่าตกใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นที่เพอร์ว่าน่าสำคัญที่สุดคือพวกเธอต่างก็โดนล้อชื่อเล่นเหมือนกัน โดยชื่อเล่นจริงๆ ของซันคือ 'ซันไลต์' และนั่นทำให้เพอร์เริ่มเปิดอกคุยกันซันได้อย่างสนิทใจมากขึ้นจึงทำให้พวกเธอกลายเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันไปโดยปริยาย
              เพอร์กับซันเป็นคนที่ไปไหนไปกันและตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ตอนม.2 แถมยังตามกันไปเรียนม.ปลายที่เดียวกันได้อีกต่างหาก ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอก็มีทั้งสนุกไปด้วยกัน เป็นห่วงกันและกัน รวมไปถึงทะเลาะกันบ้างตามประสาเพื่อนปกติ ถ้าหากจะกล่าวว่าซันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตของเพอร์ก็ไม่เกินเลยแม้แต่น้อย และเพอร์ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับซันเหมือนกัน  
              หากจะมีบางอย่างที่ต่างกันระหว่างเธอทั้งสอง ก็คงมีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือซันเป็นหญิงผู้รักการท้าทายและมีความพยายามต่อสิ่งต่างๆ เสมอ ซึ่งนั่นช่างต่างจากเพอร์ราวฟ้ากับเหว ซันรักการตั้งเป้าหมายไว้สูงและก็ทำมันได้สำเร็จเกือบทุกครั้ง และเป้าหมายล่าสุดที่ซันตั้งก่อนที่เพอร์จะตายคือแอดเข้ามหาลัยชื่อดังให้จงได้! และนั่นก็ได้กลายเป็นเป้าหมายของเพอร์ด้วยเช่นเดียวกัน (จะกล่าวว่าซันเป็นคนหนึ่งที่สามารถจุดไฟพยายามในตัวเพอร์ได้ดีก็ว่าได้)
              แต่ช่างโชคร้ายที่ความพยายามของเพอร์ไปไม่ถึงฝั่ง เพราะเมื่อรถตู้โดยสารที่เธอกำลังนั่งอยู่นั้นได้ประสานงากับรถกระบะที่ขับสวนมาอย่างแรง ซ้ำร้ายกว่านั้นคือกระบะดันพุ่งเข้าใส่รถตู้ฝั่งที่เธอนั่งอยู่พอดี เพอร์จึงได้รับแรงกระแทกเข้าไปเต็มๆ และกว่าจะได้รู้อะไรไปมากกว่านั้นโลกของเพอร์ก็มืดและดับลง

    ห่วง : อยากเจอเพื่อนสนิทที่ไม่รู้เป็นตายร้ายดี (?) อย่างไรบ้าง

    เหตุผลที่มาอยู่ในห้องพระเอก : ตามพระเอกมา

    สิ่งที่ชอบ : ซัน , ภาพยนตร์ , กวนประสาทคน (ผี) อื่น , แกล้งคนอื่น , ช็อคโกแลต , คนพูดตรง 

    สิ่งที่เกลียด : ความพยายามที่นำไปเจอสิ่งที่ตนเกลียด , มะเขือเทศ , การถูกบังคับ , ผักชี 

    งานอดิเรก : กวนประสาทคน (ผี) อื่น , แกล้งคนอื่น

    เพิ่มเติม : - เพื่อนชื่อซันไลต์ [ซัน] ซึ่งเพอร์เฟกต์ถือเป็นสหายร่วมศึกผู้ปวดใจกับการถูกล้อเรื่องชื่อเล่นเหมือนกัน 
         นิสัยของซันโดยคร่าว : กล่าวได้เลยว่าซันเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนจริงใจและมักช่วยเหลือคนอื่นเสมอ รวมไปถึงความพยายามเข้าใจทุกคนโดยไม่มีข้อแม้นั้นก็สามารถมัดใจคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี และมีความทะเยอะทะยานเพื่อไปให้ถึงจุดมุ่งหมายเสมอ แต่สำหรับเพอร์แล้วเพื่อนรักคนนี้มีนิสัยเสียอยู่หนึ่งอย่างคือหากมีอะไรที่ทำให้เสียใจก็จะไม่อยากเข้าไปยุ่งกับมันแล้วต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อทำใจ แถมยังเป็นเด็กขี้กลัวที่จะอยู่คนเดียวก็เหงาหรือจะอยู่กับคนอื่นก็เกรงว่าจะทำให้ใครไม่พอใจ อันที่จริงคือเป็นคนคิดมากคนหนึ่งเลยล่ะ แล้วด้วยเหตุนี้ซันที่ดูจะรู้จักมักจี่กับทุกคนจึงมักจะสร้างระยะห่างไม่ให้คนอื่นล้ำเส้นของเธอเข้ามามากเกินไป และบุคคลผู้ยืนอยู่ในฝั่งที่เจ้าตัวไม่เคยให้ใครข้ามมาก็คือเพอร์เฟกต์ผู้นี้นี่เอง [คณะที่ซันเข้าคือคณะครุศาสตร์ค่ะ]

    [รูปลักษณ์ของซันไลต์ที่เพอร์จำได้ก่อนจะตาย]
         - ขอมาอธิบายเพิ่มตรงนี้นะคะ ก่อนที่ข้างบนจะยาวเกินไป--- เพอร์นั้นไม่ชอบการพยายามเพื่อมาเจอสิ่งที่ไม่ชอบค่ะ แต่เธอก็คิดว่ายังไงก็คงไม่มีทางที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เธอต้องการและก็ยังคงมีสิ่งที่ไม่ชอบเสมอฉะนั้นเลยไม่พยายามมันเอาซะเลย และการที่เธอจะพยายามทำอะไรสักอย่างคือเจ้าตัวพร้อมจะเมินสิ่งที่ตนเกลียดและเชิดหน้าไปสู่จุดหมายอย่างภาคภูมิ
         - แต่เดิมเป็นคนพูดมากอยู่แล้ว แต่ถ้าได้พูดถึงเรื่องของซันเมื่อไหร่ก็จะยิ่งพูดยาวมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
         - ในส่วนของการล้อชื่อนั้น เธอไม่ได้คิดมากหากล้อขำๆ เป็นครั้งคราว แต่ถ้ามันมากเกินไปมือเท้าก็พาลคันยุบยิบอยากปิดปากคนพูดเอาบัดเดี๋ยวนั้น
         - ขี้แกล้งแต่ไม่แกล้งแรง เพราะเดี๋ยวคนหัวใจวายตาย ทำบาปเพิ่มมันไม่ได้ดีนักหรอก... ตอนเป็นผีสิงที่ตายก็แค่แกล้งดับรถของคนที่กำลังจะไปทำงานสาย ดันประตูรถไม่ให้เปิดออกได้ในขณะที่คนข้างในต้องการจะถ่ายหนัก ตอนเป็นผีสิงตู้เสื้อผ้าก็เคยแกล้งไม่ให้เมษเปิดตู้เสื้อผ้าได้ตอนรีบเหมือนกัน เห็นไหม นิดๆ หน่อยๆ เอง--- 
         - เป้าหมายที่เพอร์เป็นคนกำหนดเองมีเพียงสองอย่างในชีวิตนี้คือสอบติดม.ปลายที่เดียวกับซันและต้องเข้ามหาลัยที่เดียวกับซันให้ได้
         - ไม่มีคำสรรพนามเรียกคนอื่นตายตัว ส่วนมากมักเปลี่ยนไปตามสถานการณ์และความอยากกวนของเธอ--- 
                   o มักแทนตัวเองว่า 'น้อง' เมื่อพูดกับคนที่อายุมากกว่า 'พี่' เมื่อพูดกับคนที่อายุน้อยกว่าหรือไม่ก็ 'นี่' 
                   o แทนคนอื่นว่า 'พี่' เมื่อคนนั้นอายุมากกว่า 'น้อง' เมื่อคนนั้นอายุน้อยกว่า หรือไม่ก็ 'คุณ' 'เธอ'
         -  ว่ากันตามตรงหากปัจจุบันเพอร์มีชีวิตอยู่อายุเธอก็น่าจะมากกว่าเมษด้วยซ้ำ แต่ก็ชอบแอ๊บว่าตัวเองเป็นน้องอยู่ดี


    คุยกับตัวละคร

    "เอาล่ะ ตาเธอเเล้ว เข้ามาเลย" เมษเปิดประตูห้องนอนเพื่อให้ผีคิวถัดไปเข้ามาคุยในห้องเขา "ส่วนที่เหลือก็อยู่กันสงบๆ ห้ามแอบฟัง ห้ามทะลุกำเเพงเข้ามาดู เข้าใจมั๊ย?!" ชายหนุ่มยังไม่วายโผล่หน้าออกมาเพื่อขู่ผีตนอื่นที่อยู่ในห้องนั่งเล่นก่อนจะปิดประตูเเละเดินตรงมาทางคุณ

    :    เธอเข้ามาในห้องแทบจะทันทีที่เมษเปิดประตูให้ ก่อนจะนั่งลงบนพื้นแล้วยืดขาตามสบายด้วยท่าทีราวกับว่าตนเป็นเจ้าของห้องเสียเอง

    "กฏในการอยู่ร่วมกัน ห้ามไปเที่ยวหลอกคนอื่นหรือห้องข้างๆ ห้ามเคลื่อนย้ายอะไรโดยที่ฉันไม่อนุญาต ห้ามค้นข้าวของส่วนตัวกระทั่งแอบดูฉันอาบน้ำ ที่สำคัญ!! ห้ามโผล่มาหลอกฉันตอนกลางคืน ชัดเจนนะ!" ทันทีที่นั่งลงที่พื้นเขาก็เริ่มสาธยายกฏออกมาด้วยสีหน้าจริงจังปนหงุดหงิดเล็กน้อย

    :    "รับทราบทุกถ้อยคำและจะปฏิบัติตามจ้า ขอปฏิญาณด้วยเกียรติของผีเลย" ว่าจบเจ้าตัวก็ชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้วแล้วทำท่าจริงจังประกอบคำพูด แม้ว่าน้ำเสียงจะไม่ได้ไปในทางเดียวกับท่าทางเลยก็ตาม 
         "ว่าแต่เคยมีคนแอบดูพี่ตอนอาบน้ำรึไง? แหมๆๆ! พี่สบายหายห่วงเถอะ เห็นอย่างนี้แต่น้องก็เป็นคนมีศีลธรรมสูงส่งในตัวเองนะ เรื่องผิดผีแบบนั้นมันไม่ใช่แนวอ่ะ แถมทำไปแล้วยังทำให้ระคายเคืองตาอีกไม่เห็นจะคุ้มเลยสักนิด และ-ที่-สำ-คัญ!" หลังจากที่พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ตลอดแต่จู่ๆ เจ้าตัวก็ดันมาขึ้นเสียงเน้นย้ำในตอนท้ายเสียอย่างนั้น "พี่ไม่ใช่สเปคน้องอ่ะ"
         "ชัดเจนนะ!" แล้วปิดท้ายด้วยการย้อนคำพูดของชายหนุ่มนิดหน่อยให้พอกรุ่มกริ่ม 

    "อืม ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ..." ชายหนุ่มก้มหน้าพร้อมยกมือนวดขมับตน ท่าทางจะปวดหัวของจริง

    :    "อ่าว พี่เป็นไรมากมั้ยนั่น?" เธอเอ่ยถามออกไปหลังจากที่เห็นอีกฝ่ายดูท่าจะปวดหัว
         "ถ้าปวดหัวแทนที่จะมานั่งคุยกันแบบนี้ นี่ว่าพี่ควรไปหายากินมากกว่านา" เพอร์เสนอแนะความคิดของตนออกไป ก่อนเจ้าตัวจะเปลี่ยนมานั่งท่าขัดสมาธิแล้วเท้าคางมองดูอาการของเมษ

    "ทำไมเธอ ถึงยังไม่ไปผุดไปเกิดล่ะ? มีห่วงอะไรหรอ?" 

    :    "ก็นะ..." เมื่อคู่สนทนาไม่ได้ทำท่าว่าจะลุกไปกินยาหรือพักแต่อย่างใดเธอก็เริ่มพูดต่อทันที "คือว่านะ น้องห่วงเพื่อนสนิทสุดเลิฟคนนึงม๊ากมากเลยล่ะ พอน้องตายไปก็ไม่ได้รู้ข่าวคราวความเป็นไปของเธอเลย เพื่อนน้องคนนั้นอ่ะนะ แม้ว่าคนอื่นจะมองว่าอัธยาศัยดีแต่นี่ว่าเธอคือสุดยอดแห่งความขี้กลัวและคิดมากเลยล่ะ ถึงจะดูเหมือนรู้จักคนเขาไปทั่วแต่กลับหาคนที่เปิดใจคุยด้วยได้ยากมากๆ เพราะความขี้กลัวนั่นแหละ ก็เลยอยากไปดูให้แน่ใจว่าเพื่อนเขาอยู่ดีกินดีรึเปล่าอ่ะ"
          "แต่ว่าก็ว่าเถอะ" เมื่อเธอได้เปิดปากถึงเรื่องของเพื่อนสาวก็ยากที่จะหยุดพูดแล้ว "น้องว่าเพราะมีเพื่อนคนนั้นเนี่ยแหละ น้องเลยใช้ชีวิตได้อย่างมีเป้าหมายและมั่นใจในชื่อของตัวเองมากขึ้น" ว่าจบเเธอก็ล้มตัวลงนอนกับพื้นห้องโดยไม่ได้สนใจถึงความสกปรกหรือความสะอาด 
         "พี่รู้มั้ย? แต่ก่อนน่ะนะ ชื่อเพอร์เฟกต์คือสุดจะแย่ในชีวิตแล้วอ่ะ โดนเพื่อนล้อนี่มันไม่สนุกเลยนา ถึงนี่จะหน้าด้านหน้าทนก็เถอะ แต่ แต่ แต่! โดนล้อทุกวันนี่มันก็เกินไปรึเปล่าอ่ะ!? แล้วที่หงุดหงิดที่สุดก็คือเพื่อนที่คิดว่าสนิทดันบอกให้เลิกล้อยากที่สุดเนี่ยแหละ เจ็บใจขั้นสุด!" เธอระบายความแค้นในใจออกมาเสียหมดเปลือก อีกทั้งทุกคำพูดยังแฝงไปด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวเสียจนน่าตกใจ
         "แต่ว่าตอนนี้ก็ไม่ได้คิดมากเท่าแต่ก่อนแล้วล่ะ" ก่อนจะกลับมารื่นเริงอีกครั้งราวกับว่าความเกรี้ยวกราดเมื่อสักครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้น

    ชายหนุ่มเหงื่อตกหลังจากที่ได้ยินคำตอบของผีตรงหน้า "...เเล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะ ตามคนอื่นไปไม่ได้รึไง?"

    :    "แหมๆๆ พี่ชายนี่ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย! เรื่องแบบนั้นนี่ก็คิดได้ตั้งแต่ที่ลืมตาขึ้นมาเป็นผีแล้วล่ะ" เด็กสาวเด้งตัวขึ้นมานั่งอีกรอบเมื่อได้ยินคำถามของอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยต่อ "และพี่ก็เป็นคนแรกเลยล่ะที่ตามได้ยันที่พักแถมยังอยู่ได้นานขนาดนี้น่ะ ถามจริงเหอะ หอพี่นี่ไม่มีเจ้าที่หรือว่าท่านลาพักร้อนอยู่รึไง? ถ้าน้องไปอยู่ที่อื่นนะ ป่านนี้โดนไล่ตะเพิดออกมาตั้งนานแล้ว"
         "แต่ในอีกแง่นึงคือดวงเราอาจจะสมพงศ์กันก็ได้นะ มองโลกในแง่ดีไว้เถอะ!" เธอยิ้มกว้างก่อนจะชูนิ้วโป้งให้เมษอย่างอารมณ์ดี

    "...ฮะฮะฮะ" เมษหัวเราะอย่างขมขื่น(?)ที่สุดในชีวิตก่อนจะทิ้งตัวลงกับพื้นเเละสลบไป

    :    "อ้าว?" นิ้วโป้งเธอชะงักค้างกลางอากาศ ก่อนที่เจ้าตัวจะคลานเข่าเพื่อเข้าไปดูอาการของเมษ
         "พี่ๆ ฮัลโหลได้ยินมั้ย?" เธอออกแรงเขย่าแขนของชายหนุ่มเพื่อดูว่าเขารู้สึกตัวหรือไม่ และเมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะลืมตาตื่นขึ้นมาก็เริ่มบ่นบืดยาว "ก็บอกแล้วไงว่าให้ไปเอายาน่ะ ไม่ฟังไง แล้วพี่นี่ก็แปลกนะ ทำไมถึงไม่นั่งบนเตียงก็ไม่รู้ นี่ก็ห้องพี่แท้ๆ เวลาสลบก็จะได้สลบบนเตียงไปเลยไม่ต้องลำบากชาวบ้านชาวช่อง งงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆ!" 
         เมื่อเด็กสาวบ่นเสร็จก็ถอนหายใจออกมาเสียงดังแล้วจึงลุกขึ้นไปเปิดประตู ก่อนจะชะโงกหน้าออกไปเรียกระดมผีอื่น
         "ประกาศจ้า ประกาศ ผีสาวผีหนุ่มและบรรดาผีอื่นทั้งหลาย เจ้าของห้องของเราได้สลบไปเรียบร้อยแล้ว ใครที่มั่นใจในกำลังกายก็ขอยืมมือมาช่วยฉุดเขาขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ ด้วยจ้า" 


    คุยกับผปค.

    เราชื่อมีนเน้อ เรื่องนี้เราคงเเต่งเป็นตอนสั้นๆไม่ยาวเท่าไหร่ ไม่ว่ากันนะ ;-;

    : ไม่ว่าค่าา

    คำถามเดียวเลย ถ้าไม่ได้บททีต้องการจะรับกลับหรือยัดบทคะ?

    : เอ... รับกลับมั้งคะ แต่อยากให้ติดนะ 5555

    ขอบคุณที่สนใจส่งลูกๆมาให้นะคะ ขอให้โชคดีค่าา XD

    : ขอให้ไรท์โชคดีเช่นกันจ้า //ส่งมินิฮาร์ทไปย์
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×