ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (AU Fic HP Blessing) Daredevil's Strange Love (Bellatrix x OC)

    ลำดับตอนที่ #31 : Chapter 31

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 62


                  ทั้งสองเดินมาถึงห้องสมุดแล้วภาพในห้องนั้นกว้างใหญ่เท่ากับที่ฮอกวอตส์เลยก็ว่าได้แต่เบลล่าที่เห็นอะไรติดอยู่บนตู้แต่ละชั้นจึงหันไปถามเด็กชาย

     

                “ป้ายที่ติดอยู่ตรงชั้นหนังสือคืออะไร เซน”

     

                “ป้ายแยกประเภทหนังสือนะ แต่ผมรู้ว่าเธอสนใจศาสตร์มืดใช่ไหม อยู่หน้าเธอเลย”

     

                “แต่ป้ายดูเหมือนจะไม่ใช่ภาษาอังกฤษนิ”

     

                เบลล่าถามเพราะเธอเดินไปที่ตู้ที่เด็กชายบอกแต่มันไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่ใช้อยู่เธอจึงเกิดความสงสัยนั้นทำให้เด็กชายที่อยู่คนละตู้นั้นหัวเราะออกมาหน่อยๆ

     

                “ภาษาอิตาลีนะ ตระกูลโรวว์นั้นส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอิตาลีเวลาเจอหน้ากันในนี้เลยไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษนะ”

     

                “ดูเหมือนนายจะรู้ดีจังเลยนะเซน นายเป็นอะไรกับตระกูลโรวว์หรือป่าว”

     

                เบลล่ากล่าวออกมานั้นทำให้เด็กชายหยุดนิ่งไปนิดหน่อยแต่แค่แปปเดียวเท่านั้นแต่ถ้าเบลล่าอยู่ใกล้ตัวเด็กชายคงรู้

     

                “ทำไหมเธอถึงคิดอย่างนั้นละเบลล่า”

     

                เด็กชายกล่าวออกมาแต่ระยะกับมาอยู่ที่ใกล้หูของเบลล่านั้นทำให้เบลล่าตกใจออกมานิดหน่อยแต่หูของเบลล่ากับแดงขึ้น

     

                “อย่าทำแบบนี้อีกละเซน ที่คิดว่านายเกี่ยวเพราะตระกูลโรวว์พ่อบอกว่ามันหายสาปสูญไปแล้วแต่ทำไหมนายถึงรู้ละเซน”

     

                “เบลล่า คนเรานั้นต้องมีความลับ บางสิ่งเธอไม่ควรรู้จะดีกว่า”

     

                “แต่...”

     

                เบลล่าหันกับมาดวงสีหน้าที่จริงจังแต่เด็กชายเอามือทั้งสองข้างมาจับที่ใบหน้าของเบลล่าด้วยความอ่อนโยนและแววตาที่เบลล่าไม่เคยเห็น แววตาที่แสดงถึงความเศร้า

     

                “เมื่อถึงตอนนั้นเบลล่าผมจะบอกเธอเอง”

     

                “สัญญานะย่ะ เซน เมื่อถึงตอนนั้น”

     

                “อา เธออยู่ที่นี้ไปก่อนนะ ผมออกไปเอาของก่อนเดียวมา”

     

                เด็กชายเดินออกจากห้องไปทิ้งให้เบลล่าอยู่คนเดียว ถึงเบลล่าจะสงสัยในตัวของเด็กชายแต่ถึงถามอะไรไปก็ไม่มีคำตอบรอเวลาที่เด็กชายพร้อมน่าจะดีกว่า

     

                ส่วนเด็กชายที่เดินออกมาจากห้องสมุดมาไกลหน่อยนั้นได้ห้องไปที่กำแพงที่มีรูปวาดสีแดงสาดไปด้วยความงดงามและน่ากลัว

     

                “เซฟแอบฟังคนอื่นพูดกันไม่ดีนะ”

     

                “ฉันรู้อยู่แล้วว่านายรู้น็อค แต่ไม่คิดเลยว่าแบล็กจะสงสัย”

     

                เซฟกล่าวออกมาพร้อมกับเดินมาอยู่ข้างๆกับเด็กชาย สำหรับเซฟรูปภาพนี้มันน่าหวาดกลัวและโดดเดี่ยวแต่มันก็เป็นเพียงแค่ความคิดของตนเองเท่านั้นแต่เด็กชายข้างๆนั้นกับชอบมันเป็นที่สุด

     

                “ซิกนัสเชิญผมไปงานเลี้ยงตอนปิดเทมอปีสามด้วยละ”

     

                “เรื่องจริง งานเลี้ยงนี้มันต้องได้รับการยอมรับนิอย่าบอกนะว่านยได้รับการยอมรับจากซิกนัสแล้ว”

     

                “หึหึ แน่นอนแค่เล่นตรงจุดอ่อนของดรูเอลล่าก็ได้รับความเชื่อใจแล้ว”

     

                เด็กชายกล่าวออกมาลูบภาพวาดด้วยความหลงไหล รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวของเด็กชายนั้นมากมายยิ่งนัก

     

                “หึหึ ยัยผมทองจะเป็นจุดเริ่มต้นของเวทีนี้ หึหึ นี้เซฟฉันว่าจะให้รุ่นพี่เขารู้เรื่องตัวตนของฉันนายคิดว่าไง”

     

                เด็กชายที่หมุนตัวเล่นหันกลับมามองเซฟดวงแววตาที่เป็นประกายที่เหมือนกับหายนะที่กำลังจะมาเยือน รอยยิ้มยังคงบิดเบี้ยว บรรยากาศที่แย่ลง

     

                “แล้วแต่นายน็อค ฉันตามนายทุกอย่าง”

     

                “นั้นสินะ หึหึ ฉันน่าจะได้พลังในการทำนายจากลินน่ามากก็น่าจะดี หึหึก็ฉันเป็นเด็กต้องสาปนิ หึหึฮ่าๆๆๆๆ”

     

                   “แต่สำหรับพวกฉันที่อยู่ตรงนี้มันไม่ใช่เหรอนะเซน”

     

                เซร่ากล่าวออกมาหลังจากที่แอบฟังเด็กชายและเซฟคุยกันเธอ มิเซลและโลเกียไม่เคยคิดว่าเด็กชายตรงหน้านั้นจะเป็นเด็กต้องสาปเลย

     

                “ใช่แล้ว พวกเรามันเพื่อนตายกันนิเนอะโลเกีย”

     

                มิเซลกล่าวออกมาพร้อมกับขยี้ผมตัวเองโลเกียที่อยู่ข้างๆก็ได้แต่ตบไหล่มิเซลอย่างเบาๆนั้นทำให้เด็กชายที่เห็นยิ้มออกมา

     

                “แต่เซน นายปล่อยให้คุณแบล็กรอนานแบบนี้ไม่ได้นะ นั้นคุณโซลเมทไม่ใช่เหรอ”

     

                เซร่ากล่าวออกมาอย่างร่าเริงก่อนจะทำท่าทางล้อเลียนเด็กชาย นั้นทำให้เด็กชายหน้าแดงก่อนที่จะขอตัวออกไปจากตรงนี้แต่เซฟหันมามองที่เหลือ

     

                “โซลเมทหมายความว่าไง”

     

                “ลืมไป ลินน่าไม่ได้บอกนายนิเนอะเซร่า โลเกีย”

     

                “นั้นสินะรุ่นพี่มิเซล”

     

                “คิดว่ายัยนั้นจะบอกเซฟเหรอ แค่เป็นผู้นำตระกูลโรวว์ชั่วคราวยังไม่รอดเลย ดูอย่างเซนซะบ้างสิดูแรงเอกสารงานต่างๆของสองตระกูล”

     

                โลเกียกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูถูกแต่นั้นยิ่งทำให้เซฟที่ฟังนั้นอารมณ์เสียเพราะถ้าจากที่ฟังแล้วนั้นแปลกว่าตัวเองไม่รู้อยู่คนเดียว

     

                “บอกมาสิพวกแก!!!!

     

                   “ถึงลินน่าไม่บอกความจริงนายก็รู้แต่เสือกลืม ไอขี้ลิม ไม่น่าเป็นสามีของลินน่าจังเลย”

     

                “นั้นสินข้อดีอะไรเลยสักอย่าง ว่าไหมรุ่นพี่มิเซล”

     

                “ถูกต้องอย่างที่เซร่าว่ามาเลยละ แทนยังเป็นคนที่ทำให้เซนกับลินน่าทะเลาะกันตอนปีสามด้วยนิ”

     

                มิเซลกล่าวออกจากนั้นก็เดินหายไปกับโลเกียและเซร่าทิ้งให้เซฟอยู่คนเดียวแทนยนังต้องมาฟังข้อเสียของตัวเองอีก

     

                “พวกแกกลับมาเดี่ยวนี้!!!!!!

     

                อีกด้านเด็กชายเด็กไปหยิบหนังสือจากห้องนอนของตัวเองแล้วเดินกลับมาหาเบลล่าที่อยู่ในห้องสมุด แต่เบลล่าที่ก่อนออกนั้นเด็กชายเห็นนั่งอ่านหนังสืออยู่แต่ตอนนี้หลับไปแล้วนั้นทำให้เด็กชายตัดสินใจอุ้มเบลล่าไปนอนที่โซฟาข้างในก่อนที่เด็กชายไปเอาผ้าห่มมาคลุมเบลล่า

     

                “เวลานอนแบบนี้ก็น่ารักดีนิ”

     

                เด็กชายกล่าวออกมาพร้อมกับเล่นผมเบลล่าเล่นแต่เบามือก่อนที่จะเดินไปที่หน้าต่างที่มีเปียโนวางไว้เด็กชายเดินไปที่เปียโนแล้วเลยบรรเลงที่ทำให้เบลล่าที่หลับอยู่ผ่อนคลายและเป็นครั้งแรกที่เด็กชายบรรเลงบทเพลงที่อ่อนโยน สายลมที่พัดมาดูเหมือนว่าจะเป็นใจจนเด็กชายบรรเลงจนจบแล้วหันกลับไปมองเบลล่าด้วยสายตาที่โดดเดี่ยว

     

                “เธอนะ จะไม่หายเหมือนกับลินน่าใช่ไหม เบลล่า



    { Winter Dark Theme }
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×