ANEMOIA CHAPTER 4: A Cuckoo Clock ~Sunlight Grace/O Moonlight~
Inspiration: Grace VanderWaal – Waste My Time (MV, 2019)
Playlist: Grace VanderWaal – Waste My Time
หนึ่งปีที่ทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อกะดึก โคทาโร่ โอกาซากิก็เกือบแน่ใจว่าเขาได้พบเจอแทบทุกเหตุการณ์พิลึกพิลั่นกับคนประหลาด เหมือนเขาเป็นตัวประกอบอยู่ในภาพยนตร์เรื่องที่เคยดูสมัยทำงานอยู่ที่โรงหนังมาแทบจะทุกแนวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตำรวจออกกะจ๊ะเอ๋กับคนร้ายในประกาศจับที่เข้ามาซื้อของแล้วเปิดเกมไล่ล่ากันเหมือนในหนังแอคชั่น เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มาซื้อเสบียงหอบใหญ่ตุนไว้เพราะเชื่อว่าอีกไม่ช้ามนุษย์ต่างดาวจะบุกโลกเหมือนในหนังวิทยาศาสตร์ หรือหญิงสาวที่กระเสือกกระสนหนีตายจากอดีตคนรักถือมีดปลายแหลมเปี๊ยบที่ฆ่าเพื่อนของหล่อนเข้ามาขอความช่วยเหลือเหมือนในหนังทริลเลอร์ ขนาดที่ว่าบางครั้งโคทาโร่ก็เคยได้ยินเสียงคลื่นสัญญาณติดๆ ดับๆ จากวิทยุที่เล่นเพลงอยู่ในร้าน หรือเงาร่างคนวอบแวบผ่านทางหางตา ที่เมื่อหันมองดูก็กลับไม่เจอใครเหมือนในหนังสยองขวัญ เป็นชีวิตการทำงานที่ช่วยสร้างสีสันพอไม่ให้น่าเบื่อหน่าย และนั่นเองที่จะทำให้โคทาโร่พอใจกับการทำงานไปวันๆ อยู่ในเมืองไม่เล็กไม่ใหญ่แบบนี้ แม้ว่าเพื่อนร่วมงานของเขาจะเปลี่ยนหน้าไปไม่รู้ตั้งกี่คนแล้วก็ตาม
แต่โคทาโร่ไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะหลุดเข้าไปอยู่ในหนังรักได้ หมายถึงอย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรใช่อะไรที่น้ำเน่าเป็นบ้าอย่างรักแรกพบ กับหญิงสาวตัวเล็ก ผิวสีขาวจัด ตัดกับผมเหยียดยาวตรงสีดำสนิทกับเมคอัพสีสดใสที่เข้ามาเป็นลูกค้าในตอนตีสองของค่ำคืนหนึ่ง
ถึงแว่บแรกเขาจะคิดว่าหน้าตาของเธอน่ารักดี อาจน่ารักกว่าทุกคนที่เขาได้เคยพานพบเลยด้วยซ้ำ แต่โคทาโร่ก็พยายามไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากไปกว่านั้น เมื่อร้านตั้งอยู่บนทำเลที่เป็นทางเชื่อมระหว่างรัฐ มันจึงเต็มไปด้วยลูกค้าขาจรที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หากในตอนที่เธอเอาซีเรียลเคลือบน้ำตาลกับบลูโซดามาจ่ายเงินที่แคชเชียร์ (เขาเห็นเธอทำน้ำหกตอนที่กดตู้ด้วย!) แล้วส่งยิ้มกว้างมาให้ทั้งจากดวงตาและริมฝีปาก โคทาโร่ก็รู้สึกเหมือนได้เห็นดวงอาทิตย์สาดแสงส่องประกายเจิดจ้า ซึ่งเขาไม่ได้สัมผัสถึงมัน — โดยไม่ใช่แค่คำเปรียบเปรย — มาเนิ่นนานมากแล้ว หลังจากเธอเอ่ยขอบคุณเขาแล้วเดินถือกล่องซีเรียลไว้แนบอกออกไปนั่งแกะกินอยู่บนขอบถนนหน้าร้านอย่างไม่อินังขังขอบ หัวใจของโคทาโร่ก็คล้ายว่าจะเต้นไม่เป็นจังหวะแค่เพียงได้มองดูท่าทีของเธอจากอีกฟากฝั่งหนึ่งของบานกระจกอยู่อย่างนั้น
2024年07月16日
_______________
★ เนื่องจากว่าพ้มได้กลับมาทำซีรีส์แนวการแพทย์หลังจากห่างหายไปนานมาก พ้มจึงได้ฤกษ์เอาฟิคเรื่องนี้ที่แต่งไว้ตั้งแต่สมัยแปลชิคาโกเหมด S8 ที่ทำตั้งแต่เดือนเก้าของปีที่แล้วกลับมาลงเพื่อเมาท์มอยเป็นจดหมายเหตุถึงจะไม่มีฟิคเราก็ไม่แคร์มานานแล้ว ย้ายบ้านแล้วอาถรรพ์ ไม่มีฟิคสักเรื่องของจริง แถมงานเยอะชิบหายว่ะ ดวงเดือนนี้เค้าบอกงานหนักหน่อยแต่ทนไหว / เล่านะว่าจริงๆ จะลงตั้งแต่วันเกิดโคทาโร่เดือนสามแล้ว แต่ก็อายเค้าเพราะมีสองสามวรรค ตอนนี้ไม่อายสักอย่างเพราะนี่คือฟิคเรา ต้องแคร์ไร ขนาดพ่อแม่กูยังไม่เคยแคร์
★ อย่างที่ได้บอกว่าตั้งใจให้ริริไม่ได้คู่กับไทเซย์ตั้งแต่แรกแล้ว ขนาดปกติกูสายตัวร้ายจัด แต่เรื่องนี้แต่งเองเกลียดเองนักเลงพอตั้งแต่ตอนของโรมิแล้ว งงมาก (กลับมาให้เกลียดได้ไหม) แต่ระหว่างนั้นกูก็คิดว่าริริกับเคียวเฮควรมีคู่ของตัวเองหรือเปล่านะ แล้วทีนี้ก็นึกถึงเพลงนี้ที่ก็เคยเป็นแรงบันดาลใจให้ฟิคโรมันติก้าฯขึ้นมา เพราะแชปนี้คอนเส้ปคือร้านสะดวกซื้อ ภาคต้นมาแนวท็อปส์โลตัสไปละ อันนี้ก็เซเว่นละกัน ทุนนิยมนี่มันเหี้ยจริงๆ คนับ / รวดเปลี่ยนริริเป็นรอบที่สี่ห้าหก เพราะคนเก่าที่หน้าเหมือนแม่กูก็เบื่อหน้าแม่ คนลูกก็ครึ่งปีละยังไม่คัมแบคแหมเตื้อ วงก็ไม่ดัง งั้นก็เปลี่ยนไปเลย วงไม่ดังเหมือนกันแต่อย่างน้อยก็กำลังคัมแบคอยู่จ้าา ภาคต้นก็เปลี่ยนรูปคาแรกละ เอาหน้าคุณหนูแบบสวยตั้งแต่แรกเห็นไทเสน่าจะชอบจริงมาเลย ใครไม่คิดก็แล้วแต่ แต่ขนาดตอนนั้นกูยังไม่ตามวงนี้แต่เห็นหน้าดูนาปุ๊บกูก็คิดว่าสวยจังเลยโว้ยย จบ
★ เลือกเป็นโคทาโร่มาตั้งแต่แต่งครั้งแรกที่ยังตามห่างๆ ไม่ได้ชอบอะไรมากมายอยู่เล้ยย เพราะแว้บขึ้นมาว่าแชปนี้มันเด็กคันไซทั้งนั้นเลยไม่ใช่เหรอวะ (แน่นอนว่าปีแล้วเมนคันไซกูมีข่าวกันหมดสามคนเลย ไทเสคทรเคียวเฮ เยี่ยมจริงๆ เคนไม่เกี่ยวเพราะเป็นเฟื่อนจ้า) เสียดายมากๆ ที่กูไม่ได้แต่งต่อ เพราะถ้ากูแต่งนะเรื่องนี้นี่แหละจะเป็นโรมันติก้าฯสอง แต่กูคนนั้นได้ตายไปแร้วงัยวะมึง ไม่มีอีกแร้ว ฟิคฝรั่งที่ฝรั่งจริง ตอนนี้มีแต่ฝรั่ง...ไม่ได้ชุบบ๊วยด้วย U_U แต่คิดดูดิ แชปนี้มีสปินออฟตั้งสองเรื่อง ทั้งโรมิกับโคทาโร่ แปลว่ากูรักไทเสจริงป่ะวะ ของแทร่ หวานเจี๊ยบ
★ พล็อตได้มาจากชิคาโกเหมด S8E4 เรื่องโรคนอนไม่หลับมรณะ (Fatal Familial Insomnia: FFI) ซึ่งจะเริ่มต้นจากการนอนไม่หลับเล็กน้อยแล้วก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะตายภายในหนึ่งปี ยังไม่มีทางรักษาให้หาย ส่วนใหญ่มักจะมีอาการรุนแรงในคนแก่วัย 45 ขึ้นไป แต่นี่คือฟิคกูไง มันเซอร์เรียลตั้งแต่ต้นอยู่ละจะเอาไร โคทาโร่ที่อายุยี่สิบ (ในฟิคกู) เรยเป็นโรคนี้แหละ เป็นพันธุกรรมได้จากพ่อ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเลยมาทำงานกะดึกไม่หลับไม่นอน ตั้งใจให้ตอนแรกเคยทำงานโรงหนังในแชปห้าถึงได้พูดถึงหนังง่ะ (แต่ตอนนี้โรงหนังนั้นปิดตัวไปละเพราะกูปิดเองนี่แหละ โปรแกรมหน้าวิญญาณ(กูนี่แหละ)อาฆาต) ริริกับเคียวเฮแยกกันไปใช้ชีวิตหลังจบเคสของไทเส (เคียวเฮไม่ต้องมีคู่ละ ไปไป) ริริเลยมาพักที่โมเต็ลเมืองนี้เพราะฮั่นอย่างที่กูยังไม่ได้คิดเลยได้เห็นโคทาโร่ที่ก็พักอยู่โมเต็ลเดียวกัน รู้ว่าโคทาโร่จะตายเลยสงสารเพราะเห็นว่าคนนี้เป็นคนดีมาก ถ้าพล็อตต่อจากนี้เดี๋ยวคทรจะตัดสินใจมาทัก ได้นั่งคุยกัน เดินเล่นด้วยกัน (มันคือพล็อตของโรมันติก้าฯตอนจบที่กูคิดไว้เป๊ะๆ เลยเหอะ U_U) แต่ริริก็ช่วยอะไรไม่ได้ พ่อ(โซ)ก็ไม่ช่วยเพราะมันฝืนชะตาฟ้าดิน (เหรอวะ) คทรรู้มาตลอดว่าตัวเองจะตายแต่ก็ปลงกับชีวิต คิดแค่ว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุด สุดท้ายเดี๋ยวสองคนนี้ก็ได้เจอกันบนสวรรค์แหละ เรื่องนี้ใสจริง อบอุ่นหัวใจ ทำให้เห็นคุณค่าของชีวิตจ้ะ >_<
★ จะบอกว่ารักเพลงนี้กับเอ็มวีนี้ของเกรซมากๆๆๆๆ เล่าแล้วก็เล่าได้อีกว่าตอนนั้นกูฟังเพลงเกรซเพราะเคยแปลรายการบ้านต้นไม้แล้วเกรซไปขอให้เค้าสร้างให้หน่อยเอาไว้พักผ่อนทำเพลง กูก็คิดว่าคนนี้น่ารักดีเลยไปตามดูเอ็มวีต่อ แต่รายการนะพูดเยอะมาก น่าจะลงฟรีทีวีสมัยโน้นสักช่องที่ชอบมีสารคดีฝรั่งแหละ เห้อออ คิดถึงสมัยก่อนโควิดมาก มีแต่งานฝรั่งดีๆ ซีรีส์ดีๆ สารคดีดีๆ คนยังดูทีวีดีๆ ตอนนี้สมองไหลไปต่อกๆ เลยโง่เป็นควายกันหมด สตรีมมิ่งก็มีแต่อะไรห่วยๆ โว้กก็เป็นใหญ่ ต่ำตมจริงๆ
★ ปล. เกือบลืมเล่าว่ากู๊ดด๊อกเตอร์ตอนที่กูทำแม่งเป็นตอนฮาโลวีน มีหมอแต่งเป็นเบบี้โยดา (ในสคริปต์มันเขียนชื่อนี้ไม่ใช่โกรกูจริงๆ) ลีอาเป็น Ahsoka มีฉากที่พูดชมหนังภาคอะนิวโฮปกับโร้กวัน แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับภาคห่วยๆ ที่คนด่าท้ายๆ เลย ก็รู้ว่าคนที่เขียนบทคงเป็นแฟนตัวจริง ต่อให้ฉายปีนี้ก็คงไม่ใส่อะไรขยะๆ อย่างอะโคไลต์ไป ขนาดกูไม่ใช่แฟนคลับแฟรนไชส์นี้ แต่ก็รู้นะว่าแฟนตัวจริงด่าซีรีส์ขยะนี้กันหมด 55555 แค่ครีเอเตอร์มันกล้าว่าจอร์จ ลูคัสกูก็ไม่ให้ค่าละ ขยะมากจ้า ไม่เอาทองไปลู่ขยะ โอ๊ยคอแห้ง ไปละ
ความคิดเห็น