คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2 :: ห้ามพูดให้ใครฟัง...
CHAPTER 2 :: ห้ามพูดให้ใครฟัง...
‘1994.07.18’
[Baekhyun]
ผมนั่งอยู่บนโต๊ะนักเรียนแถวหลังสุด ตอนนี้มันเป็นตอนพักเที่ยง ไม่มีใครอยู่บนห้องเรียนหรอก ผมขยับแว่นตาแล้วพลิกข้อมือเพื่อดูนาฬิกา...
‘12:08’
ผมคว้ากระเป๋านักเรียนแล้วลุกขึ้นยืน คุณลุงตำรวจนัดเราให้ไปสอบปากคำที่โรงพักตอนเที่ยงโดยทางโรงเรียนจะพาพวกเราไปเอง ตอนผมเดินลงมาจากชั้นเรียน มีเด็กนักเรียนหญิงหลายคนมองผม ผมก้มหน้างุดด้วยความกลัว ผมไม่ชอบเลยที่จะมีคนมองด้วยความสนใจเช่นนี้
เมื่อพวกเราทั้ง 14 คนกับครูแทยอนมาถึงโรงพัก คุณลุงตำรวจก็เริ่มเรียกตัวพวกเราไปทีละคน ใช้เวลาสอบปากคำคนละเกือบๆครึ่งชั่วโมง ผมเป็นคนที่ 7 ต่อจากเซฮุน เขาดูหมดอาลัยตายอยาก ผมก็อยากจะปลอบเขา แต่ผมก็กลัวเกินไปที่จะเอ่ยทักเพราะเราไม่ได้สนิทกัน
ผมก้าวเข้าไปในห้องที่เปิดแอร์เย็นเฉียบ มีเพียงโต๊ะหนึ่งตัวกับคุณอาตำรวจคนหนึ่ง เขายิ้มให้ผม
“เชิญนั่งครับ”
ผมพยักหน้าให้เขา แล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกันคุณลุงตำรวจ ซึ่งมีโต๊ะตัวยาวกั้นระหว่างเราอยู่ เขาเปิดแฟ้มตรงหน้าเพื่อดูรูปประวัติของผม ทันทีที่กวาดสายตาผ่าน เขาก็เอ่ยปากพูดขึ้น
“พยอน แบคฮยอน....ใช่มั้ย?”
ผมขยับแว่นให้เข้าที่ เลียริมฝีปากอย่างรวดเร็ว กลืนน้ำลายแล้วเอ่ยปากพูดด้วยเสียงที่แหบเพราะผมเงียบไปเป็นเวลานาน
“ฮะ ผมพยอน แบคฮยอน ปี 2 ห้อง B โรงเรียนมัธยมโซโซ พ่อผมชื่อ...”
“พอๆ ฉันแค่ถามให้แน่ใจว่านายใช่พยอน แบคฮยอนรึเปล่า เผื่อฉันจะเรียกผิด”
ผมก้มหน้างุดด้วยความอายอีกรอบ ผมเกร็งจนไม่รู้จะพูดอะไรหรือควรวางตัวอย่างไร
“ไม่ต้องเกร็งนะ”
“ฮะ” ผมขยับแว่นอีกรอบ
“นายกำลังประหม่า?”
“เปล่าฮะ แว่นผมมันจะตก”
คุณอาตำรวจจ้องที่ตาผม เขาเงียบไปเขาจ้องตาผมนานมาก จนผมเริ่มกลัว...
“มีอะไรหรือฮะ?”
“ถอดแว่นสิ...”
ผมอุทานออกมาเบาๆ แต่ก็ทำตามอย่างว่าง่ายผมถอดแว่นออกแล้วเช็ดด้วยชายเสื้อเชิ้ตนักเรียนตัวใน คุณอาตำรวจจ้องตาผมอีกรอบ ก่อนจะหลบตาผม เขากระพริบตาหลายครั้งก่อนจะหันมาตั้งคำถามใหม่
“วันที่เกิดเหตุ นายอยู่ที่ไหน? แล้วมีใครหายไปบ้าง?”
“ผมอยู่ในห้องเรียนกับเพื่อนๆฮะ ส่วนคนอื่นที่หายไปผมไม่ได้นับ”
“พวกเธอทำอะไรกัน? แล้วผู้ตายหายไปไหน?”
ผมกลอกตาเพื่อนึก แล้วตอบออกมาช้าๆ
“พวกเราคุยกันเรื่องปิดเทอมที่ผ่านมาฮะ แต่เยจินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเธอก็หายไปสัก 5 นาทีได้ แล้วหลังจากนั้นเธอก็กรี๊ด แต่มันเป็นเสียงกรี๊ดสั้นๆฮะ”
คุณอาตำรวจเคาะแป้นพิมพ์โน๊ตบุ๊กไปด้วย แต่สายตาเขาก็ยังไม่วางไปจากผม
“จู่ๆเธอก็กรี๊ดเหรอ? ก่อนหน้านั้นล่ะ...มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า?”
ผมนึกถึงคืนนั้น พวกเราคุยกัน แล้วเลย์ก็บอกให้พวกเราเงียบเพื่อฟังเสียงบางอย่าง...
‘ อย่าพูดมันออกไป ’
เสียงกระซิบหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหู ผมเผลอเกร็งตัวทันที คุณอาตำรวจที่จ้องตาผมอยู่ก็ถามขึ้น
“มีอะไรงั้นหรือ?”
ผมอ้าปาก เสียงที่ผมเปล่งออกมามีเพียงเสียงที่ผมรู้ว่ามันเป็นเสียงผม แต่ประโยคที่ผมพูดมันไม่ใช่ความคิดของผม!
“ไม่มีฮะ”
ผมเบิกตาโพลง พยายามอ้าปากอีกรอบ แต่ร่างกายของผมไม่ทำตาม ผมรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันที คุณตำรวจถามอะไรนิดๆหน่อยๆก็ปล่อยให้ผมกลับบ้าน
ผมกลับมาถึงบ้านตอนไหน และกลับมายังไงนั้นผมก็ไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าแม่เรียกให้ผมลุกไปกินข้าว ผมรู้แค่นั้น...
***
เช้าวันต่อมาที่โรงเรียน พวกเราทั้ง 14 คนยังคงเป็นที่สนใจเช่นเดิม หลังจากที่เราเดินผ่านไปทางไหนก็ตาม จะมีเสียงกระซิบวิจารณ์เกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมที่มีพวกเราเป็นทั้งผู้ต้องสงสัยและพยานการเกิดเหตุการณ์ทั้งหมด
พวกเรามานั่งคุยกันที่ห้องเรียนพิเศษอีกครั้งในตอนพักกลางวัน เราคุยเกี่ยวกับเรื่องการสอบสวนเมื่อวาน ทุกคนต่างก็เล่าเกี่ยวกับการสอบสวนของตนเองอย่างเงียบๆ
แทบทุกคนจะถูกถามในรูปแบบคำถามเดียวกัน ยกเว้น จงอินเด็กใหม่ คยองซูที่เป็นเพื่อนสนิทของผม ลู่หานเด็กใหม่อีกคน และครูแทยอน ทั้ง 4 คนนั้นถูกถามแตกต่างกันไป...
และที่ผมลำบากใจและกลัวเป็นที่สุด....
ก็คือ...ไม่มีใครที่ได้ยินเสียงกระซิบอย่างที่ผมได้ยินเลย
ตำรวจได้สันนิษฐานว่าเยจินน่าจะถูกอะไรบางอย่างกัดและกระชากเข้าอย่างแรง ตอนที่พวกเราไปเห็นนั้นเธอได้สิ้นลมไปแล้ว มันเป็นฝีมือของสัตว์ที่มีกรงเล็บ หรือไม่ก็คนวิกลจริต...
แต่ผมคิดว่า...มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น!
***
ผมไหว้เคารพศพเยจิน รูปข้างศพเธอเป็นตอนที่เธอกำลังชูสองนิ้วแล้วยิ้มหน้าบาน น่าจะเป็นรูปที่ถ่ายหลังจากที่เธอ ได้รับเลือกให้เป็นเด็กเทรนของค่ายดังค่ายหนึ่ง เธอเป็นคนที่ดังมากในโรงเรียน แต่ถึงอย่างนั้นเด็กผู้หญิงในโรงเรียนก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอสักเท่าไหร่
จูเนียลนั่งหน้าตึงอยู่ที่เก้าอี้ในงานกับเพื่อนๆ จื่อเทา และลู่หาน ผม คยองซูและแทมินนั่งอยู่แถวหลังสุดเนื่องจากไม่ค่อยจะสนิทกับเยจินสักเท่าไร งานดำเนินไปด้วยความเงียบเชียบ หลังจากที่งานจบแล้ว ผมและแทมินก็เดินกลับบ้านด้วยกัน
แทมินเงียบตลอดทาง ปกติเราจะมีเรื่องคุยกันตลอด แต่วันนี้เขาเงียบมาก และผมเองก็เข้าใจดี...
“ไปก่อนนะ แล้วเจอกันวันจันทร์”
ผมโบกมือให้แทมินทันทีที่ถึงหน้าบ้าน แทมินอ้าปากพะงาบๆ เพื่อเรียกผม แต่เสียงเขานั้นไม่มี..
“มีอะไร?”
แทมินกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วพูดออกมา
“ไม่มีอะไร...งั้นก็ลาก่อนนะ”
หัวใจผมหล่นวูบ แทมินโบกมือแข็งๆแล้วหันหลังเดินจากไป หน้าเขาเหมือนคนจะร้องไห้ เขาพูดว่าอะไรนะครับ?
....เขาพูดว่าอะไร?
[Baekhyun]
สวัสดีค่ะ พวกเธอนี่ใจดีกันจัง ขออะไรให้หมดเลย ภายในเวลาอันรวดเร็ว(มาก)
;___; ขอ 50 คนก็ให้เกิน เรารู้ว่าเราอัพดีเลย์
เราขอโทษ ก็ป้าข้างบ้านแกปิด wifi อ่ะ อย่าโกรธนะตัว
มีอะไรจะบอก....
เราอยู่ม.6 อ่ะ แล้วตอนนี้ก็เริ่มสมัครสอบบ้างแล้ว
ฉะนั้นก็ต้องอ่านหนังสือใช่ป่ะ จะแต่งช้าสักหน่อย
แต่อัพถี่เช่นเดิม ถ้าพวกเธอทำตามที่เราขอไว้ได้
ฟิคเรื่องนี้ยาวมาก ยังอีกยาวไกลกว่าจะจบ =3=
คนติดตาม 75 คนแล้วจะกลับมา.....
#วิ่งไปซ่อน
อัพฟิคตาม wifi คนข้างบ้านนะ ข้างบ้านเปิด wifi เมื่อไหร่ก็อัพเมื่อนั้น
มีหลายคนสงสียว่าฟิคเรื่องนี้แนวไหน....
ขอบอกว่าเราติดพวกโนเวลอ่ะ (Harry Potter #จบทั้งหนังสือทั้งหนัง
/ The hunger game #จบสามเล่มแล้วหนังดูแล้ว / The Twilight Saga #ดูทุกภาคอ่านทุกภาค
/ The host #พึ่งเริ่มอ่าน / Beautiful creature #กำลังหาอ่าน )
จากหนังสือที่เราเอ่ยมา...พวกเธอคิดว่าฟิคเรื่องนี้แนวไหน?
...หึหึ
Twitter Tag :: #ficThatWolf
ถ้าไม่ได้เม้นขอเชิญร่วมกันติดแท็กในทวิตเตอร์ และแซ่ซ้องสรรเสริญกันให้ทั่วทั้งไทม์ไลน์
#โดนตบ 5555
โหวตให้เราหน่อยเด้อ ถือว่าเป็นกำลังใจเล็กๆน้อยๆ
ให้เราออกไปล่า wifi เพื่ออัพฟิค T^T
ปล้ำลู่.ชอบคอมเม้นแบบนี้ >w<
*ดิทคำผิด 06-08-2013 15.02 น.
ความคิดเห็น