ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Tobacco Love รัก(ร้อน)ร้าย...เสพติดอันตราย

    ลำดับตอนที่ #3 : Tobacco Love I - เหตุการณ์สั่นสะเทือน 80%

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 56


    THE★ FARRY


    'คาโร' ชื่อกลุ่มองค์กรที่เต็มไปด้วยปริศนาที่ครอบครองโลกทั้งใบด้วย เงิน อำนาจ และชื่อเสียง...สถานที่ตั้งขององค์กรไม่แน่ชัดราวกับมีเมฆหมอกมายาพรางสายตาไม่ให้ถูกค้นพบได้ง่ายๆ...ว่ากันว่าผู้ใดที่เป็นสมาชิกจะมีเงินและรวยมหาศาลและเป็นที่น่าหวาดเกรงของทุกๆคนและขณะเดียวกันคนพวกนั้นก็เคารพพวกเขาด้วยความศรัทธา

     

    สมาชิกขององค์กรไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้แต่สมาชิกหลักๆของคาโรมีสมาชิกทั้งหมด 7 คนด้วยกัน

     

    1.ซีเคร็ต บุรุษที่เป็นราชาของโลกไม่มีใครสามารถเอ่ยชื่อจริงของเขาออกมาได้เพราะความกดดันที่รุมเร้าภายใต้จิตใจ เขาสามารถทำลายโลกทั้งใบหายไปได้เพียงแค่ออกคำสั่ง...เขาเป็นบอสผู้ก่อตั้งองค์กรขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่ไม่มีใครรู้และไม่อนุญาตให้รับรู้ ผู้ใดที่ละล่วงจะหายไปจากโลกนี้อย่างเงียบเชียบ...

     

    2. เบอร์เบิ้น บุรุษที่มีใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เสแสร้ง...แต่ภายใต้หน้ากากที่เขาสร้างขึ้นนั้นยากที่จะคาดเดา ฐานะของเขาคือมือขวาของบอส ถึงแม้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาจะยากเย็นสักแค่ไหนเขาสามารถจัดการให้ได้ภายในไม่กี่วัน เขาเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีแต่ถ้าเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากเขา เขาก็จะติดตามท่านผู้นั้นไปจนวันตาย

     

    3. เซย์ บุรุษที่มีใบหน้ากับอมยิ้มน่ารักน่ากอด ชายหนุ่มที่เป็นที่หมายปองของสาวๆที่มีทั้งสติปัญญา การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆและการแก้ไขสถานการณ์ถือว่าเป็นเลิศกว่าใครในองค์กรทั้งหมด...เขาถูกผู้คนมากมายเรียกว่า มันสมองของคาโรที่มาพร้อมกับไอคิวสี่ร้อยอัพ!

     

    4. ไลน์ บุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาคมกริบที่สามารถมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งจิตใจของคน...เป็นชายที่มาพร้อมกับความเจ้าเล่ห์และข้อแก้ตัวที่ร้ายกาจและยากที่จะจับตัวได้ เล่นงานศัตรูจากจุดอ่อนและขยี้เหยื่อให้ตายคามือ ถ้าคุณคิดจะจับเขา...เขาก็จะวิ่งหนีคุณตั้งแต่คุณเริ่มที่จะคิดแล้วล่ะ

     

    5. รอยั่ล เธอเป็นที่กล่าวขานของชายหนุ่มทั่วโลก...สาวมาดนางพญา สวย เริด เชิด หยิ่ง...แต่เมื่อเธอมีความรัก เธอก็จะไม่ปล่อยให้ความรักหลุดมือ เธอจะวิ่งตามอย่างสุดกำลัง เธอพร้อมที่จะทลายกำแพงลงด้วยตัวเองและเธอก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นกัน

     

    6. วินเทอร์ บุรุษแห่งความตาย ถ้ารักตัวกลัวตายก็ขอให้ยอมแพ้ไปซะ! พูดน้อยต่อยหนัก ไร้ซึ่งรอยยิ้ม ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล มีศิลปะในการต่อสู้ชั้นสูง ไม่ว่าจะใช้อาวุธหรือไม่ใช้อาวุธ ต่อสู้ระยะประชิดตัวหรือระยะไกล เขาก็ไม่มีคำว่าแพ้! ถ้ามีสมองก็ควรจะคิดเองได้ว่าไม่ควรเข้าใกล้อย่างเด็ดขาด

     

    7. ลิปซี่ สาววัยใส ที่มาพร้อมกับกลิ่นผลไม้รสสตอเบอร์รี่ ช่างพูดช่างจา ปากหวาน น่ารัก น่าปกป้อง น่าเอ็นดูเป็นที่นิยมในหมู่ชายหนุ่มทั่วๆไป...เพียงแต่เบื้องหลังของเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่นะ

     

    -----------------

     

    เมื่อยามใดที่หอนาฬิกาส่งเสียงร้องบอกเวลาเที่ยงคืน...ได้มีการจัดประชุมของเจ็ดผู้สุดยอดที่หอประชุมเรือนใหญ่โทนสีขาวบริสุทธิ์ เมื่อมองจากภายนอกถือว่าจัดเป็นห้องที่สงบเงียบและน่าเกรงขาม

     

    ภายในหอสีสะอาดตาประดับด้วยโต๊ะตัวยาวขนาดใหญ่และเก้าอี้หลายสิบตัว บรรยากาศภายในหอประชุมใหญ่ของสมาชิกกลุ่มองค์กรนั้นเต็มไปด้วยความกดดันและตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยมีก่อน...และสาเหตุที่ทำให้ทุกอย่างอยู่สภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องที่เป็นหัวข้อของการประชุมครั้งนี้

     

    เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว...

     

    วันหนึ่งในวันคืนฟ้าเปลี่ยนเป็นทองบรรยากาศอันเงียบสงบเข้าปกคลุมทุกพื้นที่ ทุกคนต่างทำงานของตัวเองอย่างไม่ยอท้อกลับเกิดเหตุการณ์อันน่าสะพรึงน่ากลัวภายในเสี้ยววินาทีที่กระพริบตา

     

    ตูม!!!

     

    เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วอาณาเขตจนทำให้ทุกคนต่างแตกตื่นราวกับมดแตกรัง ทุกอย่างเหมือนเข้าสู่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองก็ไม่ปาน

     

              อาคารใหญ่แสนสวยที่ประดับไปด้วยเพชรเม็ดงามหลายเม็ดกลับลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง ท้องฟ้าสีทองสวยงามกลับกลายเป็นสีของเปลวไฟที่น่าหวาดหวั่นชวนให้ขนลุก

     

    “บอส!” เสียงตะโกนเรียกพร้อมกับฝีเท้าเหมือนคนที่กำลังรีบร้อนดังขึ้นเรื่อยๆก่อนที่จะเห็นตัวคนเรียกดังขึ้นมาจากระหว่างทางเดินมายังที่ตัวห้อง ก่อนที่เสียงฝีเท้าจะหยุดอยู่ที่หน้าบานประตูและถูกเปิดออกมาอย่างแรงจนกระทบกับพนัง

     

                ปัง!!!

     

    “บอสครับ! บอส! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” ภายเบื้องหลังของกรอบประตูปรากฏชายหนุ่มอายุวัยยี่สิบกว่าๆรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนแซมสีทอง ใบหน้ารูปไข่นั้นเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและนัยน์ตาสีดำสนิทฉายแววถึงความเหนื่อยล้า

     

    “เกิดอะไรขึ้น!”

     

    “ระ...ระเบิดครับ!

     

    “ฉันรู้แล้ว! มันเกิดขึ้นที่ไหน!” ชายที่ถูกเรียกว่า บอสตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

     

    “ครับ!”

     

    “เกิดที่ตึกทางทิศตะวันออกที่ห้องเก็บเอกสารครับ!”

     

    “ดี! รีบส่งคนเข้าไปดูที่ห้องเก็บเอกสาร...ที่นั่นมีเอกสารหลายอย่างสำคัญมากอยู่” ชายหนุ่มกล่าวโดยที่ประโยคแรกเอ่ยลูกน้องคนสนิทก่อนจะพึมพำกับตัวเองในประโยคที่สองในน้ำเสียงที่ดูใจเย็นแต่แล้วคำตอบของลูกน้องคนสนิทก็ทำให้ผู้เป็นบอสชะงัก

     

    “ไม่ได้ครับ!”

     

    “อะไรนะ!”

     

    “เราไม่สามารถส่งคนเข้าไปในตัวอาคารได้เพราะแรงระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้...แต่ตอนนี้ผมได้ส่งเซย์ กับ ไลน์ไปดูสถานที่เกิดเหตุแล้วครับ”

     

    “หมายความว่าไงที่ว่าเข้าไปไม่ได้”

     

    “จากที่เซย์รายงานมาเมื่อครู่นี้ดูเหมือนว่าจะมีคนเข้าไปยุ่งที่ห้องควบคุมทำให้สปริงเกอร์ไม่ทำงานครับ”

     

    ปัง!!!

     

    เสียงตบโต๊ะดังไปทั่วห้องทำงาน ชายหนุ่มหลับตากำมือแน่นอย่างสงบสติอารมณ์ ก่อนที่เสียงคำรามจะดังไปทั่วห้อง

     

    เบอร์เบิ้น รีบหาทางดับไฟให้เร็วที่สุดซะ!”

     

    “ครับ!”

     

     

    ทางด้านฝั่งตะวันตก


    เบื้องหน้าตัวอาคารที่ไฟลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงมีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมคาย ผมสีกาแฟ นัยน์ตาน้ำตาลฉายแววครุ่นคิดอย่างหนักยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นมาแล้วสักพักใหญ่ๆและด้านซ้ายมือของเขามีชายหนุ่มร่างสูงอีกร่างหนึ่งสีหน้าบ่งบอกได้ถึงความเหนื่อยล้า

     

    “แกคิดว่าไง”

     

    “ไม่คิดอะไรทั้งนั้นแหละวะ” ชายหนุ่มผมสีกาแฟตอบก่อนจะจ้องมายังชายหนุ่มที่มีผมดำแซมสีน้ำตาลอ่อนที่อยู่ด้านข้าง “แล้วทางแกล่ะ...ได้เรื่องอะไรมาบ้าง”

     

    “แกรู้ใช่มั้ย...เรื่องกล้องวงจรปิดที่ฉันออกแบบมามันเป็นแบบพิเศษมันสามารถทนความร้อนได้และยังกันน้ำได้ดีอีกด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ...ตอนที่ฉันลองย้อนเทปของกล้องวงจรปิดตอนที่เกิดเหตุในห้องที่ถูกระเบิดออกมาดู หึๆ บอกตามตรงวะ ว่าฉันตกใจนิดหน่อยว่ะเพื่อน...” ชายหนุ่มแกล้งหยุดพูดไปนิดเพื่อสร้างความสงสัยให้แก่เพื่อนสนิทที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ฉันเห็นยัยนั่นวะ”

     

    !!!

     

    “ไอเซย์ แกกำลังจะพูดว่ายัยนั่นเป็นคนวางระเบิด?

     

    “ก็ตามนั้น”

     

    “แกบ้าไปแล้วหรือไง! ยัยนั่นจะวางระเบิดทำไมในเมื่อยัยนั่น...!”

     

    “เหอะ!” ชายหนุ่มสบถก่อนจะเป็นฝ่ายพูดต่ออีกครั้ง “ไลน์ แกอาจจะไม่เชื่อฉันนะ...แต่ฉันว่าการวางระเบิดครั้งนี้มันไร้สาระวะ” ชายหนุ่มผมสีกาแฟขมวดคิ้วก่อนจะหันไปถามเพื่อนสนิท

     

    “ไอเซย์ แกไปรู้อะไรมาวะ”

     

    “หึๆ” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับหันหน้ากลับไปยังอาคารที่บัดนี้ไฟได้มอดดับลงไปแล้วเหลือแต่เพียงซากซากปรักหักพังก่อนจะร้องออกมาสุดเสียงจนไลน์หันมามอง

     

    “ชิบแล้วววววววว!”

     

    “แกเป็นอะไรวะ?

     

    “ฉันลืมรายงานเบอร์เบิ้นไปเรื่องหนึ่งว่ะ”

     

    “...?

     

    “เอกสารสำคัญรายชื่อสมาชิกรวมไปถึงประวัติฯส่วนตัวขององค์กร สถานที่ตั้งขององค์กร...เอาเป็นว่าทุกๆอย่างที่เป็นความลับขององค์กรถูกขโมยไปแล้ว... ไลน์ที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็แสยะยิ้มที่มุมปาก

     

    “สมมติว่ายัยนั่นเป็นคนวางระเบิดจริงๆและขโมยเอกสารที่ว่าไปจริงๆล่ะก็...ฉันอยากเห็นหน้าบอสว่ะ” เซย์ที่ได้ฟังเพื่อนสนิทพูดก็ส่ายหัวอย่างเอือมระอา

     

    “ถ้างั้น...แกไม่อยากเห็นเหรอ” ไลน์ยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    “...”

     

    “ฉันเชื่อว่าแกก็อยากเห็นเหมือนกันนั่นแหละไม่มากก็น้อย”

     

    “เออ! ฉันอยากเห็น”

     

    “บอสคงจะดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกันแหงๆคงจะประสาทกลับพิลึก หึๆๆ”

     

    “แกนี่มันเลวจริงๆ” ไลน์ที่ได้ยินก็ไม่ทุกข์กับคำด่าของเพื่อนสนิทกลับเลิกคิ้วแล้วถามคำถามย้อนกลับไปมาคนที่เพิ่งด่าตนเองไปหมาดๆ

     

                “งั้นที่แกมาเป็นเพื่อนสนิทฉันแสดงว่า แกกับฉันก็คงมีนิสัยที่ไม่ต่างกันนักหรอก...ฉันพูดถูกใช่มั้ยครับ คุณเพื่อน?” ชายหนุ่มหันไปถามร่างสูงตอนนี้ที่อ้างปากค้างไปแล้ว

     

              “แกนี่มัน...ปีศาจชัดๆ”

     

                “ขอบคุณที่ชมครับ คุณเพื่อน”

     

                สาบานได้ว่าเขาไม่เคยเห็นใครกวนประสาทเท่านี้มาก่อนเลย!  

     

     

    80% 


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×