คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Tobacco Love I - เหตุการณ์สั่นสะเทือน 80%
'คาโร' ชื่อกลุ่มองค์กรที่เต็มไปด้วยปริศนาที่ครอบครองโลกทั้งใบด้วย เงิน อำนาจ และชื่อเสียง...สถานที่ตั้งขององค์กรไม่แน่ชัดราวกับมีเมฆหมอกมายาพรางสายตาไม่ให้ถูกค้นพบได้ง่ายๆ...ว่ากันว่าผู้ใดที่เป็นสมาชิกจะมีเงินและรวยมหาศาลและเป็นที่น่าหวาดเกรงของทุกๆคนและขณะเดียวกันคนพวกนั้นก็เคารพพวกเขาด้วยความศรัทธา
สมาชิกขององค์กรไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้แต่สมาชิกหลักๆของคาโรมีสมาชิกทั้งหมด 7 คนด้วยกัน
1.ซีเคร็ต บุรุษที่เป็นราชาของโลกไม่มีใครสามารถเอ่ยชื่อจริงของเขาออกมาได้เพราะความกดดันที่รุมเร้าภายใต้จิตใจ เขาสามารถทำลายโลกทั้งใบหายไปได้เพียงแค่ออกคำสั่ง...เขาเป็นบอสผู้ก่อตั้งองค์กรขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่ไม่มีใครรู้และไม่อนุญาตให้รับรู้ ผู้ใดที่ละล่วงจะหายไปจากโลกนี้อย่างเงียบเชียบ...
2. เบอร์เบิ้น บุรุษที่มีใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เสแสร้ง...แต่ภายใต้หน้ากากที่เขาสร้างขึ้นนั้นยากที่จะคาดเดา ฐานะของเขาคือมือขวาของบอส ถึงแม้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาจะยากเย็นสักแค่ไหนเขาสามารถจัดการให้ได้ภายในไม่กี่วัน เขาเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีแต่ถ้าเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากเขา เขาก็จะติดตามท่านผู้นั้นไปจนวันตาย
3. เซย์ บุรุษที่มีใบหน้ากับอมยิ้มน่ารักน่ากอด ชายหนุ่มที่เป็นที่หมายปองของสาวๆที่มีทั้งสติปัญญา การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆและการแก้ไขสถานการณ์ถือว่าเป็นเลิศกว่าใครในองค์กรทั้งหมด...เขาถูกผู้คนมากมายเรียกว่า ‘มันสมองของคาโร’ ที่มาพร้อมกับไอคิวสี่ร้อยอัพ!
4. ไลน์ บุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลา นัยน์ตาคมกริบที่สามารถมองทะลุทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งจิตใจของคน...เป็นชายที่มาพร้อมกับความเจ้าเล่ห์และข้อแก้ตัวที่ร้ายกาจและยากที่จะจับตัวได้ เล่นงานศัตรูจากจุดอ่อนและขยี้เหยื่อให้ตายคามือ ถ้าคุณคิดจะจับเขา...เขาก็จะวิ่งหนีคุณตั้งแต่คุณเริ่มที่จะคิดแล้วล่ะ
5. รอยั่ล เธอเป็นที่กล่าวขานของชายหนุ่มทั่วโลก...สาวมาดนางพญา สวย เริด เชิด หยิ่ง...แต่เมื่อเธอมีความรัก เธอก็จะไม่ปล่อยให้ความรักหลุดมือ เธอจะวิ่งตามอย่างสุดกำลัง เธอพร้อมที่จะทลายกำแพงลงด้วยตัวเองและเธอก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นกัน
6. วินเทอร์ บุรุษแห่งความตาย ถ้ารักตัวกลัวตายก็ขอให้ยอมแพ้ไปซะ! พูดน้อยต่อยหนัก ไร้ซึ่งรอยยิ้ม ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล มีศิลปะในการต่อสู้ชั้นสูง ไม่ว่าจะใช้อาวุธหรือไม่ใช้อาวุธ ต่อสู้ระยะประชิดตัวหรือระยะไกล เขาก็ไม่มีคำว่าแพ้! ถ้ามีสมองก็ควรจะคิดเองได้ว่าไม่ควรเข้าใกล้อย่างเด็ดขาด
7. ลิปซี่ สาววัยใส ที่มาพร้อมกับกลิ่นผลไม้รสสตอเบอร์รี่ ช่างพูดช่างจา ปากหวาน น่ารัก น่าปกป้อง น่าเอ็นดูเป็นที่นิยมในหมู่ชายหนุ่มทั่วๆไป...เพียงแต่เบื้องหลังของเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่นะ
-----------------
เมื่อยามใดที่หอนาฬิกาส่งเสียงร้องบอกเวลาเที่ยงคืน...ได้มีการจัดประชุมของเจ็ดผู้สุดยอดที่หอประชุมเรือนใหญ่โทนสีขาวบริสุทธิ์ เมื่อมองจากภายนอกถือว่าจัดเป็นห้องที่สงบเงียบและน่าเกรงขาม
ภายในหอสีสะอาดตาประดับด้วยโต๊ะตัวยาวขนาดใหญ่และเก้าอี้หลายสิบตัว บรรยากาศภายในหอประชุมใหญ่ของสมาชิกกลุ่มองค์กรนั้นเต็มไปด้วยความกดดันและตึงเครียดอย่างที่ไม่เคยมีก่อน...และสาเหตุที่ทำให้ทุกอย่างอยู่สภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องที่เป็นหัวข้อของการประชุมครั้งนี้
เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว...
วันหนึ่งในวันคืนฟ้าเปลี่ยนเป็นทองบรรยากาศอันเงียบสงบเข้าปกคลุมทุกพื้นที่ ทุกคนต่างทำงานของตัวเองอย่างไม่ยอท้อกลับเกิดเหตุการณ์อันน่าสะพรึงน่ากลัวภายในเสี้ยววินาทีที่กระพริบตา
ตูม!!!
เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วอาณาเขตจนทำให้ทุกคนต่างแตกตื่นราวกับมดแตกรัง ทุกอย่างเหมือนเข้าสู่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองก็ไม่ปาน
อาคารใหญ่แสนสวยที่ประดับไปด้วยเพชรเม็ดงามหลายเม็ดกลับลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิง ท้องฟ้าสีทองสวยงามกลับกลายเป็นสีของเปลวไฟที่น่าหวาดหวั่นชวนให้ขนลุก
“บอส!” เสียงตะโกนเรียกพร้อมกับฝีเท้าเหมือนคนที่กำลังรีบร้อนดังขึ้นเรื่อยๆก่อนที่จะเห็นตัวคนเรียกดังขึ้นมาจากระหว่างทางเดินมายังที่ตัวห้อง ก่อนที่เสียงฝีเท้าจะหยุดอยู่ที่หน้าบานประตูและถูกเปิดออกมาอย่างแรงจนกระทบกับพนัง
ปัง!!!
“บอสครับ! บอส! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” ภายเบื้องหลังของกรอบประตูปรากฏชายหนุ่มอายุวัยยี่สิบกว่าๆรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนแซมสีทอง ใบหน้ารูปไข่นั้นเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและนัยน์ตาสีดำสนิทฉายแววถึงความเหนื่อยล้า
“เกิดอะไรขึ้น!”
“ระ...ระเบิดครับ!”
“ฉันรู้แล้ว! มันเกิดขึ้นที่ไหน!” ชายที่ถูกเรียกว่า ‘บอส’ ตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“ครับ!”
“เกิดที่ตึกทางทิศตะวันออกที่ห้องเก็บเอกสารครับ!”
“ดี! รีบส่งคนเข้าไปดูที่ห้องเก็บเอกสาร...ที่นั่นมีเอกสารหลายอย่างสำคัญมากอยู่” ชายหนุ่มกล่าวโดยที่ประโยคแรกเอ่ยลูกน้องคนสนิทก่อนจะพึมพำกับตัวเองในประโยคที่สองในน้ำเสียงที่ดูใจเย็นแต่แล้วคำตอบของลูกน้องคนสนิทก็ทำให้ผู้เป็นบอสชะงัก
“ไม่ได้ครับ!”
“อะไรนะ!”
“เราไม่สามารถส่งคนเข้าไปในตัวอาคารได้เพราะแรงระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้...แต่ตอนนี้ผมได้ส่งเซย์ กับ ไลน์ไปดูสถานที่เกิดเหตุแล้วครับ”
“หมายความว่าไงที่ว่าเข้าไปไม่ได้”
“จากที่เซย์รายงานมาเมื่อครู่นี้ดูเหมือนว่าจะมีคนเข้าไปยุ่งที่ห้องควบคุมทำให้สปริงเกอร์ไม่ทำงานครับ”
ปัง!!!
เสียงตบโต๊ะดังไปทั่วห้องทำงาน ชายหนุ่มหลับตากำมือแน่นอย่างสงบสติอารมณ์ ก่อนที่เสียงคำรามจะดังไปทั่วห้อง
“เบอร์เบิ้น รีบหาทางดับไฟให้เร็วที่สุดซะ!”
“ครับ!”
ทางด้านฝั่งตะวันตก
เบื้องหน้าตัวอาคารที่ไฟลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงมีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมคาย ผมสีกาแฟ นัยน์ตาน้ำตาลฉายแววครุ่นคิดอย่างหนักยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นมาแล้วสักพักใหญ่ๆและด้านซ้ายมือของเขามีชายหนุ่มร่างสูงอีกร่างหนึ่งสีหน้าบ่งบอกได้ถึงความเหนื่อยล้า
“แกคิดว่าไง”
“ไม่คิดอะไรทั้งนั้นแหละวะ” ชายหนุ่มผมสีกาแฟตอบก่อนจะจ้องมายังชายหนุ่มที่มีผมดำแซมสีน้ำตาลอ่อนที่อยู่ด้านข้าง “แล้วทางแกล่ะ...ได้เรื่องอะไรมาบ้าง”
“แกรู้ใช่มั้ย...เรื่องกล้องวงจรปิดที่ฉันออกแบบมามันเป็นแบบพิเศษมันสามารถทนความร้อนได้และยังกันน้ำได้ดีอีกด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ...ตอนที่ฉันลองย้อนเทปของกล้องวงจรปิดตอนที่เกิดเหตุในห้องที่ถูกระเบิดออกมาดู หึๆ บอกตามตรงวะ ว่าฉันตกใจนิดหน่อยว่ะเพื่อน...” ชายหนุ่มแกล้งหยุดพูดไปนิดเพื่อสร้างความสงสัยให้แก่เพื่อนสนิทที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ฉันเห็นยัยนั่นวะ”
“!!!”
“ไอเซย์ แกกำลังจะพูดว่ายัยนั่นเป็นคนวางระเบิด?”
“ก็ตามนั้น”
“แกบ้าไปแล้วหรือไง! ยัยนั่นจะวางระเบิดทำไมในเมื่อยัยนั่น...!”
“เหอะ!” ชายหนุ่มสบถก่อนจะเป็นฝ่ายพูดต่ออีกครั้ง “ไลน์ แกอาจจะไม่เชื่อฉันนะ...แต่ฉันว่าการวางระเบิดครั้งนี้มันไร้สาระวะ” ชายหนุ่มผมสีกาแฟขมวดคิ้วก่อนจะหันไปถามเพื่อนสนิท
“ไอเซย์ แกไปรู้อะไรมาวะ”
“หึๆ” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กลับหันหน้ากลับไปยังอาคารที่บัดนี้ไฟได้มอดดับลงไปแล้วเหลือแต่เพียงซากซากปรักหักพังก่อนจะร้องออกมาสุดเสียงจนไลน์หันมามอง
“ชิบแล้วววววววว!”
“แกเป็นอะไรวะ?”
“ฉันลืมรายงานเบอร์เบิ้นไปเรื่องหนึ่งว่ะ”
“...?”
“เอกสารสำคัญรายชื่อสมาชิกรวมไปถึงประวัติฯส่วนตัวขององค์กร สถานที่ตั้งขององค์กร...เอาเป็นว่าทุกๆอย่างที่เป็นความลับขององค์กรถูกขโมยไปแล้ว...” ไลน์ที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็แสยะยิ้มที่มุมปาก
“สมมติว่ายัยนั่นเป็นคนวางระเบิดจริงๆและขโมยเอกสารที่ว่าไปจริงๆล่ะก็...ฉันอยากเห็นหน้าบอสว่ะ” เซย์ที่ได้ฟังเพื่อนสนิทพูดก็ส่ายหัวอย่างเอือมระอา
“ถ้างั้น...แกไม่อยากเห็นเหรอ” ไลน์ยิ้มเจ้าเล่ห์
“...”
“ฉันเชื่อว่าแกก็อยากเห็นเหมือนกันนั่นแหละไม่มากก็น้อย”
“เออ! ฉันอยากเห็น”
“บอสคงจะดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกันแหงๆคงจะประสาทกลับพิลึก หึๆๆ”
“แกนี่มันเลวจริงๆ” ไลน์ที่ได้ยินก็ไม่ทุกข์กับคำด่าของเพื่อนสนิทกลับเลิกคิ้วแล้วถามคำถามย้อนกลับไปมาคนที่เพิ่งด่าตนเองไปหมาดๆ
“งั้นที่แกมาเป็นเพื่อนสนิทฉันแสดงว่า แกกับฉันก็คงมีนิสัยที่ไม่ต่างกันนักหรอก...ฉันพูดถูกใช่มั้ยครับ คุณเพื่อน?” ชายหนุ่มหันไปถามร่างสูงตอนนี้ที่อ้างปากค้างไปแล้ว
“แกนี่มัน...ปีศาจชัดๆ”
“ขอบคุณที่ชมครับ คุณเพื่อน”
สาบานได้ว่าเขาไม่เคยเห็นใครกวนประสาทเท่านี้มาก่อนเลย!
80%
ความคิดเห็น