ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO-SNSD-Etc.]Revenge

    ลำดับตอนที่ #3 : REVENGE : : CHAPTERS 2

    • อัปเดตล่าสุด 3 เม.ย. 56


    ✖ qual ity

     





    CHAPTERS 2



     

                เป็นที่รู้กันดีว่าผู้หญิงตระกูลจอง เป็นคนที่มีความอดทนต่ำ จอง คริสตัลเองก็เช่นกัน แม้เธอจะเป็นน้องสาวที่มีรูปร่างดีไม่แพ้เจสสิก้าเลยสักนิด แต่คริสตัลก็เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบเข้าสังคมเหมือนอย่างพี่สาว ไม่รู้ว่าเพราะเธอไม่ชอบเข้าสังคม หรือเป็นเพราะสังคมไม่ต้อนรับเธอ

     

                ตั้งแต่เกิดมา เธอมั่นใจว่าเธอไม่มีตรงไหนที่ด้อยไปกว่าเจสสิก้า แต่ทุกคนในครอบครัว หรือแม้แต่คนภายนอกก็มักจะมองเห็นแต่เจสสิก้าเสมอ ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอจะก้าวนำหน้าพี่สาวของตัวเองเลยสักครั้ง เธอมักจะเป็นผู้ที่ถูกบังคับให้ตามหลังเงียบๆอยู่เสมอ

     

                วันนี้เองก็เช่นกัน เจสสิก้าต้องไปที่โตเกียวเพื่อถ่ายแบบนิตยสาร แต่เธอ ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยกลับถูกบังคับให้ตามมา โดยใช้เหตุผลว่า

     

                ต้องมาดูแลพี่สาว

     

                เห๊อะ! เจสสิก้าไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะ หรือถึงจะใช้ คนดูแลเจสสิก้าก็มีเกือบร้อยคน เธอมาจะไปช่วยอะไรได้ ..หรือว่าช่วยได้

     

                “นี่ ถ้าคริสโทรมาเธอก็บอกว่าพี่กำลังทำงานนะ แต่เขาคงไม่โทรมาหรอกมั้ง”

     

                “แล้วพี่จะไปไหน”คริสตัลถามพี่สาวที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน ดูแล้วไม่น่าจะไปทำงานอย่างที่ว่าแน่ๆ

     

                “เพื่อนเก่าสมัยไฮสคูลที่อเมริกานัดรวมตัวกันน่ะสิ”

     

                คริสตัลเป่าลมขึ้นด้านบนอย่างเซ็งๆ “นี่ฉันต้องคอยโกหกพี่คริสให้พี่อีกกี่ครั้ง”

     

                เจสสิก้ายิ้มมุมปากก่อนจะเดินมาเชยคางน้อสาว “ก็จนกว่าเธอจะหมดลมหายใจเลยล่ะ”

     

                คริสตัลพยักหน้าเนือยๆก่อนจะมองร่างเจสสิก้าที่หายลับออกไปจากห้องพักสวีทสุดหรูที่ 1 ใน 100 หนุ่มที่มาจีบพี่สาวเธอเป็นคนซื้อให้

     

                คริสตัลทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างก่อนจะนั่งจ้องโทรศัพท์ นี่ถ้าเธอมีเพื่อนสักคนที่อยู่ที่นี่ก็คงดี เธอจะได้ออกไปเที่ยวเล่นบ้าง แต่จะว่าไป ..ออกไปคนเดียวก็ได้นี่นา

     

                คิดได้แบบนั้นคริสตัลก็วิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้ ..จะไปที่ไหนดีนะ เธอไม่ค่อยได้เที่ยวสักเท่าไหร่ซะด้วยสิ

     

                “ออกไปแล้วค่อยคิดละกันคริสตัล”

     

                เธอพึมพำก่อนจะมองหาเสื้อผ้าของเจสสิก้าที่เธอน่าจะพอใส่ได้ แต่ส่วนใหญ่มันมีแต่ที่เธอไม่น่าจะใส่ได้ทั้งนั้น มีแต่พวกเสื้อผ้าน้อยชิ้นที่พี่สาวเธอใส่แล้วดูดี มือเรียวเอื้อมไปหยิบชุดด้านในสุดก่อนจะเอามาทาบกับตัวเอง

     

                “อันนี้น่าจะใช้ได้”

     

                เธอเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีในการเปลี่ยนเสื้อผ้า เธออกมายืนส่องกระจกก่อนจะมองหน้าตัวเองที่สะท้อนจากกระจกใส

     

                บางที ..เธอคิดว่าเธอดูสวยกว่าเจสสิก้าด้วยซ้ำไป

     

     

     

     

                แสงสีในยามค่ำคืนทำให้หญิงสาวแบบคริสตัลดื่มด่ำกับมันได้อย่างมีความสุข ตอนที่อยู่เกาหลี น้อยครั้งที่เธอจะได้ออกมาแบบนี้ถึงตอนนี้เธอจะอายุ 20 แล้วก็ตาม แต่ไม่มีครั้งไหนที่เธอจะได้ออกมาโดยที่ไม่มีเจสสิก้า และส่วนใหญ่ที่ออกมานั้นหน้าที่หลักของเธอก็คือ ต้องลากพี่สาวที่เมาจนไม่สามารถดูแลตัวเองได้กลับมาส่งที่บ้านอย่างปลอดภัย หน้าที่ของเธอมันมีแค่นั้นเลยจริงๆ

     

                เธอเดินไปช้าๆแล้วมองบรรยากาศรอบข้างอย่างตื่นเต้น แต่แล้ว

     

                พลั่ก!!

     

                ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาก่อนจะชนเธอจนเกือบล้ม แต่เขาคว้าแขนเธอเอาไว้ได้ทัน คริสตัลขมวดคิ้วก่อนจะมองอย่างไม่ค่อยพอใจแต่ก็เก็บอารมณ์เอาไว้เพราะที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของเธอ ชายคนนั้นก้มหัวเป็นเชิงขอโทษแล้วเดินจากไป เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรและก้าวขาเดินต่อไป แต่แล้ว..

     

                “ทะ ทำไม”

     

                อยู่ๆแขนและขาของเธอก็ชาขึ้นมาจนไม่สามารถเดินต่อไปได้ เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้นก่อนจะพยายามเปล่งเสียงแต่ก็ไม่เป็นผล เงาดำของชายคนนั้นเดินกลับมาที่เธอ นั่นทำให้เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

     

                บัดซบ นี่มันเกิดขึ้นกับเธอได้ยังไง

     

              “ช่วย ช่วย”คริสตัลอ้าปากพะงาบๆแต่ก็มีเพียงแค่เสียงลมเท่านั้นที่ออกมาจากปากเธอ

     

                ชายคนนี้พูดอะไรบางอย่างที่เธอไม่สามารถฟังรู้เรื่อง คริสตัลพยายามรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายผลักร่างหนาน่ารังเกียจของมันออกก่อนจะออกแรงวิ่ง แต่วิ่งไปเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นเธอก็ต้องทรุดลงเช่นเดิม

     

                “ช่วย ..”

     

                สายตาของเธอเริ่มพร่าเลือนนั่นอาจจะหมายความว่าเธอคงไม่รอดพ้นเงื้อมมือปีศาจร้ายแล้ว แต่แล้ว

     

                พลั่ก พลั่ก

     

                เสียงหมัดหนักๆกระแทกกับหนังคนทำให้เธอพยายามจะลืมตาขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้น และก่อนที่ตาของเธอจะปิดเธอก็ได้เห็นใบหน้าของชายคนนึงที่วิ่งเข้ามาหาเธอและพูดอะไรบางอย่างกับเธอ แต่หลังจากนั้น

     

                เธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

     

     

     

     

     

     

                ชายหนุ่มที่สวมเสื้อสีดำทั้งตัวก้าวขายาวๆเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดไปยังชั้นดาดฟ้าเพื่อไปหาใครบางคนที่นัดเจอเอาไว้ ใบหน้าของเขาดูดี สายตาที่ผู้หญิงมากมายเพียงแค่จ้องก็แทบจะลงไปกองแทบเท้า เขายกยิ้มทีริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะมองผู้ชาย 2 คนที่มาถึงก่อนหน้านี้แล้วอย่างอารมณ์ดี

     

                “ฉันคิดว่าฉันจะมาถึงคนแรกซะอีก”

     

                ชายหน้าหวานที่ยืนพิงระเบียงดาดฟ้าส่ายหน้าก่อนจะโยนขวดน้ำไปที่คนเพิ่งมาใหม่อย่างหัวเสีย

     

                “ผิด ที่ไหนได้แกดันมาเป็นคนสุดท้าย”

     

                “ตลกน่าลูฮาน”เขาหัวเราะก่อนจะมองไปรอบๆ “ฉันไม่ใช่คนสุดท้าย ..ไคต่างหาก”

     

                “แกนั่นแหละซูโฮ ตลกน่า”ลูฮานพูดก่อนจะถอนหายใจไอเย็นจากอากาศหนาวออกมาจากจมูกของเขา “จงอินไปทำธุระที่โตเกียว จะอยู่ที่นี่ได้ไงกัน”

     

                “อ้อ! นั่นสินะ”ซูโฮพยักหน้ารับก่อนจะมองแผ่นหลังกว้างที่ยังคงยืนนิ่งอยู่เหมือนเดิม “ตกลงว่าที่แกเรียกพวกเรามารวมตัวกันนี่มีธุระอะไรวะเซฮุน”

     

                โอ เซฮุนในวัย 23 ปีหันกลับมา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยถ้าเทียบกับเมื่อก่อน แต่ที่เปลี่ยนไปมากก็คือดวงตาของเขา จากเดิมที่เคยอ่อนโยน ในตอนนี้กลับแข็งกร้าวอย่างน่ากลัว เพื่อนทั้ง 3 คนรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร

     

                “ก็คงเหมือนเดิม ไอ้บ้านั่นมันเอาตัวยัยเด็กน้อยของพวกเราไปไว้ที่ไหนไม่รู้”ลูฮานอธิบายแทน

     

                เพราะใน 4 คนซึ่งมีเซฮุน ซูโฮ ตัวเขาและไค เขาคือคนที่เซฮุนสนิทและไว้ใจมากที่สุด นั่นทำให้เขาสามารถรับรู้เรื่องราวทุกอย่างของเซฮุนได้เป็นอย่างดี

     

                ซูโฮขมวดคิ้วก่อนจะนึกไปถึงใบหน้าใสซื่อที่เห็นครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว “แต่ตระกูลซอถูกล้มไปแล้วนี่”

     

                เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ ตระกูลซอเศรษฐี ผู้ดีเก่าที่โด่งดัง คุณชายซอ และภรรยาถูกจับในข้อหายักยอกทรัพย์สินของประเทศ และในเวลาชั่วข้ามคืนตระกูลซอก็ถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดไปในพริบตา หนำซ้ำคุณชายซอและภรรยาก็ถูกยิงตายแต่จนตอนนี้ก็ยังคงหาตัวคนทำไม่ได้

     

                หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ซอฮยอน หรือยัยเด็กน้อยของพวกเขาทั้ง 4 คนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เซฮุนออกตามหาไปทั่ว แทบจะพลิกแผ่นดินหาก็ยังไร้วี่แวว และเมื่อเดือนที่แล้วพวกเขาก็ได้รู้เบาะแสว่าคนที่เอาตัวซอฮยอนไปก็คือ ..คริส

     

                ศัตรูคู่อาฆาตตลอดกาลของเซฮุน

     

                “ก็เพราะตระกูลซอถูกล้มไปแล้วไง เลยทำให้มันทำอะไรได้ง่ายขึ้น”

               

                ซูโฮพยักหน้ารับก่อนจะมองเซฮุน “แล้วที่เรียกมาวันนี้คือเรื่องอะไรงั้นเหรอ”

     

                เซฮุนสบตาซูโฮก่อนจะมองเลยมายั่งลูฮานที่ยืนอยู่ข้างๆเขา แววตาว่างเปล่าฉายแววอาฆาตขึ้นมาอย่างน่ากลัว “เกมส์การแก้แค้นได้เริ่มขึ้นแล้ว”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “แค่กๆๆๆๆ”

     

                ร่างบางของคริสตัลกระตุกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะไอออกมา อาจจะเป้นเพราะเธอถูกอากาศหนาวเล่นงานเข้าแล้วสิ แต่เดี๋ยวนะ อากาศหนาวงั้นเหรอ

     

                เมื่อวานมันเกิดเรื่องบ้าๆกับเธอนี่ ใช่แล้ว!!!

     

                ปึง!!

     

                “โอ๊ะ”เธอร้องก่อนจะเอามือคลำหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวดเพราะเมื่อเด้งตัวขึ้น หัวของเธอก็ไปกระแทกเข้ากับชั้นวางของที่ติดผนังอยู่

     

                ใครเขาสั่งเขาสอนให้ติดมันต่ำขนาดนี้เล่า

     

                “คุณเป็นอะไรไหม”

     

                คริสตัลเบิกตากว้างก่อนจะมองร่างของชายหนุ่มที่วิ่งเข้ามาโดยที่ไม่ได้ใส่เสื้อ “ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้ชั่ว อย่าเข้ามานะ”

     

                ชายหนุ่มมองเธออย่างงงๆก่อนจะเดินไปหยิบเอารีโมทแอร์ออกจากมือบางของเธอแล้วโยนมันทิ้ง “คุณคิดว่าถ้าเกิดผมเป็นคนร้ายจริงๆ คุณจะฆ่าผมด้วยรีโมทแอร์เล็กๆนี่ได้งั้นเหรอ”

     

                คริสตัลมองหน้าเขาก่อนจะอ้าปากค้าง ..เธอจำได้ดีถึงหน้าตาไอ้เลวบัดซบที่คิดร้ายกับเธอ แน่นอนว่าไม่ใช่หน้าหล่อๆคมๆของคนตรงหน้าแน่ๆ ถ้าจำไม่ผิด

     

                “คุณ ..คุณคือคนที่ช่วยฉันเหรอ”

     

                เขากอดอกก่อนจะพยักหน้าเบาๆ “คุณคิดว่าไงล่ะ”

     

                “กะ ก็คงใช่ล่ะมั้ง”เธอพูดเบาๆก่อนจะคลำหัวตัวเองอีกครั้ง “ที่นี่ที่ไหนเนี่ย”

     

                “ที่นี่ห้องของผมเอง”เขาพูดก่อนจะเดินไปคว้าเสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่พาดอยู่บนเก้าอี้มาใส่ แต่ก็ยังคงไม่ติดกระดุม เผยให้เห็นกล้ามเนื้อในแบบฉบับผู้ชายที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดีให้เธอเห็น “ขอโทษนะที่ต้องพาคุณมาที่นี่ เพราะผมไม่รู้ว่าคุณพักอยู่ที่ไหน”

     

                “มะ ไม่เป็นไร โอยยยย”

     

                “คุณเป็นอะไร”

     

                “ใครเขาสอนคุณให้ติดชั้นวางขอต่ำเตี้ยแบบนี้กันนะ”เธอบ่นก่อนจะมองหน้าเขา “ฉันเจ็บหัว”

     

                “อ้าว –o- เอ ..แต่จะว่าไปตั้งแต่ผมนอนที่นี่ ก็ไม่มีเลยสักครั้งนะที่ผมจะหัวชนมันน่ะ”

     

                “นี่คุณจะบอกว่าฉันซุ่มซ่ามเองงั้นสิ”

     

                “เปล่านะ ผมไม่ได้พูดเลย”เขายักไลห่ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกล่องยา “ไหนดู ผมทำแผลให้”

     

                “มันไม่ได้เป็นแผลหรอก แต่ฉันว่ามันต้องโนๆแน่เลย”

     

                “งั้นรอก่อนนะ”เขาลุกขึ้นเดินออกไปอีกครั้งก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับผ้าที่ดูเหมือนมีอะไรอยู่ในนั้น “ประคบสักหน่อยแล้วกัน”

     

                เธอพยักหน้าเบาๆก่อนจะปล่อยให้เขาเอาผ้านั่นมาประคบหัวของเธอ “ขอบคุณนะ”

     

                “ด้วยความยินดี ผมเป็นคนชอบช่วยเหลือคนน่ะ”

     

                “..อืม”เธอพยักหน้าก่อนจะเด้งตัวขึ้นอีกครั้งอย่างนึกขึ้นได้ “นะ นี่กี่โมงแล้ว”

     

                “ตอนนี้ก็ ..ประมาณ 7 โมงเช้าแล้วล่ะ”

     

                “ให้ตายเถอะ ฉันต้องไปแล้ว”เธอพูดแล้วมองหากระเป่าก่อนจะเดินไปหยิบมันมาสะพาย “ถ้าพี่สาวฉันรู้ว่าฉันหนีออกมาเที่ยวล่ะก็ ฉันตายแน่ๆ”

     

                “ให้ผมไปส่งคุณไหม”

     

                “ไม่เป็นไร แค่คุณช่วยฉันไว้ก็ขอบคุณมากพอแล้ว”เธอพูดก่อนจะหยิบหมวกไหมพรมมาใส่แล้วมองหน้าเขาอีกครั้ง “คุณ ฉันคุยมาตั้งนาน คุณเป็นคนเกาหลีใช่ไหม”

     

                “แท้ๆเลยล่ะ”

     

                “คุณชื่ออะไร ไว้กลับไปเกาหลีเมื่อไหร่ฉันจะตอบแทนคุณ”

     

                เขามองหน้าเธอก่อนจะยิ้ม “ผมคิม จงอิน เรียกผมว่าไคก็ได้”

     

                “คิม จงอิน คิม จงอิน โอเคๆๆ ฉันไปแล้วนะ หวังว่าเราคงได้เจอกัน”

     

                ไคมองร่างของหญิงสาวที่วิ่งออกไปอย่างรีบร้อนก่อนจะเอนตัวลงนอนบนเตียง กลิ่นของเธอยังคงติดอยู่ที่เตียงอยู่เลย เขายิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาแล้วกดต่อสายไปยังเกาหลี

     

                (...)

     

                “ฉันเจอตัวแล้ว”เขาพูดแค่นั้นก่อนจะวางโทรศัพท์แล้วหลับตา

     

                “หวังว่าคงได้เจอกัน”

     

              “เราได้เจอกันอีกแน่ จอง คริสตัล”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×