คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 ซีวอนเป็นแวมไพร์
Chapter 2
ซีวอนเป็นแวมไพร์
“หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...ห้า...หก...เจ็ด...แปด...เก้า...”
“...”
ฮยอกแจหยุดลงก่อนที่เขาจะนับถึงสิบ กำปั้นหนักๆ ทุบประตูห้องอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับมาอยู่ดี ร่างผอมโปร่งสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะนับตัวเลขสุดท้าย
“สิบ!”
ผ่าง!
ฮยอกแจถีบประตูอย่างแรงจนมันเปิดกว้างออก ตรงบริเวณใกล้ๆ กับลูกบิดมีรอยร้องเท้ากีฬาของเขาชัดเจน แถมประตูยังพังจนเกือบจะทะลุเป็นรูกว้างอีกด้วย
อี ทงเฮนอนหลับสบายอยู่บนเตียงกว้างอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ฮยอกแจเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นหนังสือเล่มหนึ่งคว่ำอยู่บนใบหน้าของร่างบอบบางที่นอนกรนเสียงแผ่วเบา
อีกแล้ว...หมอนี่อ่านหนังสือเกี่ยวกับแวมไพร์ก่อนนอนอีกแล้ว
“ตื่นได้แล้วทงเฮ!” ฮยอกแจพูดเสียงเรียบตึง เขายกเท้าเขี่ยร่างของทงเฮที่นอนอยู่บนเตียง แต่ทงเฮก็ยังเงียบสนิท ฮยอกแจจึงค่อยๆ ดึงหนังสือแวมไพร์ออกจากหน้าทงเฮ แล้วเขาก็ทำเพียงแค่เดินไปเดินมาอยู่ในห้องเท่านั้น
ทงเฮผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรยังคงนอนหลับปุ๋ย แต่ฮยอกแจเดินกลับมายืนข้างเตียงอีกครั้งแล้วแสยะยิ้มมุมปาก นับไม่ถึงชั่วอึดใจเท่านั้น น้ำเปล่าจากถังขนาดใหญ่ก็สาดกระจายอยู่เต็มเตียงกว้าง
โครม!
“ว้าก! อี...อี ฮยอกแจ!!!” ทงเฮเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วโวยลั่นใส่ร่างโปร่งตรงหน้าอย่างโมโหสุดขีด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกปลุกด้วยการสาดน้ำของฮยอกแจ แต่มันครั้งที่...ที่...
ทงเฮพยายามนับนิ้วของตัวเอง
“ครั้งที่สาม!”
“แต่ฉันคิดว่านี่ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายนะ” ฮยอกแจพูดพลางยกมือขึ้นกอดอก “ถ้านายยังไม่ลุกจากเตียง นายจะเปียกมากกว่านี้อีก”
ทงเฮสะบัดหน้ามองฮยอกแจด้วยหางตา ผมเผ้าของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเปล่า มือบางยกขึ้นเสยผมอย่างลวกๆ ในขณะที่ฮยอกแจทำเป็นยืนเก๊กท่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสายตาที่มองตนเองอย่างนั้น
ทงเฮอาศัยจังหวะที่ฮยอกแจมองไปทางอื่นเพียงเสี้ยววินาทีคว้าข้อมือของฮยอกแจให้เข้ามาใกล้ตัวเอง จากนั้นก็ล็อกคอฮยอกแจเอาไว้ แล้วประกบปากเข้ากับริมฝีปากหยักของร่างโปร่งอย่างรวดเร็ว
“อื้อ...อือ...” ฮยอกแจเบิกตากว้างที่จู่ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายดึงไปจูบได้อย่างหน้าตาเฉย แต่คนอย่างอี ทงเฮจูบเป็นเสียที่ไหนกัน เขาทำได้แค่ประกบปากเท่านั้นแหละ ยิ่งไปกว่านั้นก็คง...ทำได้แค่ขบเม้มริมฝีปากล่างของฮยอกแจเบาๆ เพื่อแก้แค้น แล้วผลักอกแกร่งออกห่าง แต่ด้วยลำตัวที่แข็งแรงกว่าของฮยอกแจทำให้ทงเฮทำไม่สำเร็จ แถมฮยอกแจยังเสียหลักล้มลงมาบนเตียงทับร่างของทงเฮอีกด้วย
ทั้งคู่จ้องหน้าที่ห่างกันเพียงคืบ ทงเฮกะพริบตาปริบๆ แล้วหลบตา นี่เขาทำอะไรลงไป คิดว่าจูบผู้ชายด้วยกันแล้วจะทำให้ฮยอกแจไม่กล้าเข้าใกล้ตัวเองอย่างนั้นเหรอ แต่ทำไมสายตาคมกริบของคนตรงหน้าถึงได้หื่นกระหายขนาดนั้น
“นายคิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่ แก้เผ็ดฉันเหรอ?” ฮยอกแจกระซิบถามอยู่ใกล้ๆ เพียงแค่ปลายจมูกของทงเฮเท่านั้น
“เปล่า!” ทงเฮยังคงไม่หยุดนิสัยประชดประชันของตัวเอง “ฉัน...ฉันแค่ชอบนาย ฉันก็เลยจูบนาย ฉันชอบนายมากๆ เลยนะหัวหน้าหอพักอี แม้แต่เมื่อคืนก็ยังฝันว่าได้นอนกับนายเลย”
“งั้นเหรอ?”
ฮยอกแจถามสั้นๆ แต่ทงเฮกลับใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย ยิ่งฮยอกแจโน้มใบหน้าคมเข้ามาใกล้ๆ ยิ่งทำให้หัวใจของเขาแทบจะระเบิดกระเด็นออกมาอยู่นอกอก
ฮยอกแจควรจะลุกออกไปได้แล้วไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมร่างที่แข็งแกร่งนั้นกลับขยับเข้ามาเบียดกายเสียดสีบนร่างของเขา แถมเตียงนี่มันก็เปียกมากด้วย ไม่เหนอะหนะบ้างเลยหรือไง ดูเหมือนว่าฮยอกแจจะอ่านความคิดจากดวงตาของทงเฮออกทั้งหมดเลย เขากระตุกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
“นายกำลังคิดว่า...ทำไมฉันยังไม่ลุกออกไปสักที ฉันไม่เหนียวตัวหรือไงในเมื่อเตียงมันเปียกแบบนี้ แล้วนายก็...พูดโกหกว่าชอบฉัน เมื่อคืนนี้นายไม่ได้ฝันถึงฉัน แต่น่าจะฝันถึงแวมไพร์ที่นายคลั่งไคล้ ฉันพูดถูกไหม?”
“นะ...นายรู้ได้ยังไง?” ทงเฮอ้าปากพะงาบๆ แล้วเบนหน้าหลบตาฮยอกแจ
“คนที่โกหกมักจะกลอกตาไปมาแบบนี้ไง” ฮยอกแจเอ่ยพลางลูบไรผมที่เปียกปอนของทงเฮไปด้านข้าง ก่อนจะโน้มมากระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า “แต่สิ่งที่นายยังไม่รู้ก็คือ...ฉันเองก็ชอบนายเหมือนกัน”
“ห๊ะ?!”
ทงเฮเบิกตาโพลง แต่เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็ถูกฮยอกแจจูบกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่เพียงแค่ประกบปาก แต่ยังรวมไปถึงลิ้นซุกซนของฮยอกแจและเสียงครางฮือของเขาเองอีกด้วย ทงเฮดิ้นพล่าน แต่เพราะว่าไม่ใช่แค่ถูกจูบอย่างเดียว มือของฮยอกแจยังล้วงเข้าไปลูบไล้เอวบางใต้เสื้อนอนของเขาขึ้นไปจนถึงแผ่นหลัง ทงเฮแอ่นกายขึ้นอย่างลืมตัว แม้แต่ยกขาขึ้นไปเหนี่ยวรัดท่อนขาของฮยอกแจ เขาก็พยายามจะทำ
ทำไมถึงบังคับร่างกายไม่ได้เลยนะ...ก็แค่ถูกจูบเอง
ทงเฮไม่กล้าลืมตาขึ้นมาเลย ความรู้สึกนี้มันแปลกใหม่และวิเศษมากจนเขาต้องเชิดหน้าขึ้น แต่ฮยอกแจกลับผละริมฝีปากออกแล้วคลอเคลียกลีบปากนุ่มไล่จากสันกรามไปยังใบหูของทงเฮ ก่อนจะกระซิบเสียงหวาน
“นายโดนจับแล้ว”
แกร๊ก!
“อ๊าก! อี ฮยอกแจ...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” ทงเฮดิ้นพล่านเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกและข้อมือข้างหนึ่งของตัวเองถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจมือลายเสือดาวจากอี ฮยอกแจเข้าให้ พอกำลังจะดิ้นอีกครั้ง กุญแจมืออีกข้างก็ถูกล็อกเข้ากับหัวเตียงอย่างไร้ความปรานี
“นายโดนทำโทษด้วยการกักบริเวณจนกว่าจะเจ็ดโมงครึ่ง”
“จะบ้าหรือไง?! งั้นฉันก็อดกินข้าวเช้าน่ะสิ”
“ถูกต้อง!”
ฮยอกแจชี้นิ้วขณะพูด เสมือนกำลังชื่นชมในความฉลาดของอี ทงเฮ แต่ถึงจะฉลาดแค่ไหน สุดท้ายก็เสียรู้ให้กับเขาอยู่ดี ทงเฮพยายามจะแกะกุญแจมือลายเสือออกจากข้อมือของตัวเอง แต่มันแน่นหนาและแข็งแรงมาก และก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะทำสำเร็จด้วย
“เจอกันอีกครั้งตอนเจ็ดโมงครึ่งนะอี ทงเฮ” ฮยอกแจพูดจบแล้วก็จากไปอย่างหน้าตาเฉย ทิ้งให้คนที่นอนอยู่บนเตียงโวยวายอยู่ตามลำพัง
ทงเฮถูกปล่อยตัวออกมาตอนเกือบจะแปดโมงทำให้เขาพลาดอาหารมื้อเช้าไปอย่างน่าเสียดาย ร่างบางรีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ เมื่อออกมาด้านนอกก็พบว่าฮยอกแจหายไปแล้ว
ทงเฮเข้ามาถึงห้องเรียนทีหลังเพื่อนๆ ขาเพรียวกระแทกเท้าตึงตังเข้ามาด้วยอารมณ์เดือดปุดๆ ยิ่งได้เห็นตัวต้นเหตุอย่างหัวหน้าหอพักอี ฮยอกแจ เขายิ่งอารมณ์เสีย แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้แล้วเดินผ่านไปโดยไม่หันไปสบตาแม้แต่เสี้ยววินาที
ที่นั่งในห้องเรียนนั้นจัดเรียงเป็นโต๊ะเดี่ยวๆ เหมือนกับห้องสอบอยู่ตลอดเวลา ตอนแรกก็ไม่ใช่แบบนี้หรอก แต่เพราะว่าซีวอนแยกโต๊ะแยกออกจากเพื่อนคนหนึ่งก่อน หลังจากนั้นคยูฮยอนที่นั่งอยู่ติดประตูหลังห้องก็เริ่มทำตาม คนที่สามที่แยกโต๊ะออกคือทงเฮ
ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่เด็กนักเรียนทุกคนในห้องแต่ละคน ไม่มีใครนั่งติดกับใครเลย
แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตาม แต่ที่นั่งของทงเฮก็อยู่ถัดจากซีวอนไปแค่หนึ่งโต๊ะกั้นเท่านั้น ซีวอนนั่งติดหน้าต่าง ในขณะที่ทงเฮนั่งอยู่กลางห้อง
ทงเฮวางกระเป๋าและนั่งลงเพื่อเตรียมตัวเรียนวิชาแรก แต่เขาก็ยังไม่ลืมทักทายซีวอนด้วย
“เมื่อคืนหลับสบายดีหรือเปล่าซีวอน?”
ทงเฮถามเสียงหวานอย่างเป็นมิตร เพื่อนๆ หลายคนเชื่อว่าทงเฮชอบซีวอน แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทงเฮไม่เคยรู้จักความรัก และเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับซีวอนมากไปกว่าการอยากรู้วิถีชีวิตของผู้ชายที่มีลักษณะคล้ายแวมไพร์ในอุดมคติของตัวเอง
“อืม ก็ดี”
ซีวอนตอบสั้นมากๆ แล้วตัดบทสนทนาด้วยการหันออกไปมองนอกหน้าต่างเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ เมื่อครู่เขาโกหกทงเฮออกไป เพราะถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ...ซีวอนนอนแค่เที่ยงคืนเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเขาหนีออกไปนอกโรงเรียน
และ...ได้พบกับคยูฮยอนที่ร้านขายเซ็กส์ทอย
เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย
“เมื่อเช้านายกินข้าวกับอะไรเหรอ ฉันน่ะโดนหัวหน้าหอพักทำโทษด้วยล่ะ แค่ตื่นสายเอง อดกินข้าวเลย”
ทงเฮยื่นหน้าเข้ามาคุยกับซีวอนโดยที่ไม่สนว่าเพื่อนที่อยู่ตรงกลางจะรู้สึกรำคาญหรือไม่พอใจอย่างไร ในตอนนั้นเองคยูฮยอนเพิ่งเดินเข้ามาทีหลัง เขาเดินเข้ามาเงียบมากจนเพื่อนๆ ไม่ได้สังเกตเห็น แต่ซีวอนที่มองเก้าอี้ที่ว่างเปล่าของคยูฮยอนอยู่ตลอดเวลากลับเห็นอย่างชัดเจน เขาเอี้ยวตัวหันกลับไปมองแม้จะเห็นเพียงเสี้ยวสายตา
ทว่า...ในตอนที่เอียงคอไปมองคยูฮยอนนั้น ทงเฮก็โพล่งขึ้นแล้วเบิกตากว้าง
“ซีวอน...คอของนาย!”
ทงเฮลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปลูบลำคอของซีวอนอย่างตกใจ แต่ซีวอนกลับรีบปัดมือบางออก
“นายจะทำอะไร?!”
“ทะ...ทำไม...มีรอยกัดเป็นจุดสองจุดที่คอของนายล่ะ” ทงเฮชี้นิ้วไปยังลำคอขาวๆ ของซีวอนอีกครั้ง มือหนายกขึ้นลูบไล้ลำคอของตัวเองก่อนจะพบว่ามันมีรอยแผลอย่างที่ทงเฮว่าจริงๆ แต่เสียงน่ารำคาญของทงเฮก็ยังพูดต่อ “หรือว่านายจะถูกแวมไพร์กัด!”
เสียงที่ดังไม่ใช่เล่นของทงเฮทำให้เกิดเสียงฮือฮาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักขึ้นในห้องเรียน นักเรียนหลายคนกรูกันเข้ามามุงดูรอบๆ โต๊ะของซีวอนแล้วพากันพูดว่าถ้าหากซีวอนโดนแวมไพร์กัดจริงๆ
ตอนนี้ซีวอนก็กลายเป็นแวมไพร์แล้ว
“ซีวอนเป็นแวมไพร์เหรอ?!”
โครม!
คยูฮยอนถีบโต๊ะเรียนจนล้มคว่ำทำให้ทุกคนหยุดเสียงของตัวเอง จากนั้นเขาก็เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นยืนจ้องทุกคนเขม็ง ทุกคนต่างหันมามองคยูฮยอนด้วยความงุนงง แล้วเสียงอันทรงพลังของคยูฮยอนก็ดังขึ้น
“เลิกพล่ามไร้สาระกันสักที น่ารำคาญชะมัด!”
คยูฮยอนพูดจบก็เดินผ่านกรอบประตูหลังห้องออกไป แล้วเสียงของฮยอกแจก็ดังขึ้นตามหลัง
“นายกำลังปกป้องซีวอนเหรอ แล้วถ้าเขาเป็นแวมไพร์จริงๆ ล่ะ?!”
“ไม่เกี่ยวกับฉัน!” คยูฮยอนหันมาตอบฮยอกที่จ้องมองเขาอย่างท้าทาย ร่างโปร่งของแวมไพร์หนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาแวววาวคล้ายอัญมณีสีนิลเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานวาบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติโดยที่ไม่มีใครสังเกตได้ทัน
คยูฮยอนกำลังยิ้ม...
เป็นรอยยิ้มที่ไม่มีใครได้พบเห็นบ่อยนัก
แต่ทุกครั้งที่เขายิ้มออกมา เหล่าคนที่กำลังนินทาหรือพูดหลับหลังเขาอยู่ก็พากันลืมเรื่องที่ตัวเองทำไปชั่วขณะ แม้แต่ตอนนี้ที่ทุกคนต่างให้ความสนใจกับรอยแผลบนลำคอของซีวอนก็ดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยความเคลิบเคลิ้มไปกับรอยยิ้มชวนหลงใหลของคยูฮยอนเข้าให้แล้ว
แวมไพร์หนุ่มเดินก้มหน้าไปตามทางเดินเพื่อหลีกเลี่ยงความเบื่อหน่ายในห้องเรียน เขากระชับเสื้อคลุมสีดำที่ใส่เป็นประจำให้แน่นหนามากขึ้นยามผิวขาวเนียนละเอียดต้องกับแสงแดด ก่อนจะเดินไปเข้าไปแอบซ่อนตัวยังห้องเก็บของที่มีแต่โต๊ะเรียนเก่าๆ และเก้าอี้ชำรุด
แต่ก่อนที่จะปิดประตูลง มือของใครคนหนึ่งก็ดันเข้ามาจากด้านนอก คยูฮยอนแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ รอยยิ้มแบบเมื่อครู่กระตุกอีกครั้งอย่างพิศวง ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อจากนี้ แต่คยูฮยอนก็ค่อยๆ คลายมือออกจากประตูแล้วเชื้อเชิญอีกฝ่ายเข้ามาด้านใน
“จาง ฮยอนซึง”
คยูฮยอนอ่านชื่อของอีกฝ่ายจากเข็มกลัดที่ติดอกเสื้อด้านซ้าย ก่อนจะแบมือให้อีกฝ่ายวางมือลงบนมือของเขา แล้วฮยอนซึงก็ทำตามอย่างว่าง่ายคล้ายกับถูกสะกดจิต
“คยู...ฮยอน...ฉันต้องการนาย!” มือบางของฮยอนซึงค่อยๆ เอื้อมมาจับปกเสื้อคลุมของคยูฮยอนแล้วดึงออกช้าๆ อยางกริ่งเกรง คยูฮยอนพยักหน้าแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้จนแผ่นหลังของฮยอนซึงแนบชิดกับผนัง
“พูดอีกครั้งสิ” น้ำเสียงของคยูฮยอนกดต่ำเหมือนกำลังระงับความโกรธไว้อยู่ในร่างกายที่ร้อนรุ่ม ฮยอนซึงช้อนหน้าขึ้นไปสบตาอีกฝ่ายแล้วละล่ำละลักบอก
“ฉันต้องการ...เป็นของนาย”
“ดีมาก!”
คยูฮยอนลูบใบหน้าหวานของนักเรียนหน้าหวานที่กล้าบุกเข้ามาหาเขาถึงที่นี่ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่หรอก ฮยอนซึงไม่ได้บุกรุกหรือล่วงล้ำเข้ามา แต่เป็นคยูฮยอนต่างหากที่เชื้อเชิญอีกฝ่ายให้ตามมา
มือของคยูฮยอนค่อยๆ เลิกเสื้อนักเรียนของอีกฝ่ายขึ้นช้าเนิบช้า ก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือหยอกล้อกับยอดถันสีชมพูที่กำลังแข็งขึงด้วยอารมณ์ที่ค่อยๆ พุ่งขึ้นสูง ฮยอนซึงยกมือขึ้นโอบลำคอของคยูฮยอนอย่างรู้งาน แล้วหลับตาพริ้มที่คยูฮยอนขยับริมฝีปากไปคลอเคลียที่ติ่งหูและต้นคอของเขา
“อื้อ...อืม...” ฮยอนซึงครางระส่ำเมื่อถูกปลุกปั่นอารมณ์หวามด้วยมือของคยูฮยอน กางเกงนักเรียนถูกร่นต่ำลงมาด้านล่างไม่เว้นแม้แต่กางเกงชั้นในตัวจิ๋วซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้าย และคยูฮยอนก็ครอบครองส่วนนั้นของฮยอนซึงด้วยริมฝีปากที่ชำนิชำนาญของตัวเอง
“นายชอบไหม?”
“ได้โปรด...โจ คยูฮยอน อย่าหยุดทำ...ได้โปรดเถอะ”
ฮยอนซึงบิดเร่าอย่างทรมานเมื่อถูกขบเม้มด้วยริมฝีปากและลิ้นสากอันฉกาจของคยูฮยอน คยูฮยอนตวัดปลายลิ้นไว้วนเบาๆ รอบส่วนอ่อนไหวที่กระตุกวาบเป็นระยะ
คยูฮยอนยืนขึ้นและโอบฮยอนซึงเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง ฮยอนซึงตัวสั่นเทาไปด้วยอารมณ์หวามไหวที่ปะทุจากการกระทำของคยูฮยอนจนเขาบังคับร่างกายของตัวเองไม่อยู่ ดวงตาของคยูฮยอนเปลี่ยนเป็นสีแดงลุกวาวอย่างน่ากลัว ราวกับว่าถ้าหากเขาจ้องมองสิ่งใดแล้ว สิ่งนั้นจะลุกไหม้และถูกเผาผลาญเป็นจุนภายในพริบตา
“นายพูดว่าซีวอนเป็นอะไรนะ เขาเป็นแวมไพร์งั้นเหรอ?”
คยูฮยอนนึกถึงเหตุการณ์ในห้องเมื่อครู่ที่ผ่านมา เสียงของชายในอ้อมกอดเขาชัดเจนที่สุดในบรรดาเด็กคนอื่นจนคยูฮยอนรู้สึกหงุดหงิด และเมื่อใดที่เขาอารมณ์ไม่ดี เขาก็อยากจะดูดกินเลือดของมนุษย์แม้ว่าจะไม่กระหายสักนิดเลยก็ตามที
“ฉัน...ฮึก...ฉันไม่ได้พูดนะ”
“นายพูด!” คยูฮยอนคำรามต่ำอย่างน่ากลัวจนฮยอนซึงฉี่ราดเปื้อนเรียวขาของตัวเอง จากนั้นฮยอนซึงก็ร้องไห้เหมือนคนสติแตก เขาตระกองกอดคยูฮยอนไว้แน่นด้วยความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้ร่างกายของเขากำลังทรมานอย่างแสนสาหัสและต้องการเพียงคยูฮยอนเข้ามาเติมเต็มเท่านั้น
“ได้โปรดเถอะคยูฮยอน...ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฮือๆ ช่วยฉันด้วย...”
ฮยอนซึงกรีดร้องดังลั่นแล้วบิดเร่าอย่างทรมาน ท่อนเนื้ออ่อนไหวของเขาเกร็งแน่นราวกับจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ คยูฮยอนจึงผละออกจากฮยอนซึงเพียงครู่แล้วแลบลิ้นโลมเลียริมฝีปากสีแดงฉ่ำของฮยอนซึงเบาๆ จากนั้นเขาก็ลากลิ้นไปตามข้างแก้ม แล้วจูบซ้ำบนแก้มเนียนสีเลือดฝาดที่กำลังถูกปลุกปั่นอารมณ์เพราะเขา คยูฮยอนหยุดที่ริมหูของฮยอนซึงแล้วขบเม้มเบาๆ ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาเพียงเล็กน้อยสู่ลำคอระหงที่ขาวเนียน
“อะ...อื้อ...” ฮยอนซึงพยายามบดเบียดท่อนล่างที่เปล่าเปลือยของตัวเองเข้ากับโคนขาของคยูฮยอน เขาเชิดหน้าขึ้นสูงในยามที่คยูฮยอนซุกไซ้ไปตามลำคอของตน แต่เพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น เขี้ยวแหลมๆ ก็งอกออกมาจากฟันซี่เล็กของแวมไพร์หนุ่ม ดวงตาแข็งกร้าวลุกโชนไปด้วยไฟแท่งโทสะ ก่อนที่จะฝังเขี้ยวไปยังลำคอนวลเนียนของฮยอนซึงอย่างไร้ความปรานี
“อะ...อ๊ากกก” ร่างของฮยอนซึงกระตุกถี่เหมือนคนที่อยู่ในอาการช็อก ดวงตารีเล็กเบิกโพลงจนแทบจะถลนออกมาด้านนอก แต่คยูฮยอนกลับยิ่งพยายามดูดเลือดของคนตรงหน้ามากขึ้นให้สมกับความโกรธที่อยู่ในร่างกายเขา ในตอนนั้นเองที่เคาะเสียงประตูดังขึ้นมา
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้โจ คยูฮยอน!”
เสียงกระพือปีกพึ่บพั่บดังขึ้นใกล้ๆ หูอีกแล้ว คยูฮยอนถอนเขี้ยวที่เปื้อนเลือดสีแดงสดออกจากลำคอของเหยื่อตรงหน้าเพียงครู่หนึ่งเพื่อฟังเสียงเรียกจากที่ไกลๆ
‘ปล่อยเด็กนั่นก่อน คู่ขาคนเมื่อคืนของนายอยู่หน้าห้องนี่เอง’
‘ใคร’
คยูฮยอนตอบกลับไปด้วยเสียงทางโรทจิตอย่างหัวเสีย
‘ผู้พิทักษ์ของนายไง’
สิ้นเสียงของค้างคาวจอมกวน เสียงเคาะประตูห้องเก็บของก็ดังขึ้นอีกครั้ง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงไปง่ายๆ เลย
Talk with Lee Seen
ฉากเมื่อกี้จะถูกแบนอีกไหมคะ?
บอกซีนที ซีนไม่รู้จริงๆ คึคึคึ
ตอนหน้า NC วอนคยู...อีกแล้วเรอะ?
ใช่! ที่ห้องเก็บของนั่นเอง
ซีวอนเป็นแวมไพร์
ซีวอนเป็นแวมไพร์
ซีวอนเป็นแวมไพร์
ซีวอนเป็นแวมไพร์
ซีวอนเป็นแวมไพร์ 5555555555555+
ความคิดเห็น