ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi 18+] Sexy Vampire [WonKyu, EunHae]

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 ซีวอนเป็นแวมไพร์

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 55


     

     

     

    Chapter 2

    ซีวอนเป็นแวมไพร์

     

                “หนึ่ง...สอง...สาม...สี่...ห้า...หก...เจ็ด...แปด...เก้า...”

                “...”

                ฮยอกแจหยุดลงก่อนที่เขาจะนับถึงสิบ กำปั้นหนักๆ ทุบประตูห้องอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับมาอยู่ดี ร่างผอมโปร่งสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะนับตัวเลขสุดท้าย

                “สิบ!

                ผ่าง!

                ฮยอกแจถีบประตูอย่างแรงจนมันเปิดกว้างออก ตรงบริเวณใกล้ๆ กับลูกบิดมีรอยร้องเท้ากีฬาของเขาชัดเจน แถมประตูยังพังจนเกือบจะทะลุเป็นรูกว้างอีกด้วย

                อี ทงเฮนอนหลับสบายอยู่บนเตียงกว้างอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ฮยอกแจเดินเข้าไปใกล้ๆ เห็นหนังสือเล่มหนึ่งคว่ำอยู่บนใบหน้าของร่างบอบบางที่นอนกรนเสียงแผ่วเบา

                อีกแล้ว...หมอนี่อ่านหนังสือเกี่ยวกับแวมไพร์ก่อนนอนอีกแล้ว

                “ตื่นได้แล้วทงเฮ!” ฮยอกแจพูดเสียงเรียบตึง เขายกเท้าเขี่ยร่างของทงเฮที่นอนอยู่บนเตียง แต่ทงเฮก็ยังเงียบสนิท ฮยอกแจจึงค่อยๆ ดึงหนังสือแวมไพร์ออกจากหน้าทงเฮ แล้วเขาก็ทำเพียงแค่เดินไปเดินมาอยู่ในห้องเท่านั้น

                ทงเฮผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรยังคงนอนหลับปุ๋ย แต่ฮยอกแจเดินกลับมายืนข้างเตียงอีกครั้งแล้วแสยะยิ้มมุมปาก นับไม่ถึงชั่วอึดใจเท่านั้น น้ำเปล่าจากถังขนาดใหญ่ก็สาดกระจายอยู่เต็มเตียงกว้าง

                โครม!

                “ว้าก! อี...อี ฮยอกแจ!!!” ทงเฮเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วโวยลั่นใส่ร่างโปร่งตรงหน้าอย่างโมโหสุดขีด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกปลุกด้วยการสาดน้ำของฮยอกแจ แต่มันครั้งที่...ที่...

                ทงเฮพยายามนับนิ้วของตัวเอง

                “ครั้งที่สาม!

                “แต่ฉันคิดว่านี่ยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายนะ” ฮยอกแจพูดพลางยกมือขึ้นกอดอก “ถ้านายยังไม่ลุกจากเตียง นายจะเปียกมากกว่านี้อีก”

                ทงเฮสะบัดหน้ามองฮยอกแจด้วยหางตา ผมเผ้าของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเปล่า มือบางยกขึ้นเสยผมอย่างลวกๆ ในขณะที่ฮยอกแจทำเป็นยืนเก๊กท่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสายตาที่มองตนเองอย่างนั้น

                ทงเฮอาศัยจังหวะที่ฮยอกแจมองไปทางอื่นเพียงเสี้ยววินาทีคว้าข้อมือของฮยอกแจให้เข้ามาใกล้ตัวเอง จากนั้นก็ล็อกคอฮยอกแจเอาไว้ แล้วประกบปากเข้ากับริมฝีปากหยักของร่างโปร่งอย่างรวดเร็ว

                “อื้อ...อือ...” ฮยอกแจเบิกตากว้างที่จู่ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายดึงไปจูบได้อย่างหน้าตาเฉย แต่คนอย่างอี ทงเฮจูบเป็นเสียที่ไหนกัน เขาทำได้แค่ประกบปากเท่านั้นแหละ ยิ่งไปกว่านั้นก็คง...ทำได้แค่ขบเม้มริมฝีปากล่างของฮยอกแจเบาๆ เพื่อแก้แค้น แล้วผลักอกแกร่งออกห่าง แต่ด้วยลำตัวที่แข็งแรงกว่าของฮยอกแจทำให้ทงเฮทำไม่สำเร็จ แถมฮยอกแจยังเสียหลักล้มลงมาบนเตียงทับร่างของทงเฮอีกด้วย

                ทั้งคู่จ้องหน้าที่ห่างกันเพียงคืบ ทงเฮกะพริบตาปริบๆ แล้วหลบตา นี่เขาทำอะไรลงไป คิดว่าจูบผู้ชายด้วยกันแล้วจะทำให้ฮยอกแจไม่กล้าเข้าใกล้ตัวเองอย่างนั้นเหรอ แต่ทำไมสายตาคมกริบของคนตรงหน้าถึงได้หื่นกระหายขนาดนั้น

                “นายคิดว่าตัวเองทำอะไรอยู่ แก้เผ็ดฉันเหรอ?” ฮยอกแจกระซิบถามอยู่ใกล้ๆ เพียงแค่ปลายจมูกของทงเฮเท่านั้น

                “เปล่า!” ทงเฮยังคงไม่หยุดนิสัยประชดประชันของตัวเอง “ฉัน...ฉันแค่ชอบนาย ฉันก็เลยจูบนาย ฉันชอบนายมากๆ เลยนะหัวหน้าหอพักอี แม้แต่เมื่อคืนก็ยังฝันว่าได้นอนกับนายเลย”

                “งั้นเหรอ?”

                ฮยอกแจถามสั้นๆ แต่ทงเฮกลับใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย ยิ่งฮยอกแจโน้มใบหน้าคมเข้ามาใกล้ๆ ยิ่งทำให้หัวใจของเขาแทบจะระเบิดกระเด็นออกมาอยู่นอกอก

                ฮยอกแจควรจะลุกออกไปได้แล้วไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมร่างที่แข็งแกร่งนั้นกลับขยับเข้ามาเบียดกายเสียดสีบนร่างของเขา แถมเตียงนี่มันก็เปียกมากด้วย ไม่เหนอะหนะบ้างเลยหรือไง ดูเหมือนว่าฮยอกแจจะอ่านความคิดจากดวงตาของทงเฮออกทั้งหมดเลย เขากระตุกยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

                “นายกำลังคิดว่า...ทำไมฉันยังไม่ลุกออกไปสักที ฉันไม่เหนียวตัวหรือไงในเมื่อเตียงมันเปียกแบบนี้ แล้วนายก็...พูดโกหกว่าชอบฉัน เมื่อคืนนี้นายไม่ได้ฝันถึงฉัน แต่น่าจะฝันถึงแวมไพร์ที่นายคลั่งไคล้ ฉันพูดถูกไหม?”

                “นะ...นายรู้ได้ยังไง?” ทงเฮอ้าปากพะงาบๆ แล้วเบนหน้าหลบตาฮยอกแจ

                “คนที่โกหกมักจะกลอกตาไปมาแบบนี้ไง” ฮยอกแจเอ่ยพลางลูบไรผมที่เปียกปอนของทงเฮไปด้านข้าง ก่อนจะโน้มมากระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า “แต่สิ่งที่นายยังไม่รู้ก็คือ...ฉันเองก็ชอบนายเหมือนกัน”

                “ห๊ะ?!

                ทงเฮเบิกตาโพลง แต่เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็ถูกฮยอกแจจูบกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ไม่เพียงแค่ประกบปาก แต่ยังรวมไปถึงลิ้นซุกซนของฮยอกแจและเสียงครางฮือของเขาเองอีกด้วย ทงเฮดิ้นพล่าน แต่เพราะว่าไม่ใช่แค่ถูกจูบอย่างเดียว มือของฮยอกแจยังล้วงเข้าไปลูบไล้เอวบางใต้เสื้อนอนของเขาขึ้นไปจนถึงแผ่นหลัง ทงเฮแอ่นกายขึ้นอย่างลืมตัว แม้แต่ยกขาขึ้นไปเหนี่ยวรัดท่อนขาของฮยอกแจ เขาก็พยายามจะทำ

                ทำไมถึงบังคับร่างกายไม่ได้เลยนะ...ก็แค่ถูกจูบเอง

                ทงเฮไม่กล้าลืมตาขึ้นมาเลย ความรู้สึกนี้มันแปลกใหม่และวิเศษมากจนเขาต้องเชิดหน้าขึ้น แต่ฮยอกแจกลับผละริมฝีปากออกแล้วคลอเคลียกลีบปากนุ่มไล่จากสันกรามไปยังใบหูของทงเฮ ก่อนจะกระซิบเสียงหวาน

                “นายโดนจับแล้ว”

                แกร๊ก!

                “อ๊าก! อี ฮยอกแจ...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” ทงเฮดิ้นพล่านเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกและข้อมือข้างหนึ่งของตัวเองถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจมือลายเสือดาวจากอี ฮยอกแจเข้าให้ พอกำลังจะดิ้นอีกครั้ง กุญแจมืออีกข้างก็ถูกล็อกเข้ากับหัวเตียงอย่างไร้ความปรานี

                “นายโดนทำโทษด้วยการกักบริเวณจนกว่าจะเจ็ดโมงครึ่ง”

                “จะบ้าหรือไง?! งั้นฉันก็อดกินข้าวเช้าน่ะสิ”

                “ถูกต้อง!

                ฮยอกแจชี้นิ้วขณะพูด เสมือนกำลังชื่นชมในความฉลาดของอี ทงเฮ แต่ถึงจะฉลาดแค่ไหน สุดท้ายก็เสียรู้ให้กับเขาอยู่ดี ทงเฮพยายามจะแกะกุญแจมือลายเสือออกจากข้อมือของตัวเอง แต่มันแน่นหนาและแข็งแรงมาก และก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะทำสำเร็จด้วย

                “เจอกันอีกครั้งตอนเจ็ดโมงครึ่งนะอี ทงเฮ” ฮยอกแจพูดจบแล้วก็จากไปอย่างหน้าตาเฉย ทิ้งให้คนที่นอนอยู่บนเตียงโวยวายอยู่ตามลำพัง

     

     

                ทงเฮถูกปล่อยตัวออกมาตอนเกือบจะแปดโมงทำให้เขาพลาดอาหารมื้อเช้าไปอย่างน่าเสียดาย ร่างบางรีบเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ เมื่อออกมาด้านนอกก็พบว่าฮยอกแจหายไปแล้ว

                ทงเฮเข้ามาถึงห้องเรียนทีหลังเพื่อนๆ ขาเพรียวกระแทกเท้าตึงตังเข้ามาด้วยอารมณ์เดือดปุดๆ ยิ่งได้เห็นตัวต้นเหตุอย่างหัวหน้าหอพักอี ฮยอกแจ เขายิ่งอารมณ์เสีย แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้แล้วเดินผ่านไปโดยไม่หันไปสบตาแม้แต่เสี้ยววินาที

                ที่นั่งในห้องเรียนนั้นจัดเรียงเป็นโต๊ะเดี่ยวๆ เหมือนกับห้องสอบอยู่ตลอดเวลา ตอนแรกก็ไม่ใช่แบบนี้หรอก แต่เพราะว่าซีวอนแยกโต๊ะแยกออกจากเพื่อนคนหนึ่งก่อน หลังจากนั้นคยูฮยอนที่นั่งอยู่ติดประตูหลังห้องก็เริ่มทำตาม คนที่สามที่แยกโต๊ะออกคือทงเฮ

                ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ที่เด็กนักเรียนทุกคนในห้องแต่ละคน ไม่มีใครนั่งติดกับใครเลย

                แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตาม แต่ที่นั่งของทงเฮก็อยู่ถัดจากซีวอนไปแค่หนึ่งโต๊ะกั้นเท่านั้น ซีวอนนั่งติดหน้าต่าง ในขณะที่ทงเฮนั่งอยู่กลางห้อง

                ทงเฮวางกระเป๋าและนั่งลงเพื่อเตรียมตัวเรียนวิชาแรก แต่เขาก็ยังไม่ลืมทักทายซีวอนด้วย

                “เมื่อคืนหลับสบายดีหรือเปล่าซีวอน?”

                ทงเฮถามเสียงหวานอย่างเป็นมิตร เพื่อนๆ หลายคนเชื่อว่าทงเฮชอบซีวอน แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทงเฮไม่เคยรู้จักความรัก และเขาก็ไม่ได้คิดอะไรกับซีวอนมากไปกว่าการอยากรู้วิถีชีวิตของผู้ชายที่มีลักษณะคล้ายแวมไพร์ในอุดมคติของตัวเอง

                “อืม ก็ดี”

                ซีวอนตอบสั้นมากๆ แล้วตัดบทสนทนาด้วยการหันออกไปมองนอกหน้าต่างเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ เมื่อครู่เขาโกหกทงเฮออกไป เพราะถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ...ซีวอนนอนแค่เที่ยงคืนเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเขาหนีออกไปนอกโรงเรียน

                และ...ได้พบกับคยูฮยอนที่ร้านขายเซ็กส์ทอย

                เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย

                “เมื่อเช้านายกินข้าวกับอะไรเหรอ ฉันน่ะโดนหัวหน้าหอพักทำโทษด้วยล่ะ แค่ตื่นสายเอง อดกินข้าวเลย”

                ทงเฮยื่นหน้าเข้ามาคุยกับซีวอนโดยที่ไม่สนว่าเพื่อนที่อยู่ตรงกลางจะรู้สึกรำคาญหรือไม่พอใจอย่างไร ในตอนนั้นเองคยูฮยอนเพิ่งเดินเข้ามาทีหลัง เขาเดินเข้ามาเงียบมากจนเพื่อนๆ ไม่ได้สังเกตเห็น แต่ซีวอนที่มองเก้าอี้ที่ว่างเปล่าของคยูฮยอนอยู่ตลอดเวลากลับเห็นอย่างชัดเจน เขาเอี้ยวตัวหันกลับไปมองแม้จะเห็นเพียงเสี้ยวสายตา

                ทว่า...ในตอนที่เอียงคอไปมองคยูฮยอนนั้น ทงเฮก็โพล่งขึ้นแล้วเบิกตากว้าง

                “ซีวอน...คอของนาย!

                ทงเฮลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วเดินเข้าไปลูบลำคอของซีวอนอย่างตกใจ แต่ซีวอนกลับรีบปัดมือบางออก

                “นายจะทำอะไร?!

                “ทะ...ทำไม...มีรอยกัดเป็นจุดสองจุดที่คอของนายล่ะ” ทงเฮชี้นิ้วไปยังลำคอขาวๆ ของซีวอนอีกครั้ง มือหนายกขึ้นลูบไล้ลำคอของตัวเองก่อนจะพบว่ามันมีรอยแผลอย่างที่ทงเฮว่าจริงๆ แต่เสียงน่ารำคาญของทงเฮก็ยังพูดต่อ “หรือว่านายจะถูกแวมไพร์กัด!

                เสียงที่ดังไม่ใช่เล่นของทงเฮทำให้เกิดเสียงฮือฮาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักขึ้นในห้องเรียน นักเรียนหลายคนกรูกันเข้ามามุงดูรอบๆ โต๊ะของซีวอนแล้วพากันพูดว่าถ้าหากซีวอนโดนแวมไพร์กัดจริงๆ

                ตอนนี้ซีวอนก็กลายเป็นแวมไพร์แล้ว

                “ซีวอนเป็นแวมไพร์เหรอ?!

    โครม!

                คยูฮยอนถีบโต๊ะเรียนจนล้มคว่ำทำให้ทุกคนหยุดเสียงของตัวเอง จากนั้นเขาก็เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นยืนจ้องทุกคนเขม็ง ทุกคนต่างหันมามองคยูฮยอนด้วยความงุนงง แล้วเสียงอันทรงพลังของคยูฮยอนก็ดังขึ้น

                “เลิกพล่ามไร้สาระกันสักที น่ารำคาญชะมัด!

                คยูฮยอนพูดจบก็เดินผ่านกรอบประตูหลังห้องออกไป แล้วเสียงของฮยอกแจก็ดังขึ้นตามหลัง

                “นายกำลังปกป้องซีวอนเหรอ แล้วถ้าเขาเป็นแวมไพร์จริงๆ ล่ะ?!

                “ไม่เกี่ยวกับฉัน!” คยูฮยอนหันมาตอบฮยอกที่จ้องมองเขาอย่างท้าทาย ร่างโปร่งของแวมไพร์หนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาแวววาวคล้ายอัญมณีสีนิลเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานวาบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติโดยที่ไม่มีใครสังเกตได้ทัน

                คยูฮยอนกำลังยิ้ม...

                เป็นรอยยิ้มที่ไม่มีใครได้พบเห็นบ่อยนัก

                แต่ทุกครั้งที่เขายิ้มออกมา เหล่าคนที่กำลังนินทาหรือพูดหลับหลังเขาอยู่ก็พากันลืมเรื่องที่ตัวเองทำไปชั่วขณะ แม้แต่ตอนนี้ที่ทุกคนต่างให้ความสนใจกับรอยแผลบนลำคอของซีวอนก็ดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยความเคลิบเคลิ้มไปกับรอยยิ้มชวนหลงใหลของคยูฮยอนเข้าให้แล้ว

     

                แวมไพร์หนุ่มเดินก้มหน้าไปตามทางเดินเพื่อหลีกเลี่ยงความเบื่อหน่ายในห้องเรียน เขากระชับเสื้อคลุมสีดำที่ใส่เป็นประจำให้แน่นหนามากขึ้นยามผิวขาวเนียนละเอียดต้องกับแสงแดด ก่อนจะเดินไปเข้าไปแอบซ่อนตัวยังห้องเก็บของที่มีแต่โต๊ะเรียนเก่าๆ และเก้าอี้ชำรุด

                แต่ก่อนที่จะปิดประตูลง มือของใครคนหนึ่งก็ดันเข้ามาจากด้านนอก คยูฮยอนแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจ รอยยิ้มแบบเมื่อครู่กระตุกอีกครั้งอย่างพิศวง ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อจากนี้ แต่คยูฮยอนก็ค่อยๆ คลายมือออกจากประตูแล้วเชื้อเชิญอีกฝ่ายเข้ามาด้านใน

                “จาง ฮยอนซึง”

                คยูฮยอนอ่านชื่อของอีกฝ่ายจากเข็มกลัดที่ติดอกเสื้อด้านซ้าย ก่อนจะแบมือให้อีกฝ่ายวางมือลงบนมือของเขา แล้วฮยอนซึงก็ทำตามอย่างว่าง่ายคล้ายกับถูกสะกดจิต

                “คยู...ฮยอน...ฉันต้องการนาย!” มือบางของฮยอนซึงค่อยๆ เอื้อมมาจับปกเสื้อคลุมของคยูฮยอนแล้วดึงออกช้าๆ อยางกริ่งเกรง คยูฮยอนพยักหน้าแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้จนแผ่นหลังของฮยอนซึงแนบชิดกับผนัง

                “พูดอีกครั้งสิ” น้ำเสียงของคยูฮยอนกดต่ำเหมือนกำลังระงับความโกรธไว้อยู่ในร่างกายที่ร้อนรุ่ม ฮยอนซึงช้อนหน้าขึ้นไปสบตาอีกฝ่ายแล้วละล่ำละลักบอก

                “ฉันต้องการ...เป็นของนาย”

                “ดีมาก!

                คยูฮยอนลูบใบหน้าหวานของนักเรียนหน้าหวานที่กล้าบุกเข้ามาหาเขาถึงที่นี่ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่หรอก ฮยอนซึงไม่ได้บุกรุกหรือล่วงล้ำเข้ามา แต่เป็นคยูฮยอนต่างหากที่เชื้อเชิญอีกฝ่ายให้ตามมา

                มือของคยูฮยอนค่อยๆ เลิกเสื้อนักเรียนของอีกฝ่ายขึ้นช้าเนิบช้า ก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือหยอกล้อกับยอดถันสีชมพูที่กำลังแข็งขึงด้วยอารมณ์ที่ค่อยๆ พุ่งขึ้นสูง ฮยอนซึงยกมือขึ้นโอบลำคอของคยูฮยอนอย่างรู้งาน แล้วหลับตาพริ้มที่คยูฮยอนขยับริมฝีปากไปคลอเคลียที่ติ่งหูและต้นคอของเขา

                “อื้อ...อืม...” ฮยอนซึงครางระส่ำเมื่อถูกปลุกปั่นอารมณ์หวามด้วยมือของคยูฮยอน กางเกงนักเรียนถูกร่นต่ำลงมาด้านล่างไม่เว้นแม้แต่กางเกงชั้นในตัวจิ๋วซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้าย และคยูฮยอนก็ครอบครองส่วนนั้นของฮยอนซึงด้วยริมฝีปากที่ชำนิชำนาญของตัวเอง

                “นายชอบไหม?”

                “ได้โปรด...โจ คยูฮยอน อย่าหยุดทำ...ได้โปรดเถอะ”

                ฮยอนซึงบิดเร่าอย่างทรมานเมื่อถูกขบเม้มด้วยริมฝีปากและลิ้นสากอันฉกาจของคยูฮยอน คยูฮยอนตวัดปลายลิ้นไว้วนเบาๆ รอบส่วนอ่อนไหวที่กระตุกวาบเป็นระยะ

                คยูฮยอนยืนขึ้นและโอบฮยอนซึงเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง ฮยอนซึงตัวสั่นเทาไปด้วยอารมณ์หวามไหวที่ปะทุจากการกระทำของคยูฮยอนจนเขาบังคับร่างกายของตัวเองไม่อยู่ ดวงตาของคยูฮยอนเปลี่ยนเป็นสีแดงลุกวาวอย่างน่ากลัว ราวกับว่าถ้าหากเขาจ้องมองสิ่งใดแล้ว สิ่งนั้นจะลุกไหม้และถูกเผาผลาญเป็นจุนภายในพริบตา

                “นายพูดว่าซีวอนเป็นอะไรนะ เขาเป็นแวมไพร์งั้นเหรอ?”

                คยูฮยอนนึกถึงเหตุการณ์ในห้องเมื่อครู่ที่ผ่านมา เสียงของชายในอ้อมกอดเขาชัดเจนที่สุดในบรรดาเด็กคนอื่นจนคยูฮยอนรู้สึกหงุดหงิด และเมื่อใดที่เขาอารมณ์ไม่ดี เขาก็อยากจะดูดกินเลือดของมนุษย์แม้ว่าจะไม่กระหายสักนิดเลยก็ตามที

                “ฉัน...ฮึก...ฉันไม่ได้พูดนะ”

                “นายพูด!” คยูฮยอนคำรามต่ำอย่างน่ากลัวจนฮยอนซึงฉี่ราดเปื้อนเรียวขาของตัวเอง จากนั้นฮยอนซึงก็ร้องไห้เหมือนคนสติแตก เขาตระกองกอดคยูฮยอนไว้แน่นด้วยความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้ร่างกายของเขากำลังทรมานอย่างแสนสาหัสและต้องการเพียงคยูฮยอนเข้ามาเติมเต็มเท่านั้น

                “ได้โปรดเถอะคยูฮยอน...ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฮือๆ ช่วยฉันด้วย...”

                ฮยอนซึงกรีดร้องดังลั่นแล้วบิดเร่าอย่างทรมาน ท่อนเนื้ออ่อนไหวของเขาเกร็งแน่นราวกับจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ คยูฮยอนจึงผละออกจากฮยอนซึงเพียงครู่แล้วแลบลิ้นโลมเลียริมฝีปากสีแดงฉ่ำของฮยอนซึงเบาๆ จากนั้นเขาก็ลากลิ้นไปตามข้างแก้ม แล้วจูบซ้ำบนแก้มเนียนสีเลือดฝาดที่กำลังถูกปลุกปั่นอารมณ์เพราะเขา คยูฮยอนหยุดที่ริมหูของฮยอนซึงแล้วขบเม้มเบาๆ ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาเพียงเล็กน้อยสู่ลำคอระหงที่ขาวเนียน

                “อะ...อื้อ...” ฮยอนซึงพยายามบดเบียดท่อนล่างที่เปล่าเปลือยของตัวเองเข้ากับโคนขาของคยูฮยอน เขาเชิดหน้าขึ้นสูงในยามที่คยูฮยอนซุกไซ้ไปตามลำคอของตน แต่เพียงชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น เขี้ยวแหลมๆ ก็งอกออกมาจากฟันซี่เล็กของแวมไพร์หนุ่ม ดวงตาแข็งกร้าวลุกโชนไปด้วยไฟแท่งโทสะ ก่อนที่จะฝังเขี้ยวไปยังลำคอนวลเนียนของฮยอนซึงอย่างไร้ความปรานี

                “อะ...อ๊ากกก” ร่างของฮยอนซึงกระตุกถี่เหมือนคนที่อยู่ในอาการช็อก ดวงตารีเล็กเบิกโพลงจนแทบจะถลนออกมาด้านนอก แต่คยูฮยอนกลับยิ่งพยายามดูดเลือดของคนตรงหน้ามากขึ้นให้สมกับความโกรธที่อยู่ในร่างกายเขา ในตอนนั้นเองที่เคาะเสียงประตูดังขึ้นมา

                “เปิดประตูเดี๋ยวนี้โจ คยูฮยอน!

                เสียงกระพือปีกพึ่บพั่บดังขึ้นใกล้ๆ หูอีกแล้ว คยูฮยอนถอนเขี้ยวที่เปื้อนเลือดสีแดงสดออกจากลำคอของเหยื่อตรงหน้าเพียงครู่หนึ่งเพื่อฟังเสียงเรียกจากที่ไกลๆ

                ปล่อยเด็กนั่นก่อน คู่ขาคนเมื่อคืนของนายอยู่หน้าห้องนี่เอง

                ใคร

    คยูฮยอนตอบกลับไปด้วยเสียงทางโรทจิตอย่างหัวเสีย

                ผู้พิทักษ์ของนายไง

                สิ้นเสียงของค้างคาวจอมกวน เสียงเคาะประตูห้องเก็บของก็ดังขึ้นอีกครั้ง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงไปง่ายๆ เลย

     

     

     

    Talk with Lee Seen

                ฉากเมื่อกี้จะถูกแบนอีกไหมคะ?

    บอกซีนที ซีนไม่รู้จริงๆ คึคึคึ

    ตอนหน้า NC วอนคยู...อีกแล้วเรอะ?

    ใช่! ที่ห้องเก็บของนั่นเอง


    ซีวอนเป็นแวมไพร์

    ซีวอนเป็นแวมไพร์

    ซีวอนเป็นแวมไพร์

    ซีวอนเป็นแวมไพร์

    ซีวอนเป็นแวมไพร์ 5555555555555+

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×