ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Au Fic KHR]Rosemary in Valentine'บันทึกรักแห่งความทรงจำ

    ลำดับตอนที่ #3 : Intro : The First Promise...♥ (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 55


    25. hour


    นี่ๆ เรามาสัญญากันนะ...

     

    เอ๋!สัญญาอะไรละ

     

    สัญญาว่า...ไม่ว่าเมื่อไหร่ ฉันจะมีแต่เธออยู่ในใจของฉันไง

     

    ...

     

    น้ำเสียงหวานสดใสไหลพรั่งพรูเข้าสู่ห้วงภวังค์ทีละเล็กทีละน้อย ย้อนรอยแห่งความทรงจำวัยเยาว์แสนหวาน ภาพเรือนลางระหว่างเด็กสาวตัวน้อยผู้ไร้เดียงสา และเด็กหนุ่มผู้มั่นรัก กล่าวขานซึ่งคำสัญญารักที่มีแค่เขาและเธอที่จะรู้เรื่องนี้...

     

    หากจะกล่าว ก็คงคาดได้ว่า...มันเป็นสิ่งที่นานมากแล้ว...

     .

     .

     

    วิโซล่า!!!’

     

    หืม...หวา!!”

     

    โครม!

     

    โอย...เจ็บชะมัดเลยแฮะ รู้สึกเมื่อกี้จะลื่น แล้วก็... เอ๊ะ! ว่าแต่ว่า นี่มัน..เรื่องอะไรกันเนี่ย ทำไมฉันถึงมานั่งกองอยู่กับพื้นเย็นๆแบบนี้กัน!

     

    ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

     

    ฉันคิดว่า...มันน่าจะเป็นไรนะ

     

    อ่า...ค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ อาจารย์...หา! อาจารย์!”

     

    หลังจากที่ฉันขานตอบกลับคำถามนั่นตามมารยาท ฉันก็ถึงบางอ้อ จนต้องกระโดดลุกจากพื้นแล้ววิ่งไปยืนหลังห้อง เมื่อรู้และเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างดี! หลายความว่ายังไงน่ะหรอ? มันก็คือ...

     

    เฮ้อ!เธอนี่ไม่ไหวเลยนะ จู่ๆแอบหลับในห้องเรียน แล้วพอเจอหน้าครู ก็เห็นว่าเป็นผีไปซะได้

     

    ใช่แล้ว!ฉันกำลังหลับในห้องเรียนนี่เอง มิน่าละ ถึงจำอะไรไม่ได้เลยสักนิดเดียว ฮ่ะฮ่า!(?) แล้วท่านอาจารย์คนนี้ก็อุตส่าห์มาปลุกฉันสินะ อืมๆ อาจารย์เป็นนาฬิกาปลุกของฉันนี่เอง! โชคดีแล้วละนะ ที่อาจารย์ไม่ว่าอะไรฉันน่ะ ^ ^


    แต่จะไม่ทำโทษ...ก็เห็นจะไม่ได้นะ

     

    เฮือก! ข้าน้อยกำลังเข้าใจอะไรบางอย่างผิดอย่างแรง! นึกว่าอาจารย์จะเป็นคนสวยใจดีที่คงให้อภัยความผิดพลาดเล็กน้อยๆ(?)ของฉันได้ แต่ตอนนี้...รอยยิ้มนั่นมัน.... น้ำผึ้งอาบยาพิษชัดๆ!(?) ไม่เอานะคะ อย่ารังแกเด็กสาวคนนี้เลย!!! แอบหลับแค่รอบที่... เอ่อ...รอบที่เท่าไหร่ละเนี่ย =w=a

     

    อาจารย์คะ คือว่า...

     

    สายไปแล้ว! เพราะ รอยยิ้มสุดน่าสะพรึงกลัวของอาจารย์ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีรอยยิ้มปานเทพธิดา แต่ตอนนี้...ไฉนเล่า มันถึงกลายเป็นดอกไม้พิษไปเสียได้! ไม่ว่าจะค้านอะไรอาจารย์ลูเช่คนนี้ก็คงไม่ปล่อยฉันไปแน่ๆเลย ทำไงดี!!!

     

    แต่ก่อนที่ฉันจะพูดสาวความและพล่ามยาวไปมากกว่านี้ เสียงเล็กๆของเด็กหนุ่มบางคนในห้องก็ดังขึ้นซะก่อน ซึ่งเป็นเสียงที่ทำให้ดวงตาของฉันต้องเบิกโพลงด้วยความตกใจอีกครั้ง

     

    นั่นก็เพราะว่า...เจ้าของเสียงที่ว่านั้น ก็คือ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างไม่เล็กไม่ใหญ่ เรือนผมแลดูยุ่งเหยิงและชี้ฟูเล็กน้อย หากแต่สิ่งที่ดึงดูดฉัน ก็คงเป็นดวงเนตรสีเพลิงเช่นเดียวกับเส้นผม ที่ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง ก็รู้สึกเหมือนจะมองตรงมาที่ฉันอย่างเดียว คล้ายกับว่ามันสะกดฉันไว้ด้วยแววตานั่น โดยไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆ

     

    อาจารย์ครับ เมื่อกี้ผมก็แอบหลับเหมือนกันครับ

     

    อ้าว!อะไรกัน เอ็นมะด้วยหรอจ๊ะเนี่ย เดี๋ยวนี้สนิทกับวิโซล่าจนเป็นเหมือนกันไปแล้วหรอ?”

     

    เอ๊ะ!มันชักยังไงๆนะคะอาจารย์ที่รัก มันคือการหลอกว่าหนูทางอ้อมใช่หรือเปล่าคะนั่น ทำไมมันฟังแล้วรู้สึกแปลกๆชอบกล สรุปคือ...หนูพาเพื่อนรักหลงผิดงั้นหรอคะ? พูดตรงๆน่าจะย้อมใจหนูได้มากกว่านะ หนูงอนอาจารย์แล้ว โป้ง! (อาจารย์เขาไม่ง้อเธอหรอกน่า!งี่เง่าจริง!)

     

    แต่มีบางอย่างที่หนูอยากเถียงอาจารย์สักนิด คือ...ถ้าเป็นหนูจริง หนูคงไม่ลุกขึ้นยืนอย่างสง่าผ่าเผยแล้วประกาศความผิดของตนให้โลกได้รับรู้(?)อย่างไม่แคร์สื่ออย่างนั้นหรอกค่ะ! เผอิญว่า...หนูไม่แน่จริง (เกี่ยว?)

     

    ครับ ผมมีพยานด้วยนะครับ

     

    จ้ะๆ งั้นก็ลงโทษทั้งสองคนทีเดียวเลยแล้วกัน

     

    หง่ะ! =[ ]= นึกว่าอาจารย์ลืมเรื่องลงโทษหนูไปแล้วนะคะนั่น ยังไม่ให้อภัยวิโซล่าคนนี้อีกหรอคะ?

     

    ครับ

     

    เอ็นมะ...นายจะตอบรับทำไมเล่า!!

     

    งั้น...ทำตามที่ครูบอกนะจ๊ะ เด็กน้อยทั้งสอง...

     


    เฮ้อ!แย่จังเลยนะ

     

    ฉันเอ่ยออกมาเบาๆเพื่อหวังให้ตัวเองได้ยินเท่านั้น แต่เผอิญว่ายังมีอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆฉัน เลยกลายเป็นว่ามีถึงสองคนที่ได้ยินคำพูดอันน่าอายนี้ของฉัน ! ก็แหม...อาจารย์ลูเช่น่ะ ให้มายืนถือถังใส่น้ำนอกห้องตลอดคาบทั้งสองคนเลยน่ะสิ เมื่อยแขนจะแย่แล้วง่า!

     

    ในขณะที่ฉันบ่น บ่น และ บ่นไปเรื่อยๆอย่างไร้ที่สิ้นสุด พลันก็ต้องพบว่าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆฉันคนนั้น มองฉันอยู่ตลอดเวลา...

     

    เอ่อ...รำคาญฉันหรอ?”

     

    เปล่านี่ พูดต่อได้เลย ฉันชอบเวลาเธอบ่นเหมือนกันนะ

     

    ฉันจะถือว่ามันคือคำชมนะ

     

    ตามใจเธอสิ

     

    แล้วเอ็นมะก็หันมายิ้มให้ฉันอีกครั้งของวัน ตั้งแต่เด็กๆแล้วนะ ที่หมอนี่จะอยู่ข้างๆฉันเสมอ ไม่เคยไปไหนไกลกันเลย เรียกได้ว่าพวกเราตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋เลยทีเดียวละ! =w= ถึงฉันจะงี่เง่ายังไง ตาบ้านี่ก็คอยช่วยและคอยว่าฉันตลอด! จนฉันอยากจะบอกธาตุแท้ของเอ็นมะให้คนในห้องได้รับรู้ว่า...มันไม่ใช่ผู้ชายมาดขรึมสักนิด! ออกจะกวนด้วยซ้ำไป!!

     

    ว่าแต่ว่า...นายน่ะ หลับในห้องเรียนด้วยหรอ?”

     

    แกล้งหลับไง แกล้งหลับ!”

     

    หา!!เอาจริงอะ ช่างกล้าจริงๆเลย! ขนาดฉันยังไม่ถึงขนาดนายเลยนะ อะไรมันจะบ้าบิ่นขนาดนี้! ในหัวนายสะกดคำว่าอาจารย์เป็นไหม? =[   ]=

     

    แกล้งหลับเพื่อ? อยากโดนทำโทษมากรึไงเนี่ย!”

     

    หืม? ก็บอกแล้วว่า...ที่ไหนมีเธอ ที่นั่นมีฉันคนนี้! แฮนเซลกับเกรเทลน่ะ อยู่ด้วยกันตลอดไม่ใช่หรอ?”

     

    ให้ตายสิ!นายมันก็ดื้อไม่ต่างจากฉันเลยนะ ไม่รู้จะว่าอะไรแล้วแฮะ ฉันในตอนนี้เลยทำได้แต่ส่งสายตามองไปที่เอ็นมะเพื่อนรักแบบหน่ายๆ เพราะไม่ว่าจะว่ายังไง หมอนี่ก็เถียงฉันมาอยู่ดี

     

    อ้อใช่! ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลยสินะ ฉันนี่มันขี้หลงขี้ลืมจริงๆเลย T^T ฉันคนนี้คือยัยสาวนักประดิษฐ์เชื้อสายฝรั่งเศสที่สามารถทำโรงเรียนแตก(?)ได้ทุกวันด้วยสิ่งประดิษฐ์ไม่สมประกอบอันแสนน่าอายของฉันเอง เจ้าของฉายาเกรเทลแต่ความจริงแล้ว...ฉันน่ะ ชื่อวิโซล่า มิแลงเกลล์ต่างหาก อย่าจำผิดละ!

     

    ส่วนนายจอมดื้อที่ยังเถียงคำไม่ตกฟาก(?)กับฉัน คือเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของฉัน ฉันสนิทกับนายคนนี้มาตั้งแต่ช่วงที่ฉันย้ายมาจากฝรั่งเศสตอน 8 ขวบน่ะนะ หมอนี่ชื่อโคซาโตะ เอ็นมะผู้มีฉายาแฮนเซลนั่นเอง! ไม่รู้เหมือนกันว่า...ฉายานี้มันมาจากไหนกันแน่? อาจเป็นเพราะว่าฉันกับหมอนี่ไปไหนมาไหนด้วยกันละมั้ง? โดยภาพรวมแล้ว เอ็นมะก็เป็นเด็กหนุ่มที่ค่อนข้างเงียบ เลยไม่ค่อยมีเพื่อน แต่ถ้าอยู่กับฉันเมื่อไหร่...ก็อีกแบบนึงนะ อย่างที่เห็น...มันยังไม่หยุดเถียงฉันเลย ดูสิ! และคาดว่า...อาจมีแค่ฉันคนเดียวที่เอ็นมะจะทำแบบนี้ด้วย

     

    กว่าจะหมดคาบเนี่ย...อีกนานมั๊ย?”

     

    คาดว่า...ครึ่งชั่วโมงแหละ อย่าคิดมากเลย

     

    จ้าๆ

     

    ในขณะที่ฉันคิดปลงตกกับความขี้เซาของตัวเอง จู่ๆ เสียงอีกเสียงที่คุ้นหูฉันเป็นอย่างดีก็ดังขึ้นมา พร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินช้าๆอย่างเป็นจังหวะ เมื่อฉันเงยหน้า...สิ่งที่ฉันเห็นก็คือ ร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่ง ผู้มีเรือนหน้าหวานละม้ายคล้ายคลึงกับผู้หญิง เรือนผมยาวตรงประบ่า รอยยิ้มอันอบอุ่นแสนอ่อนโยน สร้างความรู้สึกให้คล้อยตาม และดวงตากลมโตที่สุดแสนจะคุ้นเคย ไม่ให้คุ้นได้ไงละ ในเมื่อ...เขาคือ...

     

    พี่บาจิล

     

     

    อ้าว!เอ็นมะ วิโซล่าจัง มาทำอะไรตรงนี้น่ะ

     

    พี่ชาย...

     

    น้ำเสียงเรียบเบาของเอ็นมะเรียกสรรพนามของบุคคลตรงหน้าด้วยพี่ชายแทนที่จะกล่าวตอบคำถามของเขา ในขณะที่ฉันก็ยังคงค้างไม่เป็นท่า ความรู้สึกเมื่อยแขนเมื่อครู่มลายหายไปสิ้น เหลือแต่เพียงลมหายใจเบาบาง สายตาของฉันที่จดจ้องไปที่เขา เสียงหัวใจที่เต้นระส่ำอย่างไม่มีจังหวะอีกต่อไป และท้ายที่สุด...สติของฉันก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้ว...

     

    เป็นไรกันรึเปล่า?”

     

    อ่า...คือว่า พวกเราเผลองีบหลับในห้องน่ะค่ะ แหะๆ

     

    ทันทีที่สติของฉันกลับมา -////- ฉันก็ตอบคำถามของบุคคลตรงหน้าไปอย่างเลิ่กลั่ก ไม่ไหวแล้วนะ! ฉันนี่ชอบทำอะไรขายหน้าจริงๆเลย ทั้งท่าทีลุกลี้ลุกลน แล้วก็ เสียงหัวเราะแห้งนั่นน่ะ...มันคืออะไร(ฟะ)เนี่ย!! ไม่ว่าวันไหนก็ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยนะ ยัยวิโซล่า!

     

    หา!!เอาอีกแล้วหรอ? ยังไงก็รีบนอนละกันนะ ช่วงนี้น่ะ พอขึ้นปีสองแล้วจะได้ไม่ต้องมายืนให้ขายหน้ารุ่นน้องไง

     

    ดีจังเลยที่พี่เขาเป็นห่วง > < มีรุ่นพี่คนไหนน่ารักเท่านี้อีกม๊ายย!(วิบัติเพื่อเสียงค่ะ!=w=) แต่จะว่าไป...ฉันคนนี้ก็จะขึ้นปีสองแล้วนี่เนอะ ตื่นเต้นเหมือนกัน หวังว่าฉันคงไม่ทำอะไรเฟอะฟะจนต้องขายหน้ารุ่นน้องเหมือนที่พี่เขาบอกไว้นะ เหอะๆ

     

    แล้วก็ต้องตื่นแต่เช้าด้วยละ...

     

    เฮือก! เอ็นมะ...นายหยุดขัดจังหวะสักครั้งจะได้ไหม! คนเขากำลังนั่งรำลึกอยู่ดีๆ จะขุดเรื่องน่าอับอายมาให้ฉันรู้สึกวิตกกว่าเก่าทำไม! นายเป็นน้องชายของพี่บาจิลจริงรึเปล่าเนี่ย ไม่เห็นเหมือนกันเลยอะ อีกอย่างนะ...น้ำเสียงนายมันฟังแล้วขัดหูชอบกลจริงๆ =_=

     

    รู้แล้วละน่า! คอยดูสิ วันปฐมนิเทศน์ปีสองน่ะ ฉันจะตื่นเช้ากว่านายให้ดู!”

     

    ปากบอกไปงั้นแหละ แต่รู้ตัวดีเลยว่า...ทำไมได้ ! แต่ยังไงซะ นายก็ต้องร่วมรับชะตากรรมกับฉันอยู่ดีแหละนะ เอ็นมะ หุหุ นายคงไม่ทิ้งฉันไปหรอกเนอะ! แฮนเซลของฉัน~

     

    ยังไงเธอก็ต้องให้ฉันรออยู่ดีนั่นแหละ

     

    มันรู้จริงแฮะ...ฉันมันมองออกง่ายขนาดนั้นเลยหรอ?

     

    ปีหน้าพี่เองก็ปีสามแล้วสิ น่าจะสนุกเนอะ แล้วจะรอดูวันปฐมนิเทศน์นะ

     

    ว่าไงนะคะ! พี่บาจิล เมื่อกี้พี่พูดว่าจะรอดูฉันหรอคะ? นี่ฉันจะทำตัวขายหน้าขายผ้า(?)ประเดิมฤกษ์เปิดเทอมด้วยยางอายงั้นเรอะ!! ฉันคนนี้ทำอะไรลงไปกันหนอ? พระเจ้าถึงได้กลั่นแกล้งอย่างนี้ T^T

     

    แต่ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดชี้แจงพี่บาจิล แผ่นหลังของพี่เขาก็หายไปกับสายลมเสียแล้ว... ทิ้งไว้แต่ไออุ่นหอมหวานที่ฉันจดจำได้ไม่มีวันลืม... แม้ว่าฉันคนนี้จะขี้หลงขี้ลืมสักแค่ไหนก็เถอะ แต่ฉันสาบานไว้แล้วว่า...จะไม่ขอลืมพี่ชายคนดีของฉันไปตลอดชีวิต แม้ว่า...รักครั้งแรกของฉัน จะลงเอยอย่างไรก็ตาม อย่างไรเสีย...อนาคตก็เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงนั่นแหละนะ

    .

    .

     

    นั่นคือเรื่องราวอีกหนึ่งวันที่แสนดี ที่ฉันมีรุ่นพี่ที่ฉันผูกพันและหลงรักมากว่า 5 ปีอยู่ข้างๆ และนับตั้งแต่วันนี้ไป...คือการเริ่มต้นเรื่องราวของฉัน เพราะเมื่อฉันขึ้นปีสอง พี่เขาจะอยู่ปีสาม...หรือก็คือ เป็นปีสุดท้ายแล้วละ ที่ฉันได้พบพี่เขาที่โรงเรียนแห่งนี้ และฉันก็ตั้งใจไว้ว่าปีการศึกษาหน้าจะไม่ไร้ค่าเด็ดขาด ก็ฉันน่ะ เข้าโรงเรียนนี้ตามพี่บาจิลมาเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ! ดังนั้นแล้ว...ฉันจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปแน่นอน !

     

    อ้ะๆ อยากรู้หรอ?ว่าฉันตั้งปณิธานอะไรเอาไว้...ลองทายดูสิ! แต่ไม่เอา... เปลี่ยนใจแล้ว ^ ^ ฉันขอเฉลยเลยแล้วกันนะว่า ในปีสองที่จะถึงนี้น่ะ ฉัน...ฉันจะ...

     

    ฉันจะสารภาพรักกับพี่บาจิลในวันวาเลนไทน์ให้ได้!

     

     

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------

    [:Another Parts:]

     

    จะว่าไป...เมื่อกี้เธอฝันถึงอะไรน่ะ

     

    สักพักหลังจากที่พี่บาจิล(ของฉัน)หายไปกับเมฆหมอกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศรอบข้างก็ทำท่าจะเงียบลงเรื่อยๆ แต่แล้ว...เอ็นมะก็ชิงเปิดประเด็นอีกเรื่องขึ้นมาเสียก่อน

     

    ถามว่าฝันอะไรงั้นหรอ? ก็แบบว่า...

     

    ฉันถึงกับลืมไปสนิทเลยแฮะว่า...เมื่อตะกี้ฝันถึงอะไรอยู่ ถ้าหมอนี่ไม่ทักขึ้นมา คิดว่าฉันคงไม่ไปขุดคุ้ยมันขึ้นมาแน่! เอ...แล้วฉันฝันถึงอะไรละเนี่ย...

     

    อ๋อ! ฉันไม่แน่ใจหรอกว่ามันคืออะไรอ่านะ แต่ที่ฉันเห็นคือ...

     

    คือ...

     

    ฉันเห็นคู่เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงคู่หนึ่ง นั่งเล่นกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งแล้วสัญญาอะไรกันสักอย่าง เหมือนฝ่ายชายจะบอกว่าฉันสัญญาว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะมีเธออยู่ในใจอะไรทำนองนี้แหละ แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเด็กผู้หญิงตอบอะไรไปนะ ว่าแต่...ถามทำไมหรอ?มีอะไรรึเปล่า?”

     

    เปล่าๆ สงสัยเฉยๆน่ะ

     

    แล้วเอ็นมะก็เบือนหน้าไปทางอื่นทันทีเมื่อได้คำตอบ คงคิดอะไรบางอย่างอยู่ละมั้ง แต่ก็นะ...ฉันเองก็รู้สึกตะหงิดๆกับเหตุการณ์ในฝันเหมือนกันแฮะ คล้ายกับว่า...ฉันเคยอยู่ในเหตุการณ์นั้นอย่างนั้นแหละ แล้วก็ รู้สึกจะฝันเรื่องเดียวกันนี้มาหลายรอบแล้วนะ แต่ทำไม...ฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลยละ ท่าทาง...สมองฉันคงจะเพี้ยนได้อีกแหงแซะ! อีกอย่าง...ถ้าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือฉัน แล้ว...เด็กผู้ชายที่สัญญาไว้กับฉันละ เขาคือใครกัน?

     

    ภายใต้ข้อจำกัดแห่งกาลเวลา... ณ เวลานี้ ปัจจุบันได้เริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งการพบพานของสองหัวใจ ที่ได้ดำเนินผ่านมาตั้งแต่อดีตของทั้งคู่ ต่อไปนี้...ความทรงจำและคำสัญญาจะเข้ามามีบทบาทบรรยายถึงอนาคตแห่งด้ายสีแดงที่พันเกี่ยวนิ้วก้อยของทั้งคู่ไว้ด้วยความรัก’ …



      
     
    ในที่สุด...บทนำก็เสร็จแล้วละค่ะ!! ดีใจสุดๆเลย TT^TT ปั่นแทบตายเหมือนเดิม...
    แล้วเป็นไงบ้างเอ่ย? ค่าเหนื่อยของเฟอร์คุ้มรึเปล่าคะ? แล้วบทนำนี้...ยาวไปไหมอ่าคะ? ^ ^
    เผอิญเฟอร์ชอบให้แต่ละตอนค่อนข้างยาว จนถึงขึ้น...ยาวจัด!เลยน่ะค่ะ

    ขอชี้แจงเล็กน้อยละกันนะคะ ว่า...นางเอกของเราในบทนำนี้ยังอยู่ปีหนึ่งค่ะ! แต่ว่าพอตอนถัดไป...
    คุณเธอจะกลายเป็นรุ่นพี่ปีสองไปในทันที ฮา...! แต่ก็แอบคิดในใจว่า'พระเอกคือใครกันแน่?'
    ก็แหม...พูดตามตรงว่า เฟอร์รักเอ็นมะมากกว่าบาจิลนี่นา ขอลำเอียงหน่อยละกันนะคะ !

    ถึงแม้บทนำจะดูมั่วและชวนงง แต่ก็ขอฝากฟิคนี้ไว้ด้วยนะคะ > <

       


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×