คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Sweetly Chapter 2 :: ตุ๊กตุ๊ก...แตก!
คุยกันก่อน :)
ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะคะที่มาอัพให้ช้ามากกก TOT ช่วงที่ผ่านมางานมันเยอะมากๆเลย แต่ตอนนี้ก็ว่างแล้ว เพราะที่โรงเรียนปิดเทอมเรียบร้อย >< ยังไงก็จะมาอัพบ่อยๆนะคะ อย่าเพิ่งเบื่อก่อนล่ะ!
19.4.12
มาแก้ตัวอักษรค่ะ แหะๆ ขอโทษจริงๆนะคะที่มันอ่านยากไปหน่อย นี่ปรับใหม่แล้วก็ไม่รู้ว่ามันดีขึ้นมั้ย T^T ดีไม่ดียังไงก็บอกกันด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่าาา
_______________________________________________________________________________________________________
ตุ๊กตุ๊ก...แตก!
“ Here, eat this one >O<”
“Thanks -O-“
“This one too! Is it good?”
“Absolutely!”
ฉันมองแม่ตักกับข้าวให้อเล็กซ์ด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ -_-;; ให้ตายเหอะ! หมอนี่เป็นฝรั่งที่ขี้ประจบที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย เมื่อประมาณสิบนาทีก่อนตอนที่แม่ฉันยังไม่ถึงบ้าน เขากำลังดูทีวีสบายใจเฉิบ ส่วนฉันก็กำลังกวาดบ้านอยู่ พอแม่เข้ามาปุ๊บ มันก็กระโดดลงจากโซฟาแล้ววิ่งไปเลียขา เอ้ย! ไปหาแม่ฉันด้วยความดีใจประหนึ่งได้รางวัลโอลิมปิกเหรียญทองสองปีซ้อน
แล้วฉันยังแอบไปได้ยินแม่คุยกับอเล็กซ์เรื่องฉัน อีตาอเล็กซ์ก็ทำหน้าลำบากใจ แล้วก็พูดอะไรสักอย่างที่ความรู้ภาษาอังกฤษอันน้อยนิดของฉันพอจะแปลได้ว่าอยู่กับฉันแล้วแย่มาก ไม่ได้เรื่องเลย อะไรเทือกๆนั้นนั่นล่ะ -O-!! ฉันนี่ถึงกับของขึ้น เกือบจะวิ่งเข้าไปกระชากหัวอีตานี่อยู่แล้ว แต่ดีที่คุมตัวเองให้เดินกลับไปที่โซฟาได้ทันก่อนที่แม่จะเดินออกมา
หนอย! แกกล้าพูดได้ยังไงยะว่าฉันไม่ดี ฉันออกจะดีเลิศเลอประเสริฐศรีสุดจะเพอร์เฟค แกนั่นแหละที่ไม่ได้เรื่อง ไอ้ฝรั่งบ้า! >O<
“รัก ทำไมลูกไม่ยอมฝึกพูดภาษาอังกฤษกับอเล็กซ์เขาบ้างล่ะ?”
“ทำไมหนูต้องฝึกด้วย? ให้ฝึกกับอีตานี่ หนูตายดีกว่า!” ฉันพูดพลางเอาส้อมชี้ไปที่อเล็กซ์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไปชี้เขาแบบนั้นได้ยังไงยัยเด็กคนนี้นี่! เฮ้อ... Sorry about that นะจ๊ะอเล็กซ์” แม่หันมาทำหน้าถมึงทึงใส่ฉันก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้อเล็กซ์ -_-+ ฉันมองค้อนทั้งสองคนจนตาแทบเหล่ ก่อนจะลงมือทานข้าวด้วยอารมณ์บ่จอยอย่างแรง ไม่นานแม่ก็พูดเรื่องตลกขึ้นมาอีกแล้ว
“งั้นถ้าไม่อยากเรียนภาษาอังกฤษจากเขา ลูกก็สอนภาษาไทยให้เขาแทนสิ!”
“อะไรนะ!? นี่แม่ยังไม่จบใช่มั้ยเนี่ย หนูไม่อยากยุ่งอะไรกับอีตานี่ทั้งนั้น ให้สอนภาษาไทยให้มีหวังได้ขาดใจตาย หมอนี่ไม่มีทางพูดได้หรอก”
“ก็ได้...งั้นเรามาดูกันว่าระหว่างลูกที่เรียนภาษาอังกฤษมาเป็นสิบปี กับอเล็กซ์ที่ไม่เคยพูดไทยเลย ใครมันจะพูดได้ก่อนกัน”
“เหอะ ยังไงก็ต้องเป็นหนูแน่นอน!”
“ดี! งั้นพรุ่งนี้ลูกต้องเป็นคนพาอเล็กซ์ไปโรงเรียนเอง แม่จะไม่ไปด้วย..หยุด! ไม่ต้องมาทำตาโตใส่แม่เลย แกต้องพาอเล็กซ์ไปหาครูใหญ่แล้วก็จัดการแนะนำเขาเรื่องโรงเรียน แล้วเขาจะเรียนฝั่งEP(English Program) เพราะฉะนั้นลูกต้องไปส่งเขาให้ถึงห้อง และอย่าให้แม่รู้นะว่าลูกไม่ทำตามที่แม่สั่ง ไม่งั้นแม่จะตัดเงินค่าขนมให้เหลือเดือนละร้อย!”
“แม่!! ได้ไงอ่ะ หนูไม่ทำนะๆๆ”
“งั้นก็เชิญอดค่าขนมไปเถอะย่ะ!” ว่าแล้วแม่ก็เดินถือจานออกไปจากโต๊ะอาหารทันที
กรี๊ดดดด! ให้ค่าขนมเดือนละร้อย ฉันใช้วันหนึ่งก็ปาไปร้อยยี่สิบแล้ว! นี่ต้องอยู่ตั้งเป็นเดือนใครมันจะไปทำได้ฟะTOT แม่ใจร้ายเกินไปแล้วนะ!! เพราะหมอนี่แท้ๆเลยที่ทำให้ฉันต้องลำบากแบบนี้ ฉันหันขวับไปมองหน้าอเล็กซ์ที่กำลังจ้องฉันอยู่อย่างงงๆ (แหงล่ะ หมอนี่ฟังที่ฉันคุยกับแม่ออกที่ไหน) ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วของยิ่งขึ้น ด้วยความหมั่นไส้ทำให้ฉันเลยเอาส้อมชี้หน้าเขาอีกรอบก่อนจะลุกขึ้นไปเก็บจาน
วันรุ่งขึ้น
ฉันเดินออกมาจากบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด หน้าหงิกหน้างอยิ่งกว่าเมื่อวาน -_-+ หึ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็ดูเองสิว่าใครมันเดินออกมาด้วย! (เกิดอารมณ์พาลคนอ่าน) หลังจากแม่ขู่ว่าจะหักค่าขนมฉันแล้ว ฉันก็จำเป็นต้องส่งอเล็กซ์ไปโรงเรียนและดูแลเรื่องห้องเรียนให้ ทำอย่างกับว่าอีตานี่เป็นเด็กป.1 ตัวโตอย่างกับหมีควายขนาดนี้เดินไปโรงเรียนเองไม่ได้หรือไงฟะ!?
“นี่นาย! เดินตามมาดีๆล่ะ อย่าทำตัวมีปัญหาเข้าใจมั้ย!?” ฉันหันไปพูดกับอเล็กซ์ด้วยความรู้สึกเซ็งสุดขีด
“-_-?“
ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นย่ะ! รู้อยู่แล้วว่านายฟังไม่ออก =_=
ฉันเดินนำอเล็กซ์มาเรื่อยๆจนมาถึงป้ายรถเมล์ เพราะโรงเรียนค่อนข้างอยู่ไกลจากบ้าน แม่ฉันก็ต้องรีบไปสอนแต่เช้า ไม่มีเวลาไปส่งฉันก่อนหรอก ชิ!
“It’s so hot!”
ฉันได้ยินอเล็กซ์บ่นเบาๆ พอหันไปมองก็เห็นเขากำลังใช้หลังมือปาดเหงื่อบนใบหน้า เฮอะ! สมน้ำหน้า :P แต่ด้วยความที่ฉันเป็นคนดี เลยหยิบสมุดจากในกระเป๋าให้เขาเล่มนึงเพื่อให้เขาพัด
“ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร...หือ!?”
เมื่อกี้ทำไมฉันถึงได้ยินว่าเขาพูดว่าขอบคุณล่ะ ภาษาไทยด้วย! แล้วอเล็กซ์ก็เฉลยด้วยการชูหนังสือที่หน้าปกเขียนว่า ‘เรียนภาษาไทยง่ายๆ สำหรับชาวต่างชาติ’ ขึ้นมา พลางยิ้มเยาะ -O-!! แม่ฉันต้องเป็นคนซื้อมาให้แน่ๆเลย กรี๊ดด ไม่ได้นะ ฉันจะแพ้หมอนี่ไม่ได้เด็ดขาด! เห็นทีต้องให้ยัยไอย์ช่วยสอนภาษาอังกฤษให้ซะแล้ว
เวลาผ่านไปประมาณยี่สิบนาที....ฉันก็แทบจะยืนจมกองเหงื่อตัวเองตาย ทำไมรถเมล์ยังไม่มาอีกนะ ถ้าขืนยืนต่ออีกห้านาทีโดนใบสายแน่ๆแล้วถ้าไปส่งอีตานักเรียนแลกเปลี่ยนไม่ทัน ฉันก็จะโดนหักค่าขนม T_T ทันใดนั้นเอง สายตาของฉันก็หันไปเจอกับ
หึๆๆ
“มานี่เลยนายน่ะ”
“where are we going??” (เราจะไปไหน??)
“ตามมาเหอะย่ะ! See this!!”
“O_O”
อเล็กซ์ถึงกับอึ้งด้วยคำว่า ‘This’ ของฉัน ไม่รู้ว่าเพราะสำเนียงฉันไฮโซเกินไปหรือว่าเพราะเห็นรถตุ๊กตุ๊กจอดเรียงกันเป็นตับตรงหน้า หึๆ ใช่แล้ว เราจะนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปโรงเรียนกัน >O< ฉันนี่เป็นเจ้าบ้านที่ดีจริงๆ คราวนี้รับรองว่าอเล็กซ์ต้องได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตชาวไทยได้อย่างเต็มที่แน่นอน ฟันธง!
“ลุงๆ ไปโรงเรียนXXX คิดเท่าไหร่?”
“แปดสิบเลยหนู ลุงคิดถูกๆ”
“โห ตั้งแปดสิบเลยหรอลุง แพงไปป่าว แค่หกสิบนี่หนูก็ว่าแพงแล้วนะ -O-!!”
“นี่แม่หนู โรงเรียนนี้มันอยู่ตั้งไกลนะ เอ้า! ลุงให้เจ็ดสิบขาดตัว ถ้าหนูไม่เอาแล้วไปเรียนสาย ลุงก็ช่วยไม่ได้นะ”
พูดจบอีตาลุงคนขับก็สะบัดตูดไปที่รถตัวเองทันที -_-^ หนอยย คิดว่าฉันอยากจะง้อนักรึไงยะ ฉันทำท่าจะเดินออกไปแต่อเล็กซ์ที่ยืนอยู่ข้างๆกลับดึงแขนฉันไว้ก่อน แล้วชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือเป็นนัยว่า ‘ถ้าขืนเธอยังเรื่องมากอีกล่ะก็เราได้ไปสายแน่ๆ’ ชิ ฉันรู้นะยะว่าจริงๆแล้วนายอยากนั่ง เก๊กอยู่ได้ อะโด่! ฉันปีนขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังของรถตุ๊กตุ๊กอย่างช่วยไม่ได้ อเล็กซ์ก็ปีนตามขึ้นมานั่งข้างๆฉัน
“ตกลงลุง ไปโรงเรียนXXX แต่ขอแบบด่วนๆเลยนะ”
“ได้เลย! รับรองสิบนาทีถึง!”
ลุงคนขับว่าพลางสตาร์ทเครื่อง รถสามล้อเริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่สภาพมันจะเอื้ออำนวย =_=; เอ่อ...รถคันนี้เป็นรถรุ่นบุกเบิกรึไงนะ ทำไมสภาพมันถึงได้เยินขนาดนี้เนี่ย สนิมเขรอะเลย อีตาอเล็กซ์ก็เริ่มทำหน้าแปลกๆ สงสัยคงกลัวว่าจะไปไม่ถึงโรงเรียน แต่จะไปเยี่ยมบ้านเก่าแทน
กึกๆๆ
O_O!!
“เสียงอะไรน่ะลุง!”
“อ้อ ไม่ต้องห่วง เครื่องมันดังแบบนี้ประจำนั่นแหละ ^_^” ลุงคนขับพูดพลางโบกมือทำนองว่าไม่มีปัญหา ฉันเลยเอนหลังลงไปพิงเบาะอีกครั้ง อเล็กซ์ก็ถอนหายใจเบาๆ
กึกๆๆ ครึกๆๆ
เสียงกึกๆยังคงดังต่อเนื่องไปตลอดทางอย่างที่ลุงบอก แต่ฉันกลับไม่รู้สึกปลอดภัยเลยสักนิดเดียว =_=; ฉันแอบเห็นอเล็กซ์เอามือปาดเหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผม มืออีกข้างเกาะที่จับแน่นและพร้อมเสมอที่จะกระโดดลงจากรถทันทีถ้ามีอะไรเกิดขึ้น(เช่นเดียวกับฉัน) คนเดียวที่ดูสบายใจที่สุดก็คืออีตาลุงคนขับเนี่ยแหละ ขับไปฮัมเพลงไป มีความสุขที่สุดในโลก =_=
กึกๆๆๆ กึก!
ปุ้ง!! ปุ้ง!! ปุ้ง!!
เฟี้ยววววว~
“แว้กกกกกกกกกกกกก!!”
ฉันแหกปากร้องดังลั่นพลางรีบคว้าหาที่เกาะ หลังจากได้ยินเสียงเหมือนอะไรระเบิด และถ้าฉันเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นเสียงยางแตก TOT รถตุ๊กตุ๊กแปลงร่างเป็นรถไฟเหาะตีลังกาทันที มันหมุนควงสว่านไปสามตลบ เล่นเอาฉันแทบหัวใจวาย มือยึดเสารถไว้แน่น ในใจภาวนาถึงพ่อแก้วแม่แก้วทันที และในที่สุดรถก็หมุนมาหยุดลงริมฟุตบาทพร้อมๆกับกันชนรถที่ร่วงลงไปสู่พื้น =O=!!
“What the fu*k!! @*($^(&$_(@*$+@#(+_(%()&!!!”
อเล็กซ์ปล่อยคำสบถสารพัดสารเพออกมาทันทีที่เราออกมาจากรถ ส่วนสิ่งแรกที่ฉันทำคือวิ่งไปที่ดงหญ้าข้างทางและอ้วกกกกกก
“อ้วกกกกก~ อุแหวะๆ อึ๋ยย!”
“Woah
you’re okay?”
โอเคบ้าอะไรล่ะ! ถ้าโอเคแล้วฉันจะมาอ้วกอยู่แบบนี้มั้ยยะ!? ฉันรับน้ำจากอเล็กซ์มาล้างปาก แล้วหันไปต่อว่าคนขับทันที
“ลุง! ไหนลุงบอกว่าไม่เป็นไรๆไง ทำไมรถถึงยางแตกล่ะห๊า!? >O<”
“แหม อีหนู เรื่องแบบนี้มันบอกล่วงหน้าได้ที่ไหนล่ะ”
“ไม่ต้องเลยลุง! แตกล้อเดียวยังพอว่า แต่นี่ดันแตกพร้อมกันสามล้อรวด แล้วพวกหนูจะไปโรงเรียนได้ยังง้ายยย!?” ฉันต่อว่าเสียงดัง ก็สงสารลุงแกเหมือนกันน่ะนะ แต่นั่งไปไม่ทันจะสองนาทียางแตกเสียงดังไปถึงชายแดนพม่าแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
“เอาเป็นว่าลุงขอโทษละกันนะ เดี๋ยวลุงจะลดค่าโดยสารให้เหลือครึ่ง...”
“ยังจะเก็บตังอีกรึไงลุง!?” ฉันแว้กขึ้นมาเสียงดังทำเอาลุงแกสะดุ้ง
“ไม่คิดก็ได้ๆๆ งั้นแยกกันตรงนี้เลยนะ สวัสดี -_-;”
“อ้าวเฮ้ย! ลุง! แล้วพวกหนูจะไปโรงเรียนยังไงล่ะ >O<”
ฉันตะโกนไล่หลังลุงที่กำลังเข็นรถเข้าไปในปั๊มที่เราขับผ่านมา นอกจากลุงจะไม่หันกลับมาแล้ว แกยังโบกมือไล่พวกเราด้วย =_=;; ฉันถอนหายใจ และหันกลับมามองหน้าอเล็กซ์
“ไงล่ะ รถที่นายบอกให้เราขึ้น! ถ้าเราไม่ขึ้นแต่แรกก็คงไม่ต้องมาลำบากแบบนี้หรอก เพราะนายคนเดียวเลย แว้ดๆๆๆ” ฉันโวยวายใส่อเล็กซ์ไม่ยั้ง ยิ่งเห็นสีหน้าเรียบๆงงๆของอีตานี่แล้วยิ่งโมโห ไม่นานฉันก็รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าที่จะด่าต่อ อเล็กซ์ก็เลยพูดออกมาเซ็งๆ
“Enough? Let’s go” (จบแล้วใช่มั้ย? งั้นก็ไปกันเหอะ)
“เฮ้ย! ไปไหน เอ้ย! Where?”
“School! =_=”
พูดจบอีตาอเล็กซ์ก็ดึงมือฉันแล้วเดินต่อไปข้างหน้า เฮ้ๆ -_-+ แล้วนี่เขารู้รึไงว่าโรงเรียนอยู่ตรงไหนน่ะหา เดินดุ่มๆไปเฉยเลย
“โน้วว! ไปไม่ได้ๆ”
“Why?”
“เอ่อ บีคอร์ส สคูลอ่ะ อยู่ไกลอ่ะ ฟาร์อ่ะ เวรี่ๆๆฟาร์ ยูโน้วว? =O=;”
“Huh? -_-?”
อย่ามาทำหน้างงใส่ฉันสิยะ TOT
ในที่สุดเราก็ต้องเดินไปเรียนค่ะ -_-; เดินจากจุดที่ยางแตกไปจนถึงโรงเรียนก็ตีสักห้ากิโลเมตรได้ ห้ากิโลฯนี่ไม่ใช่ขี้ๆเลยนะคะพี่น้องง TOT กว่าเราจะไปถึงโรงเรียนก็อีกครึ่งชั่วโมงต่อมานู่นแหละ ไหนจะต้องไปรายงานตัวกับอาจารย์ใหญ่อีก รวมๆแล้วก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วโมงครึ่ง เฮ้ออ~ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนพาลูกมาเข้าโรงเรียนอนุบาลเลยนะ TTOTT
ยังไม่จบแค่นั้น ฉันต้องพาอเล็กซ์มาที่ตึกเรียนฝั่งอีพีเพื่อส่งหมอนี่เข้าเรียน -_-; เกือบครึ่งของนักเรียนโซนนี้มีแต่ชาวต่างชาติเรียนอยู่ทั้งนั้น อืม...หมอนี่อยู่G.12/1งั้นหรอ แล้วมันอยู่ส่วนไหนของตึกฟะเนี่ย ปกติฉันไม่ค่อยได้เดินมาตึกนี้ซะด้วยสิ... และเหมือนกับสวรรค์มีตา เมื่อเด็กนักเรียนในชุดเครื่องแบบของอีพีเดินเข้ามาหาพอดี
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ”
“เอ่อ เกรดสิบสองห้องหนึ่งอยู่ตรงไหนหรอคะ...อ่ะ O_O”
ทันทีที่เห็นหน้าเขาชัดๆ ฉันถึงกับตกใจถอยหลังไปสามเก้า อุแม่เจ้า! สาบานได้ว่านี่คือเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ ทำไมถึงหล่อขนาดนี้เนี่ยย~ >_< ฉันไล่สายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ทุกๆอย่างดูเนี้ยบและเพอร์เฟคทุกกระเบียดนิ้ว เขาดูเหมือนตุ๊กตาเคนแฟนของบาร์บี้ยังไงอย่างงั้นเลยอ่ะ ผมสีเข้มเกือบดำ ดวงตาสุขุมแต่อบอุ่น จมูกโด่ง ผิวขาวเนียน ฉันถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อริมฝีปากสีแดงราวกับลูกเชอร์รี่ของเขาแย้มขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“อ้อ...นั่นห้องเรียนของผมเอง นี่พาเด็กแลกเปลี่ยนมาล่ะสิ”
“คะ ค่ะ >_<”
“งั้นเดี๋ยวผมพาไปแล้วกันนะ ^^”
ฉันยิ้มแป้นเดินตามเขาไปด้วยความกระตือรือร้น และไม่รอช้าที่จะใช้จังหวะช่วงเวลานี้ไปทำความรู้จัก ตีซี้ชะชะช่ากับเขาทันที ฮิๆๆ
“นายชื่ออะไรเหรอ เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย >_<”
“อั๋นครับ”
“เราชื่อต้นรักนะ ยินดีที่ได้รู้จัก...ว้าย!”
ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค ฉันก็สะดุดถังน้ำที่ภารโรงเอามาตั้งไว้ริมทางเดินซะก่อน ฉันหลับตาเตรียมหน้าแหกกระแทกพื้นกระเบื้อง แต่กลับมีมือของคนข้างๆมาดึงฉันเอาไว้เสียก่อน เลยกลายเป็นว่าฉันนอนทับอยู่บนตัวของเขาแทน >O< ฉันรีบลุกขึ้นแทบจะทันทีแต่ก็ต้องมาชะงักกับใบหน้าที่อยู่ห่างแค่ปลายจมูก เหมือนกับว่าฉันหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง สมองฉันตอนนี้กำลังมึนงงกับใบหน้าและสายตาของอั๋นที่มองมาอย่างตื่นตะลึง...
แล้วทุกอย่างก็พังทลายทันทีที่ได้ยินเสียงกระแอมของอเล็กซ์ =_=!!
“Hey, I didn’t mean to interrupt but can we all go now?” (เฮ้ ไม่ได้อยากจะขัดหรอกนะแต่เราจะไปกันได้รึยัง?)
เพล้ง! เพล้ง! เพล้ง!
เหมือนความสุขเมื่อกี้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย >O< อั๋นค่อยๆพยุงฉันลุกขึ้นก่อนที่จะลุกตาม เขาหันไปมองหน้าอเล็กซ์นิดหน่อยแล้วเดินผ่านไป ส่วนฉันก็ไม่รอช้าที่จะจิกตามองอเล็กซ์ด้วยความหงุดหงิดทันที มารขัดขวางความสุขจริงๆเลย ให้ตาย!
เราเดินมาจนสุดทางเดินของอาคารเรียน เสียงเจี๊ยวจ๊าวของนักเรียนดังผ่านประตูไม้ออกมาถึงทางเดินนอกห้อง -_-; ทันทีที่อั๋นเปิดประตูเข้าไป ทั้งห้องก็เงียบลง แล้วเสียงก็ดังขึ้นมาใหม่ (สงสัยตอนแรกนึกว่าครูเข้ามา =_=;;) ไม่นานเราทุกคนก็สะดุ้งกันอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออกอย่างแรง
ปึง!!
“เสียงดังอะไรกัน!!”
โอ๊ะ! คราวนี้ครูมาของจริงแฮะ ห้องเงียบกริบเลย
“เอ่อ ครูครับคือว่าเรามีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาจะอยู่ห้องเราน่ะครับ” อั๋นรีบเข้าไปพูดกับครูหน้าเฮี้ยบก่อนระเบิดจะลง
“ใครล่ะ คงไม่ใช่เธอใช่มั้ย?” ครูหน้าโหดชี้มาที่ฉันที่ส่ายหัวเป็นพัลวัน ต๊าย! ถึงหน้าฉันจะดูไฮโซ(?) แต่ฉันก็เป็นคนไทยแต้ๆนะ “งั้นคงเป็นพ่อหนุ่มคนนี้ล่ะสิ แหมๆ...”
เจ๊หน้าเฮี้ยบต้องกินเด็กนักเรียนแหงๆเลย อเล็กซ์ทำท่าขนลุกนิดๆตอนเจ๊แกเดินเข้ามาใกล้ ระหว่างที่ฉันกำลังมองอเล็กซ์คุยภาษาอังกฤษไฟแลบกับเจ๊หน้าเฮี้ยบ (ก็ไม่รู้ว่าเจ๊แกชื่อว่าอะไรนี่) อั๋นก็เดินเข้ามาคุยกับฉัน >_<
“อืม...เธอชื่อต้นรักใช่มั้ย?”
“ใช่จ้ะ!” อุ๊ยตาย ทำไมเสียงฉันน่ารักแบบนี้เนี่ย ฮิๆๆ >_<
“อื้ม อเล็กซ์มาอยู่บ้านเธอเหรอ?” อ้าว ถ้าไม่รับ อีตาอเล็กซ์คงโผล่ขึ้นมาเองได้หรอก =_=;แต่ฉันตอบไปแบบนั้นได้ที่ไหนล่ะ
“ช่ายย~ แม่ฉันรับเขามาน่ะจ้ะ”
“อ้อ ดีจังเลย มีเพื่อนเป็นฝรั่งด้วย ^^”
มันดีตรงไหนฟะมีเพื่อนเป็นฝรั่งเนี่ย? ฟังก็ไม่ออก พูดก็ไม่รู้เรื่อง -_-; แม้จะคิดแบบนั้น ฉันก็ยังฉีกยิ้มหวานโม้แตกไป
“ก็ดีนะ ได้ฝึกภาษาด้วย >_<”
“ใช่ๆ เออนี่... คืออาจจะฟังดูแปลกๆนะ แต่เราขอเบอร์เธอไว้ได้มั้ยอ่ะ คือแบบ...เอ่อ แม่เราก็คิดจะรับนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกัน เผื่อมีอะไรจะได้โทรปรึกษาเธอไง”
ฉันเบิกตาโพลงตั้งแต่ประโยคแรก แทบจะหลุดกรี๊ดออกมา นี่เขาจะขอเบอร์ฉันเหรอ >_< แต่เราเพิ่งเจอกันเองนะ แบบว่า...เรายังแทบไม่รู้จักกันเลยอ้ะ! (<<ไม่เคยโดนขอเบอร์มาก่อน) ฉันจ้องหน้าอั๋นที่ส่งยิ้มมาให้ อ๊ะ...หูเขาแดงด้วยแหละ โอ๊ยๆๆ น่ารักไม่ไหวแล้วค่า ฉันรับมือถือเขามาแล้วกดเบอร์โดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น -..-
“เรียบร้อย!”
“ขอบใจนะ ไว้เราจะโทรไป ^^” อั๋นยิ้มกว้าง แล้วยื่นมือรับโทรศัพท์เขากลับไป มือของฉันไปถูกมือของเขาพอดี เหมือนไฟฟ้าแล่นแปร๊บไปทั่วตัว เลือดสูบฉีดไปทั่วใบหน้า แม้จะเขินแทบตายแต่ก็ไม่กล้าดึงมือออก เราค้างอยู่ในสภาพที่เหมือนกับว่าอั๋นกำลังจับมือฉันอยู่นานเลยล่ะ จนฉันเขินทนไม่ไหวต้องดึงมือออกมา พอหันไปมองอเล็กซ์ก็เห็นว่าหมอนั่นไม่ได้คุยกับเจ๊หน้าเฮี้ยบแล้วแต่กำลังยืนมองมาทางฉันต่างหาก ทันทีที่เราสบตากัน เขาก็หันหน้าไปแล้วไปคุยกับเด็กผู้ชายคนอื่นในห้องต่อ -_-
นิสัยประหลาดดีแท้...
___________________________________TO BE CONTINUE>>________________________________
ความคิดเห็น