ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    HEY U!! เรามาเป็นเนื้อคู่กันเหอะ [fiction TaoKacha]

    ลำดับตอนที่ #3 : น้อยใจ

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 54


    Chapter03- น้อยใจ

     

     

    TAO’s part

     

    ฟรุ่บ!!

    “2-1 แล้วไงมึง ระวังหน่อยสิวะเสียงตะโกนดังข้ามฟากจากข้างสนามบอกผม ท่ามกลางลานสนามหญ้ากว้างที่เต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นกลุ่มใหญ่กำลังรุมล้อมแย่งชิงลูกขาวดำกลมๆกันอย่างอุตลุด  

    โทดทีว่ะๆผมพูดขอโทษกลับก่อนจะวิ่งไปรับลูกบอลที่เพื่อนในทีมกำลังจะเตะส่งมา

     

    ผมมาเล่นเตะบอลได้ตั้งแต่บ่ายสามโมงแล้วครับจนตอนนี้ก็จวบประมาณ 5 โมงเย็นแล้วเห็นจะได้ ผมจะมาเล่นที่นี่อย่างนี้ทุกวันตั้งแต่ตอนผมอยู่ปีหนึ่ง ยกเว้นเมื่อวานเป็นกรณีพิเศษ โชคดีอพาร์ทเม้นท์ที่ผมเพิ่งจะย้ายมาใหม่อยู่ใกล้กับสนามบอลมากกว่าที่เดิมซะอีก ช่วยย่นระยะเดินทางไปได้หลายกิโล เจ้าเฟรมมันก็มาเล่นด้วยครับ แต่อยู่คนละทีมกับผม เมื้อกี้มันเพิ่งจะทำแต้มประตูให้ทีมมันนี่เอง นี่ผมก็ชวนคชาออกมาเล่นด้วยนะแต่โดนปฏิเสธแทบทันทีบอกว่าไว้วันหลัง แอบนึกเสียใจเบาๆ

    พูดทำร้ายน้ำใจกันอ่ะ คนเค้าอุตส่าห์หวังดี.. เศรษฐพงศ์ก็เสียใจเป็นเหมือนกันนะเฟ้ย

     

     

    ปิ๊ดดดด

    พรุ่บ!!

    ผมเตะบอลเข้าโกลอย่างสวยงามไปไม่กี่วินาทีหลังเสียงนกหวีดแหลมจากเพื่อนอีกคนที่เป็นคนจับเวลาเป่าเตือนเป็นสัญญาณให้รู้ว่าหมดเวลาแล้ว ทุกคนยืนหอบเหนื่อยกัน กลิ่นกายชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อที่เพิ่งได้มาจากการออกกำลังกายยามบ่ายไปหมาดๆ ต่างคนเดินกอดคอกันอย่างครื้นเครงถือขวดน้ำเอามาราดหัวราดหน้าให้เย็นชื่นใจ แล้วเริ่มบอกลาแยกย้ายกันออกจากสนามฟุตบอล ผมโบกมือลาให้เพื่อนคนหนึ่งที่กำลังจะกลับก่อน

     

    ครั้งนี้ผมชนะพี่ว่ะ 55+เฟรมมันเดินเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่แล้วยักคิ้วข้างหนึ่งแบบกวนๆ

    เสมอเหอะ เดี๋ยวกูเตะให้หงายหลังซะเลยนี่ไอ้สัสผมพูดแซวพลางโยนขวดน้ำให้

    ก็เสมอแหละ ถ้าพี่เต๋าเตะเข้าโกลก่อนนกหวีดดังนะจิ๊ดเลยครับทางนี้ ทำไมมันชอบตอกย้ำกูกันอยู่เรื่อยจังวะ เจ้าเฟรมหัวเราะลั่นจนเห็นเหล็กดัดฟันสีเงินแล้วมาตบไหล่ผม

    ป่ะ พี่กลับบ้านกัน

    .

                .

                .

                .

                ระหว่างทางเดินกลับบ้าน เฟรมมันเดินแหกปากร้องเพลงโวกเวกอย่างอารมณ์ดีจัดที่มันแข่งชนะ ส่วนผมก็คิดเล่นไปพลางๆว่าจะทำอะไรต่อดีหลังกลับอพาร์ทเม้นท์แล้ว จู่ๆใจนึกแว่บไปถึงเจ้าเพื่อนร่างเล็กคนใหม่ซะเฉยๆ ขอพูดตรงๆ ตอนเจอกับคชาครั้งแรกเขาก็สะดุดใจแล้ว ผู้ชายอะไรวะแม่งหน้าหวานชิบ ไม่นึกว่าคนที่พี่ต้นจะให้เขามาอยู่ด้วยจะเป็นคนประเภทนี้ คิดว่าเป็นตาลุงแก่ๆซะอีก ไม่แน่ใจด้วยว่าที่เขาไปพังๆประตูห้องมันยังจะโกรธอยู่รึเปล่า ใจอยากนึกให้สนิทสนมกันมากกว่านี้ถ้าเป็นไปได้เพราะสนใจในนิสัยความเป็นอยู่ของเพื่อนใหม่ ถ้ามาเป็นเพื่อนสนิทกันได้คงจะดีไม่น้อย

    ระหว่างที่กำลังคิดเพลินๆ จู่ๆเฟรมมันก็ดันชะงักหยุดเดินแล้วกระตุกปลายแขนเสื้อผมเบาๆ ผมหันหัวเหลียวหลังไปมอง

    พี่เต๋าๆ ซื้อเบียร์กลับบ้านไปกินกันมันชี้ไปยังตู้เครื่องกดน้ำอัตโนมัติใกล้ๆร้านเซเว่นที่เราเพิ่งเดินผ่านไปเมื่อกี้

    ซื้อไปกินที่อพาร์ทเม้นท์ เดี๋ยวได้เจอคชามันสวดยับหรอกมึง   ถ้าจะกินก็รีบไปซื้อมา เดี๋ยวกูรอเป็นเพื่อน

     ผมบอกแต่เฟรมมันสั่นหัว

    พี่คชาไม่ว่าหรอกเชื่อสิ นะพี่ วันนี้ผมยิ่งอยากดื่มเยอะอยู่ว่าแล้วมันก็เถียงกลับทันใด ผมก็ได้แต่ยืนเอือมระอาอยู่สักพักแล้วก็บอกไอ้เฟรมให้รีบๆไปซื้อ พูดจริงๆนะครับเฟรมน่ะมันเถียงผมชนะขาดตลอด ไม่เคยมีหรอกที่แพ้ ผมต้องยอมให้มันอยู่ร่ำไป เห็นเฟรมมันเป็นเหมือนน้องชายแท้ๆครับ เจอมันครั้งแรกก็ถูกชะตาคุยกันถูกปากแล้ว ใจก็นึกอยากให้ใครบางคนได้คุยกันถูกคออย่างนี้บ้าง

     สักพักเฟรมมันก็กลับมาพร้อมกลับถุงพลาสติกที่ใส่กระป๋องเบียร์เกิน 10 กว่าใบ

                เฮ้ย เยอะขนาดนี้ มึงจะเอาไปมอมเหล้าใครวะ

                .

                .

    .

                ตอนนี้ผมกับเฟรมยืนอยู่ที่หน้าห้องพักแล้ว ผมเคาะประตูเรียกคชาให้ออกมาเปิดประตูให้

                รอเดี๋ยว แป๊ปนึงนะเสียงเล็กตะโกนออกมาจากในห้องตามมาด้วยเสียงกุกๆกักๆ สักพักหนึ่งประตูก็เปิดออก

                ทำไมกลับมากันเร็วจังวะ มากินข้าวกันก่อนมาคชาโผล่หน้าออกมาจากบานประตู กลิ่นกับข้าวมื้อเย็นลอยโชยมาจากในห้องครัวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมกับเฟรมรีบพากันเข้าห้อง

                ผมขำสีหน้าคชาที่มีท่าทีตกใจเล็กน้อยตอนที่เฟรมมันเอาถุงใส่เบียร์มาวางไว้บนโต๊ะ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่มีแอบแซวเล่นๆ

                เยอะขนาดนี้ แกจะเอาไปมอมเหล้าใครวะเฟรมนั่นไง คิดเหมือนกันเดี๊ยะ

                เอาไว้กินตอนดูบอลไงอ่ะพี่ คืนนี้แมนยูมีแข่ง” พอได้ยินอย่างนั้นผมแทบอยากจะตีหัวตัวเองแรงๆ นึกโกรธตัวเองที่ลืมนัดแข่งสำคัญของทีมโปรด  จริงของมันว่ะ กูลืมไปได้ยังไงว้า!!

    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารครื้นเครงเหมือนอย่างเมื่อเช้าที่ผ่านมาเหมือนเดิม ไม่อยากจะพูดเลยครับว่าคชามันทำอาหารอร่อยจริงๆเหมือนที่เฟรมบอก ผมนั่งมองฟังไอ้เฟรมมันกำลังเล่าเรื่องที่ไปเตะฟุตบอลอย่างคึกครื้น ไปๆมาๆมีเสือกแถมเล่าเรื่องผมเตะฟุตบอลหลังเป่านกหวีดอย่างสะใจด้วยเว้ย พร้อมด้วยลีลาท่าทางประกอบเห็นภาพพจน์อย่างชัดเจน โดยไม่สนอกสนใจกับบุคคลที่มันเอ่ยพาดพิงถึงนั่งหัวโด่อยู่เนี่ย ถ้าจะนินทากูก็เห็นใจกันบ้างเหอะ

    พี่เต๋าอ่ะนะพี่คชา ตอนนั้นที่เตะบอลเข้าโกล โคตรเทพ! ผมยังจำได้ติดตาเลย เสี้ยววินาทีตอนที่เตะลูกเนี่ยแบบเมสซี่เรียกพี่อ่ะ! ลูกนี่นะเตะเข้ามุมประตูเฉียดคานเด๊ะๆ แต่ไอ้คนรับลูกแม่งมันหันไปดูเสียงนกหวีดก่อนดิ พี่เต๋าเลยเตะประตูฟรี! ทุเร้ศทุเรศพูดจบไอ้เฟรมกับคชาก็ขำกันก๊ากใหญ่ ไอ้คชาแม่งก็เสือกเชื่อด้วย เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกันเข้าไป!

    เต๋า ถ้ามึงจะเตะดับอนาถขนาดนี้ โอ้ยขำคชานอนหัวเราะท้องแข็งฮาน้ำตาเล็ดกับโต๊ะแล้วมือก็ทุบรัว

    มันตลกตรงไหนกันวะ เขาอยากรู้นักเชียว

    เล่าเว่อร์ไปและมึงอ่ะผมแขวะใส่เฟรม แต่มันไม่มีวี่แววจะสนใจผมเลย ว่าแล้วมันก็หันไปเล่าเรื่องอื่นให้คนร่างบางฟังต่ออย่างสนุกสนาน ส่วนไอ้คนฟังที่ว่าก็สนใจตั้งหน้าตั้งตาฟังใหญ่

    เหี้ย! น้อยใจนะครับเฮ้ย!

    ตัวผมเองที่หมดอารมณ์กินข้าวไปเรียบร้อยแล้ว ลุกขึ้นยืนเก็บจานไปล้างที่อ่างแล้วเดินไปห้องนั่งเล่น กระแทกก้นนั่งบนโซฟาประชดชีวิตหยิบรีโมทเปิดทีวีดูคนเดียว เสียงหัวเราะจากโต๊ะกินข้าวลอยมาเป็นระยะๆ เหมือนสวรรค์ตั้งใจแกล้งเขา ยิ่งตัดโสตประสาทไม่ฟังมากเท่าไหร่ เสียงก็ยิ่งดังเข้าหูมากเท่านั้น เวรเอ้ย ไม่มีใครมาสนใจเหลียวมองแม้แต่คนเดียว เออ ยอมรับก็ได้! ผมมันพวกขี้เหงาขี้น้อยใจตั้งแต่เกิดแล้ว ใครเขาเมินนิดเมินหน่อยก็งอนตุ๊บป่องเดินหนีไปอยู่คนเดียว แต่นี่ไปก็เกินไปนะ! เขาเดินออกมาให้เห็นกันจะๆขนาดนี้ทั้งที พวกมึงก็สนใจกูบ้างสิฟะ! เห็นใจคนหล่อเหงาหน่อยเด้!!

    .

    .

    .

    .

    .

    เสียงหัวเราะที่ดังอยู่เงียบหายไปแล้ว แต่เขาก็อยู่ในอารมณ์เซ็งจิตเกินกว่าจะรับรู้ได้ ทั้งที่กำลังดูทีวีอยู่แต่หัวสมองไม่ได้สั่งการให้ใส่ใจสิ่งใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว


     

    กึก!

     

    รู้สึกได้ถึงความเย็นเยือกมาสัมผัสแนบตรงแก้มขึ้นมา ผมเหลียวหลังไปมองต้นเหตุ เห็นคชายืนอยู่ข้างหลังผมกำลังยื่นแขนถือกระป๋องเบียร์แนบที่ลำข้างใบหน้า ผมมองร่างบางอย่างอ้ำอึ้งๆก่อนที่จะรับกระป๋องเบียร์ที่ส่งมา

    ขี้น้อยใจกว่าที่คิดอีกว่ะ คชาพูดยิ้มขำๆไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะนั่งลงข้างๆผม แล้วเปิดกระป๋องเบียร์อีกใบกระดกขึ้นดื่ม

    เออ..คือ....ไม่รู้ยังไง จู่ๆผมรู้สึกประหม่ากับคนข้างๆตรงนี้ขึ้นมาเสียดื้อๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำตัวยังไงดีถึงจะถูก ได้แต่พูดตะกุกตะกัก

    ไม่ทันที่จะได้พูดอะไรออกไป เจ้าเฟรมก็โผล่มาแทรกพร้อมกับถุงใส่เบียร์ของมัน

    อ้าว พี่คชาแอบหยิบของผมกินตอนไหนเนี่ย ไม่ยักรู้ว่าดื่มเป็นด้วยคชาหันไปยิ้มร่าให้เด็กหนุ่ม

    อย่าดูถูกพี่นะเว่ย ขอแข็งนาจะบอกให้

    เวร กูอุตส่าห์หนีย้ายที่มา ก็ยังจะตามมาอีกนะพวกมึงอ่ะ

    ผมอยากจะเอาหมอนที่กอดอยู่มาปิดหูโคตรๆ ถ้าไม่ติดตรงที่เกรงใจไอ้เจ้าบ้าสองคนเนี่ย

    อ่าว ทำหน้านิ่วเยอะๆระวังหน้าเหี่ยวเร็วนาเสียงบ่นพึมพำเบาๆแต่ดังพอให้ผมได้ยินจากคนนั่งข้าง ผมหันไปมองเคืองๆแล้วตอบกลับแบบโกรธๆ

    แล้วมันน่าทำหน้านิ่วมั้ยล่ะคชาหัวเราะเบาๆ

    “กูเชื่อและว่ามึงขี้น้อยใจโคตร” ผมไม่เข้าใจว่าคนตัวเล็กมันต้องการจะสื่ออะไร

    แล้วจะมาทำไมเนี่ย..

    “เห็นเด็กเอ๋อนั่งขี้น้อยใจอยู่คนเดียว กลัวเป็นโรคเหงาตาย” พูดแค่นั้นเจ้าตัวก็หันกลับไปซดเบียร์ต่อ

    ให้ตายเหอะ ผมสบถเบาๆ ร่างบางพูดเหมือนรู้จักกับผมมาเป็นปีทั้งๆที่เพิ่งจะรู้จักกันแค่วันเดียวแท้ๆ ผมเป็นพวกมองง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง

    “………” ผมยกกระป๋องเบียร์ดื่มขึ้นบ้างพอเริ่มรู้สึกหายจากอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นเล็กน้อย

    ตั้งแต่นั้นมาก็มีแต่เสียงทีวีกับเสียงหัวเราะของไอ้เฟรมอยู่เนืองๆท่ามกลางความเงียบเชียบ

    .

    .

    .

    .

    “เน่พี่ต๋าววๆ พี่ว่าการมีแฟนเนี่ยมันดีจริงรึป่าวว้าาา”

    หลังจากนั้นไปสักชั่วโมงผมชักจะเริ่มสังเกตเห็นไอ้เฟรมที่กำลังเริ่มเมาแอ๋นิดหน่อย มันเอาแต่พูดถามวนเวียนเกี่ยวกับคำถามอะไรทำนองตลอด 
                ทำไมคนเราต้องแฟนเป็นกันวะ แฟนกันต้องทะเลาะกันจริงเหรอ หรือไม่ก็ ถ้าแฟนเลิกกันใครเป็นฝ่ายผิด ถามเหมือนพวกคนอกหักอย่างไงอย่างงั้น

    ผมกับคชามองเฟรมอย่างอึ้งๆ ตอนที่เฟรมเปิดกระป๋องเบียร์ยกดื่มรวดเป็นรอบที่ 7 ขณะที่ผมเพิ่งจะดื่มไปแค่ 2-3 กระป๋อง ไม่รู้ว่าจะห้ามมันดีมั้ย แต่ถึงห้ามตอนนี้ก็คงจะไม่ทันการ

    “กูผิดมากเลยเหรออ ทำไมต้องเลิกกานด้วยยวะ” เฟรมมันเริ่มร้องไห้สะอื้น

    ผมเพิ่งตระหนักว่าตอนเฟรมเมาแม่งเหมือนคนบ้าเป๊ะ

    ทำมายอ่ะ มาบอกเลิกกานทำม้ายยยอ้ะแพรว้าาาาา~” คราวนี้เฟรมมันปล่อยโฮหนักเลยครับ ผมชักหวั่นๆกลัวมันจะคว้ามีดเอามาแทงผม         

                คชาที่มองเฟรมมันมานานทำหน้าประหลาดใจอย่างหนัก ผมก็นั่งรอแต่ให้คนร่างบางถามขึ้น

                “แพรวานี่ใครวะ”

                “แฟนเก่ามัน.. วันนี้เป็นวันครบรอบที่เลิกกันด้วยล่ะ” ผมอย่างเซ็งๆ แต่ดูเหมือนเฟรมมันจะไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูดไปกระทบจิตใจของมัน

                คชาทำหน้านิ่งๆเหมือนนั่งนึกอะไรอยู่

                “อะไรวะ”

                “ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันที่รู้จักมั้ย”

                “บังเอิญมั้ง”

                “ขอให้เป็นอย่างนั้นแหละ กูไม่อยากมีเฟรมเป็นน้องเขย”

                “น้องสาวมึงเหรอ”

                “ป่าว เหมือนมึงกับพี่ต้นนั่นแหละ แต่กูว่าคนละคนกันอ่ะ” ร่างบางพูดขึ้นเฉยๆแล้วมองไอ้เฟรมที่กำลังจะลงแดงตายต่อ

    กูจะสงสารหรือสมเพชมึงดีวะไอ้เด็กเมื่อวานซืนถูกสาวทิ้ง..

               

                   ครึ่งชั่วโมงผ่านไปจะด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือของอะไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ไอ้เด็กรุ่นน้องผมมันเมาสลบคาที่ไปเรียบร้อยแล้วครับ ผมเองก็ชักมึนอยู่เหมือนกัน ส่วนคนข้างๆผมก็เริ่มคอพับจะไปแล้ว คอแข็งบ้าอะไรวะ โกหกชัดๆ

    ผมยังไม่หายโกรธร่างบางจากตอนนั้นหรอก แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมก็ควรโกรธเฟรมมันด้วยไม่ใช่เหรอวะ

     

    “อื้อ....”

    ตอนที่ผมกำลังนั่งคิดค้อนใครบางคน ก็รู้สึกว่ามีก้อนน้ำหนักทิ้งลงมาที่ไหล่บ่าเพิ่มมากขึ้น หันไปดูก็เห็นหัวทุยๆทรงเห็ดกลมเอนตัวมานอนซบไหล่ผมอยู่ก่อนแล้ว

    อือหือ สงสัยคงเมาได้ที่

    ผมจับจ้องใบหน้าหวานของคนตัวเล็กที่กำลังหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง กลุ่มผมซอยที่ไม่ได้จัดเป็นทรงดูยุ่งเหยิงปรกหน้าลงมา ริมฝีปากแดงเรื่อที่เผยอออกเล็กน้อย พร้อมกับแผ่นอกบางที่ขยับเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างช้าๆตามจังหวะการหายใจ มันเป็นภาพที่เขาสามารถมองได้โดยแทบไม่กระพริบตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว

    นอนอย่างนี้เดี๋ยวกูจับกดมึงซะเลยดีมั้ยเนี่ย..ไอ้คชา

    เห็นอย่างนั้นแล้วก็ยิ่งไม่กล้าขยับตัว กลัวคนที่หลับอยู่จะตื่นขึ้นมาซะก่อน ส่วนเจ้าตัวการก็ขยับซุกหัวกลมเข้าหาร่างเขาตามใจตัวเองเหมือนเด็กต้องการหาความอบอุ่นอย่างนั้น ความรู้สึกหลากหลายอย่างมันอัดรวมตัวแน่นในอกเขา คู่กับตอนนี้หัวใจกำลังเต้นไม่เป็นส่ำ เลยได้แต่นั่งนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งอยู่นั่น บอลเบิลอะไรนั่นไม่มีกะจิตกะใจมาดูแล้วเว้ยไอ้ห่า

    ผมยกเบียร์ดื่มเป็นกระป๋องสุดท้ายแล้วโยนทิ้งลงบนพื้น หัวผมเริ่มโยกไปมาด้วยความมึนเมา หลังจากมองคนข้างนอนหลับตาพริ้มมานานหลายนาน เขาเองก็ชักจะง่วงตามบ้าง เปลือกตาหนาค่อยๆหลับลงอย่างช้าๆเหมือนมีอะไรมาหน่วงเอาไว้ พลางเอนหัวพึงลงกับหัวเห็ดเล็กแล้วขยับปรับมุมองศาที่น่าจะนอนสบายที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มมืดมัวลง และสติก็ค่อยๆจมหายไปในห้วงนิทรา

     

     

                             

    -------------------------->[WRITER TALK]< --------------------------

    ตอนนี้ลองพยายามมีแนวหวานๆเหมือนกับชาวบ้านเข้าดู ไม่น่ารอด 555+ รู้สึกตอนนี้แต่งไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ แก้ลบๆหลายครั้งมาก ไม่รู้ว่าแต่งสื่อถึงอารมณ์ได้มากน้อยขนาดไหนด้วย แต่งด้านเต๋ายากกว่าของคชาซะอีกอ่ะ ตอนนี้เบียร์กับบอลช่วยชีวิตไรเตอร์ไว้แท้ๆ ;[]; /ร้องไห้

    ตอนนี้แอบมีคู่ใหม่โผล่มาแล้วค่ะ คู่ใหม่ที่ดูไม่ใหม่ (ฮา)

    หลังจากแต่งจบแล้วกลับมาอ่านใหม่ทำไมมีความรู้สึกเหมือนกับว่าเต๋าคชาเป็นแม่ลูกกันเลยหว่า 55+

    ยังไงช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะถ้าเป็นไปได้ เราอยากจะอ่านแล้วไปปรับปรุง เก็บเป็นประสบการณ์สำหรับแต่งเรื่องต่อๆไปอีกด้วยน่ะค่ะ =3=

    ปล.ตอนนี้เรามีแบนเนอร์แล้วนะคะใครสนใจจะมาแลกเชิญตามสบายเลยค่า ฟินๆ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×