คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : sympton l chapter 2
Title : Sympton
Paring : TaoKacha
Rate : PG13
Chapter 2
เช้านี้นับเป็นเช้าวันที่หกแล้วสำหรับการที่เต๋าได้ย้ายเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนคชาในคฤหาสน์หลังงามหลังนี้ ตั้งแต่ที่คุณผู้หญิงได้เดินทางไปสัมมนาที่ประเทศอังกฤษ การดูแลรักษาอาการป่วยโรคซึมเศร้าของคนตัวเล็กนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น คชาเริ่มเปิดใจและยอมพูดคุยกับคนรอบข้างมากขึ้น ทุกครั้งที่พูดคุยกันคชาจะยิ้ม สบตา และพูดโต้ตอบกับเต๋ามากขึ้น ถือว่าการรักษาครั้งนี้
ประสบความสำเร็จไปแล้วเกือบครึ่งหนึ่งของเกณฑ์ที่เต๋าได้กำหนดไว้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ~
“ คชา คชาครับ...เปิดประตูที ”
“................”
“ คชาเป็นอะไรรึเปล่า เปิดประตูหน่อยคชา...” ยืนเคาะประตูอยู่นานสองนานแต่คนในห้องกลับไม่ส่งเสียงใดๆตอบกลับมา เมื่อเห็นว่าไร้การตอบรับจากคนข้างในมือหนาจึงจัดการหมุนลูกบิดประตูและรีบตรงปรี่เข้าไปในห้องทันที
“ คชา... ” ทิ้งน้ำหนักตัวนั่งลงบนเตียงกว้างพลางเอื้อมมือไปวางทาบที่หน้าผากมน สัมผัสที่บางเบาหากแต่อ่อนโยนนั่นทำให้คนที่นอนหลับอยู่สะดุ้งตัวเล็กน้อย
“ ฮืออ..พี่เต๋า” ปากเล็กส่งเสียงครางในลำคออย่างอู้อี้พร้อมกับดวงตากลมที่ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างสลึมสลือ
“ ไม่สบายรึเปล่าชา ตัวอุ่นๆ ” พูดออกไปอย่างนึกเป็นห่วงเพราะรู้สึกได้ถึงอุณภูมิภายในกายบางที่เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าปกติ
“ อืออ..ชาแค่ปวดหัว ”
“ งั้นลุกขึ้นมาเช็ดตัวทานข้าวทานยาก่อนแล้วค่อยนอนต่อดีมั้ย ”
“ ก็ได้ ” พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการชำระล้างร่างกายตัวเอง ด้านคนเป็นหมอเองก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แขนแกร่งเปิดตู้ยาสี่เหลี่ยมมองหากระปุกยาแก้ไข้ที่ต้องการก่อนจะหยิบมันขึ้นมา ขายาวก้าวลงบันไดไปยังชั้นล่างสั่งแม่บ้านให้ทำชุดกับข้าวสำหรับคนป่วยเมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงยกถาดอาหารขึ้นมาบนห้อง เมื่อเปิดประตูออกก็พบว่าร่างเล็กนั่งรออยู่ที่โต๊ะจิบชาด้านหน้าระเบียงแล้ว
“ ทานข้าวรองท้องหน่อยนะครับ ยาจะได้ไม่กัดกระเพาะ ” วางถาดอาหารลงบนโต๊ะอย่างเบามือแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ ครับ อา..พี่เต๋า นี่พี่เต๋ากำลังทำอะไรอยู่? ”
“ พี่ก็กำลังรักษาอาการป่วยของคชาอยู่ไงครับ ”
“ คชาไม่เห็นว่าพี่จะทำอะไรเลย จะมาบอกว่ารักษาอยู่ได้ยังไง พี่เต๋านี่เป็นหมอจริงๆรึเปล่าเนี่ย? ” ขมวดคิ้วสงสัยเพราะว่าเต๋าไม่เหมือนกับหมอคนอื่นๆที่ตนเคยเจอมา
“ ถึงวิธีการรักษาของพี่จะไม่เหมือนหมอคนอื่นๆ แต่พี่เชื่อว่าพี่จะเป็นหมอเพียงคนเดียวที่รักษาอาการป่วยของคชาได้ ” อธิบายยาวพลางยิ้มกริ่ม ดวงตาคมมองดวงหน้าหวานด้วยแววตาที่จริงจัง
“ แปลก ” พึมพำเบาๆก่อนที่จะลงมือรับประทานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า ถึงปากจะพูดออกไปอย่างนั้นทว่าดวงตากลมก็ยังคงลอบมองใบหน้าหล่ออยู่เป็นระยะๆ ยอมรับว่าตนเองรู้สึกดีทุกครั้งเวลาที่ได้อยู่ใกล้กับผู้ชายคนนี้ ทุกๆครั้งที่ได้พูดคุย
ทุกๆครั้งที่ได้สบตา...หัวใจดวงน้อยๆดวงนี้มักเต้นแรงแทบจะทุกครั้งราวกับว่าจะตายไปเสียให้ได้
“ พี่เต๋าฮะ ตอนเด็กๆน่ะป๊าชอบพาชาไปเล่นน้ำทะเลด้วยหละ...แต่ตอนนี้...ป๊าไม่อยู่แล้ว ” จู่ๆก็พูดถึงเรื่องราวความทรงจำวันวานในอดีตที่ผ่านมา ประโยคท้ายถูกเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาสีน้ำตาลสวยคู่เดิมนั่นกลับมาเศร้าหมองให้เห็น
อีกครั้ง จนคนเป็นหมออดที่จะนึกสงสารไม่ได้
“ ไม่เป็นไรนะคชา เอางี้...พี่มีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่ชะอำเดี๋ยวเย็นนี้เราไปเที่ยวกันดีมั้ยครับ? ”
“ ได้เหรอฮะ...รบกวนพี่เต๋าเปล่าๆ ”
“ ไม่รบกวนหรอกน่า ไปแค่วันสองวันเดี๋ยวก็กลับ ไปนะ” พยามพูดคะยั้นคะยอหว่านล้อมชวนให้คนตัวเล็กไปเที่ยวด้วยกัน
“ ...ก็ได้ฮะ ไปก็ได้ ”
ตอนขับรถออกจากบ้านเวลาก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็นแล้ว อีกทั้งระหว่างทางก็แวะจอดทานข้าวทำให้เสียเวลาไปอยู่
พักใหญ่ กว่าจะเดินทางมาถึงหาดชะอำก็ใช้เวลานานมากพอที่จะทำให้พระอาทิตย์สีส้มดวงโตที่ทำหน้าที่ทอประกายส่องแสง
หายลับขอบฟ้าไป...
สองทุ่มสามสิบนาที (20.30 น.)
“ ชา...ถึงแล้ว ตื่นได้แล้วครับ ” นิ้วยาวสะกิดเบาๆเพื่อปลุกคนตัวเล็กที่กำลังหลับอยู่บนเบาะข้างๆ
“ ฮืมม...ถึงแล้วเหรอฮะ ” สองมือน้อยๆถูกยกขึ้นมาขยี้ตาอย่างงัวเงีย กระพริบตาปริบๆก่อนที่จะเปิดประตูเแล้วก้าวเท้าลงจากรถ
บ้านพักตากอากาศที่ตั้งอยู่เกือบติดชายทะเลหลังไม่ใหญ่มาก ประตูรั้วทางเข้าเป็นลูกกรงเหล็กดัดสีออกเทาๆ มีเถาวัลย์สีน้ำตาลแก่กำลังพันเกี่ยวกันอยูที่รั้วแต่ละซี่เล็กน้อย มีพื้นที่ส่วนตัวให้ใช้สอยเป็นบริเวณกว้าง ตัวบ้านนั้นเป็นบ้านไม้เก่าหลังสีขาวสองชั้นทรงหกเหลี่ยม โดยรอบๆตัวบ้านมีหน้าต่างบานเล็กบานน้อยที่ฉลุลายไม้สวยงามติดอยู่รอบทิศ ซึ่งดูจากบรรยากาศโดยรวมแล้วถือเป็นบ้านที่น่าอยู่ใช้ได้เลยทีเดียว
เศรษฐพงศ์พาร่างบางขึ้นมายังห้องนอนขนาดกว้างบนชั้นสองของตัวบ้าน จัดแจงวางกระเป๋าเสื้อผ้ายี่ห้อดังและสัมภาระต่างๆนานาของตนเองให้เข้าที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านหลังนี้นานหลายปีอยู่เหมือนกัน ดีนะที่โทรบอกแม่บ้านให้เข้ามาทำความสะอาดรอไว้ก่อน...ไม่งั้นคงได้สำลักฝุ่นตายกันแน่ๆ
“ ห้องคชาอยู่ด้านขวามือติดกับห้องพี่ จะให้ขนของไปไว้เลยรึเปล่าครับ? ” เอ๋ยถามคนตัวเล็กที่กำลังยืนเอ๋ออยู่ข้างๆตน
“ เอ่อ...พี่เต๋า คือคชา...ขอนอนห้องพี่เต๋าได้มั้ย คือมันแปลกที่ ไม่ชิน...ชากลัว ” พูดน้ำเสียงตะกุกตะกักพลางยกมือขึ้นมา
เกาหัวอย่างอายๆ
“ หึ...ได้ครับ ” หัวเราะเบาๆกับท่าทางที่ดูเป็นเด็กน้อยของคชาแล้วส่งยิ้มตอบตกลงกลับไป
“ ขอโทษที่กวนนะ ”
“ ครับ ไม่เป็นไร แล้วนี่ยังปวดหัวอยู่รึเปล่า? ”
“ ก็นิดหน่อยฮะ ”
“ อย่างงั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำสักหน่อยนะครับ ไข้จะได้ไม่ขึ้น ” เศรษฐพงศ์ว่าแล้วยิ้มบางๆ คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่จะเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าหยิบชุดนอนออกมาแล้วเดินไปหาคนที่เป็นเจ้าของบ้าน คชามองเสื้อผ้าที่อยู่ในมือสลับกับหน้าชายหนุ่มเหมือนเป็นคำถามอยู่กลายๆ
“ อ้อ! ห้องน้ำอยู่ทางนี้ครับ ” ร่างสูงว่าแล้วชี้นิ้วไปทางด้านหลังพลางหลีกทางให้คนตัวเล็กเดินเข้าห้องน้ำไป
ใช้เวลาไม่นานนักคุณหนูคชาก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนสีขาวลายช้างตัวโคร่งพร้อมกับผมที่เปียกชุ่มที่พันกันอยู่เป็นกระจุก คุณหมอเต๋าที่กำลังนั่งจัดการเอกสารเกี่ยวกับคนไข้อยู่ที่โซฟาสีครีมขนาดกลางด้านริมห้องลุกขึ้นยืนมองดูคุณหนู
หน้าหวาน ซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะแขกผู้มาเยือนที่เขาต้องคอยดูแลอย่างดี
“ นั่งตรงนี้ก่อนนะครับ ” ว่าพร้อมเดินไปดันตัวคชามานั่งที่โซฟา ชายหนุ่มยืนมองร่างเพรียวแล้วได้แต่อมยิ้มน้อยๆ คชาในตอนนี้ดูเด็กและไร้เดียงสากว่าที่เป็นอยู่เสียอีก ผมเปียกๆสีน้ำตาลเข้มทรงเห็ดที่เพิ่งผ่านการสระลู่ลงรอบใบหน้าหวาน นั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูน่ารักน่าทะนุถนอมมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
คชานั่งนิ่งด้วยสีหน้าเกร็งๆ สองมือเล็กถูกนำมาประสานเกี่ยวกันไว้ที่บนหน้าตัก รู้สึกแปลกๆกับการที่ต้องมาเป็นแขก ต้องมาพักอาศัยอยู่ใต้ร่มชายคาเดียวกับคนอื่น เพราะปกตินอกจากออกไปเที่ยวกับครอบครัวแล้วก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ยิ่งตั้งแต่ที่คนเป็นพ่อเสียไปนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“ พี่ว่าเช็ดผมหน่อยนะ ปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ไข้ขึ้นสูงแน่ๆ ” เต๋าบอกพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าแล้วเดิน
กลับมายังโซฟา
“ ใครบอกว่าคชาเป็นไข้ แค่ปวดหัวเฉยๆเอง ” ทำหน้ายู่ ร่างสูงยิ้มบางๆแล้วทิ้งน้ำหนังตัวลงนั่งข้างๆเด็กดื้อปากแข็ง
“ ก็ตอนอยู่ที่บ้านตัวร้อน แบบนี้ยังจะบอกว่าตัวเองสบายดีอีกรึไง ” คลี่ผ้าขนหนูออกเตรียมจะเช็ดผมให้คนตัวเล็ก คชาเขยิบหนีแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าคนตัวโตกว่ากำลังจะทำอะไร
“ อ้าว! จะหนีทำไม...พี่จะเช็ดผมให้ ” พูดเสียงดังปนขำเล็กๆ
“ ไม่ต้อง เอ่อ...ชาทำเองดีกว่า ” แขนเรียวยื่นไปหวังจะคว้าผ้าขนหนูที่วางอยู่บนมือหนา
ทว่าคนที่ถือผ้าอยู่ก็ยิ่งขยับตัวเข้ามาใกล้ แขนแกร่งจับร่างบางให้หันหลังเข้าหาตน คชาทำหน้าเหวอแต่ก็ไม่ได้โต้เถียงอะไรกลับไป
“ พี่เช็ดให้น่ะดีแล้ว คนป่วยต้องมีคนดูแลรู้มั้ย ให้พี่ดูแลคชานะครับ” เริ่มบรรจงเช็ดผมให้ร่างเล็กอย่างเบามือ คชารู้สึก
ประหาดกับความอบอุ่นที่วิ่งพล่านไปทั่วทั้งตัวเมื่อยามที่ชายหนุ่มสัมผัสปลายผม สัมผัสที่อบอุ่นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“ พี่เต๋า...ที่พี่เต๋าดูแลคชาเพราะมันเป็นหน้าที่ใช่มั้ยฮะ? ” คำถามถามของร่างเล็กทำเอาคนที่กำลังเช็ดผมอยุดชะงักเล็กน้อย
“ ...เปล่า พี่ทำเพราะว่าพี่...อยากทำต่างหาก ” คำตอบของเต๋าที่ได้รับกลับมานั้นสัมผัสลึกเข้าไปในห้วงดวงใจที่หว่าเหว่
ของคนตัวเล็ก ตั้งแต่ที่พ่อจากไปยังไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาคิดว่าว่าตัวเองมีค่าขนาดนี้มาก่อนเลย
พี่ทำเพราะอยากทำ...แค่คำพูดเพียงประโยคเดียวทำไมถึงได้ทำให้รู้สึกอบอุ่นมากมายถึงเพียงนี้?
“ อ่า...เสร็จแล้วครับ ” ใช้เวลาในการเช็ดผมสักพักหนึ่งก่อนที่จะผละมืออก คชาพยักหน้าแล้วหันตัวเองให้กลับมานั่งตรงๆเหมือนเดิม ใบหน้าหวานก้มหน้าลงต่ำ นิ้วชี้ นิ้วกลางและนิ้วโป่งของมือข้างขวาถูกยกขึ้นมากดนวดที่ขมับเบาๆซ้ำไปซ้ำมา รู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆหล่นทับที่หัวอีกแล้ว
“ เป็นอะไรรึเปล่าครับ? ” ถามด้วยความสงสัยแล้วใช้มือแตะที่แขนอีกข้างของคชา เขาแทบสะดุ้งเมื่อเห็นว่า
ตัวร่างบางร้อนขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งใบหน้าหวานก็ดูซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ ปวดหัว...” ริมฝีปากอิ่มที่แตกแห้งเพราะฤทธิ์ไข้พึมพำเบาๆ
“ เดี๋ยวพี่เอายามาให้นะครับ ” ทันทีที่พูดจบฝ่ามือเล็กที่ร้อนจัดก็คว้าเข้าที่แขนของร่างสูงไว้ ออกแรงดึงน้อยๆเหมือนคนที่กำลังจะหมดแรง
“ ชาไม่อยากกินยา ชาอยากไปนอน...” เต๋าพยักหน้ารับแล้วค่อยๆประคองร่างบางที่เซประทะอกเขาทันทีเมื่อยืนได้
คนตัวเล็กแทบจะหมดแรงมานานแล้วแต่ก็ยังกลั้นใจฝืนตัวเองอยู่
คชาซบไปที่หน้าอกแกร่งของชายหนุ่มราวกับต้องการหาที่พักพิง ร่างสูงเองก็พยุงตัวคชาไปจนถึงเตียงกว้าง
เต๋าค่อยๆวางเด็กหนุ่มลงกับพื้นเตียงนุ่มแล้วจัดท่านอนให้อยู่ในท่าที่สบายพร้อมกับห่มผ้าให้ คชาขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้ตนได้นอนหลับในท่าที่สบายยิ่งขึ้นแล้วจึงปิดเปลือกตาลง เศรษฐพงศ์นั่งเฝ้าร่างบางที่ด้านข้างของเตียงอยู่อย่างเงียบๆ รู้สึกเหมือนว่าตัวเองเป็นคุณพ่อที่กำลังเลี้ยงลูกชายจอมดื้อและแสนเอาแต่ใจ แต่ก็ยังมีอีกหลายมุมที่ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูอย่างไงอย่างงั้น
สักครู่หนึ่งชายหนุ่มก็เตรียมจะผละไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายตนเองหลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน
แต่แล้วก็ได้ยินเสียงอู้อี้ที่ดังมาจากปากเล็กของคนที่ตนเพิ่งส่งเข้านอนไปเมื่อครู่
“ ฮืออ หนาว..” เต๋าหันกลับไปมองที่เตียงก่อนจะเดินเข้าไปใกล้
“ หนาวเหรอครับ? ” ก้มหน้าลงไปใกล้ๆเพื่อฟังให้แน่ใจว่าคนตัวเล็กที่กำลังนอนอยู่นี่ไม่ได้ละเมอ
“ หนาวฮะ หนาวมากเลย ” คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้เต๋าแน่ใจว่าคนตัวเล็กยังไม่หลับ จึงพูดว่า
“ งั้นเดี๋ยวพี่ไปเอาผ้าห่มมาให้อีกผืนนึงแล้วกันนะ ” คชาส่ายหัวแรงๆพร้อมกับบอก
“ ฮื้ออ! ไม่เอา...ชาหายใจไม่ออก ” เต๋ามองหน้าคนช่างเอาแต่ใจพลางส่ายหน้าแล้วถอนหายใจอย่างหน่ายๆ สงสัยคงต้องยอมตามใจคุณหนูตัวแสบคนนี้สักหน่อยแล้ว ร่างสูงยืดตัวขึ้นแล้วคลานขึ้นไปยังเตียงอีกฝั่ง ถ้าไม่เอาผ้าห่มก็คงต้องใช้วิธีนี้แหละ
ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนลงข้างๆคชาแล้วสอดแขนยาวเข้าไปกอดร่างเล็กเอาไว้ หลับตาแน่นเตรียมพร้อมที่จะโดนคชาเหวี่ยงใส่ทันที แต่สิ่งที่เขาคิดไว้กลับผิดคาดเมื่อร่างบางกลับเขยิบเข้ามาใกล้ตัวเขาเหมือนต้องการหาไออุ่นแล้วจึงค่อยๆหลับตาลง
เต๋ารู้สึกได้ถึงความร้อนในตัวคชาที่ถูกถ่ายทอดทาถึงตัวเขา มือหนาที่ตอนแรกยังเก้ๆกังๆหาที่วางไม่ถูกก็ค่อยๆเลื่อนเข้ามากอดกระชับร่างบางให้แนบชิดกับอกแกร่งของตนยิ่งขึ้น เผลอลูบไล้แขนเรียวโดยไม่รู้ตัวราวกับถูกต้องมนตร์สะกดไว้
“ อือ..พี่เต๋า...” เสียงหวานครางเบาๆทั้งๆที่ตายังปิดอยู่
“ หืม? ”
“ พี่เต๋านอนกอดทุกคนแบบนี้เลยรึเปล่าฮะ? ” จู่ๆคชาที่เหมือนหลับไปแล้วก็ถามขึ้น ร่างเล็กพลิกตัวตะแคงข้างหันหน้าเข้าหาอกกว้างก่อนที่จะค่อยๆลืมตามองหน้าชายหนุ่ม
“ ไม่ครับ ” เต๋าตอบ คนป่วยพยักหน้าช้าๆแล้วแบนสายตาให้ออกห่างจากชายหนุ่มเล็กน้อย
“ แปลกจังแฮะ เวลาที่ถูกคนอื่นกอด...มันรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกดีขนาดนี้เลยเหรอ ” พึมพำเบาๆคนเดียวแล้วซบหน้าชิด
ลงบนออกแกร่ง
“ ถ้าได้กอดกับคนที่อยากกอดก็จะรู้สึกดีแบบนี้แหละครับ ” ร่างสูงขับอ้อมกอดของตนให้แน่นขึ้นจนคนที่ซบหน้าอยู่ต้องเปลี่ยนมาเป็นซุกหน้าแทน เต๋าลูบกลุ่มผมสีน้ำตาลนุ่มเหมือนเป็นการกล่อม คชาเองก็ค่อยๆเคลิ้มหลังจากที่ฝืนทำตัวเก่งมาตลอดเกือบทั้งวัน คชาในตอนนี้ดูเหมือนลูกแมวเชื่องตัวน้อยๆตัวหนึ่งที่กำลังหลงทาง ลูกแมวตัวแมวตัวน้อยๆ...ที่กำลังต้องการให้มีใครสักคนมาคอยดูแล
“ ฝันดีนะครับ...ตัวเล็ก ” เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ ฝ่ามือหนากดศีรษะขนตัวเล็กลงมาหาตนแล้วเผลอจูบที่ริมฝีปากอิ่มนั่นอย่างไม่รู้ตัว
คชาที่กำลังเคลิ้มหลับถึงกับตาโตทันทีเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นชื้นที่เกิดขึ้นบนริมฝีปากของตน
สองมือเล็กดันไหล่หนาแรงๆเป็นเชิงประท้วง เรี่ยวแรงที่พยายามฝืนดันชายหนุ่มออกกลับหายไปหมดทันทีเมื่อถูกลิ้นสากจาบจ้วงเข้ามาในโพรงปาก ร่างบางแทบเคลิ้มไปตามรสจูบที่ตนเองไม่เคยได้สัมผัสลิ้มลองมาก่อน แต่แล้วก็เหมือนว่าคนเป็นหมอเริ่มได้สติจึงรีบผลักคชาให้ออกห่างอย่างรวดเร็ว ร่างสูงเสหันหน้าไปทางอื่นเลือกที่จะไม่หันกลับไปมองคนที่ยังตกใจกับการกระทำที่จู่โจมของตนเมื่อครู่
เศรษฐพงศ์กุมขมับตัวเองทันทีเมื่อรู้ว่าเผลอผลั้งทำสิ่งใดลงไป ด้านคชาเองก็เริ่มตื่นหายจากอาการตกใจ มือบางยกขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตนเองเบาๆ
จูบบบบ!
ให้ตายสิ! ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยยอมให้ใครแตะเนื้อต้องตัวได้มากถึงเพียงนี้เลย เว้นเสียแต่คนเป็นพ่อ คนเป็นพ่อคนเดียวเท่านั้น...แต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ ทำไมต้องเชื่อฟัง ทำไมต้องยอมให้เต๋าถูกเนื้อต้องตัว ทำไมต้องยอมให้กอด
ทำไม...ต้องยอมให้ทำถึงขั้นจูบ
และทำไมถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้กันนะ?
กลับมาแล้ว ฮู้วว!
อันที่จริงก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก
แค่ยังแต่งต่อไม่ครบร้อย ก็เลยยังไม่ได้ไม่ได้เอามาลง
ขอโทษที่มาอัพช้านะคะ ก้มกราบบบ! (-3-)
อยากจะบอกว่าแต่งไปเรื่อยๆเริ่มรู้สึกว่า..
พล็อตเรื่องของฟิคเรื่องนี้มันเอาแน่เอานอนไม่ได้ (. . )
แต่ก็หวังว่าทุกคนคงไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้หรอกใช่มั้ย? ฮี่ฮี่
วันนี้เอารูปบ้านพักตากอากาศของหมอเต๋าในฟิคมาฝากด้วยจ้า!
เอ้ออ! จะบอกว่าเพลงจะอัพเร็วกว่านี้
ถ้าทุกคนมีคอมเม้นท์ยาวยาวให้เพลงได้อ่าน :)
ไม่ก็แอดแฟนหรือโหวตให้ได้ชื่นใจหน่อย
รักทุกคนมาก ขอบคุณค่ะ (>0<)
ปล.แช้ปหน้าอาจมีเอ็นซี แค่อาจจะนะ! ยังไม่รับรอง5555
ปลสอง.ทอล์คยาวไปนะ (- -a)
แอดเป็นแฟนคลับ โหวต
แอดเป็นแฟนคลับ โหวต
14PY54
ความคิดเห็น