ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHinee JONGKEY INNOCENT XX รักร้ายคุณชายตัวเเสบ18+ part I

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 INNOCENT (การพบกันครั้งแรก) {{ Rewrite}}

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 55


    Chapter  1  INNOCENT  (การพบกันครั้งแรก)

     

    วันที่  24  กุมภาพันธ์  ค.ศ   2009

     

     วันนี้ฉันเจอเรื่องน่าดีใจตั้งสองเรื่อง ข้อแรกฉันดีใจที่แม่กลับมาบ้าน   ข้อสอง

    ฉันหาที่ทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมกับยูริได้แล้ว ทว่าการกลับมาในครั้งนี้ทำเอา

    ฉันรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเท่าไหร่   

     

     

     แม่จ๋า แม่เป็นอะไรไป   ฉันเปิดประตูเดินตรงไปที่เตียงคนไข้  พอแม่เห็นว่า

    ฉันมา แม่ค่อยๆยิ้มน้อยแล้วขยับลุกมานั่งบนเตียง

     

     

    ไม่ได้เจอกันนาน   ลูกของแม่โตเป็นสาวขึ้นมากเลย   

     

     

    หนูก็ดีใจที่ได้เจอแม่  แต่มาคราวนี้หนูกลับพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ     ร่างกาย

    ของแม่ซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด  ฉันไม่ได้เจอแม่มานานมากแล้ว  กลัวเหลือเกิน

    ว่าสักวันถ้าฉันต้องสูญเสียคนสำคัญไป  ตอนนั้นฉันจะทำใจยอมรับกับความเจ็บ

    ปวดเอาไว้ได้แน่หรือ  

     

     

     

    คีซุนแม่แกน่ะ..ป่วยเป็นมะเร็ง   

     

     

    วะว่าไงนะ ……มะเร็งเหรอ    พ่อหน้าตาเคร่งเครียด พูดอะไรพึมพำขณะเขียน

    อะไรบางอย่างลงในแฟ้มสีขาว  ให้ตายฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เอาซะเลย 

     

     

      มะเร็งนะจะรักษาหายได้จริงงั้นเหรอ    

     

     

    คีซุนแกอย่ากังวลไปหน่อยเลยน่า แม่จะอยู่กับพวกเราตลอดไปเข้าใจมั้ย    พี่

    ยกฝ่ามือตีหัวไหล่ก่อนจะหันไปมองหน้าแม่บนเตียงคนไข้    หลังจากเห็นว่าพ่อตรวจ

    อาการของแม่ให้เสร็จเรียบร้อย พ่อก็เดินเปิดประตูออกไปจากห้องโดยไม่กลับเข้ามา

    อีก   จะเหลือแค่ฉันและก็พี่ที่นั่งกันอยู่คนละฝั่ง         

     

     

    แม่จ๋าแม่จะกลับไปทำงานที่นั้นอีกรึเปล่า   

     

     

     

    แม่ว่าแม่จะกลับมาอยู่ที่บ้านเราแล้วล่ะ    

     

     

     

      อ้าว…. ไหนแม่บอกจะอยู่ดูแลลูกชายเขา ไม่ใช่เหรอ     พี่ชายเอ่ย วางแตงโม

    ลงทั้งๆที่ยังกินไม่หมด

     

     

      จะให้แม่ไปอยู่กินเงินเดือนเขาฟรีๆ โดยที่ไม่อยู่ดูแลลูกชายเขา แม่ทำไม่ได้หรอก  

    คีซุนแม่อยากให้ลูกไปทำงานที่นั่นนะ    

     

     

     

    อะไรนะคะ!!  แล้ว….ทำไมต้องเป็นหนูด้วย  ทางนั้นเขาก็น่าจะหาคนมาทำงานแทน

    แม่ได้แล้วไม่ใช่รึไง

     

     

    ไม่หรอก..แม่รู้จักลูกชายเขาดี  แต่แม่อยากให้หนูไปนะ คุณหนูน่ะเขาน่าสงสารมาก แม่

    เชื่อว่าลูกสาวของแม่จะสามารถมอบมิตรภาพที่ดีให้แก่คนอื่นได้    แม่อยากให้ลูกช่วยไป

    ดูแลเขาแทนแม่จะได้รึเปล่า ”  

     

     

    แม่คะแต่หนูไม่  แม่มองฉันอย่างคาดหวัง    ในใจฉันไม่อยากให้แม่คาดหวังอะไรใน

    ตัวฉันมาก เพราะฉันมักจะทำอะไรผิดพลาดเสมอและการที่ต้องมาดูแลใครสักคน  

     

     

      ฉันทำไม่ได้และก็ไม่คิดที่จะทำด้วย และในวันนั้นฉันก็ได้ตัดสินใจออกไปว่าจะไป

    ทำงานที่นั่น โดยที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า  

     

     

     

     

     เธอจะไปจริงๆงั้นเหรอ 

     

     

    พอดีว่าแม่ฉันเป็นมะเร็งน่ะสิ ฉันถึงต้องไป    ยูรินั่งซักผ้าอยู่หลังบ้าน และพี่อนยูที่

    กำลังซ้อมเครื่องซักผ้าอันเก่าให้ ทั้งสองต่างเงยหน้ามอง  เมื่อฉันมาบอกลาพวกเขา

     

     

    ถ้าเธอไปแล้ว  พวกเราคงคิดถึงเธอมาก    พี่อนยูเอ่ยทั้งๆที่สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับ

    เครื่องซักผ้าอันเก่านั่น    ฉันรู้สึกเจ็บแปลบๆที่พี่เขาใช้คำว่าพวกเรามากกว่าจะเป็นเรา

    สองคน  พอนึกถึงช่วงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกัน   น้ำตาของฉันมันพาลจะไหลออกมาทุกที

     

     

     

    “ ไปแล้วก็อย่าลืมมาเยี่ยมพวกเราบ้างนะ     ยูริว่าขณะที่เธอบิดผ้าใส่ตะกร้าก่อนนำไปตาก

    ไว้บนราวสูง   ฉันตั้งใจจะมาหายัยควอนยูริ  แต่ใครจะไปคิดกันล่ะ  พี่อนยูแฟนเก่าที่ฉัน

    คบหากันมา 3 ปี จะมาซ้อมเครื่องซักผ้าที่บ้านยัยควอนยูริวันนี้    ยูริเดินมาส่งฉันหลังจาก

    ซักผ้าเสร็จ เราสามคนคุยกันไปตลอดทางที่เดินออกมาจากบ้านของเธอ  จู่ๆพี่อนยูค่อยๆ

    จูงจักรยานของเขามาตรงหน้าฉัน 

     

     

     

    ขึ้นมานั่งสิคีซุน   วันนี้พี่จะขับไปส่งเธอที่บ้านนะ   

     

     

     

    จะดีเหรอ

     

     

     

    นี่ บอกให้ขึ้นมานั่ง!!เร็วเข้าเถอะน่า    พี่อนยูพูดรบเร้าให้ฉันขึ้นไปนั่ง ฉันรีบๆ

    เดินก้าวยาวๆหนีเขา เพราะฉันกลัวว่าถ้าใครเห็นเข้าพวกเขาจะไปฟ้องพี่  และ

    ทันทีที่พวกเขาบอก  พี่ก็ต้องเล่นงานฉันที่ตัดใจจากเขาไม่ขาดสักที

     

     

    ไม่เอาเราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว   ฉันไม่ให้พี่ปั่นจักรยานไปส่งฉันที่บ้านหรอก

    มีหวังพี่ชายฉันคงได้ด่าฉันตายแน่ๆ  

     

     

      ไอ้เจ้าคิมคีย์บอมมันคงไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าเธอไม่บอกเขาพี่อนยูยิ้ม  ดวงตา

    รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวฉายแววเด่นชัดบนใบหน้า    ความจริงฉันน่าจะตัดใจจาก

    เขาไปเสียตั้งนานแล้ว แต่ทำไมฉันถึงได้รอให้เขากลับมาหาฉันทั้งที่เขาไม่ได้รักฉัน   

    แล้วเย็นวันนั้นฉันยอมให้พี่อนยูมาส่งฉันหน้าบ้าน   

     

     

      

     

      พี่ซึ่งกลับมาบ้านก่อนหน้าเอาแต่ถามฉันไม่ยอมหยุด แต่ฉันก็ไม่ได้บอกพี่ว่า

    ฉันไปไหนเหมือนกัน อย่างไรเสียพี่ก็ต้องคิดว่าฉันไปหายัยควอนยูริที่พี่ฉันแอบ

    ชอบเธออยู่  

     

     

      คีซุน!!!นี่เธอยังไม่นอนอีกเหรอ ”   

     

     

    ฉันก็แค่นอนไม่หลับน่ะพี่     

     

     

    “ แล้วเรื่องเบอร์ที่ให้ไปขอได้หรือยัง    

     

     

     อะไรกันเนี่ยมาถึงก็ถามเลยนะ  น้องสาวของพี่กำลังตกที่นั่งลำบาก  ไม่เห็นใจกัน

    บ้างเลยรึไง   ฉันว่าพลางโยนหมอนปาใส่หน้าพี่ ขณะที่พี่กำลังเล่นเกมในคอมฯ

    ปากก็พูดกวนประสาทฉัน

     

     

     

    ฉันล้อเล่นน่ะ  ไม่รู้ว่าแม่เขาคิดอะไรถึงให้แกปลอมตัวเป็นฉันไปได้ ”   

     

     

     

    ฉันไม่รู้..

     

     

     

    แต่แกก็อย่าทำให้เขาจับได้นะ   หน้าแกก็หน้าเหมือนฉัน ส่วนสูงนี่คงไม่ต้องพูดถึง

     ไงซะแกก็เหมือนกับเด็กผู้ชายอยู่วันยังค่ำนั้นแหละน่า  

     

     

     

    ฉันทำได้อยู่หรอกแต่ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีหรือเปล่านั่นสิ คนอย่างฉันยิ่งซุ่มซามอยู่ด้วย   

     

     

     

    รีบเข้านอนซะและก็ปิดไฟด้วย   พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าล่ะฉันจะพาแกไปตัดผม

     

     

     

    ต้อง….ตัดผมด้วยเหรอ  ไม่เอาฉันไม่อยากตัด !!!

     

     

     

    แกจะให้ฉันไป ทั้งๆที่ฉันทำงานบ้านก็ไม่ค่อยจะเป็นเนี่ยนะ  หึ! ฉันคงได้โดนหัวเราะ

    เยาะตาย   

     

     

    อุตสาห์ได้ไว้ผมยาวๆกับเขาบ้าง  เรื่องอะไรฉันจะยอมให้เขาทักฉันเป็นพี่ไปได้ล่ะ ” 

    ฉันมองพี่ที่หันหลังกลับไปเล่นเกมต่อ  ด้วยสายตาตัดพ้อ   พรุ่งนี้แล้วสิ  T_T

     

      

     

     

    รถไฟกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของเกาหลี    ฉันเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง

    นึกไว้อาลัยให้กับผมยาวสลวยที่ฉันไว้มาตั้งแต่  .ต้น ถูกซอยสั้นเป็นพี่ไปในที่สุด 

     ขณะที่เด็กอนุบาลเกาะกุมเดินเข้ามายังตู้สุดท้าย 

     

     

       ฉันอดยิ้มไม่ได้กับความน่ารักของเด็กตัวน้อยๆที่ทำให้ฉันอยากย้อนกลับไปยังช่วง

    เวลานั้นมากที่สุด   ฉันกับพี่เราสองคนหน้าตาคล้ายกันมาก คนข้างบ้านมักจำฉัน

    กับพี่แบบผิดๆถูกๆ   

     

     

      อับกูจง ซอย 4  บ้านเลขที่ 14/26  ก็ถูกนี่      

      ฉันก้มมองกระดาษสี่เหลี่ยมเล็กๆสลับกับป้ายที่เขียนตัวอักษรเอาไว้บนนั้นซ้ำ  หลังจาก

    นั่งรถมาถึงที่นี่ราวๆห้า ชั่วโมงจนตอนนี้ก็เวลาประมาณ 1 ทุ่ม     ฉันทึ่งในความใหญ่

    ของบ้านแต่ละหลัง  ตรอกซอกซอยเบื้องหน้าคลาคล่ำไปด้วยบ้านหลังใหญ่   

     

     

    ต้องใช้ที่นี้แน่ๆ  

     กำแพงบ้านทำจากอิฐแดงสูงเลยเหนือศรีษะ    เดินถัดมาอีกหน่อยประตูลูกกรงขนาด

    ใหญ่ซึ่งมองเห็นตัวอาคารทางด้านนอกอย่างเห็นได้ชัด   ต้นไม้ใหญ่ปลูกล้อมรอบบ้าน

    ทางเข้าเต็มไปด้วยเสาไฟเล็กๆซึ่งตั้งอยู่ริมสวนสองฝั่งดูสวยงามกว่าบ้านหลังอื่น 

     

     

    มีใครอยู่มั้ยฮะ

    ฉันตะโกนออกไปพร้อมกับกดออดหน้าประตู และแล้วชายชราซึ่งคาดว่าน่าจะอายุ สี่สิบ

    กว่าๆแต่ไหงกับเป็นหนุ่มหน้าสวยไปได้ล่ะเนี่ย 

     

     

    เข้ามาสิ     เขาสวมชุดสูธสีน้ำตาลอ่อนผูคเนคไทสีเขียวเข้ม  เดินย่างกายออกมาจากตัว

    อาคารหลังใหญ่นั่น  พระเจ้า!! เดินอย่างกับนายแบบเลยแฮะ

     

     

     ฉันลีจองชิน  ยินดีที่ได้รู้จัก...เธอคงจะเป็นลูกชายของหัวหน้าแม่บ้านคิมแทยอนใช่มั้ย

    หนุ่มรูปหล่อคนนั้นเอ่ยทัก  ก่อนจะเปิดประตูให้ฉันได้เข้าไปข้างใน  อย่างไม่เอะใจเลยสักนิด   

     

     

    คุณเป็นพ่อบ้านของที่นี้ใช่มั้ยฮะ  เขาส่ายหน้าปฏิเสธ  พ่อบ้านต้องอายุยี่สิบขึ้นไปนี่เนอะ

    ผู้ชายอะไรหน้าสวยชะมัด >///<

     

     

    เปล่า ฉันเป็นเลขาส่วนตัวของคุณหนูน่ะ   นายจะเรียกฉันว่าพี่จองชินก็ได้  ฉันไม่ว่าอะไร

    หรอก   พี่จองชินยิ้มอย่างสดใส 

     

     

    ทราบฮะ ตอนแรกผมคิดว่าพี่เป็นเจ้าของบ้านซะอีก     คุณหนูของพี่จองชินจะหน้าตา

    เป็นแบบไหนกันนะ หรือว่าจะเป็นคุณหนูในการตูน์เกย์ที่ฉันมักขอเงินพี่ไปซื้อการตูน์มา

    อ่าน  ต้องเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก ท่าทางอ้อนแอ้นแน่ๆนอนชัวร์!!  ^^

     

     

    ทำไมไม่เห็นมีใครอยู่ที่นี้เลยล่ะฮะ  เขาหายไปไหนกันหมด 

     

     

    บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่นอกเหนือจากนี้นะ    

     

     

    หมายความว่าในบ้านหลังนี้มีคุณกับคุณหนูแค่สองคนเหรอฮะ แล้วสาวใช้ในบ้านล่ะ

     

     

    พวกเธอทำงานไปกลับน่ะ   แต่สำหรับแม่บ้านคิม เธอทำงานประจำดูแลคนในบ้าน

    ตอนนี้ท่านประธานย้ายไปทำงานต่างประเทศแล้ว เหลือแต่คุณหนูที่ยังเรียนมหาลัยอยู่   

     

     

    งั้นก็แสดงว่า  ผมต้องรับหน้าที่ดูแลคุณหนูใช่มั้ยฮะ    พี่จองชินพยักหน้า ก่อนจะพาฉัน

    เดินขึ้นบันไดไปยังห้องพัก   ฉันเดินตามเลขาหน้าสวยอย่างพี่จองชินไปติดๆ รู้สึกหวั่นใจนิดๆ

    ที่พี่จองชินไม่สงสัยอะไรในตัวฉัน 

     

     

     

     อย่างกับบ้านจำลองที่เคยเห็นในทีวีเลยอะ โอโฮ้ น่ารักจัง    ระวังหน่อยนะ ของในบ้าน

    แพงจนชนิดที่ว่าลูกไม่มีปัญญาซื้อมาใช้คืนเขาได้เลยล่ะ  ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้แล้ววางแจกัน

    ดอกไม้ลายสวยลงอย่างรวดเร็ว    

     

     

     

     

      บ้านหลังนี้ใหญ่โตกว่าที่ฉันคิดไว้ซะอีก   ของสวยๆงามๆพวกนี้ราคาแพงไม่ใช้น้อย

    เลยถ้าเทียบกับโทรศัพท์รุ่นดีๆสมัยนี้   แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าจะเป็นอะไรไปไม่ได้

    นอกจากเสียงเปียโนที่ดังออกมาจากตึกตรงข้าม 

     

     

    อ๊ะ!!   

    ฉันก้าวขาไม่ออกรู้สึกว่าตัวเองกำลังยืนในป่าทึบ ขณะก้าวข้ามเดินไปยังอีกฝั่งอย่าง

    ลืมตัว  แสงสีเงินส่องกระทบระหว่างทางเชื่อมนำพาหัวใจดึงเข้าสู่อีกโลกที่ฉันไม่เคย

    สัมผัส   บทเพลงนั้นดังกังวานแทรกซึมเข้ามาในหัวใจของฉัน

     

     

     

    เพลงนี้รู้สึกคุ้นๆนะ  Susumuu…e..da   ฉันจำไม่ได้  จำไม่ได้แล้วว่าเคยได้ยิน

    เพลงนี้ที่ไหนมาก่อนรึเปล่า   แต่มันทำให้ฉันรู้สึกเศร้าใจทุกครั้งที่ฟังมัน    

     

     

    นายเป็นใคร!!!  น้ำเสียงแข็งกร้าวปลุกฉันตื่นขึ้นจากภวังค์  เสียงเปียโนได้หยุดลง

    ไปแล้ว

     

     

    “ ที่นี่ไม่เหมาะที่คนแปลกหน้าอย่างนายจะมาเดินเผ่นผลานแถวนี้  ไสหัวออกไปจาก

    บ้านฉันซะ!!”  ชายหนุ่มปริศนาเจ้าของบทเพลงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน ลั่นวาจาจน

    คนฟังตะเพิดหนี   จิตใต้สำนึกจึงสั่งการให้ฉันก้าวเท้าถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้ววิ่งหนี

     

     

    นั่นนายจะไปไหนคิมคีย์บอม   พี่จองชินที่ฉันไม่รู้ว่าเขาแอบตามฉันมาเมื่อไหร่  เดิน

    มาประกบข้าง  ฉันเลยหนีไปไหนไม่รอด 

     

     

    ประธานโทษครับคุณหนู   นี่คิมคีย์บอมลูกชายแม่บ้านคิมแทยอน เห็นว่าแม่ของเขาให้มา

    รับใช้คุณหนู ในระหว่างที่เธอพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแดฮันน่ะครับ   นี่แนะนำตัวสิ   

    เขาหรี่ตาเล็กลงขณะมองฉัน   ดวงตาคู่นั้นแข็งกร้าวมองมาอย่างไม่เป็นมิตร   

     

     

    สวัสดีฮะผมคิมคีย์บอม  ถึงผมจะยังไม่รู้กฏของที่นี้แต่ผมจะทำงานให้เต็มสุดความสามารถ

     กรุณาแนะนำผมด้วยนะฮะ   ฉันทำความเคารพ  ที่แท้เขาก็เป็นคนที่แม่พูดถึงอยู่บ่อยๆนั่นเอง

    เขาดูสงบเสงี่ยมและไม่ค่อยพูด  เขาไม่ใช่คุณหนูอย่างที่ฉันนึกฝันเอาๆไว้แต่ต้น ไม่รู้เป็นเพราะ

    อะไร ต่อให้ใบหน้าเขาจะหล่อสักแค่ไหนฉันถึงรู้สึกกลัวกับการเผชิญหน้ากับเขาได้ก็ไม่รู้

     

     

    ฉันต้องไปทำงานแล้วล่ะ

     

     

     

    อ๊ะเดี๋ยวก่อนสิ   จู่ๆพี่จองชินก็ปล่อยให้ฉันเผชิญหน้ากับเขาตามลำพังเสียแล้ว

     

     

     

      “ ไม่รอกันเลย ..    ฉันรู้สึกว่ากำลังมีสายตาของใครบางคนกำลังจ้องฉัน    ฉันรู้สึก

    หายใจไม่ออกจึงตัดสินใจเดินตามพี่จองชินแต่แล้วฉันก็เงยหน้าขึ้น เมื่อมีมือข้างหนึ่ง

    ยื่นมาเกี่ยวแขนฉันไว้เสียก่อน    

     

     

     

    ไหนว่าจะมาดูแลรับใช้ฉันไม่ใช่รึไง  จะไปไหนล่ะอยู่ด้วยกันก่อนสิ  

     

     

     

    พอดีว่าผมทำงานค้างไว้  ก็เลยจะลงไปทำงานต่อให้เสร็จนะฮะ   ฉันแสร้งทำเป็นโกหก 

    เม็ดเหงื่อเริ่มไหลชุ่มตามฝ่ามือ

     

     

    งานเหรอ งานอะไร   ให้ตาย!! นั่นสีหน้าเขากำลังกวนประสาทฉันอยู่ใช่มั้ยนั่น  ( _ _'')

     ไม่ค่อยพูดก็ดีอยู่แล้วแต่ทำไมต้องทำให้ตัวเองดูน่าสมเพศก็ไม่รู้

     

     

    ฉันไม่ได้เป็นคนสั่งนิ  อืมมมแต่ฉันว่า หน้าตาอย่างนายไม่เหมาะที่จะมาเป็นคนรับใช้

    ฉันเลย  แทยอนคิดถูกหรือคิดผิดที่ส่งเธอมากันแน่     วินาทีนั้น เขาพลิกตัวฉันให้หันไป

    เผชิญหน้ากับเขา   ดวงตาข้างซ้ายฉันเริ่มกระตุก สายตาคมกริบที่จ้องตาฉันไม่กระพริบ

    เล่นเอาฉันยืนนิ่งอย่างกับลูกแมวน้อยต้องมนต์สะกดจากเจ้าชายรูปงาม

     

     

    อย่าทำอะไรผมเลยนะฮะคุณหนู!   ฉันว่าพลางหลบสายตาเขา หลังจากนั้นเขาค่อยๆ

    คลายมือลงโดยอัตโนมัติ  

     

     

    ฮ่าๆๆ น่าขำชะมัด ไม่คิดเลยว่าเด็กผู้ชายจะทำงานเป็นด้วย แต่ทำงานกับฉันแล้วจะทน

    ไปได้สักกี่น้ำกันนะ.. อยากรู้จัง    ดวงตาที่ใช้มองฉันแบบศัตรูเลื่อนหายไปสนิท  เขาส่ง

    เสียงหัวเราะเยาะดังลั่น จนฉันต้องหรี่ตาเล็กลงว่าคุณหนูสติเพี้ยนหรือปัญญาอ่อน 

     

     

     

    ถึงผมจะเป็นไอ้หนูอย่างที่คุณว่า   แต่เรื่องงานบ้านผมก็เก่งอย่าบอกใครเชียวละ ”  

     

     

     

     

    นี่นายกล้าต่อล้อต่อเถียงกับฉันงั้นหรือ!!!  

     

     

     

     

    คุณจงฮยอน!!! ผมมาที่นี้ก็เพื่อมารับใช้ดูแลคุณ ถ้าแม่ผมไม่ป่วยล่ะก็   พูดไม่ทันจบ

     เรี่ยวแรงมากมายมหาศาลจากข้อมือแกร่งคว้าตัวฉันเข้าไปอยู่ในวงแขนกว้างโดยที่

    ฉันไม่ทันตั้งตัว    

     

     

     

    อะไรพูดมาสิ  

     

     

    เอ่อ..อย่ามาทำละลาบละล้วงกับผมแบบนี้นะฮะ ปล่อยผมนะ ไม่งั้นผมจะร้องให้คนช่วย

    เดี๋ยวนี้เลยคอยดู ”  ฉันประกาศเสียงกร้าว  เขาแสยะยิ้มใช้สองมือโอบกอดฉันแน่นขึ้น

     

     

      คนโรคจิต!!!   ฉันผลักเขาออกอย่างโมโห จนตาคุณหนูไม่สิอีตาคุณชายโรคจิตนี่เกือบ

    หงายหลัง   ตาข้างซ้ายเริ่มกระตุก  คราวนี้ฉันต้องเจอเรื่องไม่ดีแน่ๆเลย

     

     

     

    “ ผมเองก็ไม่ได้อยากมาทำงานที่นี่นักหรอกรู้ไว้ซะด้วย  เอาแต่ใจตัวเองมิน่าถึงไม่มีเขา

    อยากจะอยู่ด้วย    ฉันหยุดคำพูดของตัวเองเอาไว้แค่นั้น   ดวงตาแพรวพราว มอง

    ลึกเข้ามาในดวงตาฉันราวกับหมาป่าที่คอยล่าเหยื่อ  

     

     

     นี่ถ้านายอยากทำงานที่นี่ได้อย่างสบายใจล่ะก็...อย่ามาทำเป็นอวดดีกับฉันเข้าใจมั้ย!! 

    เขาผลักฉันติดกับเสาอาคาร   สายตาของเขาเลื่อนลงต่ำ ปลายนิ้วจับปลายคางฉันยกขึ้น  

    โอ้  O_O   ไม่.....มันต้องไม่ใช่อย่างงี้สิ ไม่มีทางอื่นเลยหรือเขาคงจะไม่คิดจูบฉันจริงๆหรอก

    นะได้โปรดเถอะ ..TToTT   

     

     

    พี่ชาย~รับสายหน่อยสิ ~  พี่ชาย~ รับสายหน่อยสิ ~   

    เสียงสายเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น มือนั้นล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง   กดรับไม่แม้แต่

    จะก้มหน้ามองดูเจ้าของปลายสายเลยสักนิด   ฉันวิ่งหนีก่อนที่จะโดนเจ้าของโทรศัพท์หัน

    มาเล่นงานฉันอีกระลอก

     

      

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×