ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♣ Curse of Rose ♣

    ลำดับตอนที่ #3 : Garden of roses :: - -1- -

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 53




    __1__
                  รัตติกาลมาเยือนอีกครา สลับกับดวงสุริยาที่ลับขอบฟ้าไป ภาพเช่นนี้วนเวียนไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดผ่านพ้นกาลเวลาที่เนินนาน จากเด็กสาวตัวน้อยเริ่มเติบโตด้วยจิตใจที่ม่นหมอง และเศร้าสร้อย เมื่อมีบุตรเกิดขึ้น ความตายก็มาเยือน ทุกอย่างต่างก็ดำเนินไปอย่างเนินนานภายในเวลาสิบปีหากแต่พอจะรู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเสียเหลือเกิน

                   

                    เวลาช่างผ่านไปเร็วเสียเหลือเกินนะ...เลเรีย

     

    หญิงสาวเอ่ยรำพึงต่อตนเอง ด้วยความรู้สึกหวังว่าผู้เป็นน้องสาวจะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมหลัง ก่อนจะหลุบสายตาต่ำลงเก็บดอกกุหลาบเหี่ยวเฉาสีน้ำตาล ใส่ตะกร้า ที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบเหี่ยวเฉา

    ภาพของหญิงสาววัย ยี่สิบปีที่เป็นถึงองค์หญิงสูงศักดิ์แห่ง เรวาเลีย กำลังย่างเท้าไปตามสวน กุหลาบสีขาวใบหน้าที่แสนงดงามราวกับเทพธิดาเส้นผม สีทองแดงที่ยาวจรดกลางหลังนัยน์ตาสีรัตติกาลแสนลึกลับริมฝีบาง สีของเปลือกแอปเปิ้ลอ่อนๆ



                    หมวกที่ประดับด้วยขนนกหนาปิดบังใบหน้านั้น ให้ความรู้ลึกลับเช่นเดียวกับชุดสีดำที่เธอสวมอยู่ เฮเลน ซูดลมหายใจยามเย็นเข้าเต็มปอดรับกลิ่นองดอกกุหกลาบที่ยังคงบานสะพรั่ง ผ่านมาราวนับสิบปีแล้วที่น้องสาวของเธอแทบจะไม่ได้พูดคุยกันและรู้สึกเหมือน กำลังมีบางอย่างมาขวางกั้นระหว่างเธอกับน้องสาวเมื่อครั้งยังเป็นเด็กมาก ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่เคยคิดวาจะมาจับผีเสื้อใส่ขวดด้วยกัน วิ่งเล่นตาม ประสาเด็กๆหากแต่น้องสาวคนหนึ่งของเธอกลับหายไปและลืมหายไปในความทรงจำ

     

    องค์หญิง เฮเลน เพค่ะ

     

    เสียงหวานใสของผู้หนึ่งเอ่ยเรียกนามองเธอ หญิงสาวหันไปตามต้นตอของเสียง หญิงสาววัยห่างกับเธอราวสองปีปล่อยเส้นผมสีส้มเป็นลอนให้ยาวสยายกลางแผ่นหลัง ตัดกับเสื้อสีแดงเลือดหมูหม่นๆ ดวงตาสีมรกตจ้องกลับไปยังผู้ที่ตนเรียกด้วยแววตาที่ไม่อาจจะขาดเดาได้ว่าข้างในนั้นคิดอะไรอยู่

                   

                    คลอเดียร์ เรียกหม่อมฉันมาให้พบกับท่าน

                    เลเรีย

     

    เฮเลน คลียิ้มกว่างสวมกอดร่างของผู้เป็นน้องสาวที่ได้แต่ยืนนิ่งงัน ฝ่ายเจ้าของดวงตาสีดำ กอดผู้เป็นน้องแน่นด้วยความรักใคร่ เจ้าพร้อมจะออกไปนอกวังกับพี่แล้วหรือพี่รอเจ้ามานานเหลือเกิน

                   

     

    ผู้ที่ถูกชักชวนผละถอยร่างออกจากผู้ที่กอดตนอยู่ ใบหน้าเรียบนิ่งและแววตาที่เต็มไปด้วยความหมดหมองยากจะขาดเดาความรู้สึก  จ้องกลับยังผู้เป็นพี่ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ ปิดบังไว้และไม่อาจจะบอกออกมาได้ความรู้สึกที่แสนจะต้อง เจ็บปวดแม้เวลาจะผ่านมานับสิบปีแล้วก็ตาม

     

    โลกภายนอกนั้น ไม่เคยมีตัวตนของ หม่อมฉันองค์หญิงอย่าทำให้ตัวองค์หญิงต้องแปดเปื้อนเพราหม่อมฉัน

    เลเรีย กล่าวด้วยน้ำเสียงพยายามจะขัดค้าน เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว และ ส่ายหน้าน้อยๆ หลังจากที่เธอต้องพบกับความผิดเมื่อวัยเด็กไป องค์ราชันย์ ก็มิได้สนใจเธอแต่อย่างใด เธอถูกลืมจากโลกแห่งความจริง และเป็นเพียงแค่เงาในอดีตแค่นั้น แล้วยิ่งถ้าเธอออกไปนอกวังพร้อมกับองค์หญิงแล้วละก็ องค์หญิงคงจะถูกครหาไม่น้อยเป็นอย่างแน่นอน และ ที่มากกว่านั้นคือ เธอกลัว

     

                    ตอนเด็กๆเจ้ายังเรียกพี่ เฮเรย์ อยู่เลยตอนนั้นเจ้าน่ารักมากเลยเจ้ารู้มั้ย

                    หม่อมฉันลืมไปเสียแล้วเพค่ะเลเรีย กล่าวพลางก้มหน้างุด


           พลัน ลมแรงพัดพาหมวกประดับขนนก ของหญิงสาวปลิวว่อนไปทั่วแปลงกุหลาบสีขาว เฮเลนผละออกจากร่างของผู้เป็นน้องสาว รีบคว้ามันหากทว่ามันกลับหลุดมือไปเท้าเขย่งเพื่อหวังว่าจะสามารถคว้ามัน มาได้หากแต่ก็ต้องเสียการทรงตัวเซถลาไปด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก

     

                    มือของใครคนหนึ่งรับร่างของหญิงสาวไว้ใน อ้อมแขน เฮเลน เหงื่อผุดพลายบนใบหน้า ฝ่ายของเลเรียเมื่อเห็นเช่นนั้นจึง ก้าวเท้าฉับๆตามผู้เป็นพี่สาวที่ตอนนี้กำลังถูกรับไว้อยู่จากใครบางคน

     ขอบคุณเจ้ามาก

    เธอพยุงร่างของ ตัวเอง ขึ้นจ้องมองคนตรงหน้าพร้อมทั้งคลียิ้มขอบคุณภาพของคนตรงหน้านั้นสวมเสื้อสี ขาวแขนยาวตัวหลวมและสวมเสื้อกั๊กหนังสัตว์ทับสวมกางเกงผ้าสีน้ำตาลเข้มคล้าย กับนายพรานเส้นผมสีม่วงเข้ม จนเกือบดำสนิทตัดสั้นถึงบ้ารับกับใบหน้าเรียวได้รูป


    ขอบคุณเจ้ามาก ว่าแต่เจ้าเป็นใครทำไมข้าไม่เคยรู้จักเจ้ามาก่อนกันเธอ เป็นฝ่ายเอ่ยถามอย่างฉงนสงใส

    ต้องขอประทานอภัยที่ล้วงเกินท่านหญิง หม่อมฉันมีนามว่า เอน่า เป็นบุตรีของท่านเสนาบดีเพคะองค์หญิงนี้ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่หม่อมฉัน ได้เห็นพระพักตร์ขององค์หญิง ที่มีพระสิริโฉมงดงามตามคำลำลือ

    เอน่า ฟรานซินเชียร์ บุตรีของเสนาบดีการคลัง โค้งตัวแสดงความเคารพต่อองค์หญิงแห่งเรวาเลียที่8คลียิ้มอย่างอ่อนโยน รับกับใบหน้าที่แสนจะอ่อนหวาน ครั้งแรกที่ดวงตาสีม่วงเข้มเห็นร่างของหญิงสาวที่เป็นสตรีชั้นสูงผู้ดี เธอรู้สึกถึงความงามที่สามารถทำให้หลายๆหลงใหล ได้ไม่น้อย

     

    ตอนแรกข้านึกว่าเจ้าเป็นบุรุศเสียอีกที่จริงแล้วเจ้าก็เป็นบุตรีที่แสน เก่งกาจของท่านเสนาบดีนี้เอง

    องค์หญิงก็ชมหม่อมฉันมาก เกินไปมั้งเพค่ะ

    ข้า ว่าเจ้าเก่งออกที่สามารถจักการทุกอย่างทั้งการฟันดาบ ด้านการรบ และ ขี่ม้าได้ดีเยี่ยมด้วยวัยเพียงยี่สิบปีเท่ากับข้าเธอ เอ่ยปากชมเมื่อเธอได้หญิงสาวคนนี้ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เธอได้แต่เพียงได้ยินสมญานามว่าเก่งดั่งเช่นชายชาตรีมาเนินนาน เอน่า ยิ้มตอบ เธอได้แต่ยิ้มเขินตอบคนตรงหน้า



                    ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยองค์ไว้เสียงหนึ่งขัดห้วงความคิดของ เอน่า ร่างของ เลเรีย เดินเข้ามาหาเอน่าตามทางเดินของแปลงกุหลาบขาว เธอนั้นเดินผ่านแปลงเล็กๆโดยที่ร่างกายไม่แตะดอกกุลาบแม้เพียงสักนิด บางดอกโดนเหยียบไปเสียด้วยซ้ำจากปลายเท้าแต่ทว่าเธอทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

                “ว่าแต่เจ้าช่วยมอบหมวกให้องค์หญิงเลยจะได้หรือไม่
     เลเรียว่าพลางรับหมวกจาก เอน่า และมอบให้เฮเลน
     ท่านเป็นใครรึทำไมถึงท่านช่างคล้ายกับเชื้อพระวงศ์เสียจริงแต่กลับทำตัวดั่งเช่นนางกำนัล

     

    เรื่องนั้นไม่สำคัญ...องค์หญิงหม่อมฉันต้องขอตัวก่อนเลเรียเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากบุคลิกที่แสนจะเย็นชาเหมือนดังเดิมเธอ เริ่มรู้สึกถึงความหงุดหงิดจากกลิ่นของกุหลาบ และ รู้สึกขยะแขยงจาก หญิงสาวที่แต่งตัวดั่งเช่นชายหนุ่ม

     

    องค์หญิงรับสิ่งนี้จากหม่อมฉันได้หรือไม่

     

    เอน่า ยิ้มเจือๆก่อนเธอจะมอบกล่องที่เปิดไว้ เป็นดอกกุหลาบสีแดงสด แก่คนตรงหน้า กลิ่นหอมหวนฉุนไม่หวานหอมดั่งเช่นกุหลาบขาวนั้นคือความแปลกของเจ้าดอกกุหลาบในกล่อง เลเรีย มองสิ่งตรงหน้านั้นอึ้งๆเธอถึงรับรู้ได้ถึงกลิ่นนั้น หญิงทรุดฮวบลงกับพื้นพร้อมกับเริ่มคลื่นไส้จากกลิ่นของมัน

     

    กล่าวกันสิ่งนี้คือภานชนะสำหรับใส่ยาพิษชั้นดี โปรดรับไว้ได้มั้ย
    สวยเสียจริง...แต่ข้าคงรับมันไม่ได้วันนี้..ข้าคงต้องไปก่อน

                    เอน่าคลียิ้มกว้างเบื้องหน้าหากแต่ในจิตใจไม่คิดเช่นนั้น นี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับเจ้าหญิงแห่ง
    เรวาเลีย ก็จริงอยู่หากแต่เธอก็ศึกษา เรื่องของราชวงศ์ เรวาเลีย มาไม่น้อยคนส่วนใหญ่รู้เพียงว่ามีเจ้าหญิงเจ็ดพระองค์แห่ง อาณาจักรนี้ หากแต่มีเรื่องเล่าที่พอมีน้ำหนักอยู่ว่าเมื่อสิบปีก่อนมีองค์หญิงแปดพระองค์แล้วอีกพระองค์หายไปไหน กันเล่านางทำไมถึงไม่เปิดเผยตัวเองต่อหน้าสาธารณะชน และ ข้าวลือก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันว่านางเกลียดกุหลาบยิ่งกว่าอะไร

     

    ลาก่อนนะเอน่า...เราจะต้องเจอกันใหม่เฮเลนว่าเธอเตรียมหันหลังกลับไปพร้อม เลเรีย
    ที่เดินนำไปเสียเรียบร้อย

    องค์ หญิงคืนนี้จะไปงานเต้นรำที่บ้านหม่อมฉันรึเปล่าเพคะ

     แน่นอนอยู่แล้ว ข้าจะรอพบเจ้านะ

    เพคะ กระหม่อมขอทูลลานะเพคะ

    เอน่าหันหลังกลับเธอแสยะ ยิ้มกว้างใบ หน้านั้นแสดงถึงสิ่งที่กำลังตรงไปตามแผนการ ที่จะเปิดโปงความลับของราชวงศ์กำลังถูกคลีคลายเสียแล้ว เมื่อพบกับผู้ต้องสงสัย และเมื่อเธอรู้ว่า องค์หญิงที่หายไปนั้นคือใคร มันก็จะเป็นเหตุผลสำคัญที่จะยกมาเปิดโปงของความลับดำมืด องค์ราชินี องค์ปัจจุบันว่าพระโอรสนั้น ไม่เกิดแต่องค์ราชันย์ และนี้จะเป็นการแก้แค้นสิ่งที่ราชวงศ์ทำกับตระกูลของเธอได้อย่างเจ็บแสบเต็มๆ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×