คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3: Hospital Wing
Chapter 3: Hospital Wing
เดรโกตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และในครั้งนี้เขาได้พบกับแสงสว่างอ่อนๆของแสงแดดยามเช้า และเสียงของคนที่กำลังคุยกัน คนที่พูดเรื่องของเขา ซึ่งเขารับรู้มันได้ในไม่ช้าเมื่อเขาปรับสภาวะของร่างกายให้เป็นปกติแล้ว และในขณะนี้เขาแกล้งทำเป็นหลับเพื่อฟังเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาจากบุคคลสองคนนี้
“ฉัน.........ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”
“แล้วคุณช่วยชีวิตเขาได้ไหม”
“ฉันกำลังพยายามอยู่ แต่ถ้าเขายังไม่ตื่นขึ้นมา ฉันก็คงจะไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวของเขาได้”
‘ไม่ต้องห่วงหรอก! ฉันจะไม่ทำให้โวลเดอมอร์และ ลูเซียส สะใจที่ฉันตาย เพราะฉันเลือกเดินทางตามที่ฉันต้องกา อย่างแน่นอน ร ถึงเวลาที่ฉันจะบอกให้ทุกคนรู้สักทีว่าฉันตื่นแล้ว’ เดรโกคิดในใจ
“ไม่ต้องกังวลผมแค่หลับยาวไปหน่อย” เขาพูดอู้อี้ผ่านริมฝีปากที่บาดเจ็บ เสียงฝีเท้าที่ได้ยินเดินตรงมาทางเขาบอกเขาว่ามี 3 คนอยู่ในห้อง และมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ในไม่ช้าเขาก็เห็นใบหน้าของดัมเบิลดอร์, มาดามพอมฟรีย์... และ สเนป
“เป็นปลื้มจัง ผมมีแฟนคลับซะด้วย” เดรโกยิ้มเยาะเล็กน้อยตามแบบฉบับของเขา
“ความจริงแล้วคุณมัลฟอย ผมไม่อยากเชื่อเลย ว่าคุณจะไม่รู้ว่ามีคนมากแค่ไหนที่เป็นห่วงคุณ” เดรโกเหลือบตาดูดับเบิลดอร์ และสูดอากาศเข้าปอดเสียงดัง
“ผมอาจจะไม่รู้จริงๆนั้นแหละ แต่ผมพอจะลองเดาดูก็ได้ อืมม...ไม่มีเลยใช่ไหมเนี่ย” ตาของเขาเลื่อนไปจับจ้องอยู่ที่ สเนป ผู้ที่ดูเหมือนจะเป็นห่วงจริงๆ เดรโกไม่ได้ประทับใจกับความสามารถในการแสดงออกของสเนปมากนัก ‘เสนปนะหรือ ที่ห่วงฉัน ไม่มั้ง เขาเสแสร้งทำมากกว่า มากจนเกินไปด้วยซ้ำ’ เดรโกคิด และเปลี่ยนการจับจ้องนั้นไปที่ ดัมเบิลดอร์
“คุณรู้ว่าชายคนนี้เป็นผู้เสพความตายใช่ไหม ผมคงไม่อยากให้เขาฆ่าผมในค่ำคืนนี้ หลังจากที่มาดาม พอมฟรีย์ ใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อช่วยผมหรอกนะ เพราะนั่นคงจะน่าสลดใจมากกว่า ในการตายด้วยไม้กายสิทธิ์ของโวลเดอมอร์” สเนปผงะ ในฉับพลันความเจ็บปวดปรากฏบนใบหน้าที่น่ากลัวตามปกติที่เคยเห็นของสเนป
“เดรโก! เธอไม่เข้าใจ!” เสนปร้อง ฟังดูเหมือนผิดหวังและอาจจะ...เจ็บปวดอย่างนั้นจริงๆ แต่เดรโกไม่สนใจเขา
‘เขาคงแสร้งทำมันอีกล่ะซิ’ เดรโกคิด นี่มันเป็นแค่เรื่องน่าขันเรื่องหนึ่งเท่านั้น ใบหน้าของเดรโกไม่แสดงให้เห็นถึงสิ่งใด ไม่มีใครล่วงรู้ภายในความคิดของเขา
“ฉันเกรงว่า เซเวอร์รัสจะพูดถูก เดรโก เธอไม่เข้าใจ เซเวอร์รัสแฝงตัวเพื่อสืบความลับให้กับฉันมานานหลายปี เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับการเป็นผู้เสพความตายมานานมาก ทนทุกข์กับการเป็นเช่นนี้เพื่อช่วยเรา” เดรโกถอนหายใจ ดูท่าว่าดัมเบิลดอร์จะรู้เรื่องของสเนปแล้ว และเขาใช้สเนปเพื่อผลประโยชน์ ชายแก่ที่ดูเหมือนจะรู้แทบจะทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฮอกวอตส์ ทุกอย่างที่สำคัญ
“ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยผม ในขณะที่ผมถูกบังคับให้เป็นทาส...สเนป” เขาพูดลากเสียงอย่างถากถาง
“ผมจะไม่ลืมมันเลย ผมขอสัญญา”
“เดรโก ได้โปรด ขอให้เธอมีเหตุผล ฉันอยากจะช่วยจริงๆ แต่...” เดรโกเลื่อนสายตาอย่างเกียจคร้านไปที่อาจารย์วิชาปรุงยา เพิกเฉยกับความรู้สึกเจ็บปวดของสเนป
“น่าประทับใจจริงๆ” เขาเลียนแบบคำพูดอย่างเย็นชาเหมือนที่เสนปทำบ่อยๆ
ที่ผ่านมาเดรโกพยายามแสดงความเคารพต่ออาจารย์ของเขา แต่มันยากที่จะรู้สึกว่าสเนปคู่ควรได้รับมัน หลังจากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา
“โชคร้ายเหลือเกิน ที่ความพยายามช่วยเหลือของคุณ ไม่ได้ช่วยผมเลย ในที่สุด ผมถูกหยิบยื่นโชคชะตาที่เลวร้ายกว่าความตายมาให้ ผมยังไม่ได้ดูแขนของผม นั่นแหละคือทั้งหมดที่ผมรู้ อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่คุณทำได้ก็คือ ส่งยาพิษให้ผมแทนยา นั้นหรือที่คุณควรจะให้ผม แม้ว่าผมจะคิดว่าผมไม่เหมาะกับชีวิตหลังความตายมากนักก็ตาม” เดรโกพูดออกมาอย่างครุ่นคิด
“ผมอาจจะเป็นผีหลอกหลอน อยู่ที่ฮอกวอตส์เหมือน เมอเทิลจอมคร่ำครวญก็ได้” เสียงหัวเราะเบาๆที่อ่อนแรงหลุดออกจากปากของเขา
“ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ พอตเตอร์ มีปีที่แสนสุขได้ง่ายๆ ในขณะที่ผมนั่งเล่นไพ่อยู่กับผีที่ฮ๊อกวอตส์ ผมทำอย่างนั้นได้ใช่ไหมล่ะ”
“พอได้แล้ว” มาดามพอมพรีย์ รีบพูด แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอไม่ชอบหัวข้อสนทนานี้
“เด็กนี้ต้องการ การรักษาไม่ใช่การสนทนา เขาไม่ได้สติมา 3 วันแล้ว เห็นแก่เมอร์ลินเถอะ! ทั้งสองคนช่วยออกไปก่อน!” เดรโกแอบชื่นชมวิธีการที่มาดามพอมฟรีย์ดูแลคนไข้ของเธอมาตลอด เขารู้ดีว่าตัวเขาเองไม่อาจทนทำบางสิ่งที่เห็นแก่คนอื่นได้เลย มันค่อนข้างตลกที่เห็นพอมฟรีย์ทำให้อาจารย์ใหญ่ออกไปจากห้องพยาบาลได้ ถ้าเธอคิดว่ามันจำเป็น ดัมเบิลดอร์ยกมือข้างหนึ่งขึ้น
“สักครู่เถอะ ป๊อบปี้ ผมจำเป็นต้อง ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น จากปากของคุณมัลฟอยเอง” เธอพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้ แต่ยืนอยู่ที่เดิม พวกเขารอให้เดรโกพูดก่อน
“มันไม่ได้ซับซ้อนเลยจริงๆ” เขาพูด “ผมไม่ต้องการทำ ในสิ่งที่ผมไม่อยากทำ ผมไม่อยากเป็นผู้เสพความตาย ก็แค่นั้นแล้วเรื่องก็จบ”
“ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ” ดัมเบิลดอร์ถามขึ้นมาลอยๆ เพื่อว่าใครบางคนจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว เดรโกหรี่ตาลงเหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่าอย่าถามเขาเลย จากนั้นยักไหล่เท่าที่เขาจะพอทำได้
“ผมคิดว่าโวลเดอมอร์โง่ ไร้สติ เวลาเดียวกับที่ผมคิดว่า ลูเซียส ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน” เมื่อพวกเขาส่งแม่ของผมไปที่เซนต์มังโก..เดรโกคิดภายในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา มันไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องราวที่โหดร้ายขงอครอบครัวงเขาให้พวกนี้รู้.
“นอกเสียจาก...คุณคิดจริงๆว่าผมจะใช้ชีวิตเพื่อรับใช้ใครสักคน” เขาถามอย่างเจ็บร้อน “นั่นมันไม่ใช่ความทะเยอทะยานเลย มันไม่ใช่พวกเราสริธิลีนเสียด้วยซ้ำ” เดรโกพูด ดัมเบิลดอร์ผงกหัวรับรู้สิ่งที่เขาบอก
“อื่ม ฉันพอจะเข้าใจ เธอชอบที่จะเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืดมากกว่าใช่ไหมล่ะ” ดัมเบิลดอร์พูด
‘ฉันอยากจะเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืดอย่างนั้นเหรอ อยากเป็นคนที่ทำร้ายผู้หญิง ฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับพวกมักเกิล ทรมานผู้คนต่างๆนานา ไม่! ฉันไม่อยากเป็นเช่นนั้น’เดรโกคิดพลางส่ายหัว
“ไม่”
“ไม่ อยากเป็นอย่างนั้นใช่ไหม” ดัมเบิลดอร์เลิ่กคิ้วขึ้นแต่เขาไม่ได้ดูประหลาดใจเลยแม้แต่น้อยกับสิ่งที่ได้ยิน
“ทำไมไม่อยากเป็นแบบโวลเดอมอร์ล่ะ” ดับเบิลดอร์ถามเพื่อให้ได้รับตำตอบ
เดรโกขมวดคิ้ว เขาเริ่มเหนื่อยกับการตั้งคำถาม มันเป็นธุระกงการอะไรของพวกเขาว่าทำไมฉันไม่อยากเป็นปีศาจ ความคิดนี้รบกวนเขา ฉันไม่อยากจะเป็นปีศาจ เฮ่อ สายไปแล้วใช่ไหมล่ะ?
“นั่นไม่ใช่เรื่องของคุณ” เดรโกตอบอย่างเย็นชา ดัมเบิลดอร์จ้องมองเขาชั่วขณะ แล้วจึงพยักหน้า
“เอาล่ะ ฉันจะเคารพความเป็นส่วนตัวของเธอเผื่อว่าจะปล่อยให้เธอได้พักบ้าง” ดัมเบิลดอร์เริ่มเดินจากไป และหยุดชั่วขณะหนึ่งเพื่อพูด
“อย่างไรก็ตาม คุณมัลฟอย คุณเกรนเจอร์ส่งนกฮูกถึงเราตลอดเวลา” เดรโกขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ ยายเลือดสีโคลนนั่นเป็นบ้าอะไรของเธออีกล่ะ
“ทำไมเกรนเจอร์ถึงส่งนกฮูกตลอดเวลาล่ะ แล้วทำไมผมต้องสนใจเธอด้วย”
“เผื่อว่าคุณจะจำไม่ได้ เฮอร์ไมโอนี่เป็นคนที่พบคุณ เธอย่อมกระวนกระวายใจ เมื่อเราไม่ยอมบอกให้เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และเธอย่อมกระวนกระวายใจมากขึ้นอีกเมื่อเธอไม่อาจร่วมเดินทางมากับเรา เพื่อกลับมาที่ฮอกวอตส์ได้” เดรโกส่ายหัวไม่เข้าใจอีกครั้งกับการกระทำที่จุ้นจ้านดูเป็นห่วงเป็นใยเขาทั้งๆที่เราเป็นศัตรูกัน
“ผู้หญิงที่น่าเวทนา”เดรโกพูดเยาะเย้ย” คนที่ไม่อาจทนอยู่ห่างจากห้องสมุดได้ตลอดทั้งฤดูร้อนน่ะเหรอจะกระวนกระวายใจ น่าสมเพช อีกอย่างแมวของเธอต่างหากที่เจอผม ไม่ใช่เกรนเจอร์” เดรโกรำคาญอย่างเต็มที่จากความอยากรู้ความจริงของเกรนเจอร์ สิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคือ พอตตี้กับวีเซิลพบว่าอะไรเกิดขึ้นกับเขาจากการเล่าเรื่องของเพื่อนสาวของพวกเขา ดัมเบิลดอร์รู้สึกประหลาดใจอย่างมากจากการตอบสนองของเขาต่อหญิงสาวที่ช่วยชีวิตเขาไว้
“ฉันอาจจะคิดผิดก็ได้ที่ว่าคุณเกรนเจอร์กระวนกระวายใจ แต่ฉันเชื่อว่าคุณเกรนเจอร์ส่งนกฮูกมาที่นี่ก็เพราะเรื่องของเธอ...เดรโก ไม่ใช่ห้องสมุด”
“ผมไม่ต้องการให้ใครเห็นใจ สงสาร หรือเป็นห่วง” เดรโกรีบตอบสวนกลับไปทันที
“ส่งนกฮูกกลับไปบอกเธอเรื่องผม และบอกให้เธอไปให้พ้น” เดรโกกระแทกเสียงใส่อย่างไม่แยแส
ดัมเบิลดอร์พยักหน้ารับรู้กับสิ่งที่เด็กหนุ่มพูด อย่างเศร้าๆ เด็กหนุ่มแรกรุ่นที่โมโหร้าย ซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง ดัมเบิลดอร์คิด ‘ดูเหมือนว่าเดรโกจะไม่สามารถเข้าใจความคิดของคนอื่นที่เป็นห่วงเขาได้เลย และดูเหมือนว่าเขาจะเก็บความคิดทั้งหมดไว้แบบนั้น ถ้าจะพูดกันโดยรวม เขากำลังทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง’
“เอาล่ะคุณมัลฟอย ผมจะปล่อยให้คุณอยู่ภายใต้การดูแลของมาดามพรมฟรีย์ ส่วนเซเวอร์รัสมากับผม ผมต้องคุยกับคุณ” เซเวอร์รัสที่เป็นเหมือนลูกชายของดัมเบิลดอร์ไม่พูดสิ่งใดเลย เขาเพียงแค่เดินตาม ดัมเบิลดอร์ออกไป
เมื่อพวกเขาลงไปสู่ทางเดิน ที่ซึ่งเดรโกจะไม่ได้ยินพวกเขาได้อีก สเนปจึงพูดขึ้นมา
“ศาสตราจารย์ ผมติดต่อกับ ลูเซียส เมื่อคืนนี้ เขาโกรธอย่างที่คุณคงจะนึกภาพได้ ลูกชายคนเดียวของเขา ลูกชายที่เขาฝึกฝนมาเพื่อด้านมืดตั้งแต่ เกิด กำลังหันหลังให้กับเขา ผมคิดว่ามันเกินความคาดหมายอย่างที่สุด” ดัมเบิลดอร์ไม่ได้รับรู้ถึงความภาคภูมิใจในน้ำเสียงของเซเวอร์รัสเลยแม้แต่น้อย เขารู้ว่าเซเวอร์รัสกำลังเศร้าเกี่ยวกับการเข้าใจผิดๆของเดรโกต่อตัวเขา
“เขาต้องการให้เดรโกตาย อันที่จริง โวลเดอมอร์จริงจังกับเรื่องนี้มากกว่าที่ผมคาดไว้ ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นเดรโกเป็นผู้เสพความตายต้นแบบ เขาต้องการเดรโกเพื่อเป้าหมายของเขา แต่เพราะการปฏิเสธอันหนักแน่นของเดรโก ไม่ต้องสงสัยเลยที่โวลเดอมอร์ จะจัดการฆ่าเขา”
“เซเวอร์รัส?! เขาพูดหรือไม่ว่าจะจัดการกับเดรโก หรือ อย่างน้อยที่สุดความพยายามเหล่านั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” รอยยิ้มเล็กๆ ค่อยๆปรากฏที่ริมฝีปากบางๆของสเนป
“ไม่เลย แต่เขาบอกผมว่า ความพยายามทั้งหลายจะยังไม่ถูกกระทำ นั่นก็เพราะผมโน้มน้าวให้เขาคิดว่าการจู่โจมเดรโกในขณะที่เขาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของคุณมันช่างไร้จุดหมาย และเป็นไปไม่ได้”
“ขอบคุณ เซเวอร์รัส” พวกเขายังคงเดินคู่กันไปด้วยความเงียบจนกระทั่งมาถึงยังห้องทำงานของาจารย์ใหญ่ดับเบิลดอร์ ชายชรานั่งลงในโต๊ะทำงานของเขา ในขณะที่ฟอกซ์กำลังมองพวกเขาทั้งคู่ด้วยความสนใจ
“อัลบัส...เราจะปกป้องเขาได้อย่างไร” สเนปพูดเมื่อมายืนอยู่ข้างหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่แล้ว ดัมเบิลดอร์จ้องเขาอย่างสงสัย เห็นได้ชัดว่าศาสตราจารย์ สเนปใส่ใจเด็กหนุ่มที่มีนิสัยโมโหร้ายและเย็นชาในห้องพยาบาลจริงๆ
“ผมเชื่อว่าเราปกป้องเขาได้ดีอยู่แล้ว ป็อบปี้เป็นพยาบาลที่ดี...และเข้มงวด” เขาพูดพร้อมกับประกายอาการขบขันที่แสดงในดวงตาของเขา แต่เซเวอร์รัสส่ายหัวอย่างเป็นกังวล
“ไม่! นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมหมายถึง ผมอยากรู้ว่าเราจะช่วยปกป้องความคิดของเขาได้อย่างไรหรือ...ปกป้องจิตวิญญาณของเขาอย่างไร” ความจริงจังในคำถามนี้จับความสนใจของดัมเบิลดอร์ เซเวอร์รัสไม่ใช่กวีอย่างแน่นอน และไม่ใช่คนที่จะตั้งคำถามอย่างไม่ใส่ใจ
“เซเวอร์รัส เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ปีศาจ เขาป้องกันตัวเองได้อย่างแน่นอน และเขาก้าวร้าวอย่างจงใจเพื่อปิดกั้นอารมณ์อันอ่อนไหว แต่นั้นอาจจะเปลี่ยนไปตามเวลา แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่แข็งแกร่ง มากกว่าที่เขาเคยเป็นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ หลายปีที่ผ่านมาแม่ของเดรโกต้องทนทุกข์อยู่กับลูเซียส จนตอนนี้แม่ของเขาเป็นบ้าไปแล้ว เธอเป็นคนเดียวที่อยู่เพื่อเขา เขาไม่มีใคร ไม่! เด็กชายไม่ใช่ปีศาจ อันที่จริงเขามีจิตใจที่ดีถ้าคุณรู้จักเขาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่ก่อนที่พ่อ แม่จะทำลายเขา ในตอนนี้คุณอาจจะไม่รู้จักเดรโก เขาอาจจะทำไปเพราะเหลืออด แต่ผมรู้ว่าเขายังคงสามารถเป็นคนที่ดีได้ และคุณก็คงรู้เช่นกัน” เขาหยุดชั่วขณะเพื่อรวบรวมความคิด
“ไม่มีใครรู้ มันแย่ที่สุด แม้แต่เขาก็ไม่รู้! นักเรียนคนอื่นๆไม่เคยรู้และไม่เคยเข้าใจเขา เขาฉลาดอย่างเหลือเชื่อครับศาสตราจารย์ แต่ผมกลัวว่าความรู้สึกตึงเครียดทีกำลังจะมาถึงจะมีมากเกินไปสำหรับเขา เขามีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้สูง ดูได้จากปีที่ผ่านๆมา เพื่อแข่งกับพวกกริฟฟินดอร์เขาก็ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้ แต่ถ้าหากเขายอมแพ้ล่ะ ถ้าเขาตัดสินใจที่จะเลิกต่อสู้ล่ะ” ดัมเบิลดอร์พยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อยอมรับความกลัวของชายที่อ่อนกว่า
“เซเวอร์รัส ความกลัวของคุณเป็นที่รับรู้แล้ว อย่างไรก็ตามผมต้องขอให้คุณเชื่อใจผม” สเนป หน้านิ่วกับคำตอบที่ไม่ตรงประเด็นนี้ตามปกติของอาจารย์ใหญ่ แต่เขาก็พยักหน้ารับ ในฉับพลัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“คุณยังไม่ได้พิจารณาคำขอของมิเนอร์ว่า ในเรื่องที่เดรโกไม่ควรเป็นหัวหน้านักเรียนใช่ไหม” เขาพูดในทำนองเย้ยหยัน ดัมเบิลดอร์ส่ายหัว แววตาของเขาเป็นประกายแวววาว ความตึงเครียดระหว่างมิเนอร์ว่า มักกอลนากัล และเซเวอร์รัส สเนปกลับไปเป็นเช่นเดิม เหมือนวันเวลาเก่าๆที่ฮอกวอตส์ ที่ดัมเบิลดอร์เห็นเป็นเรื่องสนุกมาหลายปีแล้ว และรอคอยวันที่พวกเขาจะเข้าใจจริงๆเสียทีว่าพวกเขาไม่ได้เกลียดกันเลยสักครั้ง...
“ยังหรอก เซเวอร์รัส เดรโก มัลฟอย เป็นเด็กหนุ่มที่เติบโตมาด้วยความสนใจ และเป็นที่รู้จัก การเป็นหัวหน้านักเรียนจะเป็นเครื่องย้ำเตือนที่ดีต่อเขา ว่าเขาคู่ควรกับสิ่งนี้ คู่ควรกับการเป็นนักต่อสู้ นอกจากนี้อย่างที่คุณพูด เขาฉลาดอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะความเครียดจากที่บ้าน ผมกล้าพูดได้ว่าคะแนนของเขาคงจะมีมากกว่าของคุณเกรนเจอร์ แทนที่จะเป็นที่สองรองจากเธอ เขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขามีความตั้งใจจริงและแน่วแน่ และใครจะเป็นหัวหน้านักเรียนได้ดีไปกว่าเขาล่ะ”
“บางที อาจจะเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์ยังไงล่ะ” สเนป พูด ดัมเบิลดอร์กลั้นหัวเราะ ในขณะที่ความกลัว และความอับอายปรากฏอยู่บนใบหน้าของเซเวอร์รัส
“ไม่! ไม่ใช่ พอตเตอร์แน่ ใช่ไหม?” เขาร้องด้วยความตกใจ เขารีบสงบสติอารมณ์โดยเร็ว
“อัลบัส พอตเตอร์ไม่มีสมองพอที่จะเป็นหัวหน้านักเรียนหรอก เกรนเจอร์จบเรื่องทุกอย่างตามลำพังคนเดียว” สเนปท้วง
“ซึ่งจะนำผมไปสู่ประเด็นต่อไป ผมคิดว่ามันจะดีสำหรับคนทั้งคู่ที่จะทำงานร่วมกัน”
“แน่นอน- เดี๋ยวก่อน! พวกเขาเป็นศัตรูกันนะ!” สเนปพูดอย่างขุ่นเคือง ลืมไปว่าเขาน่าจะส่งเสริมสิ่งที่ดัมเบิลดอร์พูด
“เพียงแค่เพราะพวกเขายังไม่รู้จักกันดี คุณเกรนเจอร์คล้ายกับคุณมัลฟอยอย่างมาก พวกเขาแต่ละคนพยายามรักษาชื่อเสียง พวกเขาอาจจะไม่ชอบกันแต่เมื่อปีนี้ล่วงเลยไป พวกเขาจะเข้าใจกัน พวกเขาต้องการความเข้าใจ พวกเขาทั้งคู่ ยิ่งไปกว่านั้นคุณเห็นท่าทางของคุณเกรนเจอร์ที่มีต่อเดรโกที่ใกล้ตายแล้วใช่ไหม?” ดัมเบิลดอร์พูดจบประโยค สเนปผงกศีรษะช้าๆ อย่างเข้าใจ
“คุณคิดว่านั่น มีความหมายว่าอย่างไร” สเนป ถาม
“สหายที่รักของฉัน ฉันคิดว่ามันหมายความได้ถึงทุกสิ่ง.ทุกอย่าง ..”ดัมเบิลดอร์ตอบเขา
และยิ้มบางๆอย่างนึกสนุก
“อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ เราไม่มีทางรู้หรอก เซเวอร์รัส ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้”ดับเบิลดอร์พูดกลับไปกลับมาพร้อมสายตาที่เป็นประกายอย่างมุ่งมั่น
+++++++++++++++++
To be con
ตัวอย่างตอนต่อไป
Chapter 4: Thinking Hard
อย่างไรก็ตามเขาเป็นสิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนแปลงในชีวิตเธอ ความคิดที่ต้องสูญเสียเดรโกไปและความคิดที่เธอห่วงเขามากแค่ไหน ทำให้เธออาย เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจและลุกขึ้นจากเตียง ถึงเวลาแล้วที่ ‘เธอควรจะเริ่มเก็บกระเป๋า พรุ่งนี้แล้วซินะที่เธอจะต้องกลับไปที่ฮอกวอตส์’
ความคิดเห็น