คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : -- chapter 1 --
เลื่อนลงไปอ่าน chapter 1 ด้านล่างเลยนะคะ ต่อไปซีนจะทอล์กหน้าแรกของบทความนะคะ
| ||||
| ||||
Name : kyo* [ IP : 58.9.165.188 ] |
| ||||
| ||||
Name : คนบ้า** [ IP : 202.143.147.122 ] |
| ||||
| ||||
Name : ไก่ต้มน้ำปลาตราด๊อง [ IP : 222.123.183.21 ] |
| ||||
| ||||
Name : ไก่ต้มน้ำปลาตราด๊อง [ IP : 222.123.183.21 ] |
| ||||
| ||||
Name : k.kibum [ IP : 118.174.57.105 ] |
| ||||
| ||||
Name : Hyuk_StYle< My.iD > [ IP : 124.121.111.152 ] |
| ||||
| ||||
Name : SeONLYHEEmE< My.iD > [ IP : 58.8.196.138 ] |
| ||||
| ||||
Name : SeONLYHEEmE< My.iD > [ IP : 58.8.196.138 ] |
| ||||
Name : T o E ii z Z ™< My.iD > [ IP : 124.121.87.157 ] |
| ||||
| ||||
Name : [K]i+[H]yuk L❤vEr< My.iD > [ IP : 114.128.110.112 ] |
| ||||
| ||||
Name : --oson--< My.iD > [ IP : 124.121.23.62 ] |
| ||||
| ||||
Name : minna222< My.iD > [ IP : 58.8.135.201 ] |
| ||||
| ||||
Name : kororo03 [ IP : 124.120.165.196 ] |
| ||||
| ||||
Name : --oson--< My.iD > [ IP : 124.121.21.225 ] |
| ||||
| ||||
Name : kyo* [ IP : 222.123.190.241 ] |
| ||||
| ||||
Name : Trombone [ IP : 115.67.110.182 ] |
| ||||
| ||||
Name : bowi< My.iD > [ IP : 118.172.112.214 ] |
| ||||
| ||||
Name : katomnam< My.iD > [ IP : 58.9.51.253 ] |
| ||||
| ||||
Name : ~chocola~< My.iD > [ IP : 115.67.191.8 ] |
| ||||
| ||||
Name : WeeKEND*< My.iD > [ IP : 118.172.187.170 ] |
| ||||
| ||||
Name : sneeze< My.iD > [ IP : 125.24.15.88 ] |
| ||||
| ||||
Name : นีน [ IP : 202.28.78.139 ] |
| ||||
| ||||
Name : คนบ้า คับป๋ม** [ IP : 202.143.147.122 ] |
| ||||
| ||||
Name : waterrainzza^^< My.iD > [ IP : 118.172.254.50 ] |
| ||||
| ||||
Name : WeeKEND*< My.iD > [ IP : 118.172.183.51 ] |
| ||||
| ||||
Name : Ohm-Toon-ForEver [ IP : 118.172.221.152 ] |
| ||||
| ||||
Name : กะตัง คูก้า คร๊าบ< My.iD > [ IP : 125.26.4.135 ] |
| ||||
| ||||
Name : kyo* [ IP : 117.47.29.75 ] |
1
ในยามที่ดวงตากลมโตคู่นี้จับจองไปที่ดอกไม้ ราวกับว่าเขากำลังจะทำให้ดอกไม้ที่ไร้ซึ่งชีวิตกลับมาชูช่อดั่งดอกไม้แรกแย้มได้อีกครั้งหนึ่ง ดวงตาที่สดใสเพราะนึกถึงใครอีกคนที่มอบความรักให้กับตัวเองอยู่เสมอ ความรักที่เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน แม้จะผ่านมานานนับปี แต่ฮยอกแจก็ยังรู้สึกได้ถึงอุ่นไอความหอมหวานในวันแรกที่เขาได้พบเจอกับ...คิม คิบอม
เมื่อนึกย้อนกลับไป รอยยิ้มของคิบอมคือรอยยิ้มแรกที่ฮยอกแจได้รับจากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ตัวเองกำลังเรียนอยู่ คนตัวเล็กไม่มีเพื่อนสนิทเลยตลอดระยะเวลาที่เรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนั้น และเขาก็ไม่คิดที่จะหาด้วย เพราะฮยอกแจเชื่อว่าใครอีกคนที่พร้อมจะเป็นเพื่อนกับเขาจะเดินเข้ามาหาเขาเองเมื่อฟ้าลิขิตให้ทั้งสองคนได้พบเจอกัน
...และคนๆ นั้นคือ...คิม คิบอม
เวลานี้เท้าเล็กๆ ยังคงย่ำไปตามทางเดินเรื่อยๆ ในอ้อมแขนของเขาโอบกอดกล่องของขวัญไว้แน่น อากาศเริ่มเย็นลงอย่างต่อเนื่อง และเพียงแค่เสื้อคลุมบางๆ ชั้นเดียวก็ไม่อาจจะต้านทานความเหน็บหนาวได้เลย แม้ใบหน้าขาวใสจะซีดเผือดจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอดที่จะตกใจไม่ได้ แต่ฮยอกแจก็ยังยิ้มให้กับท้องฟ้าและสายลมที่นำเขากับคิบอมมาพบเจอกันและกัน
“หวังว่าตอนนี้คิบอมคงยังไม่ออกไปเล่นดนตรีหรอกนะ”
บ้านพักของคิบอมอยู่แถวชานเมือง แต่ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลกับที่ทำงานของชายหนุ่มสักเท่าไร ในตอนกลางวันคิบอมจะเป็นพนักงานประจำร้านหนังสือ แต่ในตอนกลางคืนร่างสูงก็จะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดนั้นไปเล่นดนตรี ถ้าถามว่าฮยอกแจเบื่อไหมที่จะต้องรอให้คนรักของเขามีเวลาว่างเพียงหนึ่งถึงสองชั่วโมงต่อวันเพื่อมาพบเจอกัน ฮยอกแจก็คงตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าไม่เคยเบื่อเลยสักนิดเดียว
“คุณป้าครับ คิม คิบอมอยู่ข้างบนหรือเปล่า”
เสียงสดใสเอ่ยถามเจ้าของบ้านพัก เธอหันมามองฮยอกแจแวบหนึ่ง แต่แล้วก็ทำท่าครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะตอบออกมาได้ว่าคิบอมอยู่ข้างบน ทว่าหากสังเกตดูดีๆ แล้วจะพบว่าดวงตาของเธอขยิบซ้ายขวาอย่างน่าแปลกประหลาด แต่บางทีอาจจะเป็นเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้ดวงตาของเธอกระตุกอยู่บ่อยๆ ก็เป็นได้
“พ่อหนุ่ม”
“ครับ”
“นอกจากเธอแล้ว เจ้าของห้องคนนั้น...อา...ช่างมันเถอะ เพราะไม่ว่ายังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่แล้ว”
เจ้าของห้องที่คุณป้าคิมหมายถึงก็คือคิบอมนั่นเอง ริมฝีปากของเธอพะงาบราวกับเธอมีอะไรจะบอกกล่าวกับฮยอกแจ แต่แล้วก็เงียบไป ก่อนจะหันกลับไปวุ่นวายกับชั้นวางของที่อยู่ด้านหลังอย่างไม่สนใจผู้มาเยือนเลย
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
ร่างบางโค้งศีรษะอย่างนอบน้อม ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องพักของคิบอมด้วยความรู้สึกไม่มั่นคง และก่อนที่นิ้วเรียวจะกดออดที่อยู่ข้างๆ ประตู คนด้านในก็ดึงประตูให้เปิดกว้างออกเสียก่อน
“คิ...”
“คิบอม ดูเหมือนฮยอกแจจะมาหานายนะ”
ดวงตาของฮยอกแจมีแต่ความสับสน ทำไมผู้ชายหน้าหวานคนนี้ถึงมาอยู่กับคิบอมในเวลาดึกดื่นขนาดนี้ได้นะ และเมื่อเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นตามมา ฮยอกแจก็แทบจะล้มทั้งยืนในทันที
“อย่ามาหลอกกันน่าอี ซองมิน เขาไม่ได้บอกว่าจะมาหาฉันวันนี้สักหน่อย”
“ทำไงดีล่ะอี ฮยอกแจ แย่จังเลยนะที่นายอุตส่าห์มาหาคิบอม แต่เขากลับไม่สนใจนายเลย”
“คิดว่าฉันจะเชื่อนายเหรอ นายอยากโดนลงโทษใช่ไหม อ้าว!! ฮยอกแจ...”
คิบอมที่ทำท่าจะเดินมาแกล้งซองมินในตอนแรกกลับต้องชะงักเมื่อคนที่อี ซองมินพูดถึงมายืนอยู่ที่หน้าประตูจริงๆ คนถูกทักฝืนยิ้มให้ราวกับว่าไม่ได้คิดมากอะไรเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่จริงๆ แล้วในจิตใจกำลังร้อนรุ่มไม่ต่างจากเปลวไฟที่กำลังแผดเผาดวงตาของเขา
“...คิบอม...”
เสียงหวานในตอนแรกกลับแปรเปลี่ยนเป็นแหบแห้งเมื่อนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ อี ซองมินเป็นเพื่อนของคิบอมตั้งแต่สมัยมัธยม ผู้ชายหน้าหวานคนนี้มักจะสนิทสนมและรู้จักนิสัยใจคอของคิบอมมากกว่าเขาไปเสียทุกเรื่อง จนบางครั้งฮยอกแจอดคิดไม่ได้ว่าซองมินคิดอะไรเกินเลยกับคิบอมหรือเปล่า ทุกๆ ครั้งที่คนตัวเล็กเห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกัน แม้คิบอมจะยืนยันอยู่เสมอว่าตัวเองกับซองมินเป็นได้แค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น แต่ฮยอกแจก็ไม่อาจจะปฏิเสธความกลัวออกไปจากหัวใจได้เลย
“นายบอกว่าวันนี้อาจจะไม่มาไม่ใช่เหรอ”
คิบอมเอ่ยถามเสียงสั่นเครือไม่แพ้กัน แต่นั่นอาจจะไม่ใช่เพราะว่าเขาเสียใจ แต่เป็นเพราะคิบอมกำลังปกปิดความผิดของตัวเองอยู่ก็เป็นได้
“ฉันแค่จะเอาของขวัญมาให้นาย แต่ไม่คิดเลยว่านายจะอยู่กับซองมิน...สองต่อสอง”
“ฉันอยู่กับเพื่อนสนิทของฉัน แล้วมันจะเป็นอะไร”
“มันก็ไม่เป็นอะไรหรอกคิบอม มันไม่เป็นอะไรเลยถ้านายไม่ใช่แฟนของฉัน มันจะไม่เป็นอะไรเลยสักนิดเดียว ถ้าหากซองมินไม่มองนายด้วยสายตาที่ลึกซึ้งแบบนั้น”
“มันจะมากไปแล้วนะฮยอกแจ”
คิบอมตวาดใส่ด้วยความโกรธ ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับน้ำตาคลอ ริมฝีปากบางสั่นระริกเมื่อตกใจในสิ่งที่คิบอมพูดออกมา ฮยอกแจไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าคนรักที่เมื่อวันก่อนก็ยังเอ่ยคำว่า ‘รัก’ กันอยู่แท้ๆ จะกล้าทำร้ายจิตใจราวกับไม่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกันมาก่อนเลย ร่างบางหันไปมองซองมินที่ยืนเคียงข้างคิบอม ซองมินตีหน้าเรียบเฉยแล้วเสมองไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องที่เกิดขึ้น
“นายเป็นอะไรของนาย”
“ฉันก็เป็นของฉันตั้งนานแล้ว นายไม่รู้เหรอ”
“ฉันไม่รู้!!”
ฮยอกแจตอบด้วยความซื่อ แต่นั่นมันยิ่งเป็นการยั่วโมโหให้คิบอมมากขึ้นไปอีก ร่างบางคิดจะทำท่าทางน่าสงสารตอนนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อทุกๆ อย่างที่คิบอมกำลังจะพูดออกมา สิ่งที่ร่างสูงกับกำลังจะเอ่ยบอกเขา คำนั้นมันเป็นสิ่งที่คิม คิบอมได้เลือกเอาไว้ตั้งนานแล้ว
“ฉันว่ามันถึงเวลาแล้วนะฮยอกแจที่ฉันควรจะบอกนาย”
“ถ้าเป็นคำๆ นั้น...”
“เราจบกันตรงนี้เถอะ”
“ทำไมนายถึงรีบร้อนที่จะบอกกันแบบนี้ล่ะ ไม่มีคำว่าโอกาสเลยเหรอคิบอม”
ฮยอกแจตวาดคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตคนรักในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าอย่างตัดพ้อต่อว่า หากแต่ใบหน้าคมกลับส่ายไปมาอย่างเชื่องช้า ก่อนจะหันไปสบตาซองมินครู่หนึ่ง แล้วจ้องเขม็งกลับมามองที่ฮยอกแจอีกครั้ง ดวงตาที่ไร้ซึ่งความหมายเช่นนี้ทำให้ฮยอกแจนึกไม่ออกเลยว่าคิม คิบอมที่เขาเคยรู้จักเป็นคนอย่างไร
“เดี๋ยวฉันจะลงไปรอข้างล่างนะคิบอม รีบๆ ลงไปด้วยถ้าไม่อยากให้ฉันหนาวตายเสียก่อน”
ซองมินเขย่งตัวขึ้นไปกระซิบบอกกับร่างสูง กระทำโดยที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร กระทำโดยไตร่ตรองอย่างดีแล้วว่าถ้าทำแบบนี้จะให้คนที่ชื่ออี ฮยอกแจผู้อ่อนแอเจ็บปวดมากสักแค่ไหน แต่ก็กระทำโดยไม่มีความปราณีเลยแม้แต่นิดเดียว
“เพราะซองมินน่ารักกว่าฉันเหรอ นายถึงได้...”
“อย่าว่าซองมินแบบนั้นนะ นายไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้คำพูดของตัวเองแตะต้องคนอย่างซองมิน”
“แม้กระทั่งคำพูดของฉันมันก็ดูสกปรกอย่างนั้นเหรอ”
“นายพูดมันออกมาเองนะฮยอกแจ”
คิบอมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ อากาศที่เย็บเฉียบเมื่อครู่ทำให้ฮยอกแจรู้สึกถึงมันได้แล้วว่าในเวลานี้มันสร้างความทุกข์ทรมานแก่คนอย่างเขาเช่นไร แม้ว่าอากาศจะหนาว แต่ถ้าฮยอกแจมีความรักของคิบอมโอบล้อมเอาไว้ ความหนาวเย็นจะติดลบสักกี่องศาเซลเซียส ฮยอกแจก็ไม่เคยหวั่น แต่หากวันใดไร้ความอบอุ่นของคิบอมแล้ว แม้แสงอาทิตย์จะแผดเผาจิตใจและร่างกายจนไหม้เกรียม อี ฮยอกแจก็ยังคงรู้สึกเหน็บหนาวอยู่ดี
“เหตุผลล่ะคิม คิบอม”
ดวงตาที่สั่นระริกกำลังเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าด้วยความตัดพ้อ ทว่าอีกฝ่ายกลับไร้ซึ่งเยื่อใย ไม่มีความรู้สึกที่อ่อนโยนส่งผ่านความรักมาทางสายตาของชายคนนี้อีกแล้ว หมดสิ้นแล้วกับความรู้สึกที่อี ฮยอกแจทุ่มเทไปให้ เหลือเพียงอี ฮยอกแจผู้อ่อนแอ กับคิม คิบอมผู้หยิ่งยโสเท่านั้น
“นายไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผลของฉันนี่”
“ไม่นะ!! ในเมื่อวันก่อนเรายังกอดกันอยู่เลย คิบอม...เมื่อคืนนายก็เพิ่งบอกรักฉันเองนะ แล้วทำไมกัน ทำไมนายถึง...”
“บอกเลิกนายน่ะเหรอ?”
ร้องไห้ฟูมฟายไปเท่าไรก็คงจะไร้ประโยชน์ ในเมื่อคิม คิบอมในเวลานี้มองคนตัวเล็กเป็นเพียงแค่แมลงที่น่ารำคาญตัวหนึ่งเท่านั้น ไม่มีค่า ไม่มีความหมายใดๆ ต่อชีวิต เพราะฉะนั้นก็ควรจะปัดมันออกไปให้พ้น
“นี่ต้องเป็นความฝันแน่ๆ คนเราจะเปลี่ยนใจกันเร็วขนาดนี้ได้ยังไง บอกมาสิคิบอม บอกฉันมาว่ามันเป็นเรื่องตลกเท่านั้น”
มือเล็กๆ ขยำคอเสื้อของคิบอมอย่างแรงพร้อมกับเขย่าไปมา น้ำตาบ้าๆ นี่ เมื่อไรจะเหือดแห้งสักทีนะ อี ฮยอกแจควรจะร้องไห้หนักขนาดนี้เพื่อผู้ชายที่ไม่เหลียวแลเขาอย่างนั้นเหรอ หากร้องไห้จนน้ำตาแปรเปลี่ยนเป็นสายเลือดแล้ว คิม คิบอมก็จะหันกลับมามองเขาอย่างนั้นเหรอ คำตอบคือ...ไม่เลย
“แล้วเข็มนาฬิกาที่มันหมุนอยู่ทุกวัน มันเป็นเรื่องตลกหรือไง”
“ฉันไม่เข้าใจ”
“ก็เพราะว่านายมีมันสมองน้อยเกินไปไงล่ะฮยอกแจ นายไม่รู้หรอกว่าถ้าเวลาเปลี่ยนไป คนเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหมือนกัน”
“แต่...”
“เลิกตื้อฉันสักทีเถอะ มันน่ารำคาญชะมัดเลย”
Time
“อึนจา เจ้าได้ยินข้าหรือไม่”
“...”
“อึนฮยอก ฟื้นสิ!! นายจะอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้นะ เราเกิดมาคู่กันนะฮยอกแจ ไม่ใช่เพราะฉันเลือก แต่เป็นเพราะสวรรค์ส่งฉันกับนายมาเพื่อกันและกันจริงๆ”
“...”
“เจ้าเป็นเนื้อคู่กับอึนจาเช่นนั้นหรือ แล้วเหตุใดเจ้าจึงขานชื่อของอึนจาเป็นอึนฮยอกเล่า”
“...”
“อึนฮยอกๆ ฉันรักนายนะ”
ฮยอกแจค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้าหลังจากที่เขาพยายามจะลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลเลยเมื่อความรู้สึกเจ็บปวดมันรีบทำงานอย่างรวดเร็วเมื่อเขาได้สติ
“ฟื้นแล้ว!!”
เสียงที่ดังประสานกันก้องไปทั่วทั้งห้องเมื่อฮยอกแจเปิดเปลือกตาขึ้น ดวงตาสองข้างกลอกซ้ายขวาอย่างงุนงง ก่อนจะรีบเด้งตัวจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว
“อึนจา/อึนฮยอก”
“เราชื่อคีบอม”
“ฉันคือคิบอมที่นายหลงรักมาตลอดไงอึนฮยอก”
แทบจะเป็นลมเมื่อสิ่งที่ฮยอกแจได้เห็นคือมนุษย์สองคนที่มีหน้าตาเหมือนคิม คิบอมของเขาทุกประการ ฮยอกแจจำใบหน้าแบบนี้ของคิบอมได้ เขาจำท่าทางแบบนี้ของคิบอมได้ และเขาจำรอยยิ้มที่สดใสแบบนี้ของคิบอมได้
...ผู้ชายสองคนนี้คือคิบอมในอีกมิติหนึ่ง เหมือนกับที่เขาเคยอ่านจากหนังสือนวนิยายในร้านที่คิบอมเป็นพนักงานอยู่ ใครบางคนที่มาจากอดีต และใครบางคนที่มาจากอนาคต ทว่า...คนที่เชื่อในเรื่องเร้นลับอย่างฮยอกแจก็ยังคงแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทั้งอดีตและอนาคตสามารถข้ามมายังเวลาปัจจุบันพร้อมกันได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ
“เดี๋ยวนะ ฉันไม่เข้าว่าทำไมฉันถึงได้เห็นคิบอมสองคนในเวลาเดียวกัน แต่พูดแตกต่างกันได้ขนาดนี้ ใครก็ได้บอกฉันที นี่มันคือความฝันเหรอ”
“มันคือความจริง!!”
เมื่อสิ้นเสียงคำยืนยัน ดวงตาคู่กลมค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงอย่างช้าๆ เขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ฮยอกแจไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าคนที่เคยรักกันจะทำร้ายกันได้ แม้ว่าเหตุผลที่คิบอมไปจากตัวเขาก็เห็นกันอยู่ทนโท่แล้ว แต่ฮยอกแจก็อยากจะฟังจากปากของร่างสูงอีกสักครั้ง
“อึนฮยอก นายเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“เจ้าป่วยหรืออึนจา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เจ้าก็ยังต้องให้ข้าปกป้องอยู่ร่ำไป”
“เมื่อไรฉันจะตื่นจากความฝันบ้าๆ นี่สักทีนะ อา...ได้โปรดเถอะคิม คิบอม อย่าตามมาหลอกลวงฉันเลย แค่นี้ก็เหนื่อยจนฉันทนแทบไม่ไหวอยู่แล้ว”
ฮยอกแจบ่นอุบอิบด้วยความเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเดินโซซัดโซเซโดยมีชายหนุ่มสองคนเข้ามาประคองเอาไว้ คนหนึ่งแต่งตัวด้วยชุดเกาหลีสมัยโบราณ น่าจะประมาณห้าสิบปีก่อนเห็นจะได้ ส่วนอีกคนไม่แตกต่างจากคิบอมของเขาในปัจจุบันเท่าใดนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนที่มีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะกำลังจะทำให้ฮยอกแจเกิดอาการคุ้มคลั่ง
“ข้าไม่ได้หลอกเจ้านะอึนจา ข้าคือขุนนางคิมผู้ซึ่งโอบล้อมอุ้มชูเจ้าเยี่ยงเมียเอกของข้า”
“ไอ้บ้าขุนนางประสาทเสื่อม อึนฮยอกเป็นของฉันต่างหากล่ะ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคตเลยด้วย”
“หากเจ้าคืออนาคต และข้ามาจากอดีตชาติ เช่นนั้นเราก็คือคนๆ เดียวกันใช่หรือไม่”
“ไม่นะ!! ชาติที่แล้วฉันมีเมียเป็นผู้หญิงด้วยเหรอ ฉันควรจะรักอึนฮยอกของฉันคนเดียวสิ คิม คิบอมไม่เจ้าชู้หรอกน่า”
ผู้ชายสองคนที่มีหน้าตาเหมือนกันทุกประการกำลังยืนประจันหน้าเพื่อทำสงครามน้ำลายกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ ในขณะที่ฮยอกแจได้แต่หันซ้ายแลขวาเพื่อประมวลผลทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“ข้าหาใช่คนเจ้าชู้ไม่ ทว่าพ่อแม่ของข้าอยากให้ข้าได้ขึ้นครองบัลลังค์ ท่านทั้งสองจึงจับข้าแต่งงานกับองค์หญิง”
“แล้วนายก็จะบอกว่าตัวเองรักเพียงอึนฮยอกของฉันอย่างนั้นสิ”
“ถูกต้องแล้ว ในหัวใจของข้ามีเพียงอึนจาเพียงผู้เดียว”
“หยุดพูดสักทีเถอะ!!”
ฮยอกแจยกมือขึ้นมาห้ามอย่างทนไม่ไหว ทั้งคิบอมในอดีตและคิบอมในอนาคตจึงต่างพร้อมใจกันหันหน้ามาหาเขา และเมื่อห้องทั้งห้องค่อยๆ เงียบลงจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศดังหึ่งๆ ฮยอกแจจึงเริ่มเอ่ยขึ้น
“ถ้านายสองคนไม่ได้อยู่ในปัจจุบัน นายก็มาจาก...”
“อนาคต/อดีตชาติ”
ทั้งสองแย่งกันพูดราวกับนี่เป็นรายการเกมโชว์ชื่อดังของเกาหลีที่หากใครตอบช้าจะต้องตกรอบอย่างไรอย่างนั้น ฮยอกแจกลอกตาไปมาอย่างงุนงง และคิบอมที่บอกว่าตัวเองมาจากอดีตชาติกับอีกคนที่บอกว่าตัวเองมาจากในอนาคตก็ยิ้มตาหยีให้เขา แต่แทนที่รอยยิ้มนั่นจะทำให้ฮยอกแจมีความสุข มันกลับทำให้ร่างบางหงอยลงไปอย่างถนัดตา
...ทำไมคิบอมในปัจจุบันที่บอกเลิกเขาไม่กี่ชัวโมงก่อนหน้านี้ถึงได้ใจร้ายนักนะ
“ฮู่...เอาอย่างนี้นะคิม คิบอมทั้งสอง ฉันจะเรียกนายที่มาจากอดีตว่าคิมกวาโก และเรียกอีกคนว่าคิมมีแรก็แล้วกัน”
เมื่อบอกกล่าวกับมนุษย์ทั้งสองคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็เดินออกไปจากบริเวณนั้นทันที และเมื่อแผ่นหลับผ่านลับทั้งสองคนไปแล้วเท่านั้น น้ำตาอุ่นก็รินไหลออกมาอีกครั้งหนึ่ง จะทำอย่างไรดีนะเมื่อเขายังไม่พร้อมที่จะมองหน้าคิบอมตอนนี้เลย แม้จะคิดถึงจนแทบขาดใจ แต่พอนึกถึงใบหน้าของคิบอมในเวลาที่ยืนอยู่กับซองมินแล้ว ก้อนเนื้อที่เต้นอย่างแผ่วเบาที่หน้าอกด้านซ้ายก็รู้สึกปวดร้าวขึ้นมาในทันที
“อึนจา ข้าไม่รู้หรอกว่าเพราะเหตุใดในชาติปัจจุบันนี้ข้าจึงทำให้เจ้าเสียใจ แต่ตอนนี้ข้าขอโอบกอดร่างกายที่สั่นเทาของเจ้าให้คลายกังวลได้หรือไม่”
คิมกวาโกค่อยๆ ดึงมือของฮยอกแจเข้าหาร่างหนาของตน ก่อนจะกางวงแขนแกร่งเพื่อโอบกอดฮยอกแจเอาไว้แน่น และเมื่อใบหน้าของร่างบางสัมผัสกับอกกว้างได้เท่านั้น น้ำตามากมายก็ไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่ได้จนคิมมีแรต้องเม้มปากแน่นอย่างรู้สึกผิด เพราะเขาเป็นคิบอมในชาตินี้ เขารู้ว่าเพราะเหตุใดคิม คิบอมจะต้องบอกเลิกฮยอกแจ เขารู้ดีทุกอย่างแต่ไม่สามารถเอ่ยออกไปได้
...มีเพียงแววตาที่ขอร้องฮยอกแจยกโทษให้เขาเท่านั้นที่คอยส่งความห่วงใยมาให้
“อึนฮยอก นายอย่าร้องไห้เลยนะ เชื่อฉันเถอะว่าอีกไม่นานคิบอมจะต้องกลับมาหานาย”
“อึก...คิบอม...ฉันลืมนายไม่ได้...ฮือ...”
ฮยอกแจกอดรัดคิมกวาโกแน่นมากขึ้นเมื่อเขาคิดถึงคิบอม คิมมีแรจึงเดินอ้อมมาอีกฝั่งเพื่อลูบเส้นผมนุ่มของคนตัวเล็กอย่างปลอบโยน คิม คิบอมเองก็เพิ่งได้รับรู้เหมือนกันว่าอี ฮยอกแจรักเขามากเพียงใด
“คิบอม...ฮึก...”
Time
ความคิดเห็น