บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

ลำดับตอนที่ #3 : ชะตากรรมปีแรกของเด็กศิลป์ในคราบเด็กวิด

ปีแรกสำหรับการเป็นเด็กวิทย์นั้น มันไม่ค่อยจะง่ายซักเท่าไหร่เลยสำหรับผม (รุ่นพี่หลายคนบอกว่า ม.4 ปานกลาง ชิลล์ๆ หนักสุดอ่ะม.5 แต่สบายสุดก็คือ ม.6 (แต่ก็ต้องเตรียมสอบแอดอยู่ดีแหละ คิกคิก)) เดี๋ยวจะลองสปอยเหตุการณ์คร่าวๆให้เห็นภาพแล้วกานนะคัฟผม ^^

1. ที่ปรึกษาที่เคารพ ^^

เขียนด้วยความศรัทธาในตัวอ.ทั้ง 2 อย่างแรงกล้า คนนึงเป็นผู้หญิง สอนภาษาอังกิด (เข้าทางๆ) ที่สำคัญแกเป็นหัวหน้าหมวดด้วย ด้วยความที่ผมก็รักอาจารย์คนนี้เหมือนกาน เราเลยคุยกานได้แบบชิลล์ๆ แถมใจดีประดุจนางฟ้า (ดูม่ายเป็นด้วยหล่ะ ชอบๆๆ) ส่วนอีกท่าน แกเป็นผู้ชายสอนฟิสิกส์ (วิชาที่ว่าโหดสุดๆ เหอๆ) แต่ออกแนวลุยๆดี เหอๆ

ด้วยความที่อ.2 ท่าน เป็นคนละแนวกาน เด็กที่เข้าหาแกก็คนละแนวด้วย 555+

2. เพื่อนๆห้อง 1

ปีนี้เป็นปีแรกที่จับสับคละห้องกัน ได้เจอเพื่อนใหม่เยอะพอตัวเลย แล้วผมก็ถูกเพื่อนๆแต่งตั้ง (ยัดเยียด) ให้เป็นหัวหน้าห้องโดยปริยาย (ผมก็เต็มใจ กร๊ากกกก) คนเก่งๆจะอยู่ห้องผมกันเป็นส่วนใหญ่ (ก็เพื่อนห้องคิงเก่าของผมเกือบทั่งนั้นแหละ) แต่ละคนก็จะมีแนวของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น แล้วก็มีกรุ๊ปเป็นสัดเป็นส่วนของตัวเองด้วย แต่รวมๆก็รักกันดี นี่คือสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดในห้อง 401 แห่งนี้ ^^

3. รับมือกับการเรียนอย่างหนัก

อย่างที่เคยเล่าไป ปีนี้ ผมกับเพื่อนๆจะต้องเจอกับ 3 วิชาใหม่ อันได้แต่ เคมี ฟิสิกส์ แล้วก็ชีวะ ซึ่งขอบอกว่า แต่ละวิชานั้นมานหินมากๆ + กับกิจกรรมหลายๆอย่างภายในแต่ละเทอม เล่นเอาผมท้อเหมือนกัน แต่ก็อดทนจนได้ซิน่า ^^

4. ตัดหัวเกรียน เรียนรด.

หน้าที่ที่สำคัญของนร.ชาย ม.ปลายอีกอย่างก็คือ “การเรียนรด.” น่านเอง (ย่อมาจากรักษาดินแดน ภาษาอังกิดเค้าเอิ้นว่า “Territorial Defence Department”) สาเหตุใหญ่ๆของการเรียนก็คือ “ไม่อยากเกณฑ์ทหาร” 555+ ซึ่งรร.ของผมนั้น เค้าจัดให้เรียนรด.ในวันจันทร์ ภาคบ่าย (ซึ่งกลับเย็นมาก แถมเหนื่อยด้วย) การฝึกนั้นก็หนักพอสมควร แต่ก็หนักช่วงแรกๆ ช่วงหลังๆจะได้เรียนในห้อง อิอิ

แต่ที่เลวร้ายก็คือ จะมีการออกกำลังการกันก่อนกลับด้วย 5555+

5. กิจกรรมในรร. + นอกสถานที่

ในเมื่อเครดิตในการเรียนในห้องอย่างเดียวมันยังไม่เพียงพอสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรอกคัฟ เราต้องเผื่อการสอบสัมภาษณ์ไว้บ้าง นั่นหมายถึง การแบ่งเวลาส่วนหนึ่งการทำกิจกรรมนั่นเอง แล้วก็ต้องเก็บสะสมเกียรติบัตรเอาไว้ทำ Port เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้การสัมภาษณ์ของเราเป็นไปได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญกิจกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา “ความเป็นคน” ด้วยนะคัฟผม (พูดง่ายๆก็คือฝึกการเข้าสังคม และกล้าแสดงออกนั่นเอง)

ยกตัวอย่างกิจกรรมก็อย่างเช่น กีฬาสี การจัดแข่งขันต่างๆทั้งในและนอกรร. ฯลฯ

6. สอบชิงทุน.... มีโอกาสควรทำบ้าง

ผมแนะนำนะคัฟสำหรับคนที่อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆนอกโรงเรียน (เป็นหนึ่งของการทำพอร์ดได้ด้วยนะ) ที่สำคัญเป็นการทดสอบตัวเองไปด้วย เนื่องจากการสอบชิงทุน จะมีข้อสอบแปลกๆหั้ยเราได้ฝึกทำ (ส่วนใหญ่จะเป็นอังกิดซะด้วย) มีโอกาสควรจะลองทำดูนะคัฟ

ผมก็เคยไปลองสอบด้วยหล่ะ ผ่านซะด้วย แต่ดันไปติดสำรองตอนสัมภาษณ์ ก็เลยดร็อปไปเลย 55+

ที่ผมรู้จักคร่าวๆก็เช่น AFS หรือ ทุน YES เป็นต้น

7. รุ่นพี่ คนที่เราไม่ควรจะมองข้าม

เนื่องจากสายวิดของเรามีกิจกรรมที่เรียกว่า “สายรหัส” ด้วย เป็นการจับคู่ดูแลเทคแคร์รุ่นน้องน่านเอง ซึ่งกิจกรรมตรงนี้ เป็นการสานความสัมพันธ์ที่ดีสำหรับรุ่นพี่รุ่นน้อง ซึ่งผมว่ามันเจ๋งจิงๆ ข่าวบางข่าวที่เราไม่รู้ อาจจะทราบจากรุ่นพี่ มีอะไรก็ปรึกษากันได้ เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน คอยหั้ยกำลังใจซึ่งกันและกัน บางคนอาจจะพบรักกัน ณ จุดๆนี้ก็ได้ 555+

สำหรับสายรหัสของผมมีด้วยกัน 5 คน ม.6 1 คน ม.5 2 คน และม.4 อีก 2 คน อบอุ่นสุดๆบางสายยังอิจฉา อิอิ ซึ่งพี่ใหญ่ของผมปีนี้ติดการบินเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว 555+

8. เทอม 2 เนี่ยแหละ นรกของจิง

บางคนเกรดจะตกก็เทอม 2 เนี่ยแหละ เพราะเป็นเทอมที่กิจกรรมจะเยอะสุดๆ ตอนอยู่ม.ต้นก็ไม่รู้หรอก แต่พอได้ขึ้นม.ปลายเนี่ยแหละ ถึงได้รู้ซึ้ง......

เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมอ่านหนังสือแต่เนิ่นๆด้วยนาคัฟ ^^

9. โครงงาน มีไว้เพื่อออออออ!?

สายวิดคงหนีไม่พ้นการทำโครงงานอย่างแน่นอนที่สุด - - ซึ่งโครงงานส่วนใหญ่จะเป็นโครงงานวิดเสียด้วย อาจจะสปอยในตอนต่อไปหั้ยฟังนาคัฟผม

สำหรับผม โครงงานชีวะเนี่ยแหละ เหนื่อย & โหดที่สุด 555+

10. สอบเก็บคะแนน สอบกลางภาค สอบปลายภาค สิ่งที่ไม่ควรละเลย

ผมจะบอกไว้เลยว่า การสอบแต่ละครั้ง มันคือการแอดมิชชั่นของเราแล้วนะ อย่าลืมไปว่า เกรดของพวกเราส่วนหนึ่งก็มาจากการสอบเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเวลาสอบก็ต้องตั้งใจให้ถึงที่สุด

ส่วนผมตกออกบ่อย โดยเฉพาะ 3 วิชาหลักสายวิด (555+) เน้นส่งงานแล้วได้คะแนนเอา เหะๆ

11. เกรด - -“

เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยอยากจะพูดถึงซักเท่าไหร่ เพราะว่ามันทรมาณจิตใจใครหลายๆคน 555+

12. กวดวิชา ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของวัยรุ่นยามว่าง

คงจะเป็นบาปมากเลย ถ้าผมไม่เอาเรื่องในกวดวิชามาเล่าให้ฟัง เนื่องจากผมเป็นเด็กกลางๆ ไม่ได้เด่นดังอะไรเกินกว่าทุกๆคน กวดวิชาจึงเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งในชีวิตผม (ถึงจะมานึกได้หลังจบม.4 ก็เหอะ) กวดวิชาเป็นการเรียนเสริมเพิ่มเติมความรู้ภายนอกห้องเรียน สามารถเติมเต็มในส่วนที่เราทำหายในห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผมว่า ถ้าเราขยันก็สามารถอ่านเองได้ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเรียนกวดวิชาด้วย (แต่ผมขอน้า อิอิ)

13. มีสอบ Pre ติวฟรีที่ไหน ต้องไปลอง!!

ผมว่าเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับเราได้อีกทางหนึ่ง และเป็นการลงสนามจิงก่อนสอบอีกด้วย เป็นการเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ที่ดีมากๆอีกอย่างนึง

โครงการที่ผมเข้าร่วมก็มี ติวมาม่า (เรียกเงี้ยยย) แล้วก็ของท่าโร่ ซึ่งของเขาดีจิงๆ ^^

เป็นไงบ้างคับผม ชีวิตผมใน 1 ปีที่ผ่านมา (Ver.ย่อสุดชีวิต) แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องขำๆในชีวิตเลยนะ ก็มีบ้าง แต่อาจจะหาได้น้อยหน่อย คิกๆ ก็ต้องทำใจกันแล้วหล่ะ 555+ เพื่อนๆผมก็บ่นแล้วบ่นอีก จนผมก็พลอยติดจากมันไปด้วยเลย

อีก 2 ปีจากนี้ต่อไปไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีก เหอๆๆๆๆ...........