คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 ยิ่งอยากห่างยิ่งได้ใกล้
บทที่2 ยิ่งอยากห่างยิ่งได้ใกล้
เขาว่ากันว่ายิ่งหนีก็ยิ่งเจอ ยิ่งไม่อยากพานพบยิ่งต้องพบเจอ ยิ่งถอยห่างยิ่งใกล้ชิดพายัพเมฆเคยเถียงสุดใจขาดดิ้นว่าไม่มีทาง คนเราไม่มีทางพบเจอคนที่เราไม่อยากเจอบ่อย ๆ หรอกพระพรหมคงไม่ใจร้ายกลั่นแกล้งกันได้ขนาดนั้น... แต่ตอนนี้พายัพเมฆเชื่อที่เขาว่ากันว่าหมดทั้งใจทีเดียวเชียว
เมื่อเขาพยายามหนีห่างไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคู่หมั้นคู่หมายอย่างสาวน้อยพิมพ์ชนกแต่ยิ่งหนียิ่งใกล้ ไม่อยากเจอก็ยิ่งได้เจอ เช่นวันนี้ที่เขาได้รับคำสั่งจากพ่อบังเกิดเกล้าให้ไปดูแลพิมพ์ชนกที่จะไปดูคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดังที่กรุงเทพกับเพื่อน ๆ นอกจากต้องเจอคนที่พยายามหลีกเลี่ยงแลทวยังต้องจำใจรับหน้าที่ดูแลที่จะพูดกันจริงๆก็คงไม่ต่างจากทาสรับใช้ดีๆนี่เอง
"พอทอสองหิวอ่ะ บอกพี่เขาแวะเซเวนต์หน่อยสิ" ศศิกานต์ หรือ สอง เพื่อนสนิทของพิมพ์ชนกเอ่ยกระซิบบอกเพื่อนสาวที่นั่งอยู่กลางเบาะหลัง พอทอเป็นชื่อย่อที่เพื่อนๆเรียกพิมพ์ชนกแทนที่นะเป็นพริกไทยซึ่งพิมพ์ชนกก็โอเคไม่ว่าจะเรียกพริกไทยหรือพอทอ เธอก็คิดว่ามันเก๋ดีไม่ใช่น้อย
ศศิกานต์เป็นสาวเจ้าเนื้อแต่ก็น่ารักขี้เล่น เด็กสาวนั่งอยู่ด้านซ้ายของพิมพ์ชนกส่วนด้านขวาของพิมพ์ชนกคือ ชมพูนุช หรือ เฌอเอมเพื่อนสนิทอีกคนซึ่งเป็นสาวน้อยบุคลิกเรียบร้อยแต่มีความทะเล้นน่ารัก
"เฌอก็หิวอะพอทอ" ชมพูนุชเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับศศิกานต์เพราะตนก็หิวๆแล้วเช่นกัน เมื่อมเพื่อนสาวทั้งสองพร้อมใจกันหิวโหยพิมพ์ชนกจึงพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น "น้าพลาย จอดเซเวนต์หน่อยสิ เค้ากับเพื่อนหิวอ่ะ"
พายัพเมฆส่ายหน้ากับตัวเองอย่างละเหี่ยเพลียจิตก่อนที่จะมองหาปั๊มน้ำมันก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าไปในปั้มทันทีที่เห็น ทันทีที่รถหยุดสามสาวก็พากันเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ
ไลน์
เสียงเตือนจากแอปพลิเคชั่นสนทนายอดนิยมดังขึ้นจากสมาร์ทโฟนของพายัพเมฆก่อนที่เขาจะหยิบขึ้นมาดู
ตื่นรึยังคะคุณพลาย : อินทุอร
ข้อความที่ส่งมาทำให้หนุ่มใหญ่แต่หน้าเด็กหลุดยิ้มออกมา อินทุอร หมอสาวที่นักปราชญ์ติดต่อให้ เธอคนนี้ทำให้หัวใจดวงน้อยๆที่เจ็บจนชาดีขึ้นมาได้ไม่น้อย
ห้องสนทนา
พลาย : ตื่นแล้วครับคุณหมอ พอดีผมมีธุระต้องเข้ากรุงเทพฯน่ะครับเลยตื่นและออกมาแต่เช้ามืด
อ่อๆ แบบนี้ก็คงง่วงแย่เลยสิคะ เมื่อคืนก็คุยเป็นเพื่อนออยจนเกือบเที่ยงคืนวันนี้ก็ออกแต่เช้า : อินทุอร
พลาย : ไม่ง่วงเท่าไหร่ครับปกติผมก็นอนดึกตื่นเช้าอยู่แล้ว
เบอร์ดี้สักกระป๋องดีมั้ยคะ : อินทุอร
พลาย : ถ้าได้ก็ดีสิครับ 555+
พลาย : ไว้คุยกันนะครับคุณหมอ พอดีผมต้องเดินทางต่อแล้ว
โอเคค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ : อินทุอร
พายัพเมฆยิ้มแล้วมองสมาร์ทโฟนอยู่อย่างนั้นไม่สนใจอะไรรอบข้าง ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าสามสาวน้อยนั้นขึ้นรถมาแล้ว และพิมพ์ชนกนั้นขึ้นมานั่งด้านข้างคนขับแทนการนั่งรวมกันอยู่สามคนเหมือนก่อนหน้านี้
พิมพ์ชนกมองหนุ่มใหญ่อย่างฉงนก่อนที่จะยื่นแก้วกาแฟเย็นในมือที่ซื้อมาไปแตะซีกหน้าซ้ายอเนคมคายของเขาจนพายัพเมฆรู้สึกถึงความเย็นของน้ำแข็งในแก้ว
พายัพเมฆขยับหน้าออกจากแก้มแล้วจับแก้มและมือนุ่มของเด็กสาวออกห่าง "เล่นอะไรของตัวเนี่ยพริกไทย เย็นนะ"
"ก็ไม่ได้เล่น เห็นน้าพลายเอาแต่ยิ้มกับมือถือเหมือนคนบ้าเจอของถูกในจนไม่สนใจอะไรเลยก็เลย....เรียกแบบธรรมดา"สาวน้อยพูดก่อนที่จะมองที่มือของตัวเอง พายัพเมฆรีบปล่อยทันทีที่เห็นสายตาของสาวน้อย เขาทอดถอนหายใจพรืดใหญ่ก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ เด็กสาวเหมือนนึกขึ้นมาได้จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "อะ นี่ซื้อมาฝาก กินแฟซักแก้วจะได้ไม่เบลอ"
"ขอบใจ" พายัพเมฆพูดก่อนที่จะรับมา ทั้งคู่คิดยังไงไม่รู้แต่สองสาวน้อยจอมมโนด้านหลังนั้นฟินประหนึ่งนั่งดูซีรีส์เกาหลีกันไปแล้ว ทั้งสองจับมือกันยิ้มชอบใจใบหน้ากำลังเคลิ้มจนพิมพ์ชนกที่หันมาเห็นถึงกับงง
"ผีเข้าเหรอคะ คุณเพื่อน มโนอะไรกันอยู่" พิมพ์ชนกบอกก่อนที่จะหันกลับมามองตรงไปด้านหน้าแล้วหยิบขนมขึ้นมากินมองสายตาสองคนด้านหลังแล้วไม่ชอบใจจนหน้าร้อนไปหมด ในขณะที่รถยนตร์สี่ประตูคันดำสนิทของพายัพเมฆนั่นค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากปั้มน้ำมันแล้ว
พิมพ์ชนกไม่พูดอะไรมากแต่หยิบขนมขึ้นมากินผิดกับสองสาวด้านหลังที่กำลังพูดคุยกันอยู่ไม่หยุดปาก มือบางที่หยิบขนมอยู่เปลี่ยนทิศทางจากริมฝีปากของเจ้าของมือมาเป็นการยื่นไปหยุดตรงริมฝีปากเข้ารูปของชายคนขับแทน พายัพเมฆละสายตาจากถนนมามองเด็กสาวแว่บหนึ่งก่อนที่จะหันไปมองท้องถนนต่อแล้วอ้าปากออกให้ขนมชิ้นนั้นถูกส่งเข้ามาในปาก เขาเคี้ยวตุบๆก่อนที่จะถูกป้อนอีกหลายคำ สลับกับการป้อนกาแฟเย็นให้ดื่ม
ชั่วโมงต่อมาก็มาถึงสถานที่จัดงาน คอนเสิร์ตครั้งนี้เริ่มเวลา15.00นาฬิกา แต่ก็มีผู้คนมารอกันตั่งแต่เช้ากลุ่มของพิมพ์ชนกเองก็ด้วย เพื่อนทั้งสองลงความเห็นว่าควรมาตั้งแต่เช้าจะได้มีเวลาเที่ยวดูของของค้าขายรอบๆงาน
"ตรงนั้นมีร้านขายของด้วย ไปดูกันป้ะ" ชมพูนุชพูดเมื่อมาถึงหน้างาน
"ไปดิๆ" สองสาวพูดแล้วพากันเดินแกมวิ่งไป พายัพเมฆถอนหายใจแล้วสาวเท้าเดินตามไปติดๆทันที กรรมใดของเขากันหนอต้องมาคอยเดินตามเด็กต้อยๆแบบนี้
พิมพ์ชนกและเพื่อนมาหยุดที่ร้านเครื่องประดับแห่งหนึ่ง ที่มีทั้งสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือและแหวนเครื่องประดับจุกจิก ลูกสาวผบ.หน่วยพิเศษวัยเกือบ18มองสร้อยคอคู่แปลกตาอย่างไม่วางตาเช่นเดียวกับพายัพเมฆที่รู้สึกชอบไม่น้อย เช่นเดียวกับแหวนสองวงที่วางอยู่ตรงหน้ามันดูธรรมดาราคาไม่แพงแต่ก็โดนใจทั้งคู่อย่างจัง
"พี่คะ" "น้องครับ" สองคนต่างวัยเอ่ยเรียกเจ้าของร้านพร้อมกันแทบเป็นเสียงเดียว
"สร้อยคู่นี้กับแหวนคู่นี้ราคาเท่าไหร่คะ/ครับ" เป็นอีกครั้งที่ทั้งคู่เอ่ยพร้อกันก่อนที่จะหันมองหน้ากัน
"เค้าพูดก่อน" พิมพ์ชนกพูดก่อนที่เจ้าของร้านจะขำแล้วอธิบายราคา
"เอาสองอย่างนี้ครับ/ค่ะ" และแล้วทั้งคู่ก็พูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง พิมพ์ชนกหันมองคนที่จะมาแย่งตาเขม่น แต่พายัพเมฆก็ไม่ยอมเช่นกัน
"เค้าพูดก่อน" พายัพเมฆพูดและแล้วทั้งสองก็เปิดสงครามแย่งชิงกันจนคนอื่นงุนงง
"แฟนก็ไม่มีจะซื้อไปทำไมฮ้ะ นี่มันของคู่รัก"
"ตัวมีตายล่ะ ตายน้ำตื้นตลอด"
"ยัยนางมาร"
"ทำมะ เค้าพูดจริงอ่ะ แล้วอีกอย่างของคู่นี่ไม่ต้องใส่กับคนรักหรอก เค้าจะใส่กับเพชรแท้"
"เหอะ แบบนั้นผู้หญิงคงไม่กล้ายุ่งกับนายแท้เพราะจะเข้าใจว่าตัวเป็นแฟนแท้"
สองคนต่างวัยเถียงกันจากเรื่องเครื่องประดับลามไปถึงเพชรแท้ หรือ พชรดนัย แฝดคนละฝาของพิมพ์ชนกไปซะแล้ว
แม่ค้าที่ยืนมองอยู่ตัดสินใจบางอย่างก่อนที่จะพูดขึ้น "เอ่อ เอางี้มั้ยคะคุณลูกค้า"
คนต่างวัยหันไปมองก่อนที่แม่ค้าจะพูดต่อ "คือแม่ค้ามีสร้อย สร้อยข้อมือ และแหวน คอลเลกชั่นนี้เหลือแค่สามชิ้นที่เห็นนี้ ถ้าน้องผู้หญิงกับพี่ผู้ชายชอบ ซื้ออย่างละชิ้นมั้ยคะ"
"พี่ต้องการเป็นคู่" "หนูต้องการเป็นคู่" สองคนพร้อมใจกันพูดจนแม่ค้าสาวหน้าซีด
"งั้น แม่ค้าว่า น้องผู้หญิงเอาสร้อยไป ส่วนพี่ผู้ชายเอาแหวนไปแล้วกันนะคะ" แม่ค้าสาวพูดแต่สองคนยังตึงอยู่ "แม่ค้าแถมสร้อยข้อมือให้คนละอันเลย เรื่องนี้จบนะคะ แล้วค่อยไปซื้อไปขายกันเอาเอง"
"นะคะ น้องผู้หญิงยังเด็กใส่สร้อยน่าจะเหมาะกว่า ส่วนพี่ผู้ชายซื้อแหวนไปใส่กันแฟนเก๋ๆเหมาะกว่า"
"ฮึย ก็ได้ค่ะ" พิมพ์ชนกพูดเสียงอ่อยๆ พายัพเมฆเเองก็ต้องยอมพยักหน้า แม่ค้าสาวถึงกับถอนหายใจโล่งขายสร้อยคอให้พิมพ์ชนกและแหวนให้พายัพเมฆได้สำเร็จ แถมยังแถมสร้อยข้อมือหนังห้อยจี้หัวใจที่คล้ายๆกันให้คนละอัน ทั้งสามอย่างมีลวดลายรูปทรงที่เข้ากันเป็นชุดเดียว ก่อนไปแม่ค้าสาวใส่สร้อยข้อมือให้ทั้งสองเองกับมือ
"ถือเป็นสร้อยข้อมือผูกมิตรนะคะ ใส่แล้วเลิกทะเลาะกันเนาะ" คำพูดทิ้งท้ายของแม่ค้าขายเครื่องประดับดังขึ้นก่อนที่กลุ่มของพิมพ์ชนกจะเดินจากไป
พายัพเมฆมองสร้อยข้อมือแล้วส่ายหน้ากับตัวเอง สร้อยผูกมิตรเหรอ ขืนผูกมิตรกับพิมพ์ชนกเขาก็ซวยสิ ไม่พ่อเขาเข้าใจผิดประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพิมพ์ชนกเป็นคู่หมั้นกันก็โดนฤทธิ์หวงลูกของธนกฤตและพิมพ์ลภัสเล่นงานน่ะสิ
หลังจากนั้นสามสาวก็ใช้เวลาที่เหลือเดินเล่นสนุกโดยมีพายัพเมฆเดินตามดูแลอยู่จนกระทั่งถึงเวลาเปิดการแสดง สามสาวก็หาทางที่จะไปยืนแถวหน้าของเวทีให้ได้ การเบียดเสียดของผู้คนที่อยากไปเห็นศิลปินดังใกล้ๆทำให้พิมพ์ชนกและพายัพเมฆพลัดหลงกับอีกสองคน พายัพเมฆขยับเข้ามาใกล้เด็กสาวเมื่อเห็นว่ารอบข้างสาวน้อยมีแต่ผู้ชายวัยรุ่นอาจจะมีการจงใจเบียดเสียดเพื่อลวนลามเกิดขึ้นได้
แต่อนิจจายิ่งใกล้กลับเป็นร่างของเขายิ่งแนบชิดกับเด็กสาวซะเอง พายัพเมฆตัดสินใจรวบร่างบางเข้ามาไว้แนบกายยิ่งขึ้นแล้วพาออกจากกลุ่มคนไป
"ไม่ต้องไปเบียดกับคนอื่นแล้ว ยืนมองตรงนี้แหละ มันอันตราย" พายัพเมฆบอกแต่ยังไม่ทันได้คลายอ้อมแขนออก เขาค่อยๆคลายอ้อมแขนออกแล้วเปลี่ยนมาจับมือเด็กสาวไว้จนสาวน้อยมองอย่างสงสัย
"จับไว้เดี๋ยวหลงเข้าไปอีก อาธามได้ฆ่าเค้าตาย" พายัพเมฆบอกก่อนที่เด็กสาวจะทั้งกุมมือตอบและเกาะแขนไว้เพราะกลัวจะมีวัยรุ่นชายมาลวนลาม
"เค้าอยากดูใกล้ๆอะ อิจฉาพวกหน้าเวทีจัง" เด็กน้อยผู้ถูกกักตัวเพราะกลัวหลงเอ่ยเสียงอ่อยแต่ใบหน้ายังคงยิ้มน้อยๆ ไม่รู้เพราะอบอุ่นใจหรือเพราะอะไรกันที่ทำให้เธอยิ้มออกมาแบบนี้ มันตอบตัวเองไม่ได้เสียด้วยสิ
ด้านพายัพเมฆนั้นมองสาวน้อยแล้วถอนหายใจครั้งที่ร้อยหรืออาจจะมากกว่านั้น ยิ่งหนียิ่งเจอ ยิ่งอยากห่างยิ่งได้เข้ามาใกล้ ยิ่งเขาไม่อยากอยู่ใกล้พิมพ์ชนกเขายิ่งต้องมีเหตุการณ์ให้ใกล้ชิด ใกล้ชนิดที่เกินพอดี หนีเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้ แต่ก็ช่างเถอะ สักวันเขาต้องหนีให้พ้น
เรื่องราวของน้าพลายกับยัยนางมารน้อยพริกไทยดำจะเป็นอย่างไรติดตามนะคะ รุ่นพ่อแม่เลี่ยนถึงไหนรุ่นนี้จะเลี่ยนกว่า(หราาา)555+
ใครไม่เคยอ่านรุ่นพ่อแม่ เข้าไปอ่านได้ที่ เจ้าสาว (สำรอง) ม.ปลายที่รักนะคะ
และใครที่ติดตามเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นธัญวลัยด้วยบอกเลยว่าเส้นเรื่องใกล้เคียงกันแต่หวานละมุนอุ่นละไมกว่าเวอร์ชั่นธัญที่ออกจะแซ่บแบบงงๆ555 แนะนำให้ติดตามแค่เวอร์ชั่นเดียวนะคะเดี๋ยวจะจับจ่น แต่ถ้าใครประสาทสุดยอดจะอ่านทั้งสองเวอร์ก็ไม่ว่ากันจ้า
ความคิดเห็น