คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [Fic KNB] Difference l [อาเคมิ อากาเนะ]
สเก็ดดาราดวงที่สอง
สตรีโฉมงามแสนหยิ่งยโส ผู้สูงศักดิ์เกินกว่าใครจะเทียบเทียม
นางผู้มากพร้อมด้วยทุกสิ่ง ทรัพย์สิน อำนาจ หน้าตา ล้วนมีในครอบครอง
ทว่าทุกสิ่งที่มี ใช่ว่าจะได้มาอย่างง่ายดาย
{The Lady of Lordliness
Akio Akemi}
K E Y
Kise Ryouta
|
A D I L E N E
Akemi Akane
|
Application
"น่ารำคาญ! ทำไมฉันต้องทนฟังนายพูดเรื่องพวกนี้ด้วยห๊ะ เป็นพ่อฉันรึไงยะ!“"
ชื่อจริง : อาเคมิ อากาเนะ ll Akemi Akane
*ความหมายพาเพลินอลเวงพางง (?)* อาเคมิ นั้น ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า สวยงามค่ะ! ส่วนของอากาเนะนั้นมีความหมายว่า สีแดง หากนำมารวมกันก็จะได้ว่า [สีแดงอันสวยสดงดงาม] เวิ่นเว้อเพ้อเจ้อแบบผู้ปกครองนิดหน่อยก็จะเป็น [สีแดงสดราวบุปผกาฮิกังบานะที่สวยสดงดงามเกินต้านทาน] อะไรประมาณนั้นค่ะ!
*ชื่อนี้มีที่มา (?)* ชื่อ อากาเนะ ของเธอนั้น ได้มาจากสีผมสีส้มชมพูที่ดูคล้ายคลึงราวกับเป็นสีแดงน่าหลงใหลนั่นเองค่ะ! พ่อของอากาเนะที่ชอบสีแดงเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ก็เลยให้เธอได้ชื่อนี้ไปเลยนั่นเองค่ะ*
ชื่อเล่น : เอเนะ ll Ane *ถึงจะมีชื่อเล่นชื่อนี้ไว้ ก็ไม่เคยมีใครเรียกนางด้วยชื่อนี้เลยค่ะ คนสนิทในโรงเรียนก็เรียกโค้ดเนม คนที่รู้จักในบ้านก็เรียกอากาเนะกันหมด ส่วนคนอื่นๆ ที่รู้จักกันนอกโรงเรียนนี่คือ ไม่กล้าเรียกเพราะกลัวนางวีนที่ไปเรียกโดยไม่ขออนุญาต---*
โค้ดเนม : อดิเลเน [Adilene] {ความหมาย = ชนชั้นสูง}
*เนื่องด้วยโค้ดเนม อดิเลเน นั้นมีความยาวอยู่หน่อยๆ และเวลาออกเสียงอาจทำบางท่านออกสลับได้ ทำให้บางคนไม่ออกเสียงผิดก็ชอบออกไม่ครบ สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้อากาเนะมาก อากาเนะผู้ปวดกระโหลกกับการเรียกผิดๆ ถูกๆ ของคนในโรงเรียน เลยตัดสินใจบอกให้เรียกว่า เลเน่น กันไปก็ได้ ง่ายดี จบ (?)* ll แต่ถึงอย่างนั้น อดิเลเน ก็ยังเป็นชื่อที่คนหมู่มากพากันใช้เรียกอยู่ดีค่ะ ชื่อเลเน่นที่ตั้งไว้เลยเหมือนไว้ใช้เรียกกันในกลุ่มคนสนิทเท่านั้น อากาเนะเลยรู้สึกคิ้วกระตุกมากกว่าเดิม ดังนั้นหากมีคนเรียกโค้ดเนมเธอผิด เธอจะหันไปแว้ดใส่เสียงสูงจนหูเเทบดับเลยล่ะค่ะ---
อายุ : 18 ปี
ลักษณะรูปร่างภายนอก : อาเคมิ อากาเนะ สาวงามวัยสิบหกที่ไม่ว่าผู้ใดล้วนแต่เอ่ยปากชมว่างามล้ำเสียเกินจะบรรยาย ด้วยเรือนกายดั่งทรงนาฬิกาทรายใต้เรือนผ้างาม กับสัดส่วนสูง174ซม.และน้ำหนัก54กก. ประกอบคู่ไปกับดวงหน้างดงามราวกับศิลปกรรมชั้นเลิศของปวงเทพเป็นทรงรูปไข่ได้สัดส่วนดูสง่า เข้าคู่กับเครื่องหน้าทั้งห้าที่งามล้ำปานได้รับการอวยพรากเทพีแห่งความงามอโฟรไดรท์ นัยน์เนตรทั้งสองข้างของเธอนั้นเป็นสีส้มสกาวงดงามเป็นประกายราวกับเพชรพลอยที่ไม่อาจตีราคาได้ ประกายตาคู่นั้นมักจะฉายแววเหย่อหยิ่งเเละดื้อรั้นเจือจางไว้อยู่เสมอๆ แพขนตาที่ล้อมรอบกรอบดวงตาเเสนสวยนั้นหนางอนโดยไม่ต้องพึ่งการประทินโฉมใดๆ เข้าคู่ไปกับเรียวคิ้วโก่งดังพระจันทร์เสี้ยวประดับฟ้าสีเดียวกับเรือนผม จมูกของเธอนั้นโด่งโค้งได้รูปเเละรั้นเชิดสื่อความรั้นเด่นชัดภายในตัว ทั้งริมฝีปากยังอวบอิ่มช่ำน้ำน่าลิ้มลองจุมพิตสีชมพูอ่อนสวย ผิวกายขาวนวลเนียนตาติดซีดเล็กน้อยทว่าก็อมชมพูเช่นคนสุขภาพดี ยิ่งประกอบกับเส้นผมเป็นเงางามสีส้มออกชมพูราวกับสีของเเซลม่อนเหนือดียาวสยายละเอวนั้นเเล้ว มันยิ่งกลายเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เธองดงามล้ำค่าจนเหมือนกับภาพวาดศิลป์ของจิตกรเอก ผู้รังสรรค์ความงามด้วยสีสันอันโดดเด่นจนสามารถสะกดทุกผู้คนให้แลมองราวต้องพะวงได้อย่างง่ายดาย นั่นแหละ คือความงามของเด็กสาวนาม อาเคมิ อากาเนะ
อุปนิสัย :
อาเคมิ อากาเนะ ผู้หญิงที่มีสโลแกนง่ายๆ เข้าใจตรงกัน แต่ฟังแล้วอยากจะเดินหนีหนักมากอย่าง สวย เริศ เชิด วีน เเละเหวี่ยง เจ้าหล่อนคือคนที่มีสิ่งเหล่านี้ในกระแสเลือดเเบบครบครันเเละครบเครื่องมาก ๆ! หากใครดูหนังละครอะไรก็ตามแต่ แล้วเกิดเจอนางร้ายเเสบสันสุดจะเเซ่บแล้วล่ะก็ ไม่ต้องไปมองหาไกลถึงค่ายถ่าย เพียงแค่หันมามองหน้าอากาเนะ คุณก็จะได้รับ นางร้าย ที่มองหาไปเลยในทันที อากาเนะนั้นเป็นผู้หญิงที่เกิดมาในตระกูลสูงและมากด้วยบารมี ชาติกำเนิดอาจจะดูไม่ดีแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพูดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ได้รับความเอาใจใส่จากบิดา และเป็นคนสำคัญของตระกูลอาเคมิที่ติดท็อปสามเรื่องรวยมากบารมีของญี่ปุ่น นั่นทำให้เธอโตมากับการตามใจ ประเคนทุกสิ่งที่อยากได้ให้ และการอยู่เหนือผู้อื่น จนได้มาเป็นภาพลักษณ์ที่ดูเหวี่ยง แรง และวีนสุดๆ นั่นเอง
อากาเนะหากถามว่ามีอะไรเป็นนางร้ายบ้าง ก็สามารถชี้ไปที่หน้าของเธอก่อนได้เลย เริ่มต้นด้วยสายตาของเเม่สาวงามนางนี้ อากาเนะเป็นคนที่มีสายตาติดหยิ่งและดูหาเรื่องคนอื่นโดยธรรมชาติ และการที่เธอตัวสูงกว่าสาวๆ ทั่วไปพอสมควร มุมมองจากสายตาของอากาเนะที่มองไปยังผู้อื่นจึงเป็นมุมมองต่ำ ทำให้ดูเหมือนกับว่า อากาเนะกำลังมองเหยียดและจิกตาใส่คนที่เธอหันไปมอง หรือกำลังสนทนาพาทีด้วยไปโดยอัตโนมัติ ให้ชาวบ้านเขาคิ้วกระตุกคิดกันเล่นๆ ว่า ยัยนี่มันหาเรื่องใช่ไหม ทั้งที่ความจริงคือไม่มีอะไรเลยนั่นเอง ต่อไปกับรอยยิ้ม..อาเคมิ อากาเนะ เป็นผู้หญิงที่ใครต่อใครกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่านาง ยิ้ม-ยาก-มาก หรืออย่างน้อยก็กับคนนอกที่ไม่รู้จักนั่นแหละ มิหนำซ้ำ อากาเนะยังอารมณ์เสียง่ายจนหน้าของเธอมักดูเหวี่ยงตลอดเวลา ผู้คนเลยพากันคิดว่าตัวอากาเนะนั้นยิ้มไม่เป็น ทำให้ความสัมพันธ์แรกพบที่อาจจะได้มาจากรอยยิ้มของเธอ หายวับไปเลยนั่นเอง
อากาเนะไม่สนเรื่องรอยยิ้มเท่าไหร่ เธอคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องยิ้มออกมาให้ใครต่อใครเขาไปเรื่อยๆ เพื่อทักทายแบบที่คนอื่นเขาทำกันหรอกนะ สำหรับเธอเเล้วมันค่อนข้างเป็นเรื่องไม่โอเคเท่าไหร่ ปกติเเล้วรอยยิ้มน่ะ มันมีให้เฉพาะกับตอนที่เราสนุกจริงๆ กับคนสนิทๆ สิ! จะมาแจกยิ้มไปเรื่อยๆ รอบๆ เพื่ออะไรเล่า ไม่ได้มาหาเสียงสักหน่อย ดังนั้นกับใครที่เธอไม่ได้สนิทสนมด้วยเเล้วล่ะก็ จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มของอากาเนะเลยแม้แต่นิดเดียวเลยล่ะนะ แต่มีอยู่ยิ้มหนึ่งที่อากาเนะสามารถเเจกจ่ายมันให้ได้ทั่วถึงถ้วนหน้า นั่นคือ ยิ้มหยันเเสยะใจของแม่นางนั่นเอง อันนี้คือพร้อมมอบให้ทุกคนแบบไม่หวงแหนเลยจ้า---ถามว่าอากาเนะยิ้มได้ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ล่ะนะ แค่ว่าเธอจะยิ้มออกมาเฉพาะเเค่ตอนที่ตัวเองรู้สึกมีความสุขมากๆ ไม่ก็ตลกเสียจนทนไม่ไหว หรือไม่ก็ตอนที่มันต้องยิ้ม และอยู่กับเพื่อนสนิทคนสนิทของเธอเท่านั้น การอยู่กับคนที่สนิททำให้อากาเนะผ่อนคลายเเละเป็นธรรมชาติ เธอจึงยิ้มออกมาได้อย่างสวยงาม แต่หากว่าไม่สนิทแล้วมันก็รู้ฝืนๆ เกร็งๆ ถ้าหากจะต้องยิ้ม ดังนั้นมันก็เลยกลายเป็นรอยยิ้มเเสยะไปเป็นที่เรียบร้อยนั่นเอง..
อากาเนะเป็นคนที่ตาหาเรื่อง หน้าเหวี่ยงตลอดเวลา แถมไม่ยิ้มอีก ดังนั้นด้วยองค์ประกอบนี้ ก็พอจะบอกได้เเล้วล่ะมั้งว่าทำไมคนส่วนมากถึงได้ไม่ชอบเธอกันสักเท่าไหร่ ก็คนส่วนมากสมัยนี้เขาไม่ชอบพวกตัวร้ายกันไม่ใช่เหรอ“ แต่ขอโทษนะ บังเอิญว่าอาเคมิ อากาเนะคนนี้นี่แหละค่ะ ตัวร้ายของเเท้มันตั้งเบ้าหน้ายันนิสัยที่ซึมลึกยันกระเเสเลือดเลย--นั่นเเหละ นอกจากหน้าตาสวยแต่ดันไม่เป็นมิตรเเล้ว เเม่คุณยังมีนิสัยที่เสียเอาเรื่องเลยด้วย ส่วนที่ดูมีปัญหาเอามาๆ นั่นคือปากของเธอ อากาเนะเป็นมนุษย์ที่ปากคอเราะร้าย พูดจาได้ชวนให้เข้าไปตบเป็นที่สุด เธอเป็นคนที่ยากแท้จะหาความเกรงใจได้ในน้ำเสียง หากไม่ใช่คนที่เคารพ มารดาที่รัก หรือครูบาอาจารย์ แถมเจ้าตัวยังเป็นพวกที่ชอบใช้ปากจัดๆ ของเธอ ไปจิกกัดคนอื่นเป็นชีวิตจิตใจจนเหมือนกับว่า การจิกกัดด่าชาวบ้านของอากาเนะ มันก็คือการกล่าวคำว่าสวัสดีเขาชาวบ้านเขายังไงยังนั้น
อากาเนะปากร้ายมากจริงๆ ขนาดเวลาจะชม เธอยังไม่ยอมชมดีๆ เลย ไม่รู้ว่านางอายหรือนางชินกับการด่าชาวบ้านเขากันเเน่ ถึงต้องสรรหาคำติมาแฝงแนบเข้าไปในประโยคคำชมของตัวเองด้วย ยกตัวอย่างเช่น 'แต่งตัวสวยดีนะ..แต่ใส่กางเกงเเบบนั้นเเล้วขาใหญ่เป็นบ้า เอาเถอะ รวมๆ ก็สวยดี' คือนาง ชม ด่า และชมปิด ทีนี่คือคนโดนชม (และด่าไปในตัว) ก็เลยได้แต่ยิ้มบางรับคำ แต่เชื่อสิว่าในใจนี่ด่าไปสามโคตรเเล้วแน่นอน--หรือถ้าไม่ได้ใช้เสต๊ปชมด่าชม ไม่ก็ด่ากันตรงๆ อากาเนะก็จะเหน็บเบาๆ พอเป็นพิธีให้จี๊ดในอกเล่นๆ ให้ได้รู้กันถ้วนหน้าว่า ชาตินี้เเม่นางก็ไม่พูดดีๆ ให้เมื่อยปากผิดคอนเซปต์นางร้ายตัวเองหรอก---หากให้ยกตัวอย่างประโยคทั่วไปประมาณอาจารย์มาเเล้ว อากาเนะก็มักพูดทำนองว่า เอาแต่นั่งเมาท์เป็นแม่ค้าตลาดแตกอยู่ได้ อาจารย์เข้าเเล้วเห็นไหมยะ! อะไรแบบนั้นนั่นแล..แต่กรณีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นั้น เป็นกรณีเฉพาะกับตอนที่เธอพูดกับคนทั่วไปอย่างเพื่อนในห้องที่ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายน่ะนะ กับคนที่สนิทเเล้วคำพูดคำจาเธอจะต่างไปจากเดิมนิดหน่อย จิกน้อยลง ด่าไม่มาก และมีหยอกมีล้อกันมากขึ้นนั่นเอง ถ้าจะหาประโยคปกติไร้คำด่าได้ ก็คงหาจากตอนที่เธอคุยกับเพื่อนสนิทนี่แหละ
อากาเนะมีลักษณะการพูดที่เเตกต่างตามบุคคล แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันไปหมดคือ แม่นางจะพูดเสียงดังมาก และเเหลมมากๆ เลยด้วย---อากาเนะเป็นคนที่ติดพูดเสียงดังๆ อยู่ตลอด ทั้งยังมีความห้วนสั้นในน้ำเสียงอยู่มาก นั่นเพราะเธอมักเน้นเสียงในประโยคคำพูดบ่อยๆ และชอบใช้เสียงแหลมๆ ของเธอแว้ดด่าคนเป็นประจำจนมันติดเป็นนิสัยนั่นเอง อากาเนะเป็นคนที่มีสภาวะทางอารมณ์แปรปรวนมาก อย่างกับคลื่นในท้องทะเลอย่างไรอย่างนั้น บางทีเห็นดีๆ นั่งหน้าบึ้งเหมือนเดิมเห็นได้ทั่วไป แต่คุยกันไปคุยกันมาแล้วเกิดไปพูดจาไม่เข้าหูขึ้นมา เธอก็สามารถปรี๊ดแตกเเล้วลุกขึ้นมาตบโต๊ะด่าใส่ได้เเบบไม่สนอินทร์พรหมใดๆ ได้เช่นกัน สาเหตุนั้นเพราะอากาเนะหงุดหงิดง่าย เธออารมณ์ร้อนเอาเรื่องเลยทีเดียว แค่เรื่องเล็กน้อยมันก็สามารถทำให้เธอโกรธขึ้นมาได้เเล้ว อย่างเดินๆ อยู่เเล้วมีคนเดินมาชนโดยไม่ขอโทษ อากาเนะก็พร้อมหันกลับไปเหวี่ยงใส่ด้วยท่าทางเอาเรื่องอย่างมากได้เช่นกัน การได้เห็นอากาเนะโกรธเนี่ย มันเป็นเรื่องปกติของคนรอบตัวเธอเลยล่ะ
อากาเนะพอปรี๊ดเเล้ว เธอก็จะวีน เหวี่ยง กรี๊ดเสียงสูงจนแก้วหูชาวบ้านเขาพังตามๆ กันไปรัวๆ เลยล่ะ อารมณ์ของเธอขึ้นลงไปมาไม่ค่อยจะนิ่ง ความอดทนนั้นหาได้ยากนักจากตัวของอากาเนะ เพราะงั้นเเล้ว หากว่ามีใครเข้ามาหาเรื่องตบตีกับเธอ อากาเนะก็ไม่คิดจะอดทนให้อีกฝ่ายมาหาเรื่องกัน แล้วเดินจากไปเฉยๆ หรอก รับรองว่ามีหันไปฟาดมือใส่แบบไม่สนสถานที่แน่นอน อากาเนะไม่ชอบให้ใครมาแหย่มาหาเรื่องเธอ หน้าเธอเหมือนคนที่จะเข้ามาตบหัวเเล้วหัวเราะได้หรือไง“ เด็กสาวมักหงุดหงิดอย่างมากเมื่อถูกหาเรื่อง นอกจากจะกรี๊ดเเละด่าใส่เเล้ว อากาเนะยังพุ่งเข้าไปตบตีอีกฝ่ายด้วยเเรงอันเยอะเเยะของเธออีกต่างหาก สำคัญคือเจ้าตัวเป็นอะไรที่แบบว่า ถึงจะอยากให้หยุด นางก็ไม่หยุดอยู่ดีอ่ะค่ะ อากาเนะเป็นคนที่ถือคติว่า การจะลงไม้ลงมือสักครั้งมันต้องทำให้เต็มที่ ใครที่มาหาเรื่องก็ต้องโต้คืนกลับไปให้หมด! และอนึ่งอันใด อากาเนะเป็นผู้หญิงที่มือหนักมากๆ ตบทีสองทีก็ทำเลือดกลบปากได้เเล้ว ดังนั้นสภาพคู่ตบเธอเลยไม่ค่อยจะน่าดูชมเท่าไหร่น่ะนะ..
อากาเนะน่ะรู้เเน่นอนอยู่เเล้ว ว่าถ้าไปพูดจาจิกกัดใส่คนอื่น เขาจะไม่ชอบแล้วมาหาเรื่องเราได้ เเล้วถ้าเกิดต้องทะเลาะวิวาทกันขึ้นมามันก็จะไม่เป็นผลดีกับตัวเอง แต่คิดว่าคนอย่างอากาเนะจะสนไหมล่ะ“ เธอไม่ได้สนว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง เธอสนแค่ว่าจะต้องสั่งสอนคนปากดีให้ได้สักทีเท่านั้นเอง ดังนั้นจะให้เธอหยุดเพียงเพราะเเค่เอาครูมาอ้างหรือตะโกนบอกให้หยุดน่ะ ไม่ได้หรอกนะ ต้องลากออกไปด้วยกำลังนั่นเเหละถึงจะละมือออกจากคู่ตบตัวเองได้ อากาเนะไม่เกรงกลัวกฎของโรงเรียนมากนัก เพราะเธอเติบโตมากับการที่ว่า ฉันจะทำอะไรก็ได้ ไม่มีใครว่าอะไรฉันได้ ถึงจะว่าก็ทำได้แค่แอบว่าลับหลัง ทำให้เธอติดนิสัยทำอะไรตามใจอยากเอามากๆ และอีกอย่าง อากาเนะไม่กลัวว่าจะโดนลงโทษหรือฟ้องร้องอะไรรุนเเรงหรอก บ้านเธอรวยไง บารมีเยอะด้วย จะมาฟ้องร้องกล่าวว่าอะไรก็ช่วยดูด้วยล่ะกันนะ ว่าใหญ่พอจะสู้ได้ไหม--แต่ถึงอย่างนั้น อากาเนะก็ยังเคารพครูบาอาจารย์อยู่บ้างเช่นกัน เธออาจจะไม่รับว่าคนผิดคือเธอ แต่ถ้าอาจารย์มาช่วยพูด แม้จะไม่เต็มใจอากาเนะก็พร้อมขอโทษ และหากอาจารย์ต้องการจะดุด่ากล่าวว่าอะไร อากาเนะก็พร้อมจะรับแม้ว่าไม่อยากรับหรือเถียงบ้างอะไรบ้างก็ตามที
อากาเนะฟังอาจารย์..แต่ก็ต้องขอโทษไว้ตรงนี้ เพราะถึงเธอจะฟังอาจารย์ แต่ทางฝั่งนั้นก็เกรงใจตระกูลเธออยู่บ้างเหมือนกัน มันเลยกลายเป็นว่า อากาเนะไม่เคยโดนโทษอะไรที่หนักไปกว่าการตักเตือนนิดๆ หน่อยๆ เลยสักหนเดียว ซึ่งเบากว่าโทษที่เธอควรจะรับแบบปกติเอามากๆ นั่นทำให้เธอหันไปยิ้มเยาะใส่คู่กรณีตัวเองทันที อารมณ์ ได้ทีขี่แพะไล่ สุดๆ ไม่คิดสงสารด้วย แน่ล่ะ นางร้ายที่ไหนมันจะสงสารนางเอกกัน มีแต่จะซ้ำให้เจ็บหนักกว่าเดิมล่ะสิไม่ว่า..แต่มันก็เพราะว่า อีกฝ่ายมาหาเรื่องเธอก่อนล่ะนะ ถึงเธอจะผิดที่ไปตอบโต้รุนเเรง แต่ให้ยืนให้เขาตบเฉยๆ มันก็ไม่ใช่แนวอาเคมิ อากาเนะเลยเนี่ยสิ
อากาเนะจะเยาะเย้ยคนที่หาเรื่องกรณีที่อีกฝ่ายผิด แต่ถ้าฝ่ายที่ผิดเป็นเธอจริงๆ แล้วมีคนสนิทไปพูดให้เข้าใจว่าเธอผิดนะ อากาเนะก็พร้อมจะยอมรับผิดเช่นกัน ถึงเเม้ว่ามันจะเป็นการยอมรับผิดเเบบไม่เต็มใจเหมือนเดิม แต่อากาเนะก็ยังแสดงความรู้สึกอยากจะขอโทษเบาๆ ด้วยการหากระเช้าไปเยี่ยมไข้ (ถึงเเม้ว่าอีกฝ่ายเเค่ไปนั่งทำแผลที่ห้องพยาบาลก็จบแล้วก็เถอะ) ไปโยนใส่ หรือบางทีบางรายเป็นไม่มากแค่แก้มบวมแผลถลอก อากาเนะก็จะซื้อขนมหรือของกินที่อีกฝ่ายชอบไปถล่มโต๊ะมันเเทนคำขอโทษซะเลย ง่ายดี และ! เธอให้ไปเเล้วต้องรับด้วยนะ!! ห้ามปฏิเสธ ห้ามเอามาคืน และห้ามโยนทิ้งด้วย! ไม่ใช่แค่ของไถ่โทษและนะ แต่เป็นของทุกอย่างที่อากาเนะให้คนอื่นเลยต่างหากล่ะ ต่อให้มันไม่น่ารับยังไงก็ต้องรับ! เข้าใจไหม!
อากาเนะนานๆ ทีจะลุกไปหาของมาให้ชาวบ้านเขา แม้กระทั่งงานวันเกิดเพื่อนตัวเองยังไม่รู้สึกอยากจะไปหาของขวัญมาให้เลย ดังนั้นถ้าเธอลงทุนไปหามาให้ใครเเล้วล่ะก็ จะมาปฏิเสธน้ำใจ (?) กันเเล้วไม่ยอมรับของน่ะไม่ยอมหรอกย่ะ! เเละปฏิกิริยาที่จะได้รับหากปฏิเสธของของเธอ นั่นก็คือ อากาเนะจะวีนลั่นบ้านลั่นเมือง เพิ่มเติมคือมีความเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นหลายเท่า เขาไม่เอา เธอก็ยังจะพยายามยัดเหยียดของใส่มือไปให้ได้ พออีกฝ่ายเอาไปถือก็ยังไปขู่ว่าถ้าทิ้ง แม่จะตบให้ฟันร่วงเลย เเล้วเดินหนีออกไปเลยอีกต่างหาก เป็นการกระทำที่ทั้งน่าส่ายหัวเหนื่อยหน่ายใจ และหัวเราะไปกับท่าทางที่มีความน่ารักแฝงอยู่อ่อนๆ นั่นจริงๆ
อากาเนะเกิดมาในตระกูลใหญ่ เป็นลูกคุณมีอันจะกิน ตั้งเเต่เด็กจนโตล้วนมีแต่คนคอยตามใจมาโดยตลอด หรืออย่างน้อย ไม่อยากตามใจเธอยังไง อีกฝ่ายก็ต้องทำตามใจเธออยู่ดีนั่นแหละ ทำไงได้ คนมันใหญ่อ่ะ (..) ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อมีคนมาตามใจตนแล้วอากาเนะจะรู้สึกดี๋ด๊าอย่างมาก มันทำให้รู้สึกเหมือนกับว่า เธอใหญ่สุดในที่แห่งนั้น เเละเมื่อเธอใหญ่สุดเเล้ว อากาเนะอยากจะได้อะไร เธอก็ต้องได้! ปกติเเล้วเด็กสาวไม่ใคร่จะสนวิธีการนัก ในการที่จะเอาของที่ตนอยากได้มาครอบครองให้ได้ แต่ถึงอย่างนั้นตัวอากาเนะน่ะไม่ใช่คนเลวร้าย ที่ใช้เเผนกานสกปรกเลวๆ อะไรหรอกนะ อย่างมากสุด เธอก็แค่ใช้อำนาจที่อยู่ไปสืบค้นประวัติ หรือปรับเปลี่ยนอะไรในโรงเรียนนิดหน่อยในทางมิชอบเอ๊งง (?) สรุปกันเเล้วก็คือ อากาเนะจะพยายามทำทุกอย่างและทุกวิธีทาง ตั้งเเต่ชี้นิ้วสั่งให้ใครไปเอามาให้ หรือไปบังคับมันด้วยตัวเองตรงๆ เพื่อให้ได้ในของที่เธออยากได้!
อากาเนะไม่ชอบให้ใครมาขัดใจเธอ หากใครไม่ทำตามที่เธอสั่งหรือขอ อากาเนะจะปรี๊ดแตกสุดๆ จะเหมือนระเบิดลง แต่ก่อนที่อากาเนะจะปรี๊ดแตก เธอจะเตือนอีกฝ่ายก่อนเป็นจำนวนสองรอบ ว่าทำตามที่เธอบอกซะถ้าไม่อยากให้โมโห แต่ถ้าย้ำเเล้วยังไม่ยอม แม่คุณก็จะระเบิดลงหนักกว่าปกติเป็นร้อยเท่า กรี๊ดใส่ แล้วยกมือฟาดพร้อมด่าประมาณว่า มีสิทธิ์อะไรมาขัดใจฉันยะ!“ เป็นเวลาต่อไปนั่นเอง และนั่นแหละ..เสียงอากาเนะเเหลมจะตาย ตอนกรี๊ดทีคือหูแทบพัง แถมมือนางยังหนักสุดติ่งจนนึกเท้าเสืออีก โดนรัวมือฟาดเเบบนั้นได้ช้ำพราวไปทั้งตัวเข้าสักรอบแน่ๆ ดังนั้นชาวบ้านเขาเลยไม่ค่อยอยากขัดใจอากาเนะเท่าไหร่ไงล่ะ เพราะกลัวโดนวีนแตกใส่เนี่ยแหละ ไม่ใช่อะไรมากมายเลย
อากาเนะเป็นพวกที่มักจะทำอะไรเกินกว่าเหตุไปบ้างในบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรรุนเเรงแบบที่กะจะให้เจ็บหนักหรือหมดอนาคตกันหรอกนะ อากาเนะเป็นคนที่ไม่ชอบวิธีสกปรกตัดอนาคตใครเขาเท่าไหร่ อย่างการที่ไม่ชอบหน้าเเล้วทำท่าประมาณ ฉันจะใช้บารมีตระกูลฉันไล่แกออกจากโรงเรียนนี้! อย่างที่พวกละครหลังข่าวเขาทำกันหรอกนะ เธอว่าอะไรแบบนั้นมันโคตรโหลอ่ะ แถมยังรู้สึกเหมือนว่าตัวเองสู้เขาไม่ได้จนต้องไปใช้บารมีตระกูลตัวเองในการชนะอีก ไม่โดนใจเธอเลยสักนิด! สำคัญคืออากาเนะชอบที่จะโต้ตอบแบบตรงไปตรงมาและต่อหน้าต่อตากันมากกว่า แบบฟันต่อฟัน ตาต่อตาอะไรแบบนั้น แต่ถึงเธอจะมือหนักตบตีรุนเเรงมากปานใด อากาเนะก็แค่ทำให้อีกฝ่ายต้องไปห้องพยาบาล นั่งทำแผลจิกข่วนตบที่เธอทำไว้เเค่นั้นเองเเหละ
อากาเนะไม่เคยทำอะไรใครเเรงจัดถึงขั้นหัวร้างข้างแตก มือเธอหนัก เเต่นี่ไม่ใช่เท้าช้างนะยะ ถึงจะตบคนจนต้องเข้าโรงพยาบาลได้ แต่..โอเค ยอมรับว่าบางทีโกรธขึ้นตา เผลอรุนเเรงไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นอากาเนะก็ยังรับผิดชอบการกระทำของตนเอง ด้วยการออกค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดเเละไปเยี่ยมอีกฝ่ายเป็นประจำเป็นการไถ่โทษในแบบของเธอนั่นเอง อนึ่ง ไปเยี่ยมในที่นี้หาได้ไปนั่งถามแบบห่วงใย คอยหาน้ำท่าไม่ การไปเยี่ยมของอากาเนะคือ แบกกระเช้าเยี่ยมไข้ไปนั่งไขว้ห้างข้างเตียง ปอกผลไม้ใส่ปากตัวเองแล้วทะเลาะกับคนต่างหากล่ะ! แล้วถ้าว่าปกติแล้วมันต้องไปดูเเลคนป่วยนะ อากาเนะก็จะขอบอกตรงนี้เลยว่า ไม่-ทำ อากาเนะไม่ชอบดูเเลคนและทำไม่เป็นด้วย นอกจากจะดูเเลแบบส่งเดชเเล้ว เธอจะทำอีกฝ่ายเจ็บหนักกว่าเดิมล่ะสิไม่ว่า
อากาเนะและคนที่เธอทะเลาะกันมายืดยาวยันปีสาม (ซึ่งนับนิ้วเเล้วมีแค่สามคน---) จึงไม่ได้รู้สึกเกลียดกันอะไรแต่อย่างใด เพราะก็ได้ใกล้ชิดเเละเห็นด้านอื่นๆ ของอีกฝ่ายมากกว่าคนอื่นนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ปลื้มนิสัยปกติของกันเเละกันอยู่ดี มันเลยไม่เกลียดแต่ก็ชอบไม่ลงไปนั่นเอง ตัวอากาเนะนั้น ถึงจะนางร้ายขนาดไหนแต่ก็ยังมีข้อดีอยู่หลายอย่าง ที่ถ้าไม่ได้สนิทกันกันหน่อยชาติหน้าก็คงไม่ได้รู้ เพราะโดนความร้ายกลบตาหมดเป็นแน่ หรืออย่างน้อย อากาเนะก็เป็นคนมีความรับผิดชอบมากคนหนึ่ง ทั้งยังซื่อตรงต่อคำพูดของตัวเอง ไม่ปลิ้นปล้อนและตรงไปตรงมา (อันนี้คือด่าอย่างตรงไปตรงมาน่ะ..) และไม่ทำร้ายกันลับหลังหรือด้วยวิธีสกปรกด้วย ทั้งนี้บางคนอาจจะไม่รู้ เเต่ตัวอากาเนะไม่เคยเเกล้งใครก่อนนะ มีแต่เข้าไปตบไปด่าเพราะทนปากพล่อยๆ นั่นไม่ไหวเท่านั้นเอง---
อากาเนะไม่ชอบการกลั่นเเกล้งทุกรูปแบบ นั่นเพราะมันเป็นสิ่งที่เธอต้องเจอมาจากในบ้านของตนเองตั้งเเต่เด็กๆ จากเหล่าญาติทั้งหลายแหล่ที่ขยันเเกล้งเธอ จนทำให้อากาเนะรู้สึกเกลียดวิธีการแบบนี้เข้าไส้เข้ากระดูก เเละเพราะเจอมาเยอะเนี่ยเเหละ อากาเนะเลยไม่คิดเอาวิธีการบ้าๆ นี่ไปทำกับใคร รวมถึงมันทำให้เธอสามารถรับมือกับการสารพัดการกลั่นแกล้งสารพัดเเบบได้ด้วย อย่างถ้าคิดจะสาดน้ำใส่ อากาเนะที่หูดี ตาไวก็สามารถหลบได้ชิวๆ หรือถ้าเอาของเธอไปทิ้ง อากาเนะก็จะซื้อใหม่ เอาที่แพงกว่าเดิม ดีกว่าเดิม เเล้วก็ซื้อมาเรื่อยๆ จนกว่ามันจะเลิกเอาไปทิ้งเนี่ยแหละ ทำไมล่ะ รวยสักอย่างอ่ะ มีไรป่ะล่ะ? ไอ้การแกล้งเล็กๆ น้อยๆ นี่ไม่คณาผิวเธอหรอก จะบอกให้ แต่ถ้าเกิดมาเเกล้งจะๆ ตรงๆ ต่อหน้าประมาณแกล้งสะกัดขาหรือแกล้งเดินชนอะไรแบบนี้ รับรองว่าไม่ทนค่ะ อย่างที่บอกไว้นะ อากาเนะน่ะความอดทนต่ำจะตาย แกล้งมาเธอตบกลับอ่ะ ดังนั้นเเล้ว ถ้าคิดจะแกล้งเธอก็หัดทำเนียนหาคนจับไม่ได้ก็ดีนะ ไม่งั้นถ้าเกิดเธอจับได้ขึ้นมา..ตบหน้าแหกนะเออ
อากาเนะร้าย แต่ไม่ได้ร้ายแต่ปากมีดีแค่โม้ เธอร้ายเเบบมีชั้นเชิงเเละมีของดีให้ร้ายได้เยอะเเยะ หนึ่ง ปากเธอดี แต่ไม่ได้ดีเเบบดีกู๊ดอะไร แต่เป็น ปากดีปากจัดปากวอนหาเรื่อง สอง เธอมือหนัก เท้าก็หนัก จะท้าตบก็ได้ เดี๋ยวอากาเนะจะตบให้วิ่งโร่ไปหาครูกันไม่ทันกันให้หมดนั่นเเหละ และอย่างสุดท้ายที่เจ้าตัวพร้อมจะนำเสมอมากๆ นั่นคือ สมอง ของเธอ อากาเนะฉลาด..เอาเรื่องเลยด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นอากาเนะไม่ได้ฉลาดขนาดไอคิว200 แต่แม่คุณก็สามารถเก็บเกรดสี่ล้วนมาใส่ใบเกรดตัวเองได้เเล้วกัน ขนาดที่ทุกคนเห็นเธอวีนๆ เหวี่ยงๆ ไปวันๆ แต่ใครบ้างล่ะที่รู้ ว่าอากาเนะขยันเรียนเเละเรียนหนักขนาดไหนน่ะ?
อากาเนะเป็นคนมีความพยายามและขยันมากกว่าที่ใครคิด ด้านอารมณ์ความอดทนของเธออาจต่ำเตี่ยเรี่ยดิน แต่ความอดทนต่อความรู้สึกเหนื่อยล้าและท้อใจ อากาเนะมีมากเลยล่ะ เธออาจจะมีบ้างที่วี้ดว้ายโวยวายว่าเหนื่อยระหว่างทาง แต่สุดท้ายเเล้วพักไปได้ไม่ถึงชั่วโมงดีด้วยซ้ำ อากาเนะก็จะลุกขึ้นมาพยายามต่ออีกครั้งอยู่ดี พูดได้ว่า ถึงเธอจะบ่นเป็นตายขนาดไหนว่าจะเลิกบ้างล่ะ เหนื่อยบ้างล่ะ แต่สุดท้ายเธอก็ยังไม่ละทิ้งความพยายามเเละคิดเลิกอยู่ดี คำว่ายอมแพ้มันไม่เคยอยู่ในหัวของเธออยู่เเล้ว ถ้าคิดจะทำแล้วมันก็ต้องทำให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม และมันจะต้องออกมาดีด้วย สายตาคนนอก เธออาจจะเป็นคุณหนูที่เอาแต่วีนไปวันๆ แต่ความจริง อากาเนะมีสิ่งที่ต้องแบกรับเอาไว้ และมันก็หนักเกินกว่าที่เธอจะไปนั่งแก้ความเข้าใจคนที่คิดผิด ด้วยความจริงที่ว่า วันๆ หนึ่งเธอต้องเหนื่อยและพยายามอย่างมาก เเล้วด้วย
อากาเนะมีภาระที่หนัก แต่เธอไม่เคยยอมแพ้เเละยังคงพยายาม ตำแหน่ง ว่าที่ประธานบริษัทอาเคมิ ที่แบกอยู่บนบ่า และความเชื่อมั่นของบิดา นั่นคือแรงผลักดันของอากาเนะให้เธอก้าวต่อ เธอเหนื่อยได้ บ่นได้ แต่อากาเนะไม่มีสิทธิ์ท้อเเละหยุด ตัวของเธอนั้นมีความมุ่งมั่นเเรงสูงมากๆ และเธอจริงจังกับเรื่องเรียนมากเลยทีเดียว ตอนเข้าไปในห้องพักอาจจะตกใจเอาเรื่อง เพราะมันมีหนังสือเรียนเเละเรื่องการบริหารกองเต็มไปหมดเลยน่ะสิ วันหยุดทั้งหลายของอากาเนะ มันก็หมดไปกับการอ่านหนังสือพวกนั้นนั่นแหละ พยายามเเล้วก็ต้องพยายามให้มันถึงที่สุดจนกว่าจะตายกันไปข้าง นั่นแหละคติของอากาเนะ เเละเพราะเธอตั้งใจเรียนขนาดนี้นี่แหละ เธอถึงได้ฉลาดเอาเรื่องแบบนี้ ดังนั้น..ถ้าเกิดจะมาวางแผนแกล้งหรือทำอะไรเธอ ก็คิดให้รอบคอบละกัน โป๊ะเเตกขึ้นมา เดี๋ยวโดนเธอเล่นคืนเเล้วจะรู้เรื่อง
อากาเนะเป็นคนที่แบบ ใครดีมา เธอจะดีตอบ (นิดหน่อย---) แต่ถ้าใครร้ายมา..เธอก็จะร้ายกลับไปให้มากกว่าเดิมนับสิบเท่า เห็นแบบนี้แล้วแต่เเค้นฝังหุ่นมากๆ เลยล่ะ ถ้าโดนทำให้เจ็บแล้วล่ะ อากาเนะจะไม่พลาดแน่นอนที่จะโต้กลับให้อีกฝ่ายได้เจ็บกว่าเธอเป็นสิบเท่า หากว่าอากาเนะถูกใครพยายามแกล้งหนักๆ แล้วแต่เธอหาตัวไม่ได้ อากาเนะก็จะไล่หาให้เจอให้ได้ เธอน่ะมีเส้นสายเยอะเเยะไปหมดทั้งในและนอกโรงเรียน ข่าวสารมากมายเเล่นผ่านหูแทบตลอดเวลา ใครทำอะไรยังไงที่ไหนบ้าง ย่อมเป็นเรื่องที่หาได้ง่ายๆ และถ้าหาตัวเจอเเล้ว แน่นอนว่าเธอจะเล่นคืนหนักกว่าที่อีกฝ่ายทำแน่ ๆ..อากาเนะไม่ปล่อยวางง่ายๆ เธอเจ็บแล้วจำฝังเข้าหัว เกลียดใครเเล้วเกลียดยาวไม่มีลืม เพราะงั้นถ้ากล้ามาทำร้ายเธอ ก็แสดงว่าอีกฝ่ายต้องกล้าที่โดนเธอทำแบบเดียวกับที่ทำเธอมากกว่าเดิมสิบเท่าเช่นกัน
อากาเนะเป็นสตรีที่มีความเซนซิทีฟเรื่องรักใคร่สูงมาก ต้องบอกไว้ก่อนตรงนี้เลยว่า อากาเนะไม่เคยมีเเฟนเลย คนมาจีบก็หายต๋อม หาไม่เจอสักกะคน หน้าตาดีขนาดไหนแต่นิสัยเเบบนี้ก็ไม่รับประทานนั่นเอง--หนุ่มๆ ทั้งหลายนั้นถ้าเป็นไปได้ จะพยายามหลบเลี่ยงอากาเนะเสมอ เพราะนิสัยของเธอในสายตาพวกผู้ชายส่วนมากมันน่ารำคาญน่ะสิ และเพราะอีกฝ่ายหลบเลี่ยง อากาเนะเองก็ไม่คิดเข้าหา มันเลยทำให้เธอไม่คุ้นชินกับพวกผู้ชายนัก เวลาเจอหน้าหรือต้องอยู่ด้วยกัน อากาเนะเลยถอยห่างออกมาเท่าที่จะทำได้เสมอ เรียกได้ว่าเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติตอนเจอผู้ชายก็ว่าได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นอากาเนะไม่ชอบให้ผู้ชายมาเเตะเนื้อต้องตัว โดนกันนิดหน่อยก็หลุดสะดุ้ง ปัดมือใส่แล้วเบ้หน้าแล้ว (..) ไม่ใช่ว่ารังเกียจนะ..อันนั้นแค่ปฏิกิริยาตอนตกใจเฉย ๆ..
อากาเนะคือแค่เเตะตัวแม่นางยังหลุดสะดุ้งไม่คุ้นชิน ถ้าเกิดมาลวมลาม (?) แบบจับมือหรือหอมแก้มนี่จะกรี๊ดลั่นเเละเขินหน้าแดงทันใด อากาเนะไม่ชินกับการถูกสัมผัสตัวมากเกินความจำเป็นกับเพศตรงข้าม มันทำให้เธอวางตัวไม่ถูกเเละรู้สึกอายจนลิ้นพันพูดเเทบไม่รู้เรื่อง ประเด็นคือยิ่งใกล้ยิ่งเขิน ยิ่งเขินยิ่งน่ารัก! ภาพลักษณ์วีนเหวี่ยงยามปกติจะถูกลบล้างออกไปหมดสิ้นทันใดเมื่ออากาเนะเกิดอาการเขินอายขึ้นมา ทั้งลิ้นพันกัน มือไม้วางไม่ถูกที่ แล้วก็ไม่กล้าสบตาทั้งหน้าเเดงฉ่าอีกต่างหาก ดูน่าแกล้งให้เขินหนักกว่าเดิมสุดๆ เลย--แต่..คำเตือนหนึ่งอย่างเลยคือ อากาเนะมีลิมิตความเขินไม่มากนัก หากว่าเข้าไปใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจของคุณ มันจะทำให้อากาเนะทนไม่ไหว ถ้าไม่หลับตาปี๋ตัวสั่นหันหน้าหนีไปไกลๆ แม่คุณจะตบเพี๊ยะเต็มแรง แล้วด่าลั่นว่า ไอ้โรคจิต! ก่อนจะวิ่งหนีไปไกลลิบเลยทีเดียว ซึ่งหากให้คาดการณ์ว่าถ้าเกิดเหตุ กรณีที่สองนั้นมีเเววเป็นไปได้ถึง70%---
อากาเนะน่ะไม่ค่อยคุ้นชินกับสัมผัสจากเพศตรงข้าม แต่ถ้าหากว่าเป็นคนที่คุ้นชินกันอยู่เเล้ว เธอก็สามารถจับมือและนั่งใกล้อีกฝ่ายได้อย่างไม่เก้อเขินเเล้วล่ะ ซึ่งกว่าจะคุ้นชินได้ก็ใช้เวลาเป็นเดือนนู้นเลย แต่ว่าถ้าเป็นการ จูบ หอม หรือกอดนั้นจะเป็นเรื่องยกเว้น ที่ไม่ว่ากับใคร สนิทหรือไม่อากาเนะก็เขินจนตัวจะแตกตายอยู่ดี แค่ปฏิกิริยาตอนเขินมันจะเป็นการหลับตาปี๋ตัวสั่นหันหน้าหนีน่ะนะ..เหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด เรื่องรักใคร่นี่ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ แอบความรู้สึกช้าไม่น้อยเลยล่ะ คนอื่นน่ะมองแวบเดียวก็รู้เเล้วว่าฝ่ายนู้นชอบเธอ แต่อากาเนะนางเป็นพวกดูไม่ออกว่าอาการของคนที่รักกันเขาเเสดงออกมายังไง เลยแอบความรู้สึกช้าไม่ค่อยเข้าใจไปตามระเบียบ นอกจากนี้ยังมีปัญหากับใจตนเอง สับสนงุนงงสุดๆ ว่าสรุปแล้วเธอชอบหรือไม่ชอบกันแน่อีกต่างหาก นั่นเพราะว่าอากาเนะไม่เคยชอบใครเลยไงเเละ แถมรักคนยากอีก..สเป็คสูงลิบทำพิษสุด ๆ..
อากาเนะอาจจะทำให้ฝ่ายนู้นต้องเจ็บบ้างอะไรบ้างกับความไม่แน่นอนของใจ แต่ถ้ามั่นใจเเล้ว อากาเนะก็จะรักอย่างมั่นคงเเละเป็นเช่นนั้นไปอีกยาวๆ เลยล่ะ อีกอย่างคือ อากาเนะเมื่อมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง เธอก็จะไปสารภาพรักกับคนที่เธอรักชอบ และฝ่ายนั้นก็ต้องรับรักเธอด้วย! ถ้าไม่รับ อากาเนะก็จะโวยวายก่อนจะปั้นหน้าบึ้ง ทำงอนดู แต่ถ้ายังไปไม่รอด แม่คุณก็จะกลับไปเสิร์ชหาวิธีจีบหนุ่ม (..) มาจีบเขาให้ติดให้ได้นั่นแหละ ว่าด้วยสเป็คของอากาเนะ มีง่ายๆ สั้นๆ เลยว่า ทนเธอได้ และ ไม่คิดจะเกาะเธอกิน แค่สองอย่างนี้จะโอเคเเล้ว! แต่ที่บอกว่ามันสูง..ก็เพราะ..อืม ดูนิสัยเเม่นางก่อนสิ เพื่อนด้วยกันยังแอบทนไม่ได้บ้างบางงานเลย--ส่วนข้อสอง..เกิดมารวยเลยระเเวงเป็นพิเศษ ยิ่งโคตรพ่อโคตรแม่รวยแบบที่ถ้าเเต่งกับอากาเนะเเล้ว มีกินมีใช้ไปทั้งชาติโดยไม่ต้องทำอะไรเลยเเบบอากาเนะยิ่งน่าระเเวง..
อากาเนะไม่ชอบคนที่เฟรนด์ลี่เกินไป..เวลาเจอคนที่ยิ้มให้ชาวบ้านเขาไปเรื่อย ทักไปเลย ลั้ลลาเฮฮาเหลือเกิน แม่คุณจะมองคล้ายสายตามองคนบ้าอยู่---สำคัญคือเธอคิดว่าคนพวกนี้ไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่..ความจริงเเล้วคือ ที่อากาเนะไม่ชอบคนเฟรนด์ลี่ เพราะเธอค่อนข้างขี้หวง..อากาเนะไม่ชอบเห็นเพื่อนตัวเองไปสนิทสนมกับใครเกินกว่าที่สนิทกับตน มันเหมือนเธอแพ้เเล้วถูกทิ้ง แต่ถ้าเกิดว่าเกิดสนิทสนมกับคนเฟรนด์ลี่ขึ้นมาจริงๆ เเล้วอีกฝ่ายดันไม่สนใจเธอ ไปสนชาวบ้านเขามากเกินไป อากาเนะก็จะเกิดอาการ งอน ขึ้นมา นั่งหน้าบูดยิ่งกว่าปกตินับสิบเท่า พอเขามาทักก็ทำเมิน เเตะตัวก็สะบัดทิ้ง กอดอกหน้ามุ่ยไม่พูดไม่จาสักคำ ต้องตามง้อตามขอโทษอีกนานเป็นอาทิตย์เลยทีเดียว กว่าอากาเนะจะหายงอนได้ แต่ถ้าเกิดงอนเเล้วไม่ง้อนี่นางจะโกรธมาก มองตามไปมาประมาณว่าเมื่อไหร่จะมาง้อ แต่ถ้าไม่มาก็จะเดินเข้าไปหา ฟาดเพี๊ยะ (?) เข้าให้ ด่า ไอ้บ้า! แล้วก็กลายเป็นโกรธยาวเลย..ดังนั้นถ้าเห็นอากาเนะงอนเเล้ว ก็รีบง้อกันนะ!
อากาเนะเป็นคนที่หยิ่งกับคนไม่รู้จัก--แม่นางจะไม่เข้าไปทักใครก่อนเลย ถ้าเกิดไม่จำเป็นจริงๆ หรือบางทีเขาเข้ามาคุยด้วยเเล้ว ก็ยังไปมองแรง แล้วถามคำตอบคำอีกนั่น ดังนั้นการจะสนิทหรือพยายามตีสนิทอากาเนะจึงเป็นเรื่องยาก..มาก เพราะถ้าเธอไม่คิดว่าคุณควรเป็นเพื่อนของเธอ อากาเนะก็จะไม่ยุ่งด้วยเลย นอกจากจะไปด่าหรือหาเรื่องเธอ (หาเรื่องในที่นี่เป็นได้ตั้งเเต่อะไรง่ายๆ อย่างเดินชนไหล่ จนถึงสาดน้ำใส่หน้ากลางโรงอาหาร---) คนนอกที่ไม่สนิท เลยทำได้เเค่ทะเลาะกับอากาเนะเท่านั้น แต่ถ้าอยากเป็นเพื่อน จะต้องแสดงความจริงใจให้อากาเนะเห็นมากๆ และทำให้รู้ ว่าคุณไม่ได้เข้าหาเพียงเพราะเเค่อยากจะเกาะสูบเงินเธอ หรือเพราะเธอเป็นวาที่ประธานบริษัทใหญ่ อากาเนะน่ะดูคนเป็นนะ ว่าใครแหลใครจริง เพราะงั้นจึงบอกได้เลย เพื่อนของเธอที่สนิทด้วยน่ะ จริงใจกับเธอเเละเธอเองก็จริงใจกับอีกฝ่ายมากๆ เหมือนกัน สุดท้ายของท้ายสุดเเล้วจริงๆ อากาเนะเป็นผู้หญิงที่แทบไม่มีใครเห็นเธอร้องไห้เลย เธอเป็นคนเข้มเเข็ง เธออดทนต่อความเจ็บปวดได้ มีไม่มากนักที่เธอร้องไห้ อย่างดีก็ร้องเพราะความเสียใจที่มากมายเกินกว่าจะทนรับ แต่มันก็นานมากเเล้วล่ะ ที่เธอไม่ได้เสียใจหรือรู้สึกแย่ขนาดนั้น..ครั้งสุดท้ายที่ร้องไห้..คงจะเป็นเมื่อสองปี..เป็นวันที่คุณพ่อของเธอ จากโลกนี้ไปนั่นแหละ..
ประวัติ :
อาเคมิ อากาเนะ นั่นเเหละ คือชื่อของผู้หญิงที่ใครต่อใครเขาก็ไม่ชอบ..
ผู้หญิงจอมโวยวาย เอาแต่ใจ และวันๆ เอาแต่ร้องวี้ดว้ายคนนั้นนั่นแหละ
..และนอกจากนี้..เธอยังเป็นผู้หญิงที่ได้พบเจอกับเรื่องราวที่ยากลำบากมากกว่าที่เห็นภายนอกเช่นกัน..
อาเคมิ อากาเนะ เกิดเเละโตขึ้นมาในบ้านหลังใหญ่ พ่อของเธอเป็นประธานบริษัทชื่อดังที่มีเงินทองมากมายและรวยล้นฟ้า ที่มากเสียจนเธอสามารถใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ ไปทั้งวัน ก็ยังมีเงินทองไหลมาเทมาให้ใช้ได้ไม่ขาดมือ บิดานั้นตามใจเธอแทบทุกสิ้นอย่าง ชี้ไม้บอกว่านก สิ่งนั้นย่อมเป็นนก อยากได้สิ่งใด ถึงไม่ใช่ของตัวเองก็ต้องได้มาไม่ว่ายังไงก็ตาม ชีวิตของเธอมีทุกอย่าง เงินทอง ชื่อเสียง และหน้าตา ราวกับว่าได้รับพรจากพระเจ้ายามลืมตาดูโลกอย่างไรอย่างนั้น...แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าชีวิตที่ดูโชคดีได้ถึงขนาดนี้ ก็มีบางสิ่งที่เรียกได้ว่า โชคร้าย สำหรับเธอเช่นกัน..
การสูญเสีย..นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าโชคร้ายสำหรับเธอล่ะนะ..
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น :: }}เด็กน้อยผู้เติบโตขึ้นมาด้วยชาติกำเนิดที่แตกต่าง และสายตาดูเเคลน ทว่ากลับมากล้นด้วยสุขเเละยิ้มหยันเช่นผู้ชนะ{{
วัยเยาว์ของเด็กน้อยคนนี้นั้นมีอะไร? พ่อแม่ที่เอาใจใส่ บ้านหลังน้อยที่อบอุ่น เสียงหัวเราะเเละรอยยิ้ม? คำตอบคือ ไม่ใช่เลยเเม้แต่อย่างเดียว
บ้านของอากาเนะนั้นกว้างใหญ่จนเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า เป็นคฤหาสน์ที่เปรียบราวกับพระราชวังหรู มีครบครันทั้งเครื่องอำนวยความสะดวก คนใช้ สวนดอกไม้ อาหารเลิศรส ชุดเเสนสวย เพียบพร้อมด้วยทุกสิ่งที่ตอบสนองซึ่งกิเลสของมนุษย์ได้ ไม่ว่าใครล้วนใฝ่ฝันอยากเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเคมิ เพื่อความสุขสบายนี้ทั้งสิ้น
แต่สิ่งที่คนนอกไม่เคยรู้ นั่นคือความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวนั้น..ช่างร้าวราน..
พ่อของเธอนั้นมีภรรยามากกว่าหนึ่งคน..อันที่จริงต้องบอกว่า เขามีภรรยาหลวงหนึ่ง ภรรยาน้อยย่อยอีกสี่ และเมียเก็บเมียบ่าวอีกไม่รู้กี่คนที่ทำเป็นว่า ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเราสองคนสักหน่อย แต่คนในบ้านเขาก็รู้กันทั้งนั้นเเหละ ว่านายใหญ่แห่งบ้านอาเคมิ ที่ชอบออกนอกบ้านไปตอนดึกดื่นหลังเวลาเข้านอนของคนอื่น นั้นหาได้มีธุระการงานเร่งด่วนอะไรแต่อย่างใดไม่
ก็แค่ไปหาเมียเก็บ เพราะเบื่อพวกเมียๆ ในบ้านเท่านั้นแหละ..
แน่นอน..เมื่อมีภรรยาเยอะเเยะขนาดนี้เเล้ว 'อาเคมิ เคย์' ย่อมมีลูกสาวลูกชายมากมายเช่นกัน
อากาเนะคือหนึ่งในเด็กเหล่านั้น..แตกต่างกันหน่อย..ตรงที่ว่า ในขนาดที่คนอื่นได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและหรูหราในฐานะ 'ลูกของภรรยาและอาเคมิ เคย์' แต่เธอกลับเป็น ลูกของเขากับเมียบ่าว ที่อากาเนะได้ยินเขาซุบซิบมาว่า เธอนั้นดันบังเอิญเกิดมาหน้าตางดงาม จนเป็นเหตุดลใจให้ผู้เป็นพ่อคิดรับมาเลี้ยงดูอุ้มชูเช่นกันลูกของภรรยาท่านอื่นๆ เขา
เอาเถอะ ถึงจะบอกว่าได้รับการเลี้ยงดูอุ้มชูเช่นเดียวกับลูกของภรรยาท่านอื่นในคฤหาสน์ แต่สุดท้ายลูกเมียบ่าวยังคงเป็นได้เเค่ลูกเมียบ่าว ทั้งคฤหาสน์ คนที่เห็นหัวเธอจริงๆ เห็นทีคงมีแค่บิดาและเหล่าคนรับใช้ที่อยู่มานานมากจนเข้าวัยแก่หงำกันเเล้วที่ขึ้นตรงต่อพ่อเธอเท่านั้นล่ะนะ ส่วนคนอื่นนั้น สายตาพวกเขาที่มองเธอ มันคงไม่ต่างอะไรจากสายตาที่ใช้มองดอกฮิกังบานะดอกน้อยที่อยู่ท่ามกลางลิลลี่สีขาวแสนสวยเท่านั้น
แตกต่างและไม่เหมือนใคร โดดเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งชาติกำเนิด..และหน้าตา
อากาเนะเป็นเด็กสาวที่มีหน้าตางดงามโดดเด่นมาตั้งเเต่เกิดเเล้ว..และเพราะหน้าตาสวยๆ แบบนี้ที่ได้มาจากแม่ของเธอนั่นเเหละ ที่ทำให้บิดาอย่างเคย์รักใคร่เเละเอ็นดูมากกว่าลูกคนอื่น กระทั่งเด็กชายที่เป็นลูกของภรรยาหลวงยังไม่สามารถเเย่งชิงเอาความรักใคร่เเละเอ็นดูจากบิดาที่มีให้เด็กสาวอย่างมากล้นไปได้เลยด้วยซ้ำ เคย์รักเธอมาก อาจจะบอกได้ว่ารักเธอมากที่สุดในบรรดาลูกทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะงั้นเขาจึงเอ็นดูเเละตามใจอากาเนะเสมอมา เธออยากได้สิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น ยามใดที่อยากเล่นกับเขา แม้นตัวเขาจะทำงานยุ่งตัวเป็นเกลียวอยู่ ก็จะหาเวลาปลีกตัวมาเล่นด้วยเสมอๆ
อืม เรียกได้ว่า ลูกรักในดวงใจ เลยก็ได้มั้ง?
เเละเพราะเเบบนั้นนั่นแหละ..ที่ทำให้ชีวิตของอากาเนะ ลำบากมากขึ้นเป็นกอง..ต่อหน้าพ่อของเธอ ทุกคนจะญาติดีเเละเป็นมิตร หัวเราะเเละยิ้มให้ราวกับรักใคร่กลมเกลียวกันเสียเหลือเกิน ทว่าพอลับหลังไป สายตากลับเหยียดมองราวกับมองแมลงไร้ขาน่าเกลียดอย่างไรอย่างนั้น
"นังลูกบ่าว"
ใครๆ ก็พากันกระซิบด่าเรียกเธออย่างนั้นในตอนที่อยู่ลับหลังบิดา
แน่ล่ะ ลองมาเรียกต่อหน้าสิ นอกจากจะโดนด่าโปงเข้าให้ เผลอๆ จะโดนตบปากแตกเอา
เพราะเธอเป็นลูกรัก คนที่มาด่าว่า หรือทำร้ายเธอ ย่อมถูกพ่อเธอลงโทษทั้งนั้น..แต่ถึงแม้จะมีตัวอย่างมากมายให้ได้เห็นขนาดไหน พวกภรรยาหลวงน้อยทั้งหลายเเละเหล่าลูกๆ ของคุณเธอก็ไม่คิดหยุด พากันยิ้มเเย้มเบื้องหน้า แต่กลับหลบด่าเธอเบื้องหลัง หน้าไหว้หลังหลอกกันทุกผู้คน เอาแต่ลอบส่งสายตาดูเเคลนให้ได้ไม่เว้นแต่ละวัน
แต่เเล้วไงล่ะ? อย่างไรเสียคนพวกนั้นก็ไม่มีทางทำอะไรได้นอกจากส่งสายตาดูเเคลนแบบแอบๆ แล้วก็ซุบซิบนินทาเธอพร้อมกับพยายามจะกลั่นเเกล้งนู่นนี่นั่น ที่ถ้าทำไม่ระวังเเล้วโป๊ะเเตกขึ้นมา ก็ตายหมู่ทั้งแม่และลูก..อืม ก็ทำได้แค่นั้นเเหละ ถึงจะทำลำบากขึ้นมาเยอะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อากาเนะใช้ชีวิตได้สุขสรรค์น้อยลงหรอก
ยิ้มหยันปรากฏบนใบหน้าเช่นผู้ชนะ เมื่อได้รับสายตาดูเเคลน จึงสะบัดเชิดส่งความหยิ่งยโสกลับไปอย่างไม่คิดเกรงกลัว
เห่ากันเข้าไปเถอะ ยังไงก็ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น :: }}การสูญเสียที่ไม่ทันตั้งตัว{{
มนุษย์เรานั้น เมื่อได้รับสุขมากมายย่อมมีทุกข์ที่ตามมา อากาเนะเองก็เช่นกัน..และทุกข์นั้น คือการที่เธอต้องสูญเสียบุคคลสำคัญอันเป็นที่รักยิ่งในดวงใจ ที่คอยถนุถนอมตัวเธอมาตลอดตั้งเเต่วัยเยาว์ ด้วยประโยคเพียงประโยคเดียวที่ว่า 'อาเคมิ เคย์ ป่วยเป็นมะเร็งไขสันหลังระยะสุดท้าย และคงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่ถึงวัน..'
เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางหัว เมื่อได้รู้ว่าชีวิตของบิดากำลังนับถอยหลังลงเรื่อยๆ เฉกเช่นระเบิดเวลา..
หัวใจราวกับดิ่งลงเหว มือเท้าเย็นเยียบอย่างที่ไม่เคย ความกลัวกำลังกัดกินเธอตั้งเเต่หัวจรดเท้า
เคย์ถูกย้ายไปอยู่โรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการอย่างใกล้ชิด และเพราะอาการของเคย์ที่หนักหนานั้น เเพทย์จึงอนุญาตให้ญาติเข้าไปเยี่ยมหรือคือ ดูใจ เป็นครั้งสุดท้ายได้ อากาเนะจึงไปยังโรงพยาบาลที่พ่อของตนพักอาศัยอยู่อย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดจะฟังเเม้แต่เสียงทัดท้านของคุณนายใหญ่เลยเเม้แต่น้อยด้วยซ้ำ
อากาเนะรู้เเค่ว่า เธอกลัว กลัวว่าตนจะไปสายเกินไป..กลัวว่าถ้าหากสายไปแล้ว เธอไม่มีวันได้คุยกับพ่อของเธออีก
สายตาคนอื่น อาเคมิ เคย์ จะเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้หรือเลวร้ายขนาดไหนก็ช่างเขา แต่ว่าในสายตาของอากาเนะ เขาเป็นคนที่มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเธอ เป็นคนที่ทำให้เธอเติบโตเเละมีความสุขมาได้จนถึงทุกวันนี้ และเพราะมีเขาเธอถึงยังยิ้ม..
..เขา..เป็นคนสำคัญ..
เคย์คือพ่อของเธอ..และเธอรักพ่อของเธอมาก
อากาเนะโตขึ้นมาโดยไร้แม่คอยดูเเลอย่างใกล้ชิด เเม้จะเคยเห็นหน้าและพอรู้ว่าใครเป็นแม่ด้วยความงามที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกับเธอ แต่ถึงอย่างนั้นสุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าสถานของนายเเละบ่าว ไม่ใช่ว่าอากาเนะไม่อยากคุยเเละสนิทสนมกับมารดาตนเอง..แต่เธออีกฝ่ายต่างหากเล่า ที่หมางเมินกัน..พยายามทักทายหรือเข้าไปใกล้ขนาดไหน สุดท้ายเเล้วก็ได้รับการปฏิบัติราวกับคนรับใช้ที่ปรนนิบัติคุณหนูของบ้าน หาใช่การปฏิบัติที่แม่มีต่อลูกสาวของตนไม่
เจ็บปวดที่ถูกมารดาหมางเมิน..อยากด่าทอเหมือนที่เคยทำกับคนที่กล้าเมินเธอ แต่เสียงกลับหายไปจากลำคอ เฝ้าบอกกับตัวเอง สายตานาง คงไม่มีเธอในฐานะลูกน้อยจริง ๆ..ก่อนจะตัดสินใจเลิกพยายาม และปล่อยคนที่ตนเรียกว่ามารดาให้ได้ทำในสิ่งที่นางต้องการ..
เช่นนั้นเเล้ว อากาเนะจึงมีเพียงเคย์ผู้เป็นพ่อเท่านั้นที่คอยดูเเลและรักเธอมาตลอดตั้งเเต่เด็กๆ เธออยากได้สิ่งใด เขาก็เป็นคนหามาให้ ตอนไหนที่เธอร้องไห้ ก็ได้เขาเป็นคนคอยปลอบประโลมอยู่เสมอ ถึงเเม้เธอจะเป็นลูกบ่าวหรือเป็นลูกที่เขารับเลี้ยงเพียงเพราะเห็นดวงหน้าที่งดงามในคราแรก แต่ท้ายสุดเเล้วสายสัมพันธ์ของสองพ่อลูกก็เหนี่ยวเเน่น จากที่อยากจะเลี้ยงเด็กน้อยเพียงเพราะไว้เพื่อเป็นหน้าเป็นตาครอบครัว ท้ายสุดก็ปรารถนาอยากจะเลี้ยงเด็กน้อยคนนี้เชกเฉ่นที่บิดาคนหนึ่ง ต้องการเลี้ยงดูลูกน้อยของเขา..และเพราะเช่นนั้น จึงถนุถนอมและห่วงหาอาทรเสมอมา ไม่ว่าสิ่งใด ขอเพียงเอ่ยปาก เคย์ก็จะหามันมาให้ลูกสาวตัวน้อยของเขาเสมอ
อากาเนะสามารถพูดได้เต็มปาก..ว่าทั้งโลกใบนี้ ไม่มีใครจะรักเธอได้เท่ากับบิดาของเธออีกแล้ว..
อาจจะตามใจลูกจนเสียคน และสอนไปในทางที่ผิดบ้าง แต่ท้ายสุดเเล้วก็ยังเป็นตัวอย่างในเรื่องของการรับผิดชอบต่อหน้าที่ประธานบริษัทเเละเสาหลักของบ้าน ให้กับเด็กสาวได้อย่างดี..
และถึงเเม้เขาจะเป็นสามีที่ห่วยแตกขนาดไหน อาเคมิ เคย์ ก็เป็นพ่อและเสาหลักของบ้านที่ดีมากคนหนึ่ง
"พ่อ!!"
นาทีเเรกที่ได้ก้าวเท้าเข้าไปในห้องของผู้ป่วย เด็กสาวเปล่งเสียงเรียกออกไปทันที ก่อนดวงหน้าของเธอจะซีดเซียว เมื่อเห็นสภาพของคนเป็นบิดาบนเตียงนอนคนไข้ ร่างกายนั้นซูบผอม ใบหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด สายระโยงระยางมากมายรอบตัวของเคย์ เขาดูป่วย..เหนื่อย..และอ่อนล้าเหลือเกิน ไม่เหมือนกันภาพที่เคยเห็น..บิดาที่เคยเเข็งแรงและมีเรี่ยวแรงจะหนีเหล่าภรรยาทั้งหลาย ออกไปคั่วสาวเล่นได้แบบไม่สนอายุของตนในตอนนั้น ทำไมถึงได้ดูอ่อนระทวยเปราะปรางได้ถึงขนาดนี้กัน..
อากาเนะตรงเข้าไปหาพ่อของเธอ โอบกอดท่านเอาไว้ด้วยสองมือของตนเอง ก่อนน้ำตาจะไหลออกมาอย่างเงียบงัน โดยมีมือของบิดาที่หยาบกร้านคอยลูบศีรษะปลอบเบา ๆ..
เธอไม่ใช่คนโง่..และถึงเเม้จะไม่อยากยอมรับมันขนาดไหน ภาพที่ได้เห็น มันได้ย้ำเตือนใจเธอให้ได้รู้ว่า..พ่อของเธอเหลือเวลาอีกไม่มากเเล้ว..
"ทำไมไม่บอกหนู..ว่าพ่อป่วย..ฮึก"
"ก็บอกเเล้วจะเป็นแบบนี้ไงเล่า" คนเป็นพ่อเอ่ยพร้อมหัวเราะ ก่อนจะไอโขลกออกมาจนใบหน้าซีดเผือดของอากาเนะเผือดสีมากขึ้นไปอีก สีหน้าเขาดูเจ็บปวด ราวกับว่าแค่ขยับปากหัวเราะดังๆ ตอนนี้มันยังลำบากเเละทรมานจนทำแทบไม่ไหวอย่างไรอย่างนั้น "แล้วนี่เราร้องไห้ทำไมกันฮึ? เป็นลูกพ่อต้องเข้มเเข็ง จำไม่ได้รึไง"
อากาเนะส่ายหน้าทันทีที่สิ้นคำถาม เคย์ถอยหายใจเบาๆ กับนัยน์ตาคู่สวยที่คลอหน่วงด้วยหยาดน้ำตา และดูดื้อรั้นไม่ยอมรับนั่น เขาดึงตัวลูกสาวตัวน้อยที่ทั้งรักทั้งห่วงทั้งหวงเข้ามากอดแน่นๆ พยายามฝืนลุกนั่งทั้งที่เจ็บไปหมดจนหน้าเบ้ แต่แม้จะเจ็บขนาดไหนหรืออากาเนะจะร้องโวยให้เขาล้มลงไปนอนเหมือนเดิมเเค่ไหน เขาก็ยังรั้นจะลุกขึ้นมานั่งกอดลูกสาวของตนให้แน่นเหมือนเดิม
"อย่าร้องไห้เลยลูกรัก..ลูกเป็นเเบบนี้ แล้วพ่อจะกล้าจากไปได้ไงเล่า.."
"ก็ไม่ต้องไปไหนสิ!" เสียงหวานโพล่งขึ้นทันใด อากาเนะกอดตอบบิดาแน่นและร่ำไห้อีกครั้ง "ไม่ต้องไปไหน..อยู่กับหนู..นะ..ฮึก--"
อ้อมกอดรัดเเน่นราวกับว่าหากผ่อนแรงลงแล้ว ร่างตรงหน้าจะหายไป เด็กสาวร่ำไห้สะอื้นฮักจนไหล่บิดาโชกน้ำตา ก่อนที่อากาเนะจะสัมผัสได้ว่าไหล่ที่ตนอิงแอบอยู่นั้นสั่นระริกเบา ๆ..ราวกับกำลังบอกว่า เขาเองก็เสียใจและหวาดกลัวเช่นกันที่จะต้องจากลาเธอไปแบบนี้
"ดูเเลตัวเองดีๆ นะ อากาเนะ.." เคย์ว่า เสียงของเขาเเหบพร่า ไม่คิดว่าจะต้องพูดคำแบบนี้..หรืออย่างน้อย เขาก็ไม่อยากพูดมันออกมา..กับลูกน้อยที่รักและเฝ้าถนุถนอมมาตลอดสิบกว่าปีมานี้ อย่างน้อยก็อยากให้เธอมีคนที่ไว้ใจได้คอยดูเเลเสียก่อนที่เขาจะต้องจากลาไป..
"ไม่ไหวหรอก หนูดูเเลตัวเองไม่ได้หรอกนะ" เด็กสาวรีบปฏิเสธเสียงสั่นเเล้วส่ายหน้าไปมา เธอร้องไห้เพื่อให้บิดาได้รู้ ว่าตัวเธอในตอนนี้..ไม่พร้อมที่จะสูญเสียเขาจริงๆ พยายามจะพูด พยายามโอบกอดเอาไว้ พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้เคย์อยู่กับเธอนานกว่านี้..
แม้จะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นจริงก็ตาม..
น้ำตาหลั่งรินเมื่อนึกถึงความจริง ไม่เอา ไม่เอานะ..จะเอาอะไรไปจากเธอก็ได้..แต่ต้องไม่ใช่พ่อของเธอ..
ขอร้องล่ะ พระผู้เป็นเจ้า..
เคย์คลี่ยิ้มอ่อนระทวยยามสัมผัสได้ถึงความเปราะบางของลูกสาว อากาเนะเป็นเด็กที่เข้มเเข็งมาตลอด แม้จะถูกสายตาดูถูกหรือมีคนเข้ามากลั่นแกล้ง เธอก็ยังไม่ร้องไห้งอแงเหมือนเด็กคนอื่น ทั้งยังพยายามตอบโต้ด้วยตัวเองเเละไม่พึ่งพาเขามากเกินไป..เด็กที่เข้มเเข็งขนาดนั้น วันนี้ทำไมถึงได้ร้องไห้ราวจะเป็นตายให้ได้เสียบัดนี้ขนาดนี้กันนะ..
"หยุดร้องเถอะลูก.." เสียงของเคย์แผ่วเบาลงทุกที หัวใจเขาเจ็บร้าวแทบบ้ายามได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นไห้ ความทุกข์ของอากาเนะก็เหมือนกับความทุกข์ของเขา.. "พ่อขอร้องอากาเนะ..อย่าร้อง..ยิ้มเถอะนะ.."
แต่ยิ่งพูด เด็กสาวก็ยิ่งร้องออกมามากขึ้น..
หรือบางที..นี่อาจจะเป็นบทลงโทษของฟ้า ที่เขาหลายใจเเละสร้างทุกข์โศกให้คนอื่นเขากันนะ..
"อยู่กับหนูเถอะนะ..อย่าเป็นอะไรได้ไหม ไหนบอก ฮึก--! จะอยู่ดูหนูเป็นเจ้าสาวไง.."
คำสัญญาในวัยเยาว์เอื้อนเอ่ยออกมา รอยยิ้มของผู้เป็นพ่อคลี่ออกนั้นช่างดูเหนื่อยล้า ดวงตาของเขาเศร้าหมองและผิดหวัง จริงสิ..ตอนนั้นเขาเคยบอกไว้นี่นะ..ว่าจะไม่ยอมไปไหนเด็ดขาด จนกว่าอากาเนะจะกลายเป็นเจ้าสาวที่งดงามและมีคนที่ไว้ใจได้คอยดูเเล..
"อ่า..ถึงวันนั้น ก็พาเจ้าบ่าวของลูกมาไหว้พ่อสิ ฮะ ๆ" หัวเราะเบาๆ เเล้วเกลี่ยน้ำตาให้กับเด็กสาวที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้หนักกว่าเดิม..ไม่ว่ายังไง อากาเนะที่ทำหน้าเชิดเเละเหวี่ยงไปมาก็ดูดีกว่าตอนที่ร้องไห้งอแงเป็นไหนๆ จริง ๆ.. "แต่ก่อนอื่นลูกต้องหยุดร้องก่อนนะอากาเนะ หนุ่มที่ไหนเขาจะมาแต่งงานกับผู้หญิงที่เอาแต่ร้องไห้กันล่ะ"
อากาเนะเม้มปากเเละพยายามกลั้นสะอื้อน เธอสบตากับผู้เป็นพ่อนิ่งหลายนาที พยายามจะไม่ร้องไห้เพราะนัยน์ตาคู่นั้นดูราวกับจะร้องไห้ตามเธอยังไงยังนั้น
"เก่งมาก..คนเก่งของพ่อ" เคย์สวมกอดลูกสาวอีกครั้ง ก่อนจะผละออกมาสบกับนัยน์ตาแสนสวยเช่นเดียวกับมารดาของเด็กสาว "พ่อไม่อยู่ หนูก็อย่าปล่อยให้ใครมารังแกหนูได้ล่ะ"
"อื้อ.."
"ขยันเรียนมากกว่านี้ด้วยนะ..จะได้ดูเเลธุรกิจพ่อต่อให้รุ่งเรืองได้ไง"
"อื้อ.."
"อย่าไปทะเลาะกับมาซาฮิโระมากนักล่ะ ยังไงก็โตมาด้วยกันตั้งเเต่เด็ก.."
"อื้อ.."
"อ่า ใช่ ถ้าลูกจะเเต่งงาน จะต้องพาเจ้าบ่าวของลูกมาไหว้พ่อให้ได้นะ เข้าใจไหม“"
"อื้อ.."
"ถ้าเจอปัญหา ก็อย่าไปกลัวมัน..พุ่งชนไปให้ถึงที่สุดนะลูก"
"อื้อ.."
"แล้วก็.." เสียงเงียบหายไปเล็กน้อย มือของเคย์เริ่มสั่น รอยยิ้มดูเหนื่อยล้าและนัยน์ตาคู่นั้นก็คล้ายจะอ่อนแสงเต็มที "ฝากบอกแม่เขาด้วยนะ..ว่าขอโทษที่ทำอะไรไม่ได้เลย..แล้วก็ รักแม่ที่สุดเลยนะ.."
"อื้อ.."
เคย์ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน เอ่ยเสียงเบาหวิวเป็นครั้งสุดท้ายว่า "พ่อรักหนูนะ..อากาเนะ..ต่อไปนี้ ช่วยพยายามในส่วนของพ่อทีนะ.."
รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนมุมปากทั้งสองข้าง อากาเนะยิ้มขื่นทั้งน้ำตา พยักหน้ารับเเล้วสวมกอดพ่อของตนเป็นครั้งสุดท้าย แขนหนานั้นโอบกอดเธออย่างอ่อนโยน เเต่ไม่นาน..มันก็ร่วงหล่นลงข้างตัว พร้อมกับหยดน้ำสีใสที่ตกกระทบไหล่กว้างเป็นด่างดวง..
เสียงหวานสั่นเครือ กระซิบแผ่วเบาก่อนผละจากอ้อมกอด และให้ร่างที่ไร้ลมหายใจนั้นได้หลับพักผ่อนโดยสงบ..
"หนูก็รักพ่อนะคะ.."
อาเคมิ เคย์..เสียชีวิตแล้ว
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น :: }}หน้าที่ที่ต้องแบกรับ ความเชื่อมั่นของบิดาที่ผลักดันตัว{{
'ถ้าเจอปัญหา ก็อย่าไปกลัวมัน..พุ่งชนไปให้ถึงที่สุดนะลูก'
'พ่อรักหนูนะ..อากาเนะ..ต่อไปนี้ ช่วยพยายามในส่วนของพ่อทีนะ..'
ถ้อยคำของบิดาดังขึ้นราวกับเขากำลังพูดกับเธออยู่เบื้องหน้า ความเชื่อมั่นนั้นส่งผ่านมาจนถึงหัวใจของเด็กสาวที่ยังลังเล..ก่อนที่เธอ จะผ่อนลมหายใจเบาๆ แล้วกำหมัดเเน่นเป็นการตัดสินใจ
"ก็แน่สิยะ!" เสียงหวานแว้ดใส่คนข้างตัว มาซาฮิโระไม่ว่าอะไรแต่เลือกจะยิ้ม เพราะใบหน้านั้นดูมุ่งมั่นขึ้นมากเลยทีเดียว
อากาเนะหันไปมองญาติๆ ทั้งหลายของตนเองที่ยังมีสีหน้าไม่พอใจอยู่ ก่อนจะเลือกเมินไปให้ หันไปมองทนายความเเล้วเอ่ยถ้อยคำหนักแน่น ชัดเจนจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือคำพูดของเด็กสาววัยสิบหกที่อยู่ในเปลี่ยนของชีวิตเลยล่ะ..
"ฉันขอรับมรดกทุกอย่างที่พ่อของฉัน อาเคมิ เคย์ มอบให้ และตกลงจะรับตำแหน่งประธารบริษัทอาเคมิเมื่ออายุยี่สิบห้าปีค่ะ"
ไม่เป็นไรหรอก..ถึงตอนนี้จะยังทำไม่ได้ วันพรุ่งนี้ต้องทำได้อย่างแน่นอน..
ถึงมันจะยาก..แต่ถ้าพยายาม..จะต้องทำได้แน่ ๆ..
อย่าทำให้พ่อของเธอผิดหวัง อากาเนะ พยายามเพื่อท่านและตนเองเสียสิ
'ความเชื่อมั่นของพ่อ..หนูจะไม่ทรยศหักหลังมันแน่นอนค่ะ..'
เรื่องราวของเธอในตอนนั้น :: }}สายสัมพันธ์และความรักของมารดาบิดา และคำสัญญาของเธอกับเขา{{
หลังจากวันประกาศพินัยกรรม อากาเนะเก็บข้าวของของตนเองทุกอย่างออกมาจากคฤหาสน์ใหญ่ ย้ายไปอยู่เรือนเล็กติดทะเลสาบ แน่นอนว่าเธอไม่ได้ไปคนเดียว อากาเนะจัดการลากคนใช้ส่วนตัวที่อยู่ด้วยกันมาตั้งเเต่เด็กๆ ไปด้วย เเละอีกคนที่เธอจะไม่พลาดแน่ๆ ก็คือ..
"แล้วทำไมผมต้องมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ.."
ใช่ มาซาฮิโระนั่นแหละ
"นายบอกเองว่าจะดูเเลฉัน อ้อ ใช่ นายบอกจะอยู่กับฉันด้วย"
"ผมเปล่า.."
"สายตานายบอกไงยะ! เลิกเถียงฉันเเล้วขนของเข้าไปได้เเล้ว! เร็วๆ เลยย่ะ!!" อากาเนะเเยกเขี้ยวขู่ชี้นิ้วสั่ง ท่าทางบ่งบอกชัดเจนว่ายังไงก็จะให้มาซาฮิโระย้ายออกมาจากบ้านใหญ่ และมาอยู่กับที่เรือนเล็กกับตนให้ได้ เขาเลยได้ทำใจ บ่นเบาๆ แล้วแบกของเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้
แต่อย่าคิดเชียวว่าอากาเนะจะไม่เห็นว่าเขาเเอบยิ้มน่ะ..
เด็กสาวเดินเข้าไปในตัวเรือน เรือนเล็กแห่งนี้เป็นจะเรียกเรือนก็ไม่ถูกนัก เพราะมันเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นที่หากมองจากสายตาคนธรรมดา จะเรียกได้ว่าค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว..มันไม่ได้ใหญ่โตเหมือนบ้านใหญ่ แต่ก็ไม่ได้เล็ก พอจะอยู่สบายๆ กันได้สี่ห้าคนเลยด้วยซ้ำ..และที่ซ้ำ มันยังสะอาดและมีเฟอร์นิเจอร์ครบครันพร้อม นั่นเพราะสถานที่เเห่งนี้เป็นที่ที่อากาเนะชอบมากที่สุด..
ห้องห้องหนึ่งที่ถูกปิดเอาไว้ ยามผลักประตูเข้าไปด้านใน ความอบอุ่นจะเกาะกุมจากเเสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่ลอดผ่านไรไม้เข้ามาทางหน้าต่าง และความทรงจำมากมายที่อัดเเน่นด้านใน..
อากาเนะเดินเข้าไปยังโต๊ะเขียนหนังสือธรรมดาๆ ไม่ได้สวยหรูอะไรมาก ปลายนิ้วลูบกรอบรูป ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่านั่นเป็นรูปของคนสามคน..หนึ่งคือพ่อของเธอ เขายิ้มกว้าง ดูมีความสุขมากกว่าที่เธอเคยเห็นมามากนับสิบเท่าต่อสิบเท่า ในอ้อมแขนของเขามีทารกน้อยหน้าตาส่อเค้าลางงามแต่วัยเยาว์กำลังหัวเราะร่า และข้างๆ นั่น..
"ลูกเข้มเเข็งเหมือนกับที่พ่อของลูกบอกไว้เลยนะ..อากาเนะ.."
เสียงทักของใครบางคนดังขึ้น เมื่อเห็นกลับไปมอง..รอยยิ้มอ่อนโยนเจือจางบนดวงหน้าส่งผ่านมาให้ หญิงสาวผู้มีดวงหน้าเหมือนกับเธอทุกประการในชุดสาวรับใช้เดินเข้ามาในห้อง..โคโตริ โฮชิ หรือที่จริงเเล้ว ควรจะเรียกเธอว่า อาเคมิ โฮชิ..
และเธอเป็นคนเดียวกับหญิงสาวในรูปภาพ..ที่อยู่ในอ้อมกอดของเคย์ และกำลังคลี่ยิ้มงดงามอย่างมีความสุขออกมา..
"แม่..?" ..ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่..อากาเนะอยากถาม แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะถาม..เพราะคำทักก่อนหน้านี้ทำให้ตัวของเธอเกิดความมึนงง ลูกงั้นเหรอ..ทั้งที่ปกติไม่แม้แต่จะยอมสบตากับเธอเลยด้วยซ้ำ ทำไมมาตอนนี้..ถึงเรียกเธอว่าลูกได้อย่างหน้าตาเฉยขนาดนั้นกัน..
ทั้งที่เมื่อก่อน..อยากจะฟังคำนี้แทบตาย..ก็ไม่เคยได้ฟังมันเลยเเท้ ๆ..
"โกรธแม่อยู่สินะ.." หญิงสาวว่า เหมือนเธอจะไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร ออกจะเข้าใจมากเสียด้วยซ้ำ..โฮชิเดินเข้ามายืนใกล้ๆ กับลูกสาวของตน หยิบกรอบรูปไม้ขึ้นมาถือเอาไว้เเล้วหัวเราะ "อิตาเคย์นี่ทำอะไรบ้าบอชะมัด.."
"อิตาเคย์?" ไม่บอกได้ไหมว่าเธอสะดุ้งกับคำนี้ ร้อยวัยพันปีไม่เคยมีใครกล้าด่าพ่อเธอเลยนะ..ยัยป้าฮายากะนั่นยังไม่กล้าเรียกเลยด้วยซ้ำ..แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่สนใจเลย หัวเราะเบาๆ แล้วอธิบายพร้อมรอยยิ้มอีกต่างหาก
"ก็พ่อของหนูนั่นเเหละ..ไม่ต้องทำหน้าเเบบนั้นหรอก เมื่อก่อนแม่ด่าเขา ไอ้เฒ่าหัวงู เขายังไม่ว่าเลย"
"...." อากาเนะเงียบ ทั้งที่ความจริงเธอควรจะโวยวายที่อีกฝ่ายว่าพ่อของเธอแบบนี้ แต่เมื่อมันออกมาจากหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าแม่ของตน และอีกฝ่ายเอ่ยมันด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมรักขนาดนี้..เธอก็เลือกจะเงียบและฟังเเทน
โฮชิหลับตาพริ้ม ค่อยๆ ร้อยเรียงถ้อยคำความจริงที่อากาเนะไม่เคยรู้ออกมาช้า ๆ..
"เมื่อก่อน..ตอนที่ลูกยังไม่เกิด ไม่สิ คงต้องพูดว่า ตั้งเเต่ยัยฮายากะนั่นยังไม่เข้ามาในบ้าน พ่อกับแม่ก็รักกันดีอยู่เเล้วด้วยซ้ำ" รอยยิ้มหยันปรากฏ เเลดูยินดีราวได้รับชัย..เหมือนกับจะรู้เสียเเล้วว่านิสัยส่วนนี้ของอากาเนะมันน่าจะติดมาทางสายเลือดฝั่งไหน.. "แต่เพราะเเม่เป็นแค่คนธรรมดา คุณย่าเขาเลยไม่ยอมรับ..กีดกันสารพัดอย่าง พ่อเราก็เก่งเหลือเกิน ปีกกล้าขาเเข็งโต้คืนไปหมด ยังไงก็ยืนกรานจะคบกับเเม่ต่อให้ได้..แต่เรื่องพวกนั้นก็จบลง..คุณปู่ของลูกเสีย และตอนนั้นตระกูลอาเคมิก็ระส่ำระส่ายไปมา.."
"เคยเลยต้องงานกับฮายากะ..เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างตระกูล และประครองไม่ให้ตระกูลของตนเองล่มจม..แล้วพอมีคนแรก ยัยแก่หนังเหี่ยวนั่นก็ได้ใจ คนที่สอง สาม และสี่เลยตามมาติด ๆ" ถึงตรงนี้โฮชิว่าด้วยเสียงหงุดหงิดอย่างมาก และยัยเเก่หนังเหี่ยวนั่นคงไม่พ้นย่าอากาเนะนั่นแหละ..ก่อนเธอจะยกยิ้ม เอ่ยต่อว่า "แม่ก็เลยสมัครเข้ามาเป็นคนใช้ จะได้เดินไปมาในบ้านหลังนี้ จะได้เจอหน้าพ่อแกโดยไม่ต้องถูกพวกนั้นกันมันซะเลย"
"แค่เพราะอยากเจอหน้าพ่อเนี่ยนะ?" บ้าไปแล้ว..ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วแน่ ๆ..อากาเนะอดคิดไม่ได้เลยจริงๆ ถ้าเป็นเธอ เธอคงไม่ลดตัวไปเป็นคนใช้ใครเขาแค่เพราะว่าอยากเจอหน้าคนรักหรอก
รอยยิ้มคลี่ออก โฮชิหันมามองเธอเช่นสายตาของผู้มากประสบการณ์ที่มองเด็กน้อย "ถ้าลูกมีความรัก..ลูกจะเข้าใจเอง ว่าคนเรายอมบ้าได้ขนาดไหนเพื่อความรัก.."
"หลังจากนั้น พ่อกับแม่ก็ได้เจอกัน หน้าตาพ่อเขาตอนเห็นแม่อย่างกับเจอผีแหนะ..แต่พอปรับอารมณ์ได้ ก็มาตามง้อแม่เอาใหญ่ สร้างเรือนเล็กนี่ให้แม่อยู่ แล้วก็มาหาแม่ทุกวัน ทุกวัน สุดท้าย..ผลลัพธ์ก็คือ หนูได้เกิดมาเนี่ยแหละ" ดวงตาคู่นั้นเหลือบมามองเธอ หยิกแก้มนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว
"แต่คุณย่าของลูกโกรธมาก ฮายากะกับคนอื่นก็พอกัน สุดท้ายเลยลงเอยที่ว่า พวกเขาจะไล่เเม่และลูกออกไป และไม่ให้พบหน้าพ่ออีกเลย..แต่พ่อเขาไม่ยอม พอลูกเกิดมาหน้าตาน่ารัก คุณย่าแกเห็นก็เกิดสงสารเด็ก..เลยกลายเป็นว่า พ่อของลูกสามารถเลี้ยงลูกได้เหมือนกับลูกของภรรยาคนอื่น แต่ว่าเคย์ต้องห้ามมาพบแม่ในฐานะคนรักอีก รวมถึง..แม่จะไม่มีสิทธิ์ได้ทำหน้าที่ของแม่เพื่อลูก.."
ราวกับถูกน้ำเย็นสาด..ความรู้สึกที่สงสัยเเละข้องใจราวกับได้รับการปลดล็อค อากาเนะนึกมาตลอดว่าที่อีกฝ่ายหมางเมินเธอ มันเป็นเพราะว่าแม่ไม่รักเธอ..แต่ความจริงที่ได้รู้กลับตรงกันข้าม..ไม่ใช่ว่าไม่รัก ทว่าเป็นรักมากจนต้องยอมปฏิเสธต่อสัญชาตญาณความเป็นแม่ เพื่อให้เธอได้สุขสบาย..
หัวเหมือนหมุนตามไม่ทัน อากาเนะไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไร ก่อนเธอจะสะดุ้งตอนที่ถูกมารดาโอบกอดแน่น ดวงตามองสองมือของตัวเอง ไม่รู้ว่าควรโอบกอดตอบร่างนี้ดีรึไม่..
"อาจจะช้าไปเสียหน่อย..แต่ตอนนี้ พ่อเขาไม่อยู่เเล้ว..ให้แม่ได้ทำหน้าที่ของแม่ และดูเเลลูกแทนในส่วนของพ่อด้วยนะ.."
"แล้วสัญญา..“"
"ยัยแก่นั่นตายไปตั้งหลายปีเเล้ว อีกอย่างลูกแม่ก็มีสิทธิ์ใหญ่ๆ พอกับแม่คุณหญิงใหญ่นั่น จะกลัวอะไรอีกล่ะ" ยิ้มเผล่อย่างชั่วร้าย ทว่าก็มีความหมองแฝงอยู่ในรอยยิ้มนั้น บ่งบอกว่าเเม้จะไม่ชอบหน้าและตั้งท่าไม่เป็นมิตรต่อกันมาตั้งเเต่ต้นๆ คุณย่าของอากาเนะสำหรับโฮชิ ก็ยังเป็นแม่ยายที่น่าเคารพเเละทำให้ชีวิตเธอมีสีสันขึ้นมาจากเดิมพอตัวเลยทีเดียว
..อีกอย่าง ถ้าไม่มีอีกฝ่าย..อากาเนะคงไม่ได้สุขสบายถึงขนาดนี้..
ปลายนิ้วเกลี่ยดวงหน้างดงามนั้น คลี่ยิ้มแล้วเอ่ยว่า
"ถ้าเหนื่อยก็มาปรึกษากับเเม่ได้นะ..แล้วก็ขอโทษนะ ที่ตลอดมา ทำเป็นหมางเมินมาตลอด.."
พูดจบ โฮชิก็ผละมือออกและตั้งท่าจะเดินออกไป เธอไม่คิดรอฟังอะไรเพราะคิดว่าอากาเนะนั้นคงโกรธเเละไม่มีอะไรจะพูด แต่ความคิดกลับต้องพังลง เมื่อเด็กสาวจับมือเธอไว้ให้หันไป และยิ้มออกมาอย่างงดงาม..
"ขอบคุณนะคะ ที่ทำให้หนูเกิดมา" เอ่ยเสียงเบาคล้ายอายนิดหน่อย ก่อนจะพูดต่อว่า "คุณพ่อฝากบอก..ว่า..ขอโทษ..ที่ทำอะไรไม่ได้เลย..แล้วก็ รักแม่ที่สุด.."
โฮชินิ่งไปกับคำพูดนั้น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั้นเริ่มปรากฏร่องรอยของความเสียใจมากขึ้นเรื่อย ๆ..ก่อนหญิงสาวที่ทำท่าทางราวกับไม่ทุกข์ร้อน..จะกระซิบเสียงเเผ่วเบา..
"อิตาบ้านั่น..ทั้งที่ตายไปแล้ว ก็ยังมาทำให้ฉันรักได้มากขึ้นอีก..บ้า บ้าชะมัด.."
น้ำตาอาบหน้าทั้งที่กำลังคลี่ยิ้มอยู่ ไหล่เล็กสั่นสะท้าน..ใครจะรู้ว่าใต้รอยยิ้มนั้น มันคือความเจ็บปวดราวกับตายทั้งเป็นที่ต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักไปเช่นนี้..
ท่ามกลางเรือนเล็กที่เงียบสงัด สายลมพัดเข้ามาจากหน้าต่าง ห่อล้อมคนทั้งสองไว้ราวกับกำลังปลอบประโลม และเอ่ยเป็นถ้อยคำเเผ่วเบาที่ทำให้น้ำตาของหญิงสาวหลั่งรินมากขึ้นไปอีก เช่นวันวาน..
"รักเธอกับลูกที่สุดเลย..โฮชิ.."
"นิสัยเสียนะยะ แอบฟังชาวบ้านเขาคุยกัน"
"เปล่านี่ แค่บังเอิญยืนอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ"
"แถ"
"ยอมรับ"
อากาเนะกลอกตารอบโลกทันทีกับความช่างโต้ของมาซาฮิโระ ถ้าไม่ติดว่าช่วยอะไรเธอมาหลายต่อหลายอย่าง (และต้องช่วยต่อไปด้วย!) ล่ะก็ แม่จะด่าโปงแล้วตบหลังมือเข้าให้ ฮึ่ย!
"แล้ว จะทำยังไงต่อล่ะ" คราวนี้มาซาฮิโระไม่ได้อยากจะกวนประสาท แต่เขาถามจริงๆ หากว่าอากาเนะตั้งใจจะบริหารงานต่อจริงๆ เธอจะต้องเรียนมากกว่านี้อีกหลายเท่า..ตอนแรกเขาอยากเเนะนำให้ไปเรียนด้านเฉพาะไปเลย แต่พอหันมองหน้าเจ้าตัวเเล้ว..
เรียนแบบปกติ แล้วเสริมเข้าไปเอาแล้วกัน..
"คงเรียนม.ปลายต่อให้จบก่อน..ระหว่างนั้นก็เสริมเรื่องบริหารธุรกิจ..ไม่ก็ลองไปดูงานที่ฮาจิเมะซังทำ.."
"อย่าลืมว่าถึงพ่อผมจะบริหาร แต่การตัดสินใจใหญ่ๆ เธอก็ต้องร่วมตัดสินใจด้วยนะอากาเนะ"
ดวงตาสีส้มเหลือบมองคนพูด มาซาฮิโระหวั่นใจไม่หยอกเลยทีเดียวกับสายตานั่น..แล้วเขาก็แทบลุกเดินหนี เมื่อนิ้วเรียวชี้มาและออกคำสั่งหน้าตาเฉยกับเขาว่า
"นายช่วยฉันด้วยเเล้วกัน เรียนด้านนี้ตั้งเเต่เด็กแล้วนี่นา"
"ทำเองสิ!" เขาบ่น สรุปนี่คิดจะพึ่งเขาหมดทุกงานเลยรึไงใช่ไหมเนี่ย!“
แต่อากาเนะกลับทำเมินไม่สนใจเสียงบ่นโวย เธอกดเปิดสมาร์ทโฟน ลองหาโรงเรียนม.ปลายดีๆ สักแห่ง ก่อนจะพบ ดวงตาประกายเเวววาวยามมองหน้าเว็บของ โรงเรียนมัธยมเทย์โคว บนหน้าจอสมาร์ทโฟนของตนเอง ยิ้มกริ่มเเล้วหันไปเอ่ยกับมาซาฮิโระว่า
"เข้าที่นี่แหละ นายเองก็ต้องเข้าด้วยนะ เข้าใจไหม"
"ผมมีที่เรียนของผมอยู่เเล้ว ยื่นโควต้าเสร็จเเล้วด้วย"
"ไม่สนย่ะ! ยังไงฉันก็ไม่ยอมไปเรียนคนเดียวแน่ๆ นายต้องไปคอยดูเเลฉัน เข้าใจไหมยะ!!"
ปลายนิ้วชี้ตรงมาอีกครั้งพร้อมเสียงที่แว้ดแหวกอากาศใส่หูจนหูแทบดับ มาซาฮิโระกุมขมับ รู้สึกเหมือนไมเกรนจะกินหัว ตอนเด็กๆ ไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยยังมีเรื่องชวนปวดกระโหลกให้ตามแก้เป็นพะเนิน นี่เขาต้องไปตัวติดกับเจ้าหล่อนในโรงเรียนอีก..ตายกันพอดี!
"เอาเถอะ.." สุดท้าย มาซาฮิโระก็ถอนหายใจและปลงในที่สุด "แต่นี่โรงเรียนนี่ เป็นสถานศึกษาที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเลยนะ ไหวเหรอ“"
อากาเนะมองหน้าอีกฝ่ายคล้ายกำลังบอกว่า พูดแบบนี้ ด่าเธอว่าโง่เลยก็ได้ ก่อนจะพูดด้วยเสียงลอยๆ ว่า
"ไม่ไหวก็ต้องไหว..ยังไงฉันก็ต้องพยายามเพื่อที่ตอบรับความเชื่อมั่นของพ่อของฉันให้ได้.."
ดวงตาทอดมองดวงหน้าสวยที่มุ่งมั่น มาซาฮิโระไม่เคยคิดหรอกว่าจะได้เห็นสีหน้าเเบบนี้จากเด็กสาวที่วันๆ เอาแต่วีนเหวี่ยงใส่ชาวบ้านเขาไปเรื่อย และโดนตามใจมาตลอดอย่างอากาเนะ เขาลอบยิ้ม..จริงๆ แล้วไม่ได้อยากตายอะไรจริงจังหรอกที่ถูกบังคับให้ไปเรียนที่เดียวกัน..อืม..ว่าไงดี..แอบดีใจนิดๆ น่าจะเข้ากับอารมณ์ตอนนี้มากกว่าล่ะมั้ง..“
ฝ่ามือลงบนศีรษะเเล้วออกแรงขยี้จนเจ้าของร้องด่าลั่น เสียงหัวเราะเจือคลอจากผู้กระทำ มาซาฮิโระลุกขึ้นเเล้วยื่นมือให้กับเด็กสาวที่เติบโตมาได้ด้วยกัน
"ไม่ต้องกลัวที่จะเผชิญกับปัญหาหรอกนะ..เพราะถ้าเกิดว่าเธอเหนื่อย ก็ให้หันกลับมา..ฉันจะเป็นคนคอยดูเเลเเละช่วยเธอเอง.."
"สัญญานะยะ อิตาบ้า"
มือบางวางลงเเล้วจับเเน่น รอยยิ้มแย้มออกระหว่างคนทั้งสองเป็นสัญญาระหว่างกัน มาซาฮิโระหัวเราะ เอ่ยรับไปเสียงเบา
"อืม สัญญาเลย.."
สัญญา..ว่าจะคอยดูเเลเธอ
สัญญา..ว่าจะคอยปกป้องเธอ
และขอสัญญา..ว่าจะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป..
ไม่ว่าท้ายสุดเเล้ว..คนที่ได้ยืนอยู่ข้างเธอไปจนแก่เฒ่านั้น..
จะเป็นใครคนอื่นที่ไม่ใช่ผมก็ตามที..
สิ่งที่ชอบ / ไม่ชอบ / กลัว :
[ชอบ]
-เค้ก [เป็นผู้หญิงสามัญที่ชอบของหวานเป็นชีวิตจิตใจค่ะ--เพิ่มเติมคือเป็นพวกระบบเผาผลาญดี ขยันออกกำลังกาย เลยไม่อ้วน ll เวลาเจอเค้กมักทำตาเป็นประกายระยิบระยับเสมอ]
-ผักผลไม้ [อากาเนะคิดว่ามันมีประโยชน์ดีนะ..เอาจริงเพราะมันอร่อยด้วยเเหละ ผักบางอันกรอบๆ ผลไม้บางชนิดก็หวานได้ใจดี.. ll ไม่อะไรมาก แค่มักสั่งอาหารที่มีผักอยู่ด้วยเเละเสริมด้วยผลไม้ทุกมื้อ ขาดไปสักมื้อจะกระสับกระส่ายและโมโหง่ายนิดหน่อย--]
-โยเกิร์ต [อากาเนะบอกว่าอร่อย (?) ll กินทุกเช้าเเละเย็นเวลาละกระปุกค่ะ]
-สุนัขขนฟูตัวโตๆ [ขนนิ่มๆ กับร่างขนาดเต็มกอดนี่มันน่ารักน่าฟัดมากเลยนะ! ll หากอยู่กลางฝูงชนจะชำเลืองตาเอ็นดู แต่หากอยู่แบบส่วนตัวจะเข้าไปกอดเเละเล่นด้วย]
-มีคนตามอกตามใจ [ไม่ชอบให้คนขัดใจ..เพราะงั้นคงไม่แปลกหรอกมั้งถ้าจะชอบที่มีคนมาตามใจเธอน่ะ“ ll มักลอบอมยิ้มในใจเสมอ เวลาถูกตามใจหรือได้รับการเข้าข้างพวกนี้จะอารมณ์ดีฟรุ้งฟริ้ง (?) เป็นพิเศษ]
[ไม่ชอบ]
-แมลงปอ [เอาจริงๆ อากาเนะเกลียดเลยล่ะ..สาเหตุเพราะว่ามันน่ารังเกลียดในสายตาเธอยังไงล่ะ ll เวลาเจอจะขมวดคิ้วแน่นท่าทางขนลุกนิดๆ และเฟตหนี]
-กาแฟ [ขม..แถมดื่มเเล้วตาค้างอีก ไม่ปลื้มหนักมาก ll ไม่จำเป็นจะไม่ดื่มเด็ดขาด! แถมดื่มเเล้วอารมณ์เสียง่ายอย่างกับประจำเดือนมาอีกนั่น..]
-การนอนดึก [ผิวเสีย! ตาคล้ำ! ล้าง่าย! ไม่ดีต่อร่างกาย! ll เซมข้อข้างบนเลยค่ะ---]
-คนขัดคำสั่งหรือคนที่เเข็งข้อกับเธอ [พอมีคนมาตามใจมากๆ เเล้วโดนขัดคำสั่งน่ะ มันข้องใจเเละชวนหัวเสียมากเลยนะ ll มักชักสีหน้าเเละโต้ตอบกลับไปอย่างเผ็ดร้อน]
-บ้านใหญ่และพองญาติทั้งหลาย [น่ารำคาญ.. ll มักทำสีหน้าเหมือนโลกถล่มและอิดออดโวยวายทุกครั้ง ที่จะต้องไปเหยียบบ้านใหม่หรือพบปะกับเหล่าญาติๆ (?) ของตน]
-การกลั่นเเกล้ง [เจอจนเอียนละ...llก็แค่กลอกตาเบาๆ สามรอบ แล้วแก้ปัญหาแบบสวยๆ ให้คนแกล้งมันอ้าปากค้างไปตามๆ กัน---]
-คนเฟรนด์ลี่เกินไป [คือคนอะไรมันจะแฮปปี้ลั้ลลาเข้าได้หมดกับทุกผู้คนขนาดนั้น.. ll มักมองด้วยสายตาคล้ายมองคนบ้า บางทีถ้าเป็นเพื่อนตัวเองจะหวงกว่าเพื่อนปกติเป็นพิเศษ---]
[กลัว]
-หนอนบุ้ง [กลัวและสยดสยองมาก หน้าตาน่าเกลียดเเละทำคันคะเย่ออีก ll เจอเเล้วกรี๊ดเเตกค่ะ จอดสนิทหมดภาพสาววีนจอมเหวี่ยงสุดเชิดมาก..]
แพ้ : ชาญี่ปุ่นแบบต้นฉบับ [ดื่มเข้าไปแล้วจะทำให้เกิดไข้ขึ้นสูง และตาลายค่ะ จะมีอาการเพ้อๆ ลอยๆ (?) และอ่อนไหวกว่าตอนปกติเนื่องเพราะพิษไข้ผสมอาการเเพ้ วิธีแก้คือกินยาเเก้เเพ้ แต่ถ้าไข้ไม่ลดในหนึ่งวันก็หิ้วส่งโรงพยาบาลได้เลยค่ะ]
ลักษณะการพูด : อากาเนะนั้นเอกลักษณ์เเล้วเป็นพวกเหวี่ยงวีนเป็นที่สุด ดังนั้นน้ำเสียงของเธอจึงมีลักษณะที่ค่อนข้างแหลมสูงเอาเรื่อง ทั้งยังห้วนและเชิดปลายสื่อความรั้นเเละยโสในตัวอย่างเห็นได้ ปรี๊ดง่ายจัดเลยชอบพูดเสียงดังและเหวี่ยงเสียง คำพูดคำจาไม่ใคร่จะเป็นมิตรนัก ความวีนเหวี่ยงร้ายกาจสื่อออกจากวาจาได้เช่นเดียวกับการกระทำ มักแทนตัวว่า ฉัน เรียกคนอื่นว่า เธอ หรือ นาย เสมอ บางครั้งโกรธจัดจนลืมตัวอาจเผลอหลุดคำว่า แก แต่เมื่อระลึกได้ก็มักกลืนคำหยาบคายลงคอไปเสีย เป็นเหตุให้แม้ว่าปากจะพูดถ้อยคำจิกกัดยั่วฝ่ามือชาวบ้านขนาดไหน ก็ไม่หนักหนาขนาดล่อพ่อล่อแม่ใครเขา ให้เกียรติผู้อาวุโสกว่าตนจำพวกครูบาอาจารย์และผอ.โรงเรียนอยู่ในที ถึงจะไม่มีหางเสียงหรือถ้อยคำที่ดูสุภาพชัดเจน แต่ก็สื่อออกได้ทางน้ำเสียงชัดเจนว่าเคารพอยู่บ้าง ไม่กล่าวคำจาบจ้วงเกินไปกับคนที่อายุมากกว่า แต่หากใกล้เคียงกันถ้อยคำจะสนิทสนมมากขึ้นโข แต่สุดท้ายเเล้วยังไงก็ยังไม่มีถ้อยคำหยาบคายนอกจากจะสติแตกจริงๆ นั่นแหละ ปรับน้ำเสียงของตัวเองได้ดี เพราะงั้นเวลาโกรธหรือเศร้าหมองจึงยังคุมโทนเสียงให้เป็นเหมือนปกติได้ดีเยี่ยม แม้ว่าช่วงแรกจะแอบหลุดบ้างอะไรบ้างก็เถอะนะ อนึ่ง คำลงท้ายจากอากาเนะที่เห็นได้บ่อยๆ นั้นคือ ย่ะ/ยะ ค่ะ แต่ถ้านางอารมณ์ดีไม่ก็อยากกวนคนฟังก็ลงท้ายว่า จ๊ะ/จ๋า/จ้ะ อะไรพวกนี้---
>>คำแทนตัว / หางเสียง<<
[เพื่อน : ชอบแทนเพื่อนสาวว่า สาวๆ และเเทนเพื่อนชายว่า หนุ่มๆ หากเรียกเฉพาะเจาะจง จะเรียกโค้ดเนมของอีกฝ่ายตรงๆ ไปเลย / ไม่มีหางเสียง (น้ำเสียงลั้ลลากว่าปกติ และเป็นมิตรพอตัว]
[ภรรยาทั้งหลายแหล่ของพ่อ : เรียกชื่อของอีกฝ่ายตรงๆ และเติมซังลงท้ายเสมอ / มีหางเสียงทุกประโยค (เเบบไม่เต็มใจ--เเละน้ำเสียงจะเรียบกว่าปกติเล็กน้อย คล้ายไม่อยากคุยด้วย)]
[ลูกๆ คนอื่นของพ่อ : เรียกชื่อห้วนๆ / ไม่มีหางเสียง (น้ำเสียงปกติ)]
[ผู้หลักผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ : นามสกุล (โค้ดเนม) พร้อม ซัง ลงท้ายเสมอ / ไม่มีหางเสียง (แต่น้ำเสียงสุภาพ)]
[คนที่ไม่รู้จักสนิทสนมอะไร : นามสกุล (โค้ดเนม) / มักเติม ยะ/ย่ะ ลงไปแทนหางเสียงสุภาพ (น้ำเสียงห้วนเชิดรั้น)]
[คนรัก (ยังไม่มีนะ--) : ชื่อเล่นของอีกฝ่าย (โค้ดเนม) บางทีก็เรียกตาบ้าเเล้วแต่ฟิล (?) ถ้าโกรธจะเรียกอีกฝ่ายด้วยนามสกุลหรือสรรพนามทางการ / ไม่มีหางเสียง (น้ำเสียงเเล้วแต่อารมณ์..)]
}}ตัวอย่างประโยคการสนทนา{{
"ทำตัวน่ารำคาญแล้วคิดว่าชาวบ้านเขาจะมาสนใจรึไง“" พูดจิกใส่คนที่พยายามแสดงท่าทางเรียกร้องความสนใจออกมา แม้ว่าอีกฝ่ายจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
"ถ้าจะขอโทษแบบนี้ ฉันว่านายเอาเวลาที่มาขอโทษฉันไปฝึกวิธีขอโทษมาใหม่เถอะย่ะ!" วี้ดใส่คนที่ขอโทษเธอด้วยท่าทีไม่ใส่ใจมากนัก หรือไม่เต็มใจจะขอโทษด้วยสีหน้าไม่ชอบใจสุดๆ
"นะ นาย กล้าดียังไงมาทำตัวกับฉันเเบบนี้ห๊ะ!!“ นายมัน! นายมัน!! กรี๊ดดดดดด!!" กรี๊ดอัดหูด้วยหน้าแดงๆ กับคนที่ทำตัวกริยาไม่พึงใจเธอ หรือเอาง่ายๆ ก็ไม่เคารพเเละพยายามเเข็งข้อกับเธอนั่นแหละ---
"หนวกหู หนวกหู หนวกหู หนวกหู หนวกหู! ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน เข้าใจไหม!“" ว่าใส่คนที่พยายามห้ามเธอไม่ให้เธอทำในสิ่งที่หมายมาดปั้นใจมากๆ
"มารยาท“ อ้อ พ่อฉันก็สอนนะ แต่แค่สอนด้วยว่าให้เลือกใช้ให้ถูกคน คนไหนที่ควรจะมีมารยาทด้วยก็มีเสีย แต่ไอ้พวกที่มันถ่อยๆ ก็ไม่ต้องไปมีมารยาทอะไรด้วยให้มากความน่ะ..รู้เรื่องนะ?" กระตุกยิ้มมุมปากหน่อยๆ พร้อมเลิกคิ้วใส่คนที่หาว่าเธอไร้มารยาท
"หนาวนะยะ! อย่าเร่งเเอร์สิตาบ้า!" บ่นแบบไม่จริงจังมากนักก่อนจะหัวเราะกลั้วๆ ใส่คนสำคัญของตัวเอง
"อย่าพูดถึงพ่อของฉันแบบนั้น.." พูดด้วยเสียงเบา แต่เย็นและหนัก นัยน์ตาฉายเเววเอาเรื่องเมื่อมีคนพูดถึงพ่อของตนในทางเสียๆ หายๆ
ชนชั้น : High Class
คู่ : คิเสะ เรียวตะ
เพิ่มเติม : มิราเคิลเดย์จริมๆ ค่ะ..ปั่นนิ้วไฟลุกเลยทีเดียว----ฮาาาา
}}เพิ่มเติมรายละเอียดตัวละคร{{
-อากาเนะเกิดวันที่21มกราคม ราศีกุมภ์ เวลาเกิดคือ 17:15น. ถนัดทั้งมือขวาและซ้าย และเป็นสาวกรุ๊ปเลือดOค่ะ
-อากาเนะปัจจุบันเเล้วอยู่ม.ปลายปีสามเจ้าค่ะ---
-อากาเนะหลงทางเป็นงานอดิเรก เดินผิดทิศเป็นชีวิตจิตใจ--(..)
-ปกติเเล้วมักไปไหนมาไหนกับเพื่อนสาวคนสนิทเสมอ สาเหตุหลักๆ คือ เพราะเขาสนิทกัน (?) และเพื่อนสาวของเธอเปรียบเป็นเข็มทิศส่วนบุคคลของอากาเนะค่--
-อากาเนะมีความสามารถพิเศษคือ เธอเล่นเปียโนกับฟลุ๊ตได้ค่ะ เพราะมากเลยด้วย
-หากมีระบบชมรม อากาเนะจะอยู่ชมรมเปียโนค่ะ
-เจ้าตัวมีความฝันอยากเป็นนักเปียโน แต่ว่าเพราะรับปากเเล้วว่าจะดูเเลบริษัทของคุณพ่อต่อให้เมื่ออายุ25ปี เลยเก็บไว้เป็นงานอดิเรกยามว่างแทน
-สาเหตุที่เคย์หรือพ่อของอากาเนะ ทำตัวเจ้าชู้ เพราะอยากภรรยาทั้งหลายอกแตกตายให้ได้ค่ะ หมั่นไส้ (..)
-ฮาจิเมะ โคมะ เป็นพ่อของมาซาฮิโระค่ะ เป็นเพื่อนสนิทกับเคย์มานานมาก และสนิทกันมากจนบอกว่าตายเเทนกันได้เลยทีเดียว
-สาเหตุที่มาซาฮิโระมาอยู่กับเคย์ เป็นเพราะว่าโคมะตัดสินใจ อยากให้ลูกชายโตไปคอยดูเเลอากาเนะ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาคุยๆ กันไว้ค่ะ แต่ดูเเลในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคนรัก แต่เป็นเรื่องการแนะนำ และงานอะไรพวกนี้น่ะค่ะ
-เวลาพัก หรือว่างๆ อากาเนะจะอยู่กับกลุ่มเพื่อนสาวของเธอเสมอ แต่ตอนเย็น เธอจะเดินกลับหอกับมาซาฮิโระค่ะ โดยฝ่ายชายจะเดินไปส่งถึงหออากาเนะ เเล้วค่อยกลับหอตัวเองไป---
-หากถามในเรื่องของความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาว..ต้องบอกได้เลยว่า อากาเนะไม่ได้คิดอะไรกับมาซาฮิโระเลยค่ะ เพราะโตมาเดียวกัน แล้วก็เจอหน้ากันมาตั้งเเต่เด็กๆ เลยเห็นเป็นเพื่อนคนสนิทมากกว่าจะเป็นเชิงรักใคร่อะไร..ซึ่งมันตรงข้ามกับมาซาฮิโระค่ะ เจ้าตัวรักอากาเนะ และรักมานานเเล้วด้วย แค่ไม่เคยบอกแต่ดูเเลอยู่ห่างๆ แทน..เขาตัดสินใจว่า จะคอยดูเเลอากาเนะไปเรื่อยๆ จนแก่จนเฒ่าเลยค่ะ ถึงเเม้ว่าอากาเนะจะไม่ได้รักเขาก็ตามทีเถอะนะ
-ถึงจะไม่รัก แต่อากาเนะเชื่อมาซาฮิโระมากค่ะ นอกจากแม่เเล้วก็มีมาซาฮิโระเนี่ยแหละที่เธอยอมฟัง เพราะงั้นการจะเป็นคนรักของอากาเนะได้ เลยต้องทำให้มาซาฮิโระมั่นใจว่าดูเเลเธอได้เสียก่อน ไม่งั้นมาซาฮิโระก็พร้อมเป่าหูห้ามอากาเนะไม่ให้คบ (...) หรือหาวิธีไล่ฝ่ายชายไปแน่นอนค่---(สาเหตุใหญ่ๆ ในความนกของอากาเนะ..)
-อนึ่ง อากาเนะไม่เคยรู้ตัวว่าตัวเองมีคนอยากจีบตัวเองอยู่บ้าง เพราะคนที่จะจีบส่วนมากมักไม่ผ่านเกณฑ์ที่มาซาฮิโระตั้งไว้ ก่อนจะได้เริ่มจีบ ก็โดนพ่อคุณไล่ซะเเล้วค่--อาเมน..
[การแต่งตัว] : อากาเนะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเรื่องมากในการเเต่งตัวเอาเรื่องค่ะ ถึงเเม้จะอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ชุดที่เธอใส่ก็ต้องสวยและมีความเป็นไฮแฟชั่น (?) ตลอดเวลา ปกติเเล้วเจ้าตัวมักติดนิสัยสวมเดรสสีเข้มสั้นกว่าเข่าเสมอ เเละจะไม่สวมเครื่องประดับหรืออะไรก็ตาที่เป็นสีฉูดฉาด เป็นการไว้ทุกข์ให้พ่อของตนนั่นเองค่ะ..ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวติดนิสัยสวมเสื้อผ้าแบบนั้นไปแล้วเรียบร้อย จึงคาดการณ์ได้ว่าอนาคตผ่านไปอีกเป็นสิบปี อากาเนะก็จะยังชื่นชอบการสวมเดรสสีเข้มอยู่ดีค่ะ อนึ่ง เจ้าตัวติดนิสัยชอบใส่ส้มเข็ม..แถมสูงมากคือ คือสูงปรี๊ดเลยค่ะ ประเด็นคือนางเดินได้คล่องสุดๆ วิ่งบนส้นสูงอากาเนะก็ทำได้ ดังนั้นเวลาไปเดินเตร่หรือออกไปเที่ยวที่ไหน อากาเนะเลยสวมส้นสูงเดินไปมาทุกรอบ (ถามว่าใส่ส้นสูงเเล้วไม่กลัวผู้ชายมองว่าสูงไปเหรอ--อากาเนะบอกเลยว่าไม่สนค่ะ อีกอย่างน้องชอบผู้ชายส่วนสูง190บวก--) ส่วนเครื่องประดับ เจ้าตัวจะสวมสร้อยทองคำขาวที่เเขวนจี้เล็กๆ ที่มีรูปของพ่อแม่และเธอเอาไว้เสมอค่ะ อยู่โรงเรียนก็ยังใส่---ll เรื่องการแต่งหน้า อากาเนะเป็นผู้หญิงที่ไม่เเต่งหน้าแต่งตาค่ะ เธอจะทาเฉพาะครีมบำรุงผิวกับครีมกันแดดเท่านั้น และค่อนข้างรักงาม เลยมีครีมบำรุง มาส์กหน้าแผ่น/ครีม กองไว้หน้าโต๊ะกระจกในห้องหอพักเป็นสิบกระปุกเลยค่ะ
[การศึกษา] : อนุบาลเรียนที่บ้าน โดยมีครูสอนพิเศษด้านเฉพาะต่างๆ มาสอนให้ตัวต่อตัว ประธมเธอเรียนโรงเรียนนานาชาติเเห่งหนึ่งในญี่ปุ่นค่ะ และมีการเรียนพิเศษเปียโนเสริมตลอดจากนักเปียโนอาชีพ ซึ่งก็เรียนด้วยกันมาจนถึงปัจจุบันจนสนิทกันไปแล้วค่ะ ครูคนนี้ชื่อ ทาจิบานะ ยูกิ มักมาสอนอากาเนะในช่วงบ่ายของเสาร์-อาทิตย์เวลาสามชั่วโมงทุกอาทิตย์ ส่วนตอนม.ต้นนั้น อากาเนะเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังเเห่งหนึ่ง ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แล้วจึงย้ายเข้าเทย์โควในตอนเข้าม.ปลายนั่นเองค่ะ เรื่องผลการเรียน ถือว่าดีเอาเรื่อง บอกว่าเป็นคนฉลาดคนหนึ่งได้อย่างไม่ต้องอายปากได้เลยล่ะค่ะ----
[การกีฬา] : ห่วยแตกบัดซบจนไม่สามารถหาคำใดมาบรรยายได้---(...) ll ถึงเเม้นางจะมือหนักเท้าหนัก แต่อากาเนะวิ่งช้าและเหนื่อยง่ายกว่าคนไปพอสมควรค่ะ ประเด็นคือชีวิตไม่เคยจับบอลจับบาส เล่นทีก็เงอะงะ ไม่หลุดมือไปกระแทกหน้าชาวบาน แม่คุณก็ปาออกนอกสนามประจำ (..)
[ประวัติกิจกรรม] : ไม่มีเลยสักอย่าง ll สมัยก่อน อากาเนะเป็นพวกไม่ถูกกับงานเเข่งขันทุกประเภทค่ะ เพราะเจอพี่ๆ น้องๆ พากันแข่งกันเองเย้งๆ ในบ้าน เลยรู้สึกขยาดการเเข่งขันวิชาการเอย กีฬาเอย ภาพศิลป์เอย ดนตรีเอย คือไม่แตะไม่ต้องสักอย่าง จนกระทั่งม.ปลายนี่แหละค่ะ ที่เธอเริ่มสนใจการเเข่งเปียโน ปัจจุบันก็ฝึกซ้อมเตรียมตัวเเข่งอยู่อย่างสุดความสามารถ หมายจะคว้ารางวัลมาให้ได้นั่นเอง (แต่แน่นอนว่าอากาเนะเเบ่งเวลาค่ะ ซ้อมก็ซ้อมไป แต่ถึงเวลาไปเรียนรู้เรื่องธุรกิจของบ้านตน ก็จะไปโดยไม่มีเลทเลยค่ะ)
[มิตรสหาย] : อากาเนะมีเพื่อนคนที่สนิทที่สุดก็คือเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกัน ฮารุโยโกะ นาเดชิโกะ เป็นลูกสาวตระกูลฮารุโยโกะเพียงคนเดียว ที่ตอนนี้ส่งออกน้ำมันค่ะ แต่ที่ทั้งสนิทกันไม่ใช่เพราะเรื่องธุรกิจหรือเงินทอง แต่เป็นเพราะตอนเปิดเทอม ฮารุโยโกะพาอากาเนะที่เดินหลงมั่วไปทั่วไปส่ง (?) มาซาฮิโระให้ อากาเนะเลยยึดตัวไว้ใกล้ๆ มันซะเลย ตอนแรกก็โวย แต่พอรู้จักกันไปสักพักก็พบว่าเข้ากันได้ดีมากๆ ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นเพื่อนรักสุดสนิทไปแล้วเนี่ยแหละค่---[ดูโปรไฟล์ฮารุโยโกะได้ด้านล่างนะคะ!]
[ความรัก] : โสดสนิทตั้งเเต่เกิดจนโต.. ll ตอนพ่ออยู่ พ่อก็คอยกัน พอพ่อไม่อยู่เเล้ว ก็มีมาซาฮิโระมาช่วยกันอีกงาน..อืม ชาติหน้าเธอจะได้มีแฟนกับเขาบ้างไหมเนี่ย!“
[ครอบครัว] : ปัจจุบันเหลือเพียงมารดาแท้ๆ ของตน ผู้มีใบหน้า เส้นผม สีตาเหมือนกับอากาเนะทุกประการ ในเรื่องของนิสัยนั้น ตรงบอกว่าคล้ายคลึงกับอากาเนะเอาเรื่อง เพียงแค่ฝั่งมารดาดูจะร้ายกาจ (?) กว่าลูกสาวหลายเท่าเท่านั้นเอง---ปัจจุบันอายุ45ปี แต่หน้ายังสาวสวยไม่เลิก ชื่อว่า โคโตริ โฮชิ มีหน้าที่เป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์ตระกูลอาเคมิ ซึ่งขึ้นตรงต่ออาเคมิ อากาเนะเพียงเเค่คนเดียวเท่านั้น..
{ญาติๆ ทั้งหลายแหล่ - ก็..ภรรยาทั้งสี่ของพ่อ และลูกชายลูกสาวของพวกนางอีกหกคน เอาตรงๆ อากาเนะไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าคนพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ เพราะงั้นอย่าไปนับญาติให้เมื่อยเลย ถึงจะใช้นามสกุลเดียวกันก็เถอะนะ..}
[ที่อยู่อาศัย] : อากาเนะอาศัยอยู่ที่เรือนเล็กติดทะเลสาบค่ะ ซึ่งเรือนเล็กที่ว่านี่คือ เป็นบ้านลักษณะทรงโมเดิรน์สองชั้นสีขาว ที่อยู่ติดกับทะเลสาบด้านหลังคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลอาเคมิ หากอยากจะไปเรือนเล็ก ก็จะต้องอ้อมคฤหาสน์ใหญ่ เดินเลาะสวนกุหลาบไปเรื่อยๆ จนถึงทะเลสาป ไม่ก็ผ่านคฤหาสน์ใหญ่ไปด้านหลังโดยตรง ทางที่สองนั้นจะสั้นกว่าทางแรกเยอะเลยค่ะ แต่อากาเนะขอเลือกไม่ใช้ ไปเดินอ้อมมันเสียแทนเพราะไม่อยากเจอหน้าญาติๆ นั่นเอง ซึ่งเธออาศัยอยู่กับเเม่และมาซาฮิโระค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นมีคนรับใช้อีกคนที่คอยปรนนิบัติดูเเลคุณหนูอากาเนะของเธออย่างดี ซึ่งเเม่สาวนางนี้อายุ27ปี ชื่อว่า ฮเดกิ อายูมุ ค่ะ!
Profile her ฺFriend
"เมื่อว่าเมื่อไหร่..ผมก็จะอยู่เคียงข้างเธอ.."
ฮาจิเมะ มาซาฮิโระ {Hajime Mazahiro} ll การ์เดียน {Guardian}
Age : 18ปี
Status : Alive / นักเรียนมัธยมปลายปีที่สาม โรงเรียนเทย์โคว
}เพื่อนสนิทตั้งเเต่วัยเยาว์ของอากาเนะ มีนิสัยที่ดูสุภาพเเต่ฉลาดเจ้าเล่ห์ และสำคัญคือกวนประสาทกว่าที่เห็นมากๆ แอบรักอากาเนะข้างเดียว แต่ก็ไม่คิดจะให้เธอรักตอบ แค่ดูเเลอากาเนะต่อไป..เขาก็พอใจเเล้ว{
#โค้ดเนมนี้เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจตั้งเองหรอกค่ะ โดนอากาเนะยัดเหยียดมาให้ เนื่องจากเจ้าตัวบอกว่า มีชนชั้นสูงเเล้วก็ต้องมีผู้พิทักษ์สิยะ! มาซาฮิโระเลยต้องรับโค้ดเนมมาจนได้ค่ะ--ถถถ#
#อันหนึ่งอันใด การ์เดียนที่หมายถึงผู้พิทักษ์นี้ หากมองในสายตามาซาฮิโระ ก็เหมือนผู้พิทักษ์ชนชั้นสูงหรือคือคนคอยดูเเลอากาเนะ เพิ่มเติมคือ มีหน้าที่แสกนหนุ่มๆ ที่เข้าแอ๊วเพื่อนตัวเอง ที่ถ้าไม่ดีพ่อคุณจะไล่เปิงไปหมดเลยค่ะ..#
"เลเน่น..เธอเดินผิดทาง.."
ฮารุโยโกะ นาเดชิโกะ {Haruyoko Nadeshiko} ll อารัคเน่ {Arachne}
Age : 17ปี
Status : Alive / นักเรียนมัธยมปลายปีที่สาม โรงเรียนเทย์โคว
}สาวไฮคลาสหน้าตางามปานเทพีและฉลาดเป็นกรด อุปนิสัยดูนิ่งเเละเฉยชา แต่มีความร้ายเเฝงอยู่ในตัว มักมีหน้าที่คอยจูง (?) อากาเนะไม่ให้เดินผิดทิศหลงทาง เปรียบเป็นเข็มทิศมีชีวิตของอากาเนะก็ว่าได้{
#โค้ดเน้มนั้นหมายถึง ปิศาจแมงมุม อารัคเน่ ค่ะ ส่วนตัวเเล้วฮารุโยโกะชอบปิศาจเเมงมุมตนนี้มาก เลยเอามาตั้งเป็นโค้ดเนมเลยน่ะค่---#
TALK
1. ชื่ออะไรเอ่ย “ เราเซ็นเน้อ //ยิ้มแรง
-ผปค.ชื่อรันรันค่ะ ท่านเซ็นเรียกรันเฉยๆ ก็ได้ค่ะ หรือถ้ามีคนรู้จักชื่อนี้ เรียกรันรันไปก็ได้ค่ะ คาดว่าไม่น่าจะมีซ้ำเเล้วล่ะ (มั้ง---) //อย่ายิ้มเเรงเยอะๆ นะคะ ระวังปวดกรามนะคะ! #ผิด
2. ทำไมถึงมาสมัครเรื่องนี้ล่ะคะ //ขยิบตา
-ชอบค่ะ!!!!!!! //..........---เอ่อ แค่ชอบจริงๆ นะคะ (..?)
3. ถ้าหากไม่ติดในบทที่ต้องการ อยากให้มีบทใหม่ไหม (ครู อาจารย์ เพื่อนร่วมห้องพระเอก,นางเอก ตัวร้าย(“)และอื่นๆ) หรือว่าจะรับกลับคะ“
-เป็นตัวร้ายก็ได้ค่---แค่ก ขอโทษค่ะ คือ รันล้อเล่น รับกลับนะคะ รักส์---wT
4. เตงแอดเฟบไว้ด้วยนะ เวลาเซ็นอัพเดทมันจะได้ขึ้น <3
-สับตะไคร้ (?) พร้อมลงหม้อเรียบร้อยค่ะ!
5. หมดกับคำถามแล้วล่ะค่ะ ถามเยอะเดี๋ยวโดนตื้บ(“)5555555555555 ขอบคุณที่มาสมัครเรื่องนี้นะคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ จุ้บๆ <3
-ขอบคุณที่เปิดเรื่องนี้มาให้สมัครเช่นกันนะคะ! รักส์น้าา----
I'm not trying for anyone. I'm trying for myself.
-By Akemi-
ความคิดเห็น