ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Strange Tales Of Panorama Island

    ลำดับตอนที่ #245 : WICKED GAMES

    • อัปเดตล่าสุด 23 มิ.ย. 67


    WICKED GAMES
    Playlist: The Weeknd – A Lonely Night


    * ใครล้อสีดำกู เจอล้อสีดำกลับไม่โกงนะ *










    .

    ผู้ชายที่นิชิโบริ นินาโกะเกลียดที่สุดในโลกก็คือทากาฮาชิ ไคโตะ

    เขาไม่ใช่แค่ผู้ชายหน้าโง่ที่ยอมอภัยให้กับนิชิโนะโซโนะ อุริโกะ คนรักของตัวเองที่แอบไปมีอะไรๆ กับคนอื่นได้ง่ายๆ ทั้งที่ตอนเธอเอาเรื่องที่ได้เห็นมาบอก ไคโตะก็ยังพูดขอบคุณเสียดิบดี วันต่อๆ มาก็ยังคุยกับเธอเป็นปกติดี ถึงเขาจะยังคบหากับอุริโกะเหมือนเดิมดี แม้ว่านินาโกะจะรู้สึกตงิดๆ ในใจอยู่บ้าง แต่ก็อย่างที่เธอได้เคยเห็นมานักต่อนักแล้วว่าสุดท้ายเรื่องของความรักก็เป็นเรื่องของคนสองคน

    ไม่ใช่คนที่สามอย่างเธอที่จะถูกหมายหัวจากอุริโกะทันทีที่หล่อนรู้ว่าใครเป็นคนปากโป้ง นอกจากไม่ได้สำเหนียกหรือว่าละอายใจในสิ่งที่ตัวเองทำแล้ว ยังพูดจาหว่านล้อมชักจูงไคโตะที่หน้ามืดตามัวเพราะความรักจนเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ทั้งการพูดจาหาเรื่องค่อนแขวะทุกครั้งที่เจอหน้า บ่อยครั้งก็เป็นการกลั่นแกล้งพอให้เธอได้อับอายขายขี้หน้า บางครั้งอุริโกะที่เรียนอยู่ต่างห้องก็จะมาผสมโรงหัวเราะใส่หน้า นินาโกะพยายามปล่อยผ่านไปในทีแรกเพราะไม่อยากมีปัญหากับคนที่อย่างน้อยๆ ก็เคยเป็นเพื่อน อีกทั้งการกลั่นแกล้งของไคโตะก็ยังไม่เคยหนักข้อขึ้นไปเป็นเรื่องทางกาย แต่ครั้นผ่านไปนานวันเข้า เรื่องเล็กน้อยเหล่านั้นก็กลายเป็นความหงุดหงิดน่ารำคาญใจ จนทำให้นินาโกะอดปากเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป พร้อมกับการเปลี่ยนสถานะจากมิตรให้กลายเป็น...ศัตรู

     

    ผู้ชายที่นิชิโบริ นินาโกะไม่อยากคบหาที่สุดในโลกก็คือนางาเสะ เร็น

    เขาเป็นผู้ชายที่ใครก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารูปหล่อหน้าตาดี ขนาดมีผิวสีคล้ำที่ไม่น่าจะเข้ากับผมสีชาก็ยังดูดียิ่งกว่ามนุษย์ผู้ชายทุกคนบนโลกที่เธอได้เคยพานพบเจอ แต่สิ่งที่นินาโกะเหลือรับที่สุดก็คือนิสัยห่ามๆ กับมารยาทที่เหมือนไม่มีคนสั่งสอนของเขา ซึ่งก็คงจริงเพราะเขาเลิกเรียนหนังสือไปตั้งแต่ตอนม.ต้น ออกมาเตร็ดเตร่กับพวกเพื่อนนักเลงปลายแถวอยู่แถวคาบุกิโจที่ได้กลายเป็นบ้านหลังแรกและหลังเดียวไปแล้วทุกเช้าค่ำ เมื่อไหร่ที่เจอหน้าเธอก็จะชอบเข้ามาพูดจาเจ๊าะแจ๊ะน่ารำคาญไม่ก็พยายามถึงเนื้อถึงตัวจนน่าขนลุกชะมัดยาด เพราะอย่างนั้นนินาโกะถึงได้พยายามหลบเลี่ยงร้านเหล้าที่เขาทำงานอยู่ ส่วนใหญ่แล้วก็ราบรื่นเป็นไปด้วยดี แต่ไม่ใช่กับวันนี้ที่เธอเดินลงมาจากตึกเรียนในตอนเที่ยงแล้วบังเอิญได้เห็นเขายืนก้มหน้ากดมือถืออยู่ริมกำแพงด้านหลังอาคาร ทั้งที่ปกติคนอย่างอีตานั่นไม่เคยสนใจเรื่องของชาวบ้านชาวช่องเค้าแท้ๆ แต่ในตอนที่เธอทำท่าว่าจะเดิน...วิ่ง...ผ่านไปให้เร็วที่สุด จู่ๆ เขาก็จะเงยหน้าขึ้นมาในจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี ใบหน้าที่ยิ่งหล่อเหลาเพราะรอยยิ้มกว้างก้าวฉับตรงมาหา ทั้งอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้นินาโกะรู้สึกดีใจเลยสักนิด

    “ฉันอุตส่าห์อดใจไม่ขึ้นไปหานินะแล้วนะเนี่ย”

    นินาโกะได้แต่หัวเราะแห้งๆ ขยับฝีเท้าถอยห่างจากเขาไปสองก้าว ทำทีเป็นเหลียวซ้ายแลขวาแล้วเปลี่ยนเรื่องไปว่า “มาหาไคโตะเหรอ?”

    ขนาดว่าเธอแสดงออกชัดเจนตั้งขนาดนี้ และเร็นก็ไม่ใช่พวกอ่อนประสบการณ์ที่จะอ่านความรู้สึกของผู้หญิงไม่ออก แต่อาจเป็นเพราะทิฐิ ความดื้อด้าน หรือที่นินาโกะอยากเรียกว่า ความหน้าด้านมากกว่าที่ทำให้เขายังดันทุรังกับเธออยู่ได้ และไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอไม่เคยปฏิเสธเขาไปตรงๆ ด้วยซ้ำ

    “อยากมาหานินะมากกว่านะ”

    ไม่ว่าเปล่า เขายังสาวฝีเท้าเข้ามาใกล้เธออีก ด้วยความจงใจที่จะทำให้แผ่นหลังของเธอถอยชิดไปติดกำแพงอีกฝั่ง ในหัวของนินาโกะมีแต่คำว่า ใกล้เกินไปมาก! ใกล้เกินไปแล้ว! พร้อมกับขนที่ลุกชัน แต่ก่อนที่นินาโกะจะได้เอ่ยมันออกมาเป็นคำพูดดังๆ หางตาของเธอก็จะเหลือบไปเห็นไคโตะที่หยุดยืนห่างออกไปไม่ไกล เป็นเพราะแววตาแข็งกร้าวจดเขม็งที่แสดงออกว่ากำลังไม่พอใจมากของเขาที่ทำให้นินาโกะตัดสินใจ

    “งั้นเย็นนี้ไหมล่ะ?”

    เรียกเสียงหัวเราะขบขันจากผู้ชายตัวสูงกว่าที่ก้มหน้าลงมาหาเธอว่า “ถามจริง?”

    นินาโกะถือโอกาสนั้นผลักอกของเขาออกเบาๆ อย่างมีจริต แสร้งทำเป็นส่งยิ้มเริงร่าเมื่อป้องปากตะโกนบอกเขาว่า “เจอกันหลังเลิกเรียนนะเร็น!” ด้วยระดับเสียงที่ดังมากพอให้ไคโตะที่ไม่ยอมเดินเข้ามาใกล้ได้ยินชัดเจน

    ตอนนี้แหละ...ถึงเวลาที่นินาโกะจะได้เอาคืนผู้ชายหน้าโง่นิสัยเสียพรรค์นั้นแล้วสักที ถ้าไคโตะไม่พอใจนักแค่เพราะว่าเธอคุยกับเพื่อนสนิทของตัวเองแล้วล่ะก็ งั้นก็รอลิ้มรสความรู้สึกของการโดนคนที่เกลียดแย่งเพื่อนสนิทของตัวเองไปด้วยก็แล้วกัน

     

    “โทษทีนินะ แต่วันนี้คงไม่ได้แล้ว”

    นินาโกะก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าไคโตะต้องเล่นเล่ห์กับเธอเข้าสักทาง มาไม้นี้เห็นทีคงบอกเร็นไปแล้วสิท่าว่าเธอตั้งใจหลอกใช้เขาเพื่อแก้แค้น ขนาดมองลงมาจากดาวอังคารก็ยังดูออกว่าเขาอยากเคลมเธอจะแย่แต่ก็ดันยอมถอยง่ายๆ ด้วยเหตุผลแค่นี้เนี่ยนะ นินาโกะไม่เข้าใจเลยว่าเป็นเพราะทิฐิของผู้ชายหรืออะไรกันแน่จนอยากกระโจนไปข่วนหน้าเขาให้สาแก่ใจ หากเธอก็ทำเป็นฝืนปั้นหน้าให้เร็นในตอนที่พูดว่า “เสียดายจัง ฉันอุตส่าห์แต่งหน้าทำผมมาเพื่อเร็นโดยเฉพาะเลยนะ” ที่อาจฟังดูตอแหลแต่ก็ไม่ใช่เรื่องโกหก เพราะพอถึงคาบสุดท้ายที่ครูให้ทำแบบฝึกหัดคณิตแค่ไม่กี่ข้อก่อนปล่อยว่างแล้ว นินาโกะก็เอาเวลาที่มีเหลือเฟือมานั่งแต่งหน้าทำผมใหม่ ถึงขนาดยอมเสียเวลาม้วนผมทั้งที่ปกติขี้เกียจจะตายเพราะจำได้ว่าเร็นเคยชมเธอที่ทำแบบนั้นอยู่ครั้งหนึ่ง เพราะมั่นใจว่ารังสีของความอาฆาตมาดร้ายที่ทำให้ขนคอลุกชันต้องส่งมาจากไคโตะที่นั่งอยู่ริมประตูห้อง นินาโกะเลยหันไปยิ้มเยาะให้เขาแล้วรีบเมินไปก่อนที่กล้ามเนื้อบนใบหน้าของอีกฝ่ายจะได้กระตุก ไม่แน่ว่าถ้าเธอยอมมองให้นานกว่านี้อาจได้เห็นเป็นรอยยิ้มหยัน เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็รู้ว่าเธอจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ

    หากนินาโกะก็ทำได้แค่เอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นไปแตะไหล่เขาโดยที่ยังไม่ทันได้หาเหตุผลมาจูงใจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการต่อ เมื่อเร็นที่ก้มลงพินิจใบหน้าและทรงผมของเธอ — อย่างที่เขาชอบ — ดูเหมือนว่าจะอดใจเอาไว้ไม่อยู่ จนต้องใช้ปลายนิ้วม้วนปอยผมด้านหน้าเล่น แล้วยิ้มออกมา

    “ฉันรู้หรอกนะว่านินะต้องการอะไร”

    “รู้แล้วยังไงล่ะ” นินาโกะจ้องตาเร็นตอบกลับไป “ฉันยอมให้ตั้งขนาดนี้แล้วนายยังจะเลือกไคโตะมากกว่าอีกหรือไง?”

    “ก็ไม่อยู่แล้ว”

    เป็นอีกครั้งในรอบวันที่เขาจะดันร่างของเธอถอยไปจนติดกำแพง แต่หนนี้นินาโกะไม่ได้ดิ้นรนที่จะหลบหนีอีกต่อไป เธอเลื่อนมือขึ้นไปคล้องรอบลำคอของเขาซึ่งโน้มใบหน้าลงมาแล้วกดปากลงไป บังคับให้เธอตอบรับการชักนำที่รุนแรงของเขา เช่นเดียวกับวงแขนที่โอบรัดแน่น ยิ่งเมื่อเธอตอบรับการสนองของเขาด้วยความสั่นไหวและเว้าวอน เกินกว่าจินตนาการที่เขาวาดฝันถึงเธอมาโดยตลอด มันให้ความรู้สึกดีมากเสียจนเขาหักห้ามตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ และเธอก็คงจะรู้สึกถึงมัน ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พยายามเบี่ยงตัวหลบ กลับกันกับเขาที่พยายามดึงร่างของเธอเข้ามาเบียดชิดเพื่อให้รับรู้ว่าเขาต้องการเธอมากแค่ไหน ในเมื่อนินาโกะดึงเขาเข้ามาในเกมการแก้แค้นโง่ๆ นี้แล้ว เธอก็จะต้องตอบแทนการเสียสละเพื่อนรักของเขาอย่างสาสม

    เร็นแน่ใจว่าริมฝีปากสีแดงของเธอจะต้องมีรอยช้ำ และคืนนี้เขาจะไม่ทำให้มันจบแค่อวัยวะส่วนนั้นแน่ เขาจะฝากฝังรอยรักที่รุนแรงมากเท่ากับความรักจนเธอลบลืมความเกลียดชังที่มีต่อเขาทั้งหมดไปเอง

    แล้วเธอก็จะได้รู้ว่าคนที่คุมเกมนี้แท้จริงก็คือเขาต่างหาก











    2024年06月20日
    _______________
     ใครช่วยบอกกูทีว่าทำไมเวลากูฝันถึงเร็นแม่งฝันดีฝันม่วนตลอดเลยวะ กูอายมึงนะรู้ไหม แต่ก็สลัดความอายได้เพราะอยากแต่งพล็อตนี้จริงว่ะ เรื่องในฝันกูคือแบบนี้เลย นิสัยของทุกคนก็แบบนี้เลย เป๊ะหมดทั้งสี่คน สาบาน! เว้นอย่างเดียวคือในฝันเร็นผมดำ ใส่เสื้อแขนกุด กางเกงยีนส์ ลากแตะ สรุปสั้นๆ คือลุคกุ๊ยกว่านี้มากและเป็นพนักงานร้านหมูกะทะ (เอาดีๆ คือทรงเก็นตะ) ซึ่งกูทำใจแต่งไม่ได้จริงๆ เห็นใจกูหน่อยนะเพื่อน Orz ก็เลยขออนุญาต(ใคร)เปลี่ยนเป็นช่วงผมทองที่ดูกุ๊ยแบบผู้ดีไฮโซขึ้นมาหน่อย / ในฝันไคโตะไม่ได้ชอบกูจริงๆ สาบาน ไม่ได้โกหกเพราะกลัวมึงด่า มีแค่เร็นนี่แหละที่มาเล้าหลือกับกู ที่จริงในฝันจะมีช่วงที่ไคโตะทำดีกับกูก่อนแฟนจะยุให้เกลียดด้วย อีนี่ มีชู้ละยังสันดารนะ กูยังจำได้เลยว่ามีซีนนั่งคุยกันปั้นข้าวเหนียวให้เป็นก้อนกับไคโตะไดโกะ เอามาทำอะไรก็ไม่รู้ ข้าวแช่มั้ง ซีนเร็นเดินมาใกล้ละกูก็ตะโกนในใจว่าใกล้ไปแล้วเฮ้ยก็มีจริง ในฝันกู(ที่สวยกว่าตัวกูแต่ก็เป็นกู)มัดผมแล้วย้อยด้านหน้าแบบเป็นลอนทรงแนวๆ ซายูริงโกะเลยอ่ะ แบบนั้นเลยมึง TvT แต่ในฝันจบแค่กูไปกับเร็นหลังเลิกเรียนเพื่อยั่วล้อไคโตะ แต่เพราะกูรู้อยู่แล้วว่ามันจะลงทางไหนไหมวะ ช่วงนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีไฟ แต่ในเมื่อไฟมันกลับมาแบบวูบๆ วาบๆ งั้นก็ประเดิมที่เรื่องนี้พระเอกคนนี้เลยละกัน อายแล้วมีฟิคเราจะต้องอายไปทำไม >_< 
     เรื่องแต่งเหมือนไล่ควาย ไม่มีที่มาที่ไปผิดวิสัยตัวกู เพราะพล็อตจากฝันส่วนใหญ่กูก็ไล่ควายแบบนี้หมดแหละ ไม่เชื่อไปย้อนอ่านดู / นางเอกไปลักจากเรื่องเมนยูมึงมา ไม่ใช่เพราะอายไม่กล้าขอ แต่เพราะกูเสียดายชื่อนางเอกที่เพราะจัง เห็นอุริโกะมึงคู่ไคโตะด้วยก็เลยโอเคร มึงคงไม่ว่าแหละ ยื๊มตัวมาหน่อยแล้วกัน แต่เพราะวงนางเอกเดิมกูแตกแล้วเลยต้องหานินาโกะคนใหม่หน่อยงับ (ของมึงวงยังไม่แตกถึงจะไม่คัมแบค ถือว่ายังได้อยู่เว้ยเพื่อน) / เนื่องจากไปคุ้ยเพลงในสปอติฟายแล้วเจอเพลงจากเรื่องดิไอดอลของเดอะวีคเอนด์ที่กูไลค์ กับซีรีส์ที่ครั้งหนึ่งกูก็เคยได้แปลบทพากย์ตอนสองตอน พร้อมกับฟีดแบคว่า...แปลเบาไปค่ะ ขอแรงกว่านี้ 55555 (ที่กูก็ยังแปลแรงไม่ได้จนเค้าต้องเอาไปแก้เองอยู่ดี 55555) ก็เลยไปไล่ฟังเพลงของเค้าแล้วก็เจอเพลงที่ชอบ เนื้อเพลงก็ใช่ เพลงที่ใช้เป็นชื่อเรื่องก็เป๊ะอยู่ในบางท่อน บอกเลยว่าตอนแรกกูจะแต่งยาวกว่านี้นิดหน่อย มันจะได้เป็นโลนลี่ไนท์ไงวะ แต่แค่ถึงตรงนี้กูก็ตัวสั่นหงึกๆ ไม่ได้แล้วจริงว่ะ พอ! เลิก! คราวหน้าจะไม่เล่นกับจตุรเทพ(แต่มีสี่คน)แล้วโว้ยยย! ของสูงเกิ๊น! แต่เพราะฝันเป็นคนนี้ มันก็ต้องเป็นคนนี้ ตอนมึงแต่งพรี่เร็นๆ กูอ่านได้นะ แต่พอกูแต่งเองคือกุมหัวเหม่ด

     ปล. อย่างน้อยฟิคกูก็เบากว่าโตเกียวทาวเวอร์ ถึงพรี่เร็นๆ จะเล่นเบา (แต่กูแอบยิ้มอยู่) เห้ออ สบายใจละ / และลืมขอบคุณนิยายโรแมนซ์ในนิวออร์ลีนส์เรื่องเดิมสำหรับฉากจูบด้วยงับ (ดัดแปลงมา ไม่ใช่สันดารชอบก๊อปหมดงับ) ที่บอกได้แค่ว่า...ยั่วเยอยู่ (หมายถึงในนิยาย ไม่ใช่ฟิคกู)
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×