คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : [SF HaeEun] Daddy Donghae : Cooking
Daddy Donghae: Cooking
“คุณทงเฮครับครับ คุณทงเฮชอบกินอะไรเหรอ”
ฮยอกแจเอ่ยถามขณะที่มือเรียวทั้งสองกำลังจัดเนคไทด์สีเข้มของร่างโปร่งให้เข้าที่
ตั้งแต่เด็กน้อยฝึกผูกไทด์เป็น
เจ้าตัวก็อ้อนขอทำหน้าที่นี้ในทุกๆเช้าจนกลายเป็นกิจวัตร รอยยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานหลังจากที่เนื้อผ้าแถบยาวผูกเป็นปมอย่างที่ใจต้องการ
“ฉันกินได้หมดนะ มีอะไรเหรอ”
“อ้อ เปล่าครับ ผมแค่อยากรู้เฉยๆเอง”
“อาหารที่ชอบกินฉันไม่มีหรอก มีแต่ของที่ชอบกินเป็นประจำ”
ทงเฮเอ่ยพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ตามองไปที่ริมฝีปากแดงๆที่ขยับเอื้อนเอ่ยวาจาน่าฟัง
“อะไรเหรอครับ? คุณทงเฮทานอะไรเป็นประจำเหรอ”
ฮยอกแจถามพาซื่อ ดวงตาคู่กลมมองคนอายุมากกว่าด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ทงเฮตอบคำถามด้วยการเลื่อนมือขึ้นประครองใบหน้าสวยก่อนจะประกบริมฝีปากเข้าหาริมฝีปากอิ่มสีหวาน
“เธอไง ฉันชอบกินเธอ แถมกินเป็นประจำด้วย”คำตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปากของทงเฮทำให้พวงแก้มข้าวขึ้นริ้วสีด้วยความเขิน
แม้ฮยอกแจจะด้อยประสบการณ์แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจคำพูดสองแง่สามง่ามเช่นนี้
“ผมหมายถึงเมนูอาหารต่างหากล่ะครับคุณทงเฮ” เด็กวัยสิบห้าปีเบี่ยงความสนใจเดินไปหยิบสูทที่แขวนเตรียมเอาไว้มาให้ทงเฮสวมใส่
มือเรียวกลัดกระดุมเสื้อสูทสีเข้มให้กับทงเฮพลางเลื่อนสายตาสำรวจความเรียบร้อย
“หล่อเหมือนเดิมเลยครับแด๊ดดี้ของผม”ฮยอกแจกดจูบเบาๆลงบนอกแกร่งผ่านเนื้อผ้าชั้นดี
แล้วฉีกยิ้มหวาน ทงเฮเห็นเช่นนั้นจึงฝังปลายจมูกเข้าที่ที่พวงแก้มนิ่มฟอดใหญ่
“ช่างพูดจังนะเจ้าตัวดีของแด๊ดดี้”
“ผมพูดความจริงต่างหาก”ร่างบางขยับกายเข้ากอดอีกฝ่ายพลางเลื่อนแก้มแนบเข้ากับแก้มตอบของร่างโปร่งแล้วถูไถเล่นไปมา
“ฉันหิวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ”
“ยังครับ
แด๊ดดี้ยังไม่ได้ฉีดน้ำหอมเลย”ร่างบางเอ่ยก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำหอมราคาแพงกลิ่นประจำของทงเฮมาฉีดให้ร่างโปร่งอย่างรู้หน้าที่
หลังจากฉีดเสร็จเด็กน้อยก็แตะปลายจมูกลงที่หลังใบหู
และอกแกร่งของอีกฝ่ายเพื่อทดสอบกลิ่น
“เรียบร้อยแล้วครับคุณทงเฮ ไปทานข้าวกันเถอะครับ”
“อืม
ไปสิ”ทงเฮเอ่ยพลางเลื่อนมือไปโอบเอวคอดแล้วรั้งกายเล็กเข้ามาแนบชิด
ฮยอกแจเดินเคียงข้างทงเฮลงไปที่โต๊ะอาหารที่เตรียมพร้อมเอาไว้สำหรับทงเฮและฮยอกแจ
เด็กน้อยฉีกยิ้มหวานพลางเอ่ยอ้อนป้าแม่บ้านเสียจนคนที่มองยิ้มตาม
นับตั้งแต่วันที่ฮยอกแจเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้เด็กน้อยก็ดูคุ้นเคยกับข้าวของ
และคนในบ้านมากเสียจนเหมือนเจ้าตัวเป็นส่วนหนึ่งของบ้านไปเสียแล้ว
ฮยอกแจเป็นที่รักของเหล่าแม่บ้าน และบรรดาคนขับรถ
หลายครั้งที่เขาหงุดหงิดกับการทำงานของลูกน้องเขา
ก็มีฮยอกแจนี่ล่ะที่ช่วยปรามอารมณ์ร้อนของเขาเอาไว้ได้
“ฟักทองผัดไข่อีกแล้ว
ดีจังเลยครับป้า”ฮยอกแจยิ้มหวานเมื่อเมนูโปรดถูกวางลงตรงหน้า สองมือจับช้อนและส้อมให้ถนัดถนี่ก่อนจะที่เจ้าตัวจะตักฟักทองสีเหลืองอร่ามเข้าปากพร้อมทำหน้าทำตามีความสุขจนทงเฮหลุดขำ
“อะไรจะอร่อยขนาดนั้น”
“อร่อยนะครับคุณทงเฮ
ทานสิ”เด็กน้อยเอ่ยพลางใช้ช้อนตักฟักทองผัดไข่คำเล็กๆไปจ่อริมฝีปากร่างโปร่ง ทงเฮเหลือบมองแม่บ้านที่ยืนมองเขาอยู่แล้วส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่กินเช้า”
“อาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญนะครับ สักคำนะ
ผมป้อน”เด็กชายยังคงอ้อน
“ฉันบอกว่าไม่ไง”ทงเฮกระแอมก่อนเอ่ยเสียงเข้ม นั่นทำให้เด็กน้อยที่ออดอ้อนรีบยั้งปากแล้วส่งช้อนที่มีฟักทองผัดไข่ของโปรดเข้าปากตัวเองแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ
ไหล่บางลู่ลง สีหน้าหวานหงอยในทันทีที่ถูกเขาดุ จริงๆทงเฮก็ไม่ได้ถืออะไรที่ฮยอกแจจะป้อนเขา
เพียงแค่เขารู้สึกเขินสายตาของแม่บ้านที่มองมาก็เท่านั้น
“ผมขอโทษครับ”ฮยอกแจงุบงิบเอ่ยคำขอโทษเบาๆ
ก่อนจะนั่งเงียบกินข้าวไปเรื่อยๆ บรรยากาศมึนตึงบนโต๊ะอาหารผ่านไปเงียบๆ
เมื่อทงเฮดื่มกาแฟในแก้วจนหมดร่างโปร่งก็ลุกขึ้น
พลางเลื่อนมือไปกระตุกแขนเล็กที่กำลังตักข้าวให้ลุกขึ้นตาม
“ผมยังกินไม่เสร็จ”
“มากับฉันก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมากิน ฉันจะไปแล้ว”
“ครับ”ทงเฮดึงฮยอกแจเดินไปอีกห้องก่อนจะเลื่อนริมฝีปากเข้าแตะกับเรียวปากอิ่มแดงเบาๆก่อนจะเลื่อนขึ้นกดจูบที่หน้าผากมน
เด็กน้อยที่ไม่เข้าใจท่าทีที่เปลี่ยนไปรวดเร็วของคนโตกว่าจึงเอียงคอมองด้วยความสงสัย
“แด๊ดดี้ไม่ชอบให้เราทำอะไรต่อหน้าแม่บ้าน จะทำอะไรก็ทำตอนที่อยู่กันสองคน
โอเคไหมครับ?”
“แต่ผมแค่ป้อนคุณทงเฮเองนะครับ
ไม่ได้เหรอ”เด็กน้อยต่อรอง
"ฉันบอกว่าอะไรห้ามทำ
ก็คือห้าม หรือว่าเดี๋ยวนี้เธอไม่ฟังฉันแล้วล่ะ?
กลายเป็นเด็กดื้อไปแล้วเหรอ"ทงเฮย้อนถาม เด็กน้อยจึงพยักหน้ารับตามสิ่งที่เจ้านายของเขาพูด
“ไม่ครับ
ผมไม่เป็นเด็กดื้อ ผมเชื่อฟังคุณทงเฮ”ฮยอกแจรับคำอย่างว่าง่าย
เมื่อเห็นว่าฮยอกแจยอมเชื่อฟังโดยไม่มีคำถามอะไรต่อทงเฮจึงจรดริมฝีปากเข้ากับหน้าผากมนอีกครา
กลิ่นหอมๆของแชมพูเด็กจากกลุ่มผมสีธรรมชาติยังคงดึงดูดเขาได้เสมอ ทงเฮกลั้นยิ้มกับท่าทางว่าง่ายของเด็กน้อยแล้วอดที่จะอมยิ้มไม่ได้
แต่เขาก็ต้องตีหน้าขรึมไว้เพื่อไม่ให้บรรดาแม่บ้านหรือลูกน้องของเขาเห็น
"สายแล้วครับ
คุณทงเฮไปทำงานเลยไหม เดี๋ยวผมไปส่งที่รถ"
"เอาสิ
เธอจะได้กลับไปกินข้าวต่อ"ร่างบางเดินไปส่งทงเฮที่หน้าบ้านที่มีรถคันหรูจอดรออยู่
คนขับรถคนสนิทของทงเฮเปิดประตูรถให้กับเจ้านายของเขาพลางยกยิ้มให้เด็กชาย
ฮยอกแจยิ้มกว้างตอบกลับอย่างเป็นมิตร
ให้ตายเถอะ
เด็กน้อยของเขานี่ยิ้มเรี่ยราดไปทั่วเลย
“ตั้งใจทำงานนะครับคุณทงเฮ”
“เธอเองก็ตั้งใจเรียนล่ะ
วันนี้เรียนวิชาอะไร”
“วันนี้เรียนภาษาอังกฤษครับ”
“วิชาโปรดนี่ ตั้งใจเรียนล่ะ”
“ครับ
ผมตั้งใจเรียนทุกวันอยู่แล้ว”เด็กน้อยยิ้มกว้างก่อนจะปิดประตูรถยนต์ให้กับทงเฮที่เข้าไปนั่งด้านในแล้ว
มือเรียวโบกบ้ายบายให้กับคนในรถไปตลอดทางตั้งแต่รถสตาร์ทจนเคลื่อนลับสายตาไป
ฮยอกแจเดินเข้าไปในบ้านอีกครั้งก่อนจะสวนทางกับคยูฮยอนที่กำลังเตรียมตัวออกไปเรียน
ร่างโปร่งกวาดตามองฮยอกแจด้วยสายตาเย็นชาสีหน้าไม่เป็นมิตรเช่นเคย
แต่ฮยอกแจก็เริ่มชินกับมันไปเสียแล้ว
เด็กน้อยวิ่งเข้าไปในห้องอาหารก่อนจะเริ่มลงมือรับประทานอาหารต่อ
พอไม่มีคนคอยแย่งฟักทองผัดไข่อาหารโปรด
เด็กน้อยก็ตักฟักทองสีเหลืองอร่ามในจานมาทานไม่หยุด
คุณป้าแม่บ้านคนใจดีของฮยอกแจมองเด็กชายด้วยความเอ็นดู คุณหนูคนนี้ไม่เรื่องมาก
ไม่เคยบ่นเรื่องอาหารการกิน
ซ้ำยังไม่เคยดื้อเอาแต่ใจเหมือนคุณหนูคนก่อนๆที่ทงเฮเคยพามาเลี้ยง
“ป้าครับ วันนี้คุณครูจะมาตอนบ่าย
ป้าสอนผมทำผัดผักนะครับ”หลังจากทานอาหารเสร็จ
เด็กน้อยก็ช่วยแม่บ้านเก็บจานเข้าไปในครัว
ฮยอกแจจึงอ้อนคุณหัวหน้าแม่บ้านเสียงหวาน
“ป้าเตรียมวัตถุดิบเอาไว้แล้วค่ะคุณหนู
คราวนี้คุณหนูต้องระวังตอนหั่นผักหน่อยนะคะ คราวที่แล้วก็บาดนิ้วไป
คุณผู้ชายดุไหมคะเนี่ย”คุณป้าแม่บ้านเอ่ยถามขณะเดินไปที่เคาน์เตอร์ทำครัว
สองมือเปิดตู้เย็นหยิบผักและเนื้อสัตว์สำหรับสอนคุณหนูตัวเล็กทำอาหารในวันนี้
“ครับ ผมจะระวังนะ
คราวที่แล้วแด๊ดดี้ เอ้ย คุณทงเฮไม่สังเกตครับ
เลยไม่รู้ว่าผมโดนมีดบาด”ฮยอกแจตอบพลางยิ้มแหย
คราวก่อนที่ฮยอกแจเอ่ยปากอ้อนให้คุณป้าแม่บ้านสอนทำอาหารครั้งแรกเจ้าตัวก็ได้แผลที่นิ้วไปสองรอยตอนหั่นต้นหอม
ตอนแรกเธอคิดว่าคุณหนูตัวเล็กตรงหน้าคงล้มเลิกที่จะเรียนทำอาหารกับเธอตั้งแต่เจ็บตัวแล้ว
แต่ฮยอกแจก็ยังคอยมาอ้อนเธอทุกวันว่าอยากทำอาหารเป็น
“คุณหนูลองปอกเปลือกแครอทนะคะ
ใช้ที่ปอกเปลือกค่อยๆขูดแบบนี้นะคะ”คุณป้าเอ่ยพลางสาธิตวิธีการปลอกเปลือกแครอทให้ฮยอกแจ
เด็กน้อยมองมันด้วยความตั้งใจก่อนจะเริ่มทำตาม
เมนูอาหารง่ายๆอย่างผัดผักรวมมิตรถูกฮยอกแจทำออกมาจนเสร็จ
แม้หน้าตาผักที่หั่นออกมาจะไม่เท่ากันไปบ้างแต่รสชาติที่คุณป้าแม่บ้านช่วยปรุงก็อร่อยจนเด็กน้อยยิ้มภูมิใจ
จริงๆฮยอกแจอยากจะเก็บอาหารจานนี้เอาไว้ตอนเย็นให้ทงเฮลองชิมเสียด้วยซ้ำ
แต่เขาก็อยากจะเซอร์ไพรส์ทงเฮด้วยการทำเมนูอื่นให้เก่งๆแล้วทำให้เจ้านายเขากินทีเดียว
คราวก่อนต้มจืดใส่เต้าหู้ คราวนี้ผัดผัก คราวหน้าเขาคงอ้อนทำอาหารอย่างอื่นได้เพิ่มอีกหลายเมนู
“เธอไปทำอะไรมาน่ะ
ทำไมแปะพลาสเตอร์”ทงเฮเอ่ยถามขณะที่เขาไล่จูบไปตามเรียวแขนเล็ก
เรียวนิ้วสวยสองนิ้วถูกปิดพันไว้ด้วยพลาสเตอร์ลายโดเรมอนสีฟ้า
“ผมเผลอทำแก้วแตกครับ
แก้วเลยบาด”ฮยอกแจเอ่ยคำโกหกไปด้วยความหวาดหวั่น
แต่เมื่อเห็นทงเฮไม่ติดใจอะไรเด็กน้อยจึงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ริมฝีปากร้อนกดจูบไปตามหลังมือและปลายนิ้วที่ถูกพันด้วยพลาสเตอร์ลายน่ารัก
“เธอเจ็บมากไหม?”
“นิดหน่อยครับแด๊ด”
“คราวหน้าระวังตัวหน่อยนะ”ทงเฮเอ่ยเช่นนั้นก่อนจะเลื่อนขึ้นจูบหน้าผากมน
ฮยอกแจเลื่อนมือไปโอบรอบลำคอแกร่งก่อนจะเป็นฝ่ายรุกจูบที่ริมฝีปากของทงเฮก่อน
เด็กน้อยไม่อยากให้ทงเฮรู้ว่าตอนนี้ตนกำลังแอบเรียนทำอาหารเพื่อเซอร์ไพรส์เขา
ฮยอกแจจึงพยายามเบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้ทงเฮสนใจแผลของเขามากนัก
“ยั่วฉันมากไปแล้วนะฮยอกแจ”ทงเฮเอ่ยเช่นนั้นก่อนจะก้มลงฝังร่องรอยรักบนซอกคอขาวอีกครา
เด็กน้อยเชิดหน้าขึ้นรอรับสัมผัสจากทงเฮด้วยความเคยชิน
“แด๊ดดี้ทำรอยตรงไหล่ให้ผมหน่อยนะครับ
รอยเดิมมันจางไปแล้ว”เด็กน้อยอ้อนขอเสียงกระเส่า เขายังเชื่อคำของทงเฮที่ว่ารอยบนตัวเขาเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความเป็นเจ้าของของทงเฮ
เพราะฉะนั้นยิ่งทงเฮทำรอยไว้บนตัวเขามากเท่าไร
นั่นยิ่งหมายความว่าระยะเวลาที่เขาเป็นของของทงเฮยิ่งยาวนานมากขึ้นเท่านั้น
“จะทำให้ลายทั้งตัวเลย เด็กดีของฉัน”ทงเฮเอ่ยจบก็จรดริมฝีปากเข้าที่ไหล่บาง
ร่างโปร่งฝังร่องรอยสีชมพูเข้มกึ่งม่วงไปตามลาดไหล่ อกเนียน และท้องบางไว้จนทั่ว ฮยอกแจสูดปากร้องเซี้ดเบาๆเมื่อฟันคมกัดลงที่เนื้อเนียน
ทงเฮเหลือบสายตามองซอกคอขาวที่มันกำลังเรียกร้องให้เขาฝังร่องรอยความเป็นเจ้าของก่อนที่เรียวปากร้อนจะประกบลงแล้วขบเม้มดูดดึงเสียจนเนื้อขาวเกิดร่องรอยสีเข้ม
ทงเฮมองมันด้วยความเปรมปรีดิ์ ไม่บ่อยครั้งนักที่เขาจะฝังรอยใหญ่ๆไว้ที่คอ
แต่ในเมื่อฮยอกแจร้องขอให้เขาทำ เขาก็จะทำให้ทั่วทั้งตัว
“แด๊ด...อ๊ะ
เข้ามา...เข้ามาเถอะครับ”
“เธอน่ารักเสมอเลยเด็กดี”
“ไปไหนฮยอกแจ”ทงเฮพึมพำถามทั้งที่ตายังปิดสนิทเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างนุ่มนิ่มที่เขากำลังโอบกอดกำลังจะขยับลุกไปจากเตียง
“ไปเข้าห้องน้ำครับแด๊ดดี้
เดี๋ยวผมกลับมานะ
แด๊ดดี้ไม่ต้องรอ”ฮยอกแจเอ่ยเช่นนั้นทงเฮจึงยอมคลายอ้อมกอดที่รัดเอวบางเอาไว้
ก่อนที่คนตัวเล็กจะลุกจากเตียงไปคว้าเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นที่กองอยู่บนพื้นมาสวมใส่แล้วเดินออกจากห้องไป
6 โมงกว่าเกือบ 7 โมงแล้ว
เหลือเวลาอีกแค่ชั่วโมงเศษก่อนที่ทงเฮจะลงมากินข้าว
ฮยอกแจรีบวิ่งลงไปที่ครัวเพื่อเตรียมข้าวกล่องมื้อกลางวันให้ทงเฮอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
มือบางยกขึ้นขยี้ตาทั้งที่ยังไม่ตื่นเต็มที่
เมื่อคืนกว่าจะได้นอนคุณทงเฮก็เล่นสนุกกับเขาเสียข้ามเข้าวันใหม่
เด็กน้อยเหลือบมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกบานใหญ่ที่ติดเอาไว้เสริมฮวงจุ้ย
เด็กน้อยจัดเสื้อที่ใส่มาลวกๆ
รอยสีม่วงเข้มที่ปรากฏข้างลำคอทำให้ฮยอกแจยกยิ้มดีใจกับตัวเอง
“ตายแล้วคุณหนู
ทำไมคุณทงเฮทำรอยเสียใหญ่ขนาดนั้นคะ”เมื่อเด็กน้อยเดินเข้าไปในครัวคุณป้าแม่บ้านคนใจดีก็ตกใจเสียยกใหญ่
ปกติเธอก็เห็นรอยตามเนื้อตัวของฮยอกแจมาหลายครั้ง
แต่ไม่รู้ทำไมคราวนี้คุณชายของเธอถึงทำรอยสีเข้มเอาไว้เสียใหญ่ข้างลำคอ
“ครับ?”
“ที่คอน่ะสิคะ
ทำไมคุณชายทำเสียเข้มแบบนั้น วันนี้ก่อนคุณครูมาสอน คุณหนูต้องหาอะไรปิดนะคะ
อายคุณครูแย่เลย”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ
คุณทงเฮบอกว่าเป็นรอยที่คุณทงเฮตั้งใจทำให้ผมนะครับ”ฮยอกแจถามด้วยความสงสัย
ท่าทางแสนใสซื่อของเด็กชายวัย 15 ที่มันขัดกับคำพูดคำจาทำให้คุณป้าแม่บ้านลมแทบจับ
“ตายแล้ว อกอีป้าจะแตก
คุณทงเฮสอนอะไรคุณหนูมาคะเนี่ย”
“ก็คุณทงเฮบอกผมว่ามันเป็นรอยที่แสดงว่าผมเป็นของคุณทงเฮ
ถ้าคุณทงเฮยิ่งทำเยอะ
ทำใหญ่รอยยิ่งหายช้าลงก็แปลว่าคุณทงเฮจะให้ผมอยู่ที่นี่ไปอีกนานๆไงครับ”เด็กน้อยเอ่ยตามที่เข้าใจ
“โอ้ยย ตายแล้ว
คุณหนูก็เชื่อคุณชายเขานะคะ รู้ไหมคะเนี่ยว่ามันไม่ดี”
“ไม่ดี? ไม่ดียังไงครับ?
มันไม่เห็นน่าอายอะไรเลย”เด็กน้อยว่าพลางลูบลำคอของตัวเองเล่น
“เอาเป็นว่ามันไม่ดีหรอกค่ะคุณหนู
คุณหนูจะโดนมองไม่ดี”
“ยังไงครับ?”
“เฮ้อ
เอาไว้โตกว่านี้ป้าจะอธิบายให้คุณหนูฟังนะคะ ตอนนี้เราไปทำข้าวกล่องให้คุณทงเฮกันดีกว่าค่ะ
ป้าล้างกล่องข้าว ผัก
แล้วก็วัตถุดิบเอาไว้แล้ว”คุณป้าเอ่ยตัดบทก่อนจะเดินนำฮยอกแจเข้าไปที่เคาน์เตอร์ครัวที่มีเหล่าแม่บ้านคนอื่นวุ่นวายกับการเตรียมข้าวเช้าให้ฮยอกแจกับคยูฮยอนอยู่
ฮยอกแจเดินไปที่มุมหนึ่งของเคาน์เตอร์ที่มีผักที่เขาชอบถูกล้างเตรียมจัดใส่จานเอาไว้แล้ว
มือเรียวหยิบมีดขึ้นมาบรรจงหั่นเนื้อหมู
และผักเป็นชิ้นเล็กๆพอน่ารับประทานก่อนจะนำไปผัดรวมกันเป็นผัดผักบล็อคโคลี่ใส่แครอท
ก่อนจะหันมาทอดไส้กรอกที่ฮยอกแจจงใจหั่นตรงปลายให้เป็นแฉกเมื่อทอดแล้วก็กลายเป็นไส้กรอกหน้าตาเหมือนปลาหมึกแบบที่เขาเคยเห็นตามร้านค้า
เมื่อกับข้าวปรุงเสร็จ
ฮยอกแจก็จัดการตักข้าวใส่กล่องข้าวสีกรมท่า
ใจจริงตอนฮยอกแจเลือกซื้อกล่องข้าวเขาอยากจะซื้อลายโดเรมอนลายโปรดที่เขาชอบด้วยซ้ำ
ถ้าไม่ติดที่ว่าเขากลัวทงเฮจะไม่ใช้งานมัน เด็กน้อยบรรจงตักกับข้าวใส่แต่ละช่องของกล่องที่ถูกจัดเอาไว้เป็นสัดส่วน
มือบางเรียงผักใบเขียว แครอท
และมะเขือเทศสีแดงสดลงในช่องใส่สลัด
โดยไม่ลืมเทน้ำสลัดใส่ถ้วยแบ่งเตรียมไว้ให้ทงเฮด้วย
คุณป้าแม่บ้านที่กลายเป็นลูกมือของเชฟหน้าใสยืนมองคุณหนูของเธอตั้งใจทำข้าวกล่องให้กับทงเฮแล้วอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
ขนาดเธอเป็นแม่บ้านที่บ้านนี้มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ของคุณทงเฮกับคุณซีวอน
ก็ยังไม่เคยมีแม่บ้านคนไหน หรือใครที่จะเสนอตัวทำข้าวกล่องให้เจ้านายของเธอ
“น่ารักไหมครับ
ป้า”ฮยอกแจเอ่ยถามเมื่อจัดเรียงข้าวกล่องเสร็จ ใจจริงฮยอกแจอยากจะทำข้าวกล่องลายน่ารักๆแบบที่เคยเห็นในนิตยสาร
แต่แค่วันนี้เขาหั่นไส้กรอกแล้วทอดออกมาให้เหมือนปลาหมึกได้นี่ก็ยากจะแย่
เด็กน้อยหั่นมะเขือเทศลูกเล็กวางลงบนข้าวแทนลูกตา ใช้แครอทหั่นยาวแทนจมูก
และแตงกวาหั่นขวางแทนปากที่กำลังยิ้ม
“ค่ะ
น่ารักมากเลยค่ะคุณหนู”คุณป้ามองฝีมือของคุณหนูของเธอแล้วอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ฮยอกแจยิ้มภูมิใจกับข้าวกล่องฝีมือของตัวเองก่อนมือบางจะค่อยๆบรรจงปิดกล่องข้าวแล้วนำมันใส่กระเป๋าเข้าเซตกับกล่องข้าวที่ฮยอกแจตั้งใจเลือกมาสำหรับทงเฮ
“คุณทงเฮจะชอบไหมครับ”
“ชอบสิคะ
คุณหนูฮยอกแจตั้งใจทำให้ทานขนาดนี้ คงดีใจแย่”
“อยากให้คุณทงเฮกินเร็วๆจังเลยครับป้า
อ๊ะ กี่โมงแล้ว เดี๋ยวผมรีบขึ้นไปผูกไทด์ให้คุณทงเฮก่อน”ฮยอกแจเอ่ยถามพลางมองหานาฬิกาในครัว
“รีบไปเถอะค่ะ
เดี๋ยวสักพักคุณทงเฮก็จะลงมาแล้วค่ะคุณหนู”
“แย่แล้ว เดี๋ยวคุณทงเฮโกรธ
ผมไปก่อนนะครับป้า”ฮยอกแจเอ่ยเช่นนั้นก่อนที่สองขาเรียวจะรีบจ้ำขึ้นบันไดไปชั้นสามเพื่อไปหาเจ้านายของเขาที่น่าจะกำลังแต่งตัวอยู่
“คุณทงเฮครับ
ผมมาแล้ว”ฮยอกแจเปิดประตูเข้าไปเห็นทงเฮกำลังยืนติดกระดุมข้อมืออยู่หน้ากระจก
เด็กน้อยจึงเดินไปคว้าเนคไทด์ที่เตรียมเอาไว้ให้ร่างโปร่งก่อนจะเข้าไปยืนตรงหน้าทงเฮ
สองมือถือเนคไทด์สีกรมท่าเตรียมจะผูกให้ร่างตรงหน้า
“หายไปไหนมา ไหนว่าไปห้องน้ำ”ทงเฮถามเสียงเข้ม
มือหนารั้งร่างบางเข้ามาแนบชิด
ปลายจมูกโด่งกดลงที่กลุ่มผมนิ่มเพื่อสำรวจกลิ่นแปลกๆที่มาจากตัวเด็กน้อย
ก่อนที่มือหนาจะจับมือเรียวขึ้นมาแตะปลายจมูกลงที่ฝ่ามือ
“อ่า...ผม
คือ...คือผม”ฮยอกแจอ้ำอึ้ง นึกคำแก้ตัวไม่ออก ถ้าจะบอกว่าไปห้องน้ำมาก็ดูจะนานไป
ซ้ำกลิ่นกระเทียมที่มือเขาเมื่อกี้ก็น่าจะบอกทงเฮได้ชัดว่าเขาไปไหนมา
“ฉันไม่ชอบเด็กโกหกนะ
รู้ใช่ไหม”ทงเฮเอ่ยถามพลางใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มใส ฮยอกแจเห็นสายตาของทงเฮที่มองจ้องเข้ามาเจ้าตัวจึงเม้มปากลังเล
อยากจะบอกความจริงตอนเจ้านายเขาเห็นข้าวกล่องก่อน
แต่ถ้าเขาไม่บอกความจริงไปเสียตอนนี้คงโดนโกรธแน่ๆ
“คือ...”
“ตอบตามจริง ฉันจะไม่โกรธ”
“.....”
“ไม่ต้องตอบว่าห้องน้ำนะ
ผมเธอมีกลิ่นอาหาร มือเธอมีกลิ่นกระเทียม ไปทำอะไรที่ครัวมา”
“ผมไปทำอาหารมาครับ”ร่างบางหลุบตามองพื้น
ไม่กล้าสบสายตาของคนโตกว่าเท่าไรนัก ไหล่บางห่อเข้าหากันด้วยความรู้สึกผิด
เด็กดื้ออย่างเขาต้องโดนทงเฮโกรธแน่ๆ
“ทำอาหาร? ทำไมไม่ให้แม่บ้านทำล่ะ?
มองตาฉัน ไม่ต้องหลบ”ทงเฮเอ่ยพลางใช้นิ้วดันคางมนขึ้นสบตา ฮยอกแจจึงต้องจำยอมมองใบหน้าคมอย่างช่วยไม่ได้
“คือ...ผมเห็นในนิตยสารที่อ่าน
มันมีข้าวกล่องน่ารักๆ ผมอยากลองทำอาหารให้คุณทงเฮทาน
เลยลงไปเตรียมข้าวกล่องมาครับ”ฮยอกแจตอบตามความจริง เรียวปากอิ่มเม้มจนเป็นเส้นตรง
คำตอบแสนน่ารักน่าชังทำให้ทงเฮหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้
ฮยอกแจน่ารักเกินไป
“จริงเหรอ
ทำไมถึงอยากทำให้ฉันกินล่ะ แล้วทำอะไรให้กิน”
“ผัดผัก ไส้กรอกทอด แล้วก็สลัดครับ
ผมเพิ่งทำได้แต่เมนูง่ายๆครับ คุณป้าแม่บ้านเพิ่งสอนผมเอง”
“เหรอ
แล้วอร่อยไหม?”ทงเฮเอ่ยถามพลางแตะมือบางให้ฮยอกแจเริ่มผูกเนคไทด์ให้ตัวเอง
สองมือเรียวจึงค่อยๆบรรจงผูกเนคไทด์สีเข้มเข้ากับลำคอแกร่งช้าๆ
ปมไทด์แบบคลาสสิคที่ร่างโปร่งชอบค่อยๆถูกผูกขึ้นช้าๆ
“คุณป้าเคยชมว่าอร่อยครับ
แต่หน้าตาอาจจะไม่ค่อยสวยนะครับ ผมยังหั่นผักไม่เก่ง”ฮยอกแจสารภาพตามตรง
ผักที่เจ้าตัวหั่นค่อนข้างจะไม่สม่ำเสมอ เพราะฮยอกแจใช้มีดยังไม่เก่ง
ซ้ำเด็กน้อยยังได้แผลมาจากมีดอยู่หลายครา เขาจึงกลัวการใช้มีดอยู่ไม่น้อย
“หั่นผักเองด้วย?”
“ครับ หั่นเอง
เตรียมเองทุกอย่างเลย”
“ครั้งก่อนที่นิ้วมีแผลเยอะๆนี่ก็เพราะทำอาหารรึเปล่า
หื้ม”
“อ่า...ครับ”ฮยอกแจยอมสารภาพ
ทงเฮจึงจับมือเล็กที่กำลังจัดเนคไทด์ให้ตัวเองขึ้นมาแตะจูบเบาๆที่หลังมือ
ริมฝีปากอุ่นบรรจงกดไปตามนิ้วเรียวที่ยังมีรอยแผลเป็นจางๆปรากฏ
แม้ร่องรอยจะดูไม่ร้ายแรงแต่รอยแผล 4-5 รอยสำหรับเด็กน้อยก็คงหนักหนาเอาการ
“ดื้อนักนะเดี๋ยวนี้
หัดโกหกแด๊ดดี้ด้วย”ทงเฮเอ่ยเช่นนั้นก่อนที่ฟันคมจะกัดเข้าที่ปลายนิ้วชี้ของฮยอกแจเบาๆด้วยความมันเขี้ยว
เด็กน้อยมองคนโตกว่าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งกลัวจะโดนดุ ทั้งกลัวจะโดนโกรธ
แต่ไหงบทลงโทษครั้งนี้ของเขาจึงมีเพียงฟันคมๆที่ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บแม้แต่น้อย
“ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ช่างเถอะ ลงไปกินข้าวกัน
ฉันหิวแล้ว”
มื้ออาหารของเช้าวันนี้สงบเงียบกว่าวันอื่นเพราะซีวอนกับคยูฮยอนไปเที่ยวต่างประเทศ
จึงมีแค่ฮยอกแจที่นั่งกินข้าวเงียบๆเพราะยังมีความผิดติดตัวกับทงเฮที่นั่งอ่านข่าวออนไลน์เพื่ออัพเดทข่าวสารประจำวันพลางจิบกาแฟไปด้วย
“ข้าวกล่องของฉันล่ะ
ข้าวกล่องที่เด็กคนนี้ทำน่ะ”ทงเฮหันไปเอ่ยถามแม่บ้านที่ยืนอยู่ตรงมุมห้องอาหาร
“คุณหนูเธอบอกคุณชายแล้วเหรอคะ
ป้านึกว่าคุณหนูจะเซอร์ไพรส์เสียอีก”
“ฮยอกแจโกหกไม่เก่งหรอก
คราวหลังอย่าให้โกหกอีกล่ะ”
“ค่ะคุณชาย
เดี๋ยวป้าไปเอาข้าวกล่องมาให้นะคะ”
“ไม่ต้องครับป้า
เดี๋ยวผมไปเอามาให้เอง”ฮยอกแจเอ่ยเช่นนั้นก่อนที่สองมือบางจะรีบวางช้อนส้อมลงกับจานแล้วรีบลุกเดินเข้าไปในครัวเพราะกลัวว่าคุณป้าแม่บ้านจะแย่งหน้าที่
ร่างบางกลับเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกับกระเป๋าข้าวกล่องที่เตรียมเอาไว้พร้อมรอยยิ้มกว้าง
เด็กน้อยดูภูมิใจไม่น้อยที่ตัวเองพอจะทำอะไรตอบแทนทงเฮได้บ้าง
ข้าวกล่องในมือที่ตั้งใจทำสุดความสามารถอาจจะเป็นหนึ่งสิ่งที่จะซื้อใจทงเฮได้นานกว่าเก่า
“เอามาสิ”ทงเฮแบมือรอ
“นี่ครับ อ๊ะ”
แต่ดูเหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับฮยอกแจไม่น้อย
ในขณะเจ้าตัวเดินเข้าไปใกล้ทงเฮขาเจ้ากรรมก็ดันสะดุดกับขาโต๊ะกินข้าวส่งผลให้กระเป๋าข้าวกล่องหลุดจากมือน้อยๆตกลงกับพื้น
ฮยอกแจมองข้าวกล่องของตัวเองด้วยความตกใจ ก่อนที่สองมือจะรีบเก็บมันขึ้นมา
“....”ฮยอกแจเงียบทว่าสีหน้าดูร้อนรน
ปากแดงๆเม้มเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่สวยพลันร้อนผ่าวเพราะมีน้ำใสๆคลอหน่วงจนเกือบจะไหล
ความภาคภูมิใจที่เขาอุตส่าห์ตื่นมาแต่เช้าพังทลายลงในพริบตาเพียงเพราะเขาสะดุดกับขาโต๊ะเมื่อครู่
ทงเฮหลุดเสียงหัวเราะเบาๆกับความซุ่มซ่ามของเด็กน้อยพลางส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู
“ฮึก..”ฮยอกแจกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้
ขณะที่สองมือค่อยๆรูดซิปเปิดกระเป๋าข้าวกล่องออกดู
ฝากล่องสีใสทำให้มองเห็นด้านในได้ทำให้ฮยอกแจยิ่งเสียใจกับภาพที่เห็น
ข้าวที่เขาอุตส่าห์หั่นผักจัดแต่งให้เป็นรูปหน้าตาคนกำลังยิ้มหกคะเมนตีลังกาจนเป็นชิ้นผักที่มากองๆอยู่ด้านข้าง
น้ำจากผัดผักบางส่วนซึมมาเลอะข้าวขาวๆ
มีเพียงคุณปลาหมึกไส้กรอกที่เขาบรรจงจัดเอาไว้ที่ยังอยู่ในที่ในทางของมัน
“ข้าวกล่องวันนี้ผมไม่ให้ได้ไหมครับ
มันตกพื้นอะ ไม่สวยเลย”ฮยอกแจเอ่ยถามเสียงแผ่ว เด็กน้อยเริ่มงอแงเพราะความเสียใจ
มือข้างนึงยกขึ้นปาดน้ำใสๆที่มันกำลังจะไหลอาบแก้ม เขาจะไม่เป็นเด็กขี้แยให้ทงเฮรำคาญใจ
แต่ข้าวกล่องตรงหน้ามันก็ทำให้เขาน้อยใจในความพยายามของตัวเองอย่างสุดซึ้ง
ทงเฮมองภาพของเด็กน้อยตรงหน้าก่อนจะหลุดขำเบาๆ
แม้หน้าตาข้าวกล่องที่เห็นจะดูตลกๆแปลกๆไปบ้างแต่เขาก็คิดว่ามันน่ากินเหมือนเดิม
มือหนาเลื่อนไปวางบนหัวทุยก่อนจะลูบผมนิ่มเบาๆ
“ไม่เป็นไร
ฉันกินได้”ทงเฮเอ่ยพลางดึงข้าวกล่องในมืออีกคนเข้าหาตัว
ฮยอกแจดึงยื้อเอาไว้เล็กน้อยแต่เมื่อทงเฮยื้อกลับมือเล็กจึงยอมปล่อยง่ายๆ
ปากอิ่มเบะลงน่าเอ็นดูเสียจนทงเฮต้องใช้ปลายนิ้วบีบเบาๆเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว
เด็กน้อยเวลางอแงนี่มันน่าฟัดเสียจริง
“คุณลุงหน้ายิ้มที่ผมตั้งใจทำไว้มันเละหมดแล้วครับ”ฮยอกแจเอ่ยเสียงเศร้า
มองดูข้าวกล่องในมือหนาตาละห้อย เสียใจก็เสียใจ นอยด์ก็นอยด์
หงุดหงิดกับความเด๋อด๋าของตัวเองที่ทำให้กล่องข้าวตกจนเละแบบนี้
“พรุ่งนี้ค่อยทำใหม่ก็แล้วกันนะ
วันนี้ถือว่าซ้อมมือ”ทงเฮเอ่ยเช่นนั้นก่อนทีฝ่ามือหนาจะยีหัวคนตัวเล็ก
ใจจริงเขาอยากจะดึงเจ้าตัวเข้ามากอดแน่นๆแล้วจูบปลอบเสียให้หายเศร้าแต่เพราะสายตาของแม่บ้านที่มองมาที่เขามันก็ทำให้ร่างโปร่งกระดากเกินกว่าจะแสดงความรู้สึกกับฮยอกแจไปตรงๆ
“ก็ได้ครับ”ฮยอกแจเอ่ยเช่นนั้นก่อนจะยอมเดินกลับไปนั่งที่ตัวเองแล้วทานข้าวต่อสีหน้าหงอย
ข้าวผัดหมูในจานดูรสชาติกร่อยไปทันทีที่ความภาคภูมิใจถูกทำลายไปเมื่อครู่
ร่างโปร่งเห็นเช่นนั้นจึงเลื่อนฝ่ามือไปบีบไหล่บางเบาๆแทนคำปลอบโยน
ฮยอกแจถอนหายใจเฮือกใหญ่
สายตามองกลับไปที่กล่องข้าวที่ถูกทงเฮเก็บเข้าสู่กระเป๋าไปแล้วก็ยิ่งรู้สึกหน่วงๆในใจ
เขาน่าจะระวังตัวมากกว่านี้ ทงเฮจะได้เห็นหน้าตาคุณลุงยิ้มแป้นบนข้าว
เผื่อว่าเจ้านายของเขาทำงานมาเครียดๆจะได้ยิ้มตามบ้าง
“ตอนเย็นฉันอยากกินสปาเก็ตตี้
เธอทำเป็นไหม? ยากไปหรือเปล่า?”
“สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศได้ไหมครับ
ผมทำเป็นอันเดียว”
“งั้นทำให้กินหน่อยสิ
แก้ตัวมื้อนี้”
“ได้เหรอครับ?”ฮยอกแจถามด้วยความตื่นเต้น
“อืม ฉันน่าจะกลับมาราวๆทุ่มนึง
เธอทำรอเอาไว้แล้วกัน ส่วนพวกป้าวันนี้ตอนเย็นเลิกงานเร็วได้นะ
ไม่ต้องมาที่ห้องครัว ค่อยมาล้างจานตอนเช้าพรุ่งนี้”ทงเฮเอ่ยสั่งเรียบๆก่อนจะลุกขึ้นยืนเหยียดตามความสูงเมื่อถึงเวลาที่ต้องออกจากบ้าน
เป็นอีกครั้งที่ฮยอกแจต้องหยุดรับประทานอาหารกลางคันแล้วเดินตามออกไปส่งทงเฮที่รถเช่นเดียวกับทุกวัน
“ไม่ต้องร้องนะ
ฉันจะกินให้หมดกล่องเลย”
“ถ้าไม่อร่อยก็ไม่ต้องกินก็ได้นะครับ
ผมไม่อยากให้คุณทงเฮรู้สึกแย่”
“บอกว่าจะกิน ฉันก็จะกิน
ไม่เข้าใจเหรอ?”
“อ่า...ครับ
คุณทงเฮตั้งใจทำงานนะครับ เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะทำสปาเก็ตตี้รอ”ฮยอกแจเอ่ยพร้อมรอยยิ้มกว้าง
ทงเฮเห็นเช่นนั้นจึงพยักหน้ารับแล้วเดินขึ้นรถที่คนขับรถเปิดประตูรอ ฮยอกแจยืนส่งทงเฮไปจนลับสายตาอีกครั้งก่อนจะกลับไปกินข้าวต่อให้เสร็จ
วันนี้เขามีเรียนช่วงบ่ายแค่ 2 ชั่วโมง
ก่อนถึงเวลาเรียนเขามีเวลาออกไปซื้อของสำหรับเตรียมทำมื้อเย็นให้กับเจ้านายของเขาได้
เด็กน้อยออกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้านโดยมีคุณป้าแม่บ้านคนใจดีคอยให้คำแนะนำในการเลือกวัตถุดิบแต่ละอย่าง
หลังจากซื้อวัตถุดิบสำหรับทำสปาเก็ตตี้เสร็จ
เด็กน้อยก็ไม่วายแวะเข้าไปเดินสำรวจชั้นวางขนมหวานที่เขามักจะแอบซื้อติดไปกินด้วยทุกครั้ง
เยลลี่รสเปรี้ยวหวานแบบที่ฮยอกแจชอบถูกหยิบใส่ตระกร้าสองสามถุง แต่ก่อนที่จะเอาตระกร้าไปต่อแถวจ่ายเงิน
เด็กน้อยพลันหันไปเห็นชั้นสตรอว์์เบอร์รีสีแดงสดที่ติดป้าย 1 แถม 1
ตัวใหญ่
ร่างบางหันไปมองคุณป้าแม่บ้านสลับกับสตอเบอร์รี่บนชั้น
ถึงปากหนักไม่กล้าขอเพราะยังติดจะเกรงใจเรื่องเงินทอง
แม้ทงเฮจะสั่งว่าเขาสามารถขอใช้เงินที่ทงเฮให้ไว้กับคุณป้าแม่บ้านตามใจชอบ
แต่มันก็ดูจะเสียมารยาทไปสักหน่อย เรียวปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างไม่รู้จะทำยังไง
เมื่อหญิงวัยกลางคนหันมาเห็นสายตาเว้าวอนของเด็กน้อยเข้าจึงอมยิ้มแล้วเดินไปหยิบสตอเบอร์รี่่สองแพ็คใส่ตระกร้าโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องเอ่ยปาก
“ขอบคุณนะครับ”ฮยอกแจฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจเมื่อกล่องสตอเบอร์รี่สีสดถูกนำมาใส่ตะกร้าคิดเงิน
วันนี้นอกจากฮยอกแจจะได้กินเยลลี่แล้วยังมีสตอเบอร์รี่่ของโปรดเป็นของแถมอีกด้วย
เด็กน้อยนึกถึงนมสตอเบอร์รี่รสโปรดที่ยังแช่อยู่ในตู้เย็นอีกแพ็คแล้วก็อดจะยิ้มตามไม่ได้
วันนี้เขาจะกินสตอเบอร์รี่ีกับนมสตอเบอร์รี่ให้อิ่มจนพุงกางไปเลย
“คุณหนูทำเองได้ใช่ไหมคะ”คุณป้าถามย้ำอีกครั้งหลังจากที่ฮยอกแจเอ่ยปากไล่เธอให้เลิกงานวันนี้ตามคำสั่งของคุณทงเฮ
แต่ท่าทางเงอะๆงะๆของเด็กน้อยก็ทำให้เธออดจะเป็นห่วงไม่ได้
“ได้ครับ คุณป้าไปพักผ่อนเถอะครับ
ผมทำได้”
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้ป้าช่วย...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับป้า
เมื่อเช้าผมก็ทำข้าวกล่องคว่ำไปแล้ว ผมอยากแก้ตัวใหม่ให้คุณทงเฮเห็นความพยายามของผมน่ะครับ
เชื่อผมนะผมทำได้”ฮยอกแจตอบขณะที่มือก็กำลังซอยกระเทียมบนเขียงจนละเอียด
“แต่ถ้าคุณหนูติดขัดอะไร
ไปเรียกป้าได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เมื่อเช้าคุณทงเฮบอกนี่นาว่าให้พวกป้าเลิกงานกันเร็วๆ
เพราะงั้นป้าไม่ต้องอยู่กับผมหรอกครับ
อีกแปปนึงเดี๋ยวคุณทงเฮก็กลับมาแล้ว”ฮยอกยังคงยืนยันเช่นนั้น
คุณป้าแม่บ้านคนใจดีจึงยอมตัดใจเลิกเซ้าซี้คุณหนูของเธอแล้วเดินออกจากส่วนครัวไป
ฮยอกแจบรรจงต้มเส้นสปาเก็ตตี้ตามที่เคยเรียนมาจากคุณป้าแม่บ้าน
ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ทำซอสราดเส้นสปาเก็ตตี้ไปพร้อมกันระหว่างรอเส้นสุก
เด็กน้อยตั้งใจทำเมนูโปรดของทงเฮด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เมื่อคิดถึงคำชมที่เขาอาจจะได้รับจากอาหารมื้อนี้เจ้าตัวก็อดตื่นเต้นไม่ได้
ขณะที่เด็กชายกำลังตั้งใจลงมือทำอาหารอย่างสุดฝีมือ
เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เลยว่าร่างโปร่งของเจ้านายของเขาได้เข้ามายืนกอดอกพิงกำแพงมองเขาอยู่นาน
เด็กน้อยผิวขาวในเสื้อยืดสีขาวเนื้อบางกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่าสีครีมตัดกันกับผ้ากันเปื้อนสีชมพูอ่อน
ที่ผูกโบเอาไว้ที่เอวลวกๆ ร่างกายที่ขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วนั้นน่ามองเสียจนทงเฮไม่อาจละสายตา
“ทำอะไรอยู่ เด็กดี”
“อ๊ะ คุณทงเฮกลับมาแล้วเหรอครับ”ฮยอกแจเอ่ยถามด้วยความตกใจ
เมื่อร่างหนาของทงเฮขยับเข้ามาทาบทับทางด้านหลัง
มือใหญ่เลื่อนไปโอบกอดเอวบางพลางเกยคางบนไหล่เล็ก ปลายจมูกโด่งคลอเคลียกับลำคอขาว
สายตามองซอสสปาเก็ตตี้มะเขือเทศที่กำลังเดือดอยู่ในกระทะ
ท่าทางว่าอาหารมื้อนี้ของเขาใกล้จะเสร็จในไม่ช้า
“ฉันหิวแล้ว”ร่างโปร่งกระซิบข้างใบหูเล็กก่อนจะขบเม้มเล่นเบาๆแกล้งให้ร่างบางสยิว
มือเล็กที่กำลังจับตะหลิวสั่นไหว ฮยอกแจถดหนีสัมผัสอุ่นๆจากลมหายใจของทงเฮแต่มือแกร่งก็เกี่ยวรั้งยึดเอวเอาไว้ไม่ให้ขยับ
“ฮื้อ...คุณทงเฮไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารได้เลยครับ
เส้นสปาเก็ตตี้สุกแล้ว ดะ..เดี๋ยวรอซอสปาเก็ตตี้สุกก็เสร็จแล้วครับ อ๊ะ คุณทงเฮ”ฮยอกแจหลุดเสียงครางสะท้านเมื่อปลายลิ้นร้อนลากผ่านลำคอขาวช้าๆ
สัมผัสเสียวสะท้านทำเอาฮยอกแจเผลอปล่อยตะหลิวในมือลงกับกระทะ
“ชู่ว...ตั้งใจทำให้ฉันกินสิเด็กน้อย”ทงเฮเอ่ยพลางใช้ฝ่ามือประคองมือเล็กให้จับตะหลิว
ในขณะที่เรียวปากยังคงขบเม้มไปตามลำคอขาว แกล้งเป่าลมหายใจอุ่นๆที่หลังใบหู
จุดอ่อนที่ทำให้ฮยอกแจดิ้นหนี
“คุณทงเฮครับ ยะ...อย่าแกล้งสิครับ
อ๊ะ ผมจะทำให้คุณกินไง”ฮยอกแจเอ่ยเสียงขาดห้วง
สัมผัสร้อนๆของทงเฮมันทำให้เขาขาอ่อน
มือบางข้างนึงยันเข้ากับเคาน์เตอร์ทำครัวเพื่อทรงตัว
“ฉันไม่อยากกินสปาเก็ตตี้ตอนนี้แล้ว”
“แต่ผมทำใกล้เสร็จแล้วนะครับ”ฮยอกแจหน้าเสียเมื่อได้ยินคำตอบของทงเฮ
ความน้อยใจมันถาโถมจนฮยอกแจกัดเรียวปากตัวเอง เขาอุตส่าห์ลงมือทำมาเสียขนาดนี้หากทงเฮไม่อยากกินมันก็คงน่าเสียดายไม่น้อย
“ฉันไม่อยากกินสปาเก็ตตี้ตอนนี้
ปิดเตาเถอะ ฉันอยากกินเธอมากกว่า”
“อื้ออ...แต่คุณทงเฮครับ
อีกแปปนึงจะเสร็จแล้ว”
“อย่าดื้อสิ ฉันหิวเธอมากเลยนะ”ทงเฮใช้ฟันงับใบหูเล็กแทนการลงโทษก่อนจะเอื้อมไปปิดไฟที่เตาลง
แล้วจับพลิกฮยอกแจให้หันกายเข้าหา
เด็กน้อยทั้งสะท้านไปกับสัมผัสเสียวซ่านทั้งยังพะวงกับซอสสปาเก็ตตี้ที่ยังไม่สุกดี
ทั้งน้อยใจที่ทงเฮเมินสปาเก็ตตี้ที่ี่เขาทำไปอย่างไม่ใยดีทั้งๆที่เขาตั้งใจทำมาตั้งแต่เย็น
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น
น้อยใจอะไร”ทงเฮเอ่ยพลางใช้ปลายนิ้วดันคางมนให้ขึ้นสบตา
ภาพของดวงตาคู่สวยที่มีน้ำใสคลอมาอย่างง่ายดายทำให้ทงเฮรู้สึกอยากแกล้งเด็กชายตรงหน้าเข้าไปใหญ่
“ผมตั้งใจทำสปาเก็ตตี้ให้คุณทงเฮนี่นา
อยากให้คุณทงเฮกิน”ฮยอกแจงึมงำเสียงแผ่ว
ทงเฮเห็นเช่นนั้นจึงกดจูบเบาๆที่หน้าผากมนแทนคำปลอบโยน
“ไม่ใช่ไม่กิน
ฉันกิน”ทงเฮเอ่ยพลางใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มใส
“แต่มันยังไม่เสร็จเลยนะครับ”
“เดี๋ยวค่อยทำก็ได้
เด็กดี”นิ้วยาวแตะที่เรียวปากอิ่มแทนการห้ามปรามไม่ให้ฮยอกแจเถียงอะไรต่อ
เมื่อเห็นว่าฮยอกแจยอมจำนนมือหนาจึงเอื้อมไปหยิบเส้นสปาเก็ตตี้ที่ลวกแล้วจัดใส่จานวางอยู่ไม่ไกลนัก
“ตอนนี้ฉันกินแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
เธอช่วยฉันกินหน่อยสิ”ทงเฮหยิบเส้นสปาเก็ตตี้มางับส่วนปลายด้านหนึ่งก่อนจะใช้ปลายอีกด้านจ่อที่เรียวปากอิ่มแดง
ฮยอกแจเห็นเช่นนั้นจึงอ้าปากงับปลายเส้นสปาเก็ตตี้เอาไว้
ทงเฮค่อยๆเริ่มเคี้ยวเส้นสปาเก็ตตี้เข้าหาใบหน้าหวานช้าๆ
พลางพยักเพยิดให้เด็กน้อยเริ่มกัดเส้นสปาเก็ตตี้เข้าหาเขาเช่นเดียวกัน
ระยะใบหน้าทั้งสองคนเคลื่อนเข้าหากันทีละน้อยในขณะที่ความยาวของเส้นสปาเก็ตตี้จะค่อยๆลดลง
ฮยอกแจมองสบสายตาคมของร่างโปร่งแล้วใบหน้าขาวก็พลันขึ้นสีระเรื่อเพราะความเขินอาย
เมื่อปลายจมูกโด่งเคลื่อนเข้าใกล้อีกฝ่าย
ลมหายใจอุ่นๆที่สัมผัสได้ทำให้เด็กน้อยหลับตาลงช้าๆ
รอสัมผัสจากเรียวปากร้อนที่แตะเข้าหาริมฝีปากของตัวเอง
ร่างโปร่งบดจูบเข้าหาเรียวปากสีอิ่มสีเชอร์รี่ เรียวลิ้นแทรกเข้ากวาดต้อนความหวานจากโพรงปากเล็ก
ฮยอกแจเลื่อนสองมือขึ้นวางบนลาดไหล่แกร่งเขาโอนอ่อนไปกับรสจูบร้อนแรงของทงเฮ
“อร่อยเนอะ”ร่างโปร่งผละออกมาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
เรียวนิ้วยาวเกลี่ยเล่นที่ริมฝีปากสวยเช็ดคราบน้ำใสๆที่เปรอะด้วยฝีมือของเขา
“ขะ..ครับ”ฮยอกแจพยักหน้ารับทั้งๆที่แก้มยังเห่อร้อน
ดวงตาคู่สวยเสมองไปทางอื่นแก้เขิน
ภาพตรงหน้าที่ทงเฮเห็นทำให้เจ้าตัวที่คิดจะแกล้งฮยอกแจเพียงการจูบต้องเปลี่ยนใจ
แขนแกร่งรวบร่างบางก่อนจะอุ้มขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ที่ยังพอมีพื้นที่ว่าง
มือหนาดันอุปกรณ์ทำครัวต่างๆที่ฮยอกแจใช้งานไปไว้ในมุมเดียวเพื่อสร้างพื้นที่ให้ฮยอกแจได้นั่งสะดวก
“คุณทงเฮจะทำอะไรครับ
ผมยังไม่ได้ทำความสะอาดครัวเลย”
“ฉันหิวเธอ
ฉันจะกิน”คำตอบเรียบๆและสายตาที่มองมาทำให้ฮยอกแจรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนต้อน
ทุกคราที่ทงเฮเอ่ยเช่นนี้เขามักจะปฏิเสธไม่ได้ แต่นี่มันในครัว ...
ครัวที่มีแต่กลิ่นอาหารฟุ้งไปทั่วด้วยฝีมือของเขา
“ขึ้นไปข้างบนไหมครับ?”
“ทีนี่ ฉันจะกินเธอที่นี่ ฮยอกแจ”
"หนูน่ารักมากนะ รู้ไหมฮยอกแจ"
"แด๊ดดี้รักหนูมากๆนะ อย่าทิ้งหนูนะ"เด็กน้อยอ้อนก่อนที่เรียวแขนเล็กจัดเลื่อนไปคล้องคอทงเฮเอาไว้ เด็กขี้เกรงใจอย่างฮยอกแจกลายเป็นเด็กช่างอ้อนช่างพูดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ
ร่างโปร่งจัดการรวบร่างที่อ่อนปวกเปียกขึ้นอุ้มแนบอก แล้วก้มลงหยิบกองเสื้อผ้าที่เขาเป็นคนเปลื้องออกติดมือขึ้นไปที่ห้องนอน ขณะที่ฮยอกแจที่กำลังเหนื่อยอ่อนกับกิจกรรมเมื่อครู่ก็เอนใบหน้าแนบแผ่นอกแกร่งดวงตาคู่สวยหลับลงพริ้ม ความอบอุ่นของทงเฮทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกปกป้องอยู่เสมอ เขาชอบความใจดีของแด๊ดดี้ของเขาที่สุดเลย
"วันนี้เธอชอบไหม
เด็กดี"ทงเฮเอ่ยถามขณะที่มือหนาลูบไล้ถูสบู่ไปทั่วกายบาง
หยาดน้ำจากฝากบัวชำระล้างคราบเหนียวจากบรรดาของกินที่ทงเฮนำมาเล่นสนุก รวมถึงคราบหลักฐานการร่วมรักของทั้งสอง
"ชอบครับ
แด๊ดดี้"เด็กน้อยยิ้มหวานให้กับผู้เป็นเจ้านาย
ทงเฮมองรอยยิ้มของเด็กชายก่อนจะใช้ฝ่ามือเชยคางมาเข้ามาบดจูบ หยาดหยดน้ำอุ่นๆที่ไหลจากฝักบัวทำให้ริมฝีปากนุ่มนิ่มลื่นขึ้นจนเขาอยากจูบซ้ำๆ
เด็กน้อยเลื่อนฝ่ามือโอบกอดร่างหนาอย่างเอาอกเอาใจ
ดวงตาทั้งสองสอดประสานเมื่อริมฝีปากละออกจากกัน
พวงแก้มนิ่มของฮยอกแจขึ้นริ้วแดงเมื่อเจ้าตัวรู้สึกถึงแรงเต้นผิดจังหวะที่อกด้านซ้าย
"แด๊ดดี้ ผมรักแด๊ดดี้นะครับ"ฮยอกแจเอ่ยเช่นนั้นก่อนที่เจ้าตัวจะหลับตาลงรอรับจุมพิตหวานอีกครา ทงเฮไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรกลับไป เขาเพียงแค่รู้สึกดีที่สุดในตอนนี้ เพราะเด็กน้อยของเขาก็กลายเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ทั้งตัว และหัวใจอย่างที่ต้องการแล้ว
ความคิดเห็น