ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Harry Potter] [OCxDM] If Harry Potter has a sister!

    ลำดับตอนที่ #28 : บทที่ 2 : ฮอเรซ ซลักฮอร์น

    • อัปเดตล่าสุด 19 ส.ค. 64


    บทที่ 2 : ฮอเรซ ซลักฮอร์น


    เวลาผ่านไปไม่กี่อึดใจเด็กทั้งสองรู้ตัวว่าตอนนี้ซอยพรีเว็ตหายไปแล้ว พวกเขาปรากฏตัวในสถานที่ที่ดูเหมือนจะเป็นจัตุรัสร้างในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีอนุสรณ์สถานสงครามและม้านั่งยาวสองสามตัว

    “นี่พวกเราเพิ่งจะหายตัวใช่ไหมคะ?” เฮเลนเอ่ยถามพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ราวกับว่าปอดขาดอากาศมานานแสนนาน ดัมเบิลดอร์หันมายิ้มให้ทั้งสองคนอย่างใจดีเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฮเลนรู้สึกว่าอาหารที่ทานไปเมื่อเที่ยงกำลังจะดันอาหารมื้อเย็นออกมาทางคอเลยทีเดียว

    “ใช่... เป็นไงบ้าง” เขาถาม “ต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะชิน ปกติแล้วครั้งแรกพวกเรามักจะอ้วกกัน”

    “ผมโอเคดีครับ” แฮร์รี่ตอบพลางลูบใบหน้าไปมา สำรวจว่าตา คอ จมูก ปากหรือหูของเขาตามมาด้วยกันครบหรือเปล่า แฮร์รี่กลัวว่ามันจะอยากอยู่ที่ซอยพรีเว็ตมากกว่าตามเขามาที่นี่

    “ศาสตราจารย์คะ ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกันเหรอ” ในระหว่างที่เด็กทั้งสองเดินตามดัมเบิลดอร์ไป เฮเลนก็เอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับแฮร์รี่ที่พยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามนั้น

    “แล้วเรามาทำอะไรที่นี่ครับ?” ก่อนจะถามต่อโดยไม่เว้นช่วงให้ดัมเบิลดอร์ได้ตอบคำถามแรกก่อน

    “ดี เฮเลน ที่นี่คือหมู่บ้านอันมีสเน่ห์ที่ชื่อว่าบัดลีย์ แบ็บเบอร์ตันและฉันคงยังไม่ได้บอกพวกเธอ... ฉันจำแทบไม่ได้แล้วว่าหลายปีที่ผ่านมานี้พูดประโยคแบบนี้ไปกี่ครั้งแล้วแฮร์รี่ แต่เราขาดสมาชิกในกลุ่มอาจารย์ไปคนหนึ่ง เรามาที่นี่เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนร่วมงานเก่าแก่ของฉันกลับไปสอนที่ฮอกวอตส์”

    “แล้วพวกเราจะช่วยได้ยังไงครับ”

    “ฉันคิดว่าเรามีทางที่จะใช้พวกเธอได้อยู่ล่ะนะ” ดัมเบิลดอร์ว่าพลางเดินเลี้ยวเข้าไปในประตูบ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังเล็กที่ก่อด้วยอิฐตั้งอยู่ในสวน ดัมเบิลดอร์ชะงักจนทำให้แฮร์รี่เดินชนเขาเข้าเต็มๆ

    “แย่แล้ว” ดัมเบิลดอร์พึมพำ เด็กทั้งสองมองตามศาสตราจารย์ไปยังทางเดินหน้าบ้านและสังเกตเห็นว่าประตูหน้าบ้านนั้นหลุดห้อยจากบานพับ ดัมเบิลดอร์กวาดสายตาไปทั่วและพบว่าถนนทั้งสายปราศจากผู้คนในตอนนั้น “เอาไม้กายสิทธิ์ออกมา แล้วเดินตามหลังฉันไว้”

    ปลายไม้กายสิทธิ์ของทั้งสามติดไฟในขณะที่พวกเขาเข้ามาในบ้านหลังเล็ก ทอแสงไปทั่วโถงทางเดินแคบๆ อีกด้านมีประตูอีกบานเปิดอ้าเอาไว้ ดัมเบิลดอร์ชูไม้ส่องสว่างสูงขึ้นและเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นโดยมีแฮร์รี่และเฮเลนเดินตามหลังเขาเข้าไป

    สภาพภายในของบ้านราวกับถูกใครบางคนพังเสียเละเทะ ดัมเบิลดอร์ชูไม้ขึ้นสูงใช้ไฟส่องไปตามเพดานและกำแพง ของเหลวสีแดงหยดแหมะลงบนแก้มของเด็กสาว เฮเลนเกือบจะกรีดร้องออกมาถ้าหากว่าดัมเบิลดอร์ไม่ได้หันมาจุ๊ปากใส่เธอเสียก่อน

    เขามองรอยของเหลวนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เก้าอี้นวมตัวหนึ่งที่ยังคงอยู่ในสภาพดีผิดกับของชิ้นอื่นๆ

    “มีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่ใช่ไหมครับศาสตราจารย์” แฮร์รี่พึมพำถามดัมเบิลดอร์

    “ฉันไม่คิดแบบนั้นหรอกนะ”  ดัมเบิลดอร์ถลาไปที่เก้าอี้ตัวนั้นก่อนจะทิ่มปลายไม้กายสิทธิ์ไปที่เบาะของเก้าอี้เท้าแขนและมันก็ส่งเสียงร้องออกมาดังลั่นก่อนที่ศีรษะของใครบางคนจะโผล่พรวดขึ้นมาจนเฮเลนสะดุ้งโหยงกระโดดเกาะแขนแฮร์รี่อย่างรวดเร็วราวกับเจอเทรเวอร์สัตว์เลี้ยงของเนวิลล์

    “สวัสดีฮอเรซ” ดัมเบิลดอร์พูดพลางโอบกอดเก้าอี้นวมที่บัดนี้กลายเป็นร่างชายแก่ตัวอ้วนใหญ่หัวล้านยืนอยู่ตรงนั้นแทน เขากอดตอบดัมเบิลดอร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “เคราเมอร์ลิน! ดีใจที่ได้พบกันอีกนะ”

    “บางทีคุณอาจจะอยากให้ผมช่วยทำความสะอาดที่นี่นะ” ดัมเบิลดอร์คลายการกอดออกและถามอย่างสุภาพ

    “กรุณาด้วยครับ” อีกฝ่ายตอบก่อนที่ดัมเบิลดอร์จะโบกไม้กายสิทธิ์ เครื่องประดับต่างๆ ลอยกลับเข้าที่เดิม ขนนกบินกลับเข้าไปในหมอน หนังสือที่เคยขาดกองอยู่บนพื้นซ่อมตัวเองและลอยกลับไปอยู่บนชั้นวาง กรอบรูปที่แตกเป็นเสี่ยงลอยข้ามห้องไปประกอบกันอีกครั้งบนโต๊ะวางของ รอยฉีกขาด รอยแตกและรอยโหว่กลับไปดีเหมือนทุกๆ อย่างไม่เคยพังมาก่อน

    “โอ้... นั่นพวกเขาคือ...” เป็นตอนนี้เองที่ดวงตาของชายแก่หันมามองที่เด็กทั้งสอง ขณะเดียวกันเฮเลนก็ปล่อยมือออกจากแขนของแฮร์รี่เพราะเธอเองก็เพิ่งจะคลายอาการตกใจปนกับตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปได้

    “ผมลืมแนะนำไป” ดัมเบิลดอร์พูดพลางขยับเข้ามายืนแทรกระหว่างแฮร์รี่และเฮเลน “ทั้งสองคนคือพี่น้องพอตเตอร์ และนี่เพื่อนเก่าแก่ของฉัน อดีตเพื่อร่วมงาน ฮอเรซ ซลักฮอร์น”

    “ผมรู้ว่าคุณมาที่นี่ทำไมอัลบัส คำตอบก็ยังคงเป็นไม่ ไม่อย่างแน่นอน บอกตามตรงโดยไม่อ้อมค้อม” ซลักฮอร์นกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “ยังไงก็ไม่!

    ดัมเบิลดอร์ชูมือขึ้น ซลักซ์ฮอร์นเลิกคิ้วมองเขาอย่างสงสัย

    “ผมขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะ” เขาว่า

    “อ้อ... ประตูที่สองทางซ้ายตรงทางเดินนั่นล่ะ”

    ดัมเบิลดอร์เดินตัดห้องไป เมื่อประตูปิดสนิทตามหลังเขาความเงียบก็เข้าครอบงำทั้งสามคนในทันที ซลักฮอร์นมองใบหน้าของเด็กทั้งสองแล้วสาวเท้าเข้าไปยืนใกล้ๆ กับเตาผิง

    “หน้าเธอเหมือนพ่อมากเลยนะแฮร์รี่ ยกเว้นที่ตา...”

    “ผมได้ตาของแม่ ใช่ครับ มีคนบอกกับผมแบบนี้บ่อยๆ” แฮร์รี่ยืนมองหน้าของซลักฮอร์นด้วยท่าทางเรียบเฉยเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาพูดกับเฮเลนแทน

    “ส่วนเธอก็เหมือนลิลี่มากซะจนฉันคิดถึงเขาเลย... แม่เธอเป็นคนโปรดตลอดกาลของฉัน” เขายิ้มพลางเดินเข้าไปที่ชั้นวางกรอบรูป

    “ลลลี่ เอฟเวนส์... เด็กสาวคนดี เธอเป็นเด็กที่มีเสน่ห์ ฉันเคยบอกว่าเธอน่าจะมาอยู่บ้านฉัน ก็เลยได้คำตอบแบบอวดดีกลับมาด้วย”

    “คุณอยู่บ้านไหนมาก่อนคะ”

    “ฉันเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีริน” ซลักฮอร์นตอบ “อย่าถือเอาเรื่องนี้มาไม่ชอบฉันเชียวล่ะ! แม่ของเธอน่าทึ่งมากเมื่อฉันรู้ว่าเขาเป็นพวกที่เกิดจากมักเกิ้ล พวกเธอก็คงจะเป็นเด็กบ้านกริฟฟินดอร์เหมือนกับแม่ของเธอล่ะสิ ใช่แล้วล่ะ! มักจะเป็นตามกันทั้งตระกูลนั่นแหละ แต่มันก็ไม่เสมอไป...”

    ซลักฮอร์นว่าพลางเลื่อนมือไปจับกรอบรูปของใครบางคนที่วางตั้งอยู่แถวหน้าสุด

    “เคยได้ยินชื่อซีเรียส แบล็กรึเปล่าล่ะ ต้องเคยอยู่แล้วสิ! เขาเพิ่งตายไปนี่เอง”

    ประโยคนั้นทำให้เฮเลนรู้สึกหน้าชาๆ ภาพของซีเรียสที่ลอยเข้าไปในม่านสีขาวพร้อมกับลูเซียสและภาพของเดรโกที่กำลังร่ำไห้เนื่องจากสูญเสียพ่อไปลอยเข้ามาในหัว เด็กสาวรู้สึกเหมือนคลื่นไส้จนอยากจะอาเจียนออกมา

    “เอาเถอะ เขาน่ะเป็นเพื่อนซี้ของพ่อเธอที่โรงเรียน ตระกูลแบล็กทั้งตระกูลอยู่บ้านของฉันหมดยกเว้นแค่ซีเรียส ช่างน่าเสียดาย! เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ ฉันได้เรกูลัสน้องชายเขามาตอนเข้าเรียนแต่ฉันก็อยากจะได้ทั้งชุด” เขาดูเหมือนนักสะสมของมีค่าผู้กระตือรือร้นกลัวว่าคนอื่นจะชิงประมูลของไปได้เสียก่อน เห็นได้ชัดว่าซลักฮอร์นลุ่มหลงอยู่ในความฝันและความทรงจำครั้งก่อนของเขา แฮร์รี่เดินไปยืนข้างๆ ซลักฮอร์นพลางหยิบกรอบรูปที่มีเรกูลัสขึ้นมามอง ส่วนเฮเลนเองก็ได้แต่ยืนอยู่เงียบๆ โดยไม่พูดอะไร “ฉันเคยคิดว่าแม่ของเธอเป็นเลือดบริสุทธิ์ เพราะเธอเก่งเกินกว่าที่ฉันคาดเอาไว้”

    เหมือนว่าซลักฮอร์นยังไม่รู้ตัวว่าเขาพูดอะไรออกมา

    “เพื่อนของผมคนหนึ่งก็เกิดจากมักเกิ้ล” แฮร์รี่พูดและวางรูปลง “เธอเก่งที่สุดในรุ่นเรา”

    “บางทีเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นได้บ่อยๆ จริงไหม” ซลักฮอร์นพูดทั้งยิ้ม “เธอคงเห็นบาร์นาบัส คัฟฟ์ บรรณาธิการเดลี่พรอเฟ็ต เขาอยากรู้เสมอว่าฉันรู้สึกยังไงกับข่าวในแต่ละวัน ส่วนนี่กัปตันสาวของทีมโฮลี่เฮดฮาร์ปีส์ ฉันมักจะได้ตั๋วฟรีทุกครั้งที่ฉันต้องการ”

    ความคิดนี้ดูเหมือนจะทำให้เขามีความสุขขึ้นมากมาย ดัมเบิลดอร์กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งทำเอาซลักฮอร์นสะดุ้งเฮือกราวกับว่าเขาลืมไปแล้วว่าดัมเบิลดอร์อยู่ในบ้านหลังนี้ด้วย

    “ฮอเรซ! ผมขอหนังสือเล่มนี้ได้ไหม?” เขาว่าพลางชูนิตยาสารเล่มหนึ่งขึ้นมา “ผมชอบลายถักนิตติ้งของมันมากเลยล่ะนะ”

    “ได้สิ” ซลักฮอร์นตอบ “ว่าแต่คุณยังไม่กลับไม่ใช่เหรอ?”

    “อ่อ ผมรู้ว่าตอนไหนที่ผมจะต้องยอมแพ้ มันคงจะเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งเลยถ้าผมทำให้คุณกลับไปยังฮอกวอตส์ได้... แฮร์รี่ เฮเลนไปกันเถอะ”

    ซลักฮอร์นดูแปลกไปเมื่อแฮร์รี่และเฮเลนเดินไปหาดัมเบิลดอร์ตรงประตู เขากระดิกนิ้วมือไปมาราวกับว่ากำลังควบคุมตัวเองไม่อยู่

    “คุณก็เหมือนเด็กทั้งสองคนนี้ ฝีมือชั้นเยี่ยม” ดัมเบิลดอร์ยิ้มแป้น “เอาล่ะ ลาก่อนนะ”

    “ไปก่อนนะครับ/คะ” เด็กแฝดพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะเดินตามดัมเบิลดอร์ออกไปจากบ้าน แต่แล้ว...

    “ก็ได้ ก็ได้! ผมจะกลับไป!!” ทั้งสามหันกลับไปมองซลักฮอร์นที่ยืนหอบอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน เฮเลนเดาว่าเขาคงวิ่งตามมาเพราะกลัวว่าทั้งสามจะหายไปก่อนที่เขาจะออกมาทัน “แต่ผมขอห้องทำงานเก่าของศาสตราจารย์เบอร์ริธ็อดไม่ใช่ห้องน้ำเก่าที่ผมเคยนั่งนะ ผมขอเงินเดือนขึ้นด้วยเพราะใครๆ ก็รู้ว่าช่วงนี้มันบ้า!

    “วิเศษเลย” ดัมเบิลดอร์พูด “ถ้างั้นเจอกันวันที่หนึ่งกันยายนนะ”

    ว่าจบทั้งสามก็เดินออกมาจากตรงนั้นผ่านความมืดและหมอกควันจางๆ ที่ลอยลงมาจากเนินเขา

    “พวกเธอมีพรสวรรค์ เป็นคนดังและมีพลัง เป็นทุกๆ อย่างที่ซลักฮอร์นต้องการ พวกเธอคงจะเป็นเหมือนมณีในบรรดาของสะสมของเขาแน่นอน" ดัมเบิลดอร์พูด "เด็กผู้รอดชีวิต... หรือที่พวกเขาเรียกเธอสองคนว่าผู้ได้รับเลือก”

    เฮเลนไม่ค่อยปลื้มใจกับคำที่ถูกเรียกเท่าไหร่นัก เสียงคำพยากรณ์ยังคงดังอยู่ในหัวหึ่งๆ ความหมายของมันน่ากลัวเกินกว่าจะสามารถบรรยายได้ เด็กสาวสัมผัสได้ว่าแฮร์รี่ก็คงคิดแบบนั้นเช่นกัน

    “เอาล่ะ เราถึงเวลาจะต้องให้เธอไปต่อแล้ว” ประโยคนั้นเด็กทั้งสองมองหน้ากันก่อนที่จะรีบคว้าแขนดัมเบิลดอร์เอาไว้โดยอัตโนมัติ สุดท้ายพวกเขาก็พบว่าต่อให้ลองหายตัวไปอีกสักสองสามรอบก็ยังรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ดี คราวนี้เฮเลนรู้สึกได้ถึงเสียงหึ่งๆ ข้างใบหูจนต้องเลื่อนมือไปสัมผัสมันทันทีที่เธอมายืนอยู่บนทางเล็กๆ ในชนบทข้างๆ กับแฮร์รี่

    “ฉันนึกว่าหูของฉันจะไม่ยอมตามมาซะแล้ว” เฮเลนพูดแล้วพยายามกลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคออย่างยากลำบาก

    “คิดเหมือนกันเลย” แฮร์รี่ตอบ เขาพ่นลมหายใจออกมานิดหน่อยก่อนจะเดินนำหน้าไปยังอาคารคดโค้งหลังหนึ่งซึ่งนั่นก็คือบ้านโพรงกระต่าย เด็กสองคนเดินจูงมือกันไปที่บ้านหลังจากพบว่าดัมเบิลดอร์ส่งพวกเขาเอาไว้ท่ามกลางไร่ข้าวโพดที่ค่อนข้างไกลจากตัวบ้านอยู่พอสมควร

    แฮร์รี่กับเฮเลนเดินตรงไปยังประตูหลังบ้านโพรงกระต่ายซึ่งมีขยะที่เขาคุ้นเคย ทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับที่เห็นว่าหีบกับกรงนกของพวกเขาถูกวางเอาไว้ในห้องโถงพร้อมกับเสียงตะโกนโหวกเหวกอย่างดีใจสุดขีดของจินนี่ เธอวิ่งเข้ามากระโดดกอดแฮร์รี่ทันทีอย่างลืมตัว

    เฮเลนหรี่ตามองเด็กสาวรุ่นน้องด้วยความหงุดหงิดนิดหน่อยแต่ร่างของเธอเองก็ถูกสองแฝดเฟร็ดกับจอร์จวิ่งเข้าใส่เช่นกันราวกับว่าพวกเขาไม่เคยเจอกับเธอมาสักร้อยปีได้

    “ยินดีที่ได้เจอเฮเลน!” เฟร็ดยิ้มร่าอย่างพอใจ

    “ใช่! รู้ไหมว่ารอนน่ะนินทาเธอให้เราฟังด้วยนะ” จอร์จหัวเราะเสียงดังและหันไปหารอน

    เด็กสาวหรี่ตาไปทางรอนทันทีที่เห็นเขาวิ่งลงบันไดมาพร้อมกับเฮอร์ไมโอนี่ เด็กหนุ่มผมแดงทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาแฮร์รี่ในขณะที่จินนี่ผละออกจากเขาแล้ว

    “แฮร์รี่! เฮเลน! ฉันชอบเรื่องแปลกใจแบบนี้จัง”

    คุณนายวีสลีย์เดินแหวกลูกๆ ของเธอเข้ามาหาเด็กแฝด เธอดึงเด็กทั้งสองเข้ามาโอบกอดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก คืนวันนั้นพวกเขารีบทานอาหารเย็นและขลุกกันอยู่ในห้องนอนชั้นบนด้วยกันแลกเปลี่ยนเรื่องราวในช่วงวันหยุดฤดูร้อนของแต่ละคน รอนบ่นเรื่องของแม่ของเขาว่าเธอดูเครียดมากจนไม่อยากให้เขากลับไปฮอกวอตส์ แต่ก็นั่นแหละยังไงทุกคนก็ต้องกลับไปเพื่อเตรียมเรียน ส.พ.บ.ส. ของนักเรียนชั้นปีหก

    วันต่อมาเฮอร์ไมโอนี่ดูวิตกเมื่อได้รู้ว่าผลสอบ ว.พ.ร.ส. เมื่อคราวที่แล้วกำลังจะมาถึง เฮเลนและรอนมองหน้ากันนิดหน่อยและยักไหล่เป็นเชิง รอนคิดว่าตัวเองคงได้คะแนนไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่แต่เฮอร์ไมโอนี่คงจะเครียดมากถ้าหากคะแนนของเธอร่วงไปเพียงวิชาเดียว

    “ฉันทำวิชาอักษรรูณได้แย่ที่สุด” เฮอร์ไมโอนี่บ่นพลางเดินวนไปทั่วห้องนั่งเล่นในขณะที่รอนเริ่มหยิบขนมที่คุณนายวีสลีย์วางเอาไว้ให้มาทาน “ฉันแปลผิดแน่ๆ แล้ววิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดฉันก็ทำแทบไม่ได้เลย พอคิดดูอีกที...”

    “เหมือนจะมีแค่เธอคนเดียวที่กังวลมากขนาดนี้นะเฮอร์ไมโอนี่” รอนพูด “แล้วถ้าเธอได้ ว.พ.ร.ส. คะแนน ดีเยี่ยม ครบทั้งสิบเอ็ดตัวเธอจะไม่อกแตกตายเพราะความดีใจเหรอ!

    “อย่าพูด!” เฮอร์ไมโอนี่โบกไม้โบกมือ “ฉันต้องตกทุกวิชาแน่”

    “นั่นเป็นคำพูดที่พวกคนฉลาดเอาไว้อ้างเวลาที่ทำข้อสอบได้เป๊ะทุกตัว” เฮเลนว่าพร้อมกับยักไหล่ เด็กสาวคิดว่าข้อสอบพวกนั้นง่ายจนแทบหลับตาเขียนได้เลย ถ้าเฮอร์ไมโอนี่ตกหนึ่งวิชา คงไม่ต้องพูดถึงแฮร์รี่หรือรอน พวกเขาคงไม่มีโอกาสได้เอ่ยถึงอาชีพมือปราบมารที่ใฝ่ฝัน

    “ที่โบซ์บาตง” เฟลอร์ เดอลากูร์ที่เฮเลนจำได้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อวานเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วอย่างขัดใจนิดหน่อย “เรามีวิธีที่ต่างออกไป ฉันคิดว่ามันดีนะที่เราได้สอบในปีหกไม่ใช่ห้าแล้วก็...”

    คำพูดของเฟลอร์ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงกรีดร้องของเฮอร์ไมโอนี่ เด็กสาวผมฟูชี้ไปที่หน้าต่างห้องครัวเมื่อเห็นจุดสามสี่จุดกำลังลอยเข้ามาจากท้องฟ้าและค่อยๆ ใหญ่ขึ้น

    “คงเป็นนกฮูก” รอนพูดทั้งที่ขนมเต็มปาก “แล้วพวกมันก็มาพร้อมกับซองด้วย”

    ทั้งสี่รีบลุกจากโซฟาไปเกาะที่ริมหน้าต่าง นกฮูกบินตรงมาที่บ้านโพรงกระต่าย พวกมันเป็นนกฮูกขนาดกลางสี่ตัว แต่ละตัวนำซองจดหมายซองใหญ่มาด้วย แฮร์รี่เลื่อนมือไปเปิดหน้าต่างห้องครัวให้นกฮูกบินผ่านเข้ามาเกาะที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทานอาหาร ทั้งสี่เดินไปหาแต่ละตัวเพื่อแกะจดหมายที่ผู้ติดขาของพวกมันไว้ ไม่มีใครในครัวพูดอะไรเลยสักคนแม้กระทั่งเฟลอร์หรือจินนี่ที่เอาแต่นั่งเงียบ

     

    ผลการสอบวิชาพ่อมดระดับสามัญ

    คะแนนสอบผ่าน                                                             คะแนนสอบตก

    ดีเยี่ยม (ด)                                                                        แย่ (ย)

    เกินความคาดหมาย (ก)                                                     เลวมาก (ล)

    พอรับได้ (พ)                                                                     โทรลล์ (ท)

     

    เฮเลน ลิลี่ พอตเตอร์ ได้คะแนนดังนี้

    ดาราศาสตร์                                                                                      

    การดูแลสัตว์วิเศษ                                                                              

    คาถา                                                                                                

    การป้องกันตัวจากศาสตร์มืด                                                              ด

    พยากรณ์ศาสตร์                                                                                ด

    สมุนไพรศาสตร์                                                                                 ด

    ประวัติศาสตร์เวทมนตร์                                                                     ด

    ปรุงยา                                                                                              ด

    แปลงร่าง                                                                                          ก

    ตัวเลขมหัศจรรย์                                                                               ก

    อักษรรูณโบราณ                                                                               พ

     

    เฮเลนมองกระดาษแข็งวนไปวนมาจนมาหยุดที่วิชาอักษรรูณโบราณที่ได้คะแนน พอรับได้ มาครอบครอง ดีเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ได้ เลวมาก ถึงข้อสอบตอนที่เธอทำจะรู้สึกว่ามันง่าย แต่บางข้อเด็กสาวก็ไม่ได้มั่นใจกับคำตอบของตัวเองมากนัก

    เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าคอตกในขณะที่ทั้งสี่คนสลับใบผลสอบกันดูอย่างเริงร่า ใช่! เด็กสาวผมฟูได้คะแนน ดีเยี่ยมสิบตัวและ เกินความคาดหมาย หนึ่งตัวจากวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด! ดูท่าเธอจะผิดหวังกับมันมากจนรอนทำท่าหมั่นไส้ไม่ยอมหยุด แฮร์รี่หัวเราะขบขันกับท่าทางของทั้งสองคน

    “ต่อไปเราก็เป็นนักเรียน ส.พ.บ.ส. กันเต็มตัว!” รอนยิ้มกว้าง “แม่! ยังมีอะไรให้กินอีกไหม”

    น่าแปลกใจ... ทั้งที่รอนไม่ได้คะแนนดีพอที่จะเป็นมือปราบมารแต่เขากลับพอใจกับคะแนนแบบนี้เสียอย่างนั้น 



    ติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×