คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : ( SF ) PROMISE : 01
PROMISE
การเจอเขาในวันนี้ ทำให้นึกถึงครั้งสุดท้ายที่เราพบกันเมื่อสามปีก่อน
ผู้ชายคนหนึ่ง เจ้าของร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ช่วงไหล่กว้าง กับเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดให้ผมไม่อาจละสายตาได้
เขายังคงเหมือนเดิม
เหมือนครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน
เหมือนครั้งสุดท้ายที่เราจากกัน
เขาสวมชุดสูทสุภาพสมกับอยู่ในพิธีแสนสำคัญ
ผมแค่นยิ้มขณะก้มมองกระดาษที่มีกลิ่นหอมในมือ
แม้หัวใจจะวูบโหวง แต่ก็นึกขอบคุณที่มันทำให้ผมได้กลับมาเจอเขาอีกครั้ง
กลับมาเจอโอเซฮุนอีกครั้ง
...เจ้าการ์ดแต่งงานสีเงินใบนี้...
1
ทุกอย่างเริ่มต้นจากวันนั้น
วันที่แสงแดดจัดจ้าวันหนึ่งในฤดูหนาว
อบอุ่นเหมือนความอ่อนโยนของใครคนนั้นไม่มีผิด
“อีกไม่กี่ชั่วโมงจะพรีเซนต์แล้วนะเว้ย”
“กลัวอะไร ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว”
ลู่หานฟังเพื่อนในกลุ่มที่กำลังถกเถียงกันใกล้ๆ ขณะเขาท่องสคริปต์ส่วนของตัวเองจนจดจำได้ทุกถ้อยคำ เจ้าของเสียงโวยวายแรกอย่างโดคยองซูไม่ได้สนใจคำปลอบใจจากปาร์คชานยอลแต่อย่างใด คนตาโตเริ่มมองนาฬิกาข้อมือสลับย่ำเท้าใต้โต๊ะม้าหินซ้ำๆ
“โอเซฮุนมันยังไม่โผล่หัวมาเลย”
“อ่า...”
“อย่าลืมว่ามันเป็นเมนพรีเซนต์ครั้งนี้ ถ้าเจ๊งขึ้นมา —”
“รถเซฮุนเสียน่ะ แต่อีกเดี๋ยวก็คงมาถึง”
“ลู่หานรู้ได้ไง”
คนถูกถามวางสคริปต์ลงบนโต๊ะ โชว์หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ปรากฎข้อความจากโอเซฮุนแทนคำตอบ
ปาร์คชานยอลกับโดคยองซูมองหน้ากัน แววตาพวกเขาเปล่งประกายวาววับ
“ยังไงน่ะ พวกมึงสองคนเนี่ย”
“ยังไงอะไร...”
“ตกลงคู่จิ้นของมหา’ลัยจะกลายเป็นคู่จริงว่างั้น?”
“ตลกแล้ว”
ลู่หานหัวเราะ ใบหน้าสวยหวานที่ทำให้ผู้ชายหลายคนไม่อาจละสายตาได้ยิ่งน่ามองมากขึ้นยามเจ้าตัวยิ้มทั้งปากทั้งตาแบบนี้
“เออ ตลกไปเถอะ ไอ้จงอินคงไม่ตลกด้วย”
“รู้ว่าฉันมีจงอินแล้วยังจะแซวอีกทำไมเล่า”
คยองซูยักไหล่ ไม่ต้องหันไปมองหน้าชานยอลก็เดาได้ว่าเพื่อนสนิทตัวสูงคงทำท่าเดียวกัน
กลุ่มพวกเขามีหลายคน คบกันเหนียวแน่นตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยวันแรกจนจะจบการศึกษาอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โอเซฮุน ลู่หาน โดคยองซู ปาร์คชานยอล คิมจุนมยอน คิมจงแด พยอนแบคฮยอน และจางอี้ชิง
เพราะมีกันหลายคนนั่นเอง ทำให้เวลาทำงานกลุ่มก็ต้องแบกออกเป็น 4 – 4 แถมเมื่อสังเกตลึกๆ แล้วจะรู้ว่าพวกเขาไม่ได้สนิทกันทุกคนขนาดนั้น แม้จะไม่มีปัญหาอะไรกันก็ตาม
อย่างเช่นลู่หานกับเซฮุน
ไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่แตกต่างกันสุดขั้ว เซฮุนชอบท่องเที่ยว ทั้งทะเล ภูเขา กิจกรรมโลดโผนต่างๆ ขณะลู่หานมีความสุขกับการนอนเล่นโทรศัพท์ ฟังเพลง อ่านหนังสืออยู่บ้านเงียบๆ
แต่ถึงอย่างนั้น...
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเซฮุน ชายหนุ่มมักบอกลู่หานเป็นคนแรกทุกที
ความแปลกประหลาดที่เพื่อนในกลุ่มยังไม่เข้าใจ ซ้ำทั้งคู่ยังถูกจับเป็นคู่จิ้นในหมู่สาววายทั้งหลายทั่วมหา’ลัยอีกต่างหาก และมันเป็นเรื่องที่ถูกหยิบมาแซวเสมอ
ทั้งที่รู้ว่าต่างคนต่างมีแฟนอยู่แล้วแท้ๆ
“ไง!”
สงครามน้ำลายจบลงได้ไม่ถึงสิบนาที ตัวต้นเรื่องก็เดินเข้ามาตบกลางโต๊ะให้คนที่นั่งจมกับสคริปต์ทั้งหลายต้องสะดุ้งเฮือก
โอเซฮุนได้ยินชานยอลสบถหยาบคายหนึ่งคำ ชายหนุ่มร่างสูงหัวเราะร่า ทรุดนั่งข้างลู่หานด้วยท่าทางสบายๆ
“ทำหน้าเครียดอะไรวะคยองซู”
“เครียดเรื่องมึงนั่นแหละ กว่าจะโผล่หัวมาได้”
“ไร้สาระ เตรียมตัวเรื่องพรีเซนต์ล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ มึงยังไม่มั่นใจอีกเหรอ”
“ก็กูกลัวไม่จบ...”
“เรื่องของมึงเถอะ”
เซฮุนยักไหล่ หาได้สนใจเสียงด่าทอกลับมาของโดคยองซูไม่ และแทนที่จะหยิบสคริปต์ของตัวเอง เซฮุนกลับกระตุกข้อมือฉวยกระดาษในมือลู่หานมาอย่างรวดเร็ว
“เลิกท่องได้แล้ว”
“ยังไม่ชัวร์นี่”
“ยิ่งท่องตอนใกล้เวลาก็ยิ่งร้อนรน จำอะไรไม่เข้าหัวหรอก”
“แต่...”
“ถ้าพลาดเดี๋ยวฉันเสริมให้ ไม่ต้องห่วง”
ริมฝีปากได้รูปยกยิ้ม บอกแล้วก็ยกขวดน้ำเปล่ากระดกดื่ม ท่าทางหรือน้ำเสียงอาจดูมั่นใจจนคล้ายคนขี้คุย แต่น่าแปลกที่ลู่หานกลับเบาใจ เชื่อมั่นในคำพูดเมื่อครู่โดยไม่คิดกังขาสักนิดเลย
“เซฮุน”
“อือ”
“มึงจีบลู่หานเหรอ”
พรวด!
“แค่ก!”
คนถูกถามถึงกับสำลักน้ำ เซฮุนวางขวดเปล่าลงบนโต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำจนลู่หานต้องช่วยลูบหลังทั้งอดหัวเราะไม่ได้
“ถามเหี้ยไรเนี่ย”
“ก็ดู ทีกับกู คยองซู หรือเพื่อนคนอื่นมึงหยาบคายแทบจะกินหัว” ชานยอลเลิกคิ้ว “แล้วกับลู่หานทำไมเสือกพูดเพราะนัก”
เซฮุนกลอกตาซ้ายขวา แถมยังมองบนราวกับระอาความช่างจับผิดเกินเหตุ อยู่ด้วยกันเกือบสี่ปีเต็มไม่เคยถาม ไม่รู้นึกยังไงปาร์คชานยอลถึงปากมากวันนี้
“ว่าไง”
“รำคาญว่ะ มึงก็ดูหน้ามันบ้างสิ”
“ห้ะ?”
“เนี่ย” ปลายนิ้วเรียวจับหมับเข้าปลายคางมน โยกไปมาซ้ำๆ จนลู่หานร้องอื้ออึงในลำคอ “เขย่าแรงๆ น้ำตาลคงร่วงจากหน้า หวานฉิบหาย ลูกตาก็แป๋วๆ บอกตรงๆ...”
“.........”
“สถุนใส่ไม่ลงว่ะ”
“...กูจะพยายามเข้าใจแล้วกัน”
ชานยอลพยักหน้าแบบขอไปที แต่เชื่อเถอะว่าดูจากรอยยิ้มมุมปากนั้นชายหนุ่มไม่ได้เชื่อโอเซฮุนแม้แต่นิด ตรงข้ามกับลู่หานที่หน้างอตั้งแต่คำว่า ‘หวานฉิบหาย’ หลุดออกมาจากปากเซฮุนแล้ว
เพราะมันดูไม่แมนเลยน่ะสิ...
*
แม้จะตะกุกตะกักเพราะความประหม่าบ้าง ตอบคำถามเก้ๆ กังๆ บ้าง แต่ท้ายที่สุดการพรีเซนต์วิชาสุดโหดก็ผ่านพ้นไปด้วยดี นั่นหมายความว่าเซฮุน ลู่หาน คยองซู กับชานยอลสามารถเรียนจบตามกำหนดได้อย่างสมบูรณ์
ปาร์คชานยอลกับโดคยองซูออกจากมหา’ลัยด้วยกันตั้งแต่บ่ายแก่ สองเพื่อนสนิทต่างไซส์รีบกลับไปเตรียมตัวสำหรับปาร์ตี้คืนนี้ ส่วนลู่หานมีนัดกับคิมจงอินตอนเย็น และเซฮุนอาสาอยู่รอคนรักของลู่หานเป็นเพื่อนเพราะชายหนุ่มไม่มีธุระต้องรีบร้อนไปไหน
ดวงตาคู่สวยมองหน้าจอโทรศัพท์ซึ่งไร้ข้อความตอบกลับจากแฟนหนุ่ม ลู่หานถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
เขากับจงอินคบกันตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย ทะเลาะกันบ่อยครั้งทั้งที่ลู่หานเป็นคนใจเย็น แต่ก็ยังเชื่อมาตลอดว่าวันเวลาจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ทว่า ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ช่องว่างระหว่างคนสองคนกลับกว้างขึ้นทุกที ลู่หานไม่ได้เจอจงอินหลายสัปดาห์เพราะอีกคนบอกว่างานยุ่ง ติดสอบ ซึ่งลู่หานเองก็ไม่อยากรบกวนให้ลำบากใจ
Rrr - - Rrr - -
“จงอิน”
( ฉันเอง ลู่หานทำอะไรอยู่ )
ร่างเล็กเอนหลังพิงเก้าอี้ตัวยาว เหลือบมองเซฮุนที่กำลังเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างเมามัน ก่อนใบหน้าเหล่อเหลาจะหันมาหา ขยับปากโดยไร้เสียงว่าจะไปซื้อน้ำ เดี๋ยวจะกลับมา
“เพิ่งพรีเซนต์งานเสร็จ ตอนนี้รอจงอินอยู่ในคณะ”
( อ่า... )
“มีอะไรเหรอ”
( โทษที ฉันไปไม่ได้แล้วล่ะ )
“........”
( มีนัดฉลองกับเพื่อน ขอโทษนะลู่หาน )
“แต่เราไม่ได้เจอกัน —”
( อย่างี่เง่าสิ )
ลู่หานเม้มปากฉับ...
ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยคแท้ๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนงี่เง่าเสียแล้ว
“เข้าใจแล้ว งั้นแค่นี้นะ”
( เดี๋ยวสิ ลู่ — )
คนตัวเล็กกดตัดสายอย่างรวดเร็ว ลู่หานถอนหายใจเฮือกใหญ่ โทษสีส้มอมทองบนท้องฟ้าที่จัดจ้าจนน้ำตาต้องเอ่อคลอ
มันไม่ใช่ครั้งแรก
หากแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่าเกินจะนับไหว
“อ๊ะ เย็น!”
จู่ๆ กระป๋องน้ำอัดลมเย็นจัดก็ถูกแนบข้างแก้ม ลู่หานหันมองตัวการยืนยิ้มกริ่มอย่างคาดโทษ ใบหน้าที่กำลังงอแงของคนตัวเล็กทำให้เซฮุนบีบปลายจมูกอย่างนึกเอ็นดู
“ร้องไห้ทำไม”
“ยัง...ไม่ได้ร้องสักหน่อย”
“ไอ้จงอินเทนัดเหรอ”
ศีรษะกลมผงกขึ้นลงแทนคำตอบรับ เซฮุนเลิกคิ้วนิดๆ ทรุดนั่งข้างคนตัวเล็กโดยไม่ถามอะไรขึ้นมาอีก
กลัวคำพูดจากปากเขาอาจเผลอทำน้ำตาลู่หานต้องร่วงหล่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
มือใหญ่เพียงวางแปะกลางกลางศีรษะ ลูบเบาๆ แทนทุกถ้อยคำ กระทั่งสอดแทรกปลายนิ้วกับกลุ่มผมนิ่ม ขยี้ซ้ำไปซ้ำมาหวังจะคลายสีหน้าราวกับแบกโลกทั้งใบของลู่หานลงได้
ทว่า
“...ฮึก...”
“เอ้า แล้วกัน”
ชายหนุ่มหัวเราะทันทีที่ลู่หานเอียงศีรษะซบไหล่ ใช้เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาต่างผ้าเช็ดน้ำตา และยิ่งเซฮุนขำลู่หานก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น กำปั้นน้อยๆ ทุบอกกว้างเต็มแรง ซึ่งชายหนุ่มก็ยินยอมแต่โดยดี
“หยุดหัวเราะเลย...อึก...”
“หึหึ”
“เซฮุน...นิสัย...เสีย...”
“นี่”
“อะไร”
“เคยมีแฟนมาก่อนคิมจงอินไหม”
ลู่หานสั่นหน้า
“มิน่า” เซฮุนครางในลำคอ “ถึงได้ไม่รู้ว่าแฟนแบบนี้เรียกว่าแฟนเหี้ยๆ”
“อ...อย่างนั้นเหรอ...”
“ลู่หาน”
“อื้อ”
มือใหญ่ประคองแก้มอุ่นๆ เปรอะเปื้อนหยดน้ำตา เซฮุนปาดเช็ดมันอย่างอ่อนโยน ดวงตาของเขาจ้องมองแก้วตาใสแป๋วแดงเรื่อของลู่หาน ก่อนคลายยิ้มบาง
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงสบายๆ กับท่าทางง่ายๆ ตามเอกลักษณ์ของเจ้าตัว
“ลองคบกันวันนึงไหม จะสอนให้ว่าแฟนที่ดีเป็นยังไง”
“อะไรนะ...”
“ก็ตามนั้น”
“เซฮุน...มีแฟนแล้ว...ไม่ใช่เหรอ”
“เพิ่งโดนขอห่างกันสักพักเมื่อเช้า”
ริมฝีปากได้รูปเบะคว่ำเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ระหว่างตัวเองกับแฟนสาว ท่าทางไม่สบอารมณ์ทำให้ลู่หานหัวเราะสะใจกลับไปบ้าง กระทั่งถูกถามซ้ำอีกครั้งผ่านน้ำเสียงและแววตาจริงจัง
คนตัวเล็กยิ้มจางแทนคำตอบ
To be continued.
เพื่อนไม่ค่อยสนิทกัน มีแฟนแล้วด้วย ไม่มีอะไรในกอไผ่ แกอ่ะคิดมาก
ไม่อยากให้รอจบแล้วค่อยอ่านนะ อยากให้มาลุ้นไปพร้อมๆ กันมากกว่า เนาะะะ
แล้วก็...เรามีแพลนจะรวมเล่มช็อทฟิคแหละ มีใครสนใจมั้ยเอ่ย ขอเสียงหน่อยยย (มีตอนพิเศษบางเรื่องด้วยแน่นอน)
แล้วเจอกันตอนสองและสามค่า
ขอบคุณทุกคอมเม้น ทุกแท็ก ทุกกำลังใจค่ะ
#promisehunhan
ความคิดเห็น