คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #251 : [Trans] Full Thai Fan acc in ToKyo Dome
Talk :: เป็นคนไทยที่ได้ไปดูคอนSecret Code ที่ญี่ปุ่นอ่ะค่ะ อิจฉามากๆ อยากไปดูคอนที่ยุ่นซักครั้ง เพราะเราก็ชอบเพลงญี่ปุ่นอยู่แล้วอ่ะนะ แล้วก็ได้ยินชื่อTohoshinkiก่อนDong Bang shin ki เพราะว่าเราฟังเพลงทงบังแบบจริงจังครั้งแรกในเพลงAsu wa kuru kara ที่ประกอบการ์ตูนเรื่องOne piece ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นทงบัง 555+
(Live -Report TOHOSHINKI) The 4th Live Tour FINAL IN TOKYO DOME
ขอเล่ารวบทั้งสองวันเลยนะคะ
เรามีโอกาสได้ไปชมคอนเสิร์ตโทโฮชินกิที่จัดขึ้นที่โตเกียวโดมเป็นครั้งแรก จากความพยายามมาตลอดสี่ปี กับฝันที่กลายเป็นจริงของพวกน้องๆ ก็เลยขวนขวายไปจนได้
ไปถึงญี่ปุ่นวันศุกร์ วันแรกไปซื้อซีดี เดินเที่ยวแถวชิบูย่า และหาบัตรวันที่ 5 ด้วยเพราะ ในมือมีแค่ตั๋วของวันที่ 4 ผลสรุปในการเดินวันนั้นคือ ไม่ได้ หะ หะ
วันที่สี่ ตื่นแต่เช้าเพื่อไปโตเกียวโดม เคยไปมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ขึ้นรถไฟผิดทางจนได้ กร๊ากๆ ก็มีคุณป้าชาวญี่ปุ่นช่วยพาเดินไปขึ้นอีกฝั่ง ขอบคุณมากนะค้า
มาถึงสถานีสุโดบาชิ ก็เดินตามๆคนที่ถือกระเป๋าของทัวร์ไป ออกจากสถานีรถไฟ ก็เจอพี่ยากูซ่ามาถามขายบัตร แต่ราคาที่เรายอมได้ เขาไม่โอเค ก็ผ่านไป แอบทำใจว่า สงสัยต้องดูวันเดียวซะล่ะมั้ง เพราะตั๋วแพงเหลือเกิน
ไปถึงที่จัดงาน สิ่งที่พบก็คือ คนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่น และ คนญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้อ่านที่คนเคยโพสต์ว่า มีแต่แฟนต่างชาติไปดุคอนเสิร์ตน้อง คนญี่ปุ่นไม่ค่อยมี แต่พอมาเจอกับตัวจริงๆ ทำไม มีแต่คนญี่ปุ่นฟระ = =**
ซ้ายขวาหน้าหลัง จะกินข้าว จะซื้อน้ำ เข้าห้องน้ำ โทรศัพท์ เจอแต่คนญี่ปุ่นคุยขโมงโฉงเฉงเรื่องโทโฮชินกิ แจจุง ชางมิน ยุชอน จุนซู ยุนโฮ บลาๆๆ และคิดว่าที่ได้ยินไม่ใช่คนต่างชาติแอ๊บพูดญี่ปุ่นด้วยเอ้า กะจะหาเพื่อนคุยระหว่างรอคอนเสิร์ตเสียหน่อย แต่ก็ไม่มี คนต่างชาติหายไปไหนหมดฟระ แต่ ก่อนที่จะวิตกจริต ไปต่อแถวซื้อซีดีก่อนแล้วกัน
แถวยาวมาก คนเยอะมาก และต้องเข้าแถวอยู่สามชั่วโมง กว่าจะได้ซื้อซีดีที่ต้องการ มีอัลบั้ม ซิงเกิ้ลทุกชุดมาขาย ถ้าใครยังเก็บไม่ครบก็สบายเลยล่ะค่ะ
พอเข้าแถว ก็พบว่าคนในแถวมีทุกเพศทุกวัยจริงๆ หญิงชาย เด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ และเรา ก็เป็นกะเหรี่ยงในหมู่คนญี่ปุ่นที่รายรอบก็ได้แต่ฟังเขาคุยกัน กร๊ากกกกกกกก สามชั่วโมงในการรอนี่มันน่าเบื่อจริงๆ แล้วอยู่ๆคนที่ยืนข้างๆเราก็ถามเราว่า
"เป็นญี่ปุ่นหรือเปล่า" เราเข้าใจด้วยสกิลภาษาญี่ปุ่นอันน้อยนื้ดดดดดดด ก็เลยตอบเขาไปว่า ไม่ใช่ และเหมือนหนึ่งในสองคนนั้นจะพอฟัอังกฤษออก ก้เริ่มได้คุยกัน ฆ่าเวลาไปพลางๆ พอเขารู้ว่ามาจากไทย ก็ทำหน้าตกใจกันใหญ่ (ประมาณ ลงทุนจังนะ) คุยไปคุยมา เขาก็รู้ว่าเราไม่บัตรวันที่ห้า คุณน้าหนึงในสองก็บอกว่า เขามีบัตรใบนึงที่เพื่อนเขาไปไม่ได้ เราจะเอาไหม
*__________________________________*
จะเหลือเหรอคะ เอาสิ ตอนนั้นดีใจมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
และเราก็ได้บัตรวันที่ 5 มาในราคาหน้าตั๋ว โชคดีสุดๆ เป็นบัตรปริ๊นจากคอนวิเนี่ยนธรรมดาๆ แต่ไม่เป็นไร แค่มีตั๋วดูได้ในราคาเท่านี้ก็โอเคแล้ว
ขอบคุณคุณน้าทั้งสองคนมากนะค้า ^______________________________^
ได้ตั๋วมาอุ่นในกระเป๋า ก็เคลื่อนย้ายมวลสารตัวเองพร้อมซีดีอีกหนึ่งถุง ไปที่ร้านอาหารแถวโตเกียวโดม ที่เต็มไปด้วยคนมาดูคอนเสิร์ต ทุกคนถือถุงทัวร์ กินข้าวสนทนากันอย่างออกรส แจจุง ยูชอน อะไรกันไป อิฉันก็ตัวลีบๆไปนั่งฟังเขาคุยกัน ไม่รู้เรื่องว่าเขาคุยอะไรกันหรอก แต่มันมีความสุขจัง ^^
พักทานข้าวก่อนนะคะ
กินข้าวเสร็จ ก็ไปที่ทางเข้าของ Premium Seat เพราะตั๋ววันแรกที่เราได้คือ Premium Seat ค่ะ
เป็นตั๋วราคาสามหมื่นเยน ที่ได้จากการแรนดอมในการลงชื่อของแฟนคลับ Bigeast น้องที่เรารู้จักอาศัยอยู่ในโอซาก้าเลยขอให้เขาสมัครให้ค่ะ ขอไปสี่ใบได้มาใบเดียว
ทางเข้าจะเป็นแบบนี้
และมีคนต้อนรับที่หน้าประตู หน้าตาประมาณนี้
Premium Seat ก็พรีเมี่ยมสมชื่อละค่ะ มีพรมแดงปูที่ทางเข้า ตรงที่นั่ง มีshop ขายของทัร์เป็นของตัวเอง บัตรที่ได้เป็นบัตรแข็ง มีที่ห้อยคอหรูหรา
มีของแจกทั้งกระเป๋า ถุงผ้า เครื่องสำอางค์จากสปอนเซอร์ กิฟท์เซต แล้วก็หมอนตรงที่นั่งที่เอากลับไปได้เลย มีพนักงานมาโค้งบริการให้
เราได้ที่นั่งค่อนข้างดีมาก ติดเมนเสตจ ก็ประมาณหลุม AR ในคอนเสิร์ต MIROTIC เห้นแจจุง กับชางมิน เยอะมาก เวลาน้องไปที่ซับสเตจก็จะยังเห็นชัดอยู่ แต่ก็จะไม่ขนาดเวลาอยู่เมนสเตจ วันแรกคือวันที่ส่องใกล้ๆไปเลย
วันที่สองเป็นตั๋วที่แสดนต์นสองค่ะ อยู่ตรงกลางพอดี เห็นสเตจเล็กชัด และเห็นเวทีหลักโดยรวม ที่ดีเหมือนกัน อยู่ตรงกลางมากๆ
เปิดตัวมาด้วย VTR ผู้ชายทั้งห้าเข้าไปขโมยสร้อยในงานแล้วต่อสู้กับการ์ด เปิดตัวมาด้วยเพลง Secret Game เราชอบเสียงของยูชอนมากเลย เพลงนี้ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังเรื่องจอมโจรลูแปงอยู่ เราก็สร้าบรรยากาศคึกคักสดใสในเวลาไม่นานทั่วทั้งโดมเต็ไปด้วยแท่งไฟสีแดงที่โบกกันอ
ย่างพร้อมเพรียง เราเข้าใจคำว่า RED OCEAN ก็วันนี้นี่แหละ มันยิ่งใหญ่มากๆ เห็นแล้วขนลุกเลย
Share The World เพลงประกอบการ์ตูน one piece สิ่งที่เราชอบที่สุดในเพลงนี้ก็คือ ช่วงโชว์สเต็ปของยุนโฮแล้วก็จุนซู ต่อด้วย แจจุงยูอน ชางมิน ดูแล้วคิดว่า คนคิดท่าเข้าใจทำดีนะ ท่าเต้นเข้ากับเพลงมาก ส่วนเรื่องเสียงร้อง คงไม่ต้องบรรยายมาก หายห่วงอยู่แล้ว
ที่ Why did I fall In love With you เพลงที่เราอยากฟังไลฟ์สดๆตั้งแต่ได้ยินเพลงนี้ครั้งแรก แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย เสียงน้องๆเพราะมากๆ เสียงยุนโฮดีกว่าในซีดีเยอะเลย และแจจุง เสียงบาดอารมณ์มากๆ
อันนี้ขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยนะคะ กับ Red Ocean งามๆ
Take To Your Hand เวอร์ชั่นไลฟ์ดีกว่าในซีดีมากกกกกกกกกกก ยูชอน เซ้กซี่มากกกกกกกกกกกกกกกกก ตอนท่อนแรพของยุนโฮร้องเสร็จแล้วชี้หน้าพร้อมยกขาขึ้นเตะข้างนี่ เท่ห์ได้อีก
แล้วก็เป็นน้องๆกล่าวทักทาย แนะนำตัว ทักทายแฟนๆพร้อมความรู้สึกที่ได้มาเล่นโดม ประมาณนั้น ดูน้องๆมีความสุขมากๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา
จากนั้นก็เข้าเพลง Stand Up พอถึงท่อน นานานา นานา ทุกคนก็จะชูแท่งไฟขึ้นแล้วก็หมุนเป็นวงกลม พอท่อน Stand Up ก็ยกแท่งไฟขึ้นสูงๆ ทำพร้อมๆกันสนุกมากๆ แล้วท่อนที่ร้อง Oh Yeah ทั้งโดมร้องพร้อมๆกัน เสียงดังได้อีก เป็นแบบนี้งสองวันเลย
เปิดมาด้วยเพลง9095 คนนั่งข้างๆ (แน่นอน คนญี่ปุ่น) ตอนท่อนที่น้องๆรูดเสาเนี่ย คุณป้าคุณน้ากรี๊ดลืมอายุไปเลย แล้วก็พึมพำๆ ยุนโฮ จุนซูๆ เพลงนี้ไม่คิอว่าจะทำไลฟ์ให้รู้สึกเซ็กซี่ได้ขนาดนี้ เพลงนี้สำหรับเราให้หลายอารมณ์นะ แล้วแต่ว่าจะตีความไปทางไหน ชอบวีดีโอประกอบ ตอนที่ทุกคนว่ายขึ้นมาจากน้ำนะ มันดูตรงอิมเมจที่เราคิดไว้ดี แหะ แหะ
จากนั้นก็เป็น VTR เข้าสู่เพลง Force นึกถึงขบวนการยอดมนุษย์อะไรซักอย่าง เปิดตัวออกมาเท่ห์ดี อยู่บน เอิ่ม จะเรียกอะไรดี เหมือนเครนยกขึ้นไปสูงๆ เสียงน้องๆเต็มไปด้วยพลังเหมือนเคย
จากนั้นทุกคนก็ลงมาเข้าสู่เพลง Purple Line ช่วงไลน์เต้นที่เพิ่มเข้ามาพิเศษ สุดยอดมากกกกกกกกกกกกก คนรอบๆเราพูดเป็นเสียงเดียวกัน สโค่ย คักโค่ยยย มันเท่ห์จริงๆ แจจุงเต้นดีขึ้นมาก ผมสะบัดไปมา เห็นแล้วอยากจับ เอิ๊กๆ
เพลงนี้ตอนช่วงต้นๆที่คนในโดมช่วยกันร้อง เอ เอ เอ โทโฮชินกินี่ ทำเอาขนลุกไปหมด
จาก Purple Line มาต่อกันที่ Mirotic
การแสดงน่าตื่นตาตื่นใจมากในการเล่นภาพกราฟฟิคของจอ
แต่ที่เราชอบเพลงนี้มากๆคือส่วนของดนตรีที่เล่นสดค่ะ โดยเฉพาะกลอง มันส์มาก ทุกจังหวะที่ตี กระแทกใจสุดๆ เลยทำให้ไลฟ์มันส์ไปกันใหญ่ น้องๆก็เต็มที่มาก จุนซูมีกระชากเสื้อลงตอนเปลี่ยนเป็นเสื้อขาวด้วย
แล้วมาที่เพลง Heart Mind and Soul
เพลงเพราะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เพราะสุดๆ สุดยอด เสียงแจจุงนุ่มได้อีก แล้วก็ท่อน Why Why Why บาดหัวจิตหัวใจเหลือเกิน T_T
ดูของจริงด้วยตา ฟังด้วยหู มันดีอย่างนี้ล่ะน้า
จากนั้นแล้วก็มีให้จุนซูเล่นโอยาจิแก๊กในวันแรก (จุน---จู----วา) ส่วนวันที่สอง เล่นทุกคน และแจจุงมาพร้อมกับโชยุโกโตะมุขประจำ แล้วในวันแรกก็มีคุยกันถึงเพลงที่ยูชอนและแจจุงแต่งคือ Kiss the baby sky แล้วก็ Wasurenaide วันแรกเหมือนแจจุงแอบน้ำตารื้นๆ พูดอะไรที่ซึ้งๆกันล่ะมั้ง เพราะคนข้างๆเราแอบเช็ดน้ำตา วันที่สองนี่ ชางมินพูดอะไรซักอย่าง คนดูก็ เน้ เน้ เน้ แล้วก็มีให้ทำเสียงเป็นเด็กเล็กๆพูดประโยคนึง ทำเสร็จ ชางมินก็ทำหน้าเหมือน "ให้ผมทำอะไรแบบนี้เนี่ย"
จากนั้นก็เข้าสู่เพลง Wasurenaide เพราะอีกแล้ว ได้ฟังน้องร้องเพลงบัลหลาดญี่ปุ่นสดๆนี่ สวรรค์จริงๆนะเนี่ย
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วจะมาต่อตอนสายๆค่ะ ^^
อันนี้คือบัตรพรีเมี่ยมที่เราได้มา
เราไปรอที่นั่งพรีเมี่ยมตั้งกะห้าโมง (คอนเสิร์ตเริ่มหกโมง) เจอคนที่นั่งถัดๆไปเป็นคนโอซาก้า และคุยอังกฤษได้ เลยเมาท์กันฆ่าเวลามันส์ไปเลย
เขาเป็นแฟนยูชอนค่ะ ชอบเพราะความสามารถนี่แหละโดยเฉพาะการเล่นเปียโนแล้วก็แต่งเพลงได้ หน้าตาดีด้วย เขานังชินคังเซ็นจากโอซาก้ามาถึงโตเกียวตอนเช้า เขาตื่นเต้นมากๆ บอกว่าเป็นการมาดูคอนเสิร์ตโทโฮชินกิครั้งแรกของเขา แล้วบอก คนญี่ปุนชอบโทโฮกันเพราะความสามารถแล้วก็นิสัยที่ตรงๆนี่แหละ ทุกคนมีบุคลิกที่ชัดเจนแตกต่างกันทั้งห้าคน แต่ดูเขากันได้ดีอย่างน่าประหลาดเลยน่าสนใจที่จะติดตามนอกจากความสามารถที่มีเหลือเฟ
ือกันอยู่แล้ว
....................................................................
เล่าต่อๆ มาถึงช่วงที่ทำให้เซอร์ไพรส์สุดๆ คือ ตอนที่จอแสดงเบื้องหลังคอนเสิร์ต และบอกว่าจะมีโซโล่ เสียงฮือฮาในโดมก็ดังขึ้นแบบ เอ๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปิดมาด้วย XIAHTIC เหมือนกับของเกาหลี นอกจาก เพลงเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่มีท่อนแรพ และ แดนเซอร์แนบชิดและหุ่นเอ็กซ์กว่าที่เกาหลีเย้อออ
(คุณน้าข้างๆแฟนจุนซูเสียจริตไปเลย)
แจจุงและยูชอนมาในเพลงที่แต่งเอง ~Colors~Melody&Harmony ตอนที่ได้ยินครั้งแรก ในคอนเสิร์ตวันแรก เราน้ำตาไหลกับเพลงนี้ไม่รู้ตัว เพลงมันใส และบริสุทธิ์เอามากๆ ฟังแล้วอบอุ่นหัวใจแบบบอกไม่ถูก(เวอร์เนอะ)
เสียงแจจุงนี่ Healing Voice จริงๆ ทั้งอบอุ่น ทั้งอ่อนโยน ช่วงที่ร้อง ลาลาลา กันก็น่ารักมากๆ เราเห็นคนแถวๆเราหลายคนแอบปาดน้ำตากับเพลงนี้ด้วยเหมือนกัน
แจจุง ยูชอน ขอบคุณนะสำหรับเพลงดีๆแบบนี้ เป็นเซอร์ไพรส์ที่ประทับใจที่สุดในคอนเสิร์ตลย
ต่อด้วยโซโล่ของยุนโฮ Checkmate เราสารภาพตามตรงชอบเวอร์ชั่นเกาหลีมากกว่า มันดู อืม เจ้าชู้กว่า ขี้หลีกว่า กร๊ากๆ เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ชุด ทรงผม ดูเรียบร้อยไปหน่อย เพลงก็ดีนะ แต่ชอบเกาหลีมากกว่าในเพลงนี้ให้ความรู้สึกเป็นยุนโฮมากกว่า และแน่นอน แดนเซอร์ญี่ปุ่นหุ่นเอ็กซ์กว่า คุณน้าที่นั่งอีกข้างแฟนยุนโฮก็เสียจริตไปเหมือนกัน เอิ๊กๆ
ปิดท้ายโซโล่ด้วยชางมินกับเพลงร็อคอย่าง Wild Soul การร้องคีย์สูงของน้องมินสุดยอดมาก จะสูงขนาดไหนน้องมินไปถึงหมด เอฟเฟคอลังการ พ่นไฟมาที ร้อนวาบไปด้วย เพลงนี้เหมือนคนดูผู้ชายจะชอบกันนะ
โซโล่ (ของแจชุนเป็น Duet) บ่งบอกถึงบุคลิกและความสามารถที่แตกต่างกันของแต่ละคนมากๆ อารมณ์แบบ อืม คนนี้ต้องเพลงแบบนี้แหละ
จบจากช่วงโซโล่ ก็ป็นวีดีโอที่ย้อนเวลาไปก่อนหน้าที่หนุ่มๆจะมาขโมยสร้อยในวีดีโอช่วงต้น ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น
หลังจบวีดีโอ ก็เป็นเพลง Begin ที่ช่วงต้นจะมีแค่เสียงเปียโนของยูชอน กับเสียงร้องประสานของทั้งห้าคนเท่านั้น
สุดยอดมาก เพราะมาก ร้องไห้อีกแล้ว ทั้งโดมพร้อมใจกันเงียบ มันให้ความรู้สึกที่ดีมากๆแล้วก็ตื้นตันแบบบอกไม่ถูก
ดีใจ ที่ได้มาฟังสดๆจริงๆค่ะ ^_______________________^
จบจาก Begin อารมณ์ถูกพลิกด้วย Nobody Knows เป็นอีกเพลงที่เวอร์ชั่นไลฟ์ดีกว่าในซีดีสิบๆเท่า แจจุงดูจะชอบเพลงนี้มาก สะบัดผมซะ ท่าเต้นก็ย้วยๆหน่อย เข้าทางแจจุงมากๆ ดูแจจุงเต้นเพลินไปเลยค่ะ
จาก Nobody Knows ก็ถูกพลิกอารมณ์อีกรอบด้วย Taxi เสียงชางมินตอนขึ้นต้นสุดยอดมากกกกก แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันเงียบอีกแล้ว เลยได้ดื่มดำกับอารมณ์เพลงเต็มๆ เพลงมันเจ็บปวด เสียงน้องๆก็เจ็บปวดไปตามเพลง และเรา ร้องไห้อีกแล้ว ร้องไห้หลาบรอบมากวันนี้ ยิ่งท่อนที่จุนซูเริ่มเข้าเสียงสูงนี่ คุณน้าข้างๆยกผ้ามาซับน้ำตาพร้อมเราเลยทีเดียว
ต่อด้วย Forever Love ไม่ผิดหวังเลย ที่อยากฟัเพลงนี้เป็นไลฟ์สดๆซักครั้ง ดีมากๆ ดีจนขนลุก เสียงทุกคนดีมากๆจริงๆ จากนั้นช่วงท้ายเพลงทุกคนก็เดินกลับมาเมนเสตจ
แล้วเพลง O ก็ดังขึ้น ท่อน โอ โอ โอ ทุกคนในโดมก็ช่วยกันร้อง แอบมีอังกอร์เล็กๆด้วย เป็นเวอร์ชั่นที่วงดนตรีแกะทำนองดั้งเดิมที่เป็นอิเล็คโทรนิค เสียงสังเคราะห์เยอะๆออกมาได้ดีนะคะ
มีการแนะนำแดนเซอร์ ปีมีแดนเซอร์ผู้หญิงเพิ่มมาด้วย
ตอนโชว์ของแดนเซอร์ผู้ชายนี่ ทึ่งนะ ทุกคนเต้นกันเก่งจริงๆ แล้วหลายคนก็อยู่กับโทโฮมาตั้งแต่เริ่มเดบิวต์เลย
โทโฮกลับมาอีกครั้งด้วยเสื้อตุ๊กแก เสื้อลายพร้อยหลากสีสันนั่นแหละ
Choosey Lover แบบย่อๆ ท่อน sexy lady ah~ ของแจจุง แจจุงถลกเสื้อลงแล้วก็เบ่งกล้าม ทั้งสองวันเลย ฮ่าๆ
ต่อด้วย Sky บรรยากาศในโดมสดใสมากๆ น้องๆก็เล่นกล้องกันสนุกเลย ให้แฟนๆกรี๊ดเป็นระยะๆ ดูน้องๆสบายๆและรีแลกซ์ดี
มันส์สุดๆกับ Somebody To Love คนทั้งโดมพร้อมใจกันกระโดด แล้วก็ควงผ้าขนหนูในมือ มันส์มากๆๆๆ จัมป์ๆๆๆๆ น้องๆร่าเริง เล่นกับกล้องสุดๆ
ต่อด้วย Summer Dream แจจุงไฮเปอร์มาก แล้วระหว่างเพลงมีการแนะนำสมาชิกวงดนตรีที่มาเล่นให้ ส่วนใหญ่เป็นทีมเดิมจากปีที่แล้ว ยกเว้น น่าจะมือกีตาร์นะ ที่เปลี่ยน จากนั้นก็เป็นช่วงนำเต้น จุนซูนำเต้นทั้งสองวัน และทีคนกรีดเยอะสุดน่าจะที่ทำ Angel Pose นะ แล้ววันที่สอง แจชุนเหมือนจะไปลวนลามจุนซู กร๊ากๆ
จบช่วงนี้ด้วย Survivor ท่าเต้นออกแบบมาดจริงๆ มีปรับนิดหน่อย ดูเท่ห์ขึ้น แต่ถ้าไม่ใช่ชุดตุ๊กแก คงดูเท่ห์กว่านี้อ่ะนะ หะ หะ
ช่วงนี้ปิดวีดีโอเป็นย้อนเพลงเก่าๆ แล้วพอขึนเพลงไหนมา คนในโดมก็จะร้องตาม รู้สึกดีจังเลย ^________________________^
จนสุดท้ายคือ The Way You Are
และที่ญี่ปุ่น ก็มีอังกอร์กะชาวบ้านเขาด้วย เสียดายที่เป็นเวอร์ชั่นแบบสั้น เลยได้เรียกชื่อแค่สามคนเอง
จากนั้นก็มาที่เพลง We Are! น้องๆขึ้นไปบนรถเล็กๆ ที่วิ่งไปรอบโดม พร้อมทั้งโยนลูกบอลที่มีลายเซ็นน้องเซ็นเอาไว้ รถวิ่งไปเรื่อยๆ ช้าๆ จนถึงสเตจเล็กหน้าแสดนด์ วันที่สองเราอยู่แถวนี้พอดี เห็นเสตจเล็กชัด จากที่วันแรกไม่เห็น เพราะไกลเกิน น้องๆขึ้นมาที่สเตจเล็ก หลังจากจบ We Are ! ก็ต่อด้วย Break Up The Shell เรายอมรับว่าไม่เคยสนใจเพลงนี้มาก่อน แต่พอเจอพอร์ฟอร์แมนซ์จริงๆแล้ว เจ๋งมากๆ ท่าเต้นก็เท่ห์ เพลงก็ดี ดูคนญี่ปุ่นจะชอบเพลงนี้กันนะ (แต่จริงๆก็เห็นชมทุกเพลงแหละ)
จากนั้นก็มาคุยๆกัน แล้วชางมินก็แนะนำเข้าสู่เพลง Stand By U
การที่ได้ยินน้องร้องเพลงนี้สดๆ ดีกว่าในซีดีเยอะเลยนะเนี่ย แล้ววันที่สองก็มีโปรเจคคือ ทุกคนจะได้รับแจกแท่งไฟสีฟ้า จาก Red Ocean กายเป็น Blue Ocean ขนลุกไปหมด มันสวยมากๆ รู้สึกปลื้มที่เราได้เป็นส่วนนึงในนั้น
ปิดท้ายช่วงนี้ด้วย Kiss The Baby Sky มีให้แฟนๆในโดมร้องตาม มีคาราโอเกะขึ้นให้ด้วย แล้วก็เข้าสู่ช่วงสุดท้าย
สองเพลงสุดท้ายต่อไปนี้ เป็นเพลงที่เราบอกได้เลยว่า
คุ้มค่ากับการเดินทางมาญี่ปุ่นจริงๆ
สองเพลงที่ว่าคือ Bolero และ Love In The Ice ค่ะ
จะมีสองเพลงไหนสุดยอดมากกว่านี้อีกแล้ว ใครบอกว่าน้องมีดีแค่หน้าตากับเต้นเฉยๆ แต่ไม่มีความสามารถด้านการร้องเพลงเลย เราขอบอกว่าคุณคิดผิดแล้วล่ะ
เราฟังเพลงทั้งสองนี้ไปขนลุกไป สุดยอดทั้งเสียงทั้งดนตรี ดนตรีอลังการได้อีก โดยเฉพาะ Bolero ท่อนที่ทุกคนร้องไล่เสียงติดๆกันนี่ ไม่รู้จะบรรยายถึงความยอดเยี่ยมยังไง มันอธืบายไม่ถูก ความสุขมันล้นไปหมด
และที่เราไม่คาดคิดคือ Love In The Ice ไคดว่าจะได้มาฟังเวอร์ชั่นญี่ปุ่นสดๆ ไม่ผิดหวังเลย ดีกว่าที่ฟังในดีวีดีไม่รู้ตั้งกี่เท่า ท่อนของจุนซู น้อง Born To Sing จริงๆ
แล้วคอนเสิร์ตก็จบลง
ช่วงท้ายๆ เหมือนน้องจะน้ำตาซึมๆคลอๆกัน แต่ไม่ร้องไห้นะ หวังจะเห็นยูชอนร้องไห้ซักหน่อย ไม่ได้เห็นเลย เสียดาย ฮ่าๆ
กลับออกมาด้วยความรู้สึกเต็มตื้นทั้งสองวัน ทุกคนรอบตัวมีแต่รอยยิ้ม ฟังภาษาญี่ปุ่นที่เขาพูดไม่ออกหรอก แต่รับรู้ได้นะ ว่าประทับใจกัน
และ
อยากดูอีก อยากดูอีกหลายๆรอบ คอนเสิร์ตดีจริงๆ แต่ไม่รู้ปีหน้จะโชคดีอย่างปีนี้อีกหรือเปล่า
เราขอเล่าภาพโดยรวมนะ ไปอ่านบางที่แล้วแอบสะอึกเหมือนกันเพราะที่เราไปเจอจริงๆมันไม่ใอย่างที่เขาว่าเลย
คนที่ไปดูคอนเสิร์ตโทโฮชินกิ 90% คือ คนญี่ปุ่นค่ะ อย่างที่ว่า เราเจอต่างชาติน้อยมาก ตรงที่นั่งธรรมดาๆก็ยังรายล้อมไปด้วยคนญี่ปุ่น อาจจะด้วย ตั๋วหายาก และราคาค่อนข้างแพง ถึงแพงมาก คนต่างชาติเงินถุงเงินถังขนาดบินตามมาดูได้ ก็ไม่เยอะเท่าไหร่นะ เราเองก็โชคดีที่แรนดอมได้บัตรมาใบนึงแล้วก็เจอแฟนคลับคนญี่ปุ่นใจดีเลยได้ดูทั้งสอง
วัน
ถ้าส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติไปดู เราน่าจะเจอเยอะ และง่ายกว่านี้ อย่างน้อยๆ คงไม่เจอคนเกาหลีแค่ห้าคนในเวลาสองวันหรอก ถ้ามันเยอะอย่างที่ใครๆว่าขนาดนั้น แล้วเราว่า เราแยกสำเนียงคนญี่ปุ่นออกนะ คนญี่ปุ่นที่เราเจอทีคอนเสิร์ต คงไม่ใช่คนต่างชาติแอ๊บญี่ปุ่นแน่ๆ
เรายอมรับก่อนไปเราก็คิดแบบที่โดนไซโคมา แต่พอไปดู ไปเห็น ไปเจอของจริง มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย โทโฮถือว่ามีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่นเลยล่ะ
น้องไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องฝืนพูดญี่ปุ่น เพราะคนที่ไปดูส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่น จะต้องฝืน ต้องลำบากทำไมก็อยากให้คน90% ในโดมเข้าใจที่เขาพูดนี่
แล้วคนไปดู มีทั้งเพื่อนไปด้วยกัน สามีภรรยา พ่อแม่ลูก คู่รัก พี่น้องฝาแฝด คุณแม่มากับลูกสาว คุณพ่อมากับลูกชาย คุณพ่อมากับลูกสาว แม่มากับลูกชายก็มี ผู้หญิง ผู้ชาย ตั้งแต่เด็กยันแก่ ก็มาดูโทโฮกัน เหมือนกิจกรรมที่ครอบครัวร่วมทำกัได้ เห็นแล้วรู้สึกดีนะ
อยากบอกแฟนทั้งทงบัง ทั้งโทโฮ คำพูดคนก็แค่ลมปาก เขาจะพูดอะไรก็ได้ แต่อย่าเอามาเป็นอารมณ์ เราเป็นคนไปเจอสถานการณ์จริงๆ อยู่ในสถานที่จริง แล้วบอกได้ว่าคนส่วนใหญ่ไปดูคือคนญี่ปุ่น ต่างชาติอาจจะซัก 10% หรือไม่ถึงด้วยซ้ำ น้องได้รับความรักจากคนประเทศนี้จริงๆ อย่าห่วงไปเลยนะคะ ^_______________________^
ขอจบไลฟ์รีพอร์ตแต่เพียงเท่านี้ ถ้าความขี้เกียจไม่สิงนัก จะพาไปดูงาน Premium Showcase ที่จัดที่ฮาราจูกุนะคะ
ปล. เพลง Love In The Ice วันรกแจจุงร้องท่อนหลังท่อน Bridg ผิดทั้งท่อน โดดเด้งจากสี่คนอยู่คนเดียวแบบไปคนละทาง แล้วก็กลับมาสู่ท่อนที่ถูกต้องอย่างมึนๆ ฮ่าๆๆ
ปล.2 ตอนยูชอนขึ้นเสียงสูงใน Bolero นึกถึงน้อง aka shuri เลย ฮ่าๆๆ ว่า ถ้ามาดูนี่ ต้องคลั่งลูกเพ่มากกว่าเดิมแน่เลย
Cradit : sweetest@pantip.com
ตามไปอ่านเต็มๆใน
http://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/to...0/C8060440.html
Talk 2 :: อยากไปดูคอนที่Tokyo Dome บ้าง ถ้าเห็นถาพคอน(รู้สึกว่าเราจะเอามาลงแล้ว)มันเป็นRED OCEAN ที่สวยงามมากจริงๆนะ เราได้ดูแฟนแคมตอนที่ทั้งโดมใช้แท่งไฟสีฟ้าแบบสวยมากๆเลยอ่ะ รู้สึกอยากไปเป็นส่วนหนึ่งในนั้นบ้างT^T (ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวัน~) รอแผ่นคอนโทโฮอย่างใจจดใจจ่อ(รวมถึงแผ่นคอนมิโรติกและAll About 3 ด้วย//ช่วงนี้คิดแต่เรื่องให้เสียตังเนอะ555+)
ความคิดเห็น