คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : Review Story : 023 - น้องเซน [City of Survivor]//รับแล้ว
ชื่อนักวิจารณ์ :: พี่เพกา
ชื่อเรื่องนิยาย/ฟิคที่วิจารณ์ :: City of Survivor
ชื่อผู้แต่ง/นามปากกา :: เซน
ทำความเข้าใจกันก่อนสักนิด พี่เพกาคนนี้ไม่ใช่นักวิจารณ์ที่เก่งกล้ามาจากไหนแต่เป็นเพียงนักอ่านคนหนึ่งที่อยากบอกกล่าวถึงจุดเด่นจุดด้อยของนิยายที่ได้อ่าน ดังนั้นพี่จะไม่ใช้คำว่าวิจารณ์แต่จะใช้คำว่าแนะนำ พี่ไม่ได้ต้องการให้น้องเซนเชื่อทั้งหมดแต่อยากให้พิจารณาสิ่งที่พี่เสนอด้วยตัวของน้องเอง หากส่วนไหนที่น้องเห็นด้วยว่าสมควรปรับเปลี่ยนก็ทำ แต่ถ้าส่วนไหนน้องมองว่ามันดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง...
ภาษาที่ใช้ (16/20คะแนน) :: ออกตัวเพิ่มอีกสักหน่อยว่าพี่เป็นคนเยอะ อาจจะ (พล่าม-O-;) ยาวไปบ้างต้องทำใจ
เอาล่ะเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มดูกันทีละจุดเลยดีกว่า ขึ้นชื่อวาแฟนตาซี การใช้ชื่อเรื่องเป็นภาษาอังกฤษถือว่าเหมาะสมสุดๆ City of Survivor แค่ชื่อเรื่องก็สะดุดตาพี่มากเลย มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเราเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความน่ากลัว ขึ้นชื่อว่าเมืองเดนตาย มันก็ย่อมไม่น่าอยู่สักเท่าไหร่ สงสัยจังว่าสิ่งมีชีวิตในเมืองนี้มีอะไรบ้าง
การเกริ่นนำเรื่องก็ทำให้รู้สึกอยากอ่านขึ้นมาทันที ‘หากมนุษย์สูญสิ้น เหลือเพียงคนกลุ่มน้อย ...หากมนุษย์ 'กลายพันธุ์' เป็นสัตว์ประหลาด ...หากเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แล้วโลกของเราจะเป็นเช่นไร?’นั่นสิ มันน่าคิดจริงๆนะ
บทนำถือว่าใช้สำนวนภาษาได้ดีทีเดียว ส่วนการดำเนินเรื่องก็ออกจะเร็วไปนิดในขณะที่การบรรยายก็ออกแนววกวนพร่ำเพลื่อไปหน่อย บอกตรงๆว่าพี่งงมาก นอกจากนี้ยังมีประโยคหลายๆอย่างที่ทำให้คนอ่านอย่างพี่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เพราะอ่านแล้วมันไม่ลื่นไหลแถมยังสะดุดอารมณ์อีกต่างหากอันได้แก่ การใส่เครื่องหมาย ' ' ในคำว่าเธอ ซึ่งพี่คิดว่ามันมากไป ทั้งที่ความจริงใส่แค่ครั้งเดียวในท่อนแรกที่น้องเอ่ยถึงก็พอ ส่วนประโยคถัดๆไปก็บรรยายตามปกติ เพราะคนอ่านเข้าใจแล้วว่าน้องกำลังเอ่ยถึง 'เธอ' ถ้าใส่ตลอดมันจะน่าหงุดหงิดมากกว่าน่าอ่าน (ในความคิดนะ-O-^) นอกจากนี้ยังสามารถนำคำอื่นๆมาใช้แทนที่เธอได้ด้วย เพื่อเป็นการลดความซ้ำซ้อนของคำนั้นๆ อาจใช้ หญิงสาว คนที่... ร่างบาง เจ้าของ... บลาๆๆ อะไรก็ว่าไป อีกอย่างหนึ่งคือการใส่ตัวเอียงในคำหรือประโยคที่พี่คิดว่าเขียนตัวปกติน่ะถูกต้องแล้วแต่น้องกลับเลือกที่จะใส่ พี่ไม่แน่ใจว่าน้องใส่เพื่อใช้เน้นความหมายหรือความสำคัญของคำๆนั้นรึเปล่า ถ้าใช่ ขอแนะนำให้เอาออก เพราะการใส่ตัวเอียงเปรียบเสมือนการแสดงออกทางความคิดของตัวละครนั้นๆ ไม่ใช่การบรรยายแต่อย่างใด พอเอามาปนกันมันให้ความรู้สึกขัดๆและสะดุดอารมณ์พี่มาก
บทที่1 การบรรยายบอกได้เลยว่าสำนวนภาษาน้องค่อนข้างดีถึงดีมาก แต่มีเครื่องหมาย ‘ ’ กับการใส่ตัวเอียง ไม่ถูกหลักเหมือนกับบทนำไม่มีผิดเข้ามาแทรกแซงอีกแล้ว ย้ำอีกครั้งว่ามันทำให้อารมณ์พี่สะดุด ค้างๆคาๆ ประมาณว่ากำลังอ่านเพลินๆ อ้าวเจออีกแล้ว จะใส่อะไรเยอะแยะ (ถ้าพี่แรงไปขออภัยจริงๆ_/\_;) จบๆ จบประเด็นนั่นไป เรามาเข้าสู่เนื้อเรื่องของบทนี้กันดีกว่า พี่ว่าน้องเขียนบทพูดกับบทบรรยายไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่ มันขาดคำเชื่อมและเหมือนเขียนข้ามบางฉากบางตอนไป ส่งผลให้คำพูดที่ตัวละครสื่ออกมาไม่ตรงตามเนื้อหาในตอนนั้นสักเท่าไหร่ ยกตัวอย่าง
“แต่... ข้าไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้!!”
“เจ้า...”
ทว่าสิ่งเร้นลับในความมืดก็ลอยดิ่งมาจากที่ไหนสักที่ ปลิดชีพสหายของเขาทันควัน ศีรษะของชายคนแรกหลุดออกจากบ่า เลือดสีดำพุ่งกระฉูดราวกับสายน้ำ ดวงตาสีแดงเรืองแสงในที่มืดของชายหนุ่มเบิกขึ้นสะดุ้งตัวยืนเต็มความสูง เล็บสีดำกางออกหันไปมองต้นตอของวัตถุสีเงินปริศนาทันที
พี่สงสัยกับคำพูดนี้จัง “เจ้า...” พี่รู้สึกค้างๆคาๆว่าจริงๆแล้วเขาใช้พูดกับเพื่อนหรือพูดกับใครอีกคน ถ้าน้องตั้งใจสื่อคำนี้เพื่อให้เขาพูดกับเพื่อนใช่มั้ย ถ้าใช่ ประโยคบรรยายควรจะเป็นแบบนี้นะ
ยังไม่ทันที่คนฟังจะได้เอ่ยถ้อยคำใดๆ ฉับพลันสิ่งเร้นลับไม่ทราบที่มาที่ไปกลับพุ่งตรงเข้าปลิดชีพสหายของเขาทันควัน ส่งผลให้เลือดสีดำพุ่งกระฉูดราวกับสายน้ำทันทีที่ศีรษะของคนตรงหน้าหลุดออกจากบ่า
ดวงตาสีแดงเรืองแสงในที่มืดของชายหนุ่มเบิกโพล่งด้วยความตกใจในขณะที่ร่างของเขาสะดุ้งยืนเต็มความสูง เล็บสีดำกางออกอัตโนมัติตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอดพร้อมๆกับการสอดส่ายสายตาค้นหาต้นตอของวัตถุสีเงินปริศนาด้วยความหวาดระแวง เอ่อ... อาจจะไม่ได้ดีเลิศอะไร แต่พี่ว่ามันเข้าใจกว่าเยอะและยังให้ความรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้กำลังตกใจผสมหวาดกลัวอย่างแรง ยังมีอีกหลายจุดที่ขาดคำเชื่อม พออ่านแล้วจะงง ยังไงก็ลองกลับไปทวนดู
พี่ขอชมตอนที่ ‘เธอ’ แปลงกายเป็นบุรุษ บอกได้คำเดียวว่าสมบูรณ์แบบ ในตอนนี้บรรยายน้อยก็จริงแต่เข้าใจง่าย มันไม่ปุบปับ ไม่ยืดเยื้อ แต่เป็นธรรมชาติและลื่นไหลสุดๆ พี่แนะนำให้น้องเซนใช้ตอนนี้เป็นแนวทางในการปรับแก้ตอนอื่นๆที่ออกแนววกวน
บทที่2 จากบทนี้เป็นต้นไปไม่ขอพูดถึงสำนวนภาษานะ เพราะน้องเขียนได้ดีและอ่านง่ายตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เรามาดูที่การดำเนินเรื่องในบทนี้ดีกว่า การต่อสู้และบรรยากาศที่น้องบรรยายออกมาถือว่าทำได้ดี แต่ติดตรงที่น้องมีการตัดฉากไปมาจนคนอ่านอาจงงได้ ทั้งที่ความจริงน้องก็ดำเนินเรื่องได้เหมาะสมดีแล้ว แต่เนื่องจากน้องไม่ระบุให้แน่ชัดว่าสาวน้อยหรือหญิงสาวที่กำลังต่อสู้เป็นใคร ใช่คนเดียวกันกับในฉากที่น้องตัดไปตัดมารึเปล่า คนอ่านอย่างพี่ก็เลยงงตรงจุดนี้พอสมควร วิธีแก้ ไม่ว่าสาวน้อยหรือหญิงสาวจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ แนะนำให้ระบุชื่อลงไปเลย คนอ่านจะได้ไม่งง หรือถ้าไม่อยากระบุชื่อก็รบกวนบรรยายเพิ่มว่าการต่อสู้ในแต่ละฉากจบลงอย่างไรแล้วค่อยไปเริ่มการต่อสู้ในฉากถัดไป แต่เท่าที่พี่อ่าน การต่อสู้ฉากแรกยังไม่ทันจบดีน้องก็ตัดไปที่ฉากต่อสู้อื่นๆซะแล้ว
บทที่3-7 พี่รู้สึกประทับใจจังเลย เวลาที่น้องเซนบรรยายพวกเครื่องแต่งองค์ทรงเครื่องของตัวละคร มันสื่อถึงความสวยสง่าและสามารถจินตนาการตามได้เสมือนกับพี่ได้เห็นชุดพวกนั้นจริงๆก็มิปาน แต่ก็นั่นแหล่ะ เห็นสิ่งที่เป็นจุดดีที่ไรก็มักจะเห็นสิ่งที่เป็นจุดด้อยตามมาทุกที น้องไม่ค่อยบรรยายบรรยากาศโดยรอบสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะอ่านฉากไหนๆพี่ก็รู้สึกว่ามันเป็นตอนกลางคืนทั้งหมด (ไม่แน่ใจว่าน้องเซนจงใจสื่อให้คนอ่านรู้สึกว่าเมืองทั้งเมืองมีแค่เวลากลางคืนอย่างเดียวรึเปล่า-O-;) นอกจากนี้การต่อสู้ในทุกๆฉากก็ทำออกมาได้สมจริงและเห็นภาพ ไม่ยืดเยื้อให้ต้องลุ้นจนตัวโก่ง แต่ดันตัดฉากดื้อๆเล่นเอาคนอ่านอย่างพี่เกิดอาการมึนงงจนพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว (รู้สึกพี่จะย้ำเรื่องตัดฉากบ่อยเกินไปจนน้องเซนเริ่มเซ็งพี่แล้วใช่มั้ย เคๆ เอาเป็นว่ากลับไปอ่านทวนฉากที่ตัดไปมานะเออU_U;) ต่อไปก็ว่าด้วยเรื่องบทพูดกับบทบรรยายที่ไม่สอดคล้องกัน คือน้องเซนยังลำดับก่อนหลังของทั้งสองอย่างไม่ได้ (พี่ขอยกตัวอย่างของบทบรรยายกับบทพูดที่ว่าในเนื้อหานะ) จะว่าไป บทที่5 มีการสลับฉากไปมาก็จริง แต่บทนี้ไม่งง ไม่บุบปับ ไม่ตัดไปตัดมาดื้อเหมือนกับบทอื่นๆ แสดงว่าน้องเซนจับจุดได้แล้ว ถือเป็นพัฒนาการที่ดี แนะนำให้ใช้บทที่5 เป็นเกณฑ์ในการปรับแก้บทอื่นๆที่มีการตัดฉากแล้วทำให้คนอ่านงง
แนะนำเพิ่มเติม
คำหรือประโยคใดที่ต้องการเน้น (เช่น เธอ/ลูน่า/มหานคร/เจรจา/แวมไพร์/เลือด/ท่านผู้นั้น/อสูร/ฯลฯ) ให้ใส่เครื่องหมาย ' ' ครั้งเดียวก็พอ ไม่ต้องใส่ตัวเอียง เพราะตัวเอียงจะเอาไว้ใช้บรรยายความรู้สึกนึกคิดของบุคคลนั้นๆ
ถ้าเป็นการบรรยายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความคิดความอ่านของตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง ก็ให้บรรยายไปตามปกติได้เลย ไม่ต้องใส่ตัวเอียง เพราะถ้าขืนใส่อยู่มันจะออกแนวแปลกๆ ไม่ให้ความรู้สึกว่าอ่านบทบรรยายแต่ให้ความรู้สึกว่ากำลังอ่านบทความคิด พี่ขอยกตัวอย่างประโยคที่ว่าอย่างละบทละกัน เพราะดูเหมือนว่าน้องเซนจะใส่ทุกบท
- หนาว... ทำไมที่นี่ถึงได้หนาวขนาดนี้? แล้วที่นี่คือ...ที่ไหน / ใครน่ะ?
- ฝันเมื่อครู่มันคืออะไรกัน?
- แย่ล่ะ!
- ต้องลองดูสักตั้ง
- จอมโจนหายนะ... เรน อัลลาบัส
- เมื่อผู้มาเยือนมาถึง เมื่อนั้นจักเป็นบทเริ่มต้นแห่งพันธมิตร...
- เพราะเรายังมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำ
- ฯลฯ
ประโยคด้านบนเป็นความคิดตัวละคร ใส่ตัวเอียงถือว่าถูกต้องแล้ว ส่วนประโยคด้านล่างเป็นการบรรยายปกติ แนะนำไม่ต้องทำตัวเอียง
- ...บุคคลผู้แบกรับหน้าที่อันใหญ่หลวง ฯลฯ ถูกกำหนดไว้แล้ว...
- ไร้ซึ่งการคงอยู่ ฯลฯ ในเวลาอันใกล้นี้!
- เขาพยายามสงบสติ ฯลฯ ความกระหายในการ...
- แต่มันมิได้มากพอที่จะปิดกั้น ‘ท่านผู้นั้น’
- แต่นั่นคือความผิดพลาด
- ราวกับว่า เพน คือบุคคลสำคัญของเขา
- แมลงสาป... แมลงสาปขนาดใหญ่เท่าสุนัข!
- เคร้ง! / โครม! / วูบ! / อึก! / พรึบ!!
- นี่คือความสามารถของกษัตริย์ผู้นี้ เขา... เขา...
- เพราะพวกเขาทั้งสองหากร่วมมือกันแล้ว...
- ฯลฯ
ดังนั้นแยกให้ออกระหว่างสิ่งที่ตัวละครคิดกับสิ่งที่น้องต้องการบรรยายให้นักอ่านเข้าใจตาม
อีกอย่างพี่อยากให้น้องตัดคำนี้ ‘ว่า’ โดยตัดออกในประโยคต่อไปนี้ เสียงทรงอำนาจประกาศกึกก้องว่า / เสียงเย็นชาทรงอำนาจจากหลังม่านดังขึ้นว่า / เสียงเล็กเอ่ยเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ลาก่อน” (ตัดว่าทิ้งและถ้าเคาะลาก่อนไว้คนละบรรทัดด้วยจะโอมาก) ก่อนจะตอบว่า “ข้าทราบแล้ว...” (อันนี้ก็เอาไว้คนละบรรทัด) เสียงดังกังวานดังกลับมาว่า / อดีตแม่ทัพสาวหรี่ตามองก่อนจะเอ่ยว่า “ข้าคิดว่าเราควร...”(เอาไว้คนละบรรทัดเหมือนกัน) เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นว่า / ผายมือไปทางทรงกลมสีทองแล้วเอ่ยว่า “เจ้าควรจะปล่อยสองคนนั่นเสีย...” (เอาไว้คนละบรรทัดเหมือนกัน) ที่บอกให้เอาออกเพราะพี่คิดว่าประโยคมันสมบูรณ์อยู่แล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใส่ ‘ว่า’ / เสียงหัวเราะคล้ายโรคจิตจากร่างในชุดคลุมดังเป็นระยะแนะนำ เสียงหัวเราะคล้ายคนเสียสติจากร่างในชุดคลุมดังเป็นระยะ
ถ้าหากเป็นฉากเดียวกันไม่ต้องเคาะเว้นบรรทัด จนกว่าจะขึ้นฉากหรือเนื้อหาใหม่ แล้วค่อยเคาะเว้นบรรทัด
ขอชมจากใจจริง นอกจากน้องเซนจะใช้ภาษาได้สวยงามน่าอ่านแล้วยังใช้ภาษาได้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยอีกต่างหาก นั่นเพราะไม่มีคำผิดเลย แสดงให้เห็นว่าน้องใส่ใจกับเรื่องนี้มากถึงมากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องดีนะ อยากให้รักษาไว้^^
เนื้อหา (15/20คะแนน) :: ขอบอกจากใจว่าพี่อ่านแล้วงงมาก แบบว่าน้องเซนชอบเขียนถึงบุคคลที่เป็นคนเดียวกันรึเปล่าพี่ไม่แน่ใจเพราะใส่คำว่า สาวน้อยหรือหญิงสาวแทบทั้งหมด บางทีก็เหมือนจะเป็นคนเดียวกัน แต่ฉากที่บรรยายกลับให้ความรู้สึกว่าเป็นคนละคนกัน ทางที่ดีใส่ชื่อให้สาวน้อยหรือหญิงสาวของน้องเซนจะดีที่สุด เพื่อป้องกันการงง การจำสับสน และช่วยเพิ่มความเข้าใจในการอ่านของผู้ติดตามด้วย เชื่อเถอะว่าคนส่วนใหญ่สนใจและให้ความสำคัญกับชื่อตัวละครมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกซะอีก เพราะชื่อมันสั้นและจำง่ายกว่า ในเมื่อเราเฉลยแล้วว่าเธอชื่ออะไร ก็น่าจะใส่ชื่อเธอในตอนต่อๆไปซะเลย แต่ถ้าน้องยังต้องการใช้สาวน้อยหรือหญิงสาวก็ไม่ผิด ขอแค่บรรยายเพิ่มเติมในเหตุการณ์ต่างๆที่เธอพานพบอีกสักนิด ว่าทำไมถึงได้ไปต่อสู้กับคนนั้นทีคนนี้ที ทั้งๆที่ก็ยังสู้กับคนก่อนๆไม่สำเร็จเลย จู่ๆก็ตัดฉากมาสู้กับคนอีกกลุ่มซะแล้ว หรือเป็นไปได้ว่าพี่เข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนเดียวกัน แต่จริงๆแล้วสาวน้อยหรือหญิงสาวเป็นคนละคน (หวังว่าน้องเซนจะไม่งงในสิ่งที่พี่สงสัยนะ-O-;)
ขอย้ำอีกครั้งสำหรับการตัดฉากไปมาตั้งแต่บทนำจนถึงบทที่4 บอกตรงๆว่าพี่งงมากจนจับจุดไม่ถูกเลยว่ามันคืออะไร จะว่าไงดีล่ะ เข้าใจนะว่าเป็นคนละฉาก คนละกลุ่ม แต่ฉากต่างๆที่น้องตัดไปมามันค่อนข้างสั้นจนคนอ่านอย่างพี่จับประเด็นความเป็นไปของฉากนั้นๆไม่ได้เลย จู่ๆน้องก็เปลี่ยนไปอีกฉากซะแล้ว อารมณ์ว่า ฉากนี้ยังอ่านได้ไม่ทันเข้าใจดี อ่านฉากต่อไปแล้วก็ยิ่งทำให้งงเข้าไปอีก
ก่อนที่น้องเซนจะจิตตกกับการตัดฉากไปมากกว่านี้เรามาพูดถึงเรื่องการเรียบเรียงบทบรรยายกับบทพูดดีกว่า ซึ่งพี่มองว่ามันยังไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่ ถ้าอ่านแค่บทพูดหรือบทบรรยายอย่างเดียวพี่ถือว่าน้องเซนทำได้ดีไม่มีที่ติ แต่พอเอาบทพูดกับบทบรรยายมาอยู่รวมกันมันกลับขาดๆเกิน ไม่ปะติดปะต่อ เหมือนน้องยังจับประเด็นก่อนหลังของบทพูดและบทบรรยายไม่ได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการเว้นวรรคด้วย ตัวอย่าง (บทที่3)
“โอเชล เจ้าพอจะรู้จัก เรน อัลลาบัส หรือไม่?” ร่างสูงเดินเข้าไปหาทหารหน้าประตูวังคนที่ทำความเคารพ และพูดกับตนก่อนที่จะเข้าไปในพระราชวัง ทหารหนุ่ม หรือ โอเชล ตอบด้วยสีหน้าเหยเกราวกับเห็นเพนเป็นพญาอสูรผู้โหดเหี้ยม อยากจะบอกว่าพี่งงประโยคนี้มาก และอยากแนะนำวิธีแก้ไข ถ้าร่างสูงที่ว่าคือเพน แนะนำให้เขียนแบบนี้ “โอเชล เจ้าพอจะรู้จัก เรน อัลลาบัส หรือไม่?” ร่างสูงของคนที่กำลังเดินเข้าไปภายในพระราชวังเอ่ยถามทหารยามที่ยืนเฝ้าหน้าประตูด้วยน้ำเสียงเย็น คนถูกถามรีบโค้งศีรษะต่ำลงเล็กน้อยแสดงออกถึงความยำเกรงขณะตอบกลับด้วยสีหน้าเหเกราวกับเห็นเพนเป็นพญาอสูรผู้โหดเหี้ยม
ตัวอย่าง (บทที่4)
“องค์หญิง ข้าคิดว่าท่านควรจะเผยร่างของท่านได้แล้วนะ”
เสียงเย็นเอ่ยราวกับรู้ว่าใครคือผู้ซุกซ่อนอยู่ในดงไม้หนา
“ข้าแพ้เจ้าอีกแล้วสินะ”
เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมกับร่างบางในตาสองสี หญิงสาวคลี่มุมปากเป็นรอยยิ้มหวาน ขาเรียวทั้งสองข้างก้าวไปยืนเคียงข้างเพนช้าๆ ริมฝีปากสีอ่อนเอ่ยถามหญิงสาวในชุดดำปราดเปรียว “เจ้ามาทำอะไรที่คฤหาสน์หลังนี้หรือ”
เพียงแต่เพนไม่ได้พูดอะไร เสียงเย็นเอ่ยขอร้องผู้ที่เป็นถึง ‘องค์หญิง’ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ข้าขอร้องให้ท่านกลับห้องบรรทมของท่านเสีย”
แนะนำ
“องค์หญิง ข้าคิดว่าท่านควรจะเผยร่างของท่านได้แล้วนะ”
เสียงเย็นเอ่ยราวกับรู้ว่าใครคือผู้ซุกซ่อนอยู่ในดงไม้หนา
เจ้าของนามอดไม่ได้ที่จะตอบกลับด้วยน้ำเสียงหวานปนหยอกเย้า “ข้าแพ้เจ้าอีกแล้วสินะ” ร่างบางของคนนัยน์ตาสองสีค่อยๆเผยกายออกมาจากที่ซ่อน ริมฝีปากสีอ่อนเอ่ยถามหญิงสาวในชุดดำปราดเปรียวทันทีที่ขาเรียวทั้งสองข้างก้าวย่างไปหยุดยืนเผชิญหน้ากัน
“เจ้ามาทำอะไรที่คฤหาสน์หลังนี้หรือ”
“ข้าขอร้องให้ท่านกลับห้องบรรทมเสีย” แทนที่จะตอบคำถาม เพนกลับเลือกที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาต่อผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นถึง ‘องค์หญิง’
ตัวอย่าง (บทที่6)
“ข้าไม่คิดเช่นนั้น”
วิเวียนตัดบททันควัน นัยน์ตาสีทองต้องประกายวาวขึ้นวูบหนึ่ง มือเรียวซีดผายไปด้านข้างในทิศทางของประตู “เชิญท่านกลับไปยังที่ที่ท่านมาด้วย”
“แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ”
สิ้นเสียงนุ่มนวล ร่างในชุดขาวหันร่างเดินกลับออกไปทางประตูก่อนจะสลายร่างหายไป
แนะนำ
“ข้าไม่คิดเช่นนั้น” วิเวียนตัดบททันควัน
นัยน์ตาสีทองต้องประกายวาวขึ้นวูบหนึ่ง มือเรียวซีดผายออกไปยังทิศทางของประตู ขณะเอ่ยตัดไมตรีด้วยความนุ่มนวล “เชิญท่านกลับไปยังที่ที่ท่านมาเถิด”
“แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ”
ร่างในชุดขาวขบกรามแน่นขณะเอ่ยทิ้งท้ายด้วยโทสะ จากนั้นจึงหมุนกายเดินออกไปยังประตู ก่อนจะสลายร่างหายไปจากที่ตรงนั้นในทันที
ตัวอย่าง (บทที่7)
“ในนามแห่งข้า บาโฟเมต ข้าจักต้องทำลายให้พวกเจ้าวิบัติ!” ก่อนจะสลายร่างหายไปด้วยอาการ คล้าย ปกติ ไร้ร่องรอยบาดเจ็บ
“ท่านพี่ ท่านมิจำเป็นต้องตามไป มันบาดเจ็บแล้ว”
วิเวียนเอ่ยรั้งผู้เป็นพี่ชายหรือก็คือ กาเบียล ในชุดดำ ก่อนจะส่งยิ้มเย็นชาไปในทางที่อสูรร้ายจากไป
“คำสาบจากโลหิตดึงวิญญาณมีเพียงเซราฟินเท่านั้นที่แก้ได้ และเท่ที่ข้าคาดการณ์ไว้ เวลานี้นางได้เดินทางฝ่ามิติเวลาลงไปยังสถานที่อันไกลโพ้นแล้ว”
กาเบียลยิ้มอ่อนโยนให้น้องสาว ร่างในชุดดำหันหลังเดินกลับไปยืนเคียงข้างวิเวียน เสียงทุ้มเอ่ยว่า “งั้นเราเองก็กลับได้แล้ว” จากนั้นทั้งสองก็สลายร่างหายไปจากบริเวณซากปราสาท
แนะนำ
“ในนามแห่งข้า บาโฟเมต ข้าจักต้องทำลายให้พวกเจ้าวิบัติ!” ก่อนจะพาร่างที่ไร้ซึ่งร่องรอยของบาดแผลสลายหายไป
“ท่านพี่มิจำเป็นต้องตามไป” วิเวียนเอ่ยรั้งผู้เป็นพี่ชายในชุดดำเอาไว้ “มันบาดเจ็บแล้ว” ว่าพลางส่งยิ้มเย็นชาไปยังทิศทางที่ร่างอสูรร้ายจางหาย
“คำสาบจากโลหิตดึงวิญญาณมีเพียงเซราฟินเท่านั้นที่แก้ได้ และเท่าที่ข้าคาดการณ์ไว้ เวลานี้นางได้เดินทางฝ่ามิติเวลาลงไปยังสถานที่อันไกลโพ้นแล้ว” กาเบียลยิ้มอ่อนโยนให้น้องสาว ร่างในชุดดำกลับหลังหันเพื่อเดินกลับไปยืนเคียงข้างวิเวียน
“เรากลับกันเถิด”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มสิ้นสุดลงพร้อมๆกับทั้งสองร่างที่สลายหายไปจากบริเวณซากปราสาท
อ่า... ตัวอย่างที่แนะนำไปอาจจะไม่ได้ดีอะไรมากมาย ยังไงก็ขอให้กลับไปอ่านทวนอีกสักรอบสองรอบแล้วน้องจะรู้สึกว่าบทพูดกับบทบรรยายมันแหม่งๆ จากนั้นก็ลองเรียบเรียงใหม่ เชื่อได้เลยว่าคราวนี้น้องจะได้บทบรรยายร่วมกับบทพูดที่สมบูรณ์แบบ
คาแรกเตอร์ (14/20คะแนน) :: ตัวละครมีเยอะก็จริง แต่ส่วนมากจะเอามาประกอบฉากให้รู้ว่าตัวเอกเก่งกล้าสามารถขนาดไหนมากว่าที่จะเอามาเป็นตัวยืนหรือใช้ต่อกรกับตัวเอก ส่วนตัวละครที่มีบทบาทเยอะซึ่งก็น่าจะเป็นตัวละครสำคัญไม่แพ้กับตัวเอกก็ยังคงให้ความรู้สึกเฉยๆ ยังไม่ค่อยมีมิติหรือที่มาที่ไป สุดท้ายตัวเอก นอกจากสวย น่ารัก ยิ้มเหี้ยมแล้วพี่ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย สรุปคือตัวละครทั้งหมดยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ มันให้ความรู้สึกไม่สมจริง ประมาณว่าตัวละครยังไม่มีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวละครทั้งหมดกระทำลงไปล้วนเกิดจากผู้เขียนส่งบทให้เล่นไปเรื่อยๆมากกว่าจะให้ตัวละครดำเนินเรื่องราวไปเอง เพราะตัวละครทั้งหมดสื่ออารมณ์ออกมาในทิศทางเดียวกันคือ แข็งทื่อ ก้าวร้าว เย่อหยิ่ง ทะนง และอารมณ์รุนแรงเหมือนกันหมด พี่แอบชอบฉากที่เรนทะเลาะกับชายชุดขาวนะ มันน่ารักดี แต่น้องดันใส่อารมณ์ให้เรนรุนแรงเว่อร์ไปหน่อย จนพี่รู้สึกว่า เดินตามแค่นี้มันต้องโหดถึงขนาดนั้นเลยเหรอ
การตกแต่งบทความ (20/20คะแนน) :: เรื่องนี้พี่คิดว่ามันเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญมากน้อยแตกต่างกัน แต่สำหรับพี่จะไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ถ้าบทความน้องดีมีสาระซะอย่าง เรื่องของการตกแต่งก็ช่างมันเถอะ
ความน่าสนใจ (12/15คะแนน) :: พี่ยังรู้สึกเฉยและงุนงงกับเนื้อหาที่น้องต้องการสื่อสารให้ผู้อ่านได้สนุกไปกับน้องอยู่มากทีเดียว เนื้อหาของนิยายที่น้องเขียนมันออกแนวครึ่งๆกลางๆ เป็นเหตุให้คนอ่านอย่างพี่รู้สึกว่าตัวเองยังเข้าไม่ถึงเรื่องราวที่น้องสื่อสารออกมาสักเท่าไหร่ จะบอกว่าชอบหรือไม่ชอบก็พูดได้ไม่เต็มปาก มันกึ่งๆอ่ะ
คะแนนพิเศษ (5/5คะแนน) :: ดีใจจังที่น้องเซนอ่านมาถึงบรรทัดนี้โดยที่ไม่อ่านข้ามคำแนะนำด้านบนแม้แต่ตัวเดียว (รึเปล่าT^T;) เข้าใจว่าพี่เยอะจริงอะไรจริง (8 หน้า A4 แน่ะ) ในส่วนคะแนนพิเศษถือเป็นความรู้สึกล้วนๆ สำหรับพี่แล้ว แค่เห็นน้องเซนกล้าที่จะลงมือเขียน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเขียนให้จบเท่านี้พี่ก็พร้อมเป็นกำลังใจให้แล้ว^^//
รวมคะแนน 100 คะแนน :: 82 คะแนน (อย่ายึดติดกับคะแนนเพราะมันไม่ใช่ทุกอย่างของนิยาย แต่ให้มองลึกลงไปถึงสิ่งที่น้องได้รับจากการแนะนำในครั้งนี้= =;)
ปอปลาลอลิง * อย่าพึ่งตัดสินใจเชื่อหรือไม่เชื่อพี่เพกาในทันทีทันใด เพราะน้องเซนคือผู้ดำเนินเรื่องราวทั้งหมด ดังนั้นจงใช้วิจารณญาณในการตัดสินคำแนะนำของพี่ด้วยตัวน้องเอง^^
ห้ามนำภาพหรือแบบฟอมร์ไปใช้ที่อื่นหรือเซฟ ^^
ชื่ออะไรค่ะ ::
นามปากกาอะไรหรอ ::
ชื่อเรื่อง ::
นักวิจารณ์คนไหนค่ะ ::
พอใจกับคำวิจารณ์มั้ย ::
+โหวต//แปะแบรนเนอร์ด้วยน่ะค่ะ ::
แล้วมาใช้บริการอีกน้า ::
สามารถนำลิ้งหรือแบนเนอร์ไปติดก็ได้ :)
(C) Review Story วิจารณ์นิยายสไตล์ชิวๆ
ความคิดเห็น