คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : บทที่ 24 : ฟ้าหลังฝน (อาจจะ) สวยงาม (Re.02) [End : ss1]
UP : 18/08/60
Re-write : 24/08/60
Re-write 2 : 09/08/64
บทที่
24 : ฟ้าหลังฝน (อาจจะ) สวยงาม
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปเดลี่พรอเฟ็ตประโคมข่าวมากมายเกี่ยวกับเรื่องของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
ฟัดจ์ถูกบีบให้ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ โดโรเรส
อัมบริดจ์ถูกจับรอการสอบสวนทำให้อาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ถูกแต่งตั้งใหม่กลับมาเป็นอัลบัส
ดัมเบิลดอร์เช่นเดิม ส่วนเฮเลนเสร็จสิ้นการรักษาบาดแผลและสามารถออกจากห้องพยาบาลได้แล้ว
เดรโกมาส่งเธอที่บันไดกลายสภาพก่อนที่เขาจะขอตัวลงไปยังห้องนั่งเล่นของสลิธีรินที่คุกใต้ดิน
ใช้เวลาไม่นานเฮเลนก็กลับมาถึงห้องนั่งเล่น เด็กสาวพบว่ารอน
เฮอร์ไมโอนี่และแฮร์รี่ยืนคอยเธออยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมรอยยิ้ม
“โอเครึยัง”
แฮร์รี่เอ่ยถามทันทีที่เธอเดินเข้ามาถึง เด็กสาววิ่งเข้าไปกระโดดกอดเขาทันที
“โอเคแล้วสิ”
ทั้งสี่คนยิ้มให้กันในขณะที่ดีนและเชมัสเดินลงมาจากหอชายพอดิบพอดี
“ฉันว่าเราเตรียมตัวไปงานเลี้ยงกันดีกว่านะ”
เชมัสพูด เด็กทั้งสี่หัวเราะคิกคักกันนิดหน่อยแล้วเดินออกจากหอไปร่วมงานเลี้ยงอำลา
ปิดเทอมฤดูร้อนกำลังมาถึงและพวกเขาคงจะได้พักผ่อนกันเสียที
“พวกเขาพูดถึงพวกเธอแล้วแน่ะ”
เฮอร์ไมโอนี่พูดขณะวางเดลี่พรอเฟ็ตลงบนโต๊ะ “เป็นผู้รอดชีวิตอีกแล้วล่ะสิ
ไม่ใช่เด็กจอมหลอกลวงแล้วรึไง”
รอนยักไหล่แล้วจัดการกับพายฟักทองตรงหน้า
ทั้งสองมีรอยถลอกเหลืออยู่เพียงเล็กน้อย
“พวกเขาสรรเสริญเยินยอพวกเธออีกแล้วตอนนี้”
เฮอร์ไมโอนี่พูดต่อและกวาดสายตาอ่านเนื้อหาในหนังสือพิมพ์
“เสียงโดดเดี่ยวที่พูดความจริง
ถูกมองว่าไม่เต็มเต็งแต่ก็ไม่เคยโอนเอนจากความเชื่อเลย”
เฮเลนแบะปาก
ดวงตาสีเขียวกวาดมองหาทาร์ตน้ำตาลข้นบนโต๊ะและพบมันอยู่ในมือของแฮร์รี่
เด็กสาวอยากจะฉวยมันมาเหลือเกินแต่เกรงว่ามันจะทำให้เขาหงุดหงิดเสียมากกว่า
“ความพยายามครั้งสุดท้ายของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร หน้าสองถึงสี่ กระทรวงจะบอกอะไรเรา หน้าห้า ทำไมไม่มีใครฟังอัลบัส ดัมเบิลดอร์ หน้าหกถึงแปด สัมภาษณ์สุดพิเศษกับแฮร์รี่และเฮเลน พอตเตอร์ หน้าเก้า! เฮ้อ!!”
เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจ โยนหนังสือพิมพ์ข้ามไหล่ไป “มีเรื่องให้เขียนได้เยอะเลยนะ
แถมบทสัมภาษณ์นั่นมันก็บทสัมภาษณ์ของเดอะควิบเบลอร์เมื่อหลายเดือนก่อน”
“พ่อขายบทสัมภาษณ์ให้พวกเขาล่ะ”
ลูน่าพูดเสียงสดใส เธอนั่งอยู่ด้านหลังเฮอร์ไมโอนี่
“พ่อได้ราคาดีมากเพราะเราจะได้ไปเดินทางสำรวจที่ต่างประเทศดูว่าเราจะจับสนอร์แค็กเขาย่นได้สักตัวรึเปล่า”
“ฟังดูดีนะ!”
เฮอร์ไมโอนี่พูดและดูเหมือนพยายามต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก เฮเลนหัวเราะร่า
“ศาสตราจารย์ฟลิตวิกจัดการหนองน้ำของเฟร็ดกับจอร์จไปแล้วล่ะ”
จินนี่บอก “เขาทำได้ภายในสามวินาที
แต่อาจารย์ทิ้งน้ำไว้หย่อมหนึ่งเอาไว้ใต้หน้าต่างแล้วก็กั้นเชือกไว้รอบๆ”
“ทำไม?” รอนถามสีหน้าแปลกใจ
เขาคงคิดว่าอาจารย์คงไม่ชอบที่จะเหลือสิ่งที่นักเรียนจอมแสบทำทิ้งไว้หรอก
“เขาบอกว่าเป็นเวทมนตร์ชิ้นเล็กๆ
ที่ดีจริงๆ เลยน่ะนะ” จินนี่ตอบพร้อมยักไหล่
“เขาคงทิ้งไว้เป็นอนุสาวรีย์ให้สองคนนั้นมั้ง”
แฮร์รี่ว่าพลางยกทาร์ตน้ำตาลข้นขึ้นมากัด
“เรื่องยุ่งๆ
จบลงแล้วตั้งแต่ดัมเบิลดอร์กลับมา” เนวิลล์พูดบ้าง
“งั้นแสดงว่าแฮกริดก็ไม่โดนไล่ออก
แถมทรีลอว์นีย์ก็ยังอยู่สินะ” รอนว่าทั้งที่พายเต็มปาก
“ฉันว่านะวิชาพวกนี้ไม่ได้มีประโยชน์เลยสักนิด”
“เธออย่าพูดแบบนั้น”
เฮอร์ไมโอนี่เถียง “เราเพิ่งรู้ว่ามีคำพยากรณ์ที่แท้จริงอยู่ด้วยนะ”
เฮเลนและแฮร์รี่สะดุ้งเฮือก
ตัวแข็งราวกับถูกสาป ทั้งสองมองตากันนิดหน่อยเพราะว่าไม่ได้บอกรอน เฮอร์ไมโอนี่หรือใครอื่นเลยว่าคำทำนายพวกนั้นเป็นยังไง
มีเพียงเนวิลล์เท่านั้นที่พูดกับพวกเขาว่าลูกแก้วนั้นแตกไปแล้ว
ทั้งสองยังไม่พร้อมที่จะเห็นสีหน้าของเพื่อนๆ
เมื่อจะต้องบอกว่าไม่ใครในสองคนจะต้องเป็นฆาตกรไม่ก็เหยื่อ
หรือใครในพวกเขาทั้งสองจะต้องตาย และมันไม่มีทางเลือกอื่นเลย...
“น่าเสียดายนะที่มันแตกไป”
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าเบาๆ “แต่เฮเลน เธอก็สามารถ...”
“เฮ้เฮเลน! ขอถ่ายรูปก่อนจากกันหน่อยได้ไหมฮะ”
ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่กำลังเบี่ยงประเด็นมาที่เฮเลน
คอลิน ครีฟวีย์ก็โผล่เข้ามาพร้อมกับกล้องตัวหนึ่ง
เด็กสาวทิ้งทาร์ตในมือลงบนจานและลุกขึ้นมองคอลินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
อยากจะขอบคุณเขาสักพันครั้งที่ไม่ทำให้เธอต้องตอบคำถามของเฮอร์ไมโอนี่
“แล้วเธอจะถ่ายแบบไหนล่ะ”
เฮเลนหันไปถามเขา
“ขอเป็นเฮเลนกับแฮร์รี่ได้ไหมฮะ”
“แน่นอนสิคอลิน!” แฮร์รี่เป็นคนเอ่ยตอบรับแทนเฮเลน
ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นมายืนข้างๆ กันกับเธอ
เสียงชัตเตอร์กับแสงแฟลตดังขึ้นไม่ขาดสายจนดีนกับเชมัสเริ่มเด็ดองุ่นจากถาดผลไม้บนโต๊มาปาใส่พวกเขา
แฮร์รี่หันไปหัวเราะใส่ดีนก่อนจะหยิบองุ่นไปโยนใส่เขาบ้าง
เฮเลนกับเฮอร์ไมโอนี่มองการเล่นเหมือนเด็กๆ ของพวกเขาพลางยิ้มให้กัน รอนเองก็ไม่น้อยหน้า เขาหยิบองุ่นทั้งพวงโยนใส่เชมัส
แต่โชคร้ายกว่าที่เขาโดนตอกกลับด้วยแอปเปิ้ล!
สงครามอาหารขนาดย่อมเกิดขึ้นที่โต๊ะอาหารบ้านกริฟฟินดอร์โดยมีศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์นั่งยิ้มอยู่ที่โต๊ะอาหารด้านหน้า
เฮเลนมองภาพรอบกายและพยายามเก็บเกี่ยวความสุขทั้งหมดเอาไว้ก่อนที่ทุกอย่างจะหายไป...
“นี่...
ลืมฉันรึยังยัยบื้อ”
ในขณะเดียวกันคงมีคนน้อยใจที่ตัวเองไม่ได้ร่วมวงด้วย
ทำให้เดรโกเดินเข้ามาหาเด็กสาวพร้อมกับลูกไล่ของเขาอย่างแครบกับกอยล์
เฮเลนหันไปทำหน้าเซ็งใส่เดรโกนิดหน่อย จริงๆ
แล้วเขาก็ไม่ได้ทำให้หมดสนุกอะไรหรอกนะ
แต่ท่าทางขี้เก็กของเขาตอนที่อยู่ต่อหน้าลูกไล่เนี่ยสิมันน่าหมั่นไส้เหลือเกินนน
ป๊อก!
แต่ว่าดูเหมือนแฮร์รี่ก็คงจะแอบหมั่นไส้เขาเหมือนกัน
เดรโกถูกองุ่นม่วงดีดเข้าใส่กลางหน้าผาก
โชคดีที่มันไม่แตกไม่อย่างนั้นคงจะมีสงครามอาหารระหว่างสองบ้านเกิดขึ้นในห้องโถงนี้อย่างแน่นอน
“นายมีปัญหากับฉันมากใช่ไหมแฮร์รี่
พอตเตอร์!!”
“แน่นอนล่ะไอ้ขี้เก็ก!”
“หนอย!!”
เด็กหนุ่มเรือนผมสีบลอนด์จางว่าแล้วหยิบแอปเปิ้ลลูกที่ใกล้ที่สุดปาใส่แฮร์รี่บ้างโดยที่แครบกับกอยล์เองก็ไม่ได้น้อยหน้า
ช่วยกันทำสงครามอยู่กับเชมัสและดีนอย่างสนุกสนาน (?)
เอาเถอะ...
เฮเลนเองก็รู้สึกว่าเมื่ออะไรที่มันร้ายๆ ได้ผ่านไป
มันก็สามารถช่วยให้มิตรภาพเกิดขึ้นได้ไม่ว่าเมื่อไหร่
เดรโกเองก็คงเริ่มทำใจเรื่องพ่อของเขาได้บ้างแล้วถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปเพียงแค่อาทิตย์เดียวก็เถอะ
เด็กสาวรู้ดีว่าเดรโกคงไม่ใช่คนเข้มแข็งขนาดนั้น
แต่เขาก็คงไม่อ่อนแอจนถึงขั้นโทษตัวเองไปตลอดชีวิต
ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องเจอกับการต่อสู้
แต่เรามีอยู่สิ่งหนึ่งที่โวลเดอมอร์นั้นไม่มี
บางอย่างที่มันช่างคุ้มค่าที่จะสู้!
และสงครามอาหารก็ยังคงดำเนินต่อไปโดยมีคอลิน
ครีฟวีย์คอยถ่ายรูปความทรงจำของพวกเขาเอาไว้ให้อยู่ตลอดเวลา...
จบ season
1 แล้วจ้า!!
Easter Egg
ณ
คฤหาสน์หลังใญ่โตแห่งหนึ่งในอังกฤษ
ภายในห้องกว้างถูกตกแต่งด้วยเครื่องประดับประดาราคาแพงและเก่าแก่ล้ำค่า
โต๊ะทานอาหารตัวยาวถูกจับจองที่นั่งโดยเหล่าพ่อมดแม่มดสวมชุดคลุมสีดำสนิดและน่าเกรงขาม
ในกลุ่มคนนั้นมีเบลาทริกซ์ เลสแตรงจ์รวมอยู่ด้วย
และนอกจากนั้นคนที่ขาดไปไม่ได้ในการประชุมครั้งนี้ก็คือ...
นาร์ซิสซา
มัลฟอย
“ฉันเสียใจด้วยกับการจากไปนะนาร์ซิสซา
แต่ว่ามันก็สมควรแก่โทษของเขาแล้ว...”
หญิงสาวเจ้าของดวงตาสีฟ้าซีดเหม่อมองใบหน้าคล้ายงูของโวลเดอมอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ความเสียใจที่ต้องรู้ว่าตัวเองต้องกลายเป็นหญิงม่ายอย่างไม่ทันตั้งตัวมีอยู่เต็มอกแต่ไม่สามารถแสดงออกไปให้ใครเห็นได้มันช่างทรมานเสียจริงๆ
โชคดีของเธอแค่ไหนแล้วที่ไม่ต้องสูญเสียเดรโกไปด้วยอีกคน
“ไม่เป็นไรค่ะ
จอมมาร”
“นั่นสินะ...
แล้วโทษที่เขาไม่สามารถนำลูกแก้วพยากรณ์กลับมาให้ฉันได้ล่ะ ควรทำยังไง”
“เดี๋ยวสิคะ! นั่นไม่ใช่เหรอบทลงโทษของเขา...
ที่เขาต้อง...!!”
“เงียบนะ!!” โวลเดอมอร์ตวาดลั่น
“นั่นมันโทษที่ทำให้ลูกแก้วนั่นแตกไปต่างหากนาร์ซิสซา!”
“คะ...
ค่ะ”
“สิ่งที่จำให้มันสาสมกว่านั้นคือต้องให้ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลของแกเข้ามาช่วยงานของเรา”
“อะไรนะคะ...!”
“เดรโกลูกชายของแกต้องรับภารกิจนี้ไป”
“แต่! แต่ว่า...” หญิงม่ายพยายามจะเถียงแต่ดูเหมือนว่าคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนใจจอมมารได้
ภาพใบหน้าของลูกชายลอยเข้ามาในหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ภารกิจที่เขาสั่งทุกอย่างล้วนเสี่ยงอันตรายทั้งนั้น
เธอไม่อาจปล่อยให้ลูกชายเข้ามาร่วมในกลุ่มของผู้เสพความตายนี้ได้ “เขายังเป็นแค่เด็ก...!!”
“หุบปากแล้วเลิกเถียงฉันสักที! -- หรือว่าแกอยากจะแลกชีวิตแกกับลูกชายล่ะ
หืม?"
"ถ้าหากท่านต้องการเช่นนั้น...
ฉันก็ยินดี"
"เธอพูดบ้าอะไรออกมาน่ะซิสซี่!!"
เบลาทริกซ์พูดแทรกขึ้นมาทำให้จอมมารแสยะยิ้มกว้าง
เขาชี้ไม้กายสิทธิ์ไปทางนาร์ซิสซาอย่างช้าๆ
"เดี๋ยวก่อนค่ะ!
เธอคงไม่รู้ตัวว่ากำลังพูดถึงอะไร!!" เบลาทริกซ์ว่าแล้วหันไปกระซิบ
"เธอหยุดพล่ามอะไรงี่เง่าได้แล้วนะซิสซี่
ถ้าเกิดว่าเดรโกได้เข้ามาร่วมกันกับเรา เขาจะไม่ต้องตาย เชื่อฉันสิ"
"แต่ว่าเขายังเป็นแค่เด็กนะเบลล่า" นาร์ซิสซากัดฟันพูด
หากว่าเดรโกทำภารกิจของจอมมารผิดพลาด ยังไงเขาก็ต้องตาย --
ถ้าหากในตอนนี้เธอสามารถแลกชีวิตกับเขาได้ หากว่าเธอตายและทำให้จอมมารเลือกคนอื่นมาทำภารกิจนี้แทนได้ล่ะก็... "ฉัน..."
"ไม่ต้องพูดแล้ว...
ฉันคิดว่าแกคงรู้แก่ใจดีว่ายังไงฉันก็ต้องการเดรโก"
"แล้วคนอื่นล่ะคะ!
เกรกอรี่! วินเซนต์! พวกเขาไม่เป็นที่ต้องการของท่านหรอ!!"
นาร์ซิสซายังคงเอ่ยเถียงและนั่นทำให้เบลาทริกซ์จำต้องยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าอย่างเหนื่อยใจ
หล่อนพยายามกระตุกชายเสื้อให้นาร์ซิสซาร์ใจเย็นลงและเบลาทริกซ์รู้ดีว่าสภาพจิตใจของเธอนั้นไม่ปกติอยู่ในตอนนี้
"เดี๋ยวนี้แกหัดทำตัวแบบนี้แล้วงั้นเหรอนาร์ซิสซา ขนาดลูเซียส
ยังไม่เคยพูดแบบนี้กับฉันเลย"
"..."
"กลับไปไตร่ตรองความคิดของแกให้ดีๆ
แล้วฉันจะมาเอาคำตอบ"
"..."
"หวังว่าจะได้ยินอะไรดีๆ"
ติดตามตอนต่อไป...
ความคิดเห็น